|
เมียของคนอังกฤษ
18 มกราคม 2558
ช่วงนี้ผมคิดว่าอยากจะหันมาเอาดีด้านรีวิวหนังสือ สาเหตุก็เพราะว่าช่วงนี้ผมอ่านหนังสือเยอะมาก โดยผมอ่านหนังสือหลากหลายประเภทซึ่งน่าจะแตกต่างจากเพื่อนบล็อกคนอื่นที่มักจะรีวิวแต่นวนิยายสมัยใหม่ ผมจึงอยากจะลองรีวิวแนะนำหนังสือเล่มที่ผมได้อ่าน เพื่อเป็นการฝึกการอ่านแบบเลาะตะเข็บ โดยการอ่านเพื่อจับใจความและอ่านเพื่อหาเรื่องราวมาเขียนถ่ายทอดต่อนั้น เป็นการอ่านที่เป็นประโยชน์สำหรับการนำไปใช้พัฒนางานเขียนของผมในอนาคตครับ
สำหรับการรีวิวแนะนำหนังสือเล่มนี้ ผมถือว่าไม่ใช่บทวิจารณ์งานวรรณกรรม เพราะว่าผมไม่มีคุณวุฒิทางภาษามากเพียงพอที่จะไปวิจารณ์งานเขียนของท่านใดได้ เอาเป็นว่าผมลองเขียนออกมาจากความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบลงแล้ว
วันนี้ผมจะขอรีวิวแนะนำหนังสือเรื่อง เมียของคนอังกฤษ เล่มนี้สำหรับผมถือว่าเป็นงานเขียนชั้นครูเพราะว่าผู้เขียนคือ ขจรฤทธิ์ รักษา ซึ่งเป็นคุณครูที่สอนวิชาการประพันธ์ให้แก่ผมครับ ที่ผ่านมาผมได้ไปเรียนการเขียนกับคุณครูขจรฤทธิ์ รักษา ที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ผมจึงได้หนังสือเล่มนี้มา
สำหรับเรื่อง เมียของคนอังกฤษ เล่มนี้ผู้เขียน(ขจรฤทธิ์ รักษา)ใช้คำว่า เรื่องยาว ไม่ได้ใช้คำว่า นวนิยาย เพื่อเรียกหนังสือเล่มนี้ สำหรับผมดูแล้วน่าจะเหมือนนวนิยายขนาดสั้นมากกว่า แต่ว่าพออ่านจบแล้วรู้สึกว่างานเขียนเล่มนี้เหมือนบันทึกการเดินทางของผู้เขียน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสถานที่และคนที่อยู่ในสถานที่นั้น สำหรับสถานที่ซึ่งเป็นฉากเกือบทั้งหมดในเรื่องนี้คือประเทศอังกฤษ โดยมีตัวละครเป็นคนซึ่งผู้เขียนไปเจอที่ประเทศอังกฤษ งานเขียนชิ้นนี้จึงเหมือนว่าเขียนมาจากเรื่องจริง โดยเฉพาะสถานที่ซึ่งเป็นฉากในเรื่องนี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่าผู้เขียนบรรยายจากสถานที่จริงแน่ ส่วนเรื่องราวของคนที่ผู้เขียนเล่านั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผู้เขียนใส่จินตนาการลงไปในตัวละครมากน้อยขนาดไหน?
เรื่อง เมียของคนอังกฤษ นี้เต็มไปด้วยฉาก โดยให้ฉากเป็นตัวเล่าเรื่อง แต่ผู้เขียนก็ไม่ลืมที่จะใส่เรื่องราวของตัวละคร(คน)เข้ามาให้เรื่องเล่านี้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยในเรื่องเป็นฉากของเมืองโฟลคส์ตันซึ่งเป็นเมืองชายทะเลเล็ก ๆ อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ส่วนตัวละครที่ผู้เขียนนำมาใช้เป็นชื่อเรื่องนั้นมาจากตัวละครซึ่งเป็นผู้หญิงที่แต่งงานกับชาวอังกฤษและไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น โดยมีตัวละครเอกที่ชื่อสุกัญญามีเรื่องราวส่วนตัวที่ค่อนข้างแปลกพิสดารและน่าสงสัยอยู่มากพอสมควร แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นผู้อ่านคงต้องอ่านเอาเองครับ (ในส่วนนี้เล่าให้ทราบไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์ครับ)
ในการที่ผู้เขียนเล่าบรรยายถึงฉากต่าง ๆ ในเมืองที่เพิ่งได้พบเห็นนั้น ทำให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย เนื่องจากฉากที่บรรยายมานั้นก็คงจะใหม่ในความรู้สึกของผู้อ่าน(ผม)เช่นกัน โดยในเนื้อเรื่องมีตอนที่เขียนถึงฉากซึ่งเป็นสถานที่แปลกใหม่สำหรับผู้เขียนว่า ...
สำหรับคนที่ไม่เคยมา(อังกฤษ)อย่างผม พบเห็นอะไรเข้าก็น่าตื่นเต้น และน่าสนใจไปหมดครับ ดังนั้นเมื่อผู้อ่านได้อ่านก็เหมือนว่าผู้อ่านได้ตามไปเที่ยวด้วย ผู้เขียนบรรยายลักษณะภูมิประเทศและบ้านเมืองจนผู้อ่านสามารถจินตนาการตามได้ ดังนั้นคนที่สนใจกำลังจะไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษหรือไปที่เมืองโพลคส์ตันนี้ก็น่าจะลองหาเรื่องนี้มาอ่านดูนะครับ
จากชื่อเรื่อง เมียของคนอังกฤษ ผู้เขียนได้เขียนถึงเรื่องราวของตัวละครที่เป็นเมียของคนอังกฤษ โดยพยายามทำให้ผู้อ่านเห็นถึงสาเหตุของการเป็นเมียของตนอังกฤษและสภาพชีวิตของเมียนำเข้าจากประเทศไทย โดยผมจะขอยกเนื้อเรื่องมาสักหนึ่งย่อหน้าที่จะทำให้ท่านเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อถึง
ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ไม่ได้รักชาวต่างชาติอย่างจริงจังหรอก มักจะคิดไว้ก่อนว่าเขาสามารถจะช่วยเหลือครอบครัวพี่น้องของเธอได้ เมื่อมาอยู่เข้าจริงก็จะรู้ว่าคนอังกฤษทำงานหนัก สะสมเงินทองเพื่อที่จะได้ออกไปเที่ยวยังต่างประเทศ เมื่ออยู่เมืองไทยพวกเขาใช้เงินราวกับกระดาษ ทั้งนี้ก็เพราะอาหารการกินข้าวของเครื่องใช้ในเมืองไทยมีราคาถูกมาก ผู้หญิงไทยเห็นก็นึกว่าทุกคนเป็นมหาเศรษฐีไปเสียหมด
ถ้าท่านใดสนใจเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของคนอังกฤษ และอยากรู้เรื่องราวของผู้หญิงที่ไปเป็นเมียของคนอังกฤษแล้วก็น่าจะลองหาเรื่องนี้มาอ่านดูนะครับ แต่เรื่องเล่านี้อาจจะไม่ใช่เรื่องราวแบบพาฝันที่อ่านสนุก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องราวที่รันทดเกินไปสำหรับจะอ่าน ผมคิดว่าอ่านเรื่อง เมียของคนอังกฤษ นี้แล้วได้ความรู้ใหม่เพิ่มเติมขึ้นอีกมากเลย อย่างน้อยก็เรื่องราวของประเทศอังกฤษที่ผู้เขียนไปประสบมา ซึ่งผู้เขียนถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีสาระและน่าสนใจเป็นอย่างมาก
เรื่องยาวชื่อ เมียของคนอังกฤษ นี้ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ของ อ.ขจรฤทธิ์ รักษา ขนาดความยาวหนา 224 หน้า ราคาปก 150 บาท ถ้าท่านที่สนใจอยากจะหามาอ่านแต่ไม่สามารถหาจากร้านหนังสือทั่วไปได้ (เนื่องจากหนังสือเล่มที่นี้พิมพ์ตั้งแต่ปี 2546 แล้ว) ท่านก็สามารถติดต่อที่สำนักพิมพ์บ้านหนังสือโดยตรงก็ได้ครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการอ่านหนังสือนะครับ
อิอิ
    
| Create Date : 18 มกราคม 2558 |
|
16 comments |
| Last Update : 18 มกราคม 2558 13:51:25 น. |
| Counter : 1314 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [
ขอบคุณค่ะ