'โสน' แก้พิษร้อน มากคุณค่าวิตามิน




          
โสนเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีประวัติมายาวนาน
คนไทยรู้จักดีและนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านคาวหวานได้หลากหลายเมนู เช่น
ดอกโสนผัดน้ำมันหอยหรือลวกจิ้มกับน้ำพริกกะปิ แกงส้มดอกโสนใส่ปลาช่อน
และขนมดอกโสน ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะนำมาปรุงอาหารให้รสชาติที่แสนอร่อยแล้ว
คุณผู้อ่านทราบกันหรือไม่ว่า “โสน”
ยังมีสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

โสน
ในเมืองไทยมีหลายพันธุ์
คือ โสนหิน โสนคางคก โสนหางไก่ใหญ่
โสนหางไก่เล็ก ลักษณะเป็นไม้ล้มลุกปีเดียว ลำต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร
ใบเล็กฝอยคล้ายกับใบมะขามหรือใบกระถิน ดอกสีเหลืองคล้ายดอกแค
แต่เล็กกว่าและมีฝักยาว มีเมล็ดในฝักคล้ายกับถั่วเขียว

สำหรับดอกโสนที่ใช้รับประทานเป็นอาหาร คือ
โสนหินหรือโสนกินดอก จะออกดอกในช่วงปลายฤดูฝนประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม
โดยชาวบ้านมักเก็บดอกโสนในช่วงเย็น เพราะจะได้ดอกตูมน่ารับประทาน
และหากรับประทานไม่หมดสามารถนำดอกโสนมาดองเก็บไว้รับประทานได้
ซึ่งการดองทำได้ไม่ยาก
โดยนำดอกโสนมาล้างให้สะอาดและใส่ไว้ในขวดโหลแก้วหรือภาชนะกระเบื้อง
จากนั้นปรุงน้ำที่ใช้ดอง นำเกลือป่นผสมในน้ำซาวข้าวให้ออกรสเค็มเล็กน้อย
เติมน้ำตาลทรายอีกหน่อยแล้วเทลงในภาชนะที่ใส่ดอกโสนให้ท่วมพอดี
ปิดฝาทิ้งไว้ 1 วันก็สามารถรับประทานได้แล้ว ยิ่งถ้าทิ้งไว้นาน ๆ
จะเปรี้ยวมากขึ้นสามารถรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า
หรือน้ำพริกปลาทูก็ได้





          
นอกจากดอกโสนจะปรุงเป็นอาหารแล้วยังนำมาทำเป็นขนมดอกโสนได้ด้วยการนำดอกโสน
มานึ่งให้สุก นำมาคลุกรวมกับแป้งข้าวเหนียว แป้งสาลี มะพร้าว และน้ำตาล
รับประทานได้  ง่าย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ที่สำคัญดอกโสนยังให้สีเหลือง
สามารถคั้นน้ำจากดอกมาทำเป็นขนมบัวลอยและขนมตาลที่มีสีเหลืองน่ารับประทาน
ปลอดภัยไม่ต้องใส่สีผสมอาหารอีกด้วย


ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของโสนประกอบด้วย
คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1
วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี และสารพวกแคโรทีนอยด์
โดยส่วนของโสนที่มีประโยชน์ คือดอก ใบ และต้น
ซึ่งดอกนั้นมีรสชาติจืดเย็นจึงมีสรรพคุณในการแก้พิษร้อน
ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปรุงเป็นยาพอกแผลได้
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณใช้แก้ปวดมวนท้องด้วย
ส่วนใบโสนมีสรรพคุณใช้ตำยาพอกแผลได้
และต้นโสนสามารถนำมาเผาไฟให้เกรียมแล้วเอามาต้มชงเอาน้ำดื่มใช้เป็นยาขับ
ปัสสาวะได้ดีทีเดียว


          
ดอกไม้สีเหลืองกินได้ให้ประโยชน์ต่อร่างกายเราแบบนี้
หากใครยังไม่เคยลองชิมต้องหาเก็บจากต้นมาปรุงอาหารสารพัดเมนูที่แนะนำไปรับ
ประทานกันดูเสียแล้ว
แต่ระวังต้องล้างให้สะอาดก่อนปรุงนะคะเพื่อพลานามัยที่ดีค่ะ







Free TextEditor







































































































Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 0:31:27 น. 0 comments
Counter : 1293 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.