สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
การป้องกันการเกิดโรคหัวใจ







ถ้ามองย้อนกลับไปที่ต้นตอของปัญหาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบและเกิดภาวะ อุดตันขึ้น ก็จะขอเรียกว่าเป็น ปัจจัยเสี่ยง หรือ Risk factors ซึ่งตามตำราทางการแพทย์ได้พิสูจน์ทราบอย่างชัดเจนไว้ดังนี้คือ

1. ภาวะความดันโลหิตสูง
2. ภาวะคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง และไขมันดี HDL ต่ำ
3. การสูบบุหรี่
4. โรคเบาหวาน
5. เพศชายที่อายุมากกว่า 45 ปี หรือหญิงที่อายุเกินกว่า 55 ปี หรือวัยหมดประจำเดือน
6. ประวัติโรคหัวใจในครอบครัว


จะเห็นได้ว่าปัจจัยเสี่ยงบางประการพอจะป้องกันได้ พอจะบรรเทาเบา
บางได้ เช่น 3-4 ข้อแรก แต่สองข้อหลังคงแก้ไขอะไรไม่ได้แน่นอน
ต่อไปก็จะได้ขยายความเป็นลำดับ


เริ่มกันที่ภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension) ความดันโลหิตหรือแรงดันเลือด (Blood pressure) ก็คือ แรงดันในหลอดเลือดที่เกิดขึ้นซึ่งประกอบไปด้วย ช่วงหัวใจบีบตัว (systolic) และหัวใจคลายตัว (Diastolic) เวลาแพทย์หรือพยาบาลวัดความดัน แล้วบอกคนไข้ว่าวัดความดันได้ 120/80 มม.ปรอท ก็คือ ความดัน Systolic (บีบตัว) = 120 มม.ปรอท และความดัน Diastolic (คลายตัว) = 80 มม.ปรอท นั่นเอง ความดันที่ว่านี้มีความสำคัญที่จะคอยดันสารน้ำและเม็ดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ต่ำมากไปก็ไม่มีกำลัง หรือเป็นลมได้ ถ้าสูงมากเกินไปก็อาจเกิดหลอดเลือด โดยเฉพาะที่สมอง แตก หรือตีบได้


สำหรับที่เส้นเลือดหัวใจก็เกิดเรื่องได้เช่นกัน ความดันโลหิตสูงที่เป็นนานๆ ก็จะไปทำลายเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ดังทีได้กล่าวถึงตอนต้น ทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพ และแข็งตัว ในที่สุดก็เกิดการตีบตัน


ถ้าหากมีก้อนไขมันที่ผนังหลอดเลือด ความดันโลหิตที่สูงมาก ก็อาจทำให้เกิดการแตกของก้อนไขมันอย่างเฉียบพลัน และเกิดการก่อตัวของลิ่มเลือด จนเป็นเหตุให้หลอดเลือดอุดตันตามมาดังที่กล่าวข้างต้น


สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนอื่นคือ ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่อาจไม่แสดงอาการอะไรเลยก็ได้ เรียกว่า ถ้าไม่ตรวจก็ไม่ทราบ การตรวจที่ว่าก็เพียงใช้เครื่องวัดความดันโลหิต ถ้าวัดซ้ำ ๆ กันสองสามครั้งแล้วสูงเกิน 140/90 มม.ปรอท ก็ต้องเริ่มระมัดระวังตัว ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงประเภทที่ความดันโลหิตสูงจนเส้นโลหิตสมองแตก หรือหัวใจโตมากแล้ว ประเภทนี้ต้องรักษากันเต็มที่อยู่แล้ว แต่ประเภทที่สูงไม่มาก หรือไม่อยากกินทานหาหมอเป็นพัก ๆ ตามอารมณ์ นี่สิน่าวิตก ประเภทนี้มีมาก

ความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้นประมาณ 95% เป็นประเภทที่ ไม่ทราบสาเหตุ (Essential hypertension) จนปัจจุบันนี้ก็ยังบอกได้ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ กรรมพันธุ์ สารอาหาร เกลือแร่ต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร ถ้าจะปฏิบัติตัวหรือรักษาก็จะมีการรักษาอยู่สองประเภท เรียกว่า การรักษาด้วยยา (Pharmacologic treatment) ซึ่งคงต้องฟังจากแพทย์ผู้ดูแลเป็นหลัก และอีกประเภทคือ การรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา (non pharmacologic treatment) ฟังดูแล้วน่าสนใจทีเดียว เพราะเวลาก็ไม่ต้องเสีย(นั่งรอหมอตรวจ) เงินก็ไม่ต้องใช้ (อาจใช้บ้าง) จะมีอะไรกันบ้างคงต้องอาศัยตามคำแนะนำของสมาคมแพทย์โรคหัวใจของอเมริกา (American heart association) เป็นหลัก ซึ่งแนะนำไว้ดังนี้

ข้อ 1 ลดอาหารเค็ม คิดเป็นปริมาณเกลือในอาหารให้น้อยกว่า 6 กรัม ประมาณช้อนชากว่าเล็กน้อย ต้องรวมอาหารที่มีเกลือ หรือความเค็มแฝงอยู่อื่น ๆ ด้วย เช่น อาหารทะเล ผลไม้ดอง อาหารสำเร็จต่าง ๆ ถ้าจะเอาให้สั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ ไม่ควรเติมเกลือ เติมน้ำปลา ในอาหารที่รับประทาน

ข้อ 2 ออกกำลังพอประมาณ ที่ว่านี้ไม่ใช่ต้องไปวิ่งมินิมาราธอน หรือเล่นกีฬาอย่างหนักเป็นชั่วโมงแล้วเลิกไปเป็นอาทิตย์ ๆ ที่จำง่าย ๆ คือ เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ครั้งละประมาณ 30-40 นาที อาทิตย์หนึ่งประมาณ 3-4 วัน

ข้อ 3 เลี่ยงรับประทานอาหารไขมันอิ่มตัวและคลอเลสเตอรอลสูง ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง มีแร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะโปแตสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งก็มักจะได้จากอาหารประเภทธัญญพืช ผลไม้ ข้าวกล้อง ถั่ว งา เป็นต้น

ข้อ 4 พักผ่อนทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ลดความเครียดในทางที่ถูกต้อง เช่น ทำสมาธิ การรู้จักสร้างอารมณ์ขัน การปล่อยละวางอย่างเหมาะสม

ข้อ 5 ลดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้พอประมาณ ที่ว่าก็คือ คนที่ไม่เคยดื่มก็ไม่ต้องไปหัดดื่ม แต่คนที่เคยดื่มมากควรต้องลดปริมาณลง โดยมีหลักดังนี้
วิสกี้ ไม่เกิน ¼ แก้ว/วัน เบียร์ไม่เกิน 1 ขวด/วัน ไวน์ไม่ควรเกิน 1 กระป๋อง (250 ซีซี/วัน)

ข้อ 6 ลดน้ำหนักในกรณีที่น้ำหนักเกิน

ข้อ 7 ข้อสุดท้ายคือ หยุดสูบบุหรี่ ศัตรูตัวฉกาจของหัวใจนั่นเอง

ทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมา ก็ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับคนที่มีความตั้งใจจริง แต่ที่สำคัญมีข้อแม้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตร เพราะผลดีที่จะเกิดต้องอาศัยเวลา





Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2552 11:08:35 น. 1 comments
Counter : 874 Pageviews.

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 22 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:12:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
5 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.