สี่ทรรศนะที่ เรียกว่า "จตุษโกฏิ"ของคุรุนาคารชุน...ทางสายกลาง ของสำนักปรัชญามาธยมิก
 สี่ทรรศนะที่ เรียกว่า "จตุษโกฏิ"ของคุรุนาคารชุน ...โลกมีที่สุด หรือ โลกไม่มีที่สุด หรือ โลกทั้งมีที่สุดและไม่มีที่สุด หรือโลกไม่ใช่ทั้งมีที่สุดและไม่ใช่ทั้งไม่มีที่สุด คุรุนาคารชุนจึงปฏิเสธทั้งหมด และใช้วิภาษวิธีชี้ให้เห็นว่า พุทธภาวะ คือ ภาวะเหนือโลกเป็นอุตรภาวะที่อยู่ในโลกนี้ ถ้าสามารถรู้และดำรงในภาวะที่มีใช่อยู่นั้น ภาวะทั้งสี่ หรือ จตุษโกฎิ นั่นก็คือ     มี-ไม่ใช่ , ไม่มี-ไม่ใช่ , ไม่ใช่มี-ก็ไม่ใช่ , ไม่ใช่ไม่มี-ก็ไม่ใช่  นี่คือ ทางสายกลาง ของสำนักปรัชญามาธยมิก

รูปภาพ : ในดีก็มีเลว. ในเลวก็มีดีไตร่ตรองให้ดีๆ  แล้วจะเห็นทั้งดีทั้งเลว
แต่หลักปรัชญาของพระพุทธศาสนาย่อมสอนให้เข้าถึงความดับรอบโดยแท้จริง แม้ทั้งตัวผู้รู้และสิ่งที่รู้ย่อมดับทั้งสิ้น กล่าวคือโดยปรมัตถ์แล้วทั้งพระนิพพานและผู้บรรลุนิพพานย่อมเป็นศูนย์นั่นเอง เพราะเมื่อธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เกิดจากเหตุปัจจัยจึงปราศจากตัวตน เมื่อปราศจากแก่นสารตัวตน แล้วอะไรเล่าที่เป็นผู้ดับกิเลสและบรรลุพระนิพพาน เราจะเห็นได้ว่าว่างเปล่าทั้งสิ้น ไม่มีสัตว์บุคคลมาตั้งแต่แรก เป็นสักแต่ชื่อเรียกว่าสัตว์บุคคลตัวตนเราเขาเท่านั้น สังสารวัฏล้วนเป็นมายา โดยแท้แล้วหาได้มีสภาวะใดเกิดขึ้นหรือดับไป เพราะฉะนั้นจึงกล่าวว่าตัวตนผู้บรรลุนิพพานไม่มีเสียแล้ว พระนิพพานอันผู้นั้นจะบรรลุจึงพลอยไม่มีไปด้วย






Create Date : 10 มีนาคม 2557
Last Update : 11 มีนาคม 2557 19:31:39 น.
Counter : 2163 Pageviews.

1 comments
  
เพิ่งเข้าใจ ขอบคุณค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:14:20:41 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog