ฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน
24 มกราคม 2556
วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปไหว้พระกันอีกแล้วครับ ช่วงนี้ชีวิตผมสงบดีมากผมเลยมีโอกาสได้ไปไหว้พระบ่อยครับ แต่ในวันนี้ผมจะไม่ได้พาท่านไปไหว้พะระที่วัดนะครับ แต่ผมจะพาท่านเข้าพระราชวังเก่าเพื่อไปไหว้พระพุทธรูปโบราณเลยครับ ว่าแล้วก็ตามชมกันเลยนะครับ
ที่บอกว่าเป็นพระราชวังเก่าก็เพราะว่าที่แห่งนี้คือ วังหน้า ครับ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยผมได้ทราบมาจากบล็อกของคุณสายหมอกและก้อนเมฆว่า ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปไหว้พระพุทธรูปโบราณได้ โดยเป็นการจัดเป็นประจำทุกต้นปี เมื่อตอนต้นปีที่แล้วทางพิพิธภัณฑ์ฯ ก็ได้มีการนำพระพิฆเนศวรโบราณหลายองค์นำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้ แต่ว่าในปีที่แล้วผมก็พลาดไม่ได้ไปกราบไหว้ ดังนั้นในปีนี้ผมเลยไม่พลาดที่จะไปไหว้พระพุทธรูปโบราณให้ได้ครับ
พูดถึงวังหน้าแล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่อยากจะทราบว่าวังหน้าคืออะไร? ผมก็เลยลองไปค้นคว้าหาข้อมูลดู ก็เลยได้ทราบว่า วังหน้า แต่เดิมนั้นก็คือวังหรือที่ประทับของพระมหาอุปราชาในสมัยโบราณ สำหรับวังหน้าของกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีพระมหาอุปราชาก็คือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งมีตำแหน่งเป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งเป็นพระราชภาตา(น้องชาย)ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ร.1) วังหน้าเดิมนั้นก็คือทางด้านทิศเหนือของพระบรมมหาราชวัง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร , โรงละครแห่งชาติ และวิทยาลัยนาฎศิลป์ นั้นเองครับ
พระบวรราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
พูดถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้ว ผมยอมรับว่าเคยเข้าไปชมแค่ครั้งเดียวเองครับ ผมจำภาพภายในไม่ได้แล้วด้วย เพราะว่าผมเคยไปในวันเด็กปีหนึ่งในสมัยที่ผมยังเป็นนักเรียนประถมอยู่เลยครับ จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเด็กแล้วที่โรงเรียนผมเขาก็จัดงานวันเด็ก แต่ผมก็ไม่ค่อยอยากจะอยู่ร่วมงานวันเด็กที่โรงเรียนสักเท่าไหร่ ตอนเป็นเด็กผมก็อยากรู้อยากเห็นอยากจะออกไปเที่ยวไกล ๆ บ้าง จำได้ว่าวันเด็กในปีนั้นโชคดีเพราะว่าคุณครูให้ผมและเพื่อนอีกคนที่แต่งชุดลูกเสือไปยืนโบกธงจราจรให้คนข้ามถนนที่หน้าประตูโรงเรียน ด้วยความที่ผมอยากจะไปเที่ยววันเด็กผมและเพื่อนจึงได้วางแผนที่จะหาทางไปเที่ยวกัน โดยผมกับเพื่อนได้เดินไปหาคุณลุงตำรวจที่ประจำอยู่ป้อมจราจรไม่ไกลนัก โดยผมไปบอกคุณลุงตำรวจว่าคุณครูให้มาตามไปโบกรถให้คนข้ามถนนที่หน้าโรงเรียน ซึ่งคุณลุงตำรวจท่านนั้นก็ใจดีเหลือเกินพอผมและเพื่อนไปบอกเขาก็รีบมาปฏิบัติหน้าที่ให้ทันทีเลย
ผมและเพื่อนก็ได้เฮกันดัง ๆ เลยครับ เพราะว่าจะได้หนีเที่ยววันเด็กแล้ว แต่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีล่ะ? ว่าแล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าคุณครูเคยพาไปทัศนะศึกษาที่วัดพระแก้ว ผมและเพื่อนก็เลยขึ้นรถเมล์สาย 82 จากหน้าโรงเรียนของผมที่บางปะกอกไปลงที่สนามหลวง จำได้ว่าผมและเพื่อนนั่งรถเมล์ไปจนสุดสาย ซึ่งท่ารถเมล์สาย 82 ในสมัยก่อนนั้นอยู่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครพอดีเลยครับ พอผมและเพื่อนลงรถเมล์ก็เลยโดนต้อนเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ซึ่งกำลังจัดงานวันเด็กอยู่ โดยทางพิพิธภัณฑ์มีการแจกขนม แจกสมุด แจกดินสอ แถมมีหมวกกระดาษสีสวย ๆ ให้ใส่ด้วย ผมและเพื่อนก็เลยมีโอกาสได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นครั้งแรก ตอนนั้นผมจำไม่ได้หรอกว่าภายในนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าในวันนั้นผมคงดีใจกับขนมและของแจกที่ได้รับมากกว่าครับ
หลังจากวันเด็กในปีนั้นเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่มีโอกาสเข้าไปชมในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอีกเลยครับ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่าเป็นโชคดีของผมมาก ที่ได้ทั้งการไปไหว้พระ และได้ชมพระพุทธรูปโบราณที่ถือว่าเป็นงานศิลปะที่เป็นสมบัติของประเทศเลยครับ โดยทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้นำพระพุทธรูปเก่าที่มีอายุมากกว่า 200 ปีมาจัดอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้กัน โดยไม่เสียค่าผ่านประตู เพราะว่าได้จัดอยู่ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ซึ่งอยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครเลยครับ
ว่าแล้วก็ไปกราบสักการะพุทธรูปโบราณกันก่อนเลยดีกว่าครับ
ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ซึ่งอยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สำหรับ ฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน พุทธศักราช 2556 นี้ มีพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีที่จัดมาให้ประชาชนได้กราบสักการะอยู่ 9 องค์ก็คือ 1.พระพุทธสิหิงค์ (ยอดแห่งสิริรมงคลทั้งปวง) 2. พระเจ้าห้าพระองค์นาคปรก (ปกป้องทุกทิศ) 3. พระพุทธรูปหยกรัสเซียหรือพระแก้วมรกตน้อย (ประสิทธิโชคและโภคทรัพย์) 4. พระไภษัชยคุรุ (ระงับโรคาพยาธิ) 5. พระชัย (อำนวยฤทธีและอำนาจ) 6. หลวงพ่อนาก (แคล้วคลาดเภทภัย) 7. พระแก้วขาว (สดใสรุ่งเรือง) 8. พระทองคำปางมารวิชัย (ปราดเปรื่องปัญญา) 9. พระหายโศก (อำลาทุกข์โศก) ท่านใดที่ไปมากราบไหว้สักการะแล้วจะถือว่าเป็นมงคลแก่ชีวิตของท่านเป็นอย่างมาก
มีรายละเอียดของพระพุทธรูปเก่าทั้ง 9 องค์นี้ด้วยครับ ลองตามอ่านรายละเอียดกันดูนะครับ (น่าจะพอมองเห็นนะครับ)
พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นองค์พระประธานของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์นี้ด้วย
ที่เห็นเป็นงาช้างสีขาวนี้ก็คือ พระเจ้าห้าองค์นาคปรก
พระหายโศก และ พระไภษัชยคุรุ
องค์ที่มีตาลปัตรพัดยศนั้นคือพระชัย ส่วนองค์ด้านหน้าคือพระทองคำปางมารวิชัย ทางด้านซ้ายคือพระแก้วขาว ทางด้านขาวคือพระแก้วมรกตน้อย
องค์ใหญ่ด้านหลังคือหลวงพ่อนาก
มีหนังสือและโปสการ์ดของพระพุทธรูปโบราณทั้ง 9 องค์จำหน่ายด้วยครับ
นอกจากนั้นท่านยังจะมีโอกาสได้เดินชมศิลปะวัตถุโบราณและพระพุทธรูปโบราณองค์อื่น ๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์อีกด้วย
ตู้พระธรรม
ภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้ง 4 ด้าน
ออกมาชมภายนอกของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์กันบ้างดีกว่าครับ ที่เห็นนี้น่าจะเป็นสัตว์หิมพานต์ที่เรียกว่า นกทัณฑิมา
ระฆังยักษ์ ที่เป็นระฆังเก่าแก่โบราณตั้งแต่ ร.4
ปืนใหญ่โบราณ น่าจะเป็นปืนใหญ่ที่ประจำการไว้ที่วังหน้าแห่งนี้
รูปปั้นสำริดด้านหน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ผมเห็นแล้วผมชอบมาก ๆ เลยครับ จริง ๆ แล้วผมสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้วครับ (ทำไมสมัยก่อนไม่เคยสังเกตเห็นก็ไม่ทราบครับ) พอกลับมาถึงบ้านแล้วผมก็เลยรีบมาหาข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งก็ได้ทราบว่ารูปปั้นสำริดนี้คือ พระนาราษณ์ทรงปืน ที่หล่อขึ้นพร้อมกับการสร้างพระราชวังบ้านปืน ที่จ.เพชรบุรี ตั้งแต่สมัย ร.5 เลยครับ ท่านใดมีข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปปั้นสำริดพระนาราษณ์ทรงปืนนี้ก็ช่วยคอมเม้นท์บอกผมด้วยนะครับ
พระนาราษณ์ทรงปืน
คนโบราณเขาบอกว่า พระพุทธรูปองค์ใดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ก็จะมีคนไปกราบไหว้กันเยอะมาก ยิ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีขึ้นไปด้วยนั้น ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้นไปอีก ในสมัยนี้โอกาสที่จะได้ไปกราบไหว้พระพุทธรูปเก่าแก่อย่างใกล้ชิดแบบนี้คงจะยากมาก ดังนั้นถือว่าเป็นโอกาสอันดีเลยครับที่ท่านจะได้กราบไหว้พระพุทธรูปโบราณ นอกจากนั้นแล้วท่านยังได้ชมศิลปะอันงดงามของประเทศเราอีกด้วยครับ
ถ้าท่านใดมีโอกาสก็น่าจะลองไปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อไปกราบสักการะพระพุทธรูปสำคัญทั้ง 9 องค์นี้นะครับ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ยังจัดไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2556 นี้ครับ ท่านสามารถไปได้ทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุดเลยนะครับ
(แต่ถ้าอยากจะซื้อบัตรเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ด้วย ท่านต้องไปวันพุธถึงวันอาทิตย์นะครับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หยุดทุกวันจันทร์และวันอังคารครับ)
ขอให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาชมบล็อกนี้มีความสุขมาก ๆ นะครับ และขอให้ท่านได้รับความสิริมงคลจากการกราบสักการะพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่ ที่ถือว่าเป็นพระปฏิมาแห่งแผ่นดินในครั้งนี้ด้วยนะครับ
สาธุ ....
| Create Date : 24 มกราคม 2556 |
| Last Update : 24 มกราคม 2556 11:12:48 น. |
|
57 comments
|
| Counter : 6721 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [
มาไหว้พระด้วยคนเป็นศิริมงคลวันนี้ด้วยค่ะ
สาธุ....