ลูกจ๋า.. อย่าส่งแม่ไปบ้านพักคนชราเลย ลูกสะใภ้พูดว่า"ทำจืดแม่ก็ว่าไม่มีรสชาติ ตอนนี้ทำเค็มนิดหนึ่งแม่ก็ว่ากินไม่ได้ แล้วจะเอายังไง!"เมื่อแม่เห็นลูกชายกลับมา ไม่กล้าพูดอะไรได้แต่กลืนข้าวเข้าปาก ลูกสะใภ้มองตามด้วยความโกรธเมื่อลูกชายลองชิมอาหารที่แม่กำลังกิน ก็พูดกับภรรยาว่า"ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าโรคของแม่กินเค็มมากไม่ได้?""เอาละ! ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำเองก็แล้วกัน"ลูกสะใภ้กล่าวด้วยความโมโห แล้วก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไปลูกชายเรียกตามด้วยความจนใจ จากนั้นก็หันมาพูดกับแม่ว่า"แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวผมต้มบะหมี่ให้แม่กินนะครับ""ลูกมีอะไรจะพูดกับแม่ไหม? ถ้ามีก็บอกแม่เถอะ อย่าเก็บไว้เลย"แม่เห็นอาการกังวลของลูกชาย"แม่ครับ เดือนหน้าผมได้เลื่อนตำแหน่งเกรงว่าจะต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นเมียผมก็อยากออกไปทำงาน คือว่า...."แม่รู้ทันทีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อ...."อย่าส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรานะลูก...."แม่พูดออกมาอย่างอ้อนวอนลูกชายนิ่งคิดไปนาน แต่ก็พยายามหาทางออกที่ดีกว่านี้"แม่ครับ อยู่บ้านพักคนชราก็ดีนะแม่จะได้ไม่เหงา ที่นั่นมีคนดูแล ดีกว่าอยู่ที่บ้านนะครับหากเมียผมไปทำงาน เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เลยนะครับ"หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทานบะหมี่ จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องหนังสือเขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ในใจเกิดความสับสนขัดแย้ง ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี ...แม่ของเขาเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว กล้ำกลืนทนทุกข์เลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่อีกทั้งส่งเสียให้เรียนยังต่างประเทศ แต่แม่ไม่ได้อ้างสิ่งที่ทำไปเป็นเบี้ยต่อรองให้เขาต้องเลี้ยงดูกลับกันภรรยาผู้มาทีหลังกลับเรียกร้องให้เขาต้องรับผิดชอบนี่เขาต้องส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราจริงหรือ?"คนที่จะอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายชีวิตคือเมียนะโว้ย ไม่ใช่แม่!"เพื่อนๆมักจะเตือนเขาอย่างนี้"แม่ของเธอแก่แล้วนะ หากโชคดีก็อยู่กับแกได้อีกหลายปีทำไมไม่อาศัยเวลาที่เหลือของแม่แล้วก็กตัญญูปรนนิบัติท่านละอย่ารอให้แกอยากกตัญญูแต่แม่ไม่อยู่แล้ว แล้วแกจะเสียใจ!"ญาติๆมักจะเตือนเขาว่าอย่างนี้เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อ กลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจเย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เขานั่งเงียบๆคนเดียวด้วยจิตใจที่หดหู่ณ บ้านพักคนชราที่แสนจะหรูหรานอกชานเมือง เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดต่อแม่ของเขาอย่างน้อยที่นี่ก็สะดวกสบายเมื่อเขาพยุงแม่เข้าสู่ตัวอาคาร ทีวีจอยักษ์กำลังฉายภาพยนตร์ตลกอยู่แต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากผู้ชมแม้แต่คนเดียว คนชราจำนวนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกันนั่งอยู่บนโซฟานั่งมองประตูทางเข้า ด้วยสายตาอันเหม่อลอยหญิงชราคนหนึ่งกำลังก้มตัวลงไปเก็บขนมที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ปากเขารู้ว่าแม่ชอบห้องที่สว่างโล่ง จึงเลือกห้องที่แสงพระอาทิตย์สามารถสาดส่องเข้ามาได้เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบไม้กำลังร่วงลงสู่พื้นหญ้าเป็นจำนวนมากนางพยาบาลหลายคนกำลังเข็นรถเข็นที่มีคนชรานั่งอยู่ออกไปชมพระอาทิตย์ตกดินรอบตัวเงียบสงัด ทำให้เขาสะท้านวาบในจิตใจแม้แสงพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าจะงดงามสักเพียงใดนั่นก็หมายความว่าความมืดยามค่ำคืนกำลังจะย่างกรายเข้ามาแทนที่เขาถอนหายใจเบาๆ"แม่ครับ ผม....ต้องไปแล้วนะ"ผู้เป็นแม่ทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอนที่เขาเดินจากมา แม่ยังคงโบกมือลาด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยอ้าปากพูดโดยไม่มีเสียงอยู่ตลอดเวลาเมื่อเขาหันมามอง จึงเห็นผมสีดอกเลาของแม่เขานึกในใจ "แม่แก่แล้วจริงๆ"อยู่ๆภาพในครั้งอดีตก็ผุดขึ้นในห้วงแห่งความคิดปีนั้นเขาอายุได้เพียงแค่ 6 ขวบ แม่มีธุระต้องไปต่างจังหวัดจึงต้องพาเขาไปฝากไว้ที่บ้านคุณลุง ตอนที่แม่จะออกจากบ้านไปเขารู้สึกกลัวมาก เอาแต่กอดขาแม่ไม่ยอมให้แม่ไป"แม่จ๋าอย่าทิ้งผมไป แม่จ๋าอย่าทิ้งผมนะ!"สุดท้าย แม่ก็ไม่กล้าทิ้งเขาไปต่างจังหวัดเขารีบก้าวเท้าเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเมื่อปิดประตูแล้วก็ไม่กล้าหันไปมองแม่อีกเมื่อกลับถึงบ้าน เขาเห็นภรรยาและแม่ยายกำลังเก็บเอาข้าวของของแม่โยนออกมานอกห้องถ้วยรางวัลรูปคนยืนสูงประมาณ 3 ฟุตที่เขาชนะเลิศประกวดเรียงความ "แม่ของฉัน"พจนานุกรมอังกฤษจีนที่แม่ซื้อให้เขาในวันเกิดซึ่งเป็นของขวัญชินแรกที่เขาได้รับจากแม่ยังมียาหม่องน้ำที่แม่ต้องทาขาก่อนนอนทุกวันฯ"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกคุณโยนของๆแม่ผมออกมาทำไม?"เขาถามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด"ขยะทั้งนั้น ถ้าไม่ทิ้ง แล้วฉันจะเอาของๆฉันวางไว้ตรงไหน?"แม่ยายพูดอย่างไม่สบอารมณ์"ใช่แล้ว คุณรีบเอาเตียงเน่าๆของแม่คุณไปทิ้งได้แล้วพรุ่งนี้ฉันจะซื้อเตียงใหม่ให้แม่ฉัน!"รูปเก่าๆสมัยเขายังเด็กกองอยู่กับพื้นมันเป็นรูปที่แม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุก"นั่นมันเป็นสมบัติของแม่ผม ใครก็เอาไปทิ้งไม่ได้!""มันจะมากเกินไปแล้วนะ มาทำเสียงดังกับแม่ฉันได้ยังไงขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้!""ผมเลือกคุณก็ต้องรักแม่คุณด้วย แต่คุณแต่งงานเข้ามาอยู่บ้านผมทำไมคุณรักแม่ผมไม่ได้?"ท้องฟ้าอันมืดมิดหลังฝนตก หนาวสะท้านเข้าไปถึงหัวใจท้องถนนที่ว่างเปล่าไร้รถรา บีเอ็มดับบลิวคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าราวกับอยู่ในสนามแข่งพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของชายคนหนึ่งซึ่งมุ่งไปทางบ้านพักคนชรานอกเมืองจอดรถเสร็จ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องพักของแม่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขายืนมองแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่น่าให้อภัยตัวเองแม่ของเขาก้มหน้าใช้มือนวดที่ขาของตัวเองเมื่อแม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่และในมือถือยาหม่องน้ำอยู่และก็พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า"แม่ลืมเอามาด้วย ดีนะที่ลูกเอามาให้..."เขาเดินไปหาแม่และคุกเข่าลงไป"ดึกแล้วลูก แม่ทาเองได้ พรุ่งนี้ลูกต้องไปทำงานแต่เช้า กลับไปเถอะ!"เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้"แม่ครับ ผมขอโทษ แม่ยกโทษให้ผมนะ กลับบ้านเราเถอะ!"ลูกรัก ตอนที่เจ้ายังเด็ก แม่ใช้เวลาทั้งหมดค่อยๆสอนให้เจ้าใช้ช้อนใช้ตะเกียบคีบอาหารสอนเจ้าใส่รองเท่า สอนเจ้ากลัดกระดุม สอนเจ้าใส่เสื้อผ้าอาบน้ำให้เจ้า เช็ดอุจาระปัสาวะให้เจ้าสิ่งเหล่านี้แม่ไม่เคยลืมหากวันหนึ่ง แม่จำไม่ได้ หรือเริ่มพูดช้าลง ขอเวลาให้แม่สักหน่อย รอแม่ได้ไหม ให้แม่ได้คิด...บางครั้ง สิ่งที่แม่อยากจะพูดกับเจ้าแม่อาจจะพูดกับเจ้าไม่ได้อีกแล้วลูกรัก ลูกจำได้ไหมแม่ต้องสอนเจ้ากี่ร้อยครั้ง ให้เจ้าพูดว่าคำว่าแม่ได้แม่ดีใจมากแค่ไหนที่เจ้าเริ่มพูดเป็นประโยคได้แม่ต้องตอบคำถามของเจ้ากี่ร้อยครั้ง กว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าสงสัยดังนั้น หากวันหนึ่ง แม่ถามเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกกับเรื่องเดิมๆขอให้เจ้าอย่ารำคาญจะได้ไหม?ตอนนี้แม่อาจกลัดกระดุมเสื้อไม่ได้ยามกินข้าวอาจหกเลอะเสื้อผ้า เจ้าอย่าเอ็ดแม่ได้ไหม?ขอให้เจ้าอดทนและอ่อนโยนกับแม่ขอเพียงเจ้าอยู่ข้างๆแม่ แม่ก็รู้สึกอุ่นใจลูกรักวันนี้ขาของแม่เริ่มอ่อนแรง ยืนได้ไม่ค่อยนานเดินเหินลำบาก ขอให้ลูกจับมือและพยุงแม่ไว้เดินเป็นเพื่อนแม่จนวันที่แม่สิ้นใจ เหมือนวันที่เจ้าคลอดมาแม่ก็พยุงเจ้าเดินอย่างนี้เหมือนกัน เรื่องจาก mthai.com รูปจากอินเตอร์เน็ตจัดทำโดยดอกไม้บานริมรั้ว @พันทิป Create Date :02 มิถุนายน 2557 Last Update :2 มิถุนายน 2557 1:23:33 น. Counter : 1238 Pageviews. Comments :0 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก