ชุดจักรพรรดิรำพึง - หลงเงานาง, เพลินเสียงเจ้า, ชื่นกลิ่นนวล & สาส์นอวลรัก
เรื่อง หลงเงานาง, เพลินเสียงเจ้า, ชื่นกลิ่นนวล และ สาส์นอวลรัก
เขียนโดย อวี๋ฉิง, หวงหลิง, ตู้โม่อวี่ และ เว่ยเสี่ยวโหยว
ตอบโจทย์
เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ความจริงอันนี้ดองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้วเพราะยังหาที่ลงบางเรื่องไม่ได้ (ความจริงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาบางเรื่องลงตรงไหนอยู่ดี)
--- SPOILER ALERT ---หลงเงานางสีต๋าเป็นธิดาคนรองของตระกูลสี เมื่อครั้งยังเยาว์หมอดูเคยดูว่าเธอจะมีลิขิตชีวิตที่ สวัสดิภาพ ราบรื่น อบอุ่น น้ำใจงาม ที่ตามปกติแล้วถ้าสาวไหนได้คำทำนายนี้ก็น่าจะฉลอง แต่ตระกูลสีแห่งแคว้นซีเสียนกลับไม่เหมือนใคร ธิดาแต่ละคนล้วนเก่งกล้าเจิดจรัส เข้ารับราชการได้ตำแหน่งยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ต้องการได้คำทำนายเช่นนี้
เริ่มเรื่องเมื่อสีต๋าอายุ 18 ปี ดำรงตำแหน่งแม่ทัพปีกหงส์ มีหน้าที่คอยดูแลตัวประกันต่างแคว้น ในขณะที่
สีจื๋อพี่สาวเป็นราชบัณฑิตหญิงที่ทรงอำนาจ
สีหุยน้องสาวเป็นแม่ทัพโลกันตร์หญิงคนแรกที่ถึงจะมีชะตาอายุสั้นแต่ช่างเป็นเกียรติเหลือล้น ทำให้สีต๋าน่าจะมีปมด้อยแต่กลับมีชิวิตอย่างสุขสงบ มีความปรารถนาหวังดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ถึงจะรู้ว่ามักถูกหลอกใช้ แต่ก็ไม่แค้นเคือง
หลี่หญงจื้อ องค์ชายแคว้นต้าเว่ยที่เป็นตัวประกันในซีเสียน ถึงจะดูอ่อนโยนจริงใจ แต่ความจริงแล้วซ่อนคมลึก หวังว่าจะได้นั่งบัลลังก์มังกรไม่ว่าจะต้องเข่นฆ่าลุยไปบนกองโลหิตของสายเลือดเดียวกัน วางเบื้ยหมากไว้ทั่วทุกที่แม้กระทั่งสีต๋าก็ถูกหลอกใช้อยู่บ่อยๆ
ในที่สุดหลี่หญงจื้อก็ทำสำเร็จ ล้มรัชทายาทองค์เก่าและรับตำแหน่งแทนได้ ก่อนจะกลับต้าเว่ยเล็กน้อยเกิดการแย่งอำนาจในซีเสียนจนสีต๋าจะถูกกำจัด หลี่หญงจื้อที่เริ่มประทับใจในตัวสีต๋าจึงช่วยให้ถูกเนรเทศไปที่ต้าเว่ย
ถึงสีต๋ายังอยากมีอิสระ แต่ก็โดนม้วนเข้าวังวงแห่งอำนาจอีกครั้ง แถมมีเรื่องของหัวใจที่เธอมอบให้หลี่หญงจื้อ ในขณะที่ถึงหลี่หญงจื่อจะประทับใจในตัวเธอ แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงบ้านเมืองประชาชนและยึดมั่นขนบธรรมเนียมก่อน ชะตาของสีต๋าจะพาทั้งคู่ให้ราบรื่นได้จริงหรือ (หมอดูมั่วชัดๆ สวัสดิภาพ ราบรื่น ตรงไหนกัน)
สรุปเรื่องนี้คือเกมการเมืองค่อนข้างซับซ้อน หลอก หักหลังกันเยอะ ตรงนี้ก็รู้สึกชอบมากๆ แต่ด้วยความที่ผู้แต่งเปลี่ยนกลไกทางสังคมจีนขนาดพลิกฟ้า แถมยังมีเรื่องเหนือธรรมชาติมาแจม ทำให้มึนไปเลยค่ะ ชอบแบบอ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ ใช้เล่มนี้ตอบโจทย์
เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ข้อตามใจฉันค่ะ เรื่องนี้มีตอนต่อ คือ '
มายานาง, จารจำนาง และ ทำนองนาง'
[06/12/10, 12/06/13]
เพลินเสียงเจ้าติงเจิงฉิงเป็นธิดาของเสนาบดีแคว้นต้าเซิ่ง ครั้งหนึ่งเคยเรือล่มและได้รู้จักกับองค์ชาย
เสียนหมิงที่ขณะนั้นปลอมตัวเป็นสามัญชน ติงเจิงฉิงให้สัญญากับเสียนหมิงว่าจะหาของวิเศษที่นำความสุขมาให้
เสียนหมิงเป็นคนที่จำหน้าคนไม่ได้ ขนาดน้องชายยังใช้เวลาตั้งหลายปี แต่มีการฟังเป็นเลิศ จำคนจากเสียงและสามารถแยกแยะความน่าไว้ใจจากเสียงพูดได้ยอดเยี่ยม ประทับใจนางเอกจากเสียงพูดและความปรารถนาดีที่มีต่อผู้อื่น (เรื่องจำหน้าคนไม่ได้นี่อ่านแล้วซาบซึ้งชะมัด เพราะส่วนตัวก็จำไม่ค่อยได้ ถึงจะไม่อาการหนักขนาดนั้นก็เถอะนะ)
หลังจากการพบกันในเรือ เสียนหมิงปราบกบฎและขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิเย่าตี้ อีกหนึ่งปีให้หลังเสียนหมิงก็หาเจิงฉิงพบในงานเลี้ยง ของวิเศษที่เจิงฉิงเตรียมไว้ (และรักมาก) คือเจ้า
ความสุข แมวขาวตัวอ้วนช่างประจบประแจง ขี้อ้อน และซนสุดขีด ซึ่งเสียนหมิงก็รับไว้และเริ่มรุกเต็มที่
ความรักไม่มีอุปสรรคยิ่งใหญ่ จักรพรรดิจะมีมเหสีเพียงคนเดียว ขุนนางมีแต่เชียร์ให้หามเหสี โดยไม่มีสถานการณ์แวดล้อมบังคับ ถ้าจะบ่นก็ต้องว่านางเอกนี่ช่างหัวช้าเหลือเกิน อีกฝ่ายสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดธงทิวปลิวไสว แถมปากว่ามือถึงขนาดนั้น เธอก็ยังไม่ยอมรับจนกว่าจะเป็นจะตายเอาจริงๆ
ขอบ่นเรื่องเนื้อหาหน่อย การที่เจิงฉิงสามารถออกไปเดินข้างนอกโดยไม่มีหญิงรับใช้ตามหลังแบบบุตรีตระกูลสูงนี่ก็แปลกพอดูอยู่แล้ว หลังจากที่เสียนหมิงบอกเจตนาจะตั้งให้เป็นพระมเหสี เจิงฉิงยังอุตส่าห์ถูกลักพาตัวโดย (ค่อนข้าง) ละม่อม หลังจากที่บาดเจ็บเกือบตายในวังน่าจะมีองครักษ์ (นอกเครื่องแบบ) ตามประกบเต็มที่ ถ้ามีการลักพาตัวอย่างน้อยน่าจะต้องมีการสู้เลือดนองถนนตวงใส่ไหได้เต็ม (comment นี่น่าจะส่อถึงความซาดิสต์ของ จขบ. พอสมควร) แถมจักรพรรดิยังสามารถออกไปสู้ปราบกบฏจนเจ็บหนักใกล้ตายได้อีก พิลึกดี (องครักษ์มีอีกสิบหัวก็คงไม่พอให้ตัด)
สรุปว่าชอบแบบอ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษใช้เล่มนี้ตอบโจทย์
เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ข้อหน้าปกรูปคนค่ะ
ชื่นกลิ่นนวลมู่เชิ่นหลง จักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนมู่ ผู้หลงใหลและผสมกลิ่นหอมเป็นงานอดิเรกแก้เครียด หลังงานบวงสรวงได้เสด็จประพาสส่วนประองค์ (แน่นอนว่าปลอมตัว) ได้กลิ่นธูปอันน่าประทับใจที่วัดหิมะโปรย
โยวเซียงซือมีฝีมือด้านเครื่องหอม สามารถแยกแยะได้อย่างเชี่ยวชาญ ผสมเครื่องหอม โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดอ่อน เช่น ทำธูปหิมะโปรยสำหรับวัดที่อยู่ในป่าสนได้อย่างกลมกลืน ใช้ผงจันทน์หอมทำอักษรมงคลด้วยพิมพ์ชั่วคราวที่ออกแบบเอง เวลาได้ดอกไม้ก็สามารถเอาทำเป็นลูกหอม ใช้พืชพื้นๆ ทำเครื่องหอมใช้เอง
สมัยก่อนครอบครัวโยวมีกิจการร้านเครื่องหอมที่เจริญรุ่งเรือง แต่โดนขโมยสูตรและกลั่นแกล้ง จึงต้องใช้ชีวิตลำบากและถูกกีดกันไม่สามารถหาวัตถุดิบชั้นดีได้ โยวเซียงซือจึงอยากบุกเบิกเส้นทางค้าเครื่องหอมกับแคว้นเพื่อนบ้าน แถมกล้าขนาดปลอมตัวเป็นชายออกเดินทางเอง ส่วนมู่เชิ่นหลงที่รักแรกพบไปแล้ว ย่อมช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเต็มที่ (งานนี้ราชสำนักได้ประโยชน์ด้วย) ถึงจะไม่สามารถเดินทางไปเองได้ ก็ส่งทหารไปแทน
เรื่องเรียบๆ ไม่มีอะไรผิดคาดหรืออุปสรรคใดๆ มีฮาบางตอน อย่างประโยชน์เครื่องหอมในวังหลวงมีไว้ใช้ไล่แมลงและกลบกลิ่นมิพึงประสงค์จากขุนนางที่กินกระเทียม เหงื่อออก ไม่อาบน้ำหรือไม่ซักถุงเท้า เมื่อพระเอกใช้กลิ่นหอมล่อลวงนางเอกให้ตามมาตอนสรงน้ำ หรือตอนที่พระเอกบอกความจริง นางเอกก็คิดว่าน่าจะคุกเข่า นวดเอาใจแบบในงิ้ว หรือแกล้งเป็นลมเพื่อให้เอ็นดูดี
โดยส่วนตัวคิดว่าเสน่ห์ของเรื่องอยู่ที่เครื่องหอมต่างๆ มีชื่อเครื่องหอมและสมุนไพรมากมาย ไม่ทราบจริงเท็จแต่ไหน แต่อันที่เด่นสุด เครื่องหอมกลิ่นนอวิเศษที่เป็นหินคงเป็นเรื่องแต่งเอง โรแมนติกดีจังเพราะนึกถึงในนิยายกำลังภายในที่ยกกลอน กายไร้ปีกหงส์โบยบินไป จิตมีแรดวิเศษเชื่อมสัมพันธ์ไว้ (ฉบับแปลจาก 'เทพมารสะท้านภพ')
สรุปว่าชอบแบบอ่านได้เรื่อยๆ บางครั้งทำให้นึกถึงเรื่อง Black Tulip ของ Alexandre Dumas ที่บ้าดอกไม้ แต่เพราะเรื่องไม่มีจุดเด่นที่ประทับใจเลยยังไม่ถือเป็นเรื่องที่ชื่นชมเป็นพิเศษ
ใช้เล่มนี้ตอบโจทย์
เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ข้องานฝีมือค่ะ
สาส์นอวลรักซ่งฉีหลินเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 4 ของแคว้นหวงเฉา ขึ้นครองบัลลังก์ตั้งแต่ 6 ชันษา ถึงเป็นหญิง แต่ก็ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ทั้งที่ไม่อยากเต็มที่เพราะกลัวตาย แต่ได้ราชครูไท่ฟู่ควบอัครเสนาบดี
โหลวฮวนได้สัญญาว่าจะตายนำเสด็จหากจำเป็น ซึ่งโหลวฮวนก็ใช้ทุกวิธีในการรักษาบัลลังก์ให้มั่นคง รวมถึงพยายามสอนให้ฉีหลินเป็นจักรพรรดิที่ดี
ในเรื่องนี้กลไกทางสังคมให้สตรีเป็นขุนนางได้ และเป็นเยอะมาก ในราชครู 3 คน ก็เป็นหญิงหนึ่ง ส่วนในเรื่องก็ทีกลิ่นไอของปัญหาสมัยใหม่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะเรื่องเซนเซอร์หนังสือการเมืองและการมุ้ง รวมถึงเรื่องการมีสำนักปลายเมฆที่เน้นล้มล้างทรราชด้วย
เมื่อซ่งฉีหลินเจริญวัยขึ้นได้ถึง 18 ชันษา ก็ใกล้เวลาครองบัลลังค์ด้วยองค์เองจริงๆ จากการอบรมของราชครูทั้งสาม ก็ได้ว่าที่จักรพรรดิที่น่าตั้งความหวัง แต่ในด้านส่วนตัว เธอกลับเป็นสาววายที่ชอบหนีออกจากวังไปหานิยายติดเรทมาซุกซ่อนไว้อ่านเล่น ชอบออกราชโองการแปลกๆ เป็นบางครั้ง และพยายามอ่อยโหลวฮวนอย่างเต็มที่ ทั้งหลอกล่อ (แบบว่าอาจารย์อย่างไร ก็โขกศิษย์ออกมาได้อย่างนั้น 555) จนกระทั่งโหลวฮวนลาออกจากเป็นราชครูแล้วเข้าตำหนักหลัง
เรื่องนี้อ่านแล้วพระเอกเลี้ยงต้อยชัดๆ ถึงจะทำเป็นบื้อไม่รับรักก็เถอะ แต่แหม บันทึกประวัติศาสตร์ตอนพระเอกเข้าตำหนักหลังนั่นตลกดีจัง แถมแกใส่หน้ากากอีก ทำให้นึกถึงเรื่อง 'บุปผาคู่บัลลังก์' ที่มีเจ้ากรมคลังโค้วคิจินผู้งามล้ำเลิศจนต้องใส่หน้ากากหลังถูกสาวหักอกข้อหาสวยเกินหน้า อีกจุดที่ตลกคือตอนช่วงแรกไม่ได้พูดเรื่องฉีหลินว่าเป็นหญิง ใช้ศัพท์แบบผู้ชายหมด เล่นทำให้ได้ลุ้น (นิดหน่อย) ว่าจะกลายเป็นนิยายวายเล่มแรกของชุดนี้หรือไม่
ส่วนนึงที่ชอบความเห็นนางเอกก่อนจะประกาศราชโองการลดการเซนเซอร์ การจะโค่นหรือสร้างแผ่นดินดูเหมือนเป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม แต่อันที่จริงเพียงถูกขีดคั่นด้วยคำเพียงสองคำเท่านั้นคือ 'ใจคน'
หากเปลี่ยนเป็นท่านนั่งในตำแหน่งเรา ท่านจะยอมปล่อยให้ตัวเองกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกคนฆ่ายึดอำนาจหรือไม่ หรือว่าจะยอมเอาความคิดที่เป็นภัยนั้นมาวางไว้ตรงหน้าเหมือนพยัคฆ์รอขย้ำ เพื่อคอยเตือนสติตัวเองตลอดเวลา
ใช้เล่มนี้ตอบโจทย์
เหมันต์ขยันอ่าน ปี 2 ข้อผู้แต่งสามสัญชาติค่ะ สุดท้ายคือมีเพิ่มว่าในเรื่องมีรัชทายาทเทียนเฉา
เจินเยี่ย และ
หวงลี่เจียง จากเรื่อง '
ปราชญ์หญิงยอดรัก' ด้วย
[06/12/10, 24/08/13]
สรุปทั้งชุดว่าชอบแบบอ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ (ตามแบบมาตรฐานมากกว่ารัก) ถ้าแยกเล่มให้ระดับความประทับใจใกล้เคียงกัน แต่ถ้าจะให้จัดเรียงกัน คงเป็น 'ชื่นกลิ่นนวล'htmlentities(' >') 'สาสน์อวลรัก'htmlentities(' >') 'เพลินเสียงเจ้า'htmlentities(' >') 'หลงเงานาง'
ที่สงสัยมากคือจัดชุดนี้กันด้วยเกณฑ์อย่างไร ไม่เห็นเกี่ยวหรือมีธีม เรื่องตั้งอยู่คนละมิติที่ไม่เกี่ยวกันเลย ระยะเวลาก็ดูเหมือนจะแตกต่างกัน ('ชื่นกลิ่นนวล' มีชาติตะวันตกเข้ามาแล้ว ส่วน 'สาสน์อวลรัก' และ 'หลงเงานาง' มีกลไกทางสังคมรูปแบบใหม่ที่สตริมีสิทธิสูง แถมหลงเงานางยังมิเรื่องตายแล้วฟื้นอีก รู้สึกว่ามันหลงเรื่องอย่างไรไม่ทราบ) ที่พอจะกล้อมแกล้มเหมือนกันคือมีจักรพรรดิมาเป็นตัวเอกทุกเรื่องเท่านั้นเอง
ที่มา
[1] อวี๋ฉิง (มดแดง แปล).
หลงเงานาง. มากกว่ารัก ชุดจักรพรรดิรำพึง, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 2 เล่มจบ, 262+251 หน้า, 2553.
[2] หวงหลิง (พวงหยก แปล).
เพลินเสียงเจ้า. มากกว่ารัก ชุดจักรพรรดิรำพึง, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 273 หน้า, 2553.
[3] ตู้โม่อวี่ (พวงหยก แปล).
ชื่นกลิ่นนวล. มากกว่ารัก ชุดจักรพรรดิรำพึง, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 290 หน้า, 2553.
[4] เว่ยเสี่ยวโหยว (มดแดง แปล).
สาส์นอวลรัก. มากกว่ารัก ชุดจักรพรรดิรำพึง, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 396 หน้า, 2553.
โดย: MaFiaVza 6 ธันวาคม 2553 3:07:20 น.
โดย: ฝน (miracle_rainyteddy ) 27 ธันวาคม 2553 21:05:27 น.
พอดีชอบแบบแนวหลงเงานางก็เลยปลื้มเป็นพิเศษ (คิดว่ามันออกแนวแฟนตาซีหรือไม่ก็นิยายรักกำลังภายในมากกว่าอ่ะค่ะ)
คิดว่าทั้งสี่เล่มที่จุดอยู่ในชุดเดียวกันเพราะมีตัวเอกเป็นจักรพรรดิน่ะค่ะ (ชื่อชุด "จักรพรรดิรำพึง") เหมือนอย่างชุดตำหนักรักนิรันดร์ ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่องกัน นอกจากเรื่องเกิดในวังเท่านั้นเอง (ชุดนั้นจะหนักกว่าชุดนี้นะคะ แต่ชุดนั้นมีหลายเรื่องที่ชอบมากกว่าชุดนี้)
โดย: ลิปิการ์ 6 มกราคม 2554 14:53:36 น.
โดย: อร IP: 118.173.35.118 3 กันยายน 2554 17:24:01 น.
โดย: chu IP: 27.145.7.254 20 มิถุนายน 2556 18:08:38 น.
โดย: mm IP: 192.99.14.36 11 มีนาคม 2557 21:10:40 น.
โดย: Asahi IP: 118.174.181.193 30 พฤศจิกายน 2557 19:24:30 น.
โดย: น้ำทิพย์ IP: 49.48.119.165 2 พฤศจิกายน 2560 23:31:52 น.