ภาพที่ถ่ายด้วย แสงที่มองไม่เห็น
22 ตุลาคม 2556
พอดีว่าผมมีโอกาสได้ไปชมงานนิทรรศการเกี่ยวกับภาพถ่ายมาครับ แต่เป็นภาพถ่ายในแนวที่แปลกตากว่าที่ผมเคยเห็นมาเลย เพราะว่าเป็นการถ่ายภาพด้วยสเปคตรัมแห่งแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเรียกว่าเป็นเทคนิคใหม่แห่งการถ่ายภาพที่เปิดมุมมองผ่านแสงอินฟาเรด โดยนิทรรศการภาพถ่ายนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า
BEYOND Beyond Visible Light Thailands Biggest Solo Infrared Photography Exhibition
โดยเป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า ช่างภาพพันทาง ซึ่งก็คือ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า ช่างภาพดอกเตอร์พีท นั้นเองครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่า ... ตัวผมเองนั้นก็ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ หรือว่าเป็นผู้เชียวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพเลยครับ ผมเป็นแค่คนที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพเท่านั้นเองครับ สำหรับเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพต่าง ๆ นั้นผมก็แทบจะไม่มีความรู้สักเท่าไหร่เลยครับ แต่พอผมได้ยินว่าเป็นการถ่ายภาพด้วยแสงที่มองไม่เห็นแล้วผมเลยเกิดความสนใจขึ้นมาในทันทีครับ
โชคดีที่ผมได้เข้าร่วมงานเปิดนิทรรศการภายถ่ายที่ชื่อยาว ๆ ในครั้งนี้ ตามคำเชิญของ คุณนัทธ์ เพื่อนบล็อกแก๊งค์ท่านหนึ่งของเราครับ ผมเลยมีโอกาสได้ร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ แสงที่มองไม่เห็น ด้วย โดยได้ทราบจากช่างภาพดอกเตอร์พีทว่า
(ผมสรุปโดยรวมตามความเข้าใจอันน้อยนิดของผมนะครับ)
เป็นการถ่ายภาพโดยใช้เทคนิคพิเศษ เป็นการถ่ายภาพสเปคตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาทิเช่น แสงเหนือม่วง หรือแสงใต้แดง โดยทั่วไปการมองเห็นของมนุษย์นั้นจะมองเห็นภาพในแสงที่เกิดจากช่วงสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เท่านั้น แต่สำหรับเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการถ่ายภาพนี้เป็นการถ่ายภาพโดยแสงใต้แดง ก็คือใต้หรือต่ำลงไปจากแสงสีแดงที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ ตามหลักวิทยาศาสตร์เรียกว่า แสงอินฟาเรด ( Infrared ) หรือแสง IR นั้นเอง สำหรับภาพถ่ายที่ได้ออกมานั้นจะออกมาในแนวภาพขาวดำแต่อาจจะมีสีที่อาจจะผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่สายตาเราเห็นตามปกติอยู่บ้าง อาทิเช่นใบไม้สีเขียวเมื่อถ่ายด้วยแสง IR นี้แล้วจะเห็นว่าใบไม้กลายเป็นสีขาว ซึ่งทำให้ภาพที่ได้นั้นนอกจากจะดูแปลกตาแล้วยังให้อารมณ์ความรู้สึกที่ลึกล้ำแหวกมิติมากขึ้นไปอีก (ผมเขียนให้ฟังดูเว่อร์นิดหน่อยนะครับ)
นอกจากนั้นเจ้าของผลงานที่มีดีกรีเป็นดอกเตอร์ท่านนี้ยังบอกอีกว่า ในสมัยก่อนนั้นจำเป็นจะต้องใช้ฟิล์มที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับถ่ายภาพในแนวนี้ แต่ในปัจจุบันกล้อง DSLR (digital single lens reflex) ก็สามารถปรับโหมดให้ถ่ายภาพออกมาในลักษณะนี้ได้ด้วย แต่ว่าจะต้องปรับโหมดหรือตั้งค่าของกล้องอย่างไรนั้นท่านช่างภาพดอกเตอร์พีทไม่ได้บอกไว้ในงานเสวนาครับ ดังนั้นท่านที่สนใจในเทคนิคการถ่ายภาพในแนวนี้ก็คงจะต้องไปค้นหาคำตอบเอาเองจากงานนิทรรศการภาพถ่ายในครั้งนี้ หรือไม่ท่านก็ต้องเข้าไปในเฟสบุ๊คส์ของ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ แล้วสอบถามเทคนิคการตั้งค่ากล้องกันเอาเองดีกว่าครับ เพราะว่าถึงเขาบอกมาผมก็คงไม่สามารถเขียนอธิบายให้ท่านเข้าใจได้แน่ ๆ ครับ
สักนิดนึงเกี่ยวกับประวัติของ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ ท่านจบปริญาตรีและโทจากจุฬา มาทางด้านฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ ก่อนที่จะไปศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกในสาขาที่เกี่ยวข้อง แต่ตัวท่านกลับมีความสนใจทางด้านงานศิลปะ จนกลายมาเป็นนักภาพที่สั่งสมประสบการณ์การถ่ายภาพผ่านการเดินทางมาหลายประเทศ นอกจากนั้นท่านยังเป็นช่างภาพมือรางวัล ที่มีรางวัลการันตรีจากการประกวดภาพถ่ายของนิตยสาร Popular Photography ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายด้วย แสงที่มองไม่เห็น หรือที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษยาว ๆ ว่า BEYOND Beyond Visible Light Thailands Biggest Solo Infrared Photography Exhibition นี้ จัดขึ้น ณ พื้นที่ศิลปะ ชั้น 2 ของศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรีตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 นี้ครับ ในเวลา 10.00 20.00 น. ของทุกวัน หรือโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-2370077
ท้ายสุดนี้ผมขอขอบคุณทางศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ที่ได้เชิญผมไปฟังงานเสวนาเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพที่น่าสนใจนี้ครับ
และขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชมบล็อกนี้ด้วยครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ
แฮบปี้ ๆ มีความสุขกันเยอะ ๆ นะครับ
อิอิ
Create Date : 22 ตุลาคม 2556 |
|
29 comments |
Last Update : 22 ตุลาคม 2556 15:37:23 น. |
Counter : 4612 Pageviews. |
|
|
|
ภาพถ่ายแนว infrared มีมานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์มเลยทีเดียว สมัยก่อนต้องใช้ฟิล์มอินฟราเรดถ่ายภาพ แต่ปัจจุบันนี้ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลก็ได้ .....
สำหรับกล้องดิจิตอล บางคนอาจใช้ฟิลเตอร์อินฟราเรดมาติดที่หน้าเลนส์ แต่ไม่ค่อยสะดวกเพราะกินแสงเยอะ เวลาถ่ายภาพต้องใช้ speed shutter นานมากๆ .....
ดังนั้นจึงมีการดัดแปลงกล้องให้เป็นกล้องสำหรับถ่ายภาพอินฟราเรดโดยเฉพาะ โดยใช้ infrared filter มาใส่ไว้แทนที่ IR block หรือ Low pass filter ที่อยู่หน้า CCD/CMOS ของกล้องเลย ซึ่งจะทำให้ถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น แต่กล้องตัวนั้นก็จะไม่สามารถใช้ถ่ายภาพปกติได้อีก ใช้ถ่ายได้แต่ภาพแนว infrared อย่างเดียวครับ ....