Group Blog
 
All blogs
 
Uneasy ว้าวุ่น

ทั้งสองนักเขียนต่างก็นั่งทำงานของตนนานๆทีจึงจะลุกไปผ่อนคลายและหันมาคุยปรึกษากันบ้างไหมเงินรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นแม่หัวยุ่งนอนแน่นิ่งไปบนเตียงเสียแล้ว

นักเขียนชื่อดังเริ่มต้นคิดพล็อตเรื่อง โดยดัดแปลงจากงานเก่าๆของเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่ใคร่มั่นใจนัก หลังจากเขียนแล้วแก้ แก้แล้วเขียนอยู่หลายตลบก็เสร็จเข้าจนได้ เป็นจังหวะที่พอดีกับน้องนุชที่เดินมาเข้าห้องน้ำ

“นุช ไหมเขียนพล็อตเสร็จแล้วนะว่างดูให้หน่อยมั้ย”

“แปปนะ” ร่างเล็กเช็ดมือเปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มคั้นเทใส่แก้วแล้วก็เดินมานั่งที่ข้างเตียงรับแผ่นกระดาษมาจากญาติสาว ขวัญข้าวที่กำลังนอนอยู่รู้สึกว่าเตียงยุบไปจึงรู้สึกตัวตื่น เปิดเปลือกตาและยันร่างขึ้นลุกนั่ง

น้องนุช อ่านพล็อตของไหมอยู่ราวห้านาทีก็หันมาคอมเมนต์

“เรื่องก็น่าสนใจนะ ‘จารชนสาวยอดรัก ‘ ให้ความรู้สึกเท่ เป็นมือปราบทั้งโจรผู้ร้ายและปราบหัวใจยัยตัวแสบเก๋อ่ะ” น้องนุชเปรยขึ้น วางบทลงขวัญข้าวถือวิสาสะหยิบไปอ่าน ต่อมความอยากรู้มันตื่นมาพร้อมๆกับเจ้าตัวก็หล่อนอยากรู้นี่นา

“ดี งั้นไหมจะเอาให้บอสดูพรุ่งนี้เลยนะ” เหมือนปลาได้น้ำหญ้าได้ฝน หลังจากรับฟังคำชมไหมเงินดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที ยิ้มแก้มปริ นัยน์ตาเป็นประกายดูมีความหวัง

“ช้าก่อนตัวเธอ”

“อ้า!ที่แท้ก็ลูบหลังก่อนแล้วค่อยตบหัวใช่มั้ย?” ไหมเงินตัดพ้อรู้เท่าทันว่าหลังจากนี้จะเป็นคำวิจารณ์ล้วนๆ

“อือ หัวไม่ถึงกับหลุดหรอก เอาแค่เตือนสติกันไหมฟังนะ นุชว่าตัวนางทั้งคู่ มันเจอกันน้อยไปมั้ยอ่าลองปรับเพิ่มความหวานกุ๊กกิ๊ก มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเข้ามาหน่อยแล้วอย่าให้แม่จารชนของไหมน่ะเจ้าชู้มากเกินงาม คนอ่านเขาจะรับไม่ได้”

ไหมเงินเอียงคอ รับฟังด้วยใช้ความคิดอย่างหนัก เมื่อจะคว้าบทของตนมาดูก็เห็นเข้าว่ามันกลับไปอยู่ในมือของสาวรุ่นเสียนี่ขวัญข้าวเห็นสายตาคมก็รีบวางแผ่นกระดาษลง ก้มหน้างุด เตรียมใจรับคำบริภาษ

“อ่านแล้วเป็นไง? ยัยผมยุ่ง”น้ำเสียงเรียบๆไถ่ถามเอาความ ขวัญข้าวแปลกใจ เดาใจผู้อุปการะไม่ถูกแต่ก็กลั้นใจบอกความรู้สึกออกไปตามประสาซื่อ

“ค่ะ พี่นุชพูดถูก นิยายยูรินะคะคนอ่านเขาอยากจะอ่านบทรัก บทเกี้ยวมากกว่ามานั่งอ่านบทบู๊ซึ่งนั่นมันหาอ่านได้จากที่อื่น แต่โครงเรื่องดีมากเลยค่ะ ยังไม่มีแนวนี้มากนัก” ไหมเงินรับฟังนักเขียนสมัครเล่นที่กล้าวิจารณ์นักเขียนนามอุโฆษแต่มันก็เต็มไปด้วยเหตุผล ย้อนถามความคิดเด็กสาวเข้าให้

“แล้วถ้าเป็นเธอล่ะ จะเขียนยังไงสาวน้อย” ขวัญข้าวมองไปที่ใบหน้านวลของพี่สาวใจดีนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะเจื้อยแจ้วเผยความคิดอ่านออกมา

“หนูเหรอ ก็ปรับลุคส์จารชนสาวให้อ่อนลงมาหน่อยแม้จะบู๊เก่งแต่ก็ให้รสหวานอมเปรี้ยว” ไหมเงินรับฟังทำท่าจะเถียงด้วยเคยชินอีกอย่างก็ให้เสียหน้านิดๆ ที่มิสมัครเล่นแนะแนวมือพระกาฬอย่างเธอ

“นอกเวลางานก็ต้องมาง้องอนกับยายตัวแสบลูกสาวเอาแต่ใจของเจ้านาย แต่ด้วยความเป็นจารชนก็ต้องคงความเป็นนักรักมีฉากรักวาบหวิวบ้างไรบ้าง” ลูกพี่ลูกน้องแทรกเสริมไหมเงินจากเดิมที่จะโต้สาวรุ่นกลับต้องมาต่อความเอากับญาติสาว

“อ้าว! แบบนั้นก็เป็นหนังสือปกขาวไปน่ะสิไหมไม่เอาด้วยหรอก” นักเขียนชื่อดังส่ายหน้าพัลวันเมื่อนึกไปถึงว่าเจ้าตัวต้องเขียนพรรณาถึงเรื่องอย่างว่า

“ก็ไหนๆเรื่องที่ไหมเขียนมันก็เป็นเรทอาร์อยู่แล้วนี่ใส่ฉากวาบหวามไปพอให้คนอ่านได้จิกหมอนเล่นๆ ไม่ต้องขึ้นขั้นโจ๊ะพรึมๆปั่มปั๊มกันหรอก” น้องนุชชี้ช่อง

หลายคนมีความสับสน และเข้าใจผิดในการจัดเรทหนังสือ หรือภาพยนตร์เรทอาร์หรือเอ็กซ์ไม่ใช่หมายถึงเรื่องเซ็กส์แต่เพียงอย่างเดียวถ้าในหนังสือหรือภาพยนตร์นั้นๆมีถ้อยคำหรือฉากที่รุนแรงก็เข้าข่ายเรทอาร์หรือเอ็กซ์ได้

“ใช่ค่ะ คนอ่านชอบมาก แต่อย่ารุนแรงเกินไปนะคะแบบนุ่มนวลน่ารักน่าหยิก” ขวัญข้าวเป็นขุนพลพลอยพยักเสริมขึ้น

“แล้วตัวแค่นี้รู้เหรอว่าเขาพร่ำรักกันยังไงแบบไหนนุ่มนวล แบบไหนรุนแรง หือ?” ไหมสวนเข้าให้กับเด็กแก่แดดแก่ลมคิดน่ะมันง่าย แต่จะให้ร้อยเรียงออกมาเป็นตัวหนังสือแต่ละประโยคแต่ละบรรทัดนั้นแสนยากเย็น ยิ่งคนไม่เคยมีประสบการณ์จะให้จินตนาการเพียงอย่างเดียวเวลาเขียนออกมามันก็ไม่ดีพอ พวกนักเขียนเขากล่าวกันว่า ‘เขียนไม่ถึง’

“...” สาวรุ่นไปต่อไม่เป็นได้แต่ยิ้มแหยน้องนุชฟังเข้าก็ต่อความให้แทน

“ก็เหมือนเวลาที่ไหมเขียนเรื่องสืบสวนไงทั้งๆที่ไหมก็ไม่ได้เป็นตำรวจหรือนักสืบซะหน่อย แต่อาศัยศึกษาให้มาก อ่านให้มาก”

“แล้วจะให้ไปอ่านไปศึกษาที่ไหนเล่า? ในเน็ตเหรอ” ไหมเงินอับจนหนทางนั่งขีดเขียนบนกระดาษระบายอารมณ์เซ็งๆ

“ก็ประมาณนั้น.. กี่โมงแล้วเนี่ย อุ๊ยตาย!หกโมงกว่าแล้ว เตรียมตัวไปทำบุญกันได้แล้ว ต้องไปรับคุณบอสยอดรักของนุชอีกนะ”นักเขียนบทร้องอุทานลั่น เพราะเธอต้องการเวลาแต่งสวยก็วันนี้สำคัญมากๆสำหรับตัวเธอว์

“แหม! ทีเรื่องนี้ กระตือรือล้นเชียวนะ” ไหมจิกญาติสนิทเข้าให้

“ก็ได้ทำบุญกับคุณบอสทั้งทีนี่นา”น้องนุชพูดเขินๆ แม้จะไม่รู้เรื่องมาก่อนแต่ขวัญข้าวก็พอเดาออกว่าคุณบอสที่ถูกพาดพิง น่าจะเป็นคนที่พี่นุชกุ๊กกิ๊กด้วยจึงเอ่ยถามไปตามเคย

“แฟนพี่นุชเหรอคะ ว้าว! หนูอยากเห็นจัง”

“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะ คือ...วันนี้ยังไม่เป็นแต่คงเป็นเร็วๆนี้แหล่ะหุหุอ้อ! อย่าโพล่งพูดอะไรออกไปต่อหน้าเขาเชียว เดี๋ยวจะเสียแผนโหม้ดดด”น้องนุชหน้าแดง พูดยิ้มๆ ทั้งหมดก็หัวเราะออกมา ต่างแยกย้ายกันไปแต่งเนื้อแต่งตัว

ไหมเงินยืนไดร์ผมอยู่หน้ากระจกก่อนจะเกล้ารวบขึ้นไปและตกแต่งด้วยผ้าคาดผมสีน้ำเงินสดใสเธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงขาสามส่วนสีส้ม อวดปลีน่องงามพอเล็กน้อยส่วนขวัญข้าวยังเก้ๆกังๆเลือกชุดให้เข้าคู่กันไม่ถูก ไหมเงินเห็นเข้าก็รำคาญหยิบเสื้อยืดสีขาว กระโปรงสีช็อกกิ้งพิ้งค์และเลกกิ้งสีดำส่งให้ส่วนนางเอกของงานอย่างน้องนุช มาในชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้สีม่วงสไตล์โบฮีเมียนถักเปียดูแล้วน่ารักฝุดๆ

สามสาวพร้อมแล้ว เดินออกจากห้องลงมาที่หน้าคอนโดระหว่างทาง ไหมเงินก็รู้สึกใจเต้นลุ้นเล็กๆว่าวันนี้จะเจอน้อยหน่ามาดักรอเจอเธออีกหรือไม่ แล้วถ้าเจอจะพูดคุยอะไรแถมเดี๋ยวน้องนุชจะต้องล้อแน่ๆ ยัยหัวยุ่งนี่อีก จะทำอะไรขายหน้าเขาหรือเปล่าแล้วถ้าสาวมั่นขอตามไปด้วยล่ะ โอ้ยย! ชีวิตเราหนอช่างวุ่นจริงนักเขียนชื่อดังเวิ่นเว้อไปไกล คิดไปคิดมาจนสติไม่อยู่กับเนื้อตัวรู้ตัวอีกทีก็มาถึงที่รถแล้ว ...ไม่เจอ...ไม่มี...ไม่มา ไหมเงินหน้าเจื่อนไปพลันขึ้นรถไปอย่างหงอยๆ ระหว่างที่ขับรถ ไหมเงินกระวนกระวายใจนั่งไม่เป็นสุขจนคนที่ร่วมทางมาด้วยสังเกตถึงความผิดปกติได้

‘ไม่สบายหรือเปล่านะ หรือว่าถอดใจไปเสียแล้ว หรือว่า...โอ้ย! แล้วเราจะมาคิดถึงเขาทำไมกันแต่ไลน์ไปถามเสียหน่อยจะดีมั้ย แต่ถ้าทำอย่างนั้นแม่ทอมจะคิดเป็นตุเป็นตะโมเมเอาว่าเรามีใจหรือเปล่าโอยย! ปวดหัวจัง’ ไหมเงินว้าวุ่นใจอย่างหนัก เหม่อลอยมากจนเลี้ยวมาผิดทาง

“เป็นไรป่าวไหม ไม่สบายเหรอจะไปทำบุญทำหน้าให้สดใสสดชื่นหน่อยซี” น้องนุชทักเข้าให้เธอไม่เคยเห็นญาติสาวเป็นแบบนี้

“เปล่า สงสัยนอนน้อยไปหน่อย”นักเขียนสาวตอบส่งๆเป็นจังหวะเดียวกับที่รถติดไฟแดงพอดี เธอคว้าโทรศัพท์มาเข้าไลน์โดยพลัน

“วันนี้มาทำบุญค่ะ ลงมาไม่เห็นไม่สบายหรือเปล่า??” ไหมเงินส่งข้อความไปหาน้อยหน่า แล้วรีบวางโทรศัพท์ที่คอนโซลรู้สึกตัวว่าโดนจ้องมอง ก็รีบหันมาแก้ต่าง

“ไลน์หาบอสน่ะ” พยายามทำเสียงให้เป็นปกติแต่แววตานี่สิ ..ไม่เนียนเอาเลย

“อ้าวก็เพิ่งโทรไปตอนก่อนจะออกจากห้องมิใช่รึ?” น้องนุชคาดคั้นเอาความจริงแต่ไหมเงินกลับไม่ตอบทำหน้าทะเล้นก่อนจะเพ่งสมาธิไปที่การขับขี่

รถเลี้ยวจอดอยู่หน้าหมู่บ้านหรู ไหมเงินโทรศัพท์บอก คมเดชน์ว่ามาถึงแล้ว ไม่นานชายมาดเนี๊ยบก็ขับรถออกมามันเป็นรถคลาสสิค Ford Mustang GT Fastback รุ่นปี 1969 สองประตู สีแดงเงาวาววับสวนทางกับบุคลิกและฐานะของเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิง

“โห! เท่มากคุณบอสที่แท้ก็เป็นนักเลงรถเก่า” น้องนุชกล่าวชื่นชมต่างจากไหมเงินที่ไม่เห็นว่าแปลก คุณบอสเปลี่ยนรถบ่อยกว่าเปลี่ยนมือถือเสียอีก

“จะตื่นเต้นอะไรกับรถเก่าๆ อ๋อลืมไปลุงของหล่อนก็คงอายุไล่เลี่ยกันสินะ ไปๆ ไปนั่งสวีทกันให้พอ”

“เฮ้! ยัยไหม นี่มันนอกแผนนะ” น้องนุชมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัดมันเริ่มลามไปเรื่อย ตั้งแต่ปากที่สั่น หน้าซีดไปจนถึงหัวใจที่รู้สึกว่าจะเต้นไม่เป็นจังหวะ

“เอาน่า ชื่อมือไหมสิ” ญาติสนิทมาดมั่น ทำเอาขวัญข้าวร่วมลุ้นไปด้วยทั้งสามนารีเดินลงจากรถทักทายเจ้านายของไหมเงินที่ยังนั่งอยู่ในรถสวมแว่นตากันแดด

“สวัสดีค่ะคุณบอส นี่น้องนุช ลูกพี่ลูกน้องของไหมเองจำได้หรือเปล่าเอ่ย ที่เคยเจอกันในงานรับรางวัลนักเขียนเมื่อสองเดือนก่อนน่ะค่ะส่วนนี่ขวัญข้าว เด็กในบ้านของไหมเอง”

“จำได้” บอสกล่าวเสียงเรียบ ตอบสั้นๆน้องนุชมองหน้าแม่สื่อแม่ชักแบบไม่มั่นใจตัวเอง ไหมเงินรีบผลักตัวให้ไปขึ้นรถพร้อมพูดกับบอส

“เดี๋ยวไหมจะให้นุชไปกับบอสนะคะ จะได้บอกทาง เจอกันที่วัดนะคะ”ไหมเงินเจ้ากี้เจ้าการและไม่รอให้บอสตอบอะไรเธอรีบเดินกลับมาที่รถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว

“คุณบอสของพี่นุชนี่เก๊กชะมัดยาดเลยนะคะ” ขวัญข้าวที่สังเกตจากมุมไกลออกความเห็น

“คนนี้แหล่ะ เจ้านายพี่เอง เฮ้อ!...ยัยนุชจะรอดมั้ยนะ”ไหมเงินหันมาบอกกับยัยผมยุ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว ก็รู้อยู่ว่าท่าจะลุ้นยาก

ในรถของคมเดชน์ นักเขียนบทสาวเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับคนที่แอบปลื้มมานานก็แผลงฤทธิ์ก๋ากั่นไม่ออกทั้งคู่นั่งเงียบกันมาพักหนึ่ง แอร์ที่เย็นฉ่ำ แต่น้องนุชกลับรู้สึกร้อนเม็ดเหงื่อผุดมาตามฝ่ามือและไรผม ชายมาดเนี๊ยบเห็นเข้าก็ปรับช่องแอร์ให้นักเขียนบทสาวก็นึกเรื่องชวนคุยขึ้นมาได้

“คุณคมเดชน์ชอบรถเก่าหรือคะ เหมือนนุชเลยลุงของนุชก็คงไล่เลี่ยกับคันนี้”

“ชอบสิ ผมชอบอะไรที่มันคลาสสิค ดูแล้วไม่เบื่อไม่ฉาบฉวยแล้วลุงน่ะรถอะไร” เสียงทุ้มๆทำเอาคนฟังแทบละลายน้องนุชหันมาจ้องมองใบหน้าเกลี้ยงเกลา จมูกโด่งเป็นสัน ‘ไม่หรอกยัยไหมน่าจะมองผิดลุกส์แบบนี้จะเป็นเกย์ไปได้ยังไง‘ หญิงสาวปล่อยความคิดเตลิดไปพักหนึ่งมาฉุกคิดได้ก็เอาตอนที่คุณบอสหันมามองกลับน้องนุชรีบหลบสายตาเพราะมันหวามไหวเกินไป

“เอ่อ...ลุงเป็นรถโตโยต้าคราวน์ รุ่นปี 71 ค่ะพ่อขับไปส่งนุชกับไหมตั้งแต่อนุบาล นุชเลยติดลุงทุกวันนี้ยังใช้อยู่เลย แต่ลุงก็ป่วยบ่อย นี่ก็จอดอยู่ที่บ้าน”

“จะขายมั้ย” เป็นคำถามสั้นๆ ที่คนถามไม่ต้องการอยากจะได้ใคร่จะซื้อแต่ต้องการรู้ถึงความคิดอ่านของผู้ตอบ

“ไม่หรอกค่ะ ถึงนุชจะมีคันใหม่ก็ยังจะเก็บลุงไว้” น้องนุชยิ้มสวยตอบไปแบบไม่ต้องคิด

“รักเดียวใจเดียวล่ะสิ ..ถ้าว่างผมจะไปดูให้นะปรับโฉมลุงเสียใหม่เอาให้กลับมาหนุ่มอีกครั้ง”

“จะ...จริงเหรอคะ ขอบคุณคมเดชน์มากเลยค่ะ รถเก่านี่หาช่างทำยากมากเลย” น้องนุชแทบไม่เชื่อจากสิ่งที่ได้ยินแต่ประโยคนี้ก็สร้างความมั่นใจให้เธอมากโขคนเป็นเกย์ไม่มีวันชอบพวกรถราเครื่องยนต์อะไรแบบนี้หรอก ของแบบนี้ต้องแมนๆเท่านั้น!!

ทั้งหมดมาถึงวัดแล้ว ที่นี่เป็นวัดเล็กๆริมคลอง แวดล้อมด้วยชุมชนเก่าแก่แต่ผู้คนกลับไม่พลุกพล่านไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้นอกจากพระประธานในโบสถ์บ่งบอกว่าไม่ใช่วัดเชิงพุทธพานิชย์บรรยากาศเงียบสงบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาฝึกจิตฝึกใจไหมเงินพาเจ้านายมาไหว้พ่อและแม่ของเธอ คมเดชน์เคยเจอทั้งคู่มาก่อนหน้าแล้วจึงคุยกันสนิมสนมไหมเงินรีบฉวยคว้าแขนลูกพี่ลูกน้องมาถามความคืบหน้า

“นุช เป็นไงบ้าง” คนถูกถามยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำหน้าตายียวนเป็นการตอบคำถาม

“ตึ๊งตึ่ง ตึ้งตึ่ง”ยังไม่ทันจะรู้ความ เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมา ไหมเงินรีบล้วงไปในกระเป๋าคว้ามาดูแล้วก็เดินหลบฉากออกไป น้องนุชก็เข้าใจได้ว่ายัยไหมน่าจะมีความลับปกปิดไว้เป็นแน่แล้วมันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องรักๆใคร่ๆ

‘หนอยแน่ มีหนุ่มมาจีบแล้วทำเป็นแอบเนียนไม่บอกเรา’ น้องนุชเดินกลับเข้าไปที่งานอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพระท่านคงลงมาสวดแล้ว

“มาดูไซต์งานที่นครปฐมฮะ เลยอดเจอไหมเลย คิดถึงนะ” ข้อความและสติ๊กเกอร์ส่งมาจากน้อยหน่าเจ้าของโทรศัพท์อ่านเข้าก็มีรอยยิ้มจางๆ ร่างกะทัดรัดกดแป้นพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ไหมเงินโล่งใจที่น้อยหน่ายังมีไมตรีต่อเธอพร้อมกับยอมรับว่าอาจจะเห็นแก่ตัวไปสักหน่อยที่ปรารถนาจะใช้สาวเท่เป็นแหล่งข้อมูลในงานเขียนของเธอ

‘นั่นสินะยังไม่ได้คุยกับบอสเลยว่าตกลงจะใช้ชื่อไหน แถมพล็อตเรื่องที่เตรียมมาจะผ่านหรือเปล่าน้อ’ พอคิดถึงเรื่องงานนักเขียนสาวก็หน้ามุ่ย ความเครียดเหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่คอยตามไม่ห่างหายพอคิดถึงคนข้างกาย ยัยผมยุ่งไปไหนกันล่ะนี่ ไหมเงินมองไปรอบตัวก็ไม่เห็นเธอเริ่มวิตก เป็นห่วงกลัวว่าสาวรุ่นจะหนีไปหรือเกิดอันตรายเห็นบอกอยู่นี่ว่าไม่ค่อยได้ออกไปไหน โทรศัพท์หรือก็ไม่มีนักเขียนสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าตาตื่นกลับมาจะร้องเรียกน้องนุชให้ไปช่วยกันตามตัวขวัญข้าวแต่อารมณ์กลับต้องเปลี่ยนอีกครั้ง รอยยิ้มน้อยๆออกมาจากใบหน้านวลเมื่อเห็นหลังของเจ้าหนูจำไมอยู่ที่ครัว ผู้อุปการะรีบเดินมาดูเกรงว่าจะทำอะไรโฉ่งฉ่างขายขี้หน้าประชาชีเข้า

“พรืดดด”

“ว้าย! อี๋!” กลายเป็นตัวเธอที่ซุ่มซ่ามเสียเอง ร่างบางเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเหยียบเข้าไปที่กองระเบิดมหึมาเข้าเต็มเปา!! นักเขียนสาวได้แต่เอามือเรียวปิดจมูกของตนก็กลิ่นมันแรงมาก ‘แหวะ!! จะอ้วก’ เธอเดินออกมาจากกองระเบิดแต่ก็ไม่รู้จุดหมาย ประดักประเดิดอยู่แบบนั้นสาวรุ่นได้ยินเสียงผู้อุปการะเธอเลยตรงรี่มาดู พอเห็นผลงานงามหน้าเข้าก็หัวเราะร่า เอามือปิดจมูกเพราะทนกลิ่นไม่ไหวเช่นกัน

“ฮิฮิ พี่ไหมเหยียบขี้หมา ต้องไปซื้อหวยแล้วนะคะนี่รับรองถูกแน่ๆ”

“ไม่ต้องมาเยาะเย้ยเลย เพราะเธอนั่นแหล่ะ” ไหมเงินสุดแสนเซ็งอายก็อายแต่ต้องรักษาฟอร์มไม่ให้เสียไปกว่านี้ สาวรุ่นเดินมาพยุงคนเดินเขย่งเท้า พาไปที่ห้องน้ำ

ยังไม่ได้ทำอะไรกันต่อไหมเงินรีบทำท่าจุ๊ปากต่อสาวรุ่น เธอเห็นบอสเดินมาเข้าห้องน้ำด้วยหางตาไวเท่าความคิด นักเขียนสาวพาร่างบางเบี่ยงตัวหลบมุมเข้าไปเบียดกันในห้องน้ำหญิงที่อยู่ติดกันเพื่อไม่ให้เจ้านายเห็นประตูห้องน้ำชายถูกปิด ไหมเงินชะโงกโผล่เพียงใบหน้าออกมาดูขวัญข้าวด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว ก็ชะโงกตามออกมาเช่นกันแต่ทั้งคู่ก็แทบจะหลบฉากไม่ทัน เพราะคมเดชน์ ออกมา รวดเร็วกว่าที่สองสาวคาดคิด

“จ๊ะ แค่นี้ก่อนนะคะ”

ไหมเงินอยากจะกรี๊ดออกมา ตาโปนแทบทะลุแว่น หลังจากที่ได้ยินชายมาดเนี๊ยบผู้เป็นเจ้านายคุยโทรศัพท์สาวออกซะขนาดนั้น แถมยังไม่ฉี่ที่โถอีก ต้องแอบๆเข้าห้องน้ำเจ้านายจอมแอ๊บความลับแตกเสียแล้ว เห็นมั้ยยัยนุช ชอบใครไม่ชอบดั๊นมาชอบเกย์เมื่อมั่นใจว่าคมเดชน์เดินไปไกลพ้นรัศมีการได้ยินแล้วสองสาวก็หันมาหัวเราะให้กันคิกคัก โดยลืมไปสนิทใจว่า ละเลยทำภารกิจสำคัญกันไปมารู้ตัวอีกทีกลิ่นอบอวลก็โชยเข้าจมูกของคนทั้งคู่

“อี๋!!” สองอนงค์ทำหน้าเหยเกเป็นขวัญข้าวที่ก้มตัวลงมาถอดรองเท้าให้อย่างไม่รังเกียจ จนไหมต้องร้องห้าม

“ไม่ๆ ไม่ต้อง เดี๋ยวเอาน้ำฉีดแล้วก็ทิ้งไปเลย”

ขวัญข้าวไม่ฟังเสียง เธอถอดรองเท้าข้างนั้นออกมาล้างน้ำหลายรอบจนมั่นใจว่าสะอาด เอาไปผึ่งแดดไว้ที่ม้าหินอ่อนแล้วเดินกลับมาถอดรองเท้าของตัวเองและทำท่าจะสวมใส่ให้ผู้อุปการะ ไหมเงินร้องโวยวายเบี่ยงกายหนี

“เฮ้ยๆ!! ยัยหัวยุ่ง จะทำอะไร พอได้แล้ว” ไม่สำเร็จเพราะขวัญข้าวชิงจัดการกับเท้าของคนห้ามอย่างรวดเร็ว

“หนูชินกับการเดินเท้าเปล่ามากกว่าพี่ไหมนะคะ ไปกันเถอะค่ะพระท่านสวดแล้ว” สาวรุ่นในสภาพเท้าเปล่าจูงมือเดินนำหน้าไหมเงินไปที่โบสถ์มือเล็กแต่ค่อนข้างหยาบหนาคงเพราะกรำทำงานบ้านมาแต่ยังเล็ก แม้จะเป็นเช่นนั้นกลับสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับนักเขียนสาวอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ทำไมต้องทำดีกับพี่ด้วย คือ...มันไม่ชินน่ะ”

“หนูต้องถามคำนี้กับพี่ไหมมากกว่าพี่เหมือนเป็นนางฟ้ามาประทานชีวิตใหม่ให้กับเด็กข้างถนนอย่างหนูมากกว่านี้หนูก็จะทำ” สาวรุ่นพูดเสียงเครือซาบซึ้งในบุญคุณที่ชาตินี้เธอคงชดใช้ไม่หมด ไหมเงินหยุดฝีเท้าหันมาสบสายตากับคนที่เธอรับเข้ามาอุปการะ ใช้มือเรียวลูบไปบนศรีษะแผ่วเบา

“เด็กน้อยของพี่ อย่าพูดหวานเป็นนิยายประโลมโลกเลยพี่ก็แค่ทำหน้าที่พลเมืองดีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นนางฟ้าอะไรหรอก ไม่แน่นะอยู่ๆไปหล่อนอาจจะคิดผิดเสียก็ได้ นางฟ้าที่แท้อาจจะเป็นนางมารร้าย ทายาทอสูรสาว”

“หนูไม่เชื่อหรอกว่าพี่ไหมจะร้าย แต่ถึงจะร้าย คนๆนี้ก็รักนะคะ”ขวัญข้าวน้ำตาซึม ตอบกลับไป ไม่ละสายตาจากพี่สาวใจดี

คำว่ารักทำให้ไหมเงินสะดุดกึกหล่อนไม่อาจตีความหมายของคำนี้ได้กระจ่างใจ ‘เด็กสาวคนนี้อาจจะรักเราแบบพี่สาวแบบพ่อแม่ที่เธอไม่เคยมี หรืออาจจะ...อาจจะ... โอยๆ ไม่เอาไม่คิดแล้ว’

“แล้วเมื่อกี้ไปทำอะไรในครัว?” ไหมเงินหาทางลงให้ตัวเองเบี่ยงประเด็นไปไกล

“ก็ไปช่วยเขาหยิบจับบ้างไรบ้าง เผื่อจะได้บุญกะเค้ามั่ง” สาวรุ่นตอบหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมที่ไหมเงินให้ไว้วันก่อนมาซับน้ำตา นักเขียนสาวตัดบทตอนนี้หล่อนไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว

“ไปกันได้แล้ว พระสวดจะเสร็จละมั้ง”ครานี้เป็นไหมเงินที่จูงมือสาวรุ่นมุ่งตรงไปยังโบสถ์มาวัดครั้งนี้จิตใจเธอสับสนวุ่นวาย ไม่สมกับเป็นสถานที่สงบเงียบเอาเสียเลย





Create Date : 02 มิถุนายน 2558
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 12:38:56 น. 0 comments
Counter : 182 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.