bloggang.com mainmenu search
“เสก” แถลงเปิดอัลบั้มใหม่ I’m back เผยทำเองแต่ให้แกรมมี่ขาย พร้อมกับเปิดช่อง โลโซ แชนแนล แจงเจ้าของจานดาวเทียมใจสปอร์ตให้ทำฟรี เผยเร็วๆ นี้ เตรียมปั้นนักร้องในสังกัด ก่อนย้ำไม่เห็นด้วยกับการเก็บลิขสิทธิ์เพลงเพราะเป็นเรื่องที่ผิด ลั่นลองมาเก็บลิขสิทธิ์กับตนสิ เจอเตะสวนแน่

       หลังจากที่ “เสก โลโซ” เข้าบัดบำยาเสพติดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กระทั่งหายเป็นปกติและออกมาทำเพลงต่อด้วยการหวนกลับไปเซ็นสัญญากับแกรมมี่ต้นสังกัดเดิม ล่าสุดเจ้าตัวได้ทำการเปิดแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า I’m back ที่โรงแรมศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ พร้อมกับเปิดตัวช่องเคเบิลทีวี Loso channel งานนี้เสกพร้อมทีมงานได้เปิดเผยรายละเอียดถึงการกลับมาครั้งนี้ว่า...

       “อัลบั้มนี้ได้รับผลตอบรับดีมากครับ เรามีอะไรใหม่ๆ ในอัลบั้มนี้เยอะ เราทำการตลาดกันใหม่ เพราะว่าการทำเพลงเดี๋ยวนี้มันยากของปลอมก็เยอะ ดาวน์โหลดฟรีก็เยอะ มันเป็นอัลบั้มตอนที่ผมไปเลิกยาเสพติด แล้วกลับมาแก้ไขให้มันถูกต้อง เลยเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แล้วพอกลับมามันเหมือนเกิดใหม่ ผมวางแผงไปเมื่อวันที 17 ที่ผ่านมา ตอบรับดีมาก กับทัวร์คอนเสิร์ตก็เยอะมากครับ เดี๋ยวผมต้องบินไปออสเตรเลียเพื่อไปเล่นคอนเสิร์ตเป็น 10 วันด้วย ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่ปีหน้าแพลนไว้น่าจะสักกลางปีครับ”

       “ซึ่งผมทำของผมเองทั้งหมด เพียงแต่ว่าทางแกรมมี่เขาเป็นคนขายให้ ผมเป็นเจ้าของบริษัทผมเองโลโซเอ็นเตอร์เทนเมนต์ แกรมมี่เป็นคนจัดจำหน่ายเป็นพาร์ทเนอร์กัน การปล่อยไปวันแรกเราขายดีมากขายได้ 4 หมื่นชุด อาจจะเป็นอัลบั้มแรกในรอบ 5 ปี เพราะอัลบั้มอื่นๆ เขาขายกันแค่ 3 พัน 5 พัน แต่วันแรกเราวางไป 4 หมื่นขายดีมาก ก็ต้องขอขอบคุณคนที่ยังสนับสนุนยังรักเราครับ คือนักร้องเดี๋ยวนี้จะทำออกมาเป็นซิงเกิล แต่ถ้าทำออกมาเป็นอัลบั้ม แฟนๆ เพลงเขาก็จะเก็บเอาไว้ครับ” 

       แอ่นรับที่ผ่านมาต้องใช้ของมึนเมาก่อนจะแต่งเพลง พอตอนนี้เลิกแล้วทำให้แต่งยากขึ้น ต้องปรับตัวเยอะ       
       “คือผมบอกกันคนอื่นเลยว่าผมคงแต่งเพลงไม่ได้แล้ว เพราะตอนที่ผมแต่งเพลงผมจะใช้ของมึนเมาในการแต่งตลอด พอไม่ได้ใช้ผมก็ต้องปรับตัวเยอะ ปีครึ่งถือว่าเร็วมากนะที่กลับมาได้ขนาดนี้ แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจครับ ผมมีโครงการชวนน้องเลิกยาด้วย ผมจะสนับสนุนโครงการดีๆ เกี่ยวกับการเลิกยาตลอด เพราะว่าเราผ่านเรื่องเหล่านี้มาเราก็อยากช่วยเหลือ อย่างกับอัลบั้มนี้ผมก็เอาเรื่องที่ผ่านมานำมาแต่งเพลงด้วย”

       บอกบริษัทโลโซเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่เปิดขึ้นไม่ได้คิดจะทำให้รวย แต่อยากผลักดันคนที่รักในดนตรี เร็วๆ นี้จะมีศิลปินใหม่
       “เดี๋ยวก็จะมีศิลปินคนอื่นๆ อีกตามมาครับ คือบริษัทของเราทำกันแบบสบาย ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ร่ำรวยจนไม่แบ่งใครเลย คือเราอยู่ได้ ยินดีกับทุกคนที่จะเข้ามาครับ บริษัทนี้เปิดมานานแล้ว แต่ที่เป็นรูปเป็นร่างอัลบั้มแรกคืออันนี้ ใครรักดนตรีมาเลยได้หมด ไม่จำเป็นต้องร็อกอะไรมากเลย ลูกทุ่งผมก็ทำได้” 

        พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้เผยถึงการเปิดช่อง โลโซ แชนแนล ด้วย โดยมี “มานพ โตการค้า” เจ้าของจานดาวเทียม IPM ซึ่งเป็นผู้ให้เสกทำฟรีร่วมชี้แจงด้วย
       มานพ : “ที่เสกได้เข้ามาคุยด้วย แล้วพอเราได้เจอคนแบบเสกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาเคยเข้าไปอยู่ในเงามืดมาก่อน แล้วสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็วมาก แฟนเพลงก็กลับมายอมรับ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีหากแฟนเพลงจะได้พบกับเสกอีกรูปแบบหนึ่ง เลยมีร่วมมือกัน คุยกันแล้วบอกให้เขาเลือกว่าจะอยู่ช่องไหน ซึ่งตอนที่ทดลองออกอากาศจะอยู่ที่ช่อง 44 แล้วจะเริ่มออกอากาศจริงที่ช่อง 77 เพื่อเป็นไปในแนวความคิดของพี่เสกที่บอกว่าเป็นเลขที่ดีของเขา”

       เสก: “คือเลข 77 คือผมเกิดวันที่ 7 แล้วก็ประเทศไทยมี 77 จังหวัด แล้วโลโซ แชนแนลก็จะไปทั้งหมด 77 จังหวัดเลยครับ คอนเซ็ปต์เคเบิลทีวีของผมมีทั้งเพลง แฟชั่น การกิน ท่องเที่ยวและการส่งเสริมช่วยเหลือสังคม สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าผมจะทำให้คนไทยมีความสุขและมีความรู้ด้วย ใครที่อยากจะเปิดเพลงอยากจะโปรโมตเพลงเอามาเลย ผมยินดีเปิดให้ฟรี แล้วการเปิดช่องครั้งนี้ผมไม่ได้ลงทุนอะไรเลยครับ พี่เขาให้ช่องผมมาฟรีๆ พี่เขาใจดีมาก ผมแค่จ่ายเงินค่าพนักงานแค่นั้นเอง”

        เจ้าตัวเผยในการนำเปิดเพลงมาเปิดในช่อง โลโซ แชนแนล นั้น ยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์แน่นอน และตนก็เคลียร์กับแกรมมี่แล้ว
       “ไม่มีปัญหาครับ เพราะกับแกรมมี่ผมก็คุยกันแล้ว ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก นำเพลงเขามาเสนอได้บุญด้วยครับ ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ไปเก็บลิขสิทธิ์ร้านลาบ ลิขสิทธิ์ร้านเล็กๆ ขายได้วันละ 500 บาท ผมไม่เก็บ คาราบาวก็ไม่เก็บ เพราะฉะนั้นอย่าไปเก็บกับเขาร้านแบบนี้”

       “แต่ถ้าเขาไปทำธุรกิจใหญ่โตไปเก็บเขาได้ แต่ในผับเล็กๆ จะไปเก็บเขาได้ยังไงใจดำตาย รวยแล้วก็ต้องแบ่งปันกันบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดในสังคมเรา ผมไม่เห็นด้วยที่จะไม่ให้หมอลำไปร้องเปิดวง สิ่งเหล่านี้ต้องให้เขาเอาไปร้อง การที่เขาเอาเพลงเราไปร้องมันเหมือนว่าเขามาสนับสนุนเพลงของเรา ไปเล่นในผับวงน้องๆ เงินเดือนหมื่นหนึ่งไปห้ามเขาไม่ให้เล่นได้ยังไง เก็บเงินเขาไปเก็บอะไร เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจกัน”

       “แล้วเพลงมันมีมาเพื่อให้ความสุขกับคน มันไม่ได้สร้างมาเพื่อให้เก็บเงินร่ำรวยกันใหญ่โต เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจกัน อย่างเพลงของผมเอาไปร้องเลย ผมไม่มีปัญหาอะไรครับ ร้องได้เลยไม่มีใครไปเก็บ กับแกรมมี่ก็ไม่มีปัญหาครับ ผมทะเลาะกันใหญ่โตกว่านี้ก็มีมาแล้ว ไอ้เรื่องเพลงของผมไม่มีปัญหา แต่เพลงอื่นผมไม่รู้นะต้องไปคุยกันเอง แต่ส่วนของผมไม่มีปัญหาแน่นอน ผมกับแกรมมี่มีลิขสิทธิ์ร่วมกัน”

       “คือจะเล่าให้ฟังนะ ว่าไม่มีที่ไหนในโลกไปห้ามศิลปินที่เป็นเจ้าของเพลงไปร้องเพลงของเขาเองไม่มีทางไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขาได้ ไปห้ามแค่เขาพูดก็ผิดแล้ว บริษัทใหญ่โตไปพูดแค่ไหนก็ผิด ห้ามศิลปิน นาย ก. ซึ่งเจ้าของเพลง สมมตินะ ว่าเป็นเพลงรักเธอแต่เธอไม่รู้ ห้ามไม่ให้เขาร้องเพลง แล้วคุณจะให้ใครร้อง เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของเพลง อันนี้ผมต้องฝากไปถึงเจ้าของเพลงทุกบริษัท”

        ยังยืนยันการที่ไปเก็บลิขสิทธิ์เจ้าของเพลงเป็นสิ่งที่ผิด
        “ไม่ได้ ไปห้ามให้เขาร้องเพลงของเขาเองมันผิดมาก ผมว่าถ้ามีกฎหมายแบบนี้ก็ต้องไปแก้กัน นิรโทษกรรมเขายังเดินประท้วงกันใหญ่โต ไอ้แค่กฎหมายห้ามศิลปินร้องเพลงตัวเองกฎหมายขี้ประติ๋ว แค่นี้เขาจะแก้ไม่ได้เหรอ แก้ได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้นอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่อะลุ่มอล่วย กันไป อยู่เมืองไทยด้วยกัน อย่าให้เขาต้องเดินไปหน้าบริษัทแล้วไปประท้วงว่ามึงไม่ให้กูร้องเพลงได้ยังไงไม่ได้ อย่าทำแบบนั้นถ้าเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้”

       “ผมไม่กลัวมีปัญหากับใคร เขาต้องขอบคุณผม นี่คือเรื่องที่ถูกต้อง ผมหวังดีหมด ผมจริงใจกับทุกคน จริงใจเพราะอยากให้มึงพัฒนา มึงไม่พัฒนาแล้วประเทศมึงจะพัฒนาได้ยังไง มึงเที่ยวไปเอาเปรียบคนแล้วประเทศมึงจะพัฒนาได้ยังไง ถูกไหม เพราะฉะนั้นใครที่ทำผิดนะ อย่าไปฝืนมติประชาชน ไม่อย่างนั้นคุณจะอยู่ไม่ได้”

        “คือเรื่องนี้ต้องฝากกันได้เรื่องลิขสิทธิ์เพลง ผมคิดว่าทุกคนน่าจะเห็นตรงกับผมว่า ในการที่ไปห้ามนักร้องไหมไทยให้เขาว่าที่เอาเพลงเขาไปร้องเป็นเรื่องผิด ห้ามให้ฟรุตตี้เอาเพลงเขาไปร้องเป็นเรื่องผิด พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์ ใครมาคุยกับผมก็ได้เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่ผิด ไม่มีใครเขาไปห้ามกันหรอก”

       “ถ้าคุณไปห้ามอัสนี-วสันต์ร้องเพลง ได้อย่างเสียอย่าง แล้วใครจะไปร้องเพลง ได้อย่างเสียอย่าง ต้องไปทะเลาะกับบริษัทว่ากูจะร้องเพลงนี้ มึงไม่ให้กูร้องแล้วจะให้ใครร้อง ไปห้ามพี่แอ๊ด คาราบาวสิ เขาจะได้เตะเอา ไม่ได้ การห้ามศิลปินร้องผิดที่สุด ต่อมาคือไปเก็บค่าลิขสิทธิ์ร้านลาบ ขายได้วันละ 500 มึงไปปรับเขา 5 หมื่นเนี่ยผิด กว่าเขาจะขายได้คิดให้เป็นเรื่องจริยธรรม มโนธรรมเก็บได้ไงไอ้บ้า ผมไม่ได้ใหญ่โตไม่ได้กร่างนะ ตำรวจมาเก็บกับผมมาเจอกับผม ผมเตะจริงๆ ไม่มีใครมาห้ามได้ไม่มีทาง ห้ามให้นักร้องร้องเพลงตัวเองไม่ได้เด็ดขาด”







//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000132154
Create Date :22 ตุลาคม 2556 Last Update :22 ตุลาคม 2556 21:04:08 น. Counter : 1471 Pageviews. Comments :0