Bloggang.com : โสดในซอย : รักษาสุขภาพง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

รักษาสุขภาพง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

รักษาสุขภาพง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

วันนี้มีความรู้ดี ๆ มาฝากค่ะ
เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. สมุนไพรบำรุงสายตา

เบต้าแคโรทีน
สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ
ซึ่งช่วยบำรุงสายตาได้ดี

สมุนไพรที่มีเบต้าแคโรทีนสูง
ได้แก่
กะเพรา
ขี้เหล็ก
แครอท

2. สมุนไพร แก้ผมแตกปลาย

ชะอม
ต้มใบชะอมประมาณ 1 กำมือ
กับน้ำ 3 ถ้วยจนเดือด
กรองเอาแต่น้ำสีเขียวใส ๆ
พักให้เย็น
หลังจากสระผมสะอาดแล้ว
นำผ้าขนหนูชุบน้ำชะอม
พอหมาด ๆ
เช็ดถูให้ทั่วศีรษะ
จะช่วยคืนสภาพเส้นผมให้ดีขึ้น
และไม่แตกปลาย

ตะไคร้
โขลกตะไคร้ 2-3 ต้น ให้ละเอียด
กรองเอาแต่น้ำ
เมื่อสระผมสะอาดแล้ว
นำน้ำตะไคร้มานวดให้ทั่วศีรษะ
ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
แล้วล้างออก
ผมจะไม่แตกปลายอีกต่อไป

3. สมุนไพรคืนความนุ่มชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก

น้ำมันมะกอก
ทาบาง ๆ ที่ริมฝีปาก
จะทำหน้าที่เสมือนแผ่นฟิล์มธรรมชาติ
ช่วยปกป้องผิว
ไม่ให้สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงไป
บรรเทาอาการแห้งตึง และเจ็บ
และป้องกันแสงแดดได้ด้วย

น้ำผึ้ง
ทาน้ำผึ้งบาง ๆ จะคืนความชุ่มชื้น
นุ่มนวลให้ริมฝีปาก
สารแอนติออกซิแดนท์ในน้ำผึ้ง
ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้
อุดมด้วยสารฆ่าเชื้อ
และป้องกันการติดเชื้อ
ในกรณีที่ปากแตกมาก
ช่วยให้ไม่เกิดการอักเสบ
และช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
(คงไม่เกี่ยวกับการโดนชกปากแตกนะคะ..)

ใบของต้นเปล้า
เลือกใช้ 2-3 ใบ เด็ดก้านติดมาด้วย
จะได้น้ำยางใส ๆ ไหลออกมา
เอายางแต้มที่แผลริมฝีปาก
วันละ 2-3 ครั้ง
ปรมาณ 4-5 วัน

น้ำตะไคร้หอม
มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ
ต้มจิบแทนน้ำ
ช่วยแก้ริมฝีปากแห้งแตกได้

ของแถมค่ะ...
แก้ริมฝีปากมีริ้วรอยด่างดำ
บดเนื้อมะละกอสุกให้ละเอียด
นำมาพอกทั่วริมฝีปากและรอบขอบปาก
ทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ทาน้ำมันมะกอกตาม
เอนไซม์ในมะละกอสุก
และวิตามินอีของน้ำมันมะกอก
จะทำให้ลดริ้วรอยได้

4. สูดไอเกลือแก้คัดจมูก

เวลาเป็นหวัด หายใจลำบาก
น่ารำคาญใช่ไหมคะ
มีวิธีแก้แล้ว
ต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือด
เทใส่ชาม
เหยาะเกลือป่นลงไป
ประมาณ 1 ช้อนชา
แล้วสูดไออุ่น ๆ ที่ลอยกรุ่นขึ้นมา
จะช่วยให้ทางเดินหายใน
บริเวณจมูกโปร่งโล่งขึ้น
แต่ระวังอย่าอังใบหน้า
ในขณะที่ไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาทันทีค่ะ

5. อาหารต้องห้ามยามท้องว่าง

- กระเทียม
กระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง
- นม
บางคนมีภาวะบกพร่องเอนไซม์แล็กเทส
ซึ่งช่วยย่อยน้ำตาลที่มีในนม
เมื่อดื่มนมวัว จะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
และทำให้ท้องเสียได้
- น้ำตาลหรือขนมหวาน
(รวมทั้งน้ำอัดลม ช็อกโกแลต ด้วยค่ะ)
เพราะโปรตีนจะไปรวมตัวกับน้ำตาล
ส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
ลดการทำงานของไต
และระบบหมุนเวียนเลือด
- ชา (ชงแก่เกินไป)
ทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย
ที่อยู่ในกระเพาะอาหารเจือจาง
ส่งผลให้การทำงาน
ของระบบย่อยอาหารลดลง
และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ
มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ
- เหล้า
ทำให้ระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
และเป็นแผลได้

6. สมู้ตที คุณค่าที่ไร้คุณค่า

เครื่องดื่มสมู้ตทีสีสวย
ที่ทำจากผลไม้สีสด
ที่เข้าใจกันว่าเป็นเครื่องดื่มสุขภาพนั้น
จริง ๆ มีเพียงวิตามินน้อยนิด
กับน้ำตาลสูง
นอกจากนั้น
กากใยจากผลไม้
ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
รักษาระดับคอเลสเตอรอล
และช่วยลดความหิว
ก็สูญเสียจากการปั่น
รวมทั้งสารพิษที่ยังตกค้าง
ยังก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย

7. ใช้น้ำแข็งแก้ปวด

คุณสมบัติของน้ำแข็ง
คือ ความเย็น
ที่ช่วยลดอาการปวดบวมอักเสบได้
คือจะต้องประคบบริเวณที่บาดเจ็บทันที
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
ในการลดการทำลาย
ของเนื้อเยื่อ
ก่อนที่อาการเจ็บปวดจะรุนแรงขึ้น

การใช้น้ำแข็งแก้ปัญหาเหล่านี้

ปวดหลัง
ประคบน้ำแข็งทันที
หลังจากการทำงาน
ที่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ
หรือยกของหนัก

ปวดไมเกรน
นอนราบกับพื้น 5-10 นาที
ประคบผ้าห่อน้ำแข้ง
บริเวณด้านหลัง ลำคอ
หน้าผาก หรือขมับ

ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เคล็ด ตึง
หลังออกกำลังกาย
น้ำแข็งทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
บริเวณที่ตึงเครียด
เพราะช่วยลดการขยายตัว
ของหลอดเลือด

8. บรา อย่าคิดว่าไม่สำคัญ

แพทย์จากศูนย์การแพทย์ยูทีเซาท์เวสเทิร์น
ในดัลลัส สหรัฐอเมริกา
กล่าวว่า
การสวมเสื้อชั้นใน
ที่มีสายคล้องรัดแน่นเกินไป
จะกดรั้งบริเวณไหล่ทั้งสองข้าง
ให้ทับลงไปตรงกับเส้นประสาท
เกี่ยวกับลำคอ
ซึ่งเชื่อมโยงจากคอถึงหัวไหล่
และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง
ของระบบประสาทด้วย
ซึ่งการกดทับ
เป็นการทำลายเส้นประสาทดังกล่าว
ทำให้ปวดศีรษะได้บ่อย ๆ
ปวดคอ และหมดสติ
ซึ่งลุกลามไปตามแขนและมือได้
ดังนั้น
ต้องเลือกบราให้เหมาะสมนะคะ

9. ฝึกตัวเองแก้ปัญหานอนไม่หลับ

- เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน
ไม่เว้นวันหยุด

- ก่อนเข้านอน ให้ทำสิ่งซ้ำ ๆ กันทุกคืน
เช่น อาบน้ำ แล้วอ่านหนังสือ 10 นาที

- ใช้ห้องนอนเป็นที่นอนเท่านั้น
อย่าใช้เล่นเกม ดูทีวี ฯลฯ

- ห้องนอนต้องสลัวเพียงพอ และเงียบ

- ถ้านอน 30 นาทีแล้วยังไม่หลับ
ให้ลุกไปห้องอื่น นั่งนิ่ง ๆ สัก 20 นาที
แล้วกลับมานอนต่อ
ถ้ายังไม่หลับอีก
ให้ทำซ้ำค่ะ

10. การนอนอย่างมีความสุข

- งดการกินก่อนนอน
เพราะกระเพาะอาหาร
และกระเพาะปัสสาวะจะต้องทำงานหนัก
ทำให้ต้องตื่นกลางดึกมาเข้าห้องน้ำ

- งดออกกำลังกายก่อนนอน
ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก
ภายใน 3 ชั่วโมงก่อนนอน
แต่ถ้าออกกำลังกายก่อน 6 ชั่วโมง
จะทำให้หลับสบาย

- ควรอาบน้ำอุ่นก่อนนอน
ช่วยผ่อนคลาย
ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
ทำให้เลือดหมุนเวียนดี

- จัดแจงงานวันรุ่งขึ้นไว้ล่วงหน้า
จดสิ่งที่จะต้องทำ สิ่งที่คั่งค้างเอาไว้
เพื่อลดความกังวลในการจดจำ
จนเก็บไปฝันวุ่นวาย

- ดื่มนมอุ่น ๆ สัก 1 แก้ว
กรดแอมิโนในนม
จะช่วยให้หลับสบายขึ้น
หรือจิบชาคาโมมายล์สัก 1 แก้ว
จะช่วยผ่อนคลายได้
แต่ควรเลี่ยง
ชา กาแฟ
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
หรือการสูบบุหรี่
เพราะประสาทจะแข็ง
และทำให้นอนหลับยากขึ้น

- สร้างบรรยากาศในการนอน
อุณหภูมิที่พอเหมาะ
ห้องนอนควรจะสลัว ๆ
อาจจะติดม่านเนื้อหนากันแสงไว้ก็ดี

- เลือกวัสดุสำหรับการนอนที่ดี
วัสดุควรโปร่ง เบา สบาย
รวมทั้งชุดนอนที่ไม่อึดอัด

- ปิดวิทยุและโทรทัศน์
เพราะถ้าเปิดไว้จะเพลินจนลืมความง่วง
และทำให้หลับยากขึ้น

- ฝึกการเข้านอนให้ตรงเวลา
ร่างกายได้รับการสร้างมาให้ทำงาน
สอดคล้องกับความเป็นไป
ตามธรรมชาติ
กล่าวคือ
เราได้รับการตั้งโปรแกรม
ให้นอนหลับ
ระหว่าง 22.00 น. – 6.00 น.
ควรพยายามนอน
และตื่นเวลาเดิมทุกเช้า
ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดงาน
เพราะการเปลี่ยนเวลานอน
ในช่วงสุดสัปดาห์
จะทำให้ตื่นยากเมื่อถึงวันจันทร์ค่ะ

ของแถมค่ะ

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า...

นอนน้อยเกินไป
- โรคผิดปกติทางจิต เช่น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า
- เป็นสิว ท้องผูก
- ความดันโลหิตสูงกำเริบ
- เบาหวานกำเริบ
- เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ยาก
- ความสามารถในการเผชิญกับปัญหาลดลง

นอนมากเกินไป
- อายุสั้นกว่าคนปกติ (นอนมากกว่าวันละ 12 ชั่วโมง - จากการวิจัยในประเทศอังกฤษ)
- อ่อนเพลีย (นอนมากกว่า 8 ชั่วโมง)

ขอบคุณข้อมูล
รวบรวมจาก “ชีวจิต”
หลายเล่มค่ะ

Create Date : 22 พฤษภาคม 2550

Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 22:24:25 น.

24 comments

Counter : 1005 Pageviews.

ได้ความรู้กลับไปคะ

โดย: goodpeople

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:45:53 น.

ได้กินอยู่หลายตัวเหมือนกันคับ

โดย: frank3119

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:12:47 น.

สาระดี มีประโยชน์ อีกแล้วครับ

โดย: nO my name IP: 202.91.19.192 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:19:08 น.

สาระดี มีประโยชน์ อีกแล้วครับ

โดย: nO my name IP: 202.91.19.192 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:20:33 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมมูลดี ๆ ค่ะ

ขอให้คุณวีมีความสุขมาก ๆ นะคะ

รูปในกล่องคอมเม้นท์นี่รูปคุณวีแน่เลยค่ะ

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:56:45 น.

ขอบคุณค่ะ อิ อิ ทีนี้เราต้องสวยแน่ๆเลย

แวะมาทักทายและเอารอยยิ้มมาฝาก

ขอให้มีความสุขกับวันทำงานนะคะ

โดย: เพียงแค่เหงา

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:02:02 น.

ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ค่ะ

โดย: YingLek

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:37:15 น.

ขอบคุณค่ะที่นำมาฝากกัน

โดย: โอน่าจอมซ่าส์

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:41:16 น.

ขอบคุณ สาระดีๆ ค่ะ
วันนี้จ๊ะจ๋าฟังเพลงแล้วเศร้าๆ ค่ะ
สงสัย คนกำลังอกหักก็แบบนี้ใช่ป่าวไม่รู้

โดย: akojajaa

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:51:37 น.

เดียวจังชอบทาน กะเพรา, ขี้เหล็ก, แครอท นะค่ะ
เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไม สายตาตัวเอง ถึงยังไม่สั้นหรือผิดปกติ ทั้งๆ ที่จ้องคอมฯ ทั้งวัน เป็นแบบนี้นี่เอง
แล้วมะเขือเทศ ,ผักบุ้ง ละค่ะ ไม่เกี่ยวกะสายตาเหล๋อ

โดย: เดียวจัง

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:59:29 น.

มีบางเรื่องเพิ่งทราบวันนี้คะ ขอบคุณมากนะคะ

โดย: todayd

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:30:32 น.

สาระน่ารู้ทั้งนั้นเลยค่า
ขอบคุณนะคะ

โดย: juriojung

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:28:55 น.

ขอบคุณมากค่ะ
มีประโยชน์มากเลย
ทำตามง่ายด้วยนะคะ
ไม่เคยรู้เลยว่าชะอม กับ ตะไคร้ บำรุงผมได้ด้วย

โดย: ฝากเธอ

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:53:11 น.

cool

โดย: คุณแม่แมว@Israel

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:02:27 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ โดยเฉพาะเรื่องการนอนมีประโยชน์กับผมมากเชียวครับ คืนนี้จะต้องรีบนอนซะแล้ว

โดย: 9A

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:34:34 น.

แวะมาเยี่ยมนะครับ

อ่านแล้วได้ประโยชน์ดีครับ โดยเฉพาะ ข้อ 8 ชอบมาก ๆ เลยครับ

อิอิ

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง

) วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:19:04 น.

ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆนะคะ
บางอย่างพอรู้อยู่บ้าง
แต่บางอย่างก็ไม่เคยรู้เลย
ขอบคุณนะคะ

โดย: snpk (snpk

) วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:47:27 น.

โดย: snpk (snpk

) วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:47:59 น.

ขอบคุณเคล็ดลับดีๆสำหรับดูแลตัวเองนะคะ

โดย: ณ มน

วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:12:11 น.

เพิ่มเติมค่ะ

1. ถ้าเป็นสิว
ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำ
แต้มสิวตอนกลางคืน
สิวจะแห้งในตอนเช้า

2. ถ้าหน้าโทรม
บีบมะนาวบนผ้าขนหนู
ชุบน้ำอุ่น
วางผ้ากดบนหน้า 2-3 นาที
ทำซ้ำ 3 ครั้ง
จะช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง

3. ถ้ามีวงคล้ำใต้ตา
ใช้คอนซีเลอร์สีชมพู
สีพีช หรือ สีเหลืองอ่อน
ลบรอยสีน้ำเงินและเขียว
อย่าใช้สีม่วงเข้ม ม่วง
หรือแดงทาตา

4. ถ้าริมฝีปากแห้ง
กำจัดสะเก็ดแห้ง
โดยบีบปิโตรเลียมเจลลี
หรือครีมขัดหน้า
ลงบนแปรงสีฟันขนนุ่ม
ถูริมฝีปากเบา ๆ
แล้วจึงใช้ขี้ผึ้ง
สำหรับทาริมฝีปากทาทับ

5. ถ้าริมฝีปากแตก
รอยแตกที่มุมปาก
มักเกิดจากการติดเชื้อรา
ใช้ครีมฆ่าเชื้อรา
แต้มและคลึงเบา ๆ
ระวังอย่าให้เข้าปาก

ขอบคุณข้อมูล
จาก Reader's Digest

โดย: โสดในซอย

วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:20:42 น.

เคล็ดเด็ดเพื่อหุ่นสวย

การซับนำมันออกจากอาหาร

การซับน้ำมันส่วนเกินออกจากอาหาร
ก่อนรับประทาน
เป็นวิธีง่ายๆ ในการลดแคลอรี่ส่วนเกิน
น้ำมันส่วนนี้
เป็นไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย
เพราะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเลย
และยังอาจเข้าไปอุดตันในหลอดเลือด

แต่การซับน้ำมันออกจากอาหารนั้น
เป็นไปไม่ได้
ที่เราจะรู้ปริมาณที่แน่นอน
ขึ้นอยู่กับว่า
อาหารที่รับประทานนั้นมันเยิ้มแค่ไหน
สมมุติว่าซับน้ำมันออกมาได้ถึง 1 ช้อนชา
นั่นก็หมายความว่า
สามารถลดพลังงานไปได้ 40 แคลอรี่
และไขมันอีก 4-5 กรัม
ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากเลย
ฉะนั้น
การซับน้ำมันออกจากอาหาร
ก็ไม่สามารถ
จะทำให้อาหารที่มีไขมันเพียบ
กลายเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำลงไปทันทีได้
ทางที่ดี
ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่มีแคลอรี่สูงๆ ไว้ก่อนดีกว่า
ดีกว่าจะมานั่งซับมันออกเพื่อทำให้รูปร่างดี

อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า

การทำตัวให้คล่องแคล่ว
เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
จะทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น
อย่างได้ผลนะคะ
ในขณะทำงาน
แทนที่จะใช้โทรศัพท์ภายใน
ติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน
ควรจะลุกขึ้นและเดินไปหาเขาแทน

ถ้าอยู่ที่ยิมฯ อย่ายืนเฉย
และปล่อยให้เวลาผ่านไป
ขณะรอคิวเครื่องออกกำลังกาย
หรืออะไรก็ตาม
กระโดดตบ หรือ วิ่งอยู่กับที่ไปพลางๆ
จะเป็นการวอร์มอัพที่ดี

เวลาหยิบของ พยายามย่อให้สุด
เวลาที่ย่อหยิบของจากพื้น
ไม่ว่าจะเป็นตอนไปเดินช้อปปิ้ง
หรือ ที่ไหนก็ตาม ทุกครั้งที่เราย่อ
จะให้กล้ามเนื้อได้ยืดหยุ่น

ออกกำลังกายตอนไหนดี

การออกกำลังกายช่วงเย็นหรือช่วงเช้า
อย่างไหนจะทำให้ผอมเร็วกว่ากัน
บางคนบอกว่า การออกกำลังกายในช่วงเช้า
ก่อนอาหารเช้า
จะช่วยให้เผาผลาญไขมันได้มากกว่า
เพราะร่างกายเปลี่ยนไขมันที่เก็บสำรองไว้
ให้เป็นพลังงานด้วย
แต่ก็มีบางคน บอกว่า
การออกกำลังกายให้เหงื่อออก
ช่วงเย็นนั้นดีกว่า
เพราะทั้งวันที่ผ่านมา
กล้ามเนื้อของเราได้วอร์มเต็มที่
พร้อมกับการออกกำลังกายแล้ว
แต่มันไม่สำคัญหรอก
สำหรับชีวิตที่แสนจะว่นวายในยุคนี้ พ.ศ. นี้
สิ่งสำคัญก็คือ การหาเวลาสะดวก
ที่จะได้ออกกำลังกายอย่างจริงๆ จังๆ
และทุ่มเทได้เต็มที่
จะได้ผลที่ดีกว่า

โดย: โสดในซอย

วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:20:18 น.

:: ปลากับผิวสวย ::

ชาวเผ่าเอสกิโม
แทบไม่เคยเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังเลย
ก็เพราะกินปลา เป็นจำนวนมากตลอดเวลา
อาหารจำพวกปลาสามารถลดอาการคัน
ผื่นแดงและการตกสะเก็ดของผิว
ในผู้ป่วยโรคผิวหนังเรื้อรัง
ได้ถึง 30 - 60 % เลย

ส่วนน้ำมันปลา
สามารถช่วยยับยั้งอาการอักเสบ
และ การแพร่กระจายของเซลล์
ที่นำไปสู่การเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง
การกินเนื้อปลาติดมันบ่อยครั้ง
อาจช่วยได้ในบางกรณี
แต่ม่ควรซื้อพวกแคปซูลน้ำมันปลา
มากินเอง
เพราะอาจมีอันตรายได้
ให้ตรวจสอบ
กับคุณหมอก่อนดีกว่า
เพราะอาจมีผลข้างเคียง
หรือมีปฏิกิริยา
ต่อยาบางชนิด
ที่เราใช้อยู่ก็ได้

โดย: โสดในซอย

วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:30:13 น.

:: ผู้หญิงกับของหวาน ::

เคยได้ยินไหมคะว่า
ช่วงมีอาการเจ็บป่วยต่างๆ
จากการมีประจำเดือน
ให้หลีกเลี่ยงการกินน้ำตาล
และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
แต่จริงๆ แล้ว
นั่นเป็นคำแนะนำที่ผิดค่ะ
เคยสังเกตบ้างไม๊
เวลาที่มีอาการหดหู่ โกรธ หรือ เหนื่อย
ถ้าได้กินของหวาน
ที่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตสูง
จะกลับคืนสู่สภาพจิตใจที่ปกติ
ในไม่ช้า
จากทฤษฎีบอกว่า การกินคาร์โบไฮเดรต
จะช่วยเพิ่มระดับของสารเคมี
ในสมองที่ชื่อ
เซโรโทนิน
ซึ่งทำหน้าที่เหมือนยากล่อมประสาท
เพราะฉะนั้น
ผู้หญิงที่มีอารมณ์แปรปรวน
ในขณะมีประจำเดือน
ไม่ควรห้ามใจกับ
ของหวาน ขนมปัง มันฝรั่ง ข้าว ขนมจีน
และ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่างๆ
เพราะการที่รู้สึกอยากอาหารเหล่านี้
แสดงให้เห็นว่า
ร่างกายของเราต้องการรักษา
อาการเจ็บป่วย

โดย: โสดในซอย

วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:31:42 น.

:: รวมพลังผัก ::

ข่าวดี
สำหรับสาว ๆ ที่สูบบุหรี่
เพื่อน ๆ ควรจะรักตัวเองซักนิด
ด้วยการกินผักให้หลากหลาย
ไม่ว่าจะสุกหรือดิบก็ได้
แต่ควรจะเป็นผักดิบบ้าง
เพราะจะช่วยป้องกัน
โรคมะเร็งปอดได้

ผักที่มีสารเบต้าแคโรทีนสูง
เช่น แครอท หรือ ผักขม
เป็นอาหารที่ดีที่สุด
ในการต้านมะเร็งปอด
แต่จริง ๆ แล้วมีโอกาส
เป็นโรคมะเร็งปอดน้อยมาก
ถ้ากินผักทุกชนิด
รวมทั้ง มะเขือเทศ
หรือ กะหล่ำปลี

แม้ว่าผักพวกนี้
จะมีสารเบต้าแคโรทีนต่ำ
แต่ก็ยังเต็มไปด้วยสาร
ที่ช่วยต้านมะเร็งตัวอื่น ๆ
ผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง
สามารถลดโอกาส
เกิดมะเร็งในปอด
ในผู้หญิงถึง 3 เท่า
และในผู้ชายถึง 2 เท่า
แต่การกินผักหลาย ๆ ชนิด
จะลดโอกาสการเป็นโรคนี้
ได้ถึง 7 เท่าในผู้หญิงเชียว
และ ในผู้ชายถึง 3 เท่า

ควรทานผักดิบบ้าง
เพราะผักที่สุกแล้ว
โดยเฉพาะจากการต้ม
จะทำลายสารต้านมะเร็งบางตัว
ในผักหลายชนิด
กะหล่ำปลีและบรอคโคลี่
สามารถทำหน้าที่ขัดขวาง
การเจริญเติบโตอย่างช้า ๆ
ของมะเร็งในปอด
ที่สามารถตามคุกคามได้
แม้จะเลิกบุหรี่ไป 10 ปีแล้วก็ตาม

โดย: โสดในซอย

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:11:52:14 น.