ภูมิปัญญาโบราณ ใช้ได้จนถึงในปัจจุบัน-พรมมิ-พลูคาว
--ดวามรู้จากคัมภีร์พระเวทของอินเดีย ในสาขาอายุรเวท พบว่าใช้พืชที่ชื่อ พรมมิ เป็นยารักษาโรคความจำเสื่อม--ซึ่งของไทยก็มี เรียกว่า "ผักมิ" ใช้แกล้มพวกลาบ น้ำพริก--มีการผลิตออกมาจำหน่ายแล้ว ---ผักพลูคาว ท้องใบมีสีแดง ขึ้นตามที่ชื้นแฉะ ปัจจุบันนำมาทำเป็นยาอายุวัฒนะ --------------------------------------------------------------------
มหาวิทยาลัยนเรศวรเจ๋ง! วิจัย สมุนไพร พรมมิ ช่วยบำรุงความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เทียบเท่า แปะก๊วย-โสม จดอนุสิทธิบัตรแล้ว รอเอกชนสนใจรับไปผลิตเชิงพาณิชย์ ช่วยลดการนำเข้าสมุนไพรต่างระเทศ วันที่ 19 มีนาคม ที่โรงแรมมิราเคิล ในการอภิปรายเรื่อง เส้นทางพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาพัฒนา พรมมิ เพื่อใช้เป็นสมุนไพรบำรุงความจำ โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยเป็นระยะเวลา 3 ปี ประมาณ 14 ล้านบาท ตั้งแต่พัฒนาการปลูก การศึกษาทางเคมี การสกัด การพัฒนาวิธีการสังเคราะห์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรพรมมิ การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดพรมมิในทางเภสัชวิทยาทั้งในระดับหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง การศึกษาพิษวิทยา รวมถึงการทดลองทางคลินิก ซึ่งผลการศึกษา พบว่า สารสกัดที่ได้จากต้นพรมมิมีสารซาโปนิน (saponins) สามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลกระตุ้นความจำและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ประสาท ซึ่งสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย รศ.ดร.กรกนก กล่าวต่อว่า ล่าสุด คณะผู้วิจัยได้ศึกษาผลของพรมมิในอาสาสมัครที่ร่างกายปกติ อายุ 55 - 70 ปี จำนวน 60 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ยาหลอกและได้สารสัดพรมมิขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า สารสกัดพรมมิช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว เพิ่มการตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีสมาธิมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจำ คลายอาการซึมเศร้า ไม่พบอาการพิษและภาวะข้างเคียงใดๆ ในอาสาสมัคร รศ.ดร.กรกนก กล่าวอีกว่า โดยก่อนหน้านี้ ได้ทำการทดลองกับหนูเป็นเวลา 14 วัน พบว่า หนูมีการเรียนรู้และความจำที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ได้ทดลองในหนูที่เกิดการเหนี่ยวนำให้มีสภาวะความจำบกพร่องและความจำเสื่อมพบว่า เมื่อให้สารสกัดพรมมิติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ก่อนสมองถูกทำให้บกพร่อง พบว่า พรมมิสามารถป้องกันความสูญเสียความทรงจำได้ ส่วนการศึกษาทางพิษวิทยาพบว่าสารสกัดพรมมิมีความปลอดภัยไม่พบมีผลข้างเคียงใดๆ ขณะนี้ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ผลิตยาเม็ดขนาด 300 มิลลิกรัม เป็นยาต้นแบบที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมและมีความคงตัวดี และทราบว่าขณะนี้มีบริษัทเอกชนหลายรายให้ความสนใจติดต่อมายัง วช. เพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ในส่วนการต่อยอดโครงการการวิจัยนั้น วางแผนที่จะขอสนับสนุนงบประมาณในการศึกษาการใช้สารสกัดดังกล่าวในเด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้น รวมถึงการศึกษาด้านพิษวิทยาในระยะยาวด้วย รศ.ดร.กรกนก กล่าว รศ.ดร.กรกนก กล่าวอีกว่า สำหรับการรับประทานอาหารเสริมพรมมิ ควรรับประทาน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อรับประทานเพียง 2 เดือน ก็จะเห็นผลได้ชัดเจน ซึ่งนอกจากผู้สูงอายุแล้ว อาหารเสริมดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ในกลุ่มเด็กนักเรียน วัยทำงาน เพื่อเป็นการบำรุงเซลล์สมอง แต่ไม่แนะนำให้เด็กต่ำกว่า 12 ปี หรือสตรีมีครรภ์รับประทาน ที่ถือเป็นกลุ่มที่อ่อนไหว เปราะบางเนื่องจากยังไม่มีการทดลองในเด็ก จึงยังไม่มีผลวิจัยด้านความปลอดภัยชัดเจน ทั้งนี้ สารซาโปนิน ที่พบในพรมมิเป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในโสม หรือ แปะก๊วย (ginkgo) ซึ่งพรมมิเป็นสมุนไพรของอินเดียในศาสตร์อายุรเวช แต่เป็นพืชล้มลุกที่สามารถเพาะปลูกและขยายพันธุ์ได้ง่ายในประเทศไทย ดังนั้น หากมีการนำพรมมิมาใช้ก็จะถือเป็นการลดการนำเข้าสมุนไพรอย่างโสม หรือ แปะก๊วย ที่เป็นสมุนไพรที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ----------------------------------------------------------------
ผักพรมมิบำรุงฟื้นฟูเซลสมอง -----------พรมมิ ผักพื้นบ้าน ไม้ประดับและสมุนไพรในต้นเดียวกัน พืชที่ในอนาคตอันใกล้คงจะบูมอย่างแน่นอน เนื่องจากสรรพคุณในการบำรุงฟื้นฟูเซลสมอง ซึ่งมีคุณบัติที่สูงและเหนือชั้นกว่า Ginkgo และมะขามป้อม
อีกทั้งสามารถพบได้กลาดเกลื่อน สามารถขยายพันธุ์และเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ผลผลิตสูงจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งที่จะได้ทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้
พรมมิ หรือ Bacopa monnieri L.Wettst. เป็นผักพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไป ในประเทศไทยโดยมีถิ่นกำเนิดในเนปาลและอินเดีย เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบก ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ เช่นขอบสระน้ำ ลักษณะลำต้นใหญ่ อวบน้ำ ไม่มีขน เลื้อยทอดไปตามพื้นและชูยอดขึ้น
ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ค่อนข้างยาว โคนใบแคบ ปลายใบกว้างมนกลม ขอบใบเรียบ แตกจากลำต้นแบบตรงกันข้าม ออกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบกลีบดอกสีขาวหรือสีครามอ่อน ตอนโคนติดกันเป็นหลอดตอนปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรตัวผู้มี 4 อัน ติดอยู่กับกลีบดอก
ประโยชน์ : ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับในตู้ปลาหรือในสวนน้ำ รับประทานเป็นผักพื้นบ้าน
มีสรรพคุณทางการแพทย์อายุรเวท ในด้านการบำรุงความจำ นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับนักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้พัฒนาสารสกัดและการควบคุมคุณภาพสมุนไพรพรมมิ เพื่อใช้ในเชิงอุตสาหกรรม
และศึกษาพบว่าสารสกัดพรมมิ มีผลต่อการเสริมความจำและการเรียนรู้ รวมทั้งมีผลป้องกันเซลล์ประสาท โดยไม่ทำให้เกิดพิษในสัตว์ทดลองเมื่อให้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนนับเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อไป
มีรายงานการวิจัยที่ศึกษาถึงผลของพรมมิต่อความจำ และการเรียนรู้ เป็นการศึกษาในสัตว์ทดลอง โดยพบว่าสารสกัดจากพรมมิในขนาด 10 มล./กก. ป้อนให้หนูขาวกินนาน 24 ชม. จะทำให้หนูขาวมี การเรียนรู้ดีขึ้น เมื่อทดลองในโมเดลของสัตว์ทดลองที่ถูกทำให้เกิด อัลไซเมอร์
การป้อนสารสกัดมาตรฐานจากพรมมิ (ซึ่งมีประมาณสาร bacoside A 82.0 ? 0.5%) ให้สัตว์ทดลองในขนาด 5 และ 10 มก./กก. นาน 14 วัน จะช่วยลดการสูญเสียความจำได้ และเมื่อทดลองให้สารสกัดจากพรมมิขนาด 40 มก./กก. นาน 7 วัน ในสัตว์ทดลอง ร่วมกับยากันชัก Phenytoin สามารถลดผลข้างเคียงของยาที่ไปทำให้การรับรู้ของสัตว์ทดลองเสียไปได้
ข้อมูลจาก : สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ในต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดีย ญี่ปุ่น พรมมิถูกพัฒนาเป็นยาและ อาหารเสริมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งสารสกัดออกฤทธิ์ ยาสระผม น้ำมันนวด ชา แต่ในบ้านเรานั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ส่วนมาก รู้จักกันในน้ำไม้ประดับตู้ปลา และทานเป็นผักพื้นบ้านกัน โดยเฉพาะ ทางอีสาน ซึ่งเรียกกันว่า ผักมิ
ผักมิต้นจะไม่มีขนใบจะหนาอวบน้ำ และขอบใบมนไม่แหลมเหมือนต้นลานไพลิน แต่เป็นพืชกลุ่มเดียวกัน
ที่ร้านขายไม้น้ำสังเกตุลักษณะไปให้ครบแต่ว่าถ้าต้นมันไม่พ้นน้ำ ใบมันจะออกบางหน่อย แต่พอพ้นน้ำแล้วใบมันจะหนามากขึ้น สังเกตุว่าต้นจะไม่มีขน ถ้ามีขนจะเป็นลานไพลิิน
ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ก็หาตามท้องร่องเอาไปหาตามตลาดที่ขายผักพื้นบ้าน แล้วเอามาชำก็ได้
มีอีกตัวที่กำลังวิจัยกันอยู่ นั่นก็คือพริกไทยดำ แต่สารสำคัญออกฤทธิ์คนละอย่าง จะประมาณมีผลต่ออารมณ์ ทำให้สดชื่นแจ่มใส และปรับสมดุลเคมี ในสมอง ---------------------------ขอบคุณบล็อก--poivang------------------ สมุนไพรพลูคาวมีประโยชน์อย่างไร? สรรพคุณทางเภสัชวิทยาของพลูคาวคือ *สร้างภูมค้มกันกระตุ้นการแบ่งตัวของเม็ดเลือดขาวและทำงานได้ดีขึ้น *ทำลายเซลล์มะเร็งเพาะเลี้ยงทั่วไป 5 ชนิด ; ปอด, สมอง, เนื้อร้าย, รังไข่, ลำไส้ใหญ่, เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว 5 ชนิด li210, u937, k526, raja, p3 hr 1 *ฆ่าเชื้อไวรัส ชนิด HIV-1, HIV1 ไข้หวัดใหญ่, งูสวัด, หัดเยอรมัน, โดยไม่ทำลายHostCell *ต้านเชื้อรา_กลาก, เกลื้อน, สังคัง, ฮ่องกงฟุต, สะเก็ดเงิน-ทอง, เยื้อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อรา, ปอดอักเสบ *ต้านแบคทีเรีย_โรคท้องร่วง, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ, ฝี, โรคระบาดทางระบบสืบพันธ์_ตกขาว *ต้านอักเสบ_หลอดลมอักเสบ, ปอดอักเสบในเด็ก, รูมาตอย, แผลหลังการผ่าตัด, แผลไฟไหม่, น้ำร้อนลวก, หนองใน, ปวดฟัน, *ขับปัสสาวะ ------------------------------------------- คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเพื่อนๆ ที่ช่วยกันโหวต ประโยชน์ของพลูคาว 1. ฤทธิ์ระงับปวด เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ห้ามเลือด รักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย 2. ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบสารฟลาโวนอยด์ ที่แยกได้จากใบพลูคาวเป็นสารสำคัญในการออกฤทธิ์ 3. ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ น้ำมันหอมระเหยจากการกลั่นส่วนเหนือดินของพลูคาว พบว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรงต่อเชื้อ Bacillus cereus และ B. Subtilis เชื้ออหิวาต์ Vibrio cholerae 0-1 และ V. Parahaemolyticus 4. ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมัน
พลูคาว.มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Houttuynia cordata Thunb. จัดอยู่ในวงศ์ (family) Saururaceae เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกอายุหลายปี พบได้ทั่วไปในทวีปเอเชียตั้งแต่แถบเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเวียดนาม รวมทั้งไทยและญี่ปุ่น พลูคาวจะเป็นพันธุ์ไม้ที่รู้จักกันดีของทางภาคเหนือของไทย ผักพื้นบ้านที่ทางภาคเหนือเรียกว่า ผักคาวตอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสานเรียก ผักคาวทอง... เนื่องจากว่ามัน ที่กลิ่นคล้ายกับกลิ่นคาวของปลา สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยได้สูงขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพในรักษาได้มากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีรังสีรักษา ส่งผลให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นและยืดอายุของผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามได้นานขึ้น
ปัจจุบัน พลูคาวหรือคาวตองได้ถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชื่อว่า "โดคุดามิ" โดยบริษัทโปรแลคประเทศไทยจำกัด ซึ่งมี นพ.สมทรง รักษ์เผ่า อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค(กรมควบคุมโรคติดต่อ) และอดีตอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยา (อย.) มีเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง " โดคุดามิ" นี้ได้ถูกส่งออกขายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมีตลาดใหญ่ ได้แก่ อเมริกา และแอฟริกา
"โดคุดามิ" หรือ "พลูคาว" นอกจากใช้ได้ดีในผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว ยังพบว่าสามารถใช้ได้ผลในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต รักษาแผลเรื้อรังซึ่งสามารถใช้ทาแผลได้ และผลในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายต่างๆ จะช่วยในการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งผลการทดลองในห้องปฎิบัติการพบว่าสามารถทำลายเชื้อ HIV-1(โรคเอดส์) เชื้อรา และแบคทีเรียหลายชนิดอีกด้วย
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ //www.tarad.com/proact ที่มา: ที่มาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 //www.ist.cmu.ac.th/riseat/nl/2003/12/03.php //www.budpage.com/budboard/show_content.pl?b=1&t=10138 ----------------------------------------------------------------------
Create Date : 11 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 21:22:04 น. |
|
5 comments
|
Counter : 8417 Pageviews. |
|
|
|
ได้รับความเชื่อถือด้านความซื่อตรง มั่นคงเรื่องระบบ รูปแบบเกมส์เพลิดเพลิน ตื่นเต้น เร้าใจ ทำให้ท่านได้ลุ้นระทึกทุกเกมส์การเล่นเสมือนได้เข้าไปนั่งเล่นจริงที่คาสิโนโดยท่านไม่ต้องเสียเวลา
เดินทางให้เหน็ดเหนื่อย เล่นได้โทรมาขอถอนเงินสดกับเราได้ทันที เรามีทีมงาน Call Center มืออาชีพไว้คอยบริการท่านตลอด 24 ชม.นอกจากนี้แล้วเรายังมีบริการ SportBook ออนไลน์จากหลายค่าย
ยอดนิยมไว้บริการท่าน เช่น SBOBET , IBCBET , 3M BET , STSBET , WINNINGFT
สนใจติดต่อเราที่ 080-7977773-6
www.sanookbet@gmail.com
//www.Sanookbet.com
Sanookbet.com