โลกหน้า-ปรภพ-อยู่ที่ดาวดวงหนึ่ง

นักวิทยาศาสตร์รัสเซียไขปริศนา "โลกปรภพ" อยู่ที่ไหน
25-11-2010, 05:41 PM จากเว็ปพลังจิต
pinitko สมาชิก

คนไทยเรามีประเพณีปฏิบัติ เมื่อ จุดธูป 1 ศพ คนตาย มักส่งจิตอธิษฐาน ขอให้ดวงวิญญาณคนตายจงไปสู่สรวงสวรรค์ หรือ “ปรภพ”

โลกปรภพในความเชื่อของชาวพุทธ เป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณ ซึ่งเดิมเชื่อว่าเป็นดินแดนสวรรค์ ทั้ง 16 ชั้นฟ้า แต่ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ให้คำตอบ ดินแดนปรภพ ไม่ใช่สวรรค์ เป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุข ไร้ทุกข์ ไร้กังวล

นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ชาวโปแลนด์ เบอร์นาร์ด ชิมลิตต์ แห่งสถาบันเฟิร์สต์ สเปซ ไซน์ โพลีเทคนิค แห่งกรุงกลาสโกว์ กล่าว ยืนยันว่า จากการเฝ้าสังเกตการณ์และตรวจ ชั้นบรรยากาศอย่างละเอียด เรามั่นใจว่าดวงดาว เอ็มโอเอ-192 บี (MOA-192 b) ซึ่งตั้งอยู่ใน กลุ่ม ดาวแคปริคอน (ม้ามีหัวเป็นคน ราศีที่ 9 จาก 12 ราศี) ซึ่งอยู่ห่างจากดาวโลก ราว 3,000 ปีแสง

คือแดนสวรรค์ที่สิงสถิตของ ดวงวิญญาณ หรือที่ชาวพุทธเรียกว่า ดินแดน "ปรภพ"

“เรานำข้อมูลที่เก็บมาได้ โดยเฉพาะ ข้อมูลชั้นบรรยากาศ บอกให้รู้ถึงร่องรอยสิ่งมีชีวิต อาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น 2 กรณี”

“ประการแรก เราตรวจพบสัญลักษณ์พลังงานไฟฟ้าระดับต่ำ ซึ่งเป็นไปได้ว่าไฟฟ้าเกิดจากพายุฟ้าคะนอง หรือเกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก็ได้”

“ประการที่ 2 เราตรวจพบคล้าย เป็นดินแดนที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่มี รูปแบบต่างไปจากคน บริเวณขั้วโลกเหนือ ของดวงดาว MUA-192 b”

“ชั้นบรรยากาศดวงดาวแห่งนี้ แตกต่างไปจากชั้นบรรยากาศของโลก สิ่งที่น่าตระหนก เราพบว่ามีก๊าซคาร์บอน- ไดออกไซด์ เกิดขึ้นในปริมาณสูงมาก พอ ๆ กับการพบไอน้ำระเหยขึ้นมาในชั้นบรรยากาศ”

“ทั้ง 2 ประการนี้ ล้วนเป็นร่องรอย ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นับเป็นการค้นพบครั้ง ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ ที่ได้พบ ร่องรอยว่าดาว MOA อาจเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต ที่มีอารยธรรมสูง”

ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญด้าน วิปัสสนาอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าว หากเป็น ดวงวิญญาณ ก็ย่อมมีลักษณะเป็นกายทิพย์ (ขณะมีชีวิตอยู่บนโลก กายทิพย์ อาศัยอยู่ใน กายหยาบ)

ทั้งนี้ตั้งแต่การเริ่มต้นศึกษาวิจัยกลุ่มดาวที่อยู่ห่างจากโลก 3,000 ปีแสง เมื่อหลายปีก่อน ทีมงานนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ เบอร์นาร์ด ชิมมิตต์ พบว่ามีกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งมีชั้นบรรยากาศแตกต่างไปจากโลกโดยสิ้นเชิง นับแต่นั้นมาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ทางไกลแรงสูง คอยติดตามความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด

ต่อมาได้ประสานงานกับโรงการ “พลังโทรจิต” ที่ยูเครน (เดิมเป็นสหภาพ หนึ่งของรัสเซียปัจจุบันแยกตัวเป็นอิสระ) ซึ่งรัฐบาลสหภาพรัสเซีย ตั้งโครงการขึ้น ในยุคสงครามเย็น

โครงการลับสุดยอดพลังโทรจิต ทางไกล ตั้งขึ้นบนข้อสมมติฐานว่าเมื่อคนเราฝึกฝนทางจิตจนแก่กล้า จนสามารถ ถอดดวงจิตออกจากร่างกาย ได้แล้ว ก็สามารถท่องจักรวาลไป ที่ไหนก็ได้ โดยมีความเร็วเหนือกว่า ความเร็วของแสง

โครงการนี้มีหน่วยงานข่าวกรอง รัสเซีย หรือเคจีบี. เป็นเจ้าภาพ โดยรับคัดเลือก ผู้มีพลังจิตสูงมาแต่กำเนิดมาฝึกเพิ่ม ต่อมา ได้สร้างผลงานดีเด่น เมื่อครั้งเครื่องบินรบ มิก.29 ฟอกซ์ แบท ของรัสเซียตกที่โคลัมเบียทั้งเคจีบี.และซีไอเอ.ต่างแย่งชิงเพื่อไปถึงซากมิ ก.29ก่อนอีกฝ่าย เพราะ มิก.29 ในยุคนั้นคือ เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดทรงอานุภาพที่สุด

ซีไอเอ. ใช้พิกัดจากดาวเทียมจารกรรม แต่เคจีบี.ใช้นักพลังจิตตามโครงการโทรจิตทางไกล แผ่พลังจิตตามหาซากเครื่องบิน

ปรากฏว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ไปถึงซากเครื่องบินก่อน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐรู้ว่า ตกอยู่ในหุบเขา แต่ไม่อาจเจาะจงได้ เป็นที่ จุดใด

หลังจากรัสเซียประสบความ สำเร็จจากโครงการนี้ รัฐบาลสหรัฐ โดย ซีไอเอ. ก็ได้ตั้งแผนงานโทรจิตทางไกล ขึ้นมาเช่นกัน แต่พัฒนาได้ไม่ทันรัสเซีย

เมื่อนักวิทยาศาสตร์โปแลนด์ ไป ประสานงานไปยังรัฐบาลยูเครน ขอตัวนัก พลังจิตมาช่วย เพื่อถอดดวงจิตเดินทางไปยัง ดวงดาว MOA-192 b

วิธีส่งพลังจิตเดินทางไกล คือการ นั่งเข้าสมาธิให้พลังจิต เดินทางไปยังจุดหมาย ปลายทางที่กำหนด

ผู้รู้อธิบายตรงนี้ว่า คือการทำ วิปัสสนากรรมฐาน จนกระทั่งเกิดฌานชั้นสูง ระดับอภิญญาฌาน ดวงจิตจึงถอดออกจากร่างได้ และดวงจิตที่ถูกถอดออกจากกายหยาบนี่เอง เรียกกันว่า “กายทิพย์”

การเข้าฌานโดยนักพลังจิตยูเครน ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงว่าใช้เวลาไปกลับ ดวงดาว MOA แค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น แต่หากนักวิทยาศาสตร์โลกสามารถสร้่าง ยานอวกาศมีความเร็วเท่าความเร็วของแสงได้ ยานลำนั้นใช้เวลาเดินทางถึง 3,000 ปี จึงจะเดินทางถึงดวงดาว MOA ได้ (ระยะทาง 1 ปีแสง = 10 ล้านกิโลเ้มตร)

นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ เบอร์นาร์ด เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ผลการส่งพลังจิต ได้พบกับถิ่นฐานของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ มีเคหะสถานบ้านเรือนเหมือนชาวโลก แต่สร้างในรูปทรงต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ผู้ถอดดวงจิตยืนยันว่า เขาได้ พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีใบหน้ารูปร่างเหมือนกับ คนที่เขา่รู้จักด้วย ไม่ใช่จำได้แค่คนเดียว แต่จำได้หลายคน”

“ตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ โครงการวิจัยของเราสามารถสรุปได้ว่า คนบางคนเมื่อตายไปแล้ว ดวงวิญญาณของ พวกเขาเดินทางมาอยู่ที่นี่”

“เพื่อความมั่นใจ เราให้ผู้ส่งพลังจิต อย่างน้อย 3 คน ตรวจสอบหลายครั้งจนมั่นใจ ว่า เขาจำได้ว่าคนที่เขาพบเห็นในดวงดาว เอ็มโอเอ.จริง ๆ ไม่ได้ผิดตัวแต่อย่างใด”

“เขายืนยันว่าเขาพบนักเต้นบัลเล่ต์ ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาชื่นชอบมาก ขณะที่ เปิดการแสดงที่โรงละครกรุงมอสโคว์ ต่อมา นักบัลเล่ต์ผู้นี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ได้ไม่นาน เขาได้ถอดจิต แล้วไปพบกันที่นั่น”

“ไม่มีการพูดคุยกับผู้ที่อยู่บนดาว เอ็มโอเอ. กับพลังจิตที่ส่งออกไปจากโลก เพราะ ผู้ที่อยู่ที่นั่น มองไม่เห็นพลังจิต” นักดาราศาสตร์ เบอร์นาร์ดกล่าว

โครงการได้ทดลองนำภาพ คนตายจำนวน 43 คน ให้นักพลังจิตดู ว่าพบใครบ้างที่โน่น ปรากฏว่านักพลังจิต 2 คน จำได้ 3 คน

“ภาพใบหน้าที่เราเอาไปให้เลือกดู ล้วนเป็นคนตายในช่วงเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ตรงนี้เป็นอีกข้อมูลยืนยันว่าดวงวิญญาณ เดินทางด้วยความเร็วพอ ๆ กับพลังจิต”

“นักพลังจิตที่ส่งพลังจิตไปสำรวจ ดวงดาวเอ็มโอเอ. อธิบายว่าไม่ได้มีความเหมือน กับแดนสวรรค์ ตามภาพวาดตามผนังโบสถ์ แต่อย่างใด ไม่มีกลุ่มเมฆ ไม่มีนางฟ้า เทพ สวรรค์ หรือถนนปูลาดด้วยทองคำ”

“ภาพลักษณ์ดินแดนปรภพ เหมือนเมืองเล็ก ๆ อยู่ตามภูธร ไม่มีรถยนต์ ไม่มีเครื่องจักร ผู้คนอยู่อย่างสงบสุข”

“ผู้อยู่ที่นั่นล้วนมีสุขภาพดี ปรากฏตัว เป็นอย่างไรก็อยู่เช่นนั้ตลอดไป ไม่มีความแก่เฒ่า ไม่มีอาการเจ็บป่วย ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีสงคราม”

“ไม่มีเด็กเกิดใหม่ พบเห็นผู้คน หน้าใหม่เดินออกจากอาคารขนาดใหญ่ เหมือน ศูนย์รับส่ง เหมือนศูนย์กลางรอรับดวงวิญญาณ มาจุติที่นี่” ดร.เซอร์ไก อูซนิดอฟ ผู้อำนวยการ โครงการโทรจิตทางไกลแห่งยูเครนกล่าว

“ในโลกของเราอาจมีกลไก ธรรมชาติที่เรายังค้นหาไม่พบ ทำหน้าที่เป็น ภาคส่งดวงวิญญาณไปยังดาวดาวต่าง ๆ ทั่วทั้งจักรวาล ไม่จำเพาะเจาะจงที่ดวงดาว เอ็มโอเอ. เท่านั้น”

ดร.เซอร์ไกกล่าวอีกว่า “มีนักวิจัย บางคนบอกกับผมว่ามีอยู่ทฤษฎีหนึ่ง ที่เป็น ไปได้สูง เกี่ยวกับพลังชีวภาพ (bioenergy) ซึ่งในร่างกายคนทุกคนมีพลังงานนี้ จะปรากฏ ออกมาเมื่อคนกำลังจะตาย ทำหน้าที่เป็นแรงส่ง ดวงวิญญาณไปยังดวงดาวต่าง ๆ”

แล้วแรงส่ง “พลังชีวภาพ” จะ เลือกส่งดวงวิญญาณหรือกายทิพย์ไปยัง ดวงดาวใกล้ไกลโดยอาศัยเหตุปัจจัย อะไร? พระนักวิปัสสนา ผู้ได้ฌานมาบ้าง แล้ว ต่างรู้ดีว่า...ล้วนมีบาปบุญคุณโทษเป็น ตัวกำหนดนั่นเอง

ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ผมดีใจที่นักวิทยาศาสตร์พิศูจน์เรื่องราวเหล่านี้ได้ ตามหลักของวิทยาศาตร์เอง ในฐานะที่ผมนับถือศาสนาพุทธ และเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ พระองค์ท่านได้ไขปริศนาเรื่องราวเหล่านี้มากว่า 2500 ปีมาแล้ว

Credit : plak.nokroo.com

From : Boss/....

------------------------------------------------
การเข้าฌานโดยนักพลังจิตยูเครน ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงว่าใช้เวลาไปกลับ ดวงดาว MOA แค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น แต่หากนักวิทยาศาสตร์โลกสามารถสร้่าง ยานอวกาศมีความเร็วเท่าความเร็วของแสงได้ ยานลำนั้นใช้เวลาเดินทางถึง 3,000 ปี จึงจะเดินทางถึงดวงดาว MOA ได้ (ระยะทาง 1 ปีแสง = 10 ล้านกิโลเ้มตร)

ลองอ่านดูตรงนี้ ผมว่ามันแปลกๆ ทำไมจิตถึงเดินทางเป็นชั่วโมงเคยได้ยินแต่ว่า พอนึกแล้วถึงเลย 55
-----------------------------------------------------
"พลังชีวภาพ" ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เรียก ในขณะที่คนเราเสียชีวิตไปแล้ว จะมีพลังงานบางอย่างเป็นตัวผลักให้ดวงวิญญาณไปอยู่ยังที่ใดๆ ในจักรวาล ...พลังงานที่ว่านั้นก็คือ
บุญ กับ บาป นั่นเอง อีกหน่อยศาสนาทั้งหลายก็คงจะสูญสลายไป เพราะไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ ยกเว้น พุทธศาสนา ที่ยังคงเป็นหนึ่งในโลกตลอดกาล เพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งจักรวาล (ขนาดไอสไตน์ยังบอกไว้เลย) ...แต่น่าเสียดายตรงที่ไอสไตน์ มาเจอศาสนาพุทธ ช้าไปหน่อย คือมาเจอเอาช่วงปลายของชีวิตแล้ว จึงยังไม่ได้ทำการทดลอง หาเหตุผลมาอธิบาย ความรู้ที่ พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบมาแล้วเมื่อ 2500 ปีก่อน ...แต่ปัจจุบัน ความรู้ที่พระพุทธองค์ ทรงค้นพบกำลังจะถูกเปิดเผย ออกมาสู่ชาวโลกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว....

ผมคิดอยู่เสมอๆ ว่า
เทพเจ้า ที่ลงมายังโลกมนุษย์ ที่ทรงสัตว์ๆเป็นยานพาหนะ
แท้จริงแล้วอาจเป็น ยานอวกาศ
แต่คนสมัยโบราณ ไม่รู้จัก เครื่องจักรกล หรือยานอวกาศ
จึงเปรียบเสมือน สัตว์ต่างๆบนโลก เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
และเป็นเพราะรูปร่างของยาน หรือสิ่งอื่นๆ

มีใครคิดเหมือนผมไหม...(เอ๊ะ..ทำไมผมจึงมักคิด ในสิ่งที่แตกต่าง..)
__________________

มนุษย์ผู้โง่เขลา....


--------------------------------------------------------
ไม่แตกต่างนะความคิดแบบนี้ มีคนคิดประมาณนี้อีกเพียบ เรื่องพระเจ้ามาจากอวกาศ หรืออีกทฤษฎีก็ เป็นมนุษย์ในอนาคตใช้ไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับมา

อีกเรื่องคือ คนอาจจะเป็นประดิษฐกรรมจากการโคลนนิ่งของมนุษย์ต่างดาว แบบเดียวกับสัตว์หิมพานต์หน้าตาแปลกๆ ที่เป็นส่วนผสมของสัตว์ต่างๆ หลากหลายน่ะเอง

ส่วนเรื่องการทรงเจ้า หรือเทพผ่านร่าง ก็อาจจะเป็นการที่มนุษย์ต่างดาว เลือกคนจำนวนนึงบนโลก ที่มีความพิเศษตรงที่มีเสาอากาศรับกระแสโทรจิตของตัวเองได้ มาทำหน้าที่เครื่องมือสื่อสารก็ได้นะ
__________________
ขอแหล่งข้อมูลหน่อยได้ไหมครับ ว่าเอามาจากนิตยสารอะไร ขอบคุณครับ
-----------------------------
แปลกทะลุโลก ผมเคยอ่านเจอ น่าจะของเดือน กันยา-ตุลา
__________________

ในจักรวาลนี้ไม่ได้มีโลกธาตุนี้เพียงแค่โลกธาตุเดียว
แต่มีเป็นหมื่อนโลกธาตุ ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมดาวดวงอื่นจึงมี
สิ่งมีชีวิต แต่เพียงแค่เรามองไม่เห็นเขาเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดี นรก สวรรค์มีมันอยู่ ที่ใหน
ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ มีบทสวดหนึ่งในพระคาถาสรรเสริญพระธรรมคุณนั้นกล่าวไว้ว่า ปัตจัตตัง เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตนดังนี้ ฉนั้นเมื่อเราละจากโลก
นี้ไปเราก็ย่อมรู้เองครับ ไม่ต้องไปสงสัยว่ามันอยู่ที่ใหน ตามรู้อยู่กับ ปัจจุบันนี่แหละครับ ดีที่สุดครับ หมั่นสร้างกุศลให้มาก รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา
ละจากโลกนี้ไปแล้วย่อมเข้าถึงสุขติโลกสวรรค์แน่นอนครับ

หรือถ้าอยากรู้อยากเห็นจริงให้ถึงที่สุดของการปฏิบัติแล้วท่านก็จะรู้เอง

------------------------------------
อ่านดูแล้วมันแปลก ๆ เหมือนกัน ผมว่าอุปาทานกินเสียแล้ว เต็มที่ผมให้แค่ญาณ 5 เอ้า ยังเรียกว่าอภิญญาไม่ได้หรอก ถ้าอภิญญาทำไมเห็นต่างจากพระพุทธเจ้า หรือหลวงพ่อฤษาษี เอาแค่นี้ดีกว่า ดังนั้นถ้าเป็นอย่างนั้น มันต้องมีสักคนที่หลอกเราถูกไหม แล้วใครล่ะที่หลอก เอาปัญญาคิดดีกว่า แค่เรื่องดูรูปคนตายแล้วไปพบที่นั่นที่นี่ แค่นี้ถ้ารักษาอารมณ์อยากรู้อยากเห็นไม่อยู่ล่ะก็ อุปาทานรับประทานเต็ม ๆ ครับ เรานักปฏิบัติเอาแค่ มโนมยิทธิครึ่งกำลังก็รู้สภาพจิตของตัวเองแล้วว่า ไอ้ที่เรียกว่าอุปาทาน กับไม่อุปาทาน มันต่างกันยังไง พลังจิตที่มีใช้อยู่ในโลกเราตอนนี้ กำลังมันเทียบไม่ได้กับพลังจิตที่เป็นญาณ ที่ฝึกจากกรรมฐานเลย มันกำลังหมู กับกำลังช้าง กสิณกองเดียวก็เหลือแหล่แล้ว.

ไม่ได้เถียงนะว่าจักรวาลอื่นไม่มี ผมเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงเพราะเคยเห็นมาแล้ว แต่ดันไม่มีคนเชื่อ แต่ดาวที่มีลักษณ์เป็นนรก สวรรค์อยู่ในจักวาลเดียวกับเรานี่ ไม่เชื่อ เรื่องนรกสวรรณ์นี่วิทยาศาสตาร์อีก พันปีก็พิสูจน์ไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นพลังงานที่ละเอียดเกินว่าที่จะมีเครื่องมือใดวัดได้ (ความเชื่อส่วนบุคคล)
__________________
ด้วยความเคารพนะครับพี่
พอดีพึ่งไปอ่านหนังสือเรื่อง ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น
ในหนังสือเค้าเขียนไว้ในหลักการที่ค่อนข้างมีเหตุผลว่า จิตเราเป็นเหมือนกับพลังงานครับ พลังงานแสงก็ต้องใช้ระยะเวลาการเดินทาง เหมือนในหนังสือพูดไว้ประมานว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน กับ หลักวิทย์ เริ่มจะใกล้เคียงกันมากๆแต่ตีความต่างกัน พระพุทธเจ้าทราบอยู่แล้วว่าในร่างกายคนมี โมเลกุลแต่ในสมัยนั่น ท่านอธิบายไปก็ไม่มีไคเข้าใจ อันนี้ต้องไปซื้อหนังสือมาอ่านนะครับว่ามาจาก พระสูตรเล่มไหน อย่างเรื่องช่วงของเวลามี อยู่ครั้งนึงที่ องคุลิมาณ วิ่งไล่เพื่อจะทำร้ายพระพุทธเจ้าแต่วิ่งยังไงก็ไม่ทัน องคุลีมานเลยตะโกนเรียกให้หยุด พระพุทธองค์ได้ตรัส ว่า เราหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด ในหนังสือเค้าเขียนเกี่ยวกับว่า นั่นก็เพราะความเร็วและเวลาขององค์คุลีมานและพระพุทธเจ้าไม่สัมพันธ์กัน อยากรู้ว่า ต่างกันยังไงไปซื้อหนังสือมาอ่านนะครับ ผทอธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่พออ่านแล้วรู้สึก ทึ่ง ถึงความน่าจะเป็นไปได้เลยละครับ

ขอบคุนครับ
Onepoint

ดาว MOA อาจเป็นแค่ที่พักของดวงวิญญาณที่หลุดพ้นจากความทุข ชั่วขณะ ก็ได้ ภพหนึ่งมีระยะห่าง 42,000 ไมย์ สมัยก่อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ภพทุกภพอยู่ร่วมกัน แต่เกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น อันนี้ไม่รู้จำไม่ได้ผมยังไม่เกิดเลย ที่ทำให้เกิดการแย่ห่างระหว่างภพ (แล้วป่าหินมพาน นี้มันอยู่ภพไหนหว่า แต่อยู่บนโลกมนุษย์นี้และ ปัจจุบันก็ยังมี )


Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:57:17 น. 1 comments
Counter : 6045 Pageviews.

 
ดีคร่า แวะมาทักทายน่ะค่ะ


โดย: www.24hotcasino.com IP: 180.183.243.47 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:14:14:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.