คิดถึงศรีลังกา ปี2546 ผมได้มีโอกาสไปสำรวจและวางแผนจัดทำโครงการปลูกไม้สักสำหรับเกษตรประเทศศรีลังกา ท่ามกลางกลิ่นอายความรุนแรงทางการเมือง ได้เข้าพบอดีตรัฐมนตรีเกษตร นักการเมืองผู้ใหญ่ ได้ท่องเที่ยวเกือบทั่วเกาะลังการวมทั้งมีโอกาสไปนมัสการวัดสำคัญและพระธาตุเขี้ยวแก้วอีกด้วย แต่สุดท้ายผู้ลงทุนชาวสวีเดนประเมินความเสี่ยงว่าพื้นที่ที่จะทำโครงการปลูกไม้สักอยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกพยัคฆ์ทมิฬอีแลมหรือเขาเรียกว่าพวกtwo legs tiger และเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ มิสเตอร์คนู้ด (แปลว่าเชือกผูกรองเท้า)เลยพาผมไปผักผ่อนรีสอร์ทที่ขึ้นชื่อของศรีลังกาทีสวยงามมากมองเห็นยอดเขา Adam s Peak ภูเขาศักดิ์สิทธ์ความสูงประมาณ 2243เมตร อันสุดสวยที่เชื่อกันว่ามีสวนแห่งอีเดนที่ อดัมส์กับอีฟ มนุษย์คู่แรกของโลกอาศัยอยู่ที่นั่น
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้
ศรีลังกา ไข่มุกข์ของเอเซีย
จิตรกรรมฝาผนังวัดกัลยาณี เมืองโคลอมโบ
ชาวศรีลังกาเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดชาวศรีลังกาที่เป็นพวกยักษ์อยู่อาศัย
เจ้าชายจากอินเดียเหนือพวกศากยวงค์มาที่เกาะนี้และแต่งงานกับเจ้าหญิงบุตรผู้ปกครองเกาะแห่งนี้
...คัมภีร์มหาวงศ์ นับประเทศศรีลังกาเมื่อพ.ศ.1 คือปีแรกที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน มีเจ้าชายอินเดียจากเมืองสีหปุระในแคว้นคุชรัตถูกเนรเทศเรือแพลอยมาติดตรงแผ่นดินนี้ แล้วตั้งตนเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเจ้าวิชัย ครองสมบัติเมืองตัมพะปัณณิ สืบสันตติวงศ์สลับกับพวกทมิฬจากตอนใต้ของอินเดียบ้างเป็นระยะ ๆ อยู่1,598 ปี โดยตั้งเมืองหลวงอยู่ที่อนุราธปุระ ทางภาคกลางค่อนไปทางเหนือของเกาะ
พระนางสังฆมิตราและคณะฯบุตรีพระเจ้าอโศกมหาราชนำพุทธศาสนาสู่ลังการาวพ.ศ360
เจ้าหญิง Hemamala และ เจ้าชาย Danta สวามี แห่งอาณาจักรกลิงรัฐ นำพระธาตุเขี้ยวมาจากอินเดียโดยซ่อนในมวยผมเจ้าหญิง ราวพ.ศ 800
ปริศนาธรรมะจากmoonstoneทางเข้าอุดโบสถ วัดกัลยาณี
อัฒจันทร์ศิลา Moonstone เป็นปริศนาธรรมประจำศาสนสถานของประเทศศรีลังกา ส่วนนอกสุดเป็นรูปเปลวไฟเปรียบเหมือนราคะ โทสะ และโมหะที่ทำให้มนุษย์สามัญรุ่มร้อน ถัดมาเป็นสัตว์สี่ชนิดได้แก่ ช้าง ม้า สิงห์และวัว เปรียบเหมือนวงจรของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ และตาย วงในถัดมาเป็นรูปเถาวัลย์เปรียบเหมือนตัณหาพันผูกมนุษย์ให้วนเวียนจมปลักในวัฏฏะ ส่วนวงถัดมาเป็นหงส์เปรียบเหมือนเพศสมณะผู้ไร้เครื่องพันธะผูกมัด (พฤติการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องสิ่งใดๆเช่นนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญเปรียบเที่ยบไว้ว่า ท่านมีพรตเช่นนี้เหมือน หงส์ ไม่มีการสะสมอาหาร ลงสู่สระใด ได้อาหารอิ่มแล้วก็บินไป ไม่ห่วงใยว่าสระนี้ของเรา กุ้งปลาของเรา บัวและกระจับของเรา เบากายเบาใจไปสู่ที่ต้องการตามประสงค์อย่างสบาย-พระคุณเจ้าชอบ อนุจารีเถร )ถัดมาเป็นดอกบัวเปรียบเหมือนสวรรค์ชั้นสุทธาวาสหรือพุทธเกษตรดินแดนสุขาวดี อันเป็นที่อยู่ของบรรดาพระอนาคามี หากต้องการเข้าถึงพระนิพพานจำต้องก้าวข้ามวัฏฏะสงสารเพื่อไปสู่พุทธภูมิ.
(ไทยและศรีลังกาคือเมืองพุทธฝ่ายเถรวาท สยามวงศ์-ลังกาวงศ์ ไม่ไปไม่รู้ เชิญครับ)
อ่านเพิ่มเติม //www.teak-teca.com/wp-content/uploads/2011/02/SriLankaTeakTree2003.pdf
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nagano&month=11-2013&group=19&date=23&gblog=17