bloggang.com mainmenu search

1. "เราต้องจ่ายนายเท่าไรวะ"

หารยาวเขาทำกันในห้องเรียนนะครับ ไม่ใช่ร้านอาหาร
ใช้วิธีผลัดกันจ่ายดีกว่า มื้อไหนที่เพื่อนๆ เป็นคนจ่าย
มื้อหน้าก็เป็นทีของคุณจ่าย
คุณจะได้ไม่รู้สึกผิดแค่นี้ก็หายกันแล้วล่ะ

2. "ผมเสียใจที่คุณรู้สึกแบบนั้น"

คำขอโทษไม่จำเป็นต้องยืดยาวหรือซ้ำซาก
แต่คุณต้องหมายความตามที่พูด และยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
ไม่ใช่ยอมรับเพราะว่าคนอื่นคิดว่าคุณเป็นฝ่ายผิด แค่นี้ก็โอเคแล้ว

3. "ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อหาเพื่อนนะครับ"

ผู้เข้าแข่งขันในรายการเรียลลิตี้ทางทีวีพูดแบบนี้กันแทบทุกคน
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายการของพวกฝรั่งนะครับ
ของบ้านเราไม่มีใครปากเสียอย่างนี้หรอก
(อ้าว! นี่พูดจริง ๆ นะ ไม่เชื่อลองพิมพ์วลีนี้ในยูทูบดูสิ)
แล้วคุณเคยเห็นตัวอย่างที่ทัศนคติแบบนี้
เป็นประโยชน์ในโลกแห่งความเป็นจริงบ้างไหมล่ะ ไม่มีทาง!

4. "นายช่วยฉันย้ายบ้านหน่อยได้ไหม"

การช่วยเพื่อนย้ายห้องในหอพักของมหาวิทยาลัยก็สนุกดีอยู่หรอก
แต่การย้ายบ้านจริงๆ คงไม่ค่อยสนุกเท่าไร ถ้าคุณมีงานทำ จงยอมจ่ายเงิน
จ้างบริษัทขนย้ายเถอะครับ จากนั้นคุณก็ชวนเพื่อนๆ มาร่วมปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่
แล้วคุณจะต้องแปลกใจที่เห็นปริมาณเบียร์ที่พวกเขายินดีหอบหิ้วกันมาเอง

5. "อ๋อ รู้แล้วล่ะ เหมือนกับตอนที่ผม"

ถ้าเพื่อนคุณกำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ เขาคงไม่อยากให้คุณขัดจังหวะ
ด้วยเรื่องของคุณหรอกนี่คือคิวของเขา พอถึงคิวคุณบ้าง
คุณคงอยากให้เขาหุบปากเหมือนกันนั่นแหละ

6. "คุณควรทำแบบนี้นะ"

สาว ๆ พูดถูกแล้วล่ะ คุณไม่จำเป็นต้องแก้ทุกปัญหาหรอก
การรับฟังถือเป็นการช่วยอย่างหนึ่งเหมือนกัน ฉะนั้นคุณก็ปล่อยให้เธอ (หรือเพื่อนคุณ)
ระบายออกมาเถอะ แล้วค่อยให้คำแนะนำก็ต่อเมื่อพวกเขาถามว่า "ฉันจะทำอย่างไรดี" เท่านั้น

7. "อะไรก็ตาม" ที่คุณตะเบ็งแข่งกับเสียงเล่นดนตรีสด

เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคุณไปอยู่ ณ ที่นั้นทำไมถ้าไม่คิดจะฟังเพลง แต่ที่แน่ๆ คือ
ชาวบ้านเขาจ่ายเงินเป็นพันๆ เพื่อที่จะได้ฟังเพลงที่ตัวเองชื่นชอบ
ไม่ใช่มาฟังคุณสาธยายว่ากินอะไรเป็นมื้อเย็น และการตะเบ็งใส่หู
ก็น่าจะทำให้คนฟังเจ็บหูไม่น้อยเลยด้วย

8. "มันก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ"

เวลาคุณพูดแบบนี้ คนอื่นๆ จะตีความว่า "ผมได้ประโยชน์ในขณะที่คุณเสียประโยชน์
แต่กว่าคุณจะรู้ตัวก็คงอีก 2 สัปดาห์โน่นแน่ะ ถึงตอนนั้นคงไม่มีใครตามตัวผมเจอแล้วล่ะครับ
สุดท้ายผมก็ได้ประโยชน์คนเดียวเลย"

9. "ไปล่ะ!"

ก็เหมือนกับรถอังกฤษ ที่มาแล่นอยู่บนถนนอเมริกัน นั่นแหละครับ
คือดูลักลั่นและล่อแหลมอย่างไรพิกล

10. "กฎไม่ได้ว่าไว้อย่างนั้นนี่"

เอ่อ.. เรารู้ดีว่ากีฬาคือเกมที่ต้องเล่นไปตามกฎกติกาที่ว่าไว้
แต่อย่าทำให้คนอื่นๆ หมดสนุกด้วยการจับผิด เพื่อนที่เผลอขยับเท้าแค่ครึ่งก้าว
ก่อนยัดลูกลงห่วงเลยนะ แค่ยอมหยวนนิดๆ หน่อยๆ ทุกคนจะสนุกกันมากขึ้นแล้วล่ะ

11. "ผมตั้งใจจะ"

แปลความได้ว่า "ผมนึกถึงคุณนะ แล้วจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่า"
ไม่ว่าคุณจะนึกถึงอะไรมัน ก็ไม่ได้สำคัญเสมอไปหรอกครับ

12. "ผมทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ดีเชียวล่ะ"

ไม่จริงหรอก และไม่มีใครทำแบบนั้นได้ด้วย
แล้วตอนที่คุณแอบส่งข้อความจากแบล็คเบอร์รี่ใต้โต๊ะอาหารน่ะ
ทุกคนก็ไม่พอใจ ถึงจะไม่มีใครพูดอะไรก็เถอะ
หวังว่าคนที่คุณเขียนถึงจะดีใจที่ได้รับเมลไร้สาระจากคุณนะ

13. "คุณคิดผิดแล้วล่ะ"

การโต้แย้งอย่างถูกหลักทำให้คุณเป็นคนน่าสนใจ
ขณะที่การโต้แย้งความคิดเห็นของคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
ทำให้คุณเป็นคนไร้สาระที่พูดไปเรื่อยเปื่อย
คงไม่มีใครอยากฟังคุณหรอกครับ

14. "เมื่อไรคุณจะหยุดพูดสักที"

คุณอาจไม่ได้พูดออกมาดัง ๆ หรอกครับ แต่เราเห็นวลีนี้
ในสีหน้าที่ไม่ได้แสดงถึงการมีส่วนร่วมของคุณกับทุกคน
ถ้าการสนทนาทำให้รู้สึกเบื่อ คุณน่าจะทำให้มันน่าสนใจขึ้น
ด้วยการเข้าไปร่วมวงมากกว่านะครับ

15. "แล้วผมจะโทรกลับทีหลังนะ"

ปกติผู้ชายเราก็มีปัญหาเรื่องการสื่อสารมากพออยู่แล้ว ถ้าเพื่อนคุณพูดว่า
"นี่ เรามีเรื่องต้องคุยกับนายนะ" เขาก็คงไม่ได้โทรมาคุยเล่นธรรมดาๆ หรอก
แค่พยายามทำเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่ได้แย่นักเท่านั้นแหละ
และไม่ว่าคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ อะไรที่ว่านั่น ควรต้องรอไปก่อนแล้วล่ะ





ที่มา: //men.kapook.com/view39667.html ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Create Date :05 มีนาคม 2558 Last Update :2 มิถุนายน 2558 11:56:36 น. Counter : 912 Pageviews. Comments :0