เกลือ เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงอย่างไร

  จาก
การสัมภาษณ์นพ.บรรหาร  กออนันตกูล อายุรแพทย์โรคหัวใจ ที่ปรึกษาศูนย์หัวใจ
รพ.วิภาวดี ในเรื่อง "เกลือ  เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงอย่างไร"
ในรายการ Happy & Healthy ทางสถานีวิทยุ ขสทบ. FM 102 9.30 – 10.00
น.เมื่อวันเสาร์ ที่ 23 พค.52  เราได้ถอดคำสัมภาษณ์ออกมาเป็นความรู้สุขภาพ
ให้ทุกท่านได้อ่านกัน เพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากค่ะ อ่านได้เลยค่ะ




??เกลือมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับ
ความดันโลหิตสูงอย่างไร



อาจารย์
บรรหาร:
เกลือ
คือผงสีขาว ที่ประกอบด้วย  คลอรีนที่เป็นแก๊สพิษสีเขียว 
และโลหะโซเดียมสีเงินที่เป็นพิษเช่นกัน แต่เมื่อธาตุทั้ง  2 
นี้มารวมกันเป็นเกลือก็จะนำไปใช้ประโยชน์ได้
โลกบริโภคเกลือในปัจจุบันนี้ประมาณ  300  ล้านตัน  โดยใช้เกลือในการทำสบู่ 
ยาย้อม  ฟอกหนังสัตว์  เก็บรักษาอาหาร  อุปกรณ์ทำความเย็น ละลายหิมะตามถนน
หรือฟอกกระดาษ  ร่างกายของคนเราก็ต้องการเกลือเช่นกัน
เพราะในร่างกายของคนเรานอกจากจะประกอบไปด้วยน้ำ  ประมาณ  60% 
แล้วยังต้องมีเกลืออีก  15%  เพราะเกลือหรือโซเดียมและคลอรีน
นี้จะเป็นส่วนประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย 
เพราะโซเดียมทำหน้าที่ควบคุมอัตราการถ่ายเทของน้ำในเซลล์แล้ว 
ยังมีบทบาทสำคัญในการสื่อสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ประสาทและช่วยเผาผลาญ
โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในร่างกายด้วย เมื่อเกลือมีความสำคัญเช่นนี้ 
แพทย์จึงได้ประมาณว่าคนปกติต้องการเกลือประมาณวันละ  400  มิลลิกรัม 
ถ้าเกลือเกินก็จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง 
หรือถ้ามีความดันโลหิตสูงอยู่แล้วก็ต้องลดเกลือ  
แต่ถ้าขาดเกลือก็จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย



?? : โรคความดันโลหิตสูง เกิดขึ้นได้อย่างไร



อาจารย์บรรหาร : ความดันโลหิต คือ
ระบบไหลเวียนซึ่งเริ่มจากการบีบตัวของหัวใจ 
เพื่อที่จะให้เลือดเข้าไปในหลอดเลือด และหลอดเลือดมีความยืดหยุ่น 
ทำให้เกิดแรงดันเลือดส่งต่อเลือดให้เคลื่อนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 
เพื่อนำอ๊อกซิเชนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ 
ค่าปกติของความดันโลหิตในช่วงที่หัวใจบีบตัว/คลายตัวเหมาะสมที่สุดอยู่ที่
120/80  มิลลิเมตรปรอท  แต่ถ้าความดันโลหิตเท่ากับหรือสูงกว่า   140/90 
มิลลิเมตรปรอท  ก็จะเรียกว่าความดันโลหิตสูง  ความดันโลหิตสูง แบ่งออกเป็น 
2  ประเภท  คือ  1. ความดันโลหิตสูงที่ทราบสาเหตุหรือมีที่มาจากอวัยวะ
เช่นไตต่อมหมวกไต เป็นต้น  ส่วนอีกประเภทหนึ่ง
ความดันโลหิตสูงที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90% 
และมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงและสิ่งแวดล้อม 
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง  คือ  เกลือ 
ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสารสีขาวแต่จะรวมไปถึงของที่มีรสเค็มทั้งหมด  ในทุกสภาพ 
เช่น  เนื้อเค็ม  ปลาเค็ม  น้ำปลา   ซีอิ้ว และน้ำจิ้มต่าง ๆ
ที่มีเกลือผสมอยู่   โรคอ้วนทำให้เกิดภาวะต้านอินซูลีน
ซึ่งเป็นผลให้เกิดความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้อีกด้วย 
อีกทั้งการสูบบุหรี่และไขมันผิดปกติก็เช่นกัน
ทั้งหมดนี้รวมความดันโลหิตสูง  เรียกว่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด



?? : ความดันโลหิตสูงอันตรายอย่างไร





อาจารย์บรรหาร: โรค
ความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน
โดยทำให้หลอดเลือดแดงตีบตันหรือหลอดเลือดแดงส่วนปลายแตก เช่น
ถ้าเกิดขึ้นที่สมอง ก็จะกลายเป็นอัมพฤต
อัมพาตหรือไปเกิดที่หลอดเลือดแดงของหัวใจในลักษณะตีบตันก็จะทำให้เกิดหัวใจ
วายแบบเฉียบพลัน  เช่น เดียวกันถ้าไปเกิดที่หลอดเลือดแดงของไต ก็ทำให้ไตวาย
หรือหลอดเลือดแดงส่วนปลายบริเวณขาและเท้า ก็จะสูญเสียอวัยวะส่วนนั้นไป 
จะเห็นได้ว่าความดันโลหิตสูงที่เริ่มต้นจากไม่มีอาการอะไรเลย  แล้วค่อย ๆ
มีอาการบางอย่างเพิ่มเติมมา เช่น มึน  ปวดศีรษะ  สมาธิลดลง 
หรือหงุดหงิดง่าย  เครียด 
และลุกลามไปจนถึงกระทั่งเกิดโรคแทรกซ้อนดังที่กล่าวมาแล้วนี้ 
นับว่าเป็นการศูนย์เสีย ชีวิตหรือคุณภาพชีวิตก่อนเวลาอันควร 
เพราะความดันโลหิตสูงนั้นป้องกันได้ 
ด้วยการงดและลดปัจจัยเสี่ยงที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น  นอกจากนั้น 
การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ 
ด้วยการรู้จักเลือกชนิดของอาหารที่มีคลอเรสเตอรอลต่ำ 
และต้องไม่ใช่กรดไขมันชนิดอิ่มตัว หรือข
องทอด ในปริมาณที่พอเพียงกับพลังงานที่ต้องใช้ต่อวัน 
ทั้งนี้จำเป็นที่จะต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ 
โดยการใช้ส่วนสูงเป็นเซ็นติเมตร  ลงหนึ่งร้อย  ก็จะเป็นน้ำหนักของผู้ชาย 
ที่ไม่ควรจะมีน้ำหนักเกิน  ส่วนของผู้หญิงให้ลดลงอีก 10%   การออกกำลังกาย 
ก็จะต้องทำให้ถูกหลักการคือ1.ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก
เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป  โดยอาจจะเริ่มจาก 10 นาที  แล้วค่อย ๆ เพิ่ม 
อีกทั้งจะต้องออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย อาทิตย์ละ 4 วัน 
การออกกำลังกายแบ่งออกเป็น  2  ชนิด  ซึ่งเรียกว่า แบบแฮโรบิก 
ที่เน้นการเคลื่อนไหวอวัยวะทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการเพิ่มระดับของการออกกำลังกายไปในตัว 
ส่วนการออกกำลังกายอีกแบบหนึ่งซึ่งจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อใช้พลังงานสูง
ก่อนที่จะออกกำลังกาย  เช่น  การยกน้ำหนัก 
ฉะนั้นความเหมาะสมของการออกกำลังกายจึงมีหลายรูปแบบ 
และเป็นสิ่งที่มนุษย์จำเป็นที่จะต้องทำเพราะว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่มีกระดูก
สันหลัง  ซึ่งประกอบไปด้วยข้อทั้งหมด  34  ข้อ 
ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวทำให้คล่องตัวสามารถปฏิบัติงานได้ 
และจำเป็นที่ต้องทำให้ข้อต่อนี้เคลื่อนไหวนั้นก็คือต้องออกกำลังกาย 
เป็นการล่อลื่นข้อกระดูก และเมื่ออายุมากขึ้นจะได้ไม่เป็นโรคข้อ 
ตามความเป็นจริงแล้ว  คนที่เป็นโรคข้อนี้มีมากกว่าคนที่เป็นโรคหัวใจ
และจำกัดคุณภาพชีวิตทางจิตใจ  
ที่กล่าวมานี้หมายถึงว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร
ในการออกกำลังกาย
โดยเฉพาะการบริโภคเกลือลดลงครึ่งหนึ่งจะช่วยลดการเสียชีวิตจากอัมพาต
และกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันทั่วโลกได้ประมาณ  2.5  ล้านคนต่อปี 



           ปริมาณ
ของเลือดที่หัวใจบีบตัวแรงดันที่หัวใจบีบออกมา
เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นมาตั้งแต่เกิด
ความดันโลหิตสูงเกิดขึ้นได้ 1) แรงบีบจากหัวใจ  2)
การบีบเลือดเข้าไปในหลอดเลือด  มี 2 ลักษณะ คือ 1) บีบไปตอนต้น ๆ จะมีแรงดี
แต่ตอนปลาย ๆ
แรงจะไม่มีไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ความมหัศจรรย์ของหลอดเลือดคือมีความ
ยืดหยุ่นดี มี Elasticity พอ บีบเหมือนใส่น้ำไปในลูกโป่ง
พอน้ำออกจากลูกโป่ง ลูกโป่งจะแฟบและบีบน้ำออกมาเรื่อย ๆ
นั่นคือความดันโลหิต และอีกประการหนึ่ง(2)คือ
เป็นสัดส่วนปริมาตรต่อซม.ของพื้นที่



และในส่วนประกอบของเลือด มีน้ำ 60-70%
เด็กมีมากกว่าผู้ใหญ่ อีก 15% คือ เกลือ เกลือ คือ โซเดียม (ประจุบวก)
กับคลอไลน์ (ประจุลบ) เกลือจะละลายในน้ำได้เร็ว และมีประจุบวก
เป็นจุดที่ติดไฟฟ้าได้ เกลือนอกจากจะมีแรงดันในส่วนผสมของเลือดแล้ว
เมื่อแรงดันเลือดดันมา 60-70% ไป
ได้ไม่ไกลมากแต่หลอดเลือดทำให้มีแรงดันไปได้เรื่อยๆ ตัวอย่าง เช่น
ท่อน้ำประปาที่มีก๊อกน้ำหลาย ๆ ก๊อก ถ้าเปิดออกมาพร้อมกัน
ก๊อกสุดท้ายจะไม่มีน้ำออก เพราะก๊อก 1 2 3 แย่งน้ำไปหมด 
แต่อย่างรถดับเพลิงสามารถฉีดน้ำไปได้ไกล เพราะท่อน้ำดับเพลิงมี Elasticity
นี้ ใช้ระบบยุบหนอพองหนอจะดันน้ำไปเรื่อย ๆ ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่นายบิล 
เคสเตอร์  ชาว เยอรมันเป็นคนค้นพบเป็นเรื่องที่ทำให้เราเข้าใจว่า
เซลทุกเซลต้องการการอยู่รอดจึงต้องการอ๊อกซิเจน
แต่การออกกำลังกายก็ต้องทานอาหารเพื่อให้มีพลังของกล้ามเนื้อ



เกลือ มีความสามารถในการดูดความชื้นด้วย
จะเห็นว่าในประเทศที่มีหิมะตกเขาจะใช้เกลือดูดความชื้นไม่ให้ถนนลื่น
หรือการทำไอศกรีมต้องนำเกลือใส่ในน้ำแข็ง เกลือก็จะดูดความชื้นออก



ความ ดันโลหิตที่มีตั้งแต่เกิด
มีเกลืออยู่ในแต่ละหลอดเลือด ถ้ามีเกลือมากไปจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
น้อยไปทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ดังนั้นเกลือที่พอเหมาะจะดีที่สุด
คนที่ความดันโลหิตสูงจึงให้ลดเกลือจะดีที่สุด





?? : เกลือจะไปเพิ่มแรงดันใช่ไหมคะ



อาจารย์บรรหาร : ใช่
เกลือเป็นส่วนประกอบ เกลือจะดึงความชื้นไว้  ถ้าเกลือเยอะ
น้ำก็จะเยอะไปด้วย โดยปกติเกลือจะมีสัดส่วน 15%



?? : คำว่าเกลือหมายถึงอะไร



อาจารย์บรรหาร :คือ
ของที่เค็มทั้งหมด คือเกลือแกง โซเดียมคลอไรด์
และเกลือไม่ได้อยู่ในสภาพของเกลือทั้งหมดจะเป็นซีอิ้ว
ปลาเค็มได้อะไรที่ใส่เกลือผสมไปก็ถือว่าเป็นโซเดียมคลอไรด์รสเค็มจะเป็น
โซเดียมคลอไรด์สัก 90%ได้



?? : เดี๋ยว
นี้จะมีผลิตภัณฑ์ที่ลดโซเดียมลงครึ่งหนึ่ง



อาจารย์บรรหาร :
การลดลงครึ่งหนึ่งเราก็ไม่ได้รู้มาก่อนว่า เมื่อก่อนเขาเป็นเท่าไหร่



วัน หนึ่งเราควรได้เกลือ 3-4 กรัม ประมาณ 1
ช้อนกาแฟ เราไม่รู้ว่าเราจะกินอะไรบ้างในแต่ละวัน จึงไม่ควรไปเพิ่มเกลือ
หัดรับประทานอาหารที่ไม่เค็ม จะดีต่อความดันของร่างกาย



?? : จริง ๆ
เราไม่ควรไปเพิ่มความเค็มเพราะอาหารที่เรารับประทานอยู่ก็มีเกลือเป็นส่วน
ประกอบ



อาจารย์บรรหาร : ใช้ลิ้น
เราเป็นตัวชี้วัด



?? : โซเดียมประจุบวก คลอไรด์ประจุลบ มีผลอะไร



อาจารย์บรรหาร : คือ
การสร้างพลังงาน
เป็นการแลกเปลี่ยนประจุกันระหว่างโซเดียมกับคลอไรด์กับโปตัสเซียม
การสร้างพลังงานต้องแลกเปลี่ยนประจุกัน ไฟฟ้าจะมีระดับ
ถ้าประจุต่ำกว่าระดับจะเกิดการบีบตัว พลังงานส่วนหนึ่งเกิดจาก O2
อีกส่วนเกิดจากเกลือที่มันแลกเปลี่ยนประจุกัน



?? : ความดันโลหิตสูง อันตรายอย่างไร



อาจารย์บรรหาร : อาการ
ที่ว่าต้องปวดหัว มึนศีรษะไม่ใช่เรื่องหลัก
ความดันโลหิตสูงเริ่มจากการทำสมาธิไม่ได้ เช่น เคยนั่งอ่านหนังสือได้ 3 ชม.
ก็ทำไม่ได้ หรือนอนไม่หลับหรือเครียด ลองวัดความดันดูจะรู้ได้



?? :   ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าขึ้นมาปวดหัวอย่างเดียว



อาจารย์บรรหาร : ใช่ ครับ
เมื่อเป็นปวดหัวคือ เป็นมากขึ้นแล้วและเป็นนานแล้วด้วย
ที่น่ากลัวคือการเป็นอัมพฤต อัมพาต เพราะหลอดเลือดถ้าอุดตันหรือแตก
จะแตกในสมองได้เลย เส้นเลือดในตัวคนเราไม่ใช่เป็นแค่กิโล
แต่เป็นเส้นรอบวงของโลกได้เลย คือ เกือบหมื่น – 2 หมื่นกิโล
ลองคิดดูในร่างกายเรามีเซลมากมายเป็น  ล้าน ๆ เซล
เลือดต้องไปหล่อเลี้ยงทุกเซล



?? : โรคความดันโลหิตสูง พบในกลุ่มคนแบบไหน
หญิง ชาย



อาจารย์บรรหาร :
ในปัจจุบันคนอายุ 20-60 ปี มี 10% เป็นความดันโลหิตสูงแต่ถ้าอายุเกิน 60 ปี
จะมี 40-50% ที่เป็นความดันโลหิตสูง



?? : ก็คือเป็นเรื่องความเสื่อมของร่างกายด้วย



อาจารย์บรรหาร : ใช่คือ
เรื่องแรงดันกับเรื่องความเสื่อมของหลอดเลือด หลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น





?? :   ถ้าเราต้องการรักษาสภาพหลอดเลือดให้ยืดหยุ่น
ให้คงความมีประสิทธิภาพ คงต้องออกกำลังกาย



อาจารย์บรรหาร :
การ ออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อความดันโลหิตอย่างไร
ก็คือต้องเพิ่มเหมือนไปซ้อมให้หลอดเลือดยืดหยุ่นหดตัวยืดตัว ถ้าทำเป็นประจำ
หัวใจจะเต้นช้า บีบตัวช้าลง Volume ที่ออกไป จะ 70 CC 1 นาที 70 ครั้ง



?? :  
การสังเกตตัวเองตั้งแต่เบื้องต้น ในเรื่องการเป็นความดัน


อาจารย์บรรหาร : ต้อง
ดูตัวเอง เกรงใจตัวเองพอสมควร ว่ามีอะไรผิดปกติ คือ
ควรวัดความดันดูความดันโลหิตเป็นแม่บท ในการเป็นโรคต่าง ๆ
ถ้าไม่มีความดันโลหิตเราก็ตาย นักธรรมชาติ นักธรณีวิทยา คนที่ค้นพบชีวิตคือ
พบว่า สิ่งมีชีวิตแรกคือแพลงตอน เกิดในน้ำเป็นพืชเซลเดียว แพลงตอนเปลี่ยน
CO2 เป็น O2 ได้ เป็นวงจร ถ้าเป็นภูเขา ก้อนหิน จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว
อย่างประเทศอินเดีย แต่ก่อนเป็นเกาะ แต่ต่อมาเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่
แต่อายุคนเรามีอายุ 80-100 ปี จึงมีการเปลี่ยนแปลงมาก
เราต้องดูการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ธรรมชาติอยู่กันเป็นล้าน ๆ ปี
วิวัฒนาการสัตว์เซลเดียวใช้เวลา 2 พันล้านปี
คนเราต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
ถ้าไม่วัดความดันจะไม่รู้การเปลี่ยนแปลงของเรา



?? : ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง ชีวิตเปลี่ยนไป



อาจารย์บรรหาร : คือ
ความดันโลหิตถ้าเปลี่ยนไป อาจทำให้เกิดโรค ซึ่งก็มีหลาย ๆ โรค
อย่างที่บอกว่าความดันโลหิตจะผ่านหลอดเลือดทุก ๆ หลอดเลือด
ผ่านหัวใจก็เป็นหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ผ่านสมองก็เรียกว่า อัมพฤต อัมพาต
ผ่านไต ก็เป็นโรคไต  หรือด้านส่วนปลายขาก็อาจต้องตัดเท้า



?? : ความดันไม่ใช่ความเสี่ยงอย่างเดียว
แต่เรายังมีความเสี่ยงอื่น ๆ อีก เช่น ไขมัน



อาจารย์บรรหาร :
ปัจจัย ใหญ่ ๆ ของความเสี่ยงเหมือนเดิม คือ มนุษย์ทำเอง เช่น การสูบบุหรี่
ทำให้หลอดเลือดสมองไขมันผิดปกติ เบาหวาน
ปัจจัยที่เร่งให้เกิดตรงนี้คือโรคอ้วนลงพุง เกิดจากการกิน
ถ้าเรากินแบบไม่ระวังตัว ความอ้วนก็ไปเกี่ยวกับความดัน 60-70% เบาหวาน 80%
ไขมัน 50-60% ด้วยเป็นโรคใหม่คือ โรคอ้วนลงพุง



?? : ตามความเข้าใจ คือ
คนอ้วนความดันต้องทำงานเยอะ



อาจารย์บรรหาร : ใช่
เหมือนเดินทางไปลพบุรีกับเชียงใหม่ น้ำมันไม่เท่ากัน แรงดันไม่เท่ากัน



?? : อาจารย์เป็นผู้ผลักดัน เรื่องคนไทยไร้พุง

อาจารย์บรรหาร : เราก็
สนับสนุน และอาจารย์วรรณีเป็นประธานโครงการเกี่ยวกับไร้พุง



?? : เมื่อไหร่จึงเรียกความดันโลหิตสูง



อาจารย์บรรหาร : เรารู้มานาน 120
ปีแล้ว เมื่อเรามีเครื่องวัด แต่ 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขนิ่งที่ 140/90
ขึ้นไป 140 คือหัวใจบีบตัว  90 คือหัวใจคลายตัว  ใช้ตัวเลขนี้ทั้งหมด
แต่ผู้สูงอายุตัวล่างไม่เกิน 90 ตัวบนอาจมากกว่า 160



ความ ดันปกติ 120/80 ถือว่าดีที่สุด
เราอนุโลมให้ 140/90 คนที่ 120/80 ขึ้นไปควรเริ่มเฝ้าระวังตนเอง
ดูแลอาหารการกิน ออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อหัวใจสบายขึ้น
หลอดเลือดยืดหยุ่นยุบหนอพองหนอ บุหรี่ถือว่ามนุษย์ทำเองมีความสุขไป 5 นาที
อายุสั้นไป 10 นาที เซลตายไป 3,000 ตัว





?? : ซอง
บุหรี่ทำภาพอะไรดูน่ากลัวแล้ว



อาจารย์บรรหาร : ถ้าเราไป
บอกคนสูบบุหรี่ว่าบุหรี่ไม่ดี ไม่ได้ผล
เราต้องให้น่าเชื่อว่าคนตายด้วยมะเร็งปอด และ 80%
เป็นผู้สูบบุหรี่ต้องพูดอย่างนี้ เอาความจริงมาพูดให้ฟังกัน



?? :
บุหรี่ขึ้นราคาทำให้คนเลิก



อาจารย์บรรหาร : เป็นช่วง
แรก ๆ เท่านั้นต่อมาก็สูบอีกใหม่ได้ ไปสูบบุหรี่ที่อื่นภาษีน้อยกว่า
ควรรณรงค์ให้เข้าใจมากกว่า



?? : ให้ฝากให้ผู้ฟังเข้าใจ
ว่าควรดูแลความดันอย่างไร



อาจารย์บรรหาร : ใน
งานที่ผ่านมา ที่ รพ.ราชวิถี แสดงเรื่องอาหารมีประโยชน์
และอาหารที่เป็นโทษ ออกกำลังกายป้องกันโรคภัยไปฝึกฝนข้อต่าง ๆ
ให้ขยับเขยื้อน อายุมากขึ้นจะได้ไม่เป็นโรคข้อ จริง ๆ
คนเราเป็นโรคข้อมากกว่าโรคหัวใจ และจำกัดคุณภาพชีวิต ทางด้านจิตใจ
ต้องเกรงใจตนเอง อะไรที่เป็นภัยต่อสุขภาพต้องหลีกเลี่ยง เช่น LDL กับ
ไตรีกลีเซอไรด์ ต้องเลี่ยง และความเค็ม เบาหวาน
เราจะมีชีวิตสมบูรณ์ต้องมีคุณภาพชีวิตดีด้วย
ให้เดินสายกลางใช้หลักความพอเพียง  และดูแลสุขภาพของตนเอง



Free TextEditor







































































































Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 16:49:30 น. 0 comments
Counter : 2311 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.