การสนทนาธรรมระหว่างพุทธและเต๋าผ่านก้อนศิลา…ความจริงของสังสารวัฏฏ์และมายา

กษณะกำลังคร่ำครวญถึงเคราะห์กรรมในวันหนึ่ง ก้อนศิลาแลไปเห็นภิกษุรูปหนึ่งและนักพรตเต๋ารูปหนึ่งเดินผ่านมา สองนักบวชรูปลักษณ์พิกลสรวลเสสนทนากันมาตลอดทาง เมื่อมาถึงร่มเงาศิขรทั้งสองทรุดตัวลงนั่งข้างก้อนศิลาและสนทนาพาทีกันต่อไป แรกนั้นกล่าวถึงยวงเมฆลอยโลมเขาเขินเนินไศล ละอองหมอกพริ้วคลุมมหรรณพชะเลสมุทรแลอีกทั้งชีวิตอมรรตัยอันเร้นลับ แต่บัดเดียวสองนักบวชก็เปลี่ยนเรืองสนทนาใหม่ หันไปพูดถึงความอุดมไพบูรณ์ฟุ้งเฟ้อและสุนทรีย์ของชีวิตในธุลีแดง ( โลกของสังสารวัฏฏ์) เรื่องนี้เร้าทุกอนูของศิลาสั่นสะเทือนไปทั่วร่าง ปลุกความปรารถนาใคร่พบเผชิญความหฤหรรษ์ในชีวิตสังสารวัฏฏ์ด้วยตนเอง…”เป็นความจริงที่ว่าธุลีแดงมีความรื่นรมย์ “ นักบวชอมรรตัยทั้งสองตอบพลางยิ้มอย่างพึงใจ แต่มันลับเลือนหายไปง่ายและเป็นมายา ที่นั่นความสุขถูกทำลายโดยอนิจจัง ความดีงามถูกกัดกร่อนด้วยความลโมบริษยาผู้อื่น ท้ายสุดเธอจะพบว่าความทุกข์โศกเศร้ามีน้ำหนักมากเสียกว่าความสุขสโมสร อาตมาไม่อยากแนะนำให้ไปไกล้ต่ออันตรายเช่นนั้น… แต่เพลิงปรารถนาเมื่อประทุขึ้นแล้วยากที่จะมอดดับโดยง่าย ก้อนศิลาไม่นำพาต่อคำเตือน เฝ้าออ้วอนรบเร้าจนกระทั่ง ภิกษุหันไปพูดกับสหายของท่านพลางถอนหายใจใหญ่ “เรามีตัวอย่างอีกอันหนึ่งของความไม่ไหวติงที่ให้วิถีแก่ความไหวติงและความเป็นที่คล้อยตามความเป็นอยู่ที่นี่แล้ว “ หันกลับมาทางก้อนศิลากล่าวขึ้นอีกว่า “ เราจะนำเธอไปธุลีแดงถ้าหากเธอยืนคำ แต่อย่ามาตำหนิเรานะถ้าไม่ได้พบพานสิ่งที่เธอชอบ “ …

โคลงบทหนึ่งของแดนมหามายาอันไพศาล…

เมื่อใดความไม่จริงเป็นความจริง

ความจริงกลายเป็นความไม่จริง

ที่ใดความไม่เป็นสมมติเป็นความเป็น

ความเป็นกลายเป็นความไม่เป็น

วิถีแห่งเต๋า-วิถีธรรมชาติและฤดูกาลทั้ง 4 ในแผ่นดินจีน

เขาเป็นคนไม่ค่อยจะปริวิตกต่อลาภสักการ สรรเสริญ เขาปล่อยเวลาให้ล่วงไปวันๆด้วยการปลูกไผ่ รดน้ำพรวนดินต้นไม้ ดอกไม้ ดื่มสุรายาดองและเขียนโคลงกลอนดำเนินวิถีชีวิตส่วนใหญ่ไปตามแนวทางแห่ง “เต๋า”



เล่าจื๊อขี่ควายข้ามด่าน //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dingtech&month=12-2012&date=04&group=2&gblog=68

“เต๋า” มีความหมายถึง “วิถีหรือทาง “ เป็นปรัชญาคำสอนจากความรู้ และความคิด ของเหล่าจื้อ นักปราชญ์จีนคนหนึ่ง การแสวงหาเต๋าอาจทำได้โดยการปฏิเสธที่จะรับว่าตนเป็นผู้มีวิชา หลีกตัวเองออกจากสังคมและดำเนินชีวิตอย่างสงบ ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆอยู่กับธรรมชาติซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งสติปัญญาเพราะธรรมชาติคือจุดรวมแห่งความคิดทั้งหลาย

ฤดูกาลทั้งสี่ ในซีกโลกภาคเหนือหรือจีนแบ่งฤดูกาลออกเป็น 4 ฤดูดังนี้

1.ฤดูใบไม้ผลิ (วสันตฤดู ) เริ่มเมื่ออาทิตย์เข้าสู่ราษีเมษประมาณ วันที่ 20 มีนาคม

2.ฤดูร้อน (คิมหันตฤดู ) เริ่มเมื่ออาทิตย์เข้าสู่ราศรีกรกฎประมาณวันที่21 มิถุนายน

3.ฤดูใบไม้ร่วง (ฤดูสารท) เริ่มเมื่ออาทิตย์เข้าสู่ราศรีตุลย์ประมาณวันที่ 23กันยายน

4.ฤดูหนาว (เหมันตฤดู) เริ่มเมื่ออาทิตย์เข้าสู่ราศรีมังกรประมาณวันที่ 22ธันวาคม

ที่มา: ความฝันในหอแดง แปลโดย วรทัศน์ เดชจิตกร





Create Date : 07 พฤษภาคม 2556
Last Update : 7 พฤษภาคม 2556 18:24:34 น.
Counter : 3657 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
3
8
11
12
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog