ทานอย่างไรให้ปลอดภัยทุกมื้อ




ส่วนใหญ่คนเรามักให้ความสำคัญกับความเอร็ดอร่อยจนลืมระวังผลเสียที่จะส่งผล
กระทบ ต่อร่างกายในภายหลัง
บางคนอาจไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าร่างกายของเราจะสามารถรับอาหารเหล่านั้นได้
มากน้อยเพียงใด ทั้งที่อาหารนานาชนิดนั้นมีประโยชน์แต่ก็มักจะแฝงโทษไว้เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันบางชนิด อย่างเช่น
อาหารโปรตีนที่มีมันติดหนังเป็นอาหารที่มีรสชาติเอร็ดอร่อยถูกคอถูกลิ้นนัก
กินอย่างยิ่ง เช่น เมนูนักชิมยกนิ้ว อย่างสะโพกไก่ปิ้ง ย่าง อบ ทอด
หมูหันที่มีหนังบางกรอบ เนื้อติดไขมันเป็นชั้นๆ
หรือสเต็กเนื้อติดมันราดซอสครีมก็ล้วนซ่อภัยไว้ในรสชาติอร่อยได้ทั้งนั้น

          
อาหารที่มีโปรตีนสูงอีกหลายชนิด เช่น สมอง เครื่องในสัตว์ต่างๆ เหล่านี้
จะมีกรดยูริกสูง ซึ่งกรงดชนิดนี้จะเข้าไปสะสมตามข้อต่อต่างๆ
ของร่างกายทั่วตัว เมื่อสะสมไว้มากเข้ากรดจะตกผลึก
ผลึกเหล่านั้นจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับหนึ่งก็จะแตก
ความเป็นกรดจะละลายออกมาทำให้เนื้อบวม สร้างความเจ็บปวดทรมาน
ซึ่งทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า "โรคเกาต์"

          
ส่วนอาหารไขมันสูงต่างๆ
ทำให้ความอร่อยทั้งหลายกลายเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย
อันดับแรกคือโรคความดันโลหิตที่เคยปกติจะมีระดับสูงขึ้นเนื่องจากร่างกาย
ต้องการโลหิตเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงไขมันที่เพิ่มขึ้น
เมื่อปริมาณโลหิตที่ต้องการมากขึ้นความดันจึงต้องมากขึ้นเป็นเงาตามตัวอาการ
ทีมักตามมาได้แก่เส้นโลหิตซึ่งเป็นทางลำเลียงโลหิตเข้าหล่อเลี้ยงสมองและ
หัวใจจะอุดตันด้วยไขมันหากวันใดที่โลหิตเข้าไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ไม่ทัน
ผลทางร่างกายที่เกิดขึ้นนั้นก็จะเริ่มตั้งแต่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต พิการ
และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากแก้ไขไม่ทัน
ดังนั้น
หากรักสุขภาพของเราเองจึงควรเลือกทานอาหารให้เหมาะกับความต้องการของร่างกาย
และรักษาระดับการทานไม่ให้มากจนเกินไป
เพื่อรักษาชีวิตไว้ให้นานเท่าที่จะนานได้
แต่หากว่าเรามีนิสัยการทานแบบทานทุกอย่างที่ขวางหน้าแล้วก็เท่ากับว่าเรา
กำลังทำร้ายตัวเองอย่างช้าๆ และนำพาชีวิตสู่ความเจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัว





          
การทานอาหารติดมันไม่ใช่ข้อห้าม ทว่า ควรเลือกทานอาหารให้ถูกหลัก
โภชนาการ คือทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในทุกมื้อ
และควรทานให้เหมาะกับความต้องการพลังงานของร่างกาย
ไม่มากเกินไปแต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป
ที่สำคัญอย่าเห็นแก่ความอร่อยจนลืมคุณค่าของสารอาหารในแต่ละมื้อ
โดยปรกติแล้วเรามักจะได้รับอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันกันอยู่แล้ว
แต่ต้องไม่บืมผักสดนานาชาติและผลไม้ซึ่งควรทานเป็นจานหลักไม้แพ้กัน
และควรทานให้ได้สัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง คือ ผักครึ่งหนึ่ง
รวมกับอาหารเมนูอื่นๆ ครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้
เพราะผักนั้นอุดมไปด้วยเกลือแร่ที่เสมือนเป็นทางด่วนอำนวยความสะดวกให้ร่าง
กายนำพาสารอาหารอื่นๆ ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ






Free TextEditor







































































































Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 18:07:30 น. 0 comments
Counter : 835 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.