bloggang.com mainmenu search
รู้สึกบ้างไหมคะว่าปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน
สาวๆสมัยนี้ก็ดูดีกันไปเสียแทบทุกคน
น่าจะเป็นเพราะผู้หญิงสมัยใหม่รู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น
และใส่ใจกับเรื่องรูปลักษณ์ที่จะปรากฏต่อสายตาของคนอื่นมากกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งหน้า ทำผม ดูแลผิวพรรณ การแต่งตัว รูปร่าง
หรือน้ำหนัก เรียกว่าดูแลตัวเองทุกรายละเอียดให้เพอร์เฟคท์สุดๆ
แต่ในบางครั้งก็ได้พบว่า สาวๆหลายคนเลยเถิดจากการดูแลเอาใจใส่ตัวเอง
กลายเป็นหมกมุ่นคลั่งไคล้กับเรื่องรูปลักษณ์ของตนมากเกินไป
ซึ่งเป็นชนวนสำคัญที่จะนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้า ต้องการศัลยกรรม
และเสพติดศัลยกรรมไปก็ได้ และนี่คือ
8 สัญญาณเตือนให้คุณฉุกคิด และรู้ตัวเองได้ทันว่า
กำลังเป็นคนหมกมุ่นกับเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเอง
มากเกินไปหรือเปล่า ???



1. ต้องการทำศัลยกรรมให้ตัวเองดูดีกว่าเดิม แม้รู้ว่าค่าใช้จ่ายเกินตัว

การศัลยกรรมไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกาย ย่อมนำความเจ็บปวดมาให้
เพื่อแลกกับผลที่ยังไม่อาจรับประกันได้ด้วยว่าจะทำให้คุณพึงพอใจได้หรือเปล่า
นอกจากนั้นมันดูดเงินในกระเป๋าของคุณไปอีกไม่เบา
คงไม่เป็นอะไร หากคุณมีนิสัยช้อปปิ้งศัลยกรรมได้โดยไม่กระเทือนสถานะการเงินของตัวเอง
แต่หากคุณเองก็มีแค่พอกินพอใช้ แต่ยังดิ้นรนจะต้องเอาเงินไปทำศัลยกรรมให้ได้
เช่นนี้แล้วคุณก็อาจกำลังหมกมุ่นกับรูปลักษณ์ของตัวเองมากเกินไปแล้วล่ะ


2. อยากมีลุคอ่อนวัยเหมือนวัยรุ่นอยู่เสมอ

การคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ได้ตราบนาน
เป็นเรื่องที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ปรารถนา
และถือเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงด้วย
แต่หากมีความรู้สึกว่าอยากทำทุกวิถีทางให้ตัวเองดูเด็กลงจนเกินเลย
เช่น ตีนกาโผล่นิดเดียวก็ไม่ได้ ต้องรีบไปยกกระชับหน้า
และร้องหาการรับประกันความพึงพอใจว่า
ทำแล้วหน้าจะตึงเปรี๊ยะได้เหมือนอายุลดลงสัก 10 ปี
หากเป็นเช่นนี้มันก็เริ่มชี้ให้เห็นแล้วว่า
คุณเริ่มจะหลงไหลในรูปกายของตน
หรือ ที่เรียกว่าเป็น narcissism มากเกินไปแล้ว


3. ส่องกระจกบ่อย ๆ

หากคุณติดกระจกชนิดต้องมีพกติดตัว และต้องหยิบขึ้นมาส่องบ่อยๆ
ขนาดอยู่บนรถก็หยิบมาดู เช็กว่าผมสวยดีไหม
หลุดแยกนี้ไปก็หยิบมาดูใหม่ คราวนี้ดูว่าขนตาเด้งอยู่หรือเปล่า
แยกหน้ารถติดอีกก็หยิบมาส่องอีกว่าแก้มที่ปัดมาสีสวยแล้วหรือยัง
อาการแบบนี้บอกให้ทราบได้ชัดเจนว่าคุณหมกมุ่นกับหน้าตาตัวเองเกินไปแล้วนะ


4. ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็คิดถึงแต่เรื่องรูปลักษณ์ของตัวเอง แม้ว่าจะอยู่กับคนใกล้ชิดก็ตาม

เมื่ออยู่ท่ามกลางคนกลุ่มใหม่ ไม่แปลกอะไรที่คนเราจะเกิดอาการประหม่า
และมีความพยายามปรับรูปลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีขึ้น
แต่ถ้าหากคุณอยู่กับคนใกล้ชิดที่สนิทสนมรู้จักกันดี อย่างคนในครอบครัว
พี่น้อง หรือคนรัก แต่ก็ยังคงระแวดระวังกังวลกลัวตัวเองจะไม่สวย
ในหัวมีแต่เรื่องฉันสวยพอหรือยัง มองไปรอบๆตัวก็เอาแต่สำรวจคนอื่นว่าใครดูดีบ้าง
เรียกได้ว่าเอาแต่หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องเหล่านี้อย่างเดียวไม่ว่าจะอยู่กับใครหรือโอกาสใดก็ตาม


5. หักโหมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายมากเกินไป

การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเป็นเรื่องดีสำหรับผู้หญิงทุกคน
เพราะมันจะทำให้คุณรักษาสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมส่วนเอาไว้ได้
แต่ถ้าเป็นคนประเภทที่ออกกำลังกายหนัก แถมยังกินอาหารน้อยจนถึงขั้นงดกิน
เพราะกลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น แบบนี้ก็จัดว่าคลั่งเรื่องรูปร่างของตัวเองเกินไปแล้ว
และแทนที่จะทำให้มีรูปร่างดีดูสดใส กลับทำให้จิตใจไม่เบิกบาน
แถมกล้ามเนื้อร่างกายก็ฝ่อเหี่ยวไม่กระชับสวยงาม


6. ชอบบ่นเรื่องรูปร่างตัวเองในแง่ลบให้คนอื่นฟัง

สาวที่จิตใจจดจ่อกับเรื่องรูปลักษณ์ที่ปรากฏของตัวเอ
งมักไม่ยอมรับคำชมที่คนอื่นมีต่อเธอ แต่มักชอบบ่นว่าตัวเองอ้วน
รูปร่างไม่ดี ไม่สวย ให้คนอื่นๆ ฟังอยู่ร่ำไป
เพราะในความคิดของเธอไม่เคยพอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองเลย


7. ชั่งน้ำหนักตัวเองทุกวัน

น้ำหนักกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต
ที่จะต้องรู้ให้ได้ว่าในแต่ละวันนั้นตัวเองหนักเท่าไหร่
ลดลงหรือไม่ เพิ่มขึ้นหรือเปล่า
ยิ่งถ้าพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้น แม้จะแค่ 0.5 กิโลกรัม
ก็ถึงกับต้องงดข้าวกันเลยทีเดียว


8. คลั่งผอม

จากกระแสในโลกความงามที่ปลูกฝังกันมา จนยากจะสลัดออกว่า
ผอมเท่ากับสวย ทำให้สาวผู้หมกมุ่นกับเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
ยอมไม่ได้ที่จะให้ร่างกายมีไขมัน และพยายามทำให้ตัวเองผอมลงทุกวิถีทาง
เท่าที่จะสามารถทำได้ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าการผอมนั้น
เป็นการผอมแบบสุขภาพดีหรือไม่

ถ้าใครสำรวจพบว่าตัวเองมีอาการตรงตามข้อมูลด้านบนอยู่หลายข้อ
คุณควรจะต้องปรับความคิดที่คุณมีต่อตัวเอง
และเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเสียใหม่แล้วล่ะค่ะ
แม้คนจะชอบมองผู้หญิงสวยๆก็จริง แต่ผู้หญิงที่จิตใจดี ความคิดดี
นิสัยน่ารัก ยังคงเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์
มากกว่าผู้หญิงที่มองแล้วสวยแต่ตาแน่นอนค่ะ



credit : //women.postjung.com/681679.html

Create Date :20 กรกฎาคม 2556 Last Update :20 กรกฎาคม 2556 15:38:41 น. Counter : 1955 Pageviews. Comments :0