Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
ภาพที่ถ่ายด้วย “แสงที่มองไม่เห็น”

22 ตุลาคม 2556


พอดีว่าผมมีโอกาสได้ไปชมงานนิทรรศการเกี่ยวกับภาพถ่ายมาครับ แต่เป็นภาพถ่ายในแนวที่แปลกตากว่าที่ผมเคยเห็นมาเลย เพราะว่าเป็นการถ่ายภาพด้วยสเปคตรัมแห่งแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเรียกว่าเป็นเทคนิคใหม่แห่งการถ่ายภาพที่เปิดมุมมองผ่านแสงอินฟาเรด โดยนิทรรศการภาพถ่ายนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า

“BEYOND – Beyond Visible Light – Thailand’s Biggest Solo Infrared Photography Exhibition”












โดยเป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า “ช่างภาพพันทาง” ซึ่งก็คือ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า “ช่างภาพดอกเตอร์พีท” นั้นเองครับ

ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่า ... ตัวผมเองนั้นก็ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ หรือว่าเป็นผู้เชียวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพเลยครับ ผมเป็นแค่คนที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพเท่านั้นเองครับ สำหรับเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพต่าง ๆ นั้นผมก็แทบจะไม่มีความรู้สักเท่าไหร่เลยครับ แต่พอผมได้ยินว่าเป็นการถ่ายภาพด้วยแสงที่มองไม่เห็นแล้วผมเลยเกิดความสนใจขึ้นมาในทันทีครับ











โชคดีที่ผมได้เข้าร่วมงานเปิดนิทรรศการภายถ่ายที่ชื่อยาว ๆ ในครั้งนี้ ตามคำเชิญของ คุณนัทธ์ เพื่อนบล็อกแก๊งค์ท่านหนึ่งของเราครับ ผมเลยมีโอกาสได้ร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ “แสงที่มองไม่เห็น” ด้วย โดยได้ทราบจากช่างภาพดอกเตอร์พีทว่า

(ผมสรุปโดยรวมตามความเข้าใจอันน้อยนิดของผมนะครับ)

เป็นการถ่ายภาพโดยใช้เทคนิคพิเศษ เป็นการถ่ายภาพสเปคตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาทิเช่น แสงเหนือม่วง หรือแสงใต้แดง โดยทั่วไปการมองเห็นของมนุษย์นั้นจะมองเห็นภาพในแสงที่เกิดจากช่วงสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เท่านั้น แต่สำหรับเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการถ่ายภาพนี้เป็นการถ่ายภาพโดยแสงใต้แดง ก็คือใต้หรือต่ำลงไปจากแสงสีแดงที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ ตามหลักวิทยาศาสตร์เรียกว่า แสงอินฟาเรด ( Infrared ) หรือแสง IR นั้นเอง สำหรับภาพถ่ายที่ได้ออกมานั้นจะออกมาในแนวภาพขาวดำแต่อาจจะมีสีที่อาจจะผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่สายตาเราเห็นตามปกติอยู่บ้าง อาทิเช่นใบไม้สีเขียวเมื่อถ่ายด้วยแสง IR นี้แล้วจะเห็นว่าใบไม้กลายเป็นสีขาว ซึ่งทำให้ภาพที่ได้นั้นนอกจากจะดูแปลกตาแล้วยังให้อารมณ์ความรู้สึกที่ลึกล้ำแหวกมิติมากขึ้นไปอีก (ผมเขียนให้ฟังดูเว่อร์นิดหน่อยนะครับ)
















นอกจากนั้นเจ้าของผลงานที่มีดีกรีเป็นดอกเตอร์ท่านนี้ยังบอกอีกว่า ในสมัยก่อนนั้นจำเป็นจะต้องใช้ฟิล์มที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับถ่ายภาพในแนวนี้ แต่ในปัจจุบันกล้อง DSLR (digital single lens reflex) ก็สามารถปรับโหมดให้ถ่ายภาพออกมาในลักษณะนี้ได้ด้วย แต่ว่าจะต้องปรับโหมดหรือตั้งค่าของกล้องอย่างไรนั้นท่านช่างภาพดอกเตอร์พีทไม่ได้บอกไว้ในงานเสวนาครับ ดังนั้นท่านที่สนใจในเทคนิคการถ่ายภาพในแนวนี้ก็คงจะต้องไปค้นหาคำตอบเอาเองจากงานนิทรรศการภาพถ่ายในครั้งนี้ หรือไม่ท่านก็ต้องเข้าไปในเฟสบุ๊คส์ของ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ แล้วสอบถามเทคนิคการตั้งค่ากล้องกันเอาเองดีกว่าครับ เพราะว่าถึงเขาบอกมาผมก็คงไม่สามารถเขียนอธิบายให้ท่านเข้าใจได้แน่ ๆ ครับ

สักนิดนึงเกี่ยวกับประวัติของ ดร.ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์ ท่านจบปริญาตรีและโทจากจุฬา มาทางด้านฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ ก่อนที่จะไปศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกในสาขาที่เกี่ยวข้อง แต่ตัวท่านกลับมีความสนใจทางด้านงานศิลปะ จนกลายมาเป็นนักภาพที่สั่งสมประสบการณ์การถ่ายภาพผ่านการเดินทางมาหลายประเทศ นอกจากนั้นท่านยังเป็นช่างภาพมือรางวัล ที่มีรางวัลการันตรีจากการประกวดภาพถ่ายของนิตยสาร Popular Photography ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย




























สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายด้วย “แสงที่มองไม่เห็น” หรือที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษยาว ๆ ว่า “BEYOND – Beyond Visible Light – Thailand’s Biggest Solo Infrared Photography Exhibition” นี้ จัดขึ้น ณ พื้นที่ศิลปะ ชั้น 2 ของศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรีตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 นี้ครับ ในเวลา 10.00 – 20.00 น. ของทุกวัน หรือโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-2370077












ท้ายสุดนี้ผมขอขอบคุณทางศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ที่ได้เชิญผมไปฟังงานเสวนาเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพที่น่าสนใจนี้ครับ

และขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชมบล็อกนี้ด้วยครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ

แฮบปี้ ๆ มีความสุขกันเยอะ ๆ นะครับ

อิอิ








Create Date : 22 ตุลาคม 2556
Last Update : 22 ตุลาคม 2556 15:37:23 น. 29 comments
Counter : 4608 Pageviews.

 
สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆ ครับคุณกล่อง .....

ภาพถ่ายแนว infrared มีมานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์มเลยทีเดียว สมัยก่อนต้องใช้ฟิล์มอินฟราเรดถ่ายภาพ แต่ปัจจุบันนี้ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลก็ได้ .....

สำหรับกล้องดิจิตอล บางคนอาจใช้ฟิลเตอร์อินฟราเรดมาติดที่หน้าเลนส์ แต่ไม่ค่อยสะดวกเพราะกินแสงเยอะ เวลาถ่ายภาพต้องใช้ speed shutter นานมากๆ .....

ดังนั้นจึงมีการดัดแปลงกล้องให้เป็นกล้องสำหรับถ่ายภาพอินฟราเรดโดยเฉพาะ โดยใช้ infrared filter มาใส่ไว้แทนที่ IR block หรือ Low pass filter ที่อยู่หน้า CCD/CMOS ของกล้องเลย ซึ่งจะทำให้ถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น แต่กล้องตัวนั้นก็จะไม่สามารถใช้ถ่ายภาพปกติได้อีก ใช้ถ่ายได้แต่ภาพแนว infrared อย่างเดียวครับ ....



โดย: NET-MANIA วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:15:45:40 น.  

 
โห มาฟังคุณเนท กูรูเก่านะครัซเนี่ย แสดงว่าเล่นกล้องมาตั้งแต่ยุคฟิล์มแล้ว ตอนแรกนึกว่ากล้องตัวแรกคือ dslr nikon d90 เสียอีก อิอิ รู้ลึกกว่าผมเสียด้วย

สำหรับแนวนี้แล้วผมยังไม่เคยลองเลยครับอาคุงกล่อง ตั้งแต่เล่นฟิล์มแระ จำได้ว่าบนกระบอกเลนส์เค้าจะต้องบากจุดสัญลักษณ์สีแดงๆหรือบางทีก็เป็นขีดๆ ไว้เยื้องๆกับจุดตำแหน่งโฟกัส พูดง่ายๆคือการถ่ายแนวนี้เท่าที่รู้เราต้องปรับไม่ให้ in focus เป๊ะ ต้องเกือบๆชัดสุด ส่วนจะเกือบแค่ไหนนั่นคือพอปรับชัดเสร็จก็ขยับวงแหวนปรับโฟกัสให้ย้ายไปตรงรอยบากสัญลักษณ์นั่นละครับ อิอิ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:16:44:46 น.  

 
เราไม่มีความรู้เรื่องกล้องเลยค่ะ แหะๆ อิอิ
ภาพถ่ายด้านบนสวยดี
เห็นว่าเป็นถ่ายภาพด้วยสเปคตรัมแห่งแม่เหล็กไฟฟ้า น่าสนใจและแปลกดีค่ะ
การถ่ายภาพเด๊๋ยวนี้มีวิวัฒนาการแปลกใหม่เยอะเลยนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงค่ะ อิอิ



โดย: mambymam วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:21:34:13 น.  

 
ภาพสวยแปลกตามากเลยค่ะ


โดย: hi hacky วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:21:57:14 น.  

 
มายกมือว่าไม่มีความรู้เรื่องกล้องเหมือนกันค่ะ แป่วว
ยิ่งอ่านเม้นท์ 1 กับ 2 แล้วแอบเอ๋อไปพักใหญ่ค่ะ
แต่ก็อ่านๆๆๆๆ เก็บความรู้ไว้ เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดีค่ะ
ขอบคุณที่นำภาพมาฝากนะคะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:22:20:30 น.  

 
ตามมาอ่านและเป็นความรู้ใหม่สำหรับเราด้วยค่ะ
ภาพที่ได้มา สวยแปลกตาไปอีกแบบเป็นแนวอาร์ตมากๆ
ที่จริงเราก็เป็นพวกเดียวกับคุณอากล่องเลยล๊ะ

เป็นแค่คนที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพเท่านั้นเอง
เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพต่าง ๆ นั้นแทบจะไม่มีความรู้สักเท่าไหร่

ขอบคุณที่แชร์เรื่องที่น่าสนใจนี้ด้วยค่ะ
พร้อมขอขอบคุณที่แวะทักทายกันนะค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Photo Blog



โดย: tui/Laksi วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:23:31:23 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog
Insignia_Museum Education Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Art Blog ดู Blog


Like ให้เป็นคนที่ 4
ชอบมากกกกกกกกกกกกจ้าไม่ว่างไปดูเลย



โดย: อุ้มสี วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:23:57:53 น.  

 
สวัสดีค่า ^^
มาชมภาพและนิทรรศการภาพสวยๆค่ะ
เทคนิคสวยดีนะคะ
ดูสวย แปลกตา และน่ากลัวไงก็ไม่รู้ อิอิ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและข้อมูลค่า



โดย: lovereason วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:0:20:03 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Gargen Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Art Blog ดู Blog

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:6:51:27 น.  

 
ตามมาอ่าน แต่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องเลยค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:10:04:59 น.  

 
ลืมบอกไปว่า ไลค์และโหวตค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Art Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:10:06:29 น.  

 
หวัดดีค่าอาคุงกล่อง

เป็นภาพที่แปลกให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีส่วนด้วยเหรอเนี่ย

ดร.ใช้ชื่อนามแฝงน่าค้นหามากค่า อิอิชอบๆ

ภาพมองดูไม่ได้ธรรมดาเลยมองแล้วมีความหมายมาก
อยู่ที่มุมมองในการสื่อภาพออกมาด้วยละ ในความคิดรินนะคะ






เป็นบล็อกที่ทุ่มเทอย่างมาก สำหรับบล็อกรีวิวที่พักแห่งนี้
พร้อมออนแอร์แล้วค่ะ โรงแรมสไตล์ล้านนาเก๋าแก่ถึง 20 ปี




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:15:42:13 น.  

 




แวะมาทักทายก่อนเข้านอนค่ะ หลับฝันดีนะคะ



โดย: เดหลีสีแดง วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:21:44:07 น.  

 
ดูสวยและลึกลับดีอะพี่


โดย: น้องผิง วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:22:23:52 น.  

 
สวยขาดใจไปเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาเปิดโลกทรรศนะคะ


โดย: ความงามสัมผัสได้ด้วยใจ วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:10:49:43 น.  

 





แวะมาทักทายยามบ่าย
สุขสันต์วันพฤหัสบดีนะคะ





โดย: เดหลีสีแดง วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:14:35:19 น.  

 
sหวัดดีค่ะคุณอาคุง..
ออกตัวก่อนเลย ว่า เรื่องกล้องไม่ค่อยรู้เรื่องถ่ายรูป เขาตั้งไว้ยังไง ก็ยังงั้น แหะๆ
แต่ชอบให้เขาถ่ายให้ นะ ..
จากปกติไม่รู้เรื่องมาเจอแบบไม่ปกติ ก็ได้แต่ตะลึงในความแปลกใหม่.. ถ่ายจากแสงที่มองไม่เห็น โห ..มันก็หายากนะ
ภาพ ออกมาดูแปลกดี.. สวยอีกแนว เลยค่ะดูคลาสสิค ดี
สำหรับเรา เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ถึงจะบอกว่า เก่าแล้วก็เถอะ..
ขอบคุณที่มาเยี่ยม จ้า.. โหวต ให้ด้วยนะ..


โดย: tifun วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:17:43:51 น.  

 
สวัสดีครับพี่อาคุง

ปัจจุบันเทคนิคการทำภาพอินฟาเรด
มีในโปรแกรมแต่งภาพหลายๆอันครับ

ผมเองก็เคยใช้อยู่พักนึง

เพียงแต่ตอนนี้ปลั๊กอินนี้หายไปตอนล้างคอมครับ 555

ตอนนี้ผมเลยแทบไม่ได้แต่งภาพอะไรเหมือนก่อนอีกแล้วครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:8:37:38 น.  

 





โดย: เดหลีสีแดง วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:16:09:17 น.  

 
แต่ละภาพน่าชมมากค่ะคุณอาคุง
ถ้าได้ยืนชมจริงขนาดจริง
ก็ใช้เวลามองนานเลยค่ะ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 30 ตุลาคม 2556 เวลา:20:22:30 น.  

 




Interview .. the Blogger ประจำเดือน 11 มาแล้วค่ะ
ฉบับนี้พบกันเจ้าแม่ขนมปัง

อยากรู้จักเธอให้มากขึ้น

ที่นี่ค่ะ ^^










โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:0:16:34 น.  

 
สวัสดีค่าคุณอาคุงกล่อง
บุ๊งแวะมาขอบคุณที่ไปอ่านบทสัมภาษณ์ที่บ้านคุณรินค่าาา


โดย: Close To Heaven วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:47:24 น.  

 

งานศิลปะดูกี่ทีๆ ก็ดูไม่เบื่อเน๊าะน้องกล่อง


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:48:52 น.  

 
ไม่เคยได้มีโอกาสไปชมงานศิลปะ รูปถ่าย ที่เค้าจัดแสดงแบบนี้เลยค่ะ เคยชมแต่ศิลปะตามวัดวาอารามที่ไปเยือน รูปสวยดีนะคะเนืีย ดูแล้วสงบ ไม่มีสีฉูดฉาดมากระชากอารมณ์

คืนนี้มาลุ้นหงส์จิกปืนใหญ่แตกกันค่ะ 5555+


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:32:38 น.  

 
สวัสดีครับคุณอาคุง
ภาพแบบอินฟาเรด ดูสวยงาม แปลกตาดีนะครับ



โดย: แซงค์ (ชายคาตะวัน ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:43:54 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่าพี่อาคุง

วันนี้ตามมาทักทายในบล็อกค่า

รูปถ่ายสวยๆทั้งนั้นเลยน้าค้า

อาร์ตมากเลยค่า ^________^


โดย: tayya tatar วันที่: 4 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:14:50 น.  

 

ได้ความรู้กลับไปเลยทีี่เดียวครับ


โดย: p'me satun วันที่: 6 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:09:45 น.  

 
ภาพดูแปลกตา ...ที่แสดงภาพ เป็นที่ผมเคย
ทำงานอยู่ในนั้น ส่วนหนึ่งครับ ไม่ได้ไปนาน
มากแล้ว..


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:21:18 น.  

 
แวะมาศึกษาครับ แต่คงทำไม่เป็นแน่ๆ ขาดอุปกรณ์กล้องดีๆด้วยละ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:44:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.