ท่านรักเกียรติ-ลูกผู้ชายที่โลกควรจารึก +-แฉกลโกงการเมืองไทย
--ดังที่ได้เกริ่นไปแล้วครับ ปัจจุบันท่านเป็นพระภิกษุครับ คงจะบวชตลอดชีวิต--แต่ไม่ละเลยในการเข้าไปกระทุ้งกิเลสคนหน้าด้านหน้าหนา โดยเข้าไปพูดคุยในสภาอันทรงเกียรตินี่นเสียเลย
---คุณดำรง พุฒตาล เป็นอิสลามแท้ๆ ยังกำชับลูกน้องว่า ช่วยเขียนบทความแนะนำหนังสือเล่มนี้ของท่านด้วย--คนไทยทุกคนสมควรที่จะได้อ่าน
---"อ่านแล้วใด้คติสอนใจว่า-ทำให้ต้องระวัง ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และยกย่องชื่นชมในความเป็นลูกผู้ชายของผู้เขียน ที่ทำแล้วยอมรับผิด และยังได้นำมาบอกเล่าเตือนภัยต่อสังคม คนแบบนี้หายากนะครับ ผมจะนำไปพูดออกอากาศที่ช่อง3ด้วย"--เสียงจาก ดำรง พุฒตาล
-หนังสือเล่มนี้ชื่อชื่อ "ถ้ารู้ธรรมมะพระพุทธเจ้าก่อนนี้ อาตมาคงไม่ต้องติดคุก"
---บรรยายถึง กลุ่มทุนที่อาสาเข้ามาช่วยนักการเมือง--พรรคการเมืองซื้อเสียง หัวละ 1,000 แล้ว พรรคก็บังคับให้ สส.ต้องทำทุจริต เพื่อหาเงินคืนให้กับกลุ่มทุพวกนี้ ทั้งต้นและดอก --กำไรมหาศาล--ถึงเวลา มีคนนำกล่องลงคะแนน มาสับเปลี่ยน--ท่านบอกไว้หมด
--ลองนึกภาพพรรคการเมืองเป็นสัตว์ยักษ์ที่กอบโกย ดูดกินสมบัติ คืองบประมาณอันมีค่าของชาติ โดยไม่รู้อิ่ม กินไปทุกหย่อมหญ้าของประเทศ ในรูปภาษี ที่เราต้องจ่าย แม้ขนมหนึ่งอัน ไอติมหนึ่งแท่ง
---20กว่าปีที่ผ่านมา รักเกียรติ สุขธนะ เป็น สส.ดาวรุ่งของพรรตกิจสังคมจากอุดรธานี ได้รับเลิอกถึง 7 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2526 ตั้งแต่อายุเพียง 29 ปี เป็รัฐมนตรี 5 ครั้ง ตั้งแต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธาณสุข--ฐมนตรีประจำสำนักนายก--จนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุขในครั้งล่าสุด ที่มีเรื่องทุจริตการจัดซื้อยา โดนลงโทษจำคุกสถานหนัก 15 ปี
---เขาได้หลบหนีคดีอยู่ 1ปี โดยแทบไม่มีเงินติดตัวเลย ถูกยึดทรัพย์ สองร้อยแปดสิบล้านแปดแสนแปดหมื่นบาท เพื่อนฝูงเมินหนีหมด
--ติดคุกอยู่ 5 ปี ตั้งแต่ 2547 จนได้รับพระราชทานอภัยโทษ
--หลายคนเห็นว่า แม้จะเป็นประวัติส่วนตัวของนักการเมืองคนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วน่าจะเป็น ตำราการเมืองที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของไทย สมควรเป็นหนังสืออ่านของนักเรียนนึกศึกษาทั่วประเทศ
--ในหนังสือบอกว่า ปี 2531 สส.เกรด เอคือ สมัครแล้วได้รับเลือกแน่นอน จะมีเงินช่วยจากพรรค 7 ล้านบาท แล้วขยับมาเรื่อย จน2544 ค่าซื้อ สส.เข้าพรรคอยู่ที่ 20-40ล้านบาท
-พรรคการเมืองประกอบด้วย ขาใหญ่ทางการเมือง ผู้สนับสนุน และกลุ่มทุนทางการเมือง
--ความคิดอ่านใดๆ ของ สส. ต้องเป็นใปตามผู้ใหญ่ในพรรค และกลุ่มนายทุนเท่านั้น
---กลุ่มธุรกิจเหล่านี้เป็นตัวส่ง "ปัจจัย" ช่วยในการหาเสียงก่อน เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้ว ก็จะเข้าไปขอถอนทุน โดยได้รับการประมูลงาน หรือส่งคนของคนเข้าไปนั่งในกระทรวงใหญ่เองเลย นักวิชาการจึงเรียกระบบนี้ว่า "วงจรอุบาทว์"
- -"กรรม"ที่ต้องติดคุก เป็นเพราะอยู่ในกลุ่มที่ได้เป็นรัฐมนตรี คือจะมี กลุ่มนี้7-8 คน ที่ได้รับเงินจากกลุ่มทุนมา จึงตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ ตกเป็นผู้ต้องหาทุจริตต่อหน้าที่ โกงเงินงบประมาณของชาติอย่างที่ปรากฏ
---จากชีวิตรัฐมนตรี ต้องหลบหนีคดีเป็นปีๆ กินข้าวมื้อละไม่เกิน 30 บาท โดทรศัพท์หาเพื่อนนักการเมือง เพื่อนบอกอย่าโทรมา เดี๋ยวเขาจะพลอยซวยไปด้วย --ถูกจับกุมตัว 28 ตค.47
--จากชีวิตรัฐมนตรี มีคนล้อมหน้าล้อมหลัง เดินพรมแดง กินไวน์ขวดละแสน สุรานารีรอบกาย ต้องมาใช้ชีวิต อยู่บนเรือนนอน 14 ชั่วโมง อยู่ข้างล่าง 10ชั่วโมง
---ท่าบอกว่า ชีวืตในเรือนจำ มีหลัก 2 ข้อ คือ "รักษาชีวิตไม่ให้ตาย กับ รักษาจิตใจไม่ให้บ้า"
-การรักษาจิตใจ ของเรือนจำคลองเปรม คือนิมนต์พระมาสั่งสอน ทั้งด้านปริยัติ และปฎิบัติ
---"คนไม่ติดคุก ไม่รู้หรอกว่า เวลาในเรือนจำนั้นเดินช้ามาก ชีวิตมันซ้ำซากจนต้องหากิจกรรมทำ เมื่อได้เรียนรู้ธรรมมะ จึงได้ฝึกนั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน สวดมนต์ ทำวัตร เดินจงกรม--เช้า-เย็น ทุกวัน"
---ผู้ต้องขังที่เป็นคริสต์ อิสลาม ก็มีศีล มีวัตรของเขา พวกอิสลามปฏิบัติเคร่งครัดมาก ทำละหมาดเป็นประขำ เราชาวพุทธจึงต้องปฏิบัติให้เคร่งครัดตามไปด้วย
---"พุทธศาสนาสอนเรื่อง หิรริ โอตตัปปะ ความละอายต่อบาป--ความกลัวต่อบาป เป็นการป้องกันไม่ให้ทำผิดศีล ถ้าทุกคนเกรงกลัวต่อบาป ก็จะไม่ทำผิดกฏฏหมายบ้านเมือง อาตมาจึงกล้ากล่าวว่า "ถ้ารู้จักธรรมมะพระพุทธเจ้าก่อนหน้านี้ อาตมาคงไม่ต้องติดคุก"
----ในหนังสือนี้ ได้สะท้อนความไม่จีรัง ไม่เที่ยงแท้ของชีวิตมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงสู่จุดอับ การแตกสลายของชีวิตครอบครัว เช่น
--เมื่อท่านอยุ๋เรือนจำ---ภรรยาคนแรก ทำเรื่องขอหย่า ขอกลับไปใช้นมสกุลเดิม--คนที่สอง ขอไปอยู่กับสามีใหม่--คนที่สาม ได้สามีใหม่เป็นชาวเกาหลี --ลูกชายเรียนอยู่ออสเตรเลียต้องกลับไทย --น้องชายและน้องสาว ต้องหลุดจากตำแหน่งการงานที่ควรจะได้ในทันที --รวมทั้งด้านมืดอีกหลายด้านที่กล่าวไว้ในหนังสือหน้า 80--"เดินทางไปต่างประเทศก็มีเจ้าภาพจัดการให้ทุกอย่าง พรรคพวกเพื่อนฝูง ข้าราชการห้อมลอมมากขึ้น อยากได้อะไร เพียงแค่คิดก็ได้แล้ว เรียกว่าเวลาขาขึ้นมีทุกอย่าง อำนาจ วาสนา ยารมี มีคนเสนอตัวรับใช้มากมาย อยากไปเล่นการพนันต่างประเทศก็ได้ไป เคยเล่นได้ 109 ล้านบาทที่ออสเตรเลีย แต่ก็เคยเล่นเสียไป 20-30ล้านบาท
--"ประเทศในแถบเอเชียอาตมาไปมาแล้วทุกประเทศ ไปดู ไปใช้ชีวิต ไปทำงาน ไปเที่ยวเตร่ เที่ยวผู้หญิง ไปมา เจ็ดย่านน้ำ เจ็ดมหาสมุทร ไปถึงอเมริกาใต้ ประเทศไนมีนางงาม-นางแบบสวยที่สุด ก็ไปมาหมดแล้ว สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร ได้สัมผัสมาทุกอย่าง มีวามสุขมาก แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นความสุข แท้ที่จริงมันคือรูปแบบหนึ่งของความทุกข์ และต่อๆมาก็กลายเป็นความเสื่อมของชีวิต"
---"นี่แหละที่บอกว่า ทางแห่งความสุข คือทางแห่งความเสื่อม ชีวิตเหมือนดิ่งลงนรกทั้งเป็น ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดกับอาตมา อาตมาก็คงมองไม่เห็นโลกธรรมแปดได้ชัดเจนเที่นี้ มีสุข--เสื่อมสุข มียศ เสื่อมยศ มีลาถ -เสื่อมลาภ.มีสรรเสริญ--มีนินทา,,,,"
--การได้พบธรรมมะของ นช.รักเกียรติ จึงได้ทำให้เป็นนักโทษชั้นดี ถูกคุมขังเพียงห้าปีก็ได้รับการปล่อยตัว ถูกคุมประพฤติ จึงได้อุปสมบท และยังบวชต่อมาเรือยๆ ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ที่ สำนักวิปัสสนาเวียงพญานาค จ.อุดรธานี รับเป็นวิทยากรให้หน่วยงานราชการหลายแห่ง รับบรรยาธรรมมะทั่วประเทศ โดยตัวท่านผ่านชีวิตมาทุกรูปแบบจึงสามรถแสดงให้เห็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่ผิดและถูก
--หนังสือหนา 120 หน้า โดย อมรินทร์พริ้นติ้ง--สมควรจะเป็นหนังสื่ออ่านนอกเวลาของนักเรียนนักศึกษา เป็นคติสอนใจ ที่ทุกห้องสมุดในทุกสถาบันสมควรมีไว้เป็นอย่างยิ่ง -------------------------------พิมพ์ด้วยมือตัวเองครับ---------------------------เหนื่อยหน่อย แต่เป็นไปเพื่อธรรมทาน--เพื่อผู้อ่านทุกท่านครับ-------- ----ขอให้นิพพานนะ ปัจจัยโย โหตุ ทุกๆท่านครับ ---ธรรมมะสวัสดี----------
Create Date : 03 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2554 0:38:35 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2242 Pageviews. |
|
|
|
แต่จะยืนยาวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ
"ความผูกพัน" ที่คนสองคนมีให้กัน
สวัสดีจ้า เข้ามาเยี่มชม มาทักทายกัน