“โก๊ะตี๋” น้ำตาร่วง อัดอั้นโดนด่าสร้างภาพรักแม่ เจ้าตัวยอมเผยความจริงแม่เป็นบ้ามา 6 ปี หมอแนะให้ใช้ความรักรักษาเยียวยาอาการ เป็นเหตุให้ตนบอกรักและเอาใจใส่แม่ทุกวันเพื่อหวังให้หายป่วย ไม่สนคนด่าบอกก็ช่าง_ ึง สุดดีใจตอนนี้อาการแม่ดีขึ้นจริงๆ ไม่ต้องให้ยากดประสาทแล้ว

       ไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนถล่มจมดิน สำหรับ “โก๊ะตี๋ อารามบอย” เจริญพร อ่อนละม้าย ก่อนหน้านี้เจ้าตัวโพสต์ภาพทหารพร้อมข้อความ “WE LOVE THAI SOLDIERS เรารักทหารไทย” ก็โดนด่าเสแสร้ง มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกในครั้งนี้ จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสต์คลิประบายยันไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน แค่ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง ก่อนทิ้งท้ายถ้าใครไม่ชอบก็ไม่ต้องมาติดตามกัน ล่าสุด เจ้าตัวก็โดนอีกแล้ว หลังมีคนเข้ามาด่าถึงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าสร้างภาพรักแม่ ซึ่งกับประเด็นดังกล่าวโก๊ะตี๋ได้เปิดใจในงานแถลงข่าวรายการ “Twilight Show” ปรับโฉมใหม่ ณ อาคารมาลีนนท์ 2 งานนี้ทำเอาตลกดังปล่อยโฮด้วยความอัดอั้น พร้อมยอมเผยความจริงที่ปกปิดมากว่า 6 ปี ว่าแม่ของตนเป็นโรคเกี่ยวกับประสาท เนื่องจากโดนโจรเอาปืนตีหัวจนสมองได้รับการกระทบกระเทือน หมอแนะให้ใช้ความรักเยียวยาจึงเป็นเหตุให้ตนบอกรักและดูแลเอาใจใส่แม่อย่างดีในทุกๆ วัน

“จริงๆ หนูโพสต์ไอจีเกี่ยวกับคุณแม่ทุกเช้าอยู่แล้ว เพราะไอจีมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของหนู แต่ว่าตอนนี้มันมีบางคนบางกลุ่มเข้ามาบอกว่าหนูสร้างภาพ อย่ามาอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้คำที่ไม่สุภาพกับหนู จนคนที่เขาอยากติดตามหนูจริงๆ เขาออกมาช่วยพูดแก้ต่างให้ แล้วในที่สุดทั้งสองฝั่งก็ทะเลาะกันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เลยทำให้หนูตัดสินใจโพสต์คลิประบายลงในอินสตาแกรม ซึ่งคืนนั้นหนูบอกเลยว่าหนูนอนไม่หลับเลยจริงๆ”

       “หนูอัดอั้นตันใจ วันนั้นหนูก็เลยโพสต์บอกไปว่าตรงนี้มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของหนู และถ้าหากใครคิดว่าหนูสร้างภาพ หรือหนูเป็นคนไม่ดีก็อย่ามาตาม ออกไปเลย ไม่ต้องกลัว”

       ไม่ไหวแล้วขอบอกความจริงที่ปิดบังมา 5-6 ปี ว่าที่ต้องดูแลและแสดงความรักต่อแม่มากๆ เพราะแม่ตนเป็นโรคเกี่ยวกับประสาทเนื่องจากเคยโดนโจรเอาปืนตีหัวจนแม่สมองได้รับการกระทบกระเทือน
       “หลังโพสต์ก็มีคนมาให้กำลังเยอะมากครับ และวันนี้เอาตรงๆ เลยนะหนูไม่เคยพูดเรื่องนี้ออกสื่อเลยสักครั้ง ซึ่งวันนี้หนูอยากจะเล่าว่า จริงๆ แล้วแม่หนูเขาเคยรับจ้างเฝ้าวัวเฝ้าควายอยู่ที่พิจิตร แล้วอยู่มาวันนึงมีโจรเอาปืนมาตีหัวท่าน เลยทำให้ท่านไม่ค่อยเหมือนปกติทั่วไป ซึ่งตอนที่หนูพาแม่ไปทำประกัน ประกันก็ขอถอนประกันแม่ เพราะเขาบอกว่าแม่หนูเคยพบกับจิตแพทย์ คือประกันมันฟันธงว่าแม่หนูบ้า (ร้องไห้)”

“คือเออ… แม่หนูบ้าไม่เป็นไร หนูพาแม่ไปหาหมอ หมอก็เลยให้ยากดประสาทมาเพื่อรักษาแม่ แต่หมอก็บอกหนูมาอีกว่า ความรักจะช่วยรักษาได้ทุกอย่าง หนูก็เชื่อหมอ และที่หนูพูดบอกรักแม่ทุกวันตลอดระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นเพราะหนูต้องการรักษาแม่ของหนู และต่อให้ใครมาว่าหนูสร้างภาพก็เรื่องของมึง เพราะหนูเป็นแบบนี้ หนูเป็นเด็กบ้านนอก แถมที่สำคัญล่าสุดตอนที่หนูพาแม่ไปหมอ หมอก็บอกว่าอาการแม่หนูดีขึ้น หลังจากนี้อาจจะไม่ต้องให้ยากดประสาทแม่อีกก็ได้”

“ซึ่งสำหรับตัวหนู หนูมองว่ามันไม่ควรที่จะเอาออกมาพูดตรงนี้ หนูไม่ต้องบอกใครก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องของครอบครัวหนู หนูอยากรักษาแม่หนู พ่อหนูตาย หนูเหลือแต่แม่คนเดียว หนูก็เลยอยากใช้ทุกนาทีของหนูเพื่อรักษาแม่ ตอนเช้าบอกแม่หนูรักแม่นะ เช้าทำกับข้าวกินกับแม่ ซื้อโจ๊กมากินกับแม่ แล้วจะบอกรักแม่ทุกวัน คือสิ่งเหล่านี้มันปลูกฝังแม่ ทำให้เขาไม่ต้องไปเพ้อ”

       ดีใจสิ่งที่ตนทำไปช่วยให้อาการแม่ดีขึ้นจริงๆ ตอนนี้ไม่ต้องให้ยากดประสาทแล้ว
“ใช่ แม่หนูอาการดีขึ้น และตอนนี้หนูก็ลดโดสยาลง ทั้งที่เมื่อก่อนต้องให้ยากดประสาท แต่เดี๋ยวนี้หนูก็ไม่ต้องให้ยากดประสาทกับแม่แล้ว แม่เองก็นอนตรงเวลา 2 ทุ่มแม่ก็หลับแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเที่ยงคืนกว่าแม่ยังเพ้อปั้นจักรยานไปหลังวัดอยู่เลย ตีหนึ่งแม่ไม่เข้าบ้านแม่ไปไหน ซึ่งมันทำให้หนูเครียดมาก แต่หนูก็ไม่ได้บอกให้ใครรู้เพราะมันไม่จำเป็น”

       ฝากบอกคนที่โจมตีหาว่าตนสร้างภาพ ถ้าไม่ชอบตนก็อย่ามายุ่งกับตนอีก
“ถ้าไม่รักหนู อย่ามายุ่งกับหนู ออกไปไกลๆ หนู เพราะหนูเป็นแบบนี้ สันดานหนูเป็นแบบนี้ หนูอยู่วงการมา 20 ปี หนูเป็นคนตรง หนูเป็นคนบ้านนอก ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ เกลียดขี้หน้าไม่ต้องมาดูกู หนูไม่ได้สร้างภาพให้ใครมาดู ให้ใครมาคิดว่าหนูเป็นลูกยอดกตัญญู และอีกอย่างหนูก็จะใช้คำว่าหนูแบบนี้ ใช้คำนี้ตลอดไปเพราะมีคนบางคนบอกว่าหนูโตเป็นควายแล้วทำไมใช้คำว่าหนูกับแม่ คือมันเป็นเรื่องของหนูหรือเปล่า”

       “หนูไม่สนใจ หนูเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว หนูไม่แคร์ หนูไม่เคยสร้างภาพกับใคร หนูจะทำดีหนูก็ทำดี เหรียญมีสองด้าน หนูไม่ใช่คนดี หนูคือคนที่เคยแย่มาก่อน แต่ตอนนี้หนูเลือกที่จะทำดีแค่นั้นเอง”














//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000059662