DAY AFTER DAY
22 มิถุนายน 2558
หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า DAY AFTER DAY ที่แปลเป็นภาษาไทยว่า วันแล้ววันเล่า เขียนโดยวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ที่ได้รับการขนามนามว่าเป็น ศาสดาเด็กแนว เป็นผู้ในกำเนิดนิตยสาร a day นั้นเอง โดยหนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมความเรียงกว่า 80 บท ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาของ โหน่ง อะเดย์ ที่วัยรุ่นหลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี
โดยเป็นการรวบรวมความเรียงหรือบทความมาจากบทบรรณาธิการของนิตยสาร a day และคอลัมน์ในนิตยสารรายสัปดาห์คือ มติชนสุดสัปดาห์ และ a day weekly ที่ถือว่าเป็นสุดยอดหรือ The Best of Wongthanong ที่อยากจะคัดสรรให้ท่านได้อ่าน โดยความเรียงบทต่าง ๆ อยู่ในหนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นงานเขียนที่มีความงดงาม มีความละเอียดอ่อนในเนื้อหาและมีความเป็นตัวตนของผู้เขียนอยู่ในนั้นด้วย เรียกได้ว่าอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นและนุ่มละมุนในความรู้สึกเป็นอย่างมาก ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่เติบโตมาพร้อมกับนิตยสาร a day ต่างก็น่าจะชื่นชอบข้อเขียนของบรรณาธิการโหน่ง อะเดย์ ท่านนี้เป็นอย่างมากแน่ ๆ
ส่วนตัวผมแล้วที่ผ่านมาผมรู้จักตัวตนของวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผ่านข่าวสารในแวดวงวรรณกรรมและทางรายการโทรทัศน์มาก่อน ส่วนนิตยสาร a day นั้นผมจำได้ว่าเคยซื้อมาอ่านตามกระแสจำนวน 4 ฉบับติดต่อกัน แต่เมื่ออ่านไปแล้วความรู้สึกส่วนตัวของผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่แนวของผม เพราะว่าตัวผมคงมีอายุห่างจากพวกเด็กแนวพอสมควร ผมเลยไม่ได้ซื้อนิตยสาร a day มาอ่านอีก แต่อาศัยว่าได้อ่านบ้างบางเล่มจากสถานที่ซึ่งมีนิตยสารวางไว้ให้อ่าน เช่นร้านตัดผม , ร้านหมอฟัน , ร้านกาแฟ ฯลฯ ซึ่งผมอาจจะเคยอ่านข้อเขียนของวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์มาก่อนแล้วบ้างจากบทบรรณาธิการในเล่ม แต่เมื่อผมได้มาอ่าน DAY AFTER DAY เล่มนี้แล้วผมก็รู้สึกซาบซึ้งกินใจไปกับข้อเขียนของนักเขียนท่านนี้เป็นอย่างมาก
สาเหตุที่ผมชอบเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ก็เป็นเพราะว่า เป็นงานเขียนในรูปแบบความเรียงหรือบทความที่อ่านง่าย ในแต่ละบทมีความยาวไม่มากนัก อ่านแล้วรู้สึกคล้อยตามไปกับเนื้อหาที่ผู้เขียนนำเสนอ ได้ความเพลิดเพลินจากการอ่าน ได้ความรู้และกำลังใจที่ดี ซึ่งผู้เขียนมอบให้ด้วย และเมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะพบว่ารายละเอียดต่าง ๆ ในเนื้อเรื่องมีข้อคิดที่ทำให้ผู้อ่านต้องฉุกคิดตามไปด้วยตลอด ผมขอยกตัวอย่างเช่น
(มีนักโทษท่านหนึ่ง)เขาเขียนมาขอบคุณทุกครั้งที่ได้รับ a day เล่มใหม่ จดหมายฉบับล่าสุดของเขาที่ผมเพิ่งได้รับเมื่อเช้า มีข้อความลงท้ายที่ยอดเยี่ยมมากจนผมอดไม่ได้ที่จะคัดมาให้คุณอ่าน ข้อความนั้นมีอยู่ว่า ถ้าเรามีโอกาส ก็ควรจะทำโอกาสนี้ให้ดีที่สุด และจงสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้ทุกคนได้รู้ว่า พลังในชีวิตไม่มีวันหมดไปง่าย ๆ ขอเพียงเราไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามเส้นทางชีวิต
ต้องติดคุก 16 ปี แต่เขาอธิบายว่ามันคือ อุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรนอกจากต้องบอกว่า นี่คือคนที่มีความหวังและมีอิสรเสรีชัด ๆ ขณะเดียวกันลองมองไปรอบ ๆ ตัวหรือแม้กระทั่งก้มมองที่ตัวเอง เราจะพบว่าแม้ไม่ได้ต้องโทษ แต่คนจำนวนมากกลับใช้ชีวิตราวกับกำลังถูกจองจำ เราสร้างกำแพงหนาทึบบางอย่างไว้กักขังตัวเอง แล้วพิพากษาตัวเองเสร็จสรรพให้ต้องอยู่ในนั้นชั่วกาลนาน ที่น่าเศร้าคือ หลายคนยอมที่จะถูกกักขังตลอดชีวิตโดยไม่คิดจะออกมา (หน้า 276)
ผมอ่านหนังสือ DAY AFTER DAY เล่มนี้จบลงแล้วผมก็รู้สึกชอบและประทับใจผู้เขียน (วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์) ขึ้นมาทันที อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นคนรุ่นเดียวกันกับเขาก็เป็นได้ และผมกับเขามีอะไร ๆ คล้ายกันอยู่มากด้วย เช่น ชอบการเล่นฟุตบอลตั้งแต่สมัยเรียน , ได้เห็นอิตาลีเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1982 , ชอบกินหมูทอด (หมูสับปั้นเป็นก้อนกลม ๆ) กับข้าวสวย , ได้ฟังเพลงป๊อบในยุคแกรมมี่และอาร์เอส ฯลฯ และที่สำคัญที่สุดเหมือนเราทั้งสองจะชอบความเป็นอิสระเหมือนกันด้วย ผมอ่านข้อเขียนของเขาแล้วก็รู้สึกได้ถึงการมีอิสระทางความคิด เป็นการเขียนเรื่องราวเพื่อการนำเสนออย่างเปิดเผยด้วยข้อมูลรอบด้าน ดูแล้ววงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ น่าจะกลายเป็นนักคิดนักเขียนคนสำคัญคนหนึ่งของเมืองไทยไปแล้ว งานเขียนของเขาอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วยความรู้สึกห่วงใย (ผู้อ่าน) แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของแง่คิดที่ดี ๆ ซึ่งเปี่ยมล้นอยู่ในเรื่องราวที่นำเสนอ เหมือนเขาเอื้อมมือไปคว้าดวงดาวบนฟ้าเอาลงมาให้เรา (ผู้อ่าน) ได้เห็นได้พิจารณาอย่างใกล้ชิด อ่านงานเขียนของเขาแล้วผมรู้สึกดีมาก ๆ ครับ
สำหรับท่านใดที่ชอบอ่านงานเขียนแนวสบาย ๆ แต่ให้กำลังใจ , แนว Feel Good , หรือแนวกระจายข้อมูลอย่างโรแมนติค ผมก็คิดว่าท่านน่าจะชอบหนังสือ DAY AFTER DAY วันแล้ววันเล่า เล่มนี้เหมือนกันกับผม ท่านลองไปหาซื้อมาอ่านกันดูนะครับ สำหรับหนังสือเล่มที่อยู่ในมือของผมนี้เป็นฉบับปกแข็งพิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2556 เป็นหนังสือที่อยู่ในชุด Life & Inspiration ของสำนักพิมพ์ a book ในเครือบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด ด้วยความเรียงยาวกว่า 80 บท ความหนา 562 หน้า ราคาปก 385 บาท
และล่าสุดในวันนี้เอง ผมเห็นโฆษณาหนังสือเล่มนี้ในนิตยสาร a day บอกว่ามีวางขายที่ร้าน B2S แบบปกอ่อนมีถึง 10 ให้เลือกด้วยครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ
Create Date : 22 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2558 20:45:10 น. |
|
22 comments
|
Counter : 5131 Pageviews. |
|
|
คำชี้แจงท้ายเรื่อง ...
รายละเอียดและเนื้อหาในบล็อกนี้ไม่ใช่บทวิจารณ์วรรณกรรม เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ใช้ทฤษฎีทางวรรณกรรมใด ๆ มาวิเคราะห์เลย เนื้อหาในบล็อกนี้จึงถือว่าเป็นการรีวิวแนะนำหนังสือเล่มที่ได้อ่าน โดยเป็นการเขียนถึงหนังสือเล่มนั้น ๆ ด้วยความรู้สึกหลังจากได้อ่านจบลงแล้ว ดังนั้นข้อความทั้งหมดในบล็อกนี้จึงเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าเท่านั้น