|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ถนนสายนี้.....มีตะพาบ : มหาลัยมหาหลอก
โจทย์ตะพาบครั้งที่35:โดยคุณเป็ดสวรรค์
มหาลัยมหาหลอก
มีน กุสุมา เขียนคำ
พัดโบกเป็นลูกสาวผู้ใหญ่ อยู่บ้านเนินสะเดา พ่อกับแม่รักเป็นนักหนา เพราะว่าเป็นลูกสาวคนเดียว หลังจากจบมัธยมปลาย ส่งลูกสาวเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ปีหนึ่งขายควายไปสิบตัว ปีสองขายวัวไปอีกหนึ่งฝูง ปีสามขายข้าวไปสามยุ้ง ปีสี่แม้แต่ผ้าถุงก็ไม่มีจะปิดกาย
พัดโบกเรียนสี่ปี ยังดีที่จบปริญญาตรี และแถมมาฟรีๆคือปริญญาโท ติดท้องมาสามเดือน ตอนนี้พัดโบก นั่งโบกไล่ยุงและไกวเปลให้ลูกน้อย ผลพลอยได้จากการศึกษา
พัดโบกไปเรียน เพียงต้องการแค่กระดาษหนึ่งแผ่น หวังเพียง ดวงเมื่อเรียนจบ
ด=เด็กใคร
ว=วิ่งเต้นมีเส้นมีสายหรือเปล่า
ง=เงินน่ะมีมั๊ย
ไม่ได้เล็งไปที่วิชาความรู้ที่จะมาใช้ประกอบอาชีพ พ่อแม่ก็เห็นดีเห็นงาม นำที่ทำกินไปจำนองอีกรอบ เพื่ออนาคตลูกสาว และรับภาระเลี้ยงผลพวงทางการศึกษาต่อไป
นี่คือตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นในสังคมชนบท ที่สื่อและรัฐช่วยกันประโคม เรื่องการศึกษา เพิ่งจะมีมาในระยะหลังๆที่หันมาให้ความสำคัญ กับภูมิปัญญาไทย ทำให้คนรุ่นใหม่ สำนึกรักบ้านเกิด อยู่และพัฒนาบ้านของตน ไม่อพยพย้ายเข้ามาเมืองใหญ่ และหลงทางขายที่ทำกินเดินเข้าโรงงาน
ฉันจำได้ว่าสมัยเรียน ฉันก็หลงทาง ฟังๆจดๆจำๆเพื่อทำคะแนน ไม่ได้มุ่งศึกษาเพื่อหาความรู้อะไร ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน อะไรเหมาะกับตัวเอง ดื้อรั้นดันทุรัง หลงทิศหลงทาง ไร้จุดหมาย
ครั้งหนึ่งฉันนั่งอยู่ในห้องเรียนกับเพื่อนๆ อาจารย์เดินเข้ามาในห้องพร้อมของสองชิ้น เป็นรูปภาพทั้งสองชิ้น จากนั้นแจกกระดาษให้นักศึกษาคนละสามแผ่น แล้วบอกว่าเห็นอะไรบ้างในของสองชิ้นนี้ ให้เขียนออกมาจากความรู้สึกของตัวเอง ไม่มีผิดไม่มีถูก เพียงแต่อยากให้พวกคุณคิดเอง
จากนั้นท่านก็นั่งทำอะไรเงียบๆอยู่ที่โต๊ะทำงาน วันนั้นเป็นวันแรกที่ฉันเดินทะลุออกจากกรอบทางการศึกษา ที่ต้องท่องจำกับตำรับตำราเพื่อจะนำไปสอบ พ.ศ.นี้ๆใครทำอะไร ก.ข.ค.ง.จ.ถูกทุกข้อ อะไรประมาณนี้ ฉันเห็นด้วยกับบางวิชาเช่นคณิตศาสตร์ เราอาจต้องจำสูตร เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการคิดคำนวณ
การใช้ความคิดในสิ่งที่ได้เห็นในวันนั้น ทำให้สมองได้ทำงาน ได้บริหารสมองในส่วนของจินตนาการ และการคิดวิเคราะห์เจาะลึก จากที่เคยนั่งท่องจำแบบจำใจ และรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือกำลัง
วันนั้นฉันขอกระดาษเพิ่ม อาจารย์มีหยอกเบาๆว่าปลื้มใจ ที่มีนักศึกษาคือฉันเป็นคนแรกที่ขอกระดาษเพิ่ม แล้วแซวเพื่อนๆว่าไม่ต้องเกรงใจ ที่ต้องใช้กระดาษเปลือง ส่วนใหญ่เขียนไปหน้าเดียว
ตอบแบบอายๆไปว่า
น้ำเยอะค่ะ ไม่เน้นเนื้อ ผักสามไร่ไก่ตัว น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลงมั๊ง
เพื่อนๆเริ่มสนุกกับวิธีการสอนแบบใหม่ และที่ถูกใจ วิพากกันในห้องเรียนและให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น แรกๆไม่ค่อยกล้า เพราะคนไทยคุ้นเคยกับคำชมซะมากกว่า แต่การติเพื่อก่อและสร้างสรรค์ เราได้เรียนรู้กันในชั้นเรียน จากอาจารย์ท่านนี้
ฉันเคยสงสัยว่าเพราะเหตุใดเด็กๆจึงหนีเรียนกัน ตอนนี้ความสงสัยนั้นหายไป การเรียนในบางวิชาที่แสนน่าเบื่อหน่าย แจกเอกสารแล้วอ่าน เป็นการศึกษาแบบปิด นักศึกษานั่งฟังจนหมดคาบ
มีอยู่ครั้งหนึ่งในรายวิชาจิตวิทยาเบื้องต้น อาจารย์เน้นการศึกษาแบบการสื่อสารสองทาง รับฟังความคิดเห็นและมีการถามตอบกัน ฉันรู้สึกว่าเป็นการเรียนที่ออกรสออกชาติ ทุกคนตื่นตัวสนุกสนานกันมาก
อีกหลายๆรายวิชาก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ในการสอนแบบนกแก้วนกขุนทอง เน้นท่องจำ และออกข้อสอบแบบดูถูกผู้เรียน เพราะเห็นว่าง่ายดี การศึกษาจึงเป็นไปตามนี้ เจอครูอาจารย์มีคุณภาพก็โชคดีของศิษย์
หลักสูตรเพื่อสร้างคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะสั่งหันซ้ายหันขวาได้ แต่อนิจจา
พอเข้าสู่ระบบงาน ฉันก็ยังเป็นหุ่นยนต์อยู่ดี ได้แต่รูดซิบปิดปากเงียบ มีคนคอยกดรีโมทระยะไกล หันซ้ายหันขวา เดินหน้าถอยหลัง เก็บปากเอาไว้กินห้ามพูด มีหูไว้กระโดดงับ บอกให้ยกค่อยยกนะมือ
หากยกแบบไม่รู้จักกาลเทศะ มีหวังตกงาน พูดดีเป็นศรีแก่ตัว จำไว้ ให้ทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องคิด หัวเอาไว้ตัดผมก็พอ เพราะพูดไปก็เหนื่อยเปล่า เธอเป็นผู้น้อย เธอไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ก้มหน้าก้มตาทำงานไป
การเป็นลูกน้องที่ดี กฎข้อที่หนึ่ง นายถูกเสมอ กฎข้อที่สอง ถ้าคิดว่านายทำไม่ถูก ให้กลับไปอ่านข้อหนึ่ง และที่ไม่ควรจะลืม ดีครับท่าน ทันครับผม เหมาะสมครับนาย รับรองว่าเจริญ
กฎแบบนี้มีอยู่ทุกวงการ เราใช้การอยู่ร่วมกันแบบเครือญาติ ผู้ใหญ่ถูกเสมอ หัวโตหางลีบ การคิดต่างเป็นไปได้ยาก การศึกษาแบบไทยๆต้องรื้อกันทั้งระบบ คงชาติหน้าตอนบ่ายๆ
แต่ฉันก็ยังเชื่อ ว่าบ้านนี้เมืองนี้สังคมนี้ ยังมีคนดี แต่เขายังไม่มีโอกาส ดีในความหมายของฉัน ไม่ต้องดีที่สุดเหมือนเป๊ปซี่ก็ได้
ขอให้มีความดีกว่าความไม่ดีก็พอ ขณะนี้สิ่งที่ฉันทำได้คือหวังเพียงผู้ปกครองในแต่ละส่วน เป็นคนดีมีวิสัยทัศน์และเปิดกว้างพร้อมที่จะรับฟัง และตั้งอยู่บนประโยชน์ของส่วนรวม
ขอแค่นี้ มากไปหรือเปล่า
แอมอร
Create Date : 05 กรกฎาคม 2554 |
|
9 comments |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 14:14:00 น. |
Counter : 1239 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 กรกฎาคม 2554 18:32:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 5 กรกฎาคม 2554 20:38:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: aenew 5 กรกฎาคม 2554 22:00:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธู 5 กรกฎาคม 2554 22:34:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: Gunpung 6 กรกฎาคม 2554 8:03:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 6 กรกฎาคม 2554 20:34:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า
.....
สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง
..............^^.... และความสุขในปัจจุบัน
ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้
....^^.....^^......
โดยไม่ต้องรอคอย
ความสุขของอนาคต
ปูปรุง
|
|
|
|
|
|
|
|
คุณแอมอรรรรรรร