สูตรความจนและความมั่งมีเกษตรกร ...ความมั่นคงด้านอาหารและน้ำสะอาดเพื่อชีวิตที่ดีกว่า 2556

· สูตรวิทยาศาสตร์ : งาน = แรง X ระยะทาง

 

· ถ้ามีแรงมาก ระยะทางมาก ก็จะได้งานมาก เป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ ดังนี้

งาน = เงิน = ผลรวมของทุน X ระยะเวลาที่ทำงาน

 

= (ทุนแรงกาย + ทุนสติปัญญา + ทุนความรู้ + ทุนทรัพย์)

 

X เวลา (โดยมีภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ เงินฝืด อาจเป็นทั้งแรงฉุดหรือแรงเร่ง ตามสถานการณ์และโอกาส)


คำอธิบายความจน

 

1. ทำไมคนชนบทห่างไกลยังยากจน เหตุผลคือ คนชนบทห่างไกลไม่มีที่ดิน ไม่อยู่ในเขตพื้นที่ชลประทาน มีแต่ทุนหยาดเหงื่อและแรงงาน แม้จะมีเวลามากก็ตาม ความที่ไม่มีทุนเพียงพอ ก็จะมีงานให้คนเหล่านั้นทำได้วันละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง งานก็หมดแล้ว ดังนั้นผลผลิตของคนเหล่านี้จึงมีน้อย จึงยากจน ยกเว้นบางคนที่ขยัน อาจเข้าป่าหาของป่ามาขายเพิ่มบ้างแต่ก็ยังจนอยู่ดี

 

2. คนในชนบทจะหนีความยากจนได้อย่างไร เดินทางมาหางานทำในเมือง เป็นผู้มีรายได้รายวันสภาพดีกว่าเดิม

 

งาน = รายได้ = แรงงานขั้นต่ำวันละ 8 ชั่วโมง

 

3. คนงานที่มีค่าจ้างรายวันจะยกฐานะตนให้ดีขึ้นอย่างไร คนงานที่ขยันหากใช้เวลาหลังทำงานวันละ 8 ชั่วโมง หารายได้เพิ่ม

 

งาน = รายได้ที่เพิ่มขึ้น = (ทุนแรงงาน + ทุนความรู้ + สติปัญญา)

 

X เวลา 8 ชั่วโมง

 

คนที่รู้จักทำงานล่วงเวลาทั้งรับทำงานแทนคนอื่น เขาจะมีรายได้มากขึ้น เพราะเขาทำงานด้วยจำนวนชั่วโมงที่มากขึ้น หรือ

 

สูตรรายได้ = ทุน X เวลา

 

ดังนั้น ใครจะรวย หรือจน นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ทุนที่มีในระยะเวลาวันหนึ่งๆ

 

 

(ที่มา : ความมีและความจน โดย อดุลย์ ลีลาภัทรานุรักษ์ ในวารสาร INTANIA/MAY-JUNE 2010)

 

จากสูตรความมั่งมีและความจนของเกษตรกรข้างต้นจะพบว่า ถ้าอยากรวย

 

 

1) ต้องทำงาน และใช้เวลามากขึ้น

 

2) พื้นที่ทางการเกษตรต้องมีระบบชลประทาน เพื่อจะได้มีรอบการผลิตมากขึ้น ไม่ใช่ปลูกพืชปีละ 1 รอบ และว่างงาน

 

3) มีทุนความรู้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและต้นทุนการผลิต

 

4) ลดการสูญเสียจากการหักค่าความชื้น การขนส่ง ลอจิสติกส์ และเศษเหลือต่างๆ





ความมั่นคงด้านอาหารและน้ำสะอาดประเทศเรา !

 

พ่อมั่นบอกว่า ถ้าคำนวณจากสูตรการทำนาโดยใช้ปุ๋ยเคมีในนา 10 ไร่ ใส่ปุ๋ย 2 รอบ ตก 15 กระสอบ ลงทุนเกือบ 5 พันบาท/ไร่ แต่ขายข้าวได้ไม่ถึงหมื่น หักค่าจ้างรถเกี่ยวข้าว ค่าน้ำมัน  รถไถค่าแรง ค่ายาฆ่าหญ้า-ฆ่าแมลง หักลบกลบหนี้ธุรกิจทำนาเคมีแทบไม่มีกำไร บางปีข้าวได้น้อยไม่พอขายก็กลายเป็นหนี้อีกหลายพันบาท เงิน ธ.ก.ส. ที่กู้มาตอนต้นปีเสร็จนาก็ไม่ได้คืนทุน ทบต้นดอกทุกๆ ปี เกิดเป็นวัฎจักรหนี้สินไม่สิ้นสุด

 

 

คนในเมือง เอาสารพิษมาให้เกษตรใช้ ทีนี้ห่วงโซ่มันจะไปถึงไหน....... มันก็วนกลับไปหาคนในเมือง....... ใครจะตายก่อนใคร ? เพราะทุกคนต้องกินข้าว (ฅ.คน, ธันวาคม 2553)

 

 

กรณีน้ำสะอาดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เช่นเดียวกัน ต้นน้ำลำธารได้แก่ ปิง-วัง-ยม-น่าน ที่ไหลมารวมกันเป็นเจ้าพระยา เส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย เป็นแหล่งรวมของสารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ยาฆ่าหญ้า, ยาฆ่าแมลง เรามั่นใจแค่ไหนว่าน้ำดื่มในระบบประปาจะไม่มีอนุมูลพิษที่ผ่านเครื่องกรองไปได้ เราดื่มน้ำทุกวันใช่ไหม ทำไม! น้ำดื่มในกรุงเทพไม่ต่อท่อมาจากต้นน้ำเขาใหญ่ที่ใสสะอาดกว่า คนไทยนี่เก่ง เอาน้ำสกปรกมาทำให้สะอาด ใช้ดื่มกิน! ทั้งๆ ที่เรามีน้ำใสสะอาดจากป่าต้นน้ำลำธาร



หมายเหตุ-----ประเทศไทยควรใช้นโยบาย Zero Wasted Agriculture and Forestry เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในชนบท ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าได้ไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านบาท/ปี โดยส่งเสริมนโยบายพลังงานทดแทนจากภาคเกษตร หรือสร้างพลังงานสีเขียวบนดินแทนการขุดเจาะฟอสซิลจากใต้ดินและในอ่าวไทย นโยบายประชานิยมทั้งหลายนั้นควรสร้างโอกาสในการทำงานเพิ่มรายได้ และการจ้างงานผ่านอุตสาหกรรมวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวในแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสินค้าพลังงานทดแทน จะดีกว่านโยบายการรับจำนำราคาสูงกว่าท้องตลาด(มูลค่าตลาดพลังงานในประเทศนั้นประมาณว่ามีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านๆบาทหรือมากกว่างบประมาณแผ่นดินของรัฐบาล)

 

 

 

 




Create Date : 24 มกราคม 2556
Last Update : 24 มกราคม 2556 21:22:56 น.
Counter : 1604 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
มกราคม 2556

 
 
1
2
4
5
6
7
9
10
11
12
14
19
22
26
27
29
 
 
All Blog