ความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและจักรวาล --คลังอากาศิกส์
สสวัสดีครับ พบกันตามเวลา--วันนี้เราจะพูดถึงชีวิตร่างทรง และการทำกสิณ --ฝึกญาณรู้ด้วยตนเอง ---ร่างทรงก็คือคนทั่วไป มี รัก ดลภ โกรธ หลง กิเลสพร้อมมูล เทพ อาศัย ใจ ของร่างทรง ดังนั้น ผลที่ออกมา ใช้ว่าจะบริสุทะเต็มร้อย การเรียกเงินเกินกว่าเหตุ จึงควรพิจารณา นะครับ อยากบอกว่า 90เปอร์เวนต์กว่าๆ ก็เกิดจากอุปานทาน หรือเป็นเทพชั้นต่ำ แต่อ้างชื่อเทพชั้นสูง แต่กฏแห่งกรรมนั้นีอยู่ว่า "ผู้ใดทำ ผู้นั้นก็ได้" คือได้บารมีธรรมไปเต็มๆเบื้องบนก็มี ติดยศ เลื่อนขั้น-- สายสะพาย-ฉลองตำแหน่ง เช่นเดียวกับโลกมนุษย์ --พี่สมคิด ในฐานะอาจารย์ของพสวกเรา ก็ไม่เคยบอกข้อห้าม--ข้อห้ามมาตรฐานที่ว่า--
--1. ร่างทรงห้ามไปงานศพ เว้นแต่จำเป็นจริงๆ ---หากไปแล้ว จะไปกินของในงานไม่ได้ แม้แต่น้ำ --2. เพราะว่า ร่างทรงเหมือนกับโทรทัศน์ที่เปิด 24 ชั่วโมง หญิงสาวคนหนึ่งบอกว่ามีวิญญาณตามมาที่บ้านบ่อยๆ แต่ก็เป็นเพราะเธอต้องไปงานศพบ่อยๆ ด้วยอาชีพพัฒนากร
-อืม เวลาจุดธูปเยอะๆ อย่าใช้เตาแก๊สครับ ผิดธรรมเนียม ธูปที่จุดไปแล้ว จะใช้ไม่ได้ ไม่เป็นสื่อทางมิติ --ตุณทราบหรือไม่ว่า ความคิดของคุณ เป็นแบบรูปภาพ กลไกการรับรู้ การสร้างโปรแกรม การใช้งานจิต ล้วนแต่ทำงานในแบบรูปภาพ --ยกตัวอย่างเช่น เดิมเราใช้คอมพิวเตอร์ ที่โปรแกรมแบบใช้คำสั่ง ใช้ตัวอักษร มันใช้งานยาก พอมีพวกวินโดวส์ ลินุกซ์ มันเป็นแบบรูปภาพ เด็กๆก็ใช้มันได้ --ท่านผู้อ่านครับ บางทีข้อเขียนแค่สองบรรทัด ข้าพเจ้าต้องทบทวน ค้น ย้อนไปทาง จีน อินเดีย ฝรั่ง ทบทวนหลายครั้ง ถ้าท่านนำไปใช้จริงๆ ก็ประหยัดเวลาของท่านได้เป็น 20 ปี เพราะพีสาวกับข้าพเจ้า โทรปรึกษากันโดยตลอด ในเรื่องทางจิตเหล่านี้ ---มีหนังสือที่แหม่มฝรั่ง ไปศึกษาโยคะในธิเบต กล่าวถึงการสร้างผี จากจินตภาพ จนให้มันไปทำงานได้ เมื่อจะทำลายก็เพ่งให้เห็นว่า มันเสื่อมสภาพไป --นักประพันธ์ มองเห็นภาพตัวละคร ในมโนนึก เดินเรื่องไปเรื่อยๆ แต่บางครั้งตัวละครนั้น กลับแนะนำ หรือขอ บทที่มากกว่าเดิม นอกจากสคริปท์ มันมีเสอ แต่พวกเขายังไม่เคยพูดให้ใครฟัง --ผู้กำกับหนังไทย เอ่ยขอบคุณบรรดาผีต่างที่เคยได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก จนเขาได้รับรางวัลหนังยอดเยี่ยมที่เมืองคานส์ --พระเกจิท่านเคยไปเพิ่งซากศพ จนติดตา ครั้งหนึ่งศพนั้นกลับเตะท่านที่ก้านคอ ทำเอาคอเคล็ดไปหลายวัน --หลายคน เอายว่าหลายล้านคน สร้างมโนภาพในทางบวก เพื่อความร่ำรวย นัการเมือง สร้างภาพให้คนเอง สารพัด --ข้าพเจ้าไม่ได้มาสร้างภาพของตนเอง แต่จะมากระทุ้งพวกท่านให้เห็นสัจจะ ธรรมชาติที่เป็นจริงในสรรพสิ่ง แต่จริงๆนั้นเราถูกห้อมล้อมด้วยภาพมายา ----ลองอ่านช้าๆ ชัดๆ------ ----มีชายคนหนึ่งแกล้งพระป่าท่าน โดยออกมายืนหันหลัง ขวางทางบิณฑบาตทุกวัน พระท่นกลัวโยมจะบาปมากไปกว่านี้ จึงนึกภาพแผ่นเหล็กรูปสามเหลี่ยม ถูกไฟเผาจนร้อยแดง แล้วลอยไปนาบหลังชายคนนี้ ซึ่งก็วิ่งหนีเข้าบ้านไป แล้วก็ไม่มารบกวนท่านอีกเลย ---น่าจะเป็นตัวอย่างการใช้เครื่องจักรไร้มวลสาร หรือการโปรแกรมพลังจิตได้ชัดเจนนะครับ การประยุกต์ใช้ ใช้ได้กับการเรียนการสอน ทุสาขาวิชา ทุกอาชีพ ผมเคยได้รับฟังการบรรยายของ ดร.อาจอง ที่คิดวงจรลงจอดของยานลงดาวอังคาร ทำทีไรใหม้หมด ฝรั่งก็ยอมแพ้ ท่านก็ยอมแพ้ ไปนั่งสมาธิบนยอดเขา ทันใดนั้นภาพวงจรนั้น วิ่งเข้ามาในมโนภาพ เห็นชัดเจน ท่านรีบจำ และจด นำไปสร้าง ทุกวันนี้ก็ใช้ระบบนี้หละครับ ---ความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและจักรวาล ถูกบันทึกไว้ ในโลกทิพย์ เป็นคลังแห่งหนึ่ง ที่ทางโยคะเรียกว่า "บันทึกอากาศิกส์" หรือ"แหล่งข้อมูลที่ไร้สภาพ" ใช้จิตของเราเป็นกุญแจ เมื่อเราอยากรู้และภาวนาซ้ำๆ บันทึกก็จะเผยตัวออกมา ---เสี่ยปอ เคยพูดถึง เห็นอักษรวิ่งมาเป็นสายๆ เป็นข้อธรรมมะที่ล้ำลึกมาก --วันหนึ่ง เขานั่งดูทีวีอยู่ เห็นภาพวิงออกมานอกจอ เป็นดวงไฟสีส้ม แล้วมันระเบิด มีร่างคนคล้ายตุ๊กตากระเด็นออกมา สักพักมีรายงานข่าว มีการเห็นดวงไฟระบิดที่แถวๆพิษณุโลก มีการเก็บสะเก็ดของมันได้ด้วย --บางครั้งนิมิตเห็นเครื่องกลประหลาด แต่ไม่รู้จักการทำงานของมัน เพราะไม่ได้เรียนมาทางวิศวกรรม
อาจจะเขียนไม่จบนะ-- กลัวลืม--ทำนายให้กับตนเองด้วยญาณและใบหน้า --วิธีทำ ---กำหนดจิตเรื่องคำถามที่อยากรู้ บอกกับตนเองว่า ถ้าใช่ ให้พยักหน้า ถ้าไม่ใช่ ให้ส่ายหน้า --แม้คนอื่นนั่งร่วมอยู่ด้วย ก็อาจไม่รู้ว่าท่านแอบทำญาณทิพย์ --ก็ลืมตา แต่กำหนดจิถให้ชัดๆ แน่นๆ แรงกว่าความคิดปกติ สึกพัก ศรีษะของท่านก็จะตอบคำถามในใจได้ --ค้นพบเอง และได้อ่านในวารสารแนวทางจิต ก็ตรงกัน ----ตัวอย่าง ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเหงาๆ ตอนนั้นสัก 1ทุ่มแล้ว คิดถึงเจ้านายเก่าคือเสี่ยปอ ที่ชอบตั้งวงตอนเย็นๆ เลยถามคนเองว่า พวกเขาอยู่ไหน ก็ใช้แบบนี้แหละ พบว่าอยู่ที่สำนักงานใหม่ แฮปปี้แลนด์ พอไปถึง --พ้นโค้ง ก็เห็นสำนักงานปิดแล้ว ก่อนจะถอยกลับ กวาดตามองไปตึกแถวตรงข้าม (ซอยเล็กๆ) โอ้โฮ นั่งกันหน้าสลอน 7-8 คน พวกเขาแปลกใจ และดีใจมาก ถามว่า--รู้ได้อย่างไร ผมบอกว่า เดาเอา.. ใช้ญาณน่ะ---เสี่ยปอว่า ญาณมันก็เก่ง แต่สู้เฮียไม่ได้ อีกคนว่า เดาเอาเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขา มานั่งที่ตรงนี้เป็นครั้งแรก --ขอเชิญเข้ามาคุย --ถาม หรือให้กำลังใจกับผู้เขียนด้วยครับ-- มันวังเวงครับ --ช่วงนี้เน้นวิชาการครับ เนื้อหาแน่นปึ้ก-- --นั่งอยู่ที่บ้านเพื่อน เหมือนเดิมครับ เขียนไม่ออกแม้แต่ตัวเดียว --แสดงว่าทั้งชีวิต ผมจะต้องพัวพันอยู่กับเทพแน่ๆ --บ่อยครั้งที่ทะเลาะกับท่านครับ ส่วนใหญ่ท่านเป็นพระราชามาก่อนก็เลยพูดขัดหูไม่ได้
Create Date : 24 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2554 14:29:52 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2356 Pageviews. |
|
|
|