"ชมพู่ ก่อนบ่าย" โพสต์อินสตาแกรมไม่ขอพูดเรื่องแฟนหนุ่มอีกแล้วหลังร้องไห้ออก "วู๊ดดี้ เกิดมาคุย" เผยอาการป่วย เรื่องเงินทอง และแจงความสัมพันธ์แบบ 3 เส้า บอกไม่โทษตัวรายการ แต่เพราะตนพูดไม่เคลียร์เอง

        ช่วงนี้ต้องบอกว่าถูกจับตามองในเรื่องความรักเป็นอย่างมากทีเดียวในส่วนของตลกหญิงชื่อดัง "ชมพู่ ก่อนบ่าย" หรือ "ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์" ซึ่งกลายเป็นข่าวขึ้นมาหลังจากที่ถูกแฟนหนุ่ม "โน้ต ปราชญ์ รักษ์อิสระ" คุกเข่าขอแต่งงานไปในช่วงปลายปีที่แล้ว ทว่าถัดมาอีกไม่นานทางตลกหญิงเองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตายอมรับว่าได้เลิกรากับอีกฝ่ายแล้ว

        อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทั้งสองก็ได้กลับมาคืนดีกันแล้วพร้อมควงคู่กันไปออกรายการ "วู๊ดดี้ เกิดมาคุย" เทปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) เพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งสาเหตุที่เลิกรากันจากปัญหาความไม่เข้าใจเนื่องจากสาเหตุที่ฝ่ายชายป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคที่มีอาการผิดปกติที่สำคัญทางอารมณ์ 2 แบบ คือ ภาวะดีสุดขั้ว และภาวะซึมเศร้า

        ส่วนที่กลับมาคืนดีกันอีกครั้งนั้นทั้งสองก็บอกเหมือนๆ กันว่าเป็นเพราะช่วงที่ห่างกันนั้นถึงทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วทั้งคู่รักกันมาก ไม่รู้จะแยกจากกันทำไม รวมถึงช่วงที่ห่างกันนั้นก็เป็นอะไรที่ทั้งสองรู้สึกแย่มากๆ นอกจากนี้ทั้งคู่ก็ยังได้ตอบคำถามถึงข้อปัญหาคาใจใครหลายๆ คนอันเนื่องมาจากที่ฝ่ายชายเองเคยให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า..."ยังรักภรรยาเก่า และภรรยาเก่าก็ยังไม่ได้ย้ายออกไปไหน” อีกด้วย

        อย่างไรก็ตาม หลังการไปออกรายการเพื่อตอบข้อซักถามต่างๆ ไปแล้วปรากฏว่าได้มีกระแสเสียงวิจารณ์เข้ามาอย่างมากมายทั้งในส่วนของเจ้าตัวเอง แฟนหนุ่ม รวมถึงตัวรายการ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำเอานักแสดงหญิงตลกคนดังต้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้อีกครั้งด้วยการโพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตนเองในวันนี้ (25 มีนาคม) โดยระบุว่าการออกรายการที่ผ่านมานั้นได้มีการปรึกษากันเป็นอย่างดีแล้ว แต่เป็นเพราะตนเองอาจจะตอบคำถามไม่ดี ทั้งเรื่องอาการป่วย เรื่องเงินทอง รวมถึงความสัมพันธ์ ทำให้แทนที่ปัญหาต่างๆ จะจบลงกลับกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกจากภาพที่สื่อผ่านรายการ

        ทั้งนี้สาวชมพู่ได้เผยว่าจากนี้ไปจะไม่ออกสื่ออีกแล้วเพราะเกรงว่าจะผิดพลาดซ้ำสอง และตนไม่ขอโทษทางรายการแต่อย่างใด ซึ่งจากนี้ไปตนเองก็จะขอตั้งใจทำงานและพัฒนาความสามารถให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และยืนยันว่าจะไม่มีภาพของความเศร้าที่เกิดขึ้นให้เห็นอีกอย่างแน่นอน


//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000033862