Bloggang.com : โสดในซอย : การดูแลรักษาเพชร พลอย ไข่มุก และอื่น ๆ

การดูแลรักษาเพชร พลอย ไข่มุก และอื่น ๆ

การดูแลรักษาเพชร พลอย ไข่มุก และอื่น ๆ

เพชร

เพชรสวมใส่ไปนาน ๆ
เหงื่อไคลและไขมันจากผิวกาย
รวมทั้งฝุ่นละอองก็จะเคลือบติดไว้แน่น
โดยเฉพาะด้านล่างที่ติดหรือใกล้ผิวหนัง
อาจมีสิ่งสกปรก
อุดแน่นหรือเกาะเต็มไปหมด
เมื่อเพชรตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ก็จะหมดความสวยงาม
หรือมองดูเหมือนเพชรคุณภาพต่ำ
จึงต้องหมั่นทำความสะอาด
เพื่อรักษาให้สดใสสวยงาม
สมกับคุณค่าแท้ ๆ ของมันไว้
วิธีทำความสะอาดเพชรแบบง่าย ๆ
คือการใส่เพชรลงไปแช่ในเหล้า
หรือแอลกอฮอล์
เขย่าเบา ๆ สักครู่หนึ่ง
แล้วนำไม้จิ้มฟันขบปลายให้แหลก
เพื่อเขี่ยสิ่งสกปรก
ที่เกาะไว้ตามซอกของโลหะ
ที่เลี่ยมเพชรไว้
เมื่อเขี่ยเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็ล้างให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง
จึงนำขึ้นมาเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ
ให้แห้งก็จะสะอาดแวววาวสวยดังเดิม
แต่ถ้าสิ่งสกปรกได้เคลือบติดไว้แน่น
เป็นเวลานานมากแล้ว
วิธีทำความสะอาดดังกล่าวก็อาจไม่ได้ผล
ต้องใช้โซเดียมคาบอเนต
ซึ่งธรรมดาเรียกกันว่าโซดาซักผ้า
นำเพชรใส่ลงในโซเดียมคาบอเนต
ผสมน้ำต้มสัก 10-20 นาที
ก็นำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด
ก็ใช้ได้
ในการทำความสะอาด
ต้องคอยระวังดูหนามเตย
ที่เกาะเกี่ยวเพชรของวงแหวนหรือเครื่องประดับ
ถ้าหนามเตยหลวม
ก็ต้องแก้ไขให้ดี
ตามปกติหนามเตยมักจะสึกหรอง่าย ๆ
เพราะกรดเหงื่อไคล
และสิ่งสกปรกได้เคลือบติดไว้นาน
เมื่อทำความสะอาดแล้ว
สิ่งสกปรกก็จะถูกชำระล้างออกมาหมด
หนามเตยก็ปรากฏหลวมในทันที
บางครั้งอาจจะหลวมมาก
จนเพชรหลุดออกมาได้
ในกรณีเช่นนี้
ควรจะส่งไปให้ช่างซ่อมแซมเสียให้ดี
เพื่อกันมิให้เม็ดเพชรหล่นหายไป
ในการต้มเพชรในน้ำโซเดียมคาบอเนต
ในระหว่างต้มโลหะอาจจะขยายตัว
ถ้าเราจะเขี่ยสิ่งสกปรกหรือแปรงให้สะอาด
จะต้องใช้ความระมัดระวังทำเบา ๆ
มิฉะนั้นเพชรก็อาจจะหลุดออกมา
ในระหว่างที่หนามเตยกำลังขยายตัว
และมีความแข็งน้อยกว่าเวลาปกติ
ประกอบกับสิ่งสกปรก
กำลังถูกชำระออกมาด้วย
เพชรทนต่อความร้อน กรด และแอลกอฮอล์
จะต้มจะแช่หรือทำอย่างไรก็ไม่เป็นอันตราย
จึงใช้วิธีนี้ทำความสะอาดได้
ส่วนพลอยอื่น ๆ โดยเฉพาะไข่มุก
ห้ามใช้วิธีนี้เป็นอันขาด

หยก

การทำความสะอาดหยก
หลังจากการสวมใส่แล้ว ควรจะใช้ผ้านุ่ม ๆ
เช็ดให้สะอาด
แล้วเก็บรักษาไว้ในกล่อง
ที่บุด้วยผ้านุ่มหรือสำลีเท่านี้ก็พอแล้ว
หรือแช่หยกด้วยโซเดียมสีขาว
ที่ได้เจือจางไว้
แช่สักครู่หนึ่งก็นำออกมาเช็ดถูเบา ๆ
หยกก็จะสะอาดเงางามเป็นพิเศษ
วิธีการนี้มีส่วนคล้าย ๆ
กับการเคลือบให้เงา
โซเดียมสีขาวนี้ถ้าใกล้กับความร้อน
ก็จะกลายเป็นสีเหลืองไป
ดังนั้นถ้าหยกที่ได้ผ่านการแช่ล้าง
ด้วยน้ำโซเดียมสีขาวนี้
ก็จะอยู่ใกล้ความร้อนไม่ได้
ถ้าใกล้เข้าไปโซเดียมสีขาว
ที่เคลือบติดไว้ก็จะกลายเป็นสีเหลือง
ทำให้หยกกลายเป็นสีเหลืองไปด้วย
จึงไม่ควรใส่หยกติดตัวในเวลาทำครัว
โดยที่เราไม่อาจรู้ได้ว่าหยกที่เราซื้อมานั้น
ได้เคยแช่น้ำโซเดียมสีขาวมาหรือไม่
อีกประการหนึ่ง
การสวมใส่หยกทำงาน
ก็ไม่ควรอยู่แล้ว
เพราะว่าหยกไม่ทนต่อการเสียดสี
ในระหว่างทำงาน
หยกอาจจะต้องกระทบและเสียดสี
กับสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งจะเป็นเหตุทำให้ผิวหยกหยาบหรือฝ้า
ถ้าหากผิวหยกมีสภาพดังที่ได้กล่าวมานี้แล้ว
ก็ควรที่จะส่งไปให้ช่างเจียระไนทำให้
หยกก็จะสวยงามอีกตามเดิม

โอปอล

โอปอลไม่ใช่หินชนิดแข็ง
ไม่ทนต่อความร้อน
มีเนื้อปรุและหลวม
น้ำสามารถซึมเข้าเนื้อหินได้
การทำความสะอาดจึงต่างกับหินชนิดอื่น ๆ
ต้องใช้น้ำสะอาดที่ไม่มีสีชำระล้าง
แล้วเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่มที่สะอาด
จึงนำไปเก็บรักษาไว้
ถ้าโอปอลเป็นหัวแหวนก็
ไม่ควรสวมใส่ไว้ในเวลาล้างมือ
ถ้าล้างมือด้วยสบู่ก็ยิ่งไม่ควร
มิฉะนั้นน้ำสบู่หรือน้ำที่ไม่สะอาด
จะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อหิน
และจะไม่มีทางชำระออกได้เลย
ตามปรกติถ้าโอปอลไม่สกปรกมาก
ก็เพียงใช้ผ้านุ่มๆที่สะอาดเช็ด ๆ บ้างก็พอ
หลังจากสวมใส่แล้ว
หมั่นเช็ดสะอาดทุกครั้ง
รักษาให้สะอาดไว้
เพื่อจะได้ไม่ต้องทำความสะอาดด้วยวิธีอื่น
การเก็บรักษา
ควรจะเก็บไว้ในที่ที่อุณหภูมิไม่ร้อนจัด
ไม่ควรเก็บไว้ตามลิ้นชัก
ซึ่งอาจจะต้องเสียดสีกับของแข็ง
หรือเครื่องแต่งกายชนิดอื่น
อันจะเป็นเหตุทำให้หายความเงางาม
วิธีทีดีก็คือ
เก็บรักษาไว้ในกล่อง
ที่ปูด้วยผ้านุ่ม ๆ หรือมีสำลีรองก้นไว้

ทับทิม แซฟไฟร์ และสตาร์

หินเหล่านี้
เป็นหินมีความแข็งสูง
และทนต่อความร้อนได้ดี
แต่ตามปรกติ
ถ้าไม่สกปรกมาก
ก็ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดให้สะอาด
ก็เพียงพอ
ถ้าสกปรกมาก
ก็ใช้ด่างผสมน้ำอุ่นประมาณ 50 เท่า
หมายความว่าด่าง 1 ส่วน
ต่อน้ำอุ่น 50 ส่วน
แช่สัก 1-2 นาที
แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
เช็ดแห้งก่อนนำไปเก็บ
น้ำอุ่นที่จะใช้
ไม่ควรร้อนเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส
เพราะถ้าร้อนจัดเกินควร
ผิวของหินเหล่านี้
อาจจะถูกลวกเป็นอันตราย
ถ้าสกปรกเกาะแน่นมากจนแช่ไม่ออก
ก็อาจจะใช้แปรงสีฟันแปรงออก
ในระหว่างที่ยังแช่อยู่ในน้ำด่างนั้น
ในการทำความสะอาด
ควรจะระวังหนามเตยให้ดี
ถ้าหลวมก็ต้องจัดการซ่อมให้ดี
โมรา หยกแข็ง และปะการัง
หินเหล่านี้ไม่ทนต่อความร้อนมาก
ถ้าไม่สกปรกมาก
ก็ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดสะอาดก็พอ
แต่ถ้าสกปรกมาก ๆ
ก็ใช้ด่างผสมน้ำอุ่น 50 เท่าละลาย
แล้วปล่อยทิ้งไว้ ให้น้ำเย็นเสียก่อน
จึงแช่ล้างหรือแปรงให้สะอาด
ต่อไปก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
จึงเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ให้ดี
การใช้ด่างผสมน้ำทำความสะอาด
ถ้าไม่มีด่างก็ใช้สบู่อ่อนแทน
พลอยอื่นๆ
ถ้าเป็นพลอยหิน
ที่ไม่แน่ใจว่าจะทนต่อความร้อนหรือไม่
ใช้ด่างหรือสบู่ได้หรือไม่
ก็ควรจะแช่ล้างในน้ำสะอาดอย่างเดียวก็พอ
เมื่อชำระล้างสะอาดแล้ว
เช็ดแห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ ก่อนนำไปเก็บ

ข้อควรจำ
การใช้เพชรพลอยไข่มุก
หรือเวลาจะหยิบดู
ไม่ควรใช้นิ้วมือหยิบจับ
ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
แต่ถ้าได้จับเม็ดเพชรพลอยหรือไข่มุก
ก็ควรจะรีบเช็ดให้สะอาดทันที
เพราะเวลาหยิบจับ
รอยนิ้วมือจะติดแน่น
และจะทำให้ฝ้าหรือหายเงา
ไปทีละเล็กทีละน้อย
นาน ๆ เข้า
ก็จะเคลือบติดเป็นม่านสกปรกไว้ชั้นหนึ่ง
ทำให้เพชรพลอยไข่มุกไม่สวยเท่าที่ควร
ดังที่เราได้เห็นห้างร้านเพชรพลอย
เขาจะไม่จับต้องเม็ดเพชรพลอยเลย
ถ้าลูกค้าหยิบดู
เขาก็ต้องรีบเช็ดให้สะอาดทันที
ถ้าเป็นเพชรพลอยไข่มุก
ที่ยังไม่เลี่ยม
โดยมากใช้ปากคีบหนีบ
ไม่ใช้มือ

ไข่มุก

การทำความสะอาดไข่มุก
ตามปรกติ
ไข่มุกไม่จำเป็นต้องชำระล้างก็ได้
แต่ต้องหมั่นเช็ดให้สะอาด
ด้วยผ้านุ่ม ๆ อยู่เสมอ
โดยเฉพาะหลังจากการสวมใส่แล้ว
ต้องเช็ดสะอาดให้ทั่วถึงทุก ๆ เม็ด
ถ้าเช็ดไม่สะอาด
กรดเหงื่อไคล ไขมันจากผิวของผู้ใช้
และน้ำมันใส่ผม
ก็จะทำให้ไข่มุก
เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง
และที่สำคัญที่สุด
ก็คือไม่ควรให้ไข่มุกตากแดดมาก
หรือถูกความร้อนสูง
มิฉะนั้น ไข่มุกจะหายเงางาม
แอลกอฮอล์หรือเหล้า
เป็นอันตรายต่อไข่มุกมาก
เพราะมันจะทำลายผิวของไข่มุก
ทำให้ไข่มุกหมดความเงางาม
ได้รวดเร็ว
ข้อควรทราบ
ถ้าหากไม่แน่ใจว่าเพชรพลอยนั้น
เป็นของแท้หรือไม่
ในการทำความสะอาด
จะต้องระวังให้มาก
ถ้าเป็นของเทียม
อาจไม่ทนต่อความร้อน แอลกอฮอล์
เหล้า ด่าง หรือสบู่อ่อน
เมื่อชำระแล้ว
ก็อาจจะเกิดเสียหายได้
ทางที่ดี
ควรจะชำระล้างด้วยน้ำสะอาด
แล้วเช็ดแห้งก็คงจะปลอดภัยดีกว่า

เครื่องประดับอื่น ๆ

สร้อยคอ เข็มกลัด ต่างหู
ซึ่งทำจากวัสดุหลายชนิด
ควรดูแลรักษาจัดเก็บดังนี้

๑.การใส่กล่องเป็นหมวดหมู่
เช่น กล่องต่างหู กล่องเข็มกลัด เป็นต้น

๒. ไม่วางทับกัน
โดยไม่มีวัสดุหรือผ้าห่อหุ้ม
จะทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้

๓. เครื่องเงิน
ควรจัดเก็บโดยห่อด้วยพลาสติก
เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยากับอากาศ
ส่วนวิธีการทำความสะอาด
ให้ใช้วิธีเดียวกันกับเข็มขัดเงิน

๔. ต่างหู
ควรจัดเก็บเป็นคู่ไว้ด้วยกัน
อาจจะห่อด้วยสำลี ผ้านุ่ม
หรือบรรจุกล่องเฉพาะ

๕. สร้อยคอ
ทำความสะอาด
โดยใช้ผ้านุ่มเช็ดเบา ๆ
และควรเก็บในกล่อง

การดูแลรักษาเครื่องแต่งกายต่าง ๆ

๑)รองเท้าหนัง

๑.ทำความสะอาดรองเท้า
โดยปัดฝุ่นหลังการใช้งานทุกครั้ง
และวางผึ่งลมไว้ให้กลิ่นเหงื่อแห้ง
และจัดเก็บเข้าที่

๒.ถ้าเปื้อนโคลน
ต้องทิ้งไว้ให้แห้ง
แล้วจึงค่อยแกะออก
และเช็ดด้วยผ้าชื้น
ทิ้งไว้ให้แห้ง

๓.ระวังอย่าให้รองเท้าเปียกน้ำ
เพราะว่าจะทำให้หนังเสื่อมคุณภาพ
ถ้าเป็นรองเท้าหุ้มส้น
ควรระมัดระวังส้นเสียรูป
ไม่ควรเหยียบทับส้น

๔.ขัดรองเท้าด้วยน้ำยาขัด
และนำไปตากแดด
ทุกสัปดาห์

๒)รองเท้าผ้าใบ

เป็นรองเท้าที่นิยมใช้กันทั่วไป
เช่น รองเท้าเล่นกีฬา รองเท้าใส่ไปเที่ยว
รองเท้านักเรียน เป็นต้น
มีหลักการดูแลรักษา ดังนี้

๑.เมื่อใช้แล้ววางผึ่งไว้
ให้กลิ่นเหงื่อแห้ง
ไม่จัดเก็บในขณะชื้น
จะทำให้มีกลิ่นอับ

๒.ถ้ารองเท้าเปื้อนโคลน
ควรทิ้งไว้ให้แห้ง
แกะโคลนออก
แล้วนำไปซักในน้ำผสมสารซักฟอก
ขัดด้วยแปรง

๓.ทำความสะอาดทุกสัปดาห์
ด้วยน้ำผสมสารซักฟอก
และใช้แปรงขนอ่อนขัดให้ทั่ว

๔.นำรองเท้าที่ซักไปตากแดด
โดยใช้กระดาษทิชชูสีขาว
ปิดทับรองเท้าให้ทั่ว
เพื่อป้องกันการเป็นรอยด่าง

๓)เข็มขัด

๑. เมื่อใช้แล้วให้เก็บ
โดยแขวนตรงส่วนหัวเข็มขัด
กับตะขอแขวน
ไม่ควรวางสายเข็มขัดพาดกับราว
หรือเกี่ยวสายเข็มขัดกับตะขอ
จะทำให้เข็มขัดเสียรูปทรง

๒. ถ้าเป็นเข็มขัดหนัง
ให้ใช้แปรงปัดฝุ่น
และขัดด้วยน้ำยาขัดเป็นครั้งคราว

๓. ถ้าเป็นเข็มขัดผ้าใบ
ควรนำไปซักและตากให้แห้ง
ม้วนเก็บในถุงพลาสติก
จะทำให้สีไม่ซีด
ไม่เก่าเร็ว

๔. ถ้าเป็นเข็มขัดเงิน
ควรทำความสะอาดเป็นครั้งคราว
ด้วยน้ำสบู่หรือขัดด้วยน้ำมะนาว
หรือแช่ในน้ำสบู่กรด
เมื่อใช้เสร็จแล้ว
จะต้องเก็บในถุงพลาสติก
เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสี

ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก

//www.weloveshopping.com/template/w05/
show_article.php?shopid=26868&qid=22009
และ
//ecurriculum.mv.ac.th

ความรู้ประจำวัน...

ก่อนจะนำเครื่องประดับ
มาสวมใส่
ควรแต่งหน้าแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน
เพื่อป้องกัน
น้ำมัน แป้งหรือสเปรย์โดน
เมื่อใช้แล้ว
ควรใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาด
เช็ดเครื่องประดับให้ทั่ว
แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้ง
ก่อนนำเข้าเก็บ

Create Date : 06 สิงหาคม 2551

Last Update : 6 สิงหาคม 2551 12:52:35 น.

12 comments

Counter : 3638 Pageviews.

ขอ save ข้อมูลไปไว้ใช้นะคะ
ปกติไม่ค่อยดูแลเลย ต่อไปนี้ต้องดูแลกันม่างและ
ขอบคุณที่เอามาฝากนะคะ

โดย: i_nookae

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:9:44:11 น.

อืมมม....อ่านแล้วเหมาะกับแม่ศรีเรือน จริงๆ

โดย: มาเฟียหัวใจง้องแง้ง

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:10:00:44 น.

เยี่ยมมากค่ะ บอกละเอียดดี จะจำไปใช้บ้างแต่....ว่าแต่ว่า.....ที่บอกมาเนี่ย...ยังไม่มีกะเขาซักกะอย่างอ่ะจิคะ.....อือๆๆๆๆ

โดย: popang IP: 58.136.75.12 วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:11:29:30 น.

แนะนำอีกวิธีครับ

เอามาฝากผมไว้

จะดูแล ให้อย่างดีเลย

โดย: nO my name

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:12:04:53 น.

ที่สำคัญ คือมันไม่มีของอย่างว่าให้ดูแล นะครับ

โดย: wildbirds

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:15:01:24 น.

สวัสดีค่ะ..

ขอขอบคุณที่อวยพรวันเกิดให้เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ

(นานจัง!) วันนี้กะมาชวนไปออกกำลังค่ะ

เคยไปที่สวมลุนฯหรือยังค่ะ?

Myspace Avatarsลองไปดูซิค่ะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ

) วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:16:33:10 น.

ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ใหม่ๆที่น่าลิ้มลอง..หงั่มๆๆเอ้ยม่ายช่ายทดลอง

โดย: *.* (LadyJoker

) วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:17:46:03 น.

ความรู้ดี ๆ ขอบคุณค่ะ

โดย: Madame Kp

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:19:03:30 น.

ก่อนจะนำเครื่องประดับ
มาสวมใส่
ควรแต่งหน้าแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน
เพื่อป้องกัน
น้ำมัน แป้งหรือสเปรย์โดน
เมื่อใช้แล้ว
ควรใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาด
เช็ดเครื่องประดับให้ทั่ว
แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้ง
ก่อนนำเข้าเก็บ

อันนี้ทำบ่อยเลยค่ะ ทำประจำเลย

เพราะเครื่องสำอางค์บางตัวมีแอลกอฮอลด้วย เลยต้องแต่งหน้าแต่งตัวพรมน้ำหอมให้เสร็จก่อน ก่อนที่จะใส่

โดย: ความเจ็บปวด

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:20:23:20 น.

เข้ามาอ่านไว้ก่อนค่ะ เผื่อซักวันจะมีเพชรใส่กับเค้ามั่ง อิอิ..

โดย: ส้มแช่อิ่ม

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:21:18:10 น.

ขอบคุณครับ แต่ไม่รู้จามีบุญได้ดูแลรักษาบ้างป่ะ

โดย: ปลายเทียน

วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:21:24:14 น.

วันนี้พร้อมสรรพสำหรับสาว ๆ เลยค่า...คุณวี

ว่าแต่ขอไปปล้นร้านเพชรมาลองล้างดูก่อนนะคะ..อะฮิ..อะฮิ

โดย: ลิตช์ (Litchi

) วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:22:49:50 น.