bloggang.com mainmenu search

เผอิญได้มีโอกาสไปอ่านเจอบทความในบล๊อกของคุณ NUTTAPUTCH WONGREANTHONG
ที่ได้เอาบทความของ Ilya Pozin บน LinkedIn มาลงไว้เป็นเรื่องของ
ประโยคที่คนประสบความสำเร็จเค้าไม่พูดกัน ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าโดนมากๆเลย
เลยนำมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ



7 ประโยคที่คนประสบความสำเร็จเขาไม่พูดกัน

1. นั่นไม่อยู่ในหน้าที่ของฉัน

โดยปรกติแล้ว เมื่อคุณเข้าทำงาน คุณก็จะมีภาพที่ค่อนข้างชัดว่าคุณทำหน้าที่อะไร
ต้องรับงานอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณทำงานไปเรื่อยๆ และหน้าที่การงานของคุณ
ก็ขยับขยายตาม มันก็ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบและการคาดหวัง
ที่ตามมา รวมไปถึงหลายๆ ครั้งที่หัวหน้าของคุณจะเริ่มโยนงานใหม่ๆ ให้กับคุณ ซึ่งแน่นอนว่า
มันอาจจะทำให้บางคนไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้และใช้ประโยคข้างต้นในการระบายออกมา
วิธีการที่ดีคือการของการรับมือสถานการณ์นี้คือการนัดคุยกับหัวหน้าของคุณเกี่ยวกับบทบาท
และหน้าที่ของคุณให้ชัดเจนว่ามีการปรับเปลี่ยนหรือคาดหวังเพิ่มเติมอย่างไร ซึ่งการพูด
อย่างเป็นทางการนี้ดีกว่าการที่คุณจะใช้เป็นข้ออ้างในการไม่รับงานเมื่อถูกมอบหมาย
เพราะการพูดประโยคนี้มีแต่ทำให้คุณดูขี้เกียจหรือไม่มีความมุ่งมั่นในการทำงานเท่านั้น

2. มันทำไม่ได้หรอก

การบอกยอมแพ้มันทำให้คุณดูเป็นพวกประเภทชอบยอมแพ้
และคนเหล่านี้มักไม่ได้รับการโปรโมตเท่าไรในองค์กรหรอกครับ
ฉะนั้นแทนที่จะยอมแพ้ (แต่ต้น) ลองพยายามหาวิธีการตอบเพื่อชี้แจงหรือหาวิธีอื่น
ในการทำให้งานสำเร็จ จริงอยู่ว่าปัญหาหลายอย่างนั้นอยู่ในระดับยากชนิดเป็นไปไม่ได้
แต่ผู้บริหารและหัวหน้าของคุณอยากได้การเสนอแนะหรือแนวคิดที่จะทำให้มันสำเร็จ
มากกว่าการบอกว่า “ไม่” อย่างเดียว ซึ่งถ้าคุณพยายามมองหาวิธีการแก้ปัญหา
คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีค่าในองค์กรไปโดยปริยาย

3. มันไม่ใช่ความผิดของฉัน

ไม่มีใครอยากทำงานกับคนที่โยนความผิดให้กับคนอื่นหรอกครับ
การยอมรับความผิดแทนที่จะชี้ไปยังผู้อื่นนั้นทำให้คนอื่นมองคุณในแง่บวก
นอกจากนี้การยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเป็นคุณสมบัติให้คุณเรียนรู้
และโตขึ้นจากปัญหาดังกล่าว การโทษคนอื่นคือการที่บอกว่า
คุณไม่เคยคิดจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลยต่างหาก

4. นี่จะใช้เวลาแป๊ปเดียวเท่านั้น

ถ้างานของคุณมันไม่ได้เสร็จแบบ "แป๊ปเดียว" จริง
คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปสัญญาแบบเกินจริงอะไร แถมในหลายๆ ครั้งนั้น
การพูดว่า "แป๊ปเดียว" จะกลายเป็นการทำให้ดูเหมือนว่างานของคุณไม่มีคุณภาพ
ดูรีบทำ รวมไปถึงการที่คุณไม่ได้แสดงให้เห็นถึง "คุณค่า" ของงานที่คุณจะทำอีกต่างหาก

5. ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร

การเป็นประเภทลุยเดี่ยวฉายเดี่ยวคงไม่ใช่เรื่องดีเสียเท่าไร
(เว้นแต่บริษัทของคุณมีคนเดียวน่ะนะ) การทำงานร่วมกับผู้อื่นให้ได้เป็นหนึ่ง
ในคุณสมบัติจำเป็นของผู้นำที่ดี การลุยเดี่ยวคนเดียวอาจจะทำให้คุณคิดว่า
คุณเก่งและเหนือกว่าคนอื่นจริง แต่คนอื่นอาจจะไม่ได้มองแบบนั้น
แถมมันยังทำให้คนรอบข้างคุณรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้
เป็นที่ต้องการของคุณอีกด้วย (แล้วเขาจะทำงานไปทำไมล่ะ?)

6. มันไม่ยุติธรรม

ชีวิตเรามันไม่ยุติธรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
(เอาจริงๆ คือ ไม่มีอะไรในโลกที่ยุติธรรม "จริงๆ" หรอกนะฮะ)
การเอาแต่บอกว่ามันไม่แฟร์มันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นเสียเท่าไร
เช่นเดียวกับการงานของคุณ แทนที่คุณจะเสียเวลาไปกับการพูดว่า
มันไม่แฟร์หรือหมกมุ่นตัวเองแบบนั้น คงจะดีเสียกว่าถ้าคุณทำงานให้หนักขึ้น
และหาวิธีสร้างโอกาสให้ตัวคุณเอง

7. เราทำแบบนี้กันมาเสมอ

การทำงานประเภท "ทำต่อๆ กันมา" หรือ "เขาว่ากันมาอย่างนั้น"
เป็นวิธีการที่ทำให้ธุรกิจไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน แถมอาจจะถึงขึ้นวิกฤตเอาได้ง่ายๆ
สิ่งที่จำเป็นคือการเรียนรู้สถานการณ์รอบข้าง ปรับตัว และหาวิธีที่จะอยู่รอดให้ได้
คือรู้ที่จะปรับตัวอยู่เสมอ ฉะนั้นอย่าให้ความคิดของคุณจมอยู่กับวิธีเดิมๆ
โดยไม่ยอมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลยครับ



ที่มา //www.nuttaputch.com/ และ //blog.eduzones.com/ 

Create Date :23 เมษายน 2557 Last Update :5 มกราคม 2558 1:12:57 น. Counter : 1532 Pageviews. Comments :0