Group Blog
 
All blogs
 
Boss’ Direction สิ่งที่เจ้านายสั่ง

ไหมเงินลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนอิริยาบถหลังจากนั่งแช่แน่นิ่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานนับชั่วโมง เธอถอดแว่นสายตากดฝ่ามือของตนไปที่รอบดวงตาแผ่วเบาสองสามครั้งเพื่อเป็นการนวดก่อนจะลุกมาชงกาแฟกิจวัตรดั้งเดิม ที่หามีคนคอยเสริ์ฟคอยชงคอยประเคนให้เช่นสามสี่วันหลังไม่

นักเขียนมีชื่อก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานอย่างไหลลื่นกว่าที่เคยอาจจะเป็นเพราะเธอเข้าใจอะไรๆในความเป็นหญิงที่มีความรู้สึกดีๆให้กับเพศสภาพเดียวกันมากขึ้นอาจจะเป็นเพราะตอนนี้หัวใจของเธอเป็นสีม่วง ด้วยเปิดรับสาวหน้าใสร่างกะทัดรัดอย่างน้อยหน่าเข้ามาอยู่ในใจหรืออาจจะเป็นเพราะความสงบสุขได้กลับคืนมา... ว่าแต่ว่าสงบจริงหรือ?คลับคล้ายคลับคลาดูประหนึ่งเป็นอย่างนั้นหากความจริงแล้วมันเป็นความเงียบเหงาวังเวงหัวใจเอาเสียมากกว่ามองไปรอบกายก็ถอดถอนใจ ดูสิห้องหับก็เริ่มกลับมารกดังเดิม

‘ไม่มีอะไรได้อย่างใจเราไปเสียทุกเรื่องหรอกเขาอยากจะจากไปก็ต้องปล่อยไปตามใจเขา รักที่หลุดลอย...’ ไหมเงินพิมพ์ข้อความนี้ลงไปในใจก็ให้รู้สึกว่ามันคล้ายๆเอาเรื่องของตัวเองมาเขียนพร่ำรำพัน ‘รักเริ่กอะไรก็แค่เหงาใจเท่านั้น!!’

..................................................

“ตรู๊ดดดตรู๊ดดด” สายเรียกเข้ามาจากเลขาหน้าขาวท่านประธานบริษัทกดรับสายด้วยนิ้วมือเรียวยาวกรีดกรายอย่างเคย เป็นคุณแต๋วมาขอพบและคมเดชน์ตอบกลับไปว่าอนุญาตให้เข้ามา

“ท่านประธานคะเกิดปัญหานิดหน่อยค่ะ แต๋วเลยอยากจะมาขอคำปรึกษา” คุณแต๋วหน้าตาตื่นกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาที่โต๊ะท่านประธาน ทันทีที่พบหน้าก็รายงานสถานการณ์ฉุกเฉินคมเดชน์ที่ยิ้มอย่างมีความสุขเพราะกำลังฟังคำเจื้อยแจ้วอธิบายความของบทละครการกุศลที่น้องนุชให้อรรถาธิบาย ก็ละสายตามาตั้งใจฟังโดยพลันพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้พูดต่อได้

“นฤมลโปรเจ็คเมเนเจอร์ของมิสเตอร์หวงเพิ่งโทรมาบอกว่าน้องเอ็มซีที่ดีลงานไว้เกิดเบี้ยวขึ้นมากะทันหันค่ะปัญหาก็คือ งานจะเริ่มในอีกสองชั่วโมงข้างหน้านฤมลพยายามติดต่อหาน้องๆที่เคยทำงานให้กับเราหลายๆคนแต่ทว่าน้องๆไม่สะดวกรับงานกันสักคนเลยค่ะ ไม่ติดสอบก็คิวไม่ว่างชนงานอื่นแต๋วเองก็ช่วยหาอีกทางแต่ผลก็คือกัน ครั้นจะเอาสาวบ้านๆก็ไม่ได้ เพราะว่าเราจะต้องบันทึกเทปทำเป็นคลิปลงยูทูบเพื่อโปรโมทและส่งให้มิสเตอร์หวงด้วยค่ะ”คุณแต๋วรายงานอย่างร้อนใจเพราะรู้ว่าโปรเจ็คนี้ใหญ่ และสำคัญกับท่านประธานมากๆคมเดชน์นั่งฟังอย่างสงบไม่อีนังขังขอบและร้อนรน ดังเช่นลูกน้องอาวุโสนิ่งไปราวสิบวินาที มีเพียงส่วนเดียวของร่างสูงที่เคลื่อนไหวคือดรรชนีนางที่เคาะโต๊ะเป็นจังหวะ เหลือบหางตามามองดูน้องนุชที่เหมือนจะแอบลุ้นเล็กๆว่าเขาจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้อย่างไร ทันใดนั้นประโยคทีเล่นทีจริงก็หลุดออกจากปาก

“คุณแต๋วก็ไปยืนเองซีสมัยสาวๆก็เคยประกวดนางสาวไทยไม่ใช่หรือ” มันก็ใช่แต่นั่นก็เกือบยี่สิบปีที่ล่วงเลยผ่าน

“ท่านประธานนี่ยังมีอารมณ์ขันได้อีกนะคะนี่มันหน้าสิ่วหน้าขวานชัดๆ แล้วอย่างแต๋วนี่เข๊าเข้ากับภาพลักษณ์สินค้าเอามากเลยนะคะเกรงว่าคุณผู้ชายจะเป็นมะเขือเผาเสียมากกว่าปึ๋งปั๋ง” ผู้อาวุโสค้อนขวับไม่ตลกด้วยกับเจ้านายก็อีเว้นท์สินค้าตัวนี้มันเป็นถั่งเช่า ยาโป๊วสำหรับท่านชายธุรกิจตัวล่าสุดที่คมเดชน์หันมาจับขืนให้นางไปคงเป็นตลกขายยาทัมใจห้าบาทสิบบาทเอาเสียนั่น งานล่ม หมดกัน

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอถ้าหาทางไม่ได้ก็ออกมันตรงทางเข้านั่นหล่ะคมเดชน์ไม่ยี่หระร้องเรียกสาวรุ่นที่นั่งอยู่หน้าห้องให้เข้ามาใกล้

“ขวัญมานี่หน่อยซิ”

“ค่ะ”ขวัญข้าวรับคำ เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟานุ่ม สาวเท้าเดินฉับๆอย่างมั่นใจ นึกว่าบอสคงเรียกจะเอากาแฟคลายเครียด เมื่อสาวผมยุ่งลูกน้องป้ายแดงเดินมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมรับคำสั่ง คมเดชน์ก็เฉลยวิธีแก้ปัญหา

“แล้วคนนี้ล่ะปึ๋งปั๋งดึ๋งดั๋งโด่เด่ได้มั้ย” คุณแต๋วถึงบางอ้อ รอยยิ้มเบิกกว้างแววตาคลายกังวล สีหน้าสดชื่นขึ้นพลัน หันมามองหน้าสาวรุ่นที่ยังงงๆว่าผู้ใหญ่เขาเจรจาความอะไรกันปึ๋งปั๋งดึ๋งดั๋ง?? แต่จะให้เป็นเจ้าหนูจำไมแบบเดิมคงไม่เหมาะเหลียวมองมาที่พี่นุชก็ได้แต่ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง คนนี้เธอเชียร์

“ตาแหลมมากเลยค่ะท่านประธานงั้นแต๋วขอตัวขวัญข้าวไปเลยนะคะ ไปขวัญไปแต่งตัวกัน” คุณแต๋วลุกขึ้นยืนคว้าแขนบางๆของสาวรุ่นทำท่าจะเดินออกไป ด้วยความเป็นคนรั้นแต่ไหนแต่ไรมาสาวผมยุ่งขืนตัวเล็กน้อย ไม่ยอมให้พี่เลี้ยงฉุดกระชากไปโดยง่ายหันมาถามเอากับผู้เป็นเจ้านายตัวจริง

“แต่งตัว?อะไรกันคะ”

“ไปสิตามคุณแต๋วไป นี่ถือเป็นงานนะ” คมเดชน์ออกคำสั่งเพียงด้วยเสียงเรียบๆแต่ทรงพลังอำนาจมากส่วนคำอธิบายไม่ต้องเยิ่นเย้อ ประเดี๋ยวก็คงเข้าใจได้เอง อากัปกิริยาเช่นนี้ทำให้ขวัญข้าวไร้ซึ่งเหตุผลในการดึงดันอีกทั้งพี่นุชก็พยักหน้าเห็นดีเห็นงามไปด้วยคุณแต๋วเลยได้ทีจูงมือสาวรุ่นเดินตัวปลิวตามกันออกไป

“แหมๆมาวันแรกก็มอบงานทีเด็ดให้เลยนะคะคุณบอส” พอคล้อยหลังสาวรุ่นน้องนุชก็หันมาแซวคนตรงหน้า คมเดชน์คงมาดขรึมเหมือนคนไร้ความรู้สึกไม่ได้พูดอะไร เห็นเป็นเรื่องแสนปกติและกลับมาสนใจตั้งใจอ่านบทละครเวทีต่อ...........

“คุณแต๋วจะให้หนูแต่งตัวแบบนี้จริงหรือคะมันโป๊มากเลย” ขวัญข้าวบ่นอุบเมื่อคุณแต๋วจัดการแต่งตัวเธอด้วยชุดที่โชว์เนื้อหนังมังสาท่อนบนเป็นเสื้อกล้ามสีขาวตัวจิ๋ว อวดเนินอกคู่งามกับกางเกงหนังมันวาวสีดำรัดรูปเข้ากับสะโพกผาย เท่านั้นไม่พอมันยังสั้นเสมอหู ชนิดที่แก้มก้นแทบจะทะลักล้นออกมามันเป็นการแต่งตัวที่วาบหวิวและโป๊ที่สุดในชีวิตของขวัญข้าวคุณแต๋วจัดการใส่เครื่องประดับชิ้นสุดท้ายเอาผ้าคาดผมที่เป็นหูกระต่ายสีชมพูมาวางบนผมยุ่งภาพของเอ็มซีจำเป็นตอนนี้เหมือนหลุดมาจากฮาราจูกุ ชินจูกุแหล่งรวมคอสเพลย์ออริจินอล

“เอ็กซ์แตกมาก!! ขนาดพี่เห็นยังน้ำลายเหนียวคอเลยแล้วถ้าเป็นหนุ่มๆล่ะก็ ดึ๋งดั๋งๆ” คุณแต๋วเอ่ยปากพึงใจเป็นอย่างมากกับพรีเซ็นเตอร์ตกกระไดพลอยโจนหลังจากที่เพ่งพิศร่างเซ็กซี่จากกระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวชั้นเดียวกันที่เตรียมไว้โดยเฉพาะ

ขวัญข้าวมองดูตัวเองจากหน้ากระจกเต็มๆตาก็ต้องตกใจสุดขีด!ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ภาพเด็กซอมซ่อมอมแมมข้างถนนถูกสลัดคราบออกไม่มีเหลือ ‘นี่ตัวเราจริงๆหรือ’ไม่รอช้าเพราะไม่มีเวลาให้พิรี้พิไร เรื่องแต่งเครื่องหน้าประเดี๋ยวค่อยไปทำในรถหน้าคมแบบนี้ตวัดสองสามฉับก็โฉบเฉี่ยวแล้วพี่เลี้ยงจำเป็นฉุดลากสาวเซ็กส์ไปให้ท่านประธานยลโฉมทันที

รองเท้าบู๊ทหนังสีดำยาวเกือบถึงกลางน่อง ทำให้คนไม่เคยใส่เดินไม่ใคร่ถนัดครั้นจะถอดออกมาถือมันก็ดูอีหลั่กอีเหลื่อ ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วเจ้าดำคู่นี้มันก็ช่วยยกระดับความสูงของเธอตั้งราวๆสิบเซ็นต์ฯแถมยังอวดปลีน่องกับขับขาอ่อนให้ดูเด่นตา ขวัญข้าวบอกกับตัวเองให้ทนเอาหน่อยเพื่อการงานและก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เจ้าดำนี่ดุนัก อย่ากัดช้านเลยยืมใส่แค่ประเดี๋ยวเดียวนะจ๊ะ เพี้ยง!...

คุณแต๋วพาเอ็มซีป้ายแดงเดินออกจากห้องแต่งตัวมาถึงหน้าห้องท่านประธานเหล่าบรรดาพนักงานต่างตะลึงงันกับนางฟ้าเดินดินตรงหน้า พวกกระทาชายก็อ้าปากค้างน้ำลายหกกันเป็นแถบๆจนกระทั่งถึงด่านสุดท้าย ยัยแหวน เลขาหน้าขาว ที่ตอนนี้ต่อมอิจฉาระเบิดแตกกระจุยไม่ได้แล้ว.. ขืนปล่อยให้ช้าเนิ่นนานออกไปโดนอีนังเด็กเส้นนี่ขโมยซีนถีบเรากระเด็นตกกระป๋องเป็นแน่ ต้องหาทางกำจัดโดยด่วน หล่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์หาใครบางคน...

ประตูห้องคมเดชน์ถูกเปิดออกเจ้าปี่เซี๊ยะยักษ์เหมือนจะยิ้มต้อนรับนางฟ้าจำแลง เฉกเช่นเดียวกับเจ้าของห้องและพี่นุชที่เกินคาดไปนิดหน่อยตรงที่ขวัญข้าว เหมือนจะเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มันดูลงตัวไปเสียหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า สั้นๆสองคำ ‘เป๊ะเวอร์

“ขวัญเซ็กซี่มั่กมากนี่ของพี่คมต้องขายดีอย่างกับแจกฟรีแน่ๆค่ะ” นักเขียนบทสาวหันมาชื่นชมท่านประธานพยักหน้าเป็นอันว่าอนุมัติ

“ขวัญเดินมาทางนี้หน่อยสิ” น้องนุชจูงสาวรุ่นมาที่ริมหน้าต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ถ่ายรูปสองสามมุมจนพอใจ สำหรับเธอคงเก็บไว้เป็นที่ระลึกแต่กับใครบางคนคงระทึกใจเสียมากกว่า หุหุหุ จากนั้นส่งมอบตัวให้กับพี่แต๋ว

“ตั้งใจทำงานนะจ๊ะอย่างอแง ทุกคนต้องอดทนกันทั้งนั้น ไม่มีงานไหนง่ายจะคิดจะทำอะไรก็นึกถึงหน้าผู้มีพระคุณกระตุ้นสติเอาไว้ เสร็จแล้วพี่จะไปรับเอ่อ..พี่แต๋วคะ งานที่จัดไหนคะ” น้องนุชทั้งปลอบใจและสั่งสอนไปในทีก่อนจะหันมาถามรายละเอียดกับพี่เลี้ยงจำเป็น

“เป็นรถโมบายเริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ผ่านจตุจักร หมอชิต เซ็นทรัลลาดพร้าว เอสซีบีพาร์คค่ะ”

“ป้าช้าแตกแน่ๆขวัญเอ๋ย” คุณแต๋วลากร่างเซ็กซี่ออกไปอีกครั้งแวะเอาสคริปต์ที่ชั้นสอง ก่อนจะพาร่างบางขึ้นรถตู้บริษัทออกไปที่หมายทันทีขวัญข้าวเริ่มเวียนหัวที่โดนกระเตงไปทางนี้ทีทางโน้นทีแต่ด้วยมุมานะเอาว่าเป็นการงานก็ตั้งใจว่าจะทำออกมาให้ดีที่สุด....

เมื่ออยู่กันตามลำพังน้องนุชก็หันมาถามเอาความพร้อมจากคนแอบปลื้ม อยู่ลำพังสองคนแบบนี้ไอ้ดีก็ดีหรอกแต่ตัวเธอก็ต้องมีธุระปะปังให้ทำเหมือนกัน

“พร้อมหรือยังคะลูกศิษย์”หลังจากคมเดชน์อ่านบทละครเวทีที่เขาจักต้องสวมบทบาทขุนแผนแสนเสน่ห์บอกลานางพิมเพื่อไปร่วมทัพ จนมั่นใจแล้วว่าจำได้ ก็พยักหน้ารับ

“งั้นลองเลยนะคะคิดเสียว่าเป็นแสดงจริงๆแล้ว ห้ามผิดพลาด” ชายหนุ่มร่างสูงถอดเสื้อสูทออกขยับเนคไทออกให้หลวม วางบทลงบนโต๊ะ

“แฮ่ม..เอาล่ะนะห้ามหัวเราะผมด้วย” ชายมาดเนี๊ยบยังไม่ทิ้งลาย หันมาขู่สาวสวย

“ค้าาาคุณคมเดชน์” น้องนุชเจื้อยแจ้วตอบรับ ยิ้มหวานให้กำลังใจเธอลุ้นเอามากกับขุนแผนมาดคุณชาย ในมือของน้องนุชก็ถือบทอีกฉบับเพราะเธอจะต้องเป็นคนต่อบทให้”

“แม่พิมจ๊ะศึกครานี้พี่จักต้อง..”

“ไม่ๆค่ะพี่คมพูดเร็วไป คนโบราณเขาพูดกันช้าๆ เนิบๆค่ะ”

“อ้าวแต่ขุนแผนจะรีบไปศึกมิใช่หรือ”

“แหมมันก็ไม่ขนาดนั้น นี่มันบทพิศวาสเข้าพระเข้านางนะคะ ต้องละเมียดละไม เอาใหม่ค่ะ”

“แม่พิมจ๊ะศึกครานี้..” คมเดชน์ดัดเสียงเป็นไชยา มิตรชัย น้องนุชทั้งขำทั้งเวียนหัว นี่ล่ะน้าจับนักธุรกิจมาเล่นละคร put the wrong man on the wrong job ชัดๆ

“เสียงเป็นลิเกหลงวิกเลยค่ะจังหวะช้าได้แล้ว แต่ต้องปรับโทนเสียงให้มีเสน่ห์เอ่อ..แบบปกติที่พี่คมพูดน่ะค่ะ” คมเดชน์ได้ทีทำสายตาเจ้าชู้ยักษ์ใส่เริ่มต้นแสดงอีกครั้ง

“แม่พิมจ๊ะศึกครานี้พี่ จักต้องไปรับใช้แผ่นดิน การลาจากเจ้ามิใช่เรื่องที่จักทำใจโดยง่ายแม้เพียงชั่วยามเดียว พี่ก็โหยให้คร่ำครวญหา คิดถึงแต่หน้าเจ้า”น้องนุชเกือบหลุดหัวเราะออกมา เมื่อคนที่แอบปลื้มตรงหน้าจะลาจากคนรักกลับเล่นได้แข็งทื่อเสียยิ่งกว่าตอไม้ จริงอยู่ที่บทสนทนาไม่ผิดเพี้ยน หากแต่ฟีลลิ่งมันไม่ได้ ไม่โดน

“พี่คมฟังนุชนะคะ เมื่อครู่ พี่กำลังเล่นเป็นตัวเองเหมือนท่องหนังสือให้แม่พิมฟังเสียมากกว่า บทช่วงนี้มันเป็นไคลแม็กซ์ของตอนเพราะพี่ขุนแผนจะต้องร่ำลาแม่พิมด้วยไม่อยากพรากจาก สายตาก็พอได้อยู่แต่น้ำเสียงต้องอาลัย เว้าวอน” น้องนุชสวมบทผู้กำกับตีความให้นักธุรกิจเห็นชัดเจน

“แล้วทำอย่างไรล่ะครับไอ้สายตาอาลัยเว้าวอนน่ะ” คมเดชน์ไม่ได้ยอกย้อน หากแต่เขาไม่เข้าใจจริงๆ

“แล้ว..พี่คมไม่เคยมีห้วงเวลาที่จะต้องจากลาคนรักบ้างรึคะ”ร่างเล็กอดถามไม่ได้ แม้จะยังเป็นโสดคุณบอสก็น่าจะมีช่วงชีวิตที่กุ๊กกิ๊กกับใครเข้าสักคน คมเดชน์นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเปรยออกมาแผ่วเบา นัยน์ตาเศร้าลงไปเล็กน้อย

“ก็มีอยู่หรอกแต่ยังไม่เคยมีอารมณ์นั้น”

“งั้นก็จินตนาการสิคะคิดไปเสียว่า การจากลาครั้งนี้อาจจะไม่ได้เจอนางอันเป็นที่รักยิ่งอีกดึงอารมณ์นั้นออกมาให้ได้ ลองดูใหม่นะคะ” น้องนุชสอนคนไม่เคยอย่างใจเย็นการเริ่มต้นสำหรับทุกอย่างมันเป็นเรื่องยากทั้งนั้น

คมเดชน์ยิ้มน้อยๆเขาคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกน้องนุชมาเป็นครูสอนการแสดง หากเป็นไหมเงินแทนที่จะได้สอนกัน คงต้องมานั่งโต้คารมเสียมากกว่าชายร่างสูงเริ่มเข้าใจโลกของศิลปินว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่า จะให้ทำอย่างไรล่ะกับอารมณ์และน้ำเสียงแบบนั้น เจ้าของสำนักพิมพ์เดินเข้ามาใกล้ๆนักเขียนบทสาวสบสายตากับครูจำเป็น ส่งความหมายเว้าวอน

“ทำให้ผมดูหน่อยสิครับ”น้ำเสียงทุ้ม ลุ่มลึก เนิบนาบแต่หนักแน่น ทำให้คนฟัง อ่อนระทวย ครูจำเป็นต้องดึงสติที่เกือบจะหลุดลอยไปให้กลับมาเบี่ยงหน้าหลบสายตาวิงวอนนั้น

“ก็พี่คมทำได้แล้วนี่ค่ะเสียงแบบนี้ท่าทางแบบนี้ สายตาแบบนี้” น้องนุชชี้ช่อง

“ยังไงครับ?แบบนี้เหรอ แม่พิมพ์จ๊ะ หันมามองพี่สักหน่อย...” คมเดชน์แผดเสียงเป็นลิเกวิกแตกน้องนุชเกือบหลุดหัวเราะออกมาเป็นเพราะคนตรงหน้าแกล้งแต่ก็ต้องพยายามแค่นเสียงเข้มกลบเกลื่อนอาการ

“พี่คมอย่าทำเป็นเล่นสิคะนุชไม่ได้มีเวลามาที่นี่บ่อยๆนะ”

“ก็ถ้าครูไม่ทำตามให้ดูเป็นเยี่ยงแล้วศิษย์จะเอาอย่างได้ยังไงกันครับ” น้ำเสียงกลับมาเป็นปกติท่านประธานยอกย้อนคำตามถนัด แต่น้องนุชเริ่มไม่สนุกด้วยแล้วเธอโดนต้อนจนเสียเชิงเสียรูปมวย สาวสวยตัดบทฉับ

“ไม่เอาๆแล้วพี่คมเล่นได้แล้ว งั้น..นุชขอลานะคะ”

“เดี๋ยวซีลืมไปแล้วเหรอ มันยังมีฉากจูบอีกนะครับ” ชายร่างสูงเริ่มวาดลวดลายเจ้าชู้ขึ้นเรื่อยๆหวังเผด็จศึกร่างเล็ก

“พี่คมก็รู้นี่คะว่า มันไม่ได้เป็นการจูบจริงตัวของพี่คมบังสายตาผู้ชมอยู่” นักเขียนบทมือทองให้เหตุผลหนักแน่นแม้จะหวั่นไหวกับคำหวาน แต่คุณบอสก็อย่าหวังจะได้แอ้มแก้มใสของเราง่ายๆ

“ก็อยากจูบจริง” คมเดชน์ยังเต๊าะไม่เลิกไอ้เรื่องฝึกสอนนั้นก็เรื่องหนึ่งแต่การจีบเอาน้องนุชมาเป็นแฟนนั้นสำคัญกว่าเขายังหาคู่ควงไปงานการกุศลนี่ไม่ได้เลย

“แหมๆที่แท้ก็อยากจะจูบเซเลบสาว ถึงทำทีเป็นบริจาค ลงทุนมากไปไหมคะ” น้องนุชไม่ไหวแล้วรีบแซวกลับหวังเปลี่ยนประเด็นให้เป็นสาวอื่น เธอเก็บข้าวของเตรียมจะเผ่นนี่มันอะไรกัน วันนี้คุณบอสรุกเร้าเธอหนักหน่วงมาก

“ตรู๊ดดดตรู๊ดดด” เสียงเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของน้องนุช เปรียบเสมือนระฆังพักยกให้นักเขียนสาวผู้สวมบทครูฝึกสอนจำเป็นได้พักหายใจหายคอตั้งสติเปลี่ยนแท็กติคเสียใหม่ มือเรียวรีบคว้าโทรศัพท์มาดูหน้าจอโชว์ว่าบุคคลที่โทรเข้ามาคือเจ๊อ้อย

“ค่ะเจ๊.......ไม่ไหวแล้วนะคะเรื่องมันวนเวียนพายเรืออยู่ในอ่างแล้ว นุชโดนคนบ่นกันทั้งเมืองแน่ๆขืนเจ๊จะให้ทำแบบนั้น เอาเป็นว่าเราค่อยคุยกันเย็นนี้นะคะ ตอนนี้นุชติดงาน” นักเขียนบทมือทองวางสายสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างชัดเจนคมเดชน์ที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่ย้ำถามเพราะเขามีวิธีที่ดีกว่า

“ไปกินข้าวด้วยกันก่อนนะครับพอท้องอิ่มแล้วเดี๋ยวอะไรดีๆก็ตามมาเอง”

“พี่คมมองว่านุชเป็นคนเห็นแก่กินหรือไงคะ” นักเขียนสาวปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นมานิด โยนเรื่องปวดหัวทิ้งไปเพราะการโต้คารมกับคนตรงหน้าก็ต้องใช้รอยหยักของสมองไม่แพ้กันนัก

“จะเอาชาบูร้อนๆหรือติ่มซำหลายๆอย่างดี”

จริงอยู่ที่คมเดชน์รุกหนัก แต่มันก็ตีความไปได้หลายอย่างอาจจะแค่สนุกปากปั่นหัวปั่นอารมณ์เธอเล่นเหมือนผู้ใหญ่แกล้งเด็กหรืออาจจะหลอกกินตับเราก็ได้ก็ที่ไม่เห็นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอาจจะเป็นพวกเช็ดแล้วทิ้งน้องนุชเต็มไปด้วยความแคลงใจที่ค่อนไปทางไม่ไว้ใจเลยเทียว

“ทำไมไม่ชวนแม่เลขาหน้าขาวล่ะคะ” ครูสาวคิดอะไรไม่ออกได้แต่โบ้ยๆให้พ้นตัว

“ก็อยากกินข้าวกับนุชไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่” น้ำเสียงออดอ้อนดั่งบทที่ชายมาดผู้ดีจักต้องเล่นพี่ขุนแผนยังไม่ออกจากร่างหรืออย่างไร

“สงสัยว่า..จะติดบทเกี้ยวจากพี่ขุนแผนเสียแล้วนะคะก็ได้ แต่กินแถวๆนี้นะคะ ง่ายๆเร็วๆ นุชต้องคิดวิธีแก้ปัญหาให้เจ๊อ้อยอีก”น้องนุชกระหยิ่มในใจ ผุดความคิดขึ้นมา มีแผนร้ายกลายรัก ขอแกล้งคนปากหวานเสียหน่อยให้ได้กู้แต้ม ตีตื้นเกมรักเกมหัวใจขึ้นมาบ้าง..




Create Date : 27 มิถุนายน 2558
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 10:40:27 น. 0 comments
Counter : 203 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.