ยุทธศาสตร์ 4อ.และ บูรณาการระบบชีวิตประจำวันใหม่ 10 ข้อ พิชิตมะเร็งได้จริง ?
       สุขภาพคือสิ่งบงบอกว่าคุณใช้ชีวิตอย่างไร.....นาย มนตรี อติพยัคฆ์ ป่วยเป็นมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 3 หลังจากผ่าตัดลำไส้ส่วนที่เป็นมะเร็งออก เซลล์มะเร็งได้ลุกลามต่อมน้ำเหลืองไปแล้วมีโอกาสมากที่จะกระจายสู่จุดอันตรายที่สุดคือตับ และอวัยวะส่วนต่างๆในช่องท้อง แต่ก็ได้ตัดสินใจรักษาโดยธรรมชาติบำบัดทันที (ยุทธศาสตร์ 4 อ.)โดยไม่ขอรับเคมีบำบัดและรังสีรักษาตามแผนการรักษาของแพทย์ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ในความเห็น ของแพทย์สรุปว่าโอกาสที่จะอยู่รอดถึง 2 ปีหลังการผ่าตัดอาจจะต่ำกว่า 50% ซึ่งก็มีเหตุผลที่ต้องเชื่อ แต่ผมก็เชื่อใน"ทางเลือกใหม่"ว่าอาจจะทำให้ผมอยู่ได้เป็นสิบปี ซึ่งก็เกินพอแล้วสำหรับสภาวะเช่นนี้ แต่ถ้าจะอยู่ได้ ต่อไปอีกก็เป็นเรื่องที่ดีในการใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุข ผมตัดสินใจใช้ทฤษฏีบำบัดมะเร็ง ของ นพ.แมกซ์ เกอร์สัน บิดาแห่งนักธรรมชาติบำบัด และจากหลักการของอาหารแมคโครไบโอติกส์ มาดัดแปลงรักษาตนเองให้เป็น วิถีไทยๆ ด้วยวิธีคิด ด้วยเหตุด้วยผลจนเกิดความเชื่อมั่นว่าถ้าใช้วิธีนี้ต้องไม่ตายแน่ เอาชีวิตตัวเองเดิมพันเลย 
4 อ. คือ อารมณ์ อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย ...กิจวัตรประจำวัน : 
       1.เช้ามืดออกกำลังกายบริเวณสวนที่เต็มไปด้วยแมกไม้สีเขียวแหล่งฟอกอากาศให้บริสุทธิ์โดยการจ็อกกิ้ง ประมาณ 1 ก.ม. เสร็จแล้วพักสูดอากาศยามเช้า (นำออกซิเจนสดๆเข้าไปให้ปอดฟอกเลือดเก่าซึ่งมีสีดำเพื่อจะ ได้เลือดใหม่สีแดงสมบูรณ์ด้วยออกซิเจนส่งไปให้หัวใจสูบฉีดไปทั่วร่างกาย) หลังจากนั้นออกกำลังกายต่อ เริ่ม ต้นด้วย sit-up บริหารหน้าท้องแกว่งแขนบริหารลมปราณ ดัดเนื้อดัดตัวอีกนิดหน่อยตามรูปแบบของโยคะ ชาร์จจักระ(พลังจักรวาล)เป็นอันจบการบริหารกายและจิต เสร็จแล้วก็เดินเล่นในสวนพร้อมสุนัข กลับเข้าบ้านทานหญ้าเทวดา(ปักกิ่ง) 3 เม็ดก่อนอาหารเช้าซึ่งประกอบด้วย โจ๊กข้าวกล้อง ซุปมิโสะ(เต้าเจี้ยวบดญี่ปุ่น)ผสมสาหร่ายญี่ปุ่นวากาเม่ะ ขนมปังโฮลวีทปิ้ง 2 แผ่น กล้วยน้ำว้า 2 ลูก หลังอาหารเช้าทานว่านรางจืด 3แคบซูล (ทั้งหญ้าเทวดาและว่านรางจืดทานวันละ 3 มื้อก่อน/หลังอาหาร ทาน 7 วัน เว้น 4 วัน) ทำ Detox อาทิตย์ละ 2 ครั้ง 
       2.จากนั้นก็หาอะไรทำเพลินๆเช่น รดน้ำต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งใบ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน กวาดใบไม้ ล้างรถบ้าง ซักผ้า รีดผ้าบ้าง เปิดทีวีดูรายการข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ เสร็จแล้วก็ดื่มน้ำเต้าหู้(จืด)ผสมลูกเดือย ทานกับ Cornflakes(ข้าวโพดอบเป็นเกล็ดๆ) อาบน้ำ สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิประมาณ 1 ชั่วโมง ทำอาหารกลางวัน (ก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้น ข้าวกล้อง) ผัดมักกะโรนีบ้างสปาเก็ตตี้บ้าง ดิ่มน้ำปั่นแครอท,ฟักทอง,ข้าวโพด ,งาดำ บางครั้งก็มีหัวมันต้มสีม่วง(มันต่อเผือก) ทานทั้งเปลือก ฟักทองนึ่ง 
       3.หลังจากนั้นก็พักผ่อน ดูทีวี อ่านหนังสือทั่วๆไปบ้าง เข้าอินเตอร์เน็ตบ้าง โทรศัพท์บ้าง จนบ่ายแก่ๆก็ทานผลไม้(ไม่หวาน) ขนมขบเคี้ยวต่างๆที่ทำจากธัญพืช น้ำผักสุขภาพ ถึงเวลาทานอาหารเย็นก็จะทานข้าวบ้างละ เป็นข้าวซ้อมมือแท้ๆ (สีน้ำตาลเข้ม) หุงรวมกับถั่วแดงและลูกเดือย(เพื่อเพิ่มกรดอมิโนให้ครบถ้วน) หุงสุกแล้วโรยด้วยจมูกข้าว งาดำคั่วทานกับต้มจับฉ่ายสลับกับสตูซึ่งมีส่วนผสมหลักคือ แครอท มันฝรั่ง มันเทศ ฟักทอง ผสมถั่วแดง ถั่วแขก ถั่วลันเตา นอกจากนั้นก็จะมีแกงส้ม แกงเลียงกินได้เป็นอาทิตย์ บางครั้งก็มีอย่างอื่น เช่นผัดปรุงรสต่างๆ เนื้อเทียมต่างชนิดทำด้วยโปรตีนเกษตร ผสมเห็ด ข้าวโพด หรือทำด้วยแป้งผสมถั่วเหลือง หัวบุกและแครอต นำมาผัดซ้อสต่างๆ อร่อยมาก
       4.จากนั้นก็ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ กลับมาทำโยคะ จนกระทั่งใกล้ค่ำจึงกลับมาสวดมนต์ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ รักษาตัวเองด้วยพลังจักวาล เสร็จแล้วก็อาบน้ำ พักผ่อนดูทีวี ดื่มน้ำเต้าหู้เปิดวิทยุฟังเพลง ดูหนังที่เช่ามา อ่านหนังสือ จนถึงเวลานอนประมาณ ห้าทุ่มทุกวัน ทั้งหมดเป็นกิจวัตรธรรมชาติบำบัดประจำวัน 
           จะเห็นได้ว่าครบ 4 อ. คือ อารมณ์ อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย สำหรับกิจกรรมพิเศษก็มีอีกหลายอย่าง เช่น เช้าวันเสาร์อาทิตย์ต้องใส่บาตรพระสงฆ์ที่เดินมาหน้าบ้าน ว่ายน้ำ แล้วขับรถเข้าเมืองไปทานอาหารเที่ยงที่ชมรมมังสวิรัติจตุจักร เดินเลยไปที่ตลาดนัด ดูไม้ดอกไม้ประดับที่นำมาขาย ไปดูเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีด้วยเปลือกไม้ธรรมชาติ  บางครั้งก็ถือโอกาศนั่งรถไฟใต้ดินที่สถานีใกล้กันเข้าไปเดินเล่นในเมืองแถวๆสีลม ไปศูนย์ประชุมฯสิริกิติ์ ชมนิทรรศการที่สนใจ แวะพักผ่อนที่สวนเบญจกิติที่อยู่ติดกัน บางครั้งก็ไปห้างสรรพสินค้า ไปดูหนัง ดูหนังสือที่น่าสนใจ นานๆทีก็ไปพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติแถวเหนือๆที่ชอบโดยเฉพาะเชียงใหม่ 

การบูรณาการระบบชีวิตประจำวันใหม่ 10 ข้อ :
1.เปลี่ยนอาหารปกติเป็น มังสวิรัติ(แนวชีวจิต) 
2. เปลี่ยนข้าวขัดขาวมาเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ 
3. หมั่นออกมายืนกลางแจ้งที่มีอากาศบริสุทธิ์  
4. ล้างพิษลำไส้ (Detox) เพื่อกำจัดสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 
5. ออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อรับออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าสู่ปอด 
6. ทำตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติ 
7. เล่นกีฬาเบาๆกับลูกหลาน
8. ถ้ามีเวลาว่างควรเดินทางไปพักผ่อนตากอากาศในสถานที่ต่างๆ 
9. พบแพทย์เพื่อติดตามสภาวะของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 
10. สวดมนต์ (ตามแนวทางของแต่ละศาสนา) 

"ผมรักษามะเร็งด้วยตนเอง โดยวิธีธรรมชาติบำบัด ได้ผลมาก หายเป็นปกติมา 7 ปีแล้วครับ"

มนตรี อติพยัคฆ์ 
ที่อยู่ปัจจุบัน : 50/190 ม.1 หมู่บ้านชัยพฤกษ์ ซ.6/4 
ถนนฟ้าคราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130 
โทร. 02-987-7290 
//www.geocities.com/pimpawatree/
E-mail : pimpawatree@yahoo.com

อ่านเพิ่มเติม //phonlawat.freeforums.org/topic-t55.html




Create Date : 15 กันยายน 2557
Last Update : 17 กันยายน 2557 21:09:32 น.
Counter : 1828 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
กันยายน 2557

 
2
3
5
6
7
9
10
12
13
17
19
20
23
24
28
30
 
 
All Blog