Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
1 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
พลอยเก้าสี



1 เมษายน 2558







หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้เมื่อเห็นชื่อเรื่องและเห็นชื่อผู้แต่งแล้วท่านอาจจะคิดว่าเป็นนวนิยายแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น 9 เรื่องที่แต่งโดยแก้วเก้า นามปากกาที่หลายท่านรู้จักกันดีหลายท่านอาจเคยอ่านผลงานนวนิยายของผู้แต่งท่านนี้มาก่อน ซึ่งนอกจากนามปากกาแก้วเก้าแล้วยังมีนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล ที่โด่งดังจนนักอ่านทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายเรื่อง รัตนโกสินทร์ สองฝั่งคลอง นิรมิต ราตรีประดับดาว บูรพา ฯลฯ จึงถือได้ว่าแก้วเก้าเป็นปรมาจารย์ด้านนวนิยายท่านหนึ่งของเมืองไทยเลย

หนังสือ “พลอยเก้าสี” ที่แต่งโดยแก้วเก้านี้ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น 9 เรื่องที่มีพล็อตเรื่องที่ให้อารมณ์แตกต่างกันไปเหมือนพลอยที่เปล่งรัศมีออกมาเป็น 9 สี ซึ่งแต่ละสีนั้นให้ความงามที่แตกต่างกัน เรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่องนี้ดูแล้วอาจจะเหมือนนวนิยายขนาดสั้นแต่จริง ๆ แล้วเป็นรูปแบบของเรื่องสั้น ที่มีเพียงพล็อตเดียวและตัวละครไม่มาก แต่จะแตกต่างจากเรื่องสั้นทั่วไปตรงที่มีหลากหลายฉากมาก ซึ่งเรื่องราวในแต่ละฉากนั้นจะนำไปสู้บทสรุปในท้ายเรื่องที่เป็นรูปแบบของวรรณกรรมทั่วไป นอกจากนั้นแล้วในเรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่องยังแฝงไว้ด้วยเรื่องราวของความรักที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของนิยายพาฝันทั่วไป ดังนั้นท่านที่ชอบอ่านเรื่องราวของความรักในหลากหลายรูปแบบก็น่าจะลองมาอ่าน “พลอยเก้าสี” เล่มนี้ดูบ้าง

สำหรับเรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่อง ผมขอพูดถึงคร่าว ๆ ดังนี้

เรื่อง เบื้องบนเครดิต เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของเล่มที่มีความยาวกว่า 40 หน้า โดยพูดถึงชายหนุ่ม(พระเอก)ที่ได้รับเครดิตจากเบื้องบนโดยจะต้องพฤติตัวให้ดีด้วยการถือศีล 8 ก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวที่แฟนตาซีแบบแฝงไปด้วยหลักธรรมทางพุทธศาสนาไปด้วย

เรื่อง ความฝันของใบไม้ เป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องที่มีความยาวมากเช่นกัน ในเรื่องพูดถึงตัวละครหญิง(นางเอก)ที่มีความต้องการลึก ๆ อยากจะย้อนเวลากับไปหาชายในฝันที่เคยเจอ แต่ในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าเธอแต่งงานไปกับคนอื่นแล้ว ในเรื่องจึงเป็นการเพ้อฝันไปด้วยอารมณ์แห่งความต้องการเป็นส่วนใหญ่

เรื่อง เจ้าสาวสีแดง เรื่องสั้นนี้ออกแนวเร้นลับนิด ๆ เป็นเรื่องราวของหญิงสาว(นางเอก)ที่มีความฝันถึงความตาย โดยที่ตัวนางเอกกำลังมีความรักกับชายคนที่มีเจ้าของแล้ว เรื่องราวดำเนินเรื่องเพื่อไขความลับของความฝันร้ายของนางเอกที่มีการหักมุมในตอนจบด้วย

เรื่อง ชาวบาป เป็นเรื่องราวของชายหนุ่ม(พระเอก)ที่มีสัมผัสพิเศษสามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณหรือที่เรียกว่าชาวบาปได้ เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อเขาใช้สัมผัสพิเศษนี้คอยช่วยเหลือนางเอกของเรื่อง ซึ่งในตอนท้ายจบลงด้วยความรักที่สมหวังของทั้งคู่

เรื่อง กระจกวิเศษ เรื่องสั้นนี้ค่อนข้างเหนือจริงตรงที่กระจกวิเศษสามารถส่องให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนได้ หญิงสาว(นางเอก)ได้ใช้กระจกวิเศษนี้เป็นเครื่องมือในการสะท้อนตัวตนเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาได้ในตอนท้ายของเรื่อง

เรื่อง ธรณีสาร เรื่องสั้นนี้เป็นเรื่องเล่าซ้อนเรื่องเล่าอีกที ที่คุณแม่ของหญิงสาว(นางเอก)ได้เล่าเรื่องราวในอดีตให้ลูกสาวฟัง โดยเรื่องที่เล่านั้นเป็นเรื่องของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่มีพฤติกรรมอันโหดร้าย ซึ่งว่าเป็นเรื่องเล่าย้อนยุคที่อ่านแล้วได้สารประโยชน์มากกว่าความบันเทิง ผมชอบเรื่องนี้มากที่สุด

เรื่อง งานหนัก เป็นเรื่องสั้นที่เล่าเรื่องสะท้อนชีวิตของผู้คนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี (ปี 2542 หลังวิกฤตการณ์ฟองสบู่แตก) เรื่องราวของชายหนุ่ม(พระเอก)ที่กำลังตกงานได้มาเจอกับเพื่อนเก่าที่กำลังทำงานหนัก โดยเรื่องนี้มีประหลาดใจในตอนท้ายเรื่องที่เฉลยว่างานหนักนี้คืองานอะไร

เรื่อง นัยน์ตาที่สาม เป็นเรื่องสั้นที่พูดถึงความสามารถของผู้ใหญ่ที่มักมองเห็นความเป็นไปในอนาคตของลูกในเรื่องคู่ครอง ชายหนุ่ม(พระเอก)ไม่เชื่อผู้ใหญ่จึงประสบกับวิบากกรมในชีวิต ทำให้ต้องจมอยู่กับทุกข์ของการเลือกคู่ครองที่ผิด

“บางครั้งมนุษย์อาจมองเห็นบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าจากนัยน์ตาสองดวง เราเรียกมันว่า จิตใต้สำนึก สัญชาตญาณ ลางสังหรณ์ ฯลฯ หรือ นัยน์ตาที่สาม”

เรื่อง ฝนตกก็แช่ง เรื่องสั้นนี้สะท้อนความเป็นไปของชีวิตคู่ในสังคมปัจจุบัน ในเรื่องพูดถึงตายายคู่หนึ่งที่ครองคู่กันมานาน ต่างก็ประสบปัญหาต่าง ๆ มาด้วยกัน ต่างแช่งกันไปมาขอให้ตายจากกันไป แต่เมื่ออีกฝ่ายตายไปจริง ๆ แล้วคนที่เหลืออยู่จะเป็นอย่างไร ท่านก็ต้องลองอ่านกันดูเอาเองครับ

จะเห็นว่าเรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่องนี้นอกจากจะมีมุมมองของเรื่องที่แตกต่างกันแล้ว เรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่องนั้นยังได้สะท้อนภาพความเป็นไปในสังคมในช่วงหลังวิกฤตการณ์ฟองสบู่แตก ปี 2540 เพราะว่าเรื่องสั้นทั้ง 9 เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นในปี 2542 ในปีที่ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างมากมาย เรื่องสั้นเหล่านี้จึงทำหน้าที่บันทึกภาพของสังคมในช่วงเวลานั้นเอาไว้ด้วย

สำหรับหนังสือ “พลอยเก้าสี” เล่มที่อยู่ในมือของผมนี้เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 ปี 2549 โดยสำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัทอักษรโสภณ จำกัด ด้วยความหนา 201 หน้า ในราคาปก 180 บาท ท่านผู้ใดสนใจก็ลองไปหาซื้อมาอ่านกันดูนะครับ

ขอขอบคุณทุกท่าน ขอให้ท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ




Create Date : 01 เมษายน 2558
Last Update : 1 เมษายน 2558 0:09:14 น. 13 comments
Counter : 3007 Pageviews.

 
แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นหนังสือน่าอ่าน ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:6:33:42 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
tanjira Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

เล่าซะจนอยากเป็นเจ้าของหนังสือมั่งจัง

มาส่งกำลังใจจ้ะ


โดย: โอพีย์ (Opey ) วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:7:11:34 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่กล่อง
โอ้ว เพิ่งทราบว่าเป็นผู้แต่งท่านเดียวกันค่ะ
เคยได้ยินว่ามีหลายนามปากกาแต่ไม่ทราบว่ามีชื่ออะไรบ้างค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:9:32:52 น.  

 
เป็นหนังสือที่น่าอ่านอีกเล่มหนึ่งค่ะ
ปรกติเป็นแฟนประจำของ ว.วินิจฉัยกุลอยู่แล้ว
สองฝั่งคลองก็เป็นเล่มที่ชอบค่ะ
แต่เรื่องนี้ยังไม่เคยอ่าน คงต้องไปหามาอ่านแล้วค่ะ
ขอบคุณที่แนะนำนะคะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:17:43:21 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณกล่อง ^^

เห็นหนังสือแล้วเก่ามากไม่แปลกใจว่าพิมพ์นานขนาดนี้
แต่ก็ยังไม่เคยอ่านค่ะ
นิยายหลายเรื่องเก่าแต่ก็ยังร่วมสมัย
อ่านรีวิวแล้วน่าหามาอ่านบ้างแต่น่าจะหายากแล้วนะคะ
ทั้งเก้าเรื่องเหมือนคนละแนวกันเลย
น่าสนใจมากค่ะ

ขอบคุณมากๆค่า




โดย: lovereason วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:21:14:02 น.  

 
ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแบบนี้เท่ารัยคร้า
แต่ที่รีวิวให้อ่าน น่าสนใจมากทีเดียว ขอบคุณค่ะ

กดโหวต Book blog ให้นะค่ะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:22:06:17 น.  

 
บางทีการได้เล่าเรื่องย้อนยุค
คือที่แน่ๆ คือได้ความรู้ ได้ประโยชน์ ได้รู้เรื่องราวเก่าๆ มากมายนะคะ
ส่วนความบันเทิง ให้เป็นของแถม อิอิ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:23:07:25 น.  

 
หนังสือน่าอ่านมากๆเลยครับ


โดย: PZOBRIAN วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:12:12:33 น.  

 
ปกสวยมากกก อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจด้วยค่ะ ขอจดๆไว้นะคะ


โดย: kunaom วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:13:45:27 น.  

 
นักเขียนท่านนี้ มีผลงานเยอะ.. คนติดตามมาก
ด้วย.. ครับคุณกล่อง


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 4 เมษายน 2558 เวลา:6:38:35 น.  

 
เพิ่งทราบว่าเป็นเรื่องสั้นก็ตอนนี้แหละค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ


โดย: Sab Zab' วันที่: 4 เมษายน 2558 เวลา:21:04:02 น.  

 
รีวิวได้น่าอ่านมากน้องกล่อง


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 เมษายน 2558 เวลา:21:26:19 น.  

 
น่าสนใจมากครับ อาคุงกล่อง ชอบเรื่อง รัตนโกสินทร์ครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 9 เมษายน 2558 เวลา:0:51:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.