ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของ สสส. และ
วิชาการดอทคอม
www.thaihealth.or.th
เชื่อได้ว่าคงจะมีน้อยคนนักที่นั่งนับการเคี้ยวอาหารแต่ละคำที่กินในแต่ละ
มื้อ แต่การเคี้ยวอาหารให้มากครั้งก่อนกลืน
มีผลการศึกษาทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า เป็นการช่วยให้ระบบย่อยทำงานน้อยลง
ซึ่งช่วยให้สุขภาพดี และมีอายุยืนยาว
นอกจากนี้การเคี้ยวให้ช้าลงยังมีผลต่อการทำงานของสมองในหลายๆ ด้าน อีกด้วย
เนื่องจากการเคี้ยวอาหารจะช่วยกระตุ้นให้ต่อมน้ำลายและต่อมใต้หู ให้
หลั่งฮอร์โมนออกมา ขณะเดียวกันก็ยังช่วยกระตุ้นพลังแห่งการขบคิดและสมาธิ
ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่เคี้ยวอาหารไม่ค่อยได้หรือเคี้ยวเร็วไป
สมองก็จะอ่อนแอด้วย
สำหรับประโยชน์
จากการเคี้ยวอาหารให้ช้าลง จะมีผลต่อดีสมองและร่างกาย ดังนี้
- การเคี้ยวอาหาร 30 ครั้ง
ในแต่ละมื้อเป็นอย่างน้อยจะช่วยให้เหงือกแข็งแรงและช่วยรักษาอาการอารมณ์
หงุดหงิด เครียด และโมโหง่าย
-
การเคี้ยวอาหาร 50 ครั้ง จะช่วยลดความวิตกกังวลของอารมณ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลากินอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยลดความอ้วนได้
เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่มากเกินความจำเป็นดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
-
การเคี้ยวอาหาร 60 ครั้ง
เหมาะสำหรับการเคี้ยวอาหารที่มีกากไยมากเกินไป ช่วยลดอาการท้องผูก
การทำงานของสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การเคี้ยวอาหาร 80 ครั้ง
ช่วยให้ประสาทสัมผัสไวขึ้น มีความจำดีขึ้น
สามารถจดจำและจำแนกรสชาติของอาหารทั้งจากธรรมชาติและสารปรุงอาหารที่มีพิษ
ต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
-
การเคี้ยวอาหาร 100 ครั้ง ทำให้คุณจัดการแก้ปัญหาต่างๆ
ได้อย่างรวดเร็ว สงบ เยือกเย็น กินน้อยลง แต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก
อีกทั้งช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ
- การเคี้ยวอาหาร 150 ครั้ง ระบบการทำงานของกระเพาะ
และลำไส้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ
- การเคี้ยวอาหาร 200 ครั้ง ต่ออาหาร 1
คำได้ทุกมื้อ จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง
และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คาดการณ์และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างการเคี้ยวอาหาร
เพราะนอกจากสมองดีแล้วสุขภาพยังดีด้วยค่ะ