สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

อาหารเจต้านโรค






อาหารเจมีผักเป็นหลัก ซึ่งผักแต่ละชนิดมีสารอาหารต่างกัน อาทิ ผักกวางตุ้ง บร็อคเคอลี และผักกาดเขียวมีแคลเซียมสูง ช่วยเสริมกระดูกและฟัน การจับลิ่มของเลือด การหดตัวของกล้ามเนื้อการนำประสาทในกล้ามเนื้อหัวใจ ส่วนพืชผักใบเขียว เมล็ดธัญพืช เต้าหู้ มีแมกนีเซียมเสริมกระดูกและฟัน การนำประสาท การหดตัวของกล้ามเนื้อ เร่งเอนไซม์ เป็นต้น

ระหว่างกินเจร่างกายจะได้รับโปรตีนจากถั่วเหลืองทดแทน โปรตีนถั่วเหลืองมีคุณภาพดีเทียบเท่าเนื้อสัตว์และนม เพราะเป็นโปรตีนพืชชนิดเดียวที่ให้กรดอะมิโนครบถ้วน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโต เสริมสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย

ถั่วเหลืองมีกากใยอาหารสูงจึงช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งและโรคหัวใจ โดยสถาบันมะเร็งแนะนำให้บริโภคใยอาหารวันละ 25-30 กรัมจากอาหารพืช ซึ่งคนส่วนใหญ่มักบริโภคกันไม่ถึง ถั่วเหลืองจึงถือเป็นแหล่งใยอาหารที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่ง เพียงบริโภคถั่วเหลือง 1/4 ถ้วยตวงก็ได้รับใยอาหารสูงถึง 8 กรัม นอกจากโปรตีนและใยอาหารแล้วถั่วเหลืองยังอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายดังต่อไปนี้

มีทองแดงและแมกนีเซียมช่วยสร้างเม็ดเลือด สร้างความแข็งแรงให้กระดูกและหัวใจ

ถั่วเหลือง 1/8 ถ้วยตวงให้แคลเซียมสูงถึง 88 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ร่างกายดูดซึมแคลเซียมในถั่วเหลืองไปใช้ได้ดี การป้องกันโรคกระดูกพรุน มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดความดันโลหิต

การบริโภคเต้าหู้วันละ 1/2 ถ้วยตวง ร่างกายจะได้รับสารไอโซเฟลโวนส์เพียงพอที่จะลดคอเลสเตอรอล ยับยั้งการสลายของกระดูก และอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน เพราะสารไอโซเฟลโวนส์มีโครงสร้างคล้าย
เอสโตรเจน แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า 1,000-10,000 เท่าจึงไม่ให้ผลข้างเคียง
เหมือนการใช้ฮอร์โมนแทนในหญิงวัยหมดประจำเดือน


เมนูเจต้านโรค

การรับประทานอาหารเจติดกันตลอดสิบวัน จะช่วยปรับสมดุลให้ระบบย่อย ร่างกายจึงดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และในคอลัมน์ Vegetarian Menu ฉบับนี้ เรามี 4 เมนูอาหารเจต้านโรคมาฝากกัน ได้แก่ ซุปผักโขมแปะก๊วย , ยำเห็ดย่างพริกเผา , ผัดคะน้าเต้าหู้ยี้ และสลัดมะเขือเทศ

แต่ก่อนจะลงมือปรุง อย่าลืมดูกันสักนิดว่ามีสารอาหารอะไรจากส่วนผสมหลักในแต่ละจานที่คุณจะได้รับ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในฉบับค่ะ

ในช่วงกินเจ นอกจากเลือกกินผักผลไม้คละชนิดกันแล้ว ควรกินคาร์ไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี น้อย จำกัดไขมันด้วยการปรุงอาหารแบบต้ม นึ่ง ยำ ผัดใช้น้ำมันน้อย และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะอาหารที่มีกากใยสูงต้องการน้ำในการทำงาน หากดื่มน้ำไม่พออาจทำให้เกิดอาการท้องอืด มีแก๊ส ปวดท้องได้

หากทำได้ตามนี้รับรองว่าหลังจากกินเจ คุณจะมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์







 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
1 comments
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 9:00:25 น.
Counter : 972 Pageviews.

 

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 22 กรกฎาคม 2557 11:14:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.