Bloggang.com : jesdath : เขื่อนยักษ์2-3แห่งแตกรับปีใหม่แน่หรือ

เขื่อนยักษ์2-3แห่งแตกรับปีใหม่แน่หรือ

แทรกข่าว-- ตอนนี้ ข่าวเด็กชายปลาบู่กับเรื่องเขื่อนแตกรับปีใหม่2555 กำลังฮอทสุดขีดในเว็ปต่างๆของโลกออนไลน์ครับ เป็นพันเป็นหมื่นเว็ปรับกระแสนี้แล้ว สอบถามได้ที่เจ๊เรือง9 ครับผม
--เจ๊เรือง9 ไม่ค่อยมีเวลา แต่จะมาส่งลิ้งค์ให้ที่นี่ครับ ตะกี้พี่แกโทรมาครับ
--ผลสำรวจจากเอสเอ็มเอส 71.62เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่า ดาวเสาร์เปลี่ยนราศี จะเป็นลางร้ายต่อเมืองไทย
เพราะจากเหตุร้ายๆที่ไม่คาดฝัน ทำให้ครนตระหนักต่อภัยพิบัติที่เกิดจากดวงดาว

--จากการบอกเล่าของเด็กชายปลาบู่ 31 ธค.นี้จะมีแผ่นดินไหว 2 เขื่อนทางเหนือพัง น้ำจะมากกว่าเดิมสองเท่า
(ทีเคยท่วมจาก ล้านเจ็ดแสนตัน ก็เป็นราวสามล้านตัน)

--จากคำทำนายของฤาษีลิงกัง วันที่ 10-15 ธค.นี้เอง จะเกิดแผ่นดินไหว ตั้งตัวไม่ทันเลย ความแรงก็ แค่สมัยไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปได้นะแหละ
-----(ก็อปจากกระทู้ผมเองที่เว็ปญาณทิพย์)
ผมขอยืนยันว่า ภายใน 1เดือนนับจากนี้ จะไม่มีแผ่นดินไหว --เขื่อนแตกอะไรทุกอย่าง ตะกี้เทพที่ท่านแว็บมาตอนกำลังเด็ดผัก --ทำกับข้าวไปถวายพระกันนะครับ ท่านว่าคนเราคิดมากไปเอง แต่อาจจะเลื่อนไปเกิดกลางปี- ปลายปีหน้าก็ได้ครับ ความไม่ประมาท น่ะเป็นสิ่งที่ดีแล้วครับ

-- ก็อย่างที่ชาวต่างดาวบอกว่า เวลาเกิดภัยพิบัติต้องยอมรับ และดีใจว่า เกิดความเสียหายทางวัตถุ แต่เกิดอารยธรรมความเจริญทางจิตวิญญาณไปทั่วประเทศและทั่วโลก เป็นหลักความสมดุลของจักรวาล

--และถ้าท่านลองใช้จิตคิด คิดแทนจิตจักรวาลว่า คนไทยเกือบทั้งประเทศต้องทนรับกรรมอยู่หลายเดือนกับภัยน้ำท่วม น้ำเน่า ยุง โรคระบาด บ้านเรือนข้าวของ รถยนต์ เสียหาย มันไม่มีประโยชน์อันใดเลยเหรอ หรือว่า "ยังรับกรรมแทนประเทศชาติไม่พอกันอีกเหรอ" ถ้าผมเป็นจิตจักรวาล หรือพระเจ้า ผมก็คงจะตอบว่า
"เพราะทุกๆคนรับกรรมแทนประเทศชาติ เราก็ขอยกเลิกภัยจากแผ่นดินไหวให้ละกัน" ในหลักการของโหราศาสตร์ ก้ไม่มีใครที่รับกรรมประเภทซวยซับ -ซวยซ้อน หรือถูกรางวัลที่หนึ่งทุกงวดเป็นเวลายี่สิบปี ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง

--ทุกๆคนก็รู้ดี เกิดเป็นคนไทยนี้ดี เพราะเข้าใจเรื่องกรรมเก่า แก้ใจ แก้กรรม กำหนดกรรมใหม่ รู้จักทำสิ่งดีๆ ไม่ลบหลู่ เช่นเจ้าที่ หรือเทพยดา เรียกว่า เข้าใจกรรม อดีต ปัจจุบัน อนาคต สมเป็นเมืองนักปราชญ์
--ฝรั่งมาเที่ยวยังทึ่งว่า คนไทยไม่กลัวความตาย ยิ้มได้ ปลงได้ แม้เป็นมะเร็งจะตายวันไหนไม่รู้แต่ก็สู้
- บางท่านก็จำกัดอาหาร ถือศีล ก็หายจากโรคร้ายได้
-- แม้แต่เรื่องเทพ ก็มีการบูชาบวงสรวงอย่างเข้าใจ มีการบูชาพระราหูมากมายหลายจังหวัด คนส่วนใหญ่เข้าใจที่จะทำวิกฤติของดวงดาวให้เป็นโอกาส โดยอ้อนวอนพระราหู ถึงแม้จะไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษมของชาวพุทธเลย แต่เป็นศาสนาฮินดูผสมทางเทพ -ไสยเวท แต่ถ้าเราเข้าใจทำ บูชาด้วยใจจริง เทพก็ต้องยอมอ่อนข้อให้กับมนุษย์ เพราะเทพเกิดมา หรือมีอยู่ ก็เพื่อการช่วยเหลือมนุษย์เท่านั้น

--อ้างถึงตอนบ่ายนี้ ที่ท่านเทพแว็บมา และพูดเรื่องแผ่นดินไหวว่าไม่เกิด ท่านยังบอกว่า แกงเลียงขาดใบตำลึงไม่ได้ แกงป่าต้องมีสูตรเฉพาะ ดัดแปลงไปก็ไม่ใช่แกงป่า--ดท่านูเป็นคนโบราณประมาณ 60 กว่าปี น่าจะเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ ท่านชอบมาทานอาหารแบบไทยๆ ส่วนมากก็มากับกองทหาร มีพาหนะคือม้า สิ่งเหล่านี้มองไม่เห็นทั้งนั้นแม้แต่งูของพระศิวะ แต่บ้านนี้ไม่ต้องถวายอาหารท่าน แม้จะเป็นแกงที่ร้อนเดือด ออกมาจากเตาเดือดๆ
ท่านก็เสวยเสร็จในห้านาที ต่อมาก็เป็นคิวของพวกแม่ทัพ และทหาร บางครั้งเทพสี่กรก็มาเสวย และรสอาหารก็ไม่เปลี่ยน เพราะอาหารส่วนทิพย์ที่ท่านเสวยไปนั้นละเอียดเกินสัมผัสมนุษย์ บางคืนเป็นวันพระ อาหารที่เรากินเหลือ ก็ต้องทิ้งหมด เพราะท่านพาผีนรกมากิน เวลบาเทพมาก็เหมือนลมพัด บางทีเราก็คุยกับภรรยาดีๆ ต่อมาก็ท่าทางเปลี่ยนไป คำพูดก็เป็นเสียงคนแก่ บางทีก็เป็นพวกเซียน นอนร้องเพลงจีนเฉยเลย ไม่เหมือนตามตำหนักที่ต้องมานั่งสั่นๆเป็นชั่วโมง ที่นี่ก็มีแต่เป็นพี่สาวภรรยา พี่สมคิดที่เสียชีวิตไปแล้ว ทิ้งผมนั่งเฝ้าตำหนักอยู่นี่ มีมีดหมอ ตรีศูล -ใครผู้ใดจะเอาไปปราบผีบ้าง

--ผมนั่งเด็ดผักถึงเย็น อ้อ แกะปลาทู15 ตัวใส่แกงเลียงแทนกุ้งแห้งโลละ500บาท ท่านเทพมาก็คุยโทรศัพท์กับสาวกทม. ท่านบอกว่าลืมผ้าแดง5 เมตรที่สัญญาไว้หรือไง ท่านพูดคล้ายคนแก่สัก80 และเราก็เดาได้ว่า ท่านคือพระราหู (เป็นบางช่วงที่ท่านชอบมานอนเตียงเดียวกับผม ลักษณะเหมือนเทพทั่วไป แต่ผิวท่านกับเครื่องทรงจะเป็นสีดำสนิท)
-ท่านแม่กวนอิมมักจะให้เทพเซียนมาเยี่ยม รู้สึกว่าเป็นพี่ใหญ่ของเซียนชื่อ ลี้ทงปิน ท่านจะคอยดูแล และรับผมเป็นลูก
--ท่านบอกว่าผมเคยเป็นทหารองครักษ์ประจำตัวเสด็จแม่ ทุกครั้งที่เกิดความลำบากใจ เสด็จแม่องค์นี้จะเสด็จมาก่อนใคร เพื่อมาให้กำลังใจผม และทำให้เยือกเย็นในใจถึงสามวัน (จากการอ่านหนังสือ -ไม่ค่อยชอบท่าน นึกเขม่นในใจด้วยซ้ำไป แต่ได้พบก็ต้องยอมแพ้ต่อบารมีท่านถึงขนาดกราบเท้าเลย)-เอาหนังสือให้ดูภาพ อจ.เหยียนเซิน (เกิดเป็นชาวคริสต์ ศึกษาลัทธิเต๋าโดยอาจารย์มาทางสมาธิ และในที่สุดก็บวชเป็นพระในพุทธศาสนา เวลาท่านท่านเทศน์ -พวกวิญญาณจะมาฟัง ถ่ายรูปติดบ่อยๆมีแสงวิญญาณจักรวาลด้วย) ท่านบอกเรียยบๆว่า อ่ฮคนนนี้นะของจริง ไม่ใช่ต้มตุ๋นหรอก เพราะเขาคือลูกศิษย์เอกของแม่เอง แล้วไปเกิด เขาบำเพ็ญทางนี้ (พุทธมหายาน) เขามาจากสวรรค์ชั้นสาม ลูกมาจากชั้นสี่ อย่าให้แพ้เค้าล่ะ--(เสด็จแม่กระทุ้งตัวขี้เกียจผมเข้าให้) กษัตริยไทยส่วนมาก็มาจากชั้นสี่ แต่จะสูงกว่าปกตินิดนึง อาจเรียกว่า ชั้นสี่ครึ่ง อุทิศตนเพื่อมวลชนแบบพระโพธิสัตว์ (ที่พึ่งของสัตว์-รวมถึงมนุษย์)

-ท่านเซียนชอบเรียกผมว่า "เตียว" (เตียวเป็นสัตว์คล้ายเลียงผา และรักเดียวใจเดียว) อันนี้ผมเคยอ่านมาก่อนแล้ว
-แม่ผมที่เสียชีวิตไปแล้ว เดินทางไปเรียกเซียนมาจากสวรรค์สุขาวดี เพื่อให้มาช่วยผม แมผม่ก็เก่ง เป็นผู้หญิงที่ใจเด็ด ขยันอดทน สู้ชีวิต แต่ก็มีอารมณ์ขัน ชอบเย้าแหย่ทุกคน

-ก่อนสุนามิเป็นปี เทพท่านชอบมาพูดลอยๆ เขาว่าจะล้างโลก ("เขา" คือเบื้องบนท่านพูดซุบซิบกัน)

"มีเงินก็ตุนข้าวสารอาหารแห้งไว้เถอะ น้ำจะท่วมโลก"

--จริงๆแล้วเบื่องบนท่านห้าม ไม่ให้พูดถึงแดนสวรรค์ หรือเรื่องของเทพ แต่เอาเถอะ ถือว่าผมมีสิทธิ์ทำเกินขอบเขตก็แล้วกัน ไหนๆก้ละเมิดมาเยอะแล้ว กลับมาพูดเรื่องโหราศาสตร์ไทย มรดกทางภูมิปัญญา ที่ภูในสเนอ ในโอกาส บิ๊ก คลีนนิ่ง เอ๊ยไม่ใช่ วันราหูอมจันทร์

(ไหนๆก็รับจ้างทำกับข้าวไปวัด จนเข้าเนื้อไปหลายร้อยแล้ว จึงจะขอแบ่งกับข้าวไว้ปิ่นโตนึง ไปถวายพระที่วัดเชียงยืน เพราะ7 .00พวกเขาก็จะนำไปที่วัดดอยกองข้าว -ซึ่งพระฉันมือเดียวต้องถวายกันเวลานั้น เทพก็พยายามบอกว่าได้บุญ แต่ภรรยาอดบ่นไม่ได้ เหมือนมีใครมาดลใจว่า เราสามารถกันเอาไว้ส่วนหนึ่งในรูปของค่าแรง เอาไว้ทำบุญก็ได้เหมือนกัน เฉพาะเนื้อหมูก็จ่ายออกไป 1,800บาทแล้ว)

--จะลิมเรื่องโหราศาสตร์เสียแล้ว ในยุคโบราณเครื่องมือวัดไม่ดีนัก จึงใช้สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มาวัดองศาของดวงดาวให้แม่นยำ และเชื่อไหมว่า เรือนไทย ไม่เหมากับเป็นที่อยู่ของคนเป็น แต่คนสมัยก่อนอยู่ได้ เพราะว่า.... เอ่อ จะบอกยังไงดี เสาเรือน ฝา ชายคา หน้าจั่ว -นั้น สร้างขึ้น โดยอิงกับลัคนาเวลาเกิดของเจ้าของบ้าน ว่าดาวหลักทำมุมเท่าไหร่(อจ.สถาปัตย์จุฬา วิจัยมาแล้ว) จึงยิ่งอยู่ยิ่งดี--อยู่แล้วจริญรุ่งเรืองและมีความสุข ปลูกไม้มงคลตามทิศต่างๆ ยิ่งหนุนดวงให้มั่นคง

--ในรัชสมัยของพระนารายณ์ (กษัตริย์องค์นี้ บางครั้งเวลาคับขัน คนจะเห็นท่านมีสี่กรครับ จึงเรียกเช่นนี้-ความจริงท่านก็เป็นอวตารมาเกิดจริงๆ) ขณะที่ท่อนเสด็จออกท้องพระโรง มีหนูตัวหนึ่งตกมาจากขื่อท้องพระโรง ท่านก็เอาขันครอบไว้ และเรียกโหรทั้งสามออกมาทำนาย ทุกคนก็ใช้วิชาโหราศาตร์คำนวณ

คนแรกบอกว่า "สัตว์สี่เท้า"

คนที่สองบอกว่า "หนู ขอรับ"

คนที่สามบอกว่า "หนู สี่ตัว พะย่ะค่ะ"

--พระองค์ท่านบอกว่า "ผิดเสียละกระมัง" พอท่านทรงหงายขันขึ้น ปรากฏว่าหนูได้คลอดลูกออกมาอีกสามตัว จึงเป็นหนูสี่ตัว พระองค์ท่านจึงรับสั่งว่า "โหราศาสตร์ไทยนี้ ช่างยอดเยี่ยมเหมือนกับตาเห็น" จึงปูนบำเหน็จให้อย่างมากมายทุกคน"

jesdath

-เป็นไงครับกระทู้รักชาติของผม ไม่ได้ยอกันเกินจริง เพราะนี่คือเรื่องจริงจากประวัติศาสตร์ ผมเองเป็นคนตรงๆ อะไรดีก็บอกว่าดี-- อะไรไม่ดี ผมก็จะกระทุ้งเพื่อให้ดีขึ้น

--ต้องขออภัยหากที่การพูดตรงๆนั้นไม่เป็นทสบอารมณ์ของบางคน แต่ที่ผมอุตส่าห์หน้าด้านถามเทพท่าน ก็นับว่าคุ้มแล้วครับ กรรมมันมีขอบเขตปริมาณของมัน อย่าวเช่นว่าเราไปกินอาหารแล้วติดหนี้ไว้ แต่มีสาวสวยมาช่วยออกเงิน ให้ เจ้าของร้านคือเจ้ากรรม -ที่รับเงินตามที่เสียหายไป -เขาก็ไม่ติดใจเอาความแล้ว ติดเงินไว้ 500 จะขอเอาคืน 5,000 ก็ไม่ใช่ พอก็คือพอ จึงเรียกกรรมว่ามีความหนักเบาต่างกันไป คนทุกคนทำกรรมทุกวัน มากๆเข้าก็เป็นกรรมของประเทศชาติ ซึ่งทุกชาติก็มีความซับซ้อนแตกต่างกัน ดังนั้น จะให้คำทำนายแม่นทุกรณี ก็ไม่ได้ เหมือนผมเคยบอกว่าวิปัสนาแล้วดวงเปลี่ยน ก็กรรมเปลี่ยน ดวงก็เปลี่ยนตามเหตุ-ตามปัจจัยของมัน

(ตอนนี้เศรษฐกิจโลกเหมือนจะดี แต่เดือนหน้าอาร์เจนติน่าต้องงคืนเงินกู้ ถ้าไม่มี ทางยุโรปก็จะแย่ อิตาลี กรีซ รอคิวล่มสลายอยู่ -อเมริกา คนว่างงานน้อยลงมาก ดีขึ้นมาหน่อย)

-ตัวอย่างขัดๆนะ นอสตราดามุสกล่าวถึงโลกพินาศปี2000 มีลูกไฟพุ่งขึ้นฟ้า ณ ดินแดน(องศา-ลิบดา) เกิดระเบิดมหึมาล้างโลกแทบสิ้นอะไรทำนองนี้ มันผิดอย่างบัดซบเลย เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ท่านทายถูกถึง 99.99เปอร์เซนต์มาแล้ว (เรื่องสงครามนิวเคลียร์ มีอ้างถึงและมีภาพจำลอง ในหนังเรื่องนอสตราดามุสด้วย)

--ดร.อาจอง ท่านไปอินเดียมา(ก่อนปี 2000) ท่านก็ได้ถามท่านไสบาบาว่า"ที่โลกจะสลายปี 2000 นั้นจริงหรือไม่ ท่านบอกว่า นอสตราดามุส ไม่ได้ทำนายผิด เหตุที่จะเกิดนั้นมีจริงๆ แต่ท่านได้ขอต่อเบื้องบน ให้เลื่อน หรือลบชะตากรรมของโลกออกไป เพราะท่านได้วางพื้นฐานให้คนทั่วไป ได้ทำความดี นั่งสมาธิ สวดมนต์ จนทำให้สมดุลทางศีลธรรมของโลกดีขึ้นมาก หลวงพ่อจำเนียรวัดถ้ำเสือยังกล่าวว่า "ท่านไสบาบาท่านมีหลักการพิเศษ ทำบ้านคนให้เป็นวัด ให้คนธรรมดากลายเป็นพระ -ผู้หญิงเป็นแม่ชีกันทั้งหมด (โลกจะดีขึ้นถ้าทำตามหลัการท่าน --สอนคนตั้งแต่อนุบาลให้เป็นคนดีของสังคม)

-ลัทธิ โอมุ ชิน ริเกียว ที่ญึ่ปุ่น นับว่าแปลกมากที่มีคนนับถืออย่างมากมาย และเป็นระดับปัญญาชน คนทำงานดีๆ จบสูงๆเสียด้วยซี เมื่อตำรวจเข้ายึดสถานที่ ถึงกับตกใจมาก ต้องโทรเรียกให้ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเข้ามาดู เพราะมีโรงงานเคมีขนาดใหญ่มาก มีทั้งกำลังเงิน และกำลังคน มีการกักตุนอาหาร (นี่คือการยึดประเทศญี่ปุ่น) เพราะเจ้าลัทธิเขานิมิตเห็นหลายครั้งว่า พบดินแดนร้างมีแต่สิ่งหักพัง พอถามคนที่รอดชีวิต ก็ว่า"ก็นี่ไงสงครามโลกครั้งที่สาม"(เขาจึงรีบสร้างฐาน สร้างกำลังคน เพื่อจะเปลี่ยนแปลงโลก) -ลัทธิ ฟา หลุน กง จริงๆก็เป็นการทำสมาธิแบบหนึ่ง แต่ก็ถูกทางการจีนกวาดล้างอย่างหนัก

-นพ.ประสาน ต่างใจ บอกว่า อนาคตนั้นเปลี่ยนได้ เหมือนเป็นความน่าจะเป็นหรือควอนตัม(ก้อนอนุภาค) ของอนาคตหลายๆแบบ เราอาจจะนั่งสมาธิเห็นแบบหนึ่ง แต่เกิดจริงอีกแบบหนึ่งก้ได้ เพราะกรรมนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อนาคตก็เปลี่ยนแบบตามกันไป--จบนะครับ (อธิบายแล้วเหนื่อย ควอนตัมเป้นศัพท์ทางฟิสิกส์นะครับ-ผมรู้แต่อธิบายยาก--เป็นส่วนๆ ก้อนของพลังงานนะครับ อย่างแสงก็เรียกว่า เป็นเม็ดแสง หรือ ก้อนของคลื่นแสง)

Create Date : 11 ธันวาคม 2554

Last Update : 11 ธันวาคม 2554 23:51:12 น.

2 comments

Counter : 1869 Pageviews.

อนุโมทนาบุญด้วยคับผม

โดย: nana IP: unknown, 58.8.204.46 วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:2:47:58 น.

ยินดียิ่งครับผม

โดย: jesdath

วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:21:19:39 น.