Group Blog
 
All blogs
 
2 new friends ผู้มาใหม่ทั้ง 2

กิจวัตรประจำใจ เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นประจำวันของไหมเงินก็คือการมาวิ่งออกกำลังกายบริเวณรอบๆคอนโดในตอนเช้า แม้เธอจะเป็นนักเขียนอาชีพที่เรียกได้ว่าใช้รูปร่างหน้าตาในการทำมาหากินน้อยที่สุดในโลกทว่าขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงแล้วล่ะก็ ต้องดูแลรักษาเชฟของตัวเองหน่อย

แสงแดดยามเช้าที่ให้วิตามินD สายลมเย็นพัดผ่านวูบหนึ่งปะทะผิวกายที่มีเม็ดเหงื่อซึมทำให้รู้สึกเย็นสบายไม่เหนียวตัวท่ากลางหมู่แมกไม้ใหญ่น้อยทำให้บรรยากาศไม่ต่างจากสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากนักระหว่างที่วิ่งไปไหมเงินก็คิดถึงงานของตนไปพลาง เมื่อเช้าระหว่างแปรงฟันเธอนึกชื่อที่จะใช้เป็นนามปากกาได้แล้ว สามสี่ชื่อ พวกศิลปินก็มักเป็นแบบนี้ ถ้าคิดอะไรๆออกมันก็พรั้งพรูออกมาเป็นชุด ดูอย่างพี่เสกโลโซสิ แต่งเพลงใจสั่งมาแค่สามนาที

‘พิชามญชุ์ (อ่านว่า พิ-ชา-มน) ดีมั้ยนะ หรือว่ากัลยาจารีย์แต่เราเกิดวันศุกร์นี่นะ มีตัว ร ไม่ได้ หรือว่า...’

“ว้าย!...โอ้ย!!”

ระหว่างที่เหม่อลอย เพราะนักเขียนชื่อดังมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องตัวไม่ได้ใส่ใจเข้ากับสิ่งรอบข้างร่างกะทัดรัดวิ่งไปชนเข้ากับรถจักรยานที่ขี่สวนมาตรงหัวโค้งเข้าพอดีแม้จะเป็นสองล้อถีบด้วยแรงมนุษย์ที่ไม่ได้ใช้ความเร็วมากนักแต่ไหมเงินก็ล้มลงไปกองก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอย่างจัง

“อุ๊ย!! เป็นอะไรไหมฮะ”

สาวผมสั้นดุจดังชายหนุ่มรีบลงจากจักรยานรี่เข้ามาดูคนล้มอย่างแสดงถึงความรับผิดชอบเข้ามาประคองร่างเล็กให้ยืนขึ้นพร้อมกกับถามไถ่อาการ

“ขอ...ขอโทษค่ะ ไหมไม่ทันระวังไหมต่างหากที่ต้องถามว่าคุณเป็นอะไรเสียมากกว่า”

นักเขียนสาวรีบยกมือไหว้ ทำหน้าเซ็งนิดๆ เจ็บก็เจ็บอยู่หรอกแต่ใจก็พาลพาไปโมโหเอาถึงตาบอสจอมบงการ เห็นมั้ยล่ะไม่ทันไรก็สร้างความเดือดร้อนให้เธอเข้าแล้ว

คนที่ขี่รถชนเห็นเข้าก็นึกทึกทักเอาว่า คนน่ารักมักใจร้ายโมโหตัวเข้าเธอพาร่างเล็กประคองไปนั่งพักที่ม้านั่งใกล้ๆ ใต้ต้นคูนใหญ่ออกดอกสีเหลืองอร่าม

“ขอดูหน่อยนะฮะว่าเจ็บตรงไหน” คนผมสั้นรีบนั่งคุกเข่าดูอาการไหมเงินนึกขำกับท่าทางทะมัดทะแมงดูประหนึ่งคนตรงหน้าเป็นหนุ่มน้อยจนเธอสะกดกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

“ตายแล้ว! เข่าถลอกนี่นา” สาวผมสั้นทำตาโตแบ๊วสหลุดสาวออกมา ะทำแมนได้ตลอดทุกท่วงท่าเห็นจะเกิน ผู้หญิงอย่างไรเสียก็เป็นผู้หญิงครานี้ไหมเงินเลยหัวเราะลั่น

“ฮิฮิ”

“เจ็บตัวแล้วยังหัวเราะได้อีกนะฮะ รอเราตรงนี้แปปนะเดี๋ยวมา”คนถูกหัวเราะกลับแปลกใจยิ่งนัก มองไหมเงินด้วยฉงนใจเธอยันกายขึ้นคว้าจักรยานที่ล้มลง พาร่างทะมัดทะแมงขึ้นคร่อม และปั่นออกไปข้างหน้าไหมเงินกลับฉงนใจกว่า มองจนจักรยานลับตาไป

เมื่อพ้นจากเหตุกาณ์ตรงหน้า เจ้าหล่อนก็รู้สึกแสบๆคันๆที่แผลเธอน้อมตัวลงไปดู มันก็แค่ถลอกนิดหน่อย ช่วยไม่ได้เราซุ่มซ่ามเองแต่อย่าให้เจอหน้าอีตาบอสเชียว แม่จะเบิกค่าทำแผล!

“กริ๊งๆ” เสียงกริ่งของจักรยานดังขึ้นมา ไหมเงินเงยหน้าละสายตาจากร่างกายตนเอง

“มาแล้วฮะ” ร่างทะมัดทะแมงพูดเพียงเท่านั้นเธอจอดจักรยานและก้าวลงมาพร้อมถุงพลาสติกเล็กๆในมือ สาวเท้ามาใกล้คนเจ็บวางถุงบนม้านั่งข้างไหมเงิน เธอคุกเข่านั่งลงตรงหน้านักเขียนสาวในท่วงท่าเดิม หยิบขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลและเปิดฝาเอาสำลีมาซับที่ปากขวดกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ลอยมาเตะจมูกนักเขียนชื่อดัง

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะเดี๋ยวไหมขึ้นไปบนห้องทำเองก็ได้” เสียงหวานๆตอบปฏิเสธนุ่มนวลนอกจากไม่คุ้นที่คนแปลกหน้ามาทำอะไรแบบนี้ให้แล้วยิ่งเป็นเพศเดียวกันเธอยิ่งรู้สึกจักกะเดียม

“อูยยย! แสบๆ” นักเขียนสาวทำหน้าบูดเบี้ยวเพราะสาวมาดแมนนักปั่นไม่ฟังคำบอกปัดเธอเอาสำลีเช็ดเข้าที่หัวเข่าของไหมเงินนุ่มนวล แต่สาวเจ้าก็ไม่วายรู้สึกแสบอยู่ดีครั้นจะห้ามปรามก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทก็เขาหวังดีประสงค์ดีซะขนาดนี้สักพักคนทำแผลก็เก็บเศษสำลีใส่ถุงและมานั่งเข้าข้างๆ

“ขอบคุณค่ะ แต่อย่าหาว่าไหมเสียมารยาทเลยนะเดี๋ยวนี้เขาไม่ล้างแผลกันด้วยแอลกอฮอล์แล้ว” นักเขียนสาวไหว้ขอบคุณอีกครั้งก่อนเริ่มต้นสนทนา สาวนักปั่นเอียงคอส่งสัญญาณคล้ายไม่เข้าใจ

“ยังไงฮะ?”

“แอลกอฮอล์ ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ก็จริงค่ะแต่ว่ามันก็จะไประคายเคืองต่อเนื้อเยื่อของบาดแผลนอกจากจะมีโอกาสอักเสบติดเชื้อแล้วแผลอาจจะดำ... แล้วที่สำคัญคือมันแสบ”นักเขียนสาวอธิบายอย่างกระจ่างแจ้ง เรื่องแผลเรื่องบาดเจ็บเธอเชี่ยวนักเพราะงานเขียนแนวถนัดต้องหยิบยกมาพรรณนาอยู่แทบทุกเล่ม

“อ้าว ไม่ใช้แอลกอฮอล์ แล้วใช้อะไรล่ะ อีกอย่างเมื่อกี้เรารีบเข้าร้านสะดวกซื้อมันก็มีแค่นี้รู้งี้ปั่นไปร้านขายยาซะก็ดี” สาวมาดแมนถาม พร้อมแก้ตัวเสียงจ๋อยไม่คิดว่าความหวังดีจะส่งเป็นผลร้าย

“คุณเป็นคนมีน้ำใจ ไหมซาบซึ้งค่ะ คนเราปรารถนาดีและไม่รู้ย่อมไม่ผิดล้างแผลให้ใช้น้ำเกลือค่ะ สะอาดกว่าน้ำปล่าแล้วก็ไม่แสบแผลด้วยเผื่อคราวหน้าคุณไปเจอคนน่ารักบาดเจ็บเข้าจะได้ไม่พลาดนะคะ”ไหมเงินตอบเป็นเชิงหมาหยอกไก่ หารู้ไม่ว่าที่เขาเจ้ากี้เจ้าการขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าเขาตั้งใจจีบนั่นเอง แสงแดดเริ่มไล่มานักเขียนชื่อดังเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมานิดๆ แถมแสงแดดจ้าเกินไปก็ยังเป็นอันตรายต่อผิวอันบอบบางนักเขียนนามอุโฆษลุกขึ้นยืน เหมือนเตรียมจะกลับไปที่ห้องของเธอ แน่ล่ะก็มันสายมากแล้ว

“เป็นหมอหรือฮะ หรือว่าพยาบาล?” สาวนักปั่นรีบถาม หวังประวิงเวลาเพราะเท่าทันว่าคนน่ารักกำลังจะจากไป หว่านพืชย่อมหวังผลฉันใด หว่านหัวใจย่อมหวังรักเธอ

ไหมเงินยิ้มน้อยๆ แววตาเป็นประกายใสวิ๊งวิ๊งเป็นอากัปกริยาที่แทบกระชากวิญญาณของคนตรงหน้า ให้หลุดออกจากร่าง

“เปล่าค่ะ ให้เดาอีกสิบครั้งก็เดาไม่ถูกหรอก ฮิฮิ”ร่างเล็กก้าวเดินออกมา แต่สาวทอมจอมตื้อก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาดักตรงหน้า

“กินกาแฟกับเราสักแก้วนะฮะ คอฟฟี่ช็อปข้างหน้านี่ก็ได้”

“เอ่อ...”

นักเขียนสาวเริ่มกระอักกระอ่วนใจ หาทางปฏิเสธคนขายขนมจีบ อย่างที่รู้ๆเจ้าหล่อนออกจะอคติกับพวก LGBT ซะด้วยซ้ำไป

“ไม่เป็นไร ถ้าไม่สะดวกใจ ไว้วันหน้าก็ได้... เราจะรอชื่อไหมใช่มั้ยฮะ” สาวมาดแมนหน้าเจื่อนเสียงจ๋อย ไม่รอคำตอบเดินคอตกไปที่รถคู่ใจของตน ไหมเงินเห็นแบบนั้นก็สงสารนิดๆแต่ก็ไม่ได้สานสัมพันธ์ต่อ เธอออกจะโล่งใจเสียด้วยซ้ำ ทำอย่างไรได้

‘คนมันไม่ใช่ ทำยังไงก็ไม่โดน’

กลายเป็นว่าทั้งสองก็แยกย้ายกันไป ตามวิถีทางของตนไหมเงินเดินขึ้นมาที่ห้อง ชงกาแฟจากเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติเครื่องโตราคาแพงของฝากจากคมเดชน์ เมื่อคราวที่บอสมาดเนี๊ยบไปพบลูกค้าที่ออสเตรเลียจิบกาแฟไปก็นึกขึ้นได้ถึงภาระที่ค้างคา ส่งไลน์ให้ญาติสาว

“คิดชื่ออกแล้วนะ พิชามญชุ์ ,กัลยาจารีย์แล้วก็ รจเลขา นุชช่วยเลือกแล้วกัน”

“อือ ปั่นงานอยู่มีแก้บทด่วน เดี๋ยวดูให้”

“อย่าเครียดนะเจียโหยว”

ไหมเงินตอบกลับไปสั้นๆเจียโหยวเป็นภาษาจีนแปลว่าสู้ๆ หล่อนรู้ดีว่า ‘แก้บท’ น้องนุชจะตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินทางความคิดห้ามยุ่งห้ามกวนห้ามเซ้าซี้เด็ดขาด คิดได้ดังนั้นก็ให้รู้สึกว่า ความโชคดีที่เคยมีอยู่เดิม ได้ถูกพรากจากไปต่อหน้าอิสระเสรีในงานขีดเขียนมลายไปพลัน เพราะถูกกำจัดวงจากอีตาบอสเกย์นั่นหล่อนมองดูเครื่องทำกาแฟแล้วก็ส่ายหัว

หลังจากเปลี่ยนชุด ไหมเงินก็เริ่มลงมือทำงานของเธอต่อจะเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานก็รู้สึกตึงๆเข้าที่หัวเข่า และก็นึกถึงใบหน้าของยัยทอมใจดีนั่น

ท...อ...ม..

แป้นพิมพ์ถูกเคาะ เสริ์ชเอ็นจิ้นทำงานอีกครั้งข้อมูลหลั่งไหลออกมามหาศาลเช่นเคย ไหมเงินง่วนอยู่กับการอ่านข้อมูลที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนตั้งแต่ทอมดี้มีกี่ประเภท ศัพท์แสลงและบทความเกี่ยวกับเลสเบี้ยนจนรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มหิว ไหมเงินบุ๊คมาร์คหน้าที่เธอสนใจไว้ชอร์ทโน๊ตไว้ในสมุดเล่มเล็กก่อนที่จะปิดเครื่องและเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรง่ายๆทาน

‘บ้าจริง’

นักเขียนสาวอุทานออกมา เมื่อตู้เย็นเหลือไข่แค่สองใบ ไส้กรอกสามชิ้นเธอหยิบโทรศัพท์หวังกลับไปฝากท้องกับที่บ้าน

“แม่ไม่อยู่ ไปนอนค้างบ้านยาย คงไปเจอกันที่วัดวันทำบุญเลยนี่พ่อยังต้องซื้อกับข้าวถุงกิน”คำตอบจากผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้าทำเอาคนหิวผิดหวัง ไหมเงินคว้ากุญแจรถเตรียมออกจากห้องทันที เธอคิดได้ว่า นอกจากของกินที่หมดตู้ยังมีเครื่องใช้อีกหลายอย่างที่พร่องไปต้องซื้อหา ร่างเล็กมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลกับคอนโดเธอนัก

สิบนาทีให้หลัง รถอีโค-คาร์ของไหมเงินก็เลี้ยวเข้าลานจอดรถเมื่อได้ที่จอดเธอก็ลงจากรถสาวเท้าไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่สุดทันทีด้วยความหิว

ที่โต๊ะริมกระจกข้างลานจอดรถอาหารที่สั่งมาวางตรงหน้ามันคือวุ้นเส้นเย็นตาโฟไม่ใส่เลือดผักบุ้งเยอะๆแต่น้ำขลุกขลิกของโปรดระหว่างที่กำลังคีบตะเกียบสาววุ้นเส้นเข้าปากหางตาของไหมเงินก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวสองคน กำลังมีปากเสียงกันอยู่ภายนอกแต่หล่อนก็ไม่สนใจเพราะคิดไปว่าคงไม่มีอะไรรุนแรงไหมเงินคีบก๋วยเตี๋ยวได้อีกสองสามคำ ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่บ้างก็เริ่มหยุดดูและหนาตาขึ้น สะดุดอารมณ์ไหมเงินให้หันไปเมียงมองอีกครั้งสองสาวคู่เดิมยังไม่เลิกราจากจากฟาดปากกัน แถมยังเริ่มมีการลงไม้ลงมือเสียอีกคนหนึ่งเป็นสาวร่างอวบจะว่าอ้วนเลยก็ได้ ผมซอยสั้นไฮไลท์สีแดงเพลิงกำลังจิกผมกระเซิงของร่างที่เล็กกว่ามาก ไหมเงินมองตาไม่กะพริบคาดเดาได้ว่าเป็นคู่รักเลสเบี้ยนนั่นเอง

‘อึ๋ยย! พวกนี้รักรุนแรง...น่ากลัวจัง’

หนึ่งในคู่กรณีเงื้อมือตบไปที่ใบหน้าของร่างที่บอบบางกว่าฉาดใหญ่จนไหมเงินต้องเบือนหน้าหนีเหล่าบรรดาไทยมุงต่างก็ไม่มีใครไปช่วยเหลือ แม้กระทั้งห้ามปรามนี่ถ้าแม่อ้วนนี่มีปืน ร่างบางคงโดนกระหน่ำลูกตะกั่วไปหลายเมล็ด..

เกินจะอดรนทนได้ ไหมเงินควักแบงค์ร้อยออกมาสองใบวางไว้บนโต๊ะฉวยกระเป๋าและรีบวิ่งออกไปนอกร้านอย่างรวดเร็ว

‘บ้าที่สุด ทำไมเราต้องมาวุ่นวายกับเรื่องพรรค์นี้ด้วยนะพวกไทยมุงนี่ก็จริงๆเลย จะห้ามกันก็ไม่มี แถมยังถ่ายคลิปกันสนุกมือความฉิบหายของคนอื่นนี่ชอบกันนัก’

นักเขียนสาวสบถในใจเร่งฝีเท้าออกมายังคู่กรณี สาววัยใกล้สี่สิบโดยประมาณก็น่าจะใกล้เคียงกับบคุณบอสแต่ดูเอ่อ..โทรม และแก่กร้านโลกกว่ามากกำลังขึ้นคร่อมบนร่างบางที่วัยน่าจะไม่เกินยี่สิบ จะว่าเป็นแม่ลูกก็ได้แต่แม่ที่ไหนกันเล่าจะใจร้ายทุบตีลูกต่อหน้าธารกำนัล เมื่อแน่ใจเช่นนั้นไหมเงินก็ตะโกนห้ามสุดเสียง

“หยุดๆ!! ใครก็ได้ช่วยเรียก รปภ.ที” ร่างที่ขึ้นคร่อมชะงักไป ผละจากร่างบางและลุกขึ้นชี้หน้าด่ากราดไหมเงินทันที

“อ้อ! อีหน้าสวย มึงสินะอีผัวใหม่ ดี เข้ามาเลยกูจะได้ชำระแค้นเสียพร้อมๆกัน”

เสียงแว๊ดสวนกลับมายังไหมเงิน แบบไม่กลัว ซ้ำยังท้าทายประดาไทยมุงต่างเริ่มซุบซิบ ไอ้คนที่ถ่ายคลิปก็ถ่ายกันไป ไหมเงินไม่ได้ตกใจ เธอควบคุมสติและตอบกลับไปด้วยเสียงนิ่มๆ

“คุณคะ กรุณาให้เกียรติกันหน่อยแล้ว..คุณก็กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นอยู่นะคะ”

“อีดอก! มึงไม่ต้องมาทำเป็นผู้ดีหน่อยเลยลักกินขโมยกินอย่างมึงต้องเจอแบบนี้” สาวร่างอวบเดินพุ้งย้วยนมกระเพื่อมอาดๆเงื้อมือมาตั้งแต่ออกจากบ้าน เตรียมจะใช้กำลังอย่างถนัดไหมเงินก็ยกมือเตรียมป้องกันตัว

‘โดนยัยช้างตกมันนี่เข้าไปหัวหลุดแน่ไหม’ ก็กลัวอยู่นะแต่ใจมันสู้ไม่คิดหนี เธอรีบถอดและเก็บแว่นเข้ากระเป๋า เงื้อมือเรียวเล็กขึ้นสู้

“ปรี๊ดดดดด!!”

เสียงนกหวีดดังมาพร้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างกรูกันเข้ามาสองนายและต่างเข้ามาห้ามคู่กรณีทั้งสอง สาวห้าวสูงวัยดีดดิ้นและโวยวายไม่หยุดปากทำให้รปภ.ต้องรวบตัวเอาไว้แม้จะยากเย็นเพราะตัวใหญ่มว๊าก ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับไหมเงินหล่อนอยู่ในอาการสงบนิ่งทำให้รปภ.อีกนายได้แต่ยืนคุมเชิงไว้ใกล้ๆ

“ปล่อยกู บอกให้ปล่อยไง....”

สาวอวบผู้ชอบใช้แต่กำลัง เริ่มหยุดดิ้นแต่ยังพร่ำไม่หยุดปากคงเป็นเพราะเหนื่อย ก็ดูสิ หายใจถี่ซะขนาดนั้นรปภ.ที่คุมตัวไว้ยังไม่แน่ใจในสถานการณ์สาวอวบอ้วนชี้หน้าไปยังร่างบางที่นั่งร้องไห้

“มึงไปให้พ้นจากชีวิตกูเลย อีร่านอีนังแพศยาไปอยู่กับผัวใหม่มึงโน่นเขามารับมึงแล้วที่ผ่านมากูถือว่าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวตัวหนึ่งแล้วกัน ปล่อยกูได้แล้วกูจะกลับ”

รปภ.คลายการจับกุมสาวที่อารมณ์ฉุนเฉียวเริ่มร้องไห้ชี้หน้าไปที่ไหมเงินอย่างอาฆาตเจ็บแค้นและอับอายเป็นที่สุด ก่อนจะหันหลังกลับและเดินจากไปอย่างอุ้ยอ้ายรปภ.ยังคุมเชิงอยู่จนสาวอวบลับตาไป พวกไทยมุงพอเห็นว่าไม่มีเรื่องตื่นเต้นก็สลายโต๋ตามธรรมเนียม

ไหมเงินสวมแว่นคู่ใจอีกครั้ง เตรียมจะกลับเข้าไปในห้างเพื่อซื้อของเสียเวลาไปมากแล้ว หมดหน้าที่พลเมืองของหล่อนซะทีแต่ก็ฉุกคิดได้ว่าร่างบางคง อ่วมอรทัยก็โดนฝ่ามืออรหันต์พิฆาตไปหลายกระบวนท่าไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้วจะเสียเวลาอีกหน่อยเป็นไรไปนักเขียนสาวจึงตัดสินใจเดินมานั่งข้างสาวน้อยที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย เสื้อผ้ายับเยินขาดวิ่นเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ารุงรัง ใบหน้าแดงไปด้วยรอยประทับฝ่ามือของร่างยักษ์ขมูขี ‘อูยย นักเขียนชื่อดังรู้สึกเจ็บแทน

“เจ็บมากมั้ย ไม่เป็นไรแล้วนะ กลับบ้านซะเถอะที่นั่นคงมีคนที่รักเราจริงรออยู่นะ”

ไหมเงินมองดูสภาพร่างกายบอบช้ำ ที่คงไม่ต่างจากจิตใจเด็กวัยนี้ปกติอาจจะห้าวก๋ากั่นแสบสันต์ตามอายุแต่เจอเรื่องหนักหนาแบบนี้คงทั้งใจเสียและอับอาย เธอพยายามปลอบโยนเท่าที่จะทำได้

ร่างเล็กจ้องไปยังใบหน้าหวานๆ ที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเมตตาต่างจากคนใจร้ายที่เพิ่งจากไป ไหมเงินก็มีโอกาสได้พินิจใบหน้าบวมช้ำอย่างใกล้ชิดเจ้าหล่อนก็ดูน่ารักสมวัย หน้าตาอินเทรนด์ตามสมัยนิยมพักหนึ่งนักเขียนสาวก็ลุกขึ้น ถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้วไหมเงินกำลังจะก้าวเดินออกมาจากร่างบาง

“เดี๋ยวสิคะพี่คนสวย”

เสียงเรียกปนสะอื้นของอีกฝ่าย ทำให้ไหมเงินต้องชะงักเธอส่ายหน้ารอบหนึ่งก่อนจะควักธนบัตรสีแดงมาสามสี่ใบ หย่อนกายลงและยื่นให้เด็กรุ่น

สาวน้อยส่ายหน้า ปฏิเสธไม่รับ น้ำตายังไหลริน

“น้อยไปเหรอ?”

ไหมเงินถามสั้นๆ หล่อนต้องการตัดบทไม่ให้มากเรื่องหยิบธนบัตรออกมาเพิ่ม คราวนี้เป็นสีม่วงถือซะว่าทำบุญเป็นทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาส

ร่างบอบช้ำยังส่ายหน้าซ้ำเดิม ก่อนจะร้องกระซิกๆ

“หนูไม่ได้ต้องการเงิน หนูไม่มีบ้าน”

“อ้าว เป็น homeless เอ่อ...เด็กเร่ร่อนรึ?”

ไหมเงินเข้าใจไปว่า คนตรงหน้าเป็นเช่นนั้นดูจากการแต่งกายแล้วแม่หนูคนนี้คงไม่แคล้วเป็นสก๊อย และทำมาหากินด้วยวิธีพิเศษบังเอิญสาวอวบใจร้ายคงซื้อเธอมานอนด้วย และอาจจะลุ่มหลงเลี้ยงดู จนกระทั่งมีปัญหากันแบบนี้ เธอล้วงกระเป๋าจะหยิบทิชชู่แต่ไปคว้าเอาผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้สาวรุ่นผู้น่าเวทนา

“ฟื้ดดด”

‘อ้าว แพงนะนั่น’ นักเขียนสาวหน้ากร่อยไปถนัดตาขยับแว่นหนึ่งครั้งก็สาววัยทีนดันเอาผ้าผืนรักมาสั่งน้ำมูกเข้าเสียนั่น

“จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ พี่พรรณ เอ่อ...คนที่เพิ่งเดินไปตะกี้เป็นผู้อุปการะหนูมาจากบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่หนูสิบสอง”

“กรรมของเวร! แล้วจะทำยังไงกันล่ะทีนี้?”

ไหมเงินสงสารสาววัยทีนเป็นที่สุดเพราะคาดเดาได้ไม่ยากว่าชีวิตของหล่อนจะผ่านอะไรมาบ้าง

“ให้หนูไปอยู่กับพี่คนสวยนะคะ” ร่างเล็กยกมือไหว้ท่วมหัวน้ำตาเริ่มเหือดแห้ง แต่ใบหน้ายังอมทุกข์

‘นั่นไง นรกแล้วมั้ยล่ะ หาเรื่องแท้ๆ ไหมเอ๊ย แต่ทิ้งไว้ตรงนี้ก็จะดูใจร้ายไปหน่อยหน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ได้โดนพวกขี้ยารุมโทรมเป็นแน่ลูกที่เกิดมาไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ แล้วก็คงจะเติบโตมาได้ยากเย็นในสังคมฟอนเฟะหรืออาจไม่ได้เกิดด้วยซ้ำ เพราะแม่นี่คงทำแท้ง อึ๋ยยย! เอาวะหอบหิ้วกระเตงกันไปก่อนแล้วกันแล้วค่อยฝากงานกับบอสเอา’

ไหมเงินคิด เธอลุกขึ้นและพยุงร่างบางขึ้นมาถามคำถามสำคัญ

“อายุเท่าไหร่?”

เธอต้องรอบคอบ ข้อหาพรากผู้เยาว์นี่หนักเอาเรื่อง เจ้าตัวยังไม่อยากไปนั่งเขียนหนังสือในมุ้งสายบัว

“สิบเก้า...ยี่สิบ...ยี่สิบเอ็ด ยี่สิบเอ็ดแล้วค่ะ”สาวรุ่นนึกไปพักใหญ่ ยกมือขึ้นมาไล่นับนิ้วอย่างกับเด็กประถม ก่อนจะตอบออกไปแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาสั่งน้ำมูกอีกรอบ

ไหมเงินมองลอดแว่นหนาเตอะ เพ่งพิศดูเอาจากรูปร่างที่โตเป็นสาวเต็มที่แล้วก็ให้มั่นใจว่าวัยทีนคงไม่โกหก

“แล้วชื่ออะไร” ไหมเงินถามพร้อมกับจดจ้องไปที่แววตาใสซื่อ

“ขวัญข้าวค่ะ ครูที่มูลนิธิฯตั้งให้”

“อืม...งั้นพี่เรียกขวัญแล้วกันนะ” เมื่อรู้ชื่อเสียงเรียงนามและได้ทราบปูมหลังบ้างเล็กน้อย ก็ได้เวลาหอบหิ้วกันไปไม่รู้ว่าด้วยจิตใจที่ดีหรือเป็นเพราะความรู้สึกส่วนลึกมันเอ็นดูหนูน้อยคนนี้เป็นพิเศษไหมเงินตัดสินใจที่จะช่วยเหลือสาวแปลกหน้าเคราะห์ร้ายที่เพิ่งเจอกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

เหนืออื่นใดคงต้องทำให้หล่อนพ้นจากสภาพมอมแมมแบบนี้เสียก่อนเป็นลำดับแรก นักเขียนสาวจูงมือร่างบอบช้ำให้เดินตามเธอเข้าไปในห้าง

การช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งดี หากแต่จงทำตามแต่กำลังที่มีเถิดถ้าช่วยผู้อื่นแล้วตัวเองต้องเดือดร้อน นอกจากบุญที่หล่นหายแล้วบาปซ้ำยังเกิดขึ้นแทนด้วย... พระท่านว่าไว้




Create Date : 16 พฤษภาคม 2558
Last Update : 16 พฤษภาคม 2558 8:34:50 น. 0 comments
Counter : 367 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.