BlogGang.com : : tuk-tuk@korat : ลำพูน - เจดีย์กู่ช้าง กู่ม้า, วัดพระธาตุหริภุญไชย อำเภอเมือง

ลำพูน - เจดีย์กู่ช้าง กู่ม้า, วัดพระธาตุหริภุญไชย อำเภอเมือง

***

ลัวะเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมในดินแดนล้านนา

ตามที่ปรากฎเป็นเรื่องเล่าสืบขานมา

เช่น

ตำนานเจ้าหลวงคำแดง ... ดอยหลวงเชียงดาว ... ผู้นำลัวะสร้างเมืองล้านนา

ตำนานอินทขิล ... วัดเจดีย์หลวง ... การสร้างบ้านแป๋งเมืองลัวะที่ตีนดอยสุเทพ

ตำนานพระธาตุ... วัดพระธาตุหริภุญไชย ... ลัวะถวายผลสมอให้พระพุทธเจ้า

ตำนานปู่ลาวจก ... ดอยตุง ... เป็นต้นราชวงศ์ ลวจกราช ต้นตระกูลพญามังราย

ลัวะ ไม่มีภาษาเขียน นับถือผี เชื่อว่าตนเกิดจากรอยเท้าสัตว์

ปกครองโดยหัวหน้าเผ่า มีหลายเหล่า เช่น แรด ช้าง วัว เนื้อ

ตามที่เชื่อว่าตนเกิดจากรอยเท้าของสัตว์ประเภทไหน

ตำนานมูลศาสนา ... การประดิษฐานพุทธศาสนาในล้านนา ...

สมัยพุทธกาล ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ ในล้านนา

พบชนเผ่าลัวะ อาศัยอยู่ลุ่มน้ำแม่ปิง

มีปู่แสะ ย่าแสะ และลูกชาย จึงคิดจะกินพระพุทธเจ้า

เมื่อถึงบ้านปางไฮ ปัจจุบัน คือ ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

พระพุทธองค์ก็แสดงปาฎิหารย์ ทรงประทับรอยพระบาท ลงบนแผ่นหินใหญ่

ที่ก่อนหน้า มีพระพุทธเจ้าองค์อื่น

คือ กะกุสันทะ , โกนาคมนะ และ กัสสะปะ

ได้ประทับรอยพระบาทไว้แล้ว

พระพุทธเจ้า ได้ทรงประทับรอยพระบาท เป็นรอยที่สี่ (วัดพระพุทธบาทสี่รอย)

ตำนานปู่แสะ แม่แสะ ... วัดพระธาตุดอยคำ ... ปู่แสะ และแม่แสะ ได้ถือศีล

และท่านทั้งสองคือ บิดามารดา ฤาษีวาสุเทพ

เพราะ ผู้ปกครองชาวลัวะไม่ยึดถือหลักธรรมในการปกครอง

ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ แถบเชิงดอยสุเทพ

ฤาษีวาสุเทพ จึงล่องลงมาทางใต้มาสร้างเมืองหริภุญไชยขึ้นอีกเมือง

วัดพระธาตุดอยคำ

ตำนานพระนางจามเทวี ... วัดดอยติ ... เป็นคนบ้านหนองดู่ อ.ป่าซาง

ฤาษีวาสุเทพส่งล่องเรือไป เจ้าเมืองละโว้นำมาเลี้ยงไว้

ภายหลังฤาษีวาสุเทพไปเชิญมาปกครองหริภุญไชย

ตำนานจามเทวีวงศ์ ...

ขุนหลวงมะลังกะ

ปกครองอาณาจักรลานนารวม 8 ดินแดน

เดิม ชื่อ นครทัมมิฬะ หรือ นครมิรังคะกุระ ราชวงศ์ที่ปกครอง วงศ์อุปะติ

ต่อมา ปกครองใหม่โดยวงศ์กุนาระ เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น ระมิงค์นคร

ขุนหลวงมะลังกะ เป็นกษัตริย์องค์ที่ 13 ของ ระมิงค์นคร ราชวงค์กุนาระ

เมื่อ ราวต้นพุทธศักราช 1200

ท่านทรงมีอิทธิฤทธิ์ และฝีมือในการ พุ่งเสน้าเป็นที่เลื่องลือ

ทรงครองราช ในสมัยเดียวเดียวกันกับที่พระนางจามเทวี ครองนครหริภุญไชย

"ระมิงค์นคร" ได้ถูกปกครองสืบเนื่องกันมาหลายยุคหลายสมัย

จนพญามังรายเข้ามาสร้างเมืองเชียงใหม่

เมื่อพระนางจามเทวีเพิ่งจะเสด็จมาปกครองเมืองหริภุญไชยนั้น

ขุนหลวงมะลังกะได้ยินกิตติศัพท์พระศิริโฉมของพระนางจามเทวี

มีจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ใหลหลง จึงส่งทูตมาสู่ขอพระนาง

แต่พระนางจามเทวีก็ใช้ปัญญาออกอุบายบ่ายเบี่ยงมาตลอด

เช่น

หากขุนหลวงมะลังกะพุ่งหอกมาปักกลางเมืองหริภุญชัยได้ ก็จะยอมตกลง

*เพิ่มเติม

ลำพูนมาจากคำว่า ลัวะปุ่ง , ปุ่ง = พุ่ง *

ขุนหลวงมะลังกะเป็นผู้มีคาถาอาคม

ขึ้นไปบนดอยสุเทพ ร่ายเวทย์มนต์ตราคาถาอาคม

แล้วพุ่งหอกสะเหน้ามาตกที่หนองน้ำนอกเมืองทิศตะวันตก (หนองสะเหน้า)

พระนางจึงเอาชายผ้าถุงทำเป็นหมวก

และเอาใบพลูทาประจำเดือนทำหมากคำให้ทูตส่งไปถวายขุนหลวงมะลังกะ

อาคมของหลวงมะลังกะก็เสื่อม สะเหน้าตกลงที่บริเวณตีนดอยสุเทพ

สมัยก่อนเรียกว่าหนองเสน้า อยู่หลังโรงเรียนประชาบาล เชิงดอยสุเทพ

ขุนหลวงมะลังกะจึงตัดสินใจยกทัพบุกเมืองหริภุญชัย

พระนางจามเทวีจึงได้เอาช้างปู้ก่ำงาเขียว

ช้างคู่บารมีของพระนางออกมาสู้รบขับไล่ข้าศึกชาวลัวะจนแตกพ่าย

ก่อนสิ้นชีวิต ขุนหลวงวิรังคะได้สั่งให้นำศพของท่าน

ไปฝังไว้ ณ สถานที่ที่จะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลา

และได้สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 1227 ณ ระมิงค์นคร

รวมพระชนมายุได้ 90 กว่าพรรษา

ทหารได้จัดขบวนศพของขุนหลวงจะขึ้นไปฝังที่ดอยสุเทพ

ขบวนแห่ศพได้ลอดใต้เถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่งชื่อ เครือเขาหลง

เชื่อว่าถ้าผู้ใดลอดผ่านจะทำให้พลัดหลงทางกันได้

ขบวนแห่ศพขุนหลวงจึงพลัดหลงกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

ดอยที่ขบวนเพลงแห่หลงก็มีรูปร่างคล้ายเครื่องดนตรี นั้น ๆ

บนดอยสุเทพ-ปุย จึงมีชื่อต่าง ๆ ดังนี้ ดอยฆ้อง ดอยกลอง ดอยฉิ่ง ดอยสว่า(ฉาบ)

ช่องระหว่างดอยที่แคบและเป็นช่องลม ทำให้ฝาครอบโลงศพปลิวตก เรียก กิ่วแมวปลิว

... แมว = ฝาครอบโลงศพที่ทำด้วยโครงไม้ไผ่ใช้ตกแต่งด้านบนของฝาโลง ...

เสนาที่หามโลงศพเดินทางไต่ตีนเขาไปทางทิศเหนือ

ถึงบริเวณแห่งหนึ่ง โลงศพได้คว่ำตกลงจากที่หาม

จึงได้ฝังศพของขุนหลวงไว้ ณ สถานที่บนภูเขาแห่งนี้ เรียก ดอยคว่ำหล้อง

... หล้อง = โลงศพ

อยู่บนดอยเหนือน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดลักษณะคล้ายโลงศพ

บนยอดเขามีศาลของขุนหลวงมะลังกะ หรือ วิรังคะ

ที่ ชุมชนชาวลัวะที่เชื่อว่าเป็นเชื้อสายของ ขุนหลวงมะลังกะ

* กู่ช้าง - กู่ม้า *

จากตำนานพงศาวดาร และเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า

กู่ช้าง

เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากของพญาช้าง ชื่อปู้ก่ำงาเขียว

ช้างปู้ ... ช้างตัวผู้ ... ช้างพลาย , ก่ำ สีเข้ม , งาเขียว

เป็นสถูปทรงกลม ปลายมน ตั้งอยู่บนฐาน 3 ชั้น

เหนือสถูปขึ้นไปมีแท่นคล้ายบันลังก์ของเจดีย์

เมื่อช้างเชือกนี้หันหน้าไปทางศัตรูก็จะทำให้ศัตรูอ่อนกำลังลงทันที

ช้างเชือกนี้ล้มลงในวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 เหนือ

เจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ โอรสฝาแฝดของพระนางจามเทวี

ได้นำสรีระของช้างใส่ลงไปในแพไหลล่องไปตามลำน้ำกวง ... หรือปิง ?

... เดิมเมืองหริภุญไชยอยู่ติดแม่น้ำปิง แต่ต่อมาแม่น้ำปิงเปลี่ยนทางไหล ...

แต่ก็ได้ทรงเปลี่ยนพระทัย เพราะกลัวว่าประชาชนที่อยู่ใต้น้ำจะเดือดร้อน

จึงนำสรีระของช้างกลับขึ้นมาฝังบนฝั่งบริเวณท่าน้ำวัดไก่แก้ว

แล้วลากมาฝังไว้ที่บริเวณกู่ช้าง โดยให้ซากช้างหันหน้าขึ้นไปบนฟ้า

และสร้างสถูป

งาทั้งสองข้างของช้างถูกนำไปบรรจุไว้

ในสถูปที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระนางจามเทวี

คือ สุวรรณจังโกฏหรือกู่กุด

จากหลักฐานทางด้านโบราณคดีที่พบและรูปแบบของเจดีย์

ไม่ปรากฏร่องรอยของศิลปกรรมในสมัยหริภุญไชย

นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานว่า

เจดีย์กู่ช้าง สร้างในสมัยล้านนาประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 21

และจากรูปทรงขององค์เจดีย์มีลักษณะรูปทรงที่คล้ายกับเจดีย์บอบอคยี

ของพม่าโบราณ ในอาณาจักรศรีเกษตร (สมัยต้นพุทธกาล)

และในสมัยของพระเจ้าติโลกราช

เป็นยุคที่มีการจำลองเอารูปแบบของเจดีย์ต่าง ๆ มาสร้างเป็นจำนวนมาก

เช่น เจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดียมาสร้างที่วัดเจ็ดยอด

จึง อาจเป็นไปได้ว่า

เจดีย์กู่ช้างอาจสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช

โดยเอารูปทรงของเจดีย์บอบอคยีจากรัฐศรีเกษตรในพม่ามาเป็นต้นแบบ

เจดีย์กู่ม้า

อยู่ทางด้านทิศเหนือของเจดีย์กู่ช้าง

เป็นเจดีย์ก่ออิฐสอดิน และฉาบปูนด้านนอกอกเหมือนเจดีย์กู่ช้าง

เป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆัง ด้านบนเป็นบัลลังก์ ส่วนยอดหักหายไปแล้ว

* วัดพระธาตุหริภุญไชย *

ในสมัยพุทธกาลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาบิณฑบาต

มีชาวลัวะผู้หนึ่งได้นำเอาลูกสมอมาถวาย

เมื่อพระพุทธองค์ได้เสวยลูกสมอนั้นแล้ว

จึงทรงทิ้งขว้างเมล็ดลูกสมอเหล่านั้นลงบนพื้นดิน

พร้อมกับตรัสพยากรณ์ไว้ว่า

“ สถานที่แห่งนี้ต่อไปภาคหน้า

หลังจากเราตถาคตได้นิพพานไปแล้ว

จะเป็นที่ตั้งของหริภุญไชยนคร

และยังจะเป็นที่ประดิษฐานของพระสุวรรณเจดีย์อีกด้วย”

หริภุญไชย แปลว่า เมืองที่พระพุทธเจ้าเคยเสวยลูกสมอ

(หริแปลว่าสมอ ... ภุญชแปลว่ากินแล้ว... นครแปลว่าเมือง)

เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จ ดับขันธ์นิพพานไปได้ 218 ปี

พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

ได้พบพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าที่เมืองราชคฤห์

จึงเกิดศรัทธาเลื่อมใส

อยากจะสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุเหล่านั้นให้ได้ 84,000 แห่ง

จึงมอบให้พระเถระทั้งหลาย

อัญเชิญพระบรมธาตุไปบรรจุในเจดีย์ยังเมืองต่าง ๆ ทั่วแคว้นชมพูทวีป

สันนิษฐานว่าประเทศไทยเราก็คงได้รับส่วนแบ่งพระบรมธาตุในครั้งนั้นด้วย

ตำนานท้องถิ่นบางแห่งยังบอกว่า

พระกุมาระกัสสะปะเถระ และ พระเมฆิยะเถระ

เป็นผู้อัญเชิญพระเกศบรมธาตุจากพระยาศรีธรรมาโศกราช

มาไว้ที่ลัมภะกัปปะนคร ( พระธาตุลำปางหลวง )

และหริภุญชัยนคร

ภาพก่อน พ.ศ. 2466

พ.ศ. 2466 วิหารหลวงถูกพายุพัดถล่ม

วิหารพระนอน

หอระฆังกังสดาล

องค์พระธาตุ

สุวรรณเจดีย์หรือปทุมวดีเจดีย์

สร้างโดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีพระเจ้าอาทิตยราช

พ้อมกับพระเจ้าอาทิตยราชสร้างวัดในปี พ.ศ. 1607

ลักษณะการก่อสร้างแบบเดียว กับ เจดีย์สี่เหลี่ยมหรือเจดีย์กู่กุดที่วัดจามเทวี

คือองค์เจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ

เป็นทรงปราสาทมีฐานสี่เหลี่ยมซ้อนชึ้นไป ห้าชั้น

แต่ละชั้นประดับซุ้มจระนำทั้งสี่ด้าน ด้านละสามซุ้ม

ภายในซุ้มจะประดิษฐานพระพุทธรูปดินเผาประทับยืนประทับอยู่

มีร่องรอย ของการลงรักปิดทอง

ส่วนบนสุดของเจดีย์เป็นกลีบบัวปูนปั้นหุ้มด้วยโลหะแผ่น

ส่วนยอดปลายสุดเป็น กรวยแหลมเรียวยาวขึ้นไป

พระพุทธรูปจากวัดดอนแก้ว เวียงยอง ตั้งไว้ที่ฐานเจดีย์

* เพิ่มเติม *

พระพุทธรูปหินที่วางบนฐานปทุมเจดีย์ วัดพระธาตุหริภุญไชยนั้น

มาจากวัดดอนแก้วที่

เป็นหนึ่งในสี่วัดนอกกำแพงเมืองหริภุญไชยทางทิศตะวันออก

เมื่อพระนางจามเทวีได้ขึ้นมาครองเมืองหริภุญไชย

ได้สร้างวัดขึ้นสี่มุมเมือง สัมพันธ์กับกรุพระพิมพ์ดังนี้

ด้านเหนือ

วัดพระคงฤาษี โดย สุเทวฤาษี เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศเหนือ ... พระคง

พระพุทธคุณในด้าน ความมั่นคงแข็งแรง และความคงกระพันชาตรี

ด้านใต้

วัดประตูลี้ โดย สุกกทันตาฤาษี เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศใต้ ... พระลือมงคล

พระพุทธคุณในด้าน เลื่องลือนาม

วัดนี่เชื่อว่า มีทางลับหนีออกจากนครหริภุญชัยทางน้ำได้

ด้านตะวันออก

วัดดอนแก้ว โดยสุพรหมฤาษี ผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศตะวันออก ... พระเปิม พระบาง

ด้านตะวันตก

วัดมหาวัน โดย สุมณนารทะฤาษี ผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศตะวันตก ... พระรอด

วัดดอนแก้วร้างไปเป็นเวลานาน

ในสมัยรัตนโกสินทร์ กวาดต้อนผู้คนจากเวียงยองสิบสองปันนา

มาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้

ได้ใช้วัดต้นแก้วเป็นศูนย์กลางของชุมชน

วัดดอนแก้วไม่สามารถดูแลได้ จึงเป็นวัดร้าง

หลวงพ่อแดง

ปิดท้ายด้วย ... หอพระธรรม

Create Date : 21 เมษายน 2557

Last Update : 8 มิถุนายน 2565 15:18:35 น. 39 comments

Counter : 239 Pageviews.

Share
Tweet

ตามมาดูภาพ และเรื่องราว ของ ลั๊ว....

เมือก่อนผมอ่านหนังสือ เกี่ยวกับชนชาว ลั๊ว
เป็นแบบ คนป่า ที่ไหนได้กับกลายเป็นคน
ที่สร้างอะไรเยอะแยะ ไม่ใช่แบบที่เคยอ่าน
เลยครับคุณตุ๊ก

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:14:37:40 น.

ดูรูปก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยตามมาอ่าน
ลงชื่อไว้ก่อนค่ะพี่ตุ๊ก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ฝากเธอ2 Music Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:15:08:47 น.

มาแอ่วหละปูน ด้วยค่ะ

ไลค์ให้ข้อมูลและภาพประกอบไว้ก่อนนะคะ
พรุ่งนี้มาเยี่ยมอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณที่ไปย้อนยุคย้อนวัยด้วยกันนะคะ
เลิฟๆค่ะ

โดย: เฉลิมลาภ ทราบแล้วเปลี่ยน

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:16:33:17 น.

เชียงใหม่เกิดร่วมสมัยสุโขทัย
แต่ลำพูนเกิดนานมาก่อนนั้นหลายร้อยปีมาก

กู่กุด กูช้างเป็นตัวอย่างที่ดี ว่าเจดีย์ที่ลำพูนเป็นเอกลักษณ์ต่างไปจากที่อื่น

แต่ที่มาที่ไปนั้น คงต้องลองไปหาหนังสือของอาจารย์ พิริยะ ไกรฤกษ์มาอ่าน ผมเองยังไม่เคยอ่าน แบบว่ามันเชิงลึกไป คร่าวๆ ได้แค่นี้ล่ะ

โดย: ปลาทอง สมองน้อย

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:16:59:17 น.

ตามมาเที่ยวเมือง "หละปูน" ด้วยคนจ้า
อยู่เชียงใหม่ ใกล้ๆ หละปูน
ผ่านบ่อย แต่ไม่ค่อยได้แวะไปวัด.. ต่างๆ เลยค่ะ
ไว้ต้องหาโอกาสลงไปเที่ยวตามวัดต่างๆ บ้างแล้วค่ะ
ขอบคุณมากค่ะที่พาเที่ยวชมบรรยากาศภายในวัดนะคะ

โดย: แม่ออมบุญ

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:17:19:34 น.

สวัสดีครับพี่ตุ๊ก
เจดีย์กู่ช้างกู่ม้าเคยไปชม
กับรถรางทัวร์ท่องเที่ยว 9 แหล่งในเมืองลำพูน
ถ้าไปเองคงไม่ถูกแน่ครับ
tuk-tuk@korat Travel Blog

โดย: moresaw

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:17:24:49 น.

งามแต๊..งามขนาดค่ะคุณตุ๊ก
เปิดภาพแรกมา ก็เหลืองอร่ามสดใส
ตามมาเที่ยวและอ่านข้อมูลดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันด้วยค่ะ

ไว้มาใหม่อีกทีนะคะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:17:35:36 น.

ภาพแรกสวยจังดอกอะไรค่ะ

หละปูนคือลำพูนหรอค่ะ

มาถามอย่างเดียว อิอิ

โดย: สมาชิกหมายเลข 861805

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:18:31:07 น.

น้ำลิ้นจี่มาแล้ววววว แก้ร้อนๆๆ

โดย: ป้าคาล่า

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:18:51:45 น.

ผมก้าไปวัดพระธาตุหริภุญชัยเมื่อเดือนที่แล้วครับ
ไปส่งหลวงพ่อที่วัด
ได้เดินถ่ายฮูปตวยครับ

เป๋นวัดตี้งามขนาดเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:19:52:33 น.

ตามมาแอ่วเมืองล้านนาด้วยจ้า ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เยอะดีด้วย

โดย: wachi (กาบริเอล

) วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:20:48:04 น.

ตามไปเที่ยว พร้อมอ่านตำนานประวัติศาสตร์
น่าสนใจมากๆเลยคุณตุ๊ก...

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Diarist ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
Tristy Food Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog

โดย: tui/Laksi

วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:21:29:45 น.

~ ตามมาเที่ยวคะพี่

โดย: ~ ริมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa

) วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:22:30:53 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:3:49:48 น.

งามมาก

โดย: พันคม

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:5:40:32 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:6:37:58 น.

สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณตุ๊ก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: เฉลิมลาภ ทราบแล้วเปลี่ยน

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:7:44:16 น.

ตามมาเที่ยว
เดี๋ยวมา Vote

ตามมาเที่ยว
เดี๋ยวมา Vote

Tii,tl;ylfu ot8t

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:8:12:55 น.

ตวยมาแอ่วหล่ะปูนตวยคนจ้าว

โดย: mariabamboo

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:8:22:48 น.

วิ่งมาอ่านตำนานนำเที่ยว

วันนี้จะต้องกลับบ้านดึกแน่ รีบมาแจกโหวต
ให้หมดภาระ ไว้กลับมาอ่านต่อ เก็บความรู้
ไว้มั่ง ว่าต้นเดือนจะไปแถวนั้น

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ขอบคุณนะตัวเอง

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า

) วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:9:51:10 น.

ตามแอ่วด้วยค่ะ
เที่ยวผ่อนคลายได้ไหว้พระทำบุญด้วย
ผ่อนคลายสบายใจดีค่ะ ...

โดย: NENE77

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:11:03:31 น.

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะคุณตุ๊ก
ได้ชมภาพงาม ๆ แล้วยังได้
ความรู้กลับไปด้วยค่ะ

โดย: AppleWi

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:12:55:09 น.

งามปะล่ำปะเหลือ..ถูกป่าว..

โดย: cacaross

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:19:37:48 น.

แต่ละตำนานและความเป็นมา ชวนติดตามมากครับ

tuk-tuk@korat Travel Blog

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:21:38:47 น.

สวัสดีจร้าาาาามาบ้านนี้ได้ความรู้ตลอด

โดย: maistyle

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:7:35:26 น.

สวัสดีค่ะพี่ตุ๊ก

โหวตให้นะคะ

ได้ความรู้เยอะเชียวค่ะพี่

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:8:59:37 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่ตุ๊ก

เรื่องเก่า
ไม่ย้อนไปเสียใจแล้วครับ
เสียดายนิดหน่อย
ตรงถ้าตอนนั้นไม่แรงมาก
น่าจะพอคุยกันได้ทั้งครูและเพื่อนครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:12:37:01 น.

มาแอวด้วยค่ะพี่ตุ๊ก
ภาพแรกดอกสีเหลืองหล่นเต็มพื้นเหมือนปูพรม
สวยมากค่ะ ดอกอะไรคะ
วันนีได้ชมของสวยๆ หลายอย่างที่ไม่เคยเห็น
แถมได้ความรู้เยอะเลยค่ะ

ขอบคุณที่พี่ตุ๊กแวะไปชมกางเกงยีนส์
แหม่มก้ได้แต่มองค่ะ ตอนนี้เอวขึ้นมาอยู่ที่คอ
ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ อิอิ

โดย: mambymam

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:13:23:16 น.

เหลืองอินเดีย สวยจัง
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

โดย: mambymam

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:15:51:05 น.

ส่งยิ้มมาขอบคุณค่ะพี่ตุ๊ก

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:16:44:54 น.

ขอบคุณมากค่ะ ที่ไปเยี่ยมเยือน
เนื้อหา ภาพประกอบแน่นเอียดเลยค่ะ ได้ความรู้ด้วยค่ะ

โดย: อ้อมกอด ขุนเขา กับเงาตัวเอง

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:18:50:23 น.

หนนี้พาไปหลายวัดหลายตำนานเลย

ตำนานวัดทางเหนือนี่พระพุทธเจ้าไปแวะมาแทบทุกวัดเลยนะครับ
เพิ่งรู้ด้วยว่าชื่อดอยต่างๆมาจากตำนานเกี่ยวกับขบวนแห่ศพขุนหลวงมะลังคะ นับเป็นสงครามครั้งใหญ่ในสมัยพระนางจามเทวีเลย
กู่ช้างเหมือนเจดีย์ทรงน้ำเต้าของพม่าจริงๆ เป็นลักษณะเจดีย์เก่าก่อนพุกามที่ได้ยินบ่อยๆก็จะมีเจดีย์บูปะยาและเจดีย์ง๊ะจเวนะตาว รุ่นราวคราวเดียวกับหริภุญชัยเลยครับ แต่กู่ช้างสร้างสมัยอยุธยาหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบได้
ได้ยินว่าแถวๆนั้นมีกู่ไก่กู่แมวด้วย เป็นกู่เล็กๆ แต่วันที่ไปผมไม่ได้เดินหาครับ

เพิ่งเคยเห็นภาพวิหารเก่าของวัดพระธาตุหริภุญชัยก่อนโดนพายุถล่ม
พระพุทธรูปเมืองยองในวัดคงนำมาตอนที่กวาดต้อนผู้คนเมืองยองมาอยู่ที่ลำพูนช่วงต้นรัตนโกสินทร์ใช่ไหมครับ

โดย: ชีริว

วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:23:09:39 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:6:06:28 น.

สวัสดีอีกรอบค่ะ

ไม่ได้กินนานแล้วที่ไปเม้นท์นี่

ไม่ได้กินติ่มซำนานแล้ว หรือไม่ได้กินร้านนี้นานแล้วคะพี่ตุ๊ก

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:8:24:58 น.

น่าสงสารขุนหลวงเหมือนกันนะคะ

เจดีย์ไม่มียอดแหลมด้านบน ดูแปลกตาเลยค่ะ

พระธาตุหริภุญไชย น่าจะเพิ่งบูรณะสีขาวฉ่องเลยค่ะ ก็ยังชอบนะคะ

บางคนไปแวะที่ไหนแล้วไม่ค่อยอยากแวะซ้ำ ทฤษฏีนี้ใช้ไม่ได้กับพี่ตุ๊กแน่เลยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
jamaica Home & Garden Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:9:52:42 น.

ตอบคุณชีริวค่ะ

พระพุทธรูปหินที่วางบนฐานปทุมเจดีย์ วัดพระธาตุหริภุญไชยนั้น มาจากวัดดอนแก้วที่เป็นหนึ่งในสี่วัดนอกกำแพงเมืองหริภุญไชย ทางทิศตะวันออก เป็นวัดที่สร้างมาพร้อมเมืองหริภุญไชย

เมื่อพระนางจามเทวีได้ขึ้นมาครองเมืองหริภุญไชย
ได้สร้างวัดขึ้นสี่มุมเมือง

ด้านเหนือ ... วัดพระคงฤาษี โดย สุเทวฤาษี เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศเหนือ
ด้านใต้ ... วัดประตูลี้ โดย สุกกทันตาฤาษี เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศใต้
ด้านตะวันออก ... วัดดอนแก้ว โดยสุพรหมฤาษี ผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศตะวันออก
ด้านตะวันตก ... วัดมหาวัน โดย สุมณนารทะฤาษี ผู้รักษาพระนครฝ่ายทิศตะวันตก

แต่วัดดอนแก้วร้างไปเป็นเวลานาน
ในสมัยรัตนโกสินทร์
เมื่อผู้คนจากเวียงยองสิบสองปันนา
มาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้ไม่สามารถดูแลได้
ได้ใช้วัดต้นแก้วเป็นศูนย์กลางของชุมชน
วัดดอนแก้วจึงเป็นวัดร้าง ... ปัจจุบันเหมือนเป็นสำนักปฏิบัติธรรมมั้ง

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:10:30:12 น.

ตอบคุณสายหมอก ... ขุนหลวงมะลังกะสิ้นตอนอายุ 90 กว่าค่ะ

ตอบคุณบี

คำว่าหละปูน เขาว่ามาจากคำว่า ลัวะปุ่ง
ลัวะ = ลัวะ
ปุ่ง = พุ่ง ... พุ่งเสน้า
เสน้า = หอกด้ามสั้น ด้ามมีความยาวเท่ากับหัวไหล่เจ้าของไปสุดปลายนิ้วมือกลาง เพื่อเหมาะสมกับเจ้าของ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:10:40:14 น.

ขอบคุณสำหรับคำแปลนะคะพี่ตุ๊ก

โดย: สมาชิกหมายเลข 861805

วันที่: 24 เมษายน 2557 เวลา:15:29:02 น.

Create Date : 21 เมษายน 2557
Last Update : 24 เมษายน 2557 11:02:30 น. ลบ Blog แก้ไข Blog 38 comments
Counter : 3966 Pageviews.

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 8 มิถุนายน 2565 เวลา:15:11:00 น.