บทเพลงเซ็น ---วินาทีที่ประจักษ์แจ้งสัจจะ(ภาค5 )

อาจารย์ กตฺธุโร
สำนักปฏิบัติธรรมเซ็นสยาม
เลขที่ ๑๖ หมู่ที่ ๒
ตำบลนาโฉง อ.เมือง
จ.สระบุรี ๑๘๐๐๐
โทร. (๐๓๖)๓๓๓๖๙๕


ญาติธรรมท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับธรรมะ
หรือต้องการสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ฯ
ขอเรียนเชิญตามสถานที่ดังกล่าว


เมื่อวินาทีนั้นมาถึง
นอ.กฤษณ์ บุญเอี่ยม
ต้นปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เช้าวันหนึ่งหลังจากวิ่งออกกำลังกายแล้วผมก็จับไม้กอล์ฟมาที่สนามไดรฟ์ของสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง สติอยู่กับผู้รู้เป็นปกติ ขณะที่ยกไม้กอล์ฟขึ้นจะตีทันใดนั้นเองก็เหมือนมีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงเข้ามาที่ตัวผม...ตัวชาไปทั่วตั้งแต่ศีรษะ มือ ลำตัว ขา จรดปลายเท้า เหมือนมีอะไรสักอย่างมันถูกลอกออกมา เสมือนการลอกคราบของงูแล้วสลัดทิ้ง...เปรี้ยงเดียวทิ้งลงดินประมาณนั้น แต่มันเป็นแบบเฉียบพลันเร็วยิ่งกว่าชั่วกระพริบตา ความคิดความอ่านหรือความรู้สึกบางอย่างมันพลิกไปโดยสิ้นเชิง...ตัวผมเหมือนเป็นอะไรไม่รู้ มันเบาไปหมด กายและใจของผมเหมือนไม่ใช่ของผม...มันเป็นอะไรสักอย่างที่ตั้งอยู่บนความว่าง เหมือนกับว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกวางบนความว่าง ผมหมดความอยากตีกอล์ฟแบบขาดสะบั้นกันไปเลย...ตั้งแต่นั้นมากีฬาอื่นๆ ที่เล่นแล้วเอาชนะกัน ผมเลิกเล่น ปิงปองที่เคยชอบก็หมดอารมณ์ตี แรก ๆ ผมลองกลับมาตีปิงปองพบว่ามันเฉย ไม่อยากเอาชนะคู่ต่อสู้ แม้แต่ความอยากที่จะให้ลูกมันลงโต๊ะเข้าเป้าตามที่ต้องการก็ไม่มี...ปรากฏการณ์นั้นผมไม่ได้ใส่ใจมัน แล้วก็แล้วไปไม่ไปสนใจด้วยว่าเขาเรียกว่าอะไร เป็นอะไร รู้สึกเพียงว่าอะไรก็ได้ช่างหัวมัน แต่มันก็ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนมุมมอง เข้าใจกระแสโลกมากขึ้น ...เข้าใจความว่างของท่านอาจารย์พุทธทาสชัดเจน ซาบซึ้ง ผมปรับมาเล่นกีฬาที่ไม่ต้องแข่งกับใครทุกเย็นก็ไปว่ายน้ำกับเพื่อนที่สปอร์ตคลับของมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา...จากนั้นมาชีวิตมันเบาขึ้นอย่างประหลาด ความโกรธที่เคยแรงมันก็แค่แว้บเดียวแล้วหายเลย ไม่มีให้คั่งค้างอาฆาตแล้วแปรเป็นความพยาบาทเหมือนแต่ก่อน ความอยากได้ใคร่ดีอะไรต่างๆ เบาบางลงมากแทบจะไม่รู้สึก....สติสัมปชัญญะมันว่องไวรู้เท่าทันอารมณ์เร็วมาก แล้วมันก็วางของมันเองเข้าทำนองฟันฉับดับขาดในพริบตา…
*************

เมื่อวินาทีนั้นมาถึง
ป้าจิ๋ม (พวงพันธ์ ทรัพย์สมบูรณ์)
วันหนึ่งของปีพ.ศ. ๒๕๔๓ ผู้เขียนนั่งฟังคุณกฤษณ์อธิบายธรรมะแล้วน้ำตาไหลออกมาด้วยความซาบซึ้ง ร้อง “อ๋อ” อยู่ในจิตในใจ ใจเขาเริ่มแจ่มแจ้งว่าที่พวกเราฝึกจิตทุกวันนี้ มันไม่มีอะไรที่จะให้เราเป็น แรกๆที่ผู้เขียนฝึกภาวนาจะมีความอยาก อยากได้สภาวะสูงๆ แต่ตอนนี้ เปรียบเสมือนถึงจุดที่รู้แล้วว่า มันไม่มีอะไรให้เอา ให้เป็น มันเป็นสมมุติทั้งนั้น เมื่อถึงเวลานั้น จิตเขาต้องรู้ของเขาเอง จะเอาความคิดไปสั่งไม่ได้ เมื่อเห็นประจักษ์แจ้งแล้ว จิตจะทนดูอยู่ไม่ได้ เขาจึงจะวางของเขาเอง
ผู้เขียนได้เข้าถึงสภาวะที่ตัวเห็นมันเด่นชัดขึ้น เห็นความว่างอยู่รอบตัว แม้กระทั่งขยับกาย กระพริบตา และอิริยาบถต่างๆ เป็นการเห็นโดยไม่ตั้งใจเห็น เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ความว่างมันอยู่ทุกที่ ถ้าพวกเราพร้อมที่จะก้าวเข้าไปอยู่ แต่นั่นหมายถึง เราต้องวางทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจะรู้ถึงความเป็นอิสระของจิตใจ ซึ่งทำได้ยาก เพราะยังมีกระแสโลกดึงอยู่ แต่คิดว่าคงไม่เกินความสามารถของเราถ้าได้ ฝึกจิตไปเรื่อยๆ การเข้าถึงสภาวะที่ตัวเห็นมันเด่นชัดขึ้น ทำให้รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว ไม่อยากได้ ไม่อยากมี อยากอยู่เฉยๆ โชคดีที่มีคุณกฤษณ์คอยช่วยชี้แนะ ไม่งั้นคงแย่
จึงขอเตือนพื่อนนักปฏิบัติทุกคนว่า เมื่อถึงสภาวะนี้แล้ว ไม่ต้องตกใจ หรือท้อแท้ ให้มีสติมากๆ อย่าไหลไปตามมัน ให้มองเฉยๆ เห็นเฉยๆให้มากๆ เวลานี้ ผู้เขียนได้มามองอยู่อย่างเป็นกลางๆอย่างมีสติ ให้ท่านรู้ไว้ว่ายิ่งจิตมันก้าวไปไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องมีสติให้มากขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยก็เป็นการพัฒนาจิตไปเรื่อยๆ หนทางข้างหน้านั้น ไม่มีอะไรให้เราต้องเอาเลย ไม่มีจริงๆ จากนี้ไป ขอให้ทุกคนจงก้าวเข้าสู่ อิสระของจิตใจ ซึ่งเป็นความว่างเหนือกระแสโลก
รู้ธรรม - ละธรรม – ให้ธรรม – ลุธรรม......
รู้ละ-รู้วาง-รู้ว่าง-รู้ศูนย์ หรือสักแต่ว่า.....
**************


เมื่อวินาทีนั้นมาถึง
ป้าจันทร์ (พงษ์จันทร์ จันทยศ)
๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔
เมื่อวินาทีนั้นมาถึง
ไม่มีการโพล่ง
ไม่มีสายฟ้าฟาด
มีแต่การเคลื่อนอย่างเงียบๆ
จากความไม่เข้าใจ สู่ความเข้าใจ
น่าจะร้องไห้ด้วยความปีติ แต่กายไม่มี
น่าจะดีใจ แต่ใจไม่มี
น่าจะป่าวร้องบอกใครๆ แต่กูไม่มี
เหลือเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่
จะว่ารู้ก็ใช่ จะว่าไม่รู้ก็ใช่
จะว่ารู้ก็ไม่ใช่ จะว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่
จะว่ามีก็ใช่ จะว่าไม่มีก็ใช่
จะว่ามีก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่
จะว่าว่างก็ใช่ จะว่าไม่ว่างก็ใช่
จะว่าว่างก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ว่างก็ไม่ใช่
นับแต่นี้เป็นต้นไป จะไม่มีการถอยหลังกลับ
ขอยกสภาวะธรรมนี้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา
ด้วยเศียรเกล้า
*************

เมื่อวินาทีนั้นมาถึง
ป้าต้อย (นอ.หญิงนวลรักษา โพธิ์ศรี)
๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔
วันนี้คุยกับพี่จันทร์ว่า อาการเจ็บหรือปวดเรียกว่าเวทนานั้น มันยากที่จะให้รู้สึกว่าไม่ใช่เราเจ็บ
พี่จันทร์สอนโยคะบวกการถอดถอน “เรา” ออกจากกายนี้ใจนี้ โดยทำท่าให้นิ่งๆ แต่ละท่ามันมีการเคลื่อนไหวละเอียดให้รู้สึกได้ แต่ที่ชัดคือมันเกิดอาการขึ้นมา คือ เมื่อย (ทุกข์) แล้วก็ต้องเปลี่ยนท่า ดังนั้น ทุกข์ เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดอาการต่อไปเพื่อให้หายทุกข์
จะเห็นได้ว่ากายนี้มันคือสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เจ็บเอง ปวดเอง บังคับให้มันไม่เจ็บหรือไม่ปวดไม่ได้ (มันไม่ใช่เรา ถ้าเป็นเรามันก็ต้องบังคับบัญชาได้) ชัดเจนว่ามันเป็นเองด้วยเหตุปัจจัย ด้วยเหตุอย่างนี้จึงเกิดอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา มันอยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ทั้งสิ้น
ตัวเราเป็นแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา แล้วมาตกอยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ มันไม่มีเรามาเลย มันไม่ใช่เรา มันเป็นสมมติของโลกเท่านั้น มันไม่เคยมีเรามาเลย ไม่เคยมี...ไม่เคยมี
แล้วเราจะยึดอะไร ไม่มีอะไรให้ยึดได้เลย เพราะมันไม่มี ทุกสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นมา ให้มาอยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์เท่านั้น จึงเป็นสมมติไง เข้าใจไหม
************
------------------------ดีใจจัง เชียร์พี่สาวเราเย้ๆๆๆ---(ผู้รู้ย่อมไม่พูด)-----
---จบบริบูรณ์----------------------

--นอกจากเรื่องของแม่ชีที่บรรลุเซ็นที่ใกล้วัดศรีทรายมูล (ตอนเจ๊าะแจ๊ะเอ็ฟเฟคทฺ)ยังมีเรื่อง มินิ เอ็มบีเอ เอ๊ย มินิ-เอนไลท์เท่น ของ "ผม" เอง การะประจักษ์สัจจะแบบง่ายๆ(เคยเขียนไว้แล้ว)

----เมื่อไปทำไร่กันกับแม่จินต์ แม่ก็พาไปกินข้าวที่กระท่อมข้างไร่ ขณะที่มองปิ่นโตอยู่นั้น เราก็นึกถึงที่เราอยากได้ การระลึกชาติ หรือมีญาณวิเศษแบบหลวงตา ครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ
---มันใดนั้น เหมือนมีแสงแวบสว่างมาจากปิ่นโต เหมือนปิ่นโตจะพูดกับเราว่า
"เพราะว่าหิว-จึงกิน เมื่อกินแล้ว ก็จะอิ่ม-หายหิว ที่หลวงตาท่านได้วิชาอะไรต่างๆ เพราะท่านสร้างเหตุ จึงได้ผล ไม่ใช่ว่าจะนึกอะไรก็ได้มาเลย เข้าใจไหม"
--แต่มันไม่ใช่คำพูดเป็นข้อมูลที่ส่งมาแค่เสี้ยววินาที สมองมันแปลออกมาเป็นถ้อยคำ--ข้อมูลข่าวสารอีกที นี่แหละการเข้าใจสัจจะแบบเบาๆ สบายๆ
ของผม อ่านะ
-----------------------------------------------------------------



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 21:37:05 น. 0 comments
Counter : 1702 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
5 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.