ช่วงเวลาที่ดีทีสุดที่เราจะมา ตัดแต่งต้นไม้กัน คือช่วงต้นไม้พักตัว ใบไม้เปลี่ยนสี ทิ้งใบทั้งต้น ก็จะอยู่ในช่วงหน้าหนาว (แต่ถ้าเป็นการตัด เล็มเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำได้ตลอดปีอยู่แล้ว) ช่วงนั้นจะเป็นจังหวะที่ต้นไม้เริ่มจำศีล ลำเลียงเสบียงอาหารไปเก็บสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว ต้นไม้จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากการตัดน้อยที่สุด แต่ถ้าตัดในช่วงที่ต้น ไม้เริ่มผลิดอก ออกผล แตกใบ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ต้นไม้เริ่มลำเลียงอาหารไปสะสมอยู่ตามกิ่งก้านหรือใบ เพื่อเตรียมผลิดอก ออกผล ต้นไม้ก็จะขาดอาหารและอาจจะแคระแกร็น ไม่ออกดอก ออกผลให้เห็น...สำหรับไม้ป่าเขตร้อนบางตำราบอกให้ตัดแต่งช่วงฤดูการเจริญเติบโตของเนื้อไม้ (cambium)เพื่อให้ต้นไม้สมานแผลได้เร็ว และ ควรหลีกเลี่ยงช่วงฝนตกชุกเพราะความชื้นสูงอาจทำให้เชื้อราลุกลามในแผลต้นไม้ได้ง่าย...สำหรับไม้สักไทยบางท่านแนะนำให้ริดกิ่งช่วงปลายฤดูการเจริญติบโตคือช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
ห้ามถือเลื่อยใกล้กับหน้าตัวเองอย่างนี้นะครับ อันตรายมากๆ รูปนี้เขาเพียงแค่จะโชว์ตำแหน่งของใบเลื่อยเท่านั้น ถ้ากิ่งเล็กขนาดนี้ใช้เลื่อยมือจะดีกว่า
แม่สาวคนนี้ใช้มีดตะขอขูดผิวหน้าไม้ที่ตัดให้เรียบก่อนที่จะทาของเหลวเคลือบหน้าไม้
หลังจากตัดกิ่งแล้วใช้ Lac Balsam ทาแผลเพื่อที่จะป้องกันความชื้นซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของโรคทำให้เนื้อไม้ผุได้ (บ้านเราอาจใช้ปูนขาว-แดง เคี้ยวหมากแทนได้)
ถ้าตัดกิ่งถูกวิธีแล้วเซลของเนื้อไม้จะเติบโตขึ้นมาคลุมรอยตัดป้องกันโรคและแมลงได้ดีเช่นนี้
รอยตัด A-A เป็นอันตรายต่อต้นไม้เพราะเซลจากเปลือกไม้รอบๆรอยตัดไม่สามารถที่จะก่อตัวขึ้นมาครอบคลุมรอยตัดได้
รอยตัด B-B เป็นตำแหน่งที่ถูกต้องในการตัดแต่งกิ่งไม้ ฝรั่งเขาเรียกว่าบ่าของกิ่งไม้ซึ่งจะเป็นรอยนูนๆรอบๆโคนกิ่ง
รอยตัด C-C ก็ไม่ดี ผู้คนส่วนใหญ่จะตัดกิ่งในลักษณะนี้มากที่สุด กิ่งที่เหลือสั้นๆอยู่นี้ต่อมาก็จะแห้งและผุลงกลายเป็นแหล่งของโรคและแมลงเข้าไปทำลายลำต้นได้
ตัวอย่างของรอยตัด C-C จะเห็นได้ว่าเซลจากบ่าหรือไหล่ของกิ่งพยายามจะสร้างตัวขึ้นมาเพื่อที่จะครอบคลุมรอยตัดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะรอยตัดอยู่สูงเกินไป
ขอขอบคุณ ข้อมูลและภาพ จากคุณ สมพร ไชยจรัส และ คุณ DAVID TANG KU29