bloggang.com mainmenu search

ผมกับภรรยาเก็บหอมรอบริบจนพอที่จะซื้อห้องชุดได้

วันที่ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในวันแรก
กว่าจะส่งเพื่อนชุดสุดท้ายที่มาแสดงความยินดีก็ปาเข้าไปดึกดื่น

ผมกับภรรยาล้มตัวลงนอนที่โซฟา กวาดสายตามองห้องด้วยความสุขใจ
อยู่ๆ ก็มีเสียงออดดังขึ้น ใครกัน มาเอาปานนี้ ผมและภรรยาสงสัย?

เมื่อเปิดประตูออกไป ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง น่าจะเป็นสามีและภรรยากัน
ในขณะที่ผมและภรรยารู้สึกฉงน คุณผู้ชายก็เอ่ยขึ้นว่า

"ผมแซ่หลี่ครับ พักอาศัยอยู่ที่ชั้น1 มาแสดงความยินดีกับคุณที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่"

อ๋อ เป็นเพื่อนบ้านนี่เอง ผมจึงเชิญเขาทั้งสองเข้ามานั่งในบ้านก่อน
แต่คุณหลี่กับโบกไม้โบกมือปฏิเสธ

"อย่าเลยครับๆ ผมเพียงแต่อยากจะขอรบกวนคุณสักเรื่องหนึ่งจะได้ไหมครับ?"

"คุณหลี่ไม่ต้องเกรงใจ บอกมาได้เลยครับ!" ผมกล่าวออกไป

"ผมอยากจะขอความกรุณาว่า หากคุณเข้าออกประตูตึก
ช่วยเปิดปิดประตูเบาๆจะได้ไหมครับ?
คุณพ่อของผมเป็นโรคหัวใจ ท่านสะดุ้งตกใจง่ายครับ"
กล่าวจบ ทั้งสองสามีภรรยาต่างก็มองมาด้วยสายตาที่รู้สึกเสียใจ

"ได้ครับ ผมจะระวังให้มาก แต่บางครั้งอาจรีบร้อน
หรืออาจจะเลินเล่อไปบ้าง ก็อย่าได้ถือสานะครับ"
ผมบอก

"ในเมื่อพ่อของคุณเป็นโรคหัวใจและตกใจง่าย
ทำไมพวกคุณให้ท่านพักอยู่ที่ชั้น 1 ล่ะ?"
ผมถามด้วยความสงสัย

คุณนายหลี่บอกว่า
"ที่จริงแล้วเราก็ไม่อยากอยู่ชั้น 1 หรอกค่ะ มันทั้งชื้นและก็สกปรก
แต่คุณพ่อขาไม่ค่อยดี เดินเหินไม่สะดวก อีกทั้งคนป่วยโรคหัวใจ
ต้องออกกำลังกายที่เหมาะกับโรค เราก็เลยตัดสินใจอยู่ที่ชั้น 1 ค่ะ"

ผมได้ฟังก็รู้สึกซาบซึ้งใจสามีภรรยาคู่นี้ จึงกล่าวยืนยันว่า
ยินดีให้ความร่วมมือไปอีกครั้ง เขาทั้งสองกล่าวคำขอบคุณแล้วขอบคุณอีก
จนทำให้ผมและภรรยารู้สึกเกรงใจไปเลย

จากนั้นมา ผมและภรรยาก็สังเกตว่า เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บนตึกหลังนี้
ไม่มีใครเปิดปิดประตูเสียงดังเลย ไม่เหมือนกับที่เราเคยอยู่ก่อนหน้านั้น
แต่ละเวลาออกบ้านไปก็จะผลักเปิดปิดประตูเสียงดัง "ปั๊ง"เสมอ
เมื่อสอบถามเพื่อนบ้าน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ต่างได้รับการขอร้องจากคุณหลี่และภรรยาเหมือนๆกัน

ผมอยู่ที่นี่ได้ 1 ปีเต็มๆ มีอยู่ค่ำวันหนึ่ง
คุณหลี่และภรรยามากดออดหน้าบ้าน เมื่อผมเปิดประตู
ก็เห็นเขาทั้งคู่ยืนก้มหน้าโค้งคำนับโดยไม่พูดไม่จาอะไร
ผมจึงเข้าไปประคองให้ยืดตัวขึ้นแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น?
คุณหลี่กล่าวด้วยตาแดงๆว่า

"คุณพ่อของผมท่านได้จากผมไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานเย็นครับ"

จากนั้นคุณหลี่ก็เล่าว่า คุณพ่อของเขามักจะกล่าวกับเขาเสมอว่า
รู้สึกขอบคุณเพื่อนบ้านเป็นอย่างยิ่ง หลายปีมานี้ทุกคนให้การดูแลแกเป็นอย่างดี
ทำให้ทุกคนลำบาก และเมื่อวันใดที่แกตายไป ให้ลูกชายและลูกสะใภ้
เป็นตัวแทนไปขอบคุณเพื่อนบ้าน หากบ้านไหนเป็นคนแก่ ก็ให้คุกเข่าขอบคุณ
หากบ้านไหนเป็นคนหนุ่มสาวก็ให้ยืนโค้งคำนับขอบคุณ

หลังจากที่ส่งคุณหลี่แล้ว ผมถอนหายใจพูดกับภรรยาว่า
"แค่เพียงปิดเปิดประตูบ้านเบาๆ
กลับได้รับความขอบคุณจากคนอื่นเยี่ยงนี้ คิดไม่ถึงจริงๆ"




# การดำเนินชีวิตก็เป็นเช่นนี้ ยามที่คุณทำดีต่อผู้อื่น
ขณะเดียวกันคุณก็กำลังสั่งสมความผาสุกให้กับชีวิตของคุณเช่นเดียวกัน!



นุสนธิ์บุคส์

Create Date :16 สิงหาคม 2557 Last Update :8 กันยายน 2557 14:46:27 น. Counter : 981 Pageviews. Comments :0