Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 

ถนนสายนี้.....มีตะพาบ : มหาลัยมหาหลอก





โจทย์ตะพาบครั้งที่35:โดยคุณเป็ดสวรรค์

มหาลัยมหาหลอก



มีน กุสุมา เขียนคำ








พัดโบกเป็นลูกสาวผู้ใหญ่ อยู่บ้านเนินสะเดา
พ่อกับแม่รักเป็นนักหนา เพราะว่าเป็นลูกสาวคนเดียว
หลังจากจบมัธยมปลาย ส่งลูกสาวเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ
ปีหนึ่งขายควายไปสิบตัว ปีสองขายวัวไปอีกหนึ่งฝูง
ปีสามขายข้าวไปสามยุ้ง ปีสี่แม้แต่ผ้าถุงก็ไม่มีจะปิดกาย


พัดโบกเรียนสี่ปี ยังดีที่จบปริญญาตรี
และแถมมาฟรีๆคือปริญญาโท ติดท้องมาสามเดือน
ตอนนี้พัดโบก นั่งโบกไล่ยุงและไกวเปลให้ลูกน้อย
ผลพลอยได้จากการศึกษา



พัดโบกไปเรียน เพียงต้องการแค่กระดาษหนึ่งแผ่น
หวังเพียง ดวงเมื่อเรียนจบ



ด=เด็กใคร


ว=วิ่งเต้นมีเส้นมีสายหรือเปล่า


ง=เงินน่ะมีมั๊ย



ไม่ได้เล็งไปที่วิชาความรู้ที่จะมาใช้ประกอบอาชีพ
พ่อแม่ก็เห็นดีเห็นงาม นำที่ทำกินไปจำนองอีกรอบ เพื่ออนาคตลูกสาว
และรับภาระเลี้ยงผลพวงทางการศึกษาต่อไป




นี่คือตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นในสังคมชนบท
ที่สื่อและรัฐช่วยกันประโคม เรื่องการศึกษา
เพิ่งจะมีมาในระยะหลังๆที่หันมาให้ความสำคัญ กับภูมิปัญญาไทย
ทำให้คนรุ่นใหม่ สำนึกรักบ้านเกิด อยู่และพัฒนาบ้านของตน
ไม่อพยพย้ายเข้ามาเมืองใหญ่ และหลงทางขายที่ทำกินเดินเข้าโรงงาน


ฉันจำได้ว่าสมัยเรียน ฉันก็หลงทาง
ฟังๆจดๆจำๆเพื่อทำคะแนน ไม่ได้มุ่งศึกษาเพื่อหาความรู้อะไร
ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน อะไรเหมาะกับตัวเอง ดื้อรั้นดันทุรัง
หลงทิศหลงทาง ไร้จุดหมาย


ครั้งหนึ่งฉันนั่งอยู่ในห้องเรียนกับเพื่อนๆ
อาจารย์เดินเข้ามาในห้องพร้อมของสองชิ้น เป็นรูปภาพทั้งสองชิ้น
จากนั้นแจกกระดาษให้นักศึกษาคนละสามแผ่น
แล้วบอกว่าเห็นอะไรบ้างในของสองชิ้นนี้
ให้เขียนออกมาจากความรู้สึกของตัวเอง ไม่มีผิดไม่มีถูก
เพียงแต่อยากให้พวกคุณคิดเอง


จากนั้นท่านก็นั่งทำอะไรเงียบๆอยู่ที่โต๊ะทำงาน
วันนั้นเป็นวันแรกที่ฉันเดินทะลุออกจากกรอบทางการศึกษา
ที่ต้องท่องจำกับตำรับตำราเพื่อจะนำไปสอบ
พ.ศ.นี้ๆใครทำอะไร ก.ข.ค.ง.จ.ถูกทุกข้อ อะไรประมาณนี้
ฉันเห็นด้วยกับบางวิชาเช่นคณิตศาสตร์ เราอาจต้องจำสูตร
เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการคิดคำนวณ



การใช้ความคิดในสิ่งที่ได้เห็นในวันนั้น ทำให้สมองได้ทำงาน
ได้บริหารสมองในส่วนของจินตนาการ
และการคิดวิเคราะห์เจาะลึก
จากที่เคยนั่งท่องจำแบบจำใจ และรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือกำลัง



วันนั้นฉันขอกระดาษเพิ่ม อาจารย์มีหยอกเบาๆว่าปลื้มใจ
ที่มีนักศึกษาคือฉันเป็นคนแรกที่ขอกระดาษเพิ่ม
แล้วแซวเพื่อนๆว่าไม่ต้องเกรงใจ ที่ต้องใช้กระดาษเปลือง
ส่วนใหญ่เขียนไปหน้าเดียว


ตอบแบบอายๆไปว่า

”น้ำเยอะค่ะ ไม่เน้นเนื้อ ผักสามไร่ไก่ตัว น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลงมั๊ง “


เพื่อนๆเริ่มสนุกกับวิธีการสอนแบบใหม่ และที่ถูกใจ
วิพากกันในห้องเรียนและให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น
แรกๆไม่ค่อยกล้า เพราะคนไทยคุ้นเคยกับคำชมซะมากกว่า
แต่การติเพื่อก่อและสร้างสรรค์
เราได้เรียนรู้กันในชั้นเรียน จากอาจารย์ท่านนี้


ฉันเคยสงสัยว่าเพราะเหตุใดเด็กๆจึงหนีเรียนกัน
ตอนนี้ความสงสัยนั้นหายไป การเรียนในบางวิชาที่แสนน่าเบื่อหน่าย
แจกเอกสารแล้วอ่าน เป็นการศึกษาแบบปิด
นักศึกษานั่งฟังจนหมดคาบ


มีอยู่ครั้งหนึ่งในรายวิชาจิตวิทยาเบื้องต้น
อาจารย์เน้นการศึกษาแบบการสื่อสารสองทาง
รับฟังความคิดเห็นและมีการถามตอบกัน
ฉันรู้สึกว่าเป็นการเรียนที่ออกรสออกชาติ
ทุกคนตื่นตัวสนุกสนานกันมาก


อีกหลายๆรายวิชาก็ยังใช้วิธีเดิมๆ
ในการสอนแบบนกแก้วนกขุนทอง เน้นท่องจำ
และออกข้อสอบแบบดูถูกผู้เรียน เพราะเห็นว่าง่ายดี
การศึกษาจึงเป็นไปตามนี้
เจอครูอาจารย์มีคุณภาพก็โชคดีของศิษย์


หลักสูตรเพื่อสร้างคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะสั่งหันซ้ายหันขวาได้
แต่อนิจจา…พอเข้าสู่ระบบงาน
ฉันก็ยังเป็นหุ่นยนต์อยู่ดี ได้แต่รูดซิบปิดปากเงียบ
มีคนคอยกดรีโมทระยะไกล
หันซ้ายหันขวา เดินหน้าถอยหลัง เก็บปากเอาไว้กินห้ามพูด
มีหูไว้กระโดดงับ บอกให้ยกค่อยยกนะมือ



หากยกแบบไม่รู้จักกาลเทศะ
มีหวังตกงาน “พูดดีเป็นศรีแก่ตัว จำไว้ ให้ทำอะไรก็ทำไป
ไม่ต้องคิด หัวเอาไว้ตัดผมก็พอ”
เพราะพูดไปก็เหนื่อยเปล่า เธอเป็นผู้น้อย
เธอไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ก้มหน้าก้มตาทำงานไป



การเป็นลูกน้องที่ดี
กฎข้อที่หนึ่ง นายถูกเสมอ
กฎข้อที่สอง ถ้าคิดว่านายทำไม่ถูก ให้กลับไปอ่านข้อหนึ่ง
และที่ไม่ควรจะลืม ดีครับท่าน ทันครับผม เหมาะสมครับนาย รับรองว่าเจริญ


กฎแบบนี้มีอยู่ทุกวงการ เราใช้การอยู่ร่วมกันแบบเครือญาติ
ผู้ใหญ่ถูกเสมอ หัวโตหางลีบ
การคิดต่างเป็นไปได้ยาก
การศึกษาแบบไทยๆต้องรื้อกันทั้งระบบ
คงชาติหน้าตอนบ่ายๆ


แต่ฉันก็ยังเชื่อ ว่าบ้านนี้เมืองนี้สังคมนี้ ยังมีคนดี
แต่เขายังไม่มีโอกาส
ดีในความหมายของฉัน ไม่ต้องดีที่สุดเหมือนเป๊ปซี่ก็ได้

ขอให้มีความดีกว่าความไม่ดีก็พอ
ขณะนี้สิ่งที่ฉันทำได้คือหวังเพียงผู้ปกครองในแต่ละส่วน
เป็นคนดีมีวิสัยทัศน์และเปิดกว้างพร้อมที่จะรับฟัง
และตั้งอยู่บนประโยชน์ของส่วนรวม


ขอแค่นี้ มากไปหรือเปล่า





แอมอร






 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2554
9 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 14:14:00 น.
Counter : 1239 Pageviews.

 

ชอบคำแยกของคำว่า ดวง จังนะครับ

คุณแอมอรรรรรรร

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 5 กรกฎาคม 2554 16:43:42 น.  

 

ครูที่ดีต้องคิดได้แบบในตัวอย่างที่เขียนมาครับ ถ้าเด็กตอบไม่ตรงใจต้องให้เด็กหาเหตุผลมารองรับว่าทำไมตอบแบบนั้น แต่ก็มีครูบางประเภทที่ตอบไม่ตรงใจแทบจะสูญสิ้นคะแนนเลย

จะว่าไปโจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบก็เป็นโจทย์ที่ไม่มีคำตอบที่ผิดนะ เห็นแต่ละคนเขียนกันแต่ละรูปแบบสุดยอดๆ ทั้งนั้น ทั้งที่เขียนเรื่องเดียวกันแต่สื่อออกมาได้แตกต่างมาก แต่ก็เขียนกันได้ดี

เรื่องเวลาทำงาน มันเป็นแบบนั้นจริงๆ อะนะ ผู้น้อยผิดตลอด ทำเกินหน้าที่เรียกยุ่งไม่เข้าเรื่อง ไม่ทำเรียกว่าไม่ช่วย คิดนอกกรอบเรียกเพ้อเจ้อ แต่ถ้านายคิดแบบนั้นเรียกว่าสร้างสรรค์คิดนอกกรอบ =-="

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 กรกฎาคม 2554 18:32:52 น.  

 

ท้องนั่นคือผลพลอยได้จากการศึกษา ^^"

การศึกษาคือการลงทุนครับ แหะๆ ไม่รู้อีกกี่ปีจะคืนทุนเนี่ย
แต่สมัยเรียนผมเกลียดข้อสอบอัตนัยชะมัด บางวิชาเขียนกันมือหงิก บางวิชาอาจารย์ก็ครีเอตซะ เช่น Organic Chem "คิดอย่างไรกับการโคลนนิ่งแมมมอธ?" เดาใจอาจารย์กันไม่ถูกเลยทีเดียว

 

โดย: ชีริว 5 กรกฎาคม 2554 20:38:32 น.  

 

หลังจากรื้อบ้านอยู่นาน
ก็มาเจองานตะพาบของพี่แอม

เพราะพี่ของเราไม่พลาดเรื่องงานเขียนตะพาบแน่นอน
พี่แอมไม่ได้ตั้งไว้ที่หน้าหลัก
แต่น้องก็หาจนเจอนะคะ โฮะ โฮะ

ไม่รักกันจริง คงไม่เจอ


เข้าสู่ระบบงานก็คือหุ่นยนต์ทำงานจากเช้าสู่ค่ำ
ตอนนี้ใกล้เป็นหุ่นโดเรมอนละ เพราะเริ่มจะกลิ้งได้คะ

 

โดย: aenew 5 กรกฎาคม 2554 22:00:50 น.  

 

เขียนกันเก่งจังเลยค่ะ สะท้อนสังคมดีมากๆ
ชอบตรงที่ ปริญญาโทติดท้องสามเดือนเนี่ยแหละ

สะท้อนจริงจัง

 

โดย: super-bobah 5 กรกฎาคม 2554 22:32:30 น.  

 



เพิ่งรู้คำว่า ด ว ง มีที่มาแบบนี้นี่เอง ชอบจังค่ะ

ผลพวงของการศึกษา ไม่ใช่อยู่ที่ท้องโตกลับไปบ้าน
แต่ควรอยู่ที่ พิ้นฐานความรู้ และมากขึ้นเมื่อค้นคว้าเองค่ะ

มาอ่านงานตะพาบค่ะ เอนทรี่นี้ มีความคิดดีดีเยอะเลยนะคะ





กลีบเรียวของดอกไม้.....................สะอาง
คล้ายกับเล็บมือนาง......................หยิกย้ำ
ยามพี่จูบสองปรางค์.......................แก้มเรื่อ
เจ้าหยิกเนื้อพี่ช้ำ............................เพื่อน้อง,พี่ยอม

 

โดย: พธู 5 กรกฎาคม 2554 22:34:52 น.  

 

คำว่า ด ว ง จริง ๆ ค่ะ

 

โดย: Gunpung 6 กรกฎาคม 2554 8:03:49 น.  

 

อ่านเนื้อหาแล้วก็มาอ่านคอมเม้นท์
ของคุณต่อ ต่อเลยค่ะ ก็เลยเห็นว่า อ่ะนี่ล่ะ
ที่คิดเลยค่ะ

 

โดย: JewNid 6 กรกฎาคม 2554 20:34:29 น.  

 


อ่านแล้วชอบจัง
ถ้าให้พี่แอมเป็นครู พี่ต้องเป็นครูที่ดีแน่เลย

งึ่มง่ำ งุงิ ..
คุณพายุยกน้ำชาเป็นศิษย์โปรดไปซะแล้ว

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 6 กรกฎาคม 2554 23:38:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


peeamp
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]




บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า


.....

สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง


..............^^....
และความสุขในปัจจุบัน

ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้

....^^.....^^......


โดยไม่ต้องรอคอย

ความสุขของอนาคต



ปูปรุง








New Comments
Friends' blogs
[Add peeamp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.