Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 

ลองลิ้มชิมรส ... กาแฟขี้ช้าง

19 กรกฎาคม 2556


ในวันนี้ผมมีอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจอยากจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังครับ พอดีว่าผมได้รับโอกาสให้ไปลองลิ้มชิมรสกาแฟขี้ช้าง ที่ถือว่าเป็นกาแฟที่แพงที่สุดในโลกซึ่งผลิตขึ้นในประเทศไทย ผมเลยขออนุญาตมาเล่าแชร์เรื่องราวให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันครับ












หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้รู้จักกาแฟขี้ชะมดมาก่อนแล้ว ที่เขาอ้างว่าเป็นกาแฟที่อร่อยที่สุดและแพงที่สุดในโลก ซึ่งกาแฟขี้ชะมดแรกเริ่มเดิมทีนั้นได้ถูกผลิตขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากและซับซ้อนเนื่องจากต้องนำเมล็ดกาแฟไปให้ตัวชะมดกินก่อน แล้วรอให้ชะมดตัวนั้นถ่ายมูลออกมาจึงค่อยเก็บเอาเมล็ดกาแฟที่ย่อยไม่หมดนั้นมาผลิตเป็นเมล็ดกาแฟสำหรับใช้ชงดื่ม ซึ่งปัจจุบันนี้ในประเทศไทยได้มีการสั่งนำเข้าเมล็ดกาแฟขี้ชะมดมาจำหน่ายเป็นจำนวนมากแล้ว เรื่องราวของกาแฟขี้ชะมดจึงได้ถูกแพร่หลายมายาวนานจนเป็นทีรู้จักไปทั่วโลกสักระยะหนึ่งแล้ว

แต่สำหรับกาแฟขี้ช้างที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ มันคือกาแฟชนิดใหม่ล่าสุดที่มาทำลายสถิติความแพงของกาแฟขี้ชะมดลงอย่างสิ้นเชิง สาเหตุก็คงเป็นเพราะขบวนการในการผลิตมีความยุ่งยากซับซ้อนพอ ๆ กัน เพราะว่ากว่าจะได้เป็นเมล็ดกาแฟสำหรับนำมาชงบริโภคได้นั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร สัตว์ที่เป็นตัวช่วยในการผลิตกาแฟนั้นไม่ใช่ตัวชะมดแต่กลับเป็นช้างของไทยเรานี่เองครับ ช้างไทยที่อยู่ในมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ ที่จังหวัดเชียงราย บนดินแดนเหนือสุดของประเทศไทย











โชคดีที่ผมได้มีโอกาสเจอกับคุณเบล็ค (Mr.BLAKE DINKIN) ผู้สร้างกาแฟขี้ช้าง ภายใต้ชื่อ กาแฟแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) ขึ้นมา โดยคุณเบล็คเล่าเรื่องราวและความเป็นมาของกาแฟขี้ช้างให้ฟังว่า

ตัวคุณเบล็คนั้นเป็นชาวแคนดานา เดิมที่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตัวเขาทำงานทางด้าน CSR. (Corporate Social Responsibility) เขาจึงมีโอกาสได้เดินทางไปในหลายประเทศทั้งในแอฟริกาและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาเคยได้รู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตกาแฟขี้ชะมดมาก่อนแล้ว เขาจึงไปทดลองทำกาแฟขี้ชะมดที่ประเทศเอธิโอเปียอยู่ประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยแล้วไปหลงเสน่ห์ของช้างไทยที่อยู่ในมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ คุณเบล็คจึงหันมาลองทำกาแฟขี้ช้างดูบ้าง ซึ่งกว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จในการผลิตกาแฟขี้ช้างขึ้นมาได้นั้นก็ต้องใช้เวลายาวนานกว่า 10 ปี จนกระทั่งกาแฟขี้ช้างสามารถผลิตขึ้นมาขายในเชิงธุรกิจได้เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว (พ.ศ.2555) ในนามของกาแฟแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) โดยในช่วงแรกนั้นคุณเบล็คเปิดโอกาสให้คอกาแฟขนานแท้สามารถเดินทางไปดื่มชิมรสชาติความอร่อยได้ที่จังหวัดเชียงรายเพียงเท่านั้น แต่ในวันนี้คุณเบล็คได้นำกาแฟขี้ช้างมาเสิร์ฟความอร่อยให้ท่านที่สนใจได้ลองชิมกันได้แล้วที่ เดอะบาร์ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ









ถามว่าทำไมจึงต้องเป็นช้างไทย?

คุณเบล็คยิ้มพร้อมตอบมาให้ฟังอย่างน่าประทับใจว่า ...

“จริง ๆ แล้วเป็นเพราะคนไทยมากกว่า คนไทยเป็นคนที่น่ารักมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ใจดี และเฟรนลี่ย์เป็นอย่างมาก ผมชอบและหลงใหลความงามประเทศไทย ผมเลยคิดว่าน่าจะลองผลิตกาแฟขี้ช้างขึ้นมา ซึ่งผมก็ได้รับการต้อนรับและความช่วยเหลืออันดีจากทางมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ จนกระทั่งผมสามารถผลิตเป็นกาแฟชนิดใหม่ที่ถือว่าเป็นกาแฟสัญชาติไทยแท้ขึ้นมาได้”





นอกจากนั้นคุณเบล็คได้เล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการผลิตกาแฟขี้ช้างว่า ก่อนอื่นเลยต้องคัดเลือกเมล็ดกาแฟไทยสายพันธ์อาราบิก้า ที่ปลูกบนความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่สุกกำลังดีมาให้ช้างกิน โดยช้างแต่ละตัวนั้นก็จะมีลักษณะการเลือกกินที่ไม่เหมือนกัน กว่าจะค้นคิดขั้นตอนในการทำให้ช้างกินเลือกกินเมล็ดกาแฟได้นั้นก็ต้องมีวิธีการที่เฉพาะตัว เมื่อช้างกินเมล็ดกาแฟเข้าไปในกระเพาะกระบวนการย่อยอาหารของช้างก็ทำหน้าที่ย่อยเมล็ดกาแฟ สุดท้ายเมื่อช้างถ่ายมูลของมาเป็นก้อน แล้วจึงให้ควาญช้างตามเก็บเมล็ดกาแฟที่ย่อยไม่หมดในมูลช้างออกมาล้างทำความสะอาดและตากแดด รวมทั้งผ่านขั้นตอนการผลิตจนคั่วออกมาเป็นเมล็ดกาแฟสำหรับให้คนบริโภคได้ โดยต้องให้ช้างกินเมล็ดกาแฟสดประมาณ 33 กิโลกรัม กว่าที่จะได้ออกมาเป็นกาแฟที่เราบริโภคได้แค่ 1 กิโลกรัม จึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง รวมทั้งเป็นกาแฟที่มีเสน่ห์พิเศษซึ่งแตกต่างจากกาแฟที่วางขายอยู่ท้องตลาดทั่วไป












ส่วนสาเหตุที่เลือกช้างก็เพราะว่า ช้างเป็นสัตว์มังสวิรัติที่กินอาหารสะอาด ช้างกินพืชและผลไม้เป็นอาหาร ช้างเป็นสัตว์ที่มีกระเพาะเดียวจึงมีกระบวนการย่อยอาหารที่ไม่ซับซ้อน เอนไซม์ในกระบวนการย่อยอาหารของช้างมีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนบางส่วนในเมล็ดกาแฟ ทำให้เมล็ดกาแฟที่ถูกย่อยผ่านกระเพาะอาหารของช้างออกมานั้นมีความขมจากโปรตีนที่ลดน้อยลง รวมทั้งมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความอร่อยอย่างนุ่มนวล เวลาที่เราดื่มจึงได้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นไม่แพ้กาแฟชั้นดีชนิดอื่นใดในโลกนี้เลย

กาแฟขี้ช้างในชื่อของ กาแฟแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) นี้ ในหนึ่งปีผลิตออกมาได้แค่ 200 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับท่านที่เป็นคอกาแฟขนาดแท้ในเมืองไทย โดยรายได้จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมดนั้น คุณเบล็คได้มอบคืนกลับให้แก่มูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ โดยเงินจำนวนนี้คุณเบล็คไม่ได้มอบให้แก่เจ้าของหรือผู้เลี้ยงช้าง แต่เป็นการนำเงินเข้าสู่มูลนิธิโดยตรงซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวช้างเอง เพื่อที่จะเป็นค่าดูแลรักษาและค่าอาหารชนิดอื่น ๆ ของช้างด้วย

สำหรับท่านที่อยู่ในแวดวงธุรกิจก็คงทราบดีว่า เงินจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์จากรายได้นั้นไม่ใช่ตัวเลขที่ต่ำเลย ดังนั้นถ้าการดื่มกาแฟขี้ช้างแล้วมีส่วนช่วยเหลือช้างไทยในทางอ้อมได้ก็ถือว่าคงเป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อย โดยทางมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำนั้นเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือช้างเร่ร่อนจากสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จากกรุงเทพฯ พัทยา หรือจากสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งช้างที่ถูกทารุณกรรมหรือถูกทอดทิ้งในกรณีต่าง ๆ ด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีช้างที่ทำหน้าที่ช่วยผลิตกาแฟขี้ช้างอยู่ประมาณ 15 เชือก สำหรับท่านที่ไม่อยากเห็นช้างเร่ร่อน ไม่อยากซื้อกล้วยหรืออ้อยให้แก่ช้างที่เดินหากินตามท้องถนนด้วยความสงสาร ท่านก็อาจจะลองเลือกที่มาลองลิ้มชิมรสกาแฟขี้ช้างนี้ดูสักครั้งก็ได้ เพื่อเป็นประสบการณ์ในการดื่มกาแฟแบบได้บุญครั้งหนึ่งของชีวิตเลย










คุณเบล็คบอกผมว่า การชงกาแฟนั้นเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่ง กาแฟขี้ช้างนี้นำมาชงเป็นกาแฟเอสเปรสโซได้อย่างลงตัว กระบวนการชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟแบบโบราณที่เรียกกันว่า “ค๊อฟฟี่เบิร์น” ซึ่งเครื่องชงกาแฟแบบนี้มีใช้มานานตั้งแต่ ค.ศ. 1840 แล้ว ประเทศในแถบยุโรป เช่นอิตาลี ฝรั่งเศส และออสเตรีย นิยมใช้กันมาก แต่พอช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองก็เลิกใช้กัน เพราะว่ามีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปขึ้นมา เครื่องชงกาแฟแบบนี้จึงค่อย ๆ หายหน้าหายตาไป ปัจจุบันเลยมีให้เห็นกันไม่มากนัก








สำหรับกระบวนการชงกาแฟนี้เป็นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่เราเรียนรู้กันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เมื่อมาได้เห็นวิธีการชงจากเครื่องชงกาแฟแบบโบราณนี้แล้วก็อดที่จะประทับใจไม่ได้ ขั้นตอนการชงกาแฟเริ่มจากนำเมล็ดกาแฟมาใส่ในเครื่องบดที่แยกส่วนออกมาตากต่างจากเครื่องชงกาแฟ เป็นเครื่องบดกาแฟด้วยมือที่เห็นเป็นหลอดแก้วทรงกลมนั้นจะแยกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนบนใส่เมล็ดกาแฟลงไปแล้วหมุดคันหมุนที่คล้ายกับที่หมุนเปิดหน้าต่างบานเกร็ด พอหมุนคันหมุนเมล็ดกาแฟก็จะถูกบดตัดด้วยใบมีดที่อยู่ด้านล่าง แล้วผงกาแฟที่บดละเอียดแล้วก็จะหล่นลงไปสู่หลอดแก้วทรงกลมด้านล่าง พร้อมสำหรับกระบวนการชงในลำดับต่อไป







สำหรับเครื่องชงกาแฟนั้นเป็นการชงแบบใช้แรงดันไอน้ำอัด โดยเครื่องชงจะเห็นเป็น 2 ส่วน โดยส่วนซ้ายมือจะเป็นคล้าย ๆ เยือกแก้ว สำหรับใส่ผงกาแฟที่บดแล้วลงไป โดยมีท่อที่ต่อไปยังกระบอกต้มน้ำส่วนขวามือ โดยปลายของท่อนั้นจะต้องติดผ้าขาวสำหรับเป็นตัวกรอง (ฟิลเตอร์)ไว้ก่อนที่จะใส่ผงกาแฟลงไป สำหรับหม้อต้มทรงกระบอกที่เห็นทำจากทองเหลืองด้านขวามือนั้นใช้สำหรับต้มน้ำ โดยจะเห็นว่ามีคานโยกอัตโนมัติสำหรับทำหน้าที่เคลื่อนยกหม้อต้มให้ขึ้นหรือลงได้ ส่วนด้านล่างที่เห็นจะเป็นสีขาวขุ่นนั้นคือตะเกียงไฟสำหรับต้มน้ำที่มีฝาสลักนิรภัยสำหรับเอาไว้ปิดเพื่อดับไฟตะเกียงด้วย










ขั้นตอนการชงก็ใส่ผงกาแฟบดไว้ในเหยือกแก้วด้านซ้ายมือ แล้วใส่น้ำร้อนลงไปในหม้อต้มด้านชวามือ ปิดวาวล์ของหม้อต้มให้แน่นเพื่อไม่ให้อากาศเข้า หม้อต้มจะเคลื่อนต่ำลงไปอยู่ใกล้กับตะเกียงที่อยู่ด้านล่าง เมื่อจุดไฟที่ตะเกียงก็จะเริ่มทำการต้มน้ำ เมื่อน้ำในหม้อต้มเดือดก็จะดันไอน้ำจากหม้อต้มด้านขวาไปสู่เยือกแก้วด้านซ้ายที่มีผงกาแฟบดรออยู่ ไอน้ำจะพุ่งเคลื่อนผ่านท่อไหลผ่านผ้ากรองเข้าไปผสมกับผงกาแฟ เมื่อไอน้ำจากหม้อต้มถูกดันออกไปจนหมด หม้อต้มก็จะมีน้ำหนักเบาจึงทำให้หม้อต้มเคลื่อนขึ้นด้านบนพร้อมทั้งดึงสลักนิรภัยทำให้ฝาลงมาปิดครอบดับไฟได้อย่างสนิทพอดีเลย สักพักเมื่อหม้อต้มเย็นตัวลงภายในหม้อต้มนั้นเป็นสุญญากาศ ทำให้อากาศจากในเยือกแก้วด้านซ้ายดันน้ำร้อนที่ผสมกับผงกาแฟแล้วกลับไปสู่หม้อต้มทางด้านขวาอีกครั้ง โดยที่มีผ้าขาวทำหน้าที่กรอกกากกาแฟไว้ เมื่อน้ำกาแฟที่ชงเรียบร้อยแล้วถูกดันกลับมายังหม้อต้มด้านขวาอีกครั้ง หม้อต้มก็เคลื่อนต่ำลงมาอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลง หลังจากนั้นก็หมุนเปิดวาวล์เพื่อให้อากาศเข้ามาในหม้อต้ม ก็พร้อมที่จะเปิดก๊อกเพื่อรินกาแฟเอสเปรสโซสำหรับเสิร์ฟได้ทันที












ดูแล้วกระบวนการชงเอสเปรสโซแก้วนี้ก็ไม่ต่างกับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่เราเคยได้เรียนในสมัยเด็ก ๆ เลย แต่ดูแล้วมันช่างน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าครั้งที่เราเป็นเด็กเยอะเลย เพราะว่าเราสามารถดื่มความอร่อยจากกาแฟรสชาติดี ที่เราเพิ่งเห็นวิธีการชงตามหลักการวิทยาศาสตร์เรื่องการเดือดของน้ำได้อย่างชัดเจน









เขาว่ากันว่า ....

“ถ้าอยากจะดื่มกาแฟให้ได้รสชาติที่แท้จริงนั้น คุณจะต้องดื่มจากข้างใน”

การดื่มจากข้างในนั้นก็คือการดื่มเรื่องราวความเป็นมาของกาแฟ รวมทั้งรายละเอียดของตัวกาแฟชนิดนั้น ๆ ลงไปด้วย โดยดื่มด่ำไปพร้อมกับรสชาติอันกลมกล่อมซึ่งสัมผัสได้ที่โคนลิ้น จนกระทั่งรับรู้ไปถึงเส้นใยประสาทที่อยู่ในสมอง เพื่อกระตุ้นต่อมที่สร้างสารเคมีแห่งความสุขให้หลั่งย้อนไหลกลับออกมาอีกที



ดังนั้นการที่ท่านได้กาแฟขี้ช้างแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) จึงถือว่าท่านได้ดื่มเรื่องราวของช้างไทยลงคอไปพร้อมกับกาแฟที่สุดแสนอร่อยด้วย ช้างไทยถือว่าเป็นสัตว์ประจำชาติ เป็นสัตว์ที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน อีกทั้งกาแฟชนิดนี้เป็นกาแฟที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศไทย จึงเรียกได้ว่าเป็นกาแฟสัญชาติไทยโดยกำเนิด เป็นกาแฟของไทยถูกต้องโดยชัดเจนเนื่องจากคุณเบล็คได้ทำการจดลิขสิทธิ์ของกาแฟขี้ช้างไว้ในประเทศไทยแล้วด้วย



















ยามเมื่อดวงตะวันกำลังจะเคลื่อนหลบจากมุมตั้งฉาก ในช่วงหลังจากมื้ออาหารเที่ยงของท่าน ถ้าท่านได้มานั่งดื่มกาแฟรสชาติดี รวมทั้งทานของหวานแสนอร่อยเพื่อเติมเต็มพื้นที่ว่างภายในกระเพาะอาหารให้ครบถ้วน ยิ่งถ้าได้ดื่มเหล้าคอนยัคที่มีรสนุ่มอีกสักหนึ่งจิบด้วย น่าจะทำให้กระบวนการย่อยอาหารของท่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อแอลกอฮอล์ในปริมาณเพียงเล็กน้อยได้ทำปฏิกริยากับคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ มันจะช่วยสร้างความกระปี้กระเป่าและความสดชื่นให้แก่ท่าน ทำให้ท่านพร้อมจะกลับไปสู้กับงานและภาระที่เหลือในยามบ่ายได้อย่างเต็มที่ ชีวิตการทำงานในหนึ่งวันของท่านก็น่าจะดำเนินไปอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น









ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การดื่มกาแฟที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับกาแฟขี้ช้างในชื่อของ กาแฟแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) นี้ ในเซ็ตประกอบไปด้วยเมล็ดกาแฟ 1 ซองน้ำหนักประมาณ 35 กรัม ที่จะทำการชงให้ท่านเห็นวิธีการชงด้วยเครื่องชงแบบโบราณตามที่ผมเล่ามาข้างต้น ซึ่งจะได้กาแฟเอสเปรสโซสำหรับดื่มประมาณ 4-5 แก้วซอต (แก้วแบบจอกประมาณ 1-2 ออนซ์) เสิร์ฟพร้อมชุดของหวานที่ประกอบไปด้วย มากาฮอง ช็อคโกแล็ต มาสมาโร่ ฯลฯ รวมทั้งเฮนเนสซี่ คอนยัค สำหรับ 2 ท่าน ราคาเช็ตละ 999.- บาท โดยเซ็ตกาแฟนี้พร้อมจะให้ท่านลองลิ้มชิมรสความอร่อยอยู่ที่ เดอะบาร์ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เท่านั้น

สำหรับท่านใดที่อยากจะไปลองลิ้มชิมรสกาแฟขี้ช้างด้วยตัวของท่านเอง ท่านสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เบอร์โทร 02 626 1841
























ท้ายสุดนี้ผมต้องขอขอบคุณคุณเบล็ค (Mr.BLAKE DINKIN) ที่ให้ข้อมูลในฐานะเป็นผู้สร้างกาแฟขี้ช้างนี้ขึ้นมา รวมทั้งขอขอบคุณ คุณเหมียว และโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้ผมได้ประสบการณ์ความประทับใจในการ ลองลิ้มชิมรส ... กาแฟขี้ช้าง ในครั้งนี้ด้วยครับ











สำหรับท่านที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกาแฟขี้ช้าง กาแฟแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) ท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่

//www.blackivorycoffee.com


ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ ขอให้ท่านมีความสขมาก ๆ ครับ

อิอิ









 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2556
52 comments
Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 19:07:10 น.
Counter : 7174 Pageviews.

 

นัทเองนะค๊ะคุณกล่อง พอดีไม่ได้ล๊อกอืน

ขอบคุณมากๆสำหรับบล๊อกดีๆความรู้แปลกใหม่เพียบ ร้านสวยมากๆ รูปสวยเครื่องชงกาแฟสวย สรุปว่าชอบหมด ถูกใจๆค่ะ

 

โดย: Why England IP: 78.137.234.80 19 กรกฎาคม 2556 2:45:32 น.  

 

ตอนแรกเราก็ง๊งงงว่านัดกินอึกันคืออีหยัง นึกว่าพิมพ์ผิด 555 ที่แท้ก็กินกาแฟขี้ช้างสุดยอดกาแฟระดับโลกนี่เอง อาคุงกล่องได้มีโอกาสไปสัมผัสรสชาติและประสบการณ์ใหม่ๆ น่าอิจฉายิ่งนัก ได้ดื่มกาแฟชั้นหนึ่งแถมดื่มด่ำเรื่องราวของกาแฟนี้ด้วย

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 19 กรกฎาคม 2556 9:39:06 น.  

 

999.- ราคาแพงจริงๆๆๆๆ

หาอ่านสาเหตุที่แพงก็ถึงกับอึ้ง
เอาเม้ดกาแฟอาราบีก้าไปให้ช้างกินแล้วถ่ายออกมาไปค้นหาเม็ดกาแฟที่ตกมากับมูลช้้างมาอีก โอ้วววว

มายก๊อต

ยากเอาเรื่องเลยน้า จาก 33 กิโลกรัมให้ช้างกินได้มาเพียง 1 กิโลกรัม ยากมากๆ เลยค่ะ
กว่าจะได้มาเป็นกาแฟ 1 แก้ว
ภายใต้ยี่ห้อ BLACK IVORY COFFEE สมชื่อเค้าจริงๆ




อาคุงกล่องชิมแล้วไม่ได้กินข้าว กินน้ำ หลายวันเลยป่าว
กลัวน้ำกาแฟไหลลงท่อข้างล่าง






 

โดย: Rinsa Yoyolive 19 กรกฎาคม 2556 9:57:14 น.  

 

ผมไม่ดื่มกาแฟ
รอดตัวไปครับพี่ 5555

ราคาแพงก็คงเพราะมันมีขั้นตอนยุ่งยากมากมายเลยนะครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 19 กรกฎาคม 2556 10:37:55 น.  

 

จริงหรือมุขอ่ะ เชื่อได้ไหมเนี่น

ปูค่ะเขาบ้านตัวเองไม่ได้
ลืมรหัสกุญแจ

 

โดย: ปู IP: 115.87.73.102 19 กรกฎาคม 2556 10:44:10 น.  

 

สวัสดีตอนบ่ายครับ .....

เพิ่งเคยได้ยินกาแฟขี้ช้างครับ พอดีไม่ใช่คอกาแฟ ผมดื่มกาแฟน้อยมาก แทบจะนับครั้งได้ แต่ที่เคยได้ยินมาบ้างก็เป็นกาแฟขี้ชะมด .....

ราคาแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่คอกาแฟตัวจริงก็คงจะสู้ราคาไม่ไหวหรอกนะครับ แต่ถ้าใครเป็นคอกาแฟก็น่าจะหาโอกาสไปลองชิมดูซักครั้ง จะได้รู้ว่า "ขี้ช้าง" กับ "ขี้ชะมด" อะไรอร่อยกว่ากัน .....

 

โดย: NET-MANIA 19 กรกฎาคม 2556 12:49:10 น.  

 

ว้าว ได้ลองสักที....เลิศไปเลยค่า

 

โดย: auau_py 19 กรกฎาคม 2556 13:21:04 น.  

 

เป็นความรู้มากๆ เลยค่ะคุณกล่อง
ฉัตรเคยได้ยินกิตติศัพท์เค้ามานาน แต่ก็ไม่คิดจะเสาะหาข้อมูล
วันนี้ได้แล้ว อิอิ
ขออนุญาตแชร์ไปหน้าเพจเราหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ณ ปลายฉัตร IP: 58.11.23.173 19 กรกฎาคม 2556 19:25:56 น.  

 

แวะมาทักทายคุณกล่องยามค่ำค่ะ
กาแฟและข้อมูลแน่นปึ๊กเลย
คงจะหอมกรุ่นละมุนละไม 555
ขอบคุณที่นำข้อมูลมาแบ่งปันค่ะ
ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขมากๆกับวันหยุดพักผ่อน
นะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 19 กรกฎาคม 2556 19:47:54 น.  

 

กว่าจะได้แต่ละอึกนี่สุดยอดจิรง ๆคะ
อ่านไปยังอึ้งเลย

 

โดย: แม่อาเดียว IP: 115.67.2.115 19 กรกฎาคม 2556 20:21:55 น.  

 

ทักทายสวัสดีครับคุณกล่อง

ขอบคุณที่ชวนมาชมเรื่องราวดีๆ ของ กาแฟขี้ช้างแบล็คไอวอรี่ (BLACK IVORY COFFEE) กันด้วยครับ

อยากมีโอกาสไปลิ้มรส จิบกาแฟแบบข้างใน ให้ได้ทั้งรสชาดและบรรยากาศดีๆ ของโรงแรมเพนนินซูลา กันด้วยครับ

เรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังใน blog นี้เป็นเรื่องราวดีๆ ได้ข้อมูลครบเลยครับ

 

โดย: ถปรร 19 กรกฎาคม 2556 20:34:14 น.  

 

กระบวนการในการชงกาแฟนั้น เป็นศิลปะจริงๆ ค่ะ
ดื่มให้อร่อยก็ขึ้นอยู่กับการชง ส่วนตัวเองกินได้ทั้งนั้นค่ะ
เพราะว่าลิ้นไม่ค่อยถึง แต่ว่าถ้าได้ลองสักครั้งก็น่าจะดี
จะได้รู้ว่า กาแฟชนิดพิเศษอย่างนี้รสชาติเป็นอย่างไร ดีหรือว่า
อร่อยยังไง แต่ว่าถ้ามันแพงอย่างนี้คิดหนักเหมือนกันนะค่ะ

 

โดย: JewNid IP: 183.89.134.184 19 กรกฎาคม 2556 21:03:50 น.  

 

น่าทานจริงๆ ด้วยค่ะ ถึงราคาจะสูงไปนิดแต่ก็ยังยั่วยวนน้ำลายไหลอยู่ดีเน๊อะ เสียดายจังที่ยังมีขายอยู่เฉพาะที่ หวังว่าคงขยายตลาดมาเชียงใหม่ในอนาคตเน๊อะ

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ ที่เอามาเล่าให้กันฟังค่ะ (กาแฟขี้ชะมดโดนช้างแซงซะแล้ว...ช้างไทยเจ๋งสุด เอ...อีกหน่อยจะมีกาแฟขี้แพนด้าร์มาสู้กับช้างเราเปล่าน้า)

 

โดย: คมไผ่ 19 กรกฎาคม 2556 21:31:38 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ยังไม่เคยทานกาแฟขี้ช้างเลย
เคยแต่ขี้ชะมด ก็อร่อยดี

เอ แต่แพงที่สุดนี่อยากลองบ้างจังคะ

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

โดย: lovereason 20 กรกฎาคม 2556 0:09:23 น.  

 

สวัสดียามเช้าวันเสาร์
อากาศดีๆ ขอให้มีความสุขกับช่วงวันหยุดยาว
สำหรับช่วงเวลาพักผ่อนนะคะ
- Happy Morning - คะ (^.^)/



ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 20 กรกฎาคม 2556 6:26:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอาคุงกล่องแวะเข้ามาอ่าน กาแฟขี้ช้าง โอ้ขั้นตอนการผลิตยุ่งยากจริงๆสมแล้วกับราคาที่แพงมาก
แต่กิ่งไม่กินกาแฟค่ะ แหะ แหะ แต่ขอบคุณมากนะคะสำหรับความรู้พอไปคุยกับใครเขาได้ อิอิ

แต่คอกาแฟคงชอบมาก กิ่งไลท์ให้ก่อนนะคะ

หยุดสี่วันไปทำบุญกันนะคะ


 

โดย: กิ่งฟ้า 20 กรกฎาคม 2556 7:14:05 น.  

 

มันแพงตรงที่ช้าง เคี้ยวเม็ดกาแฟสดแล้ว ไม่นอน
เอ้ย ไม่หลับ... ควานช้างได้โอทีด้วยนี่นา 555

นึกถึงไปเคลี่ยแคะเม็ดกาแฟมาทำความสอาด นำมา
คั่ว แล้วบรื๊อ...

ไม่ไหวแล้วครับคุณกล่อง จริง ๆ แล้วอิจฉาคนสรร
หากาแฟมาจิบมาดื่มกับคอนยัคนะครับ 555

แต่ความคิดเขาดีนะครับ เพิ่มมูลค่าสินค้าได้ดีทีเดียว

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 20 กรกฎาคม 2556 15:28:57 น.  

 

นับเป็ยบุญตาจริงๆที่คุณกล่องนำมาฝากนะคะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 21 กรกฎาคม 2556 15:27:37 น.  

 

สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง
แม้จะไม่ใช่คนดื่มกาแฟ แต่เข้ามาหาความรู้เรื่องกาแฟขี้ช้างด้วยคนค่ะ เป็นกาแฟที่แพงที่สุดซะด้วย แอบอิจฉาคุณกล่องเล็ก ๆ นะคะที่ได้ลิ้มลองมาแล้ว

 

โดย: เนินน้ำ 21 กรกฎาคม 2556 17:44:41 น.  

 

คุณกล่องฯข้าไปเม้นท์อวยพรที่บล็อคคุณอุ้มสี
เป็นคนที่ 48 พอดี กับอายุ คุณอุ้มสี
ที่ตั้งของที่ระลึกพิเศษไว้
สำหรับคนที่7 (เดือนเกิด)
คนที่8(ปีเกิด2508)
21(วันเกิด)
48(อายุ)...พอดี

 

โดย: เริงฤดีนะ 21 กรกฎาคม 2556 17:46:41 น.  

 

ทานข้าวยัง ยกมาฝากค่ะ

 

โดย: Calla Lily 21 กรกฎาคม 2556 18:06:41 น.  

 


พี่อุ้มขอมอบรางวัลให้กับคอมเม้นท์ที่ 48 คือ
น้องอาคุงกล่อง


 

โดย: อุ้มสี 22 กรกฎาคม 2556 13:02:13 น.  

 

หวัดดีค่าอาคุงกล่อง
กาแฟราคานี้รินสามารถ
นอนรีสอร์ทสวยสุดๆ พร้อม ABF ได้ 1 มื้อเลยน้า
จะบอกให้ อิอิ






 

โดย: Rinsa Yoyolive 23 กรกฎาคม 2556 12:10:20 น.  

 

เพิ่งไปอ่านเรื่องกาแฟขี้ช้างมาไม่นานนี่เอง
มาเจอคุณกล่องอัพบล๊อคอีก เข้ากันพอดีเลยค่ะ
ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเนาะ

ขอบคุณสำหรับโหวตค่า ปลูกฟักเองด้วย...อู๊ยยย ดีจังเลย
ประหยัดเงิน แถมได้ผักปลอดสารพิษด้วยเลยนะคุณกล่อง
แกงเผื่อด้วยนะคะ อิอิ

 

โดย: schnuggy 23 กรกฎาคม 2556 19:27:40 น.  

 

หวัดดียามดึกค่ะ คุณ คุง..
...โอแม่เจ้า อ่านแล้วตะลคงครับท่าน .
คือ ไม่เคยได้ยินทั้งขี้ช้างขี้ชะมด เลยอ่ะ เชยเป่าหว่า
มันก็สมควรแพง เพราะดูกรรมวิธีตั้งแต่ การผลิตกาแฟ
จนมาถึงชง โหๆ กว่าจะได้..ลำบากแท้ ..
เคล็ดลับความอร่อยมันอยู่ตรงนี้ เอง ..อิอิ
ไม่มีไรถามต่่อ จขบ เล่ามาซะละเอียด ..
เป็นประสบการที่ได้รู้จักเลยค่ะ ..แหะๆ
บังเอิญตัวเองไม่กินกาแฟ .. เด๋วจะเอาไปโม้ต่อ นะคะ ..
เนี่ย ถ้าบอกแต่ชื่อคงไม่อยากกิน
ต้องอธิบาย ยาวเลยนะเนี่ย..!
Good night ka!!

 

โดย: tifun 23 กรกฎาคม 2556 23:14:47 น.  

 

ขอบคุณนะคะสำหรับคอมเม้นท์ในบล็อคไผ่ค่ะ...เห็นแว๊บๆ ในเฟสบุ๊ค เราคงวนเวียนกันแถวๆ นี้แหละเน๊อะ

 

โดย: คมไผ่ 23 กรกฎาคม 2556 23:21:24 น.  

 

สุดยอดกาแฟครับ อาคุงกล่อง

 

โดย: เศษเสี้ยว 24 กรกฎาคม 2556 1:01:09 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่อาคุงกล่อง







 

โดย: กะว่าก๋า 24 กรกฎาคม 2556 6:26:25 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะอาคุงกล่อง
ขอบคุณที่แวะไปชิมอาหารที่บ้านเสมอ ๆ นะคะ
แอบอิจฉาด้วยนะคะได้หนังสือจากน้องอุ้ม ขาวสวยหมวยอึ๋ม ต้องถูกใจอาคุงกล่องแน่นอน เดาว่างั้น อิอิ..


ปล.พี่ไม่ดื่มกาแฟค่ะ แต่มาดมกลิ่นหอม ๆ อีกรอบหนึ่งจ้า..
ยังไงก็คิดว่าแพงมาก ๆ เนาะ หนึ่งพันกับกาแฟหนึ่งแก้ว ขอคิดดูก่อน อิอิ..

 

โดย: เนินน้ำ 24 กรกฎาคม 2556 7:08:20 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณอาคุงฯ
มาทักทายและอ่านข้อมูลกาแฟที่แพงที่สุดในโลกอีกคร้า
มาจิบกาแฟ เคล้าวิสกี้ในบรรยากาศหรูเช่นนี้ อิจฉาเลยน๊าาาา...
ชอบบรรยากาศแบบนี้คร้า เปิดโอกาสให้ความสุขแก่ตัวเอง
ที่ไม่ได้ผ่านมาให้ลิ้มลองรสชาติได้บ่อยๆนะคร้า...

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Topical Blog

 

โดย: tui/Laksi 24 กรกฎาคม 2556 10:40:44 น.  

 

อ่านมาจนจบ ถึงได้รู้ว่า
การดื่มกาแฟเป็นอะไรที่คล้ายๆการเสพย์งานศิลป์เหมือนกันนะคะ
ทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอนต้องใช้ความละอียดและใส่ใจ
กว่าจะได้กาแฟดีๆสักถ้วย ไม่ง่ายเลย
10 ปี กับเวลาที่ใช้ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
น่าชื่นชมฝรั่งก็ตรงนี้แหละค่ะ เมื่อตั้งใจทำอะไรแล้ว
ก็ทำอย่างตั้งใจและจริงจัง ไม่ยอมเลิกง่ายๆถ้าไม่สำเร็จ
ชอบประโยคนี้จังค่ะ

“ถ้าอยากจะดื่มกาแฟให้ได้รสชาติที่แท้จริงนั้น
คุณจะต้องดื่มจากข้างใน”

ขอบคุณมากค่ะที่ไปชวนมาอ่านเรื่องราวดีๆที่น่ารู้
เหมือนได้ดูสารคดีเยี่ยมๆตอนหนึ่งเลยค่ะ

 

โดย: ฝากเธอ 24 กรกฎาคม 2556 10:42:35 น.  

 

โห แค่ขี้ ชะมด ก้อไม่กล้ากินแล้ว ฮา
จริง ๆ มิลชอบกาแฟนะคะ แต่ยังติดใจว่า ผ่านการ อิ นี่แหละ

 

โดย: มิลเม 24 กรกฎาคม 2556 11:10:51 น.  

 

อิจฉาลุง ได้ชิมกาแฟหรูระดับโลกเลย

กาแฟแพงๆกินไม่เป็นอ่ะ รู้จักแต่กาแฟสิบล้อ

 

โดย: พจมารร้าย 24 กรกฎาคม 2556 12:47:36 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณอากล่อง
ธัญแวะมาดูกาแฟ ราคานี้คงชิมม่ะหวายยยย

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่มีให้สาวน้อยด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

ธัญขอแอดเฟรนนะคะ ลืมทุกครั้งเลย ^^

คุณอากล่องมีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: tanjira 24 กรกฎาคม 2556 16:03:16 น.  

 

ราคาเอาเรื่องเลยครับ

สมัยก่อนได้ยินกาแฟขี้ชะมดบ่อยๆ นี่เป็นขี้ช้าง

อยากชิมบ้างจริงๆ แต่เห็นราคาแล้วต้องถอยก่อนล่ะครับ แหะๆ

ไม่ได้แวะมาบ้านนี้นานมากแล้วจริงๆ พอดียุ่งหลายเรื่องน่ะ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 กรกฎาคม 2556 17:56:29 น.  

 

เคยได้ยินแต่กาแฟขี้ชะมด อะจ๋าย!!! ....ขี้ช้างก็เอามาทำกาแฟด้วย!
แต่อันนี้ดีตรงใช้ช้างไทย สนับสนุนการหารายได้ให้ช้างไทย เอ้ย! คนเลี้ยงช้างบ้านเรา แถมต้องเป็นช้างที่เชียงรายด้วยหรือเปล่าครับ ช้างอยุธยารสชาติอึมันคงไม่ดีนัก เดี๋ยวนี้ไปตลาดกลางเจอพวกเห็บช้างพาช้างมาขอทานประจำเลย

กาแฟงาดำ (Black Ivory อิอิ) ราคาโหดเอาเรื่องเลยครับ ชุดละพัน... แต่ก็สมเป็นกาแฟที่ให้ช้างกิน 33 โล ได้ผลออกมาโลเดียว (ที่เหลือกลายเป็นอี้!) ไหนจะต้องเอาไปผ่านกรรมวิธีอีกมากมายอีก

บล็อกคุณอาคุงกล่องอันนี้จุใจในรสกาแฟถึงเนื้อในจริงๆครับ ทั้งข้อมูลกาแฟและวิธีการชง+ภาพประกอบ ละเอียดสุดยอดไปเลย

 

โดย: ชีริว 24 กรกฎาคม 2556 21:29:03 น.  

 

ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปโหวตให้

 

โดย: Calla Lily 24 กรกฎาคม 2556 21:43:21 น.  

 

กว่าจะได้กาแฟสักถ้วยไม่ง่ายเลยนะครับ
ต้องคัดตั้งแต่เม็ดกาแฟ ช้าง และความคาดหวังที่ผ่านกระบวนการลำเลียงภายในตัวช้าง รวมทั้งขั้นตอนการชงกาแฟ
ถือว่าเป็นความชำนาญเฉพาะด้านมากๆเลยครับ

 

โดย: Insignia_Museum 24 กรกฎาคม 2556 21:49:00 น.  

 

สวัสดียามค่ำคืนครับ

ตามมาชมกาแฟขี้ช้างด้วย ขั้นตอนเยอะเลย กาแฟดูน่าทาน Like ครับ

 

โดย: **mp5** 24 กรกฎาคม 2556 22:28:34 น.  

 

แวะมาทักทายคุณกล่องยามดึกและมาชวน
ไปเดินเล่นก่อนนอนค่ะ ^_^

 

โดย: andrex09 24 กรกฎาคม 2556 23:00:38 น.  

 

ไม่ดื่มกาแฟ แต่ก็ได้ความรู้มากเลยค่ะ
แล้วช้างจะนอนหลับมั้ยนะ กินกาแฟเยอะนะนั่น

 

โดย: ALDI 25 กรกฎาคม 2556 1:31:36 น.  

 

เซ็ตละ 999 บาท หนักหนาสาหัสอยู่ค่ะ แต่พอเข้าใจได้

ชอบเรื่องราวตอนจะชงค่ะ ส่วนตอนเอาเมล็ดกาแฟจากขี้ช้างก็คล้ายๆ ตอนขี้ชะมดมังคะ

*** ตอนเข้าไปวิหารน้อยไม่ทราบเรื่องรูปปั้นท่านคึกฤทธิ์ที่ฐานหรอกค่ะ เพิ่งรู้ตอนหาข้อมูล เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยค่ะ เสียดาย ไว้โอกาสหน้า รวมทั้งขนมจีนทอดมันด้วย ชื่อร้านอะไรคะคุณกล่อง เผื่อพิกัดจะแคบลง หาง่ายขึ้นหน่อย

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 25 กรกฎาคม 2556 17:27:48 น.  

 

น่าอิจฉาจริงๆ เลยค่าาาา
ได้ไปลิ้มลอง ของแปลกใหม่ อิอิ
เห็นที่ชงกาแฟแล้วกรี๊ดค่ะ สวยจัง

 

โดย: Close To Heaven 25 กรกฎาคม 2556 21:13:01 น.  

 

วันนั้นดู ทีวี กาแฟขี้ชะมดพอดี แต่ส่วนตัว คงไม่มีโอกาสชิม แต่... ชื่อกาแฟ ทำให้ขมคอนิดๆนะคะ อาคุงโชคดีที่ได้ลิ้มลองนะคะ

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 26 กรกฎาคม 2556 9:08:18 น.  

 

สนใจอ่านความเป็นมาและกรรมวิธีการผลิต
เป็นความรู้ดี ขอบคุณมากครับ

พี่ติดกาแฟ อันนี้ยอมรับ แม้ไม่เคยติดถึง
ขนาดที่ต้องกินกาแฟเริ่ดหรู ทั้งทำใจให้ควัก
ค่ากาแฟถ้วยละครึ่งพันแบบกาแฟชะมดก็ไม่ได้
ไอ้ที่แย่ที่สุดก็คือ ทำใจกับอะไรๆ ที่เป็นขี้ๆ
แล้วจะเอามากินทั้งที่ฟังดูเมือนว่าจะสะอาดก็
ไม่ได้อีก เลยต้องสรุปว่า ได้แต่ชื่นชมคนที่
พยายามสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้ลองกัน
ชื่นชมคุณกล่องที่ไปเที่ยวหามาฝากกันด้วยครับ

 

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 26 กรกฎาคม 2556 12:41:45 น.  

 

เพิ่งได้ยินชื่อทั้งกาแฟขี้ชะมด และ กาแฟขี้ช้างค่ะ

โชคดีตอนนี้ป้าเลิกดื่มกาแฟแล้ว

ดังนั้นไม่ว่ากาแฟจะหอมหรือราคาแพงขนาดไหนก็ไม่สะดุดจมูก และ กระเป๋าป้าค่ะ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 26 กรกฎาคม 2556 15:08:54 น.  

 

ขอบคุณ คุณกล่องค่ะ ไว้มีโอกาสไปวัดมหาธาตุอีก จะไปตามรอยชิมขนมจีนทอดค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 26 กรกฎาคม 2556 21:26:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ

กลับมาโหวตให้เรื่องราวดีๆ มีสาระค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Topical Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 26 กรกฎาคม 2556 23:34:37 น.  

 

ทีแรกนึกว่าพูดเล่น ไม่ได้ว่างมาเลย มาแล้วทึ่งมากค่ะคุณกล่อง

 

โดย: sawkitty 27 กรกฎาคม 2556 14:58:27 น.  

 

แวะมาทักทายคุณกล่องยามค่ำค่ะ
หลับฝันดีนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 27 กรกฎาคม 2556 21:01:46 น.  

 

ถ้าได้ลองซักครั้งในชีวิตก็คงจะดีนะคะ น่าอิจฉาจังเลยค่ะ

 

โดย: ร้อยคืนหมื่นวัน (ร้อยคืนหมื่นวัน ) 28 กรกฎาคม 2556 19:46:29 น.  

 

เพิ่งจะรู้ว่ามีกาแฟขี้ช้างด้วย เคยได้ยินแต่กาแฟขี้ชะมด ขอแสดงความชื่นชมคุณเบล็คที่คิดค้นกาแฟยี่ห้อไทยแท้ขึ้นมา แถมได้ราคาดีมาก ๆ ด้วย เสียดายที่ไม่ดื่มกาแฟ ไม่งั้นจะลองแวะไปชิมดูมั่ง ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและข้อมูลดี ๆ ของกาแฟขี้ช้างมาฝากกันนะคะ

 

โดย: haiku 28 กรกฎาคม 2556 21:33:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.