Group Blog
 
All blogs
 
The writer’s happiness ความสุขของนักเขียน

หลังจากชำระเงินและรับใบเสร็จมาเป็นที่เรียบร้อย สองนารีก็เดินออกมาและเป็นสาวผมยุ่งที่เอ่ยปากขึ้น

“พี่ไหม..ขอบคุณค่ะ ไว้หนูทำงานได้แล้วจะใช้คืนให้นะคะ” ไหมเงินหันมาจ้องหน้าขยับแว่นตอกกลับไปด้วยความเคยชิน

“มีปัญญาเหรอ? อ้อลืมไป ขายนาผืนน้อยไม่กี่ครั้งก็ได้หลายหมื่นอยู่นี่ยังสาวๆสดๆอยู่แบบนี้” เธอพูดออกไปไร้การยังคิดด้วยคะนองปากตาก็มองไปยังเนินอกที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งมีเสื้อแขนยาวทับอยู่อีกชั้น

ขวัญข้าวยินคำเสียดสีอย่างชาชิน ถึงจะเสียใจเป็นที่สุดแม้น้ำตาสักหยดก็ไม่มีให้ไหลเสียแล้ว สาวรุ่นได้แต่จำใจทนรับฟังคำบาดหูบาดใจก็คนเขาเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เธอ นี่ยังมาส่งเสียค่าเรียนแพงหูฉี่เข้าให้อีก

“เดี๋ยวแวะกินอะไรกันหน่อยนะ ซื้อไปตุนไว้ตอนเย็นเผื่อยัยนุชด้วย”ไหมเงินยังไม่รู้ตัวว่าพูดจารุนแรงออกไป เธอเดินนำหน้าเข้าร้านฟาสฟู๊ดส์ชื่อดังเพราะต้องการความรวดเร็วและง่ายๆเข้าว่า

“ฮือๆๆ แม่ไม่รักหนู หนูจะเอาไอ้นี่ ฮือๆๆ”

“ไอ้บอย! หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้นะ อายเค้าซะบ้างโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว ยังจะมาร้องเอาของเล่นบ้าบอนี่อีกแม่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังหรอกนะ ค่าเทอมแกยังไม่รู้จะหาจากที่ไหนเลย ไป กลับบ้าน”

ระหว่างที่ไหมเงินเดินมาสั่งอาหารที่หน้าเคาน์เตอร์เธอสังเกตเห็นเด็กวัยประมาณสิบขวบเศษนอนดีดดิ้นอยู่หน้าตู้กระจกชุดของเล่นสะสมเป็นตุ๊กตาโมเดลตัวจิ๋วสี่ตัวที่ร้านฟาส- ฟู๊ดวางโชว์ล่อตาล่อใจเด็กๆและผู้ปกครองจำต้องควักกระเป๋าซื้อให้ เป็นแผนการตลาดแสนแยบคายโดยมีแม่ของเด็กน้อยกำลังยืนชี้หน้าดุด่าอย่างไม่อายต่อสายตาผู้คนรอบข้าง

‘นี่ขนาดว่าอยู่ต่อหน้าธารกำนัล ยังไม่เกรงอกเกรงใจกันเลยหากว่าเป็นที่ลับตาชานเรือน เด็กน้อยคนนี้คงไม่พ้นโดนลงแส้ลงหวาย’ ไหมเงินจิ้นไปไกล นึกให้หวาดเสียวกับภาพเด็กน้อยโดนทำร้าย ก็ข่าวแม่ใจยักษ์ใจมารมันมีให้เห็นทุกวี่วันหันกลับไปมองผู้อยู่ในความดูแลที่กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เริ่มรู้สึกผิด สองวันหลังมานี่ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมเธอต้องเหวี่ยงวีนระบายอารมณ์บูดใส่ยัยหัวยุ่งนี่ตลอดตลอด ครั้นจะขอโทษรึก็เสียผู้ใหญ่เสียการปกครองหมดที่สำคัญมันเสียฟอร์มเอายังไงดี?...ระหว่างที่เดินถือถาดอาหารกลับมาที่โต๊ะความคิดง้อเด็กแบบไม่ให้เสียเชิงก็วาบขึ้นมาในหัว ไหมเงินวางถาดบนโต๊ะหย่อนกายลงนั่งและพูดกับสาวรุ่น

“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปซื้ออุปกรณ์การเรียนกัน” ขวัญข้าวรับฟังอย่างสงบไร้อาการตื่นเต้น ...ผิดคาด ยิ่งไปกว่านั้น สาวผมยุ่งยังเอ่ยวจีกลับมาแบบที่คนฟังต้องหน้าหงาย

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูใช้กระดาษรีไซเคิลของพี่ไหมก็ได้ มีเป็นกองเลย”แม้จะรู้ว่าการปฏิเสธคำสั่งจะทำให้พี่สาวระคายหูและเคืองใจแต่ขวัญก็ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะครั้งนี้เธอมั่นใจว่าไม่ผิด

“ได้ยังไง อาจารย์เขาเห็นจะดูถูกเอาได้” ด้วยความอยากเอาชนะเป็นที่ตั้งไหมเงินหาเหตุผลมาสมอ้างไปเรื่อย สาวรุ่นโต้กลับทันควัน คราวนี้เป็นไงเป็นกันเธอไม่กลัวหรอก อย่างร้ายที่สุดก็แค่โดนเอ็ดเอาเหมือนเคยๆ

“ก็ให้เขาดูถูกไปสิคะ ใครจะแคร์ พี่ไหมเสียเงินกับหนูมามากแล้วหนูไม่อยากกวน”

“ก็ชั้นอยากให้กวน เข้าใจ๊ พูดดีๆไม่ฟัง อยากฟังคำผรุสวาทแทนใช่มั้ย”เมื่อไม่เห็นหนทางเอาชนะด้วยเหตุผล นักเขียนสาวก็ใช้เสียงและการข่มขู่เข้าสู้ขวัญข้าวเริ่มเห็นท่าไม่ดี จากที่ยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวก็ต้องสยบยอมด้วยไม่อยากให้เรื่องบานปลาย อยากจะเสียตังค์ก็เชิญเลย

“ก็ได้ค่ะ” เธอตอบไปเสียงอ่อยๆ เริ่มต้นแทะกินไก่ทอดของชอบใจก็ไม่อยากจะต่อความอีกแล้ว

“ก็แค่นั้น” ไหมเงินหยิบแก้วน้ำอัดลมมาดื่มยิ้มเยาะอย่างผู้มีชัย

เมื่อกินกันเสร็จและซื้อเสบียงกรังตุนไว้สำหรับค่ำคืนนี้แล้ว สองสาวก็หอบข้าวของพะรุงพะรังกลับไปเก็บที่รถเสียรอบหนึ่งก่อนจะเดินมาเข้าร้านหนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียนชื่อดังที่มุมเครื่องเขียนหลากหลายตระการตา ขวัญข้าวตาลุกวาวเพราะเธอไม่เคยเห็นอาณาจักรใหญ่โตแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกเป็นเด็กน้อยอยากได้โน่นนี่ นั่นมาเต็มหัวใจ ก็ของมันน่ารักน่าใช้ทั้งนั้นขวัญข้าวหยิบสมุดลายการ์ตูนสีสันสดใสขึ้นมาเล่มหนึ่งด้วยถูกตาต้องใจเมื่อพลิกไปดูราคาก็แทบจะเก็บเข้าที่ไม่ทัน ก็เล่มหนึ่งมันร้อยกว่าบาทไหมเงินเอามือเรียวของเธอฉวยคว้าไว้ไม่ให้สาวรุ่นวางลงพยักหน้าเป็นเชิงว่าเอาไปเถิด

“เลือกไปก่อนแล้วกันนะ อีกครึ่งชั่วโมงพี่จะมารับเอ้านี่ใช้ให้หมดนะ ไม่ใช่รับไว้เฉยๆ”นักเขียนสาวปล่อยให้ขวัญข้าวได้เลือกซื้อเอาตามอำเภอใจหากเธออยู่เด็กสาวอาจจะไม่กล้าหยิบจับ ไหมเงินยื่นแบงค์พันให้ใบหนึ่งก่อนจะตรงรี่ไปมุมโปรด ถือโอกาสไปสำรวจตลาดในส่วนของร้านหนังสือด้วย

นักเขียนมีชื่อเดินผ่านบู๊ทขายทอลค์กิ้งดิกชันนารี่ เห็นป้ายลดราคาตัวแดงตั้ง 70% ก็เข้าไปสอบถามข้อมูลจากพนักงาน สาวสวยเกือบจะตกลงปลงใจซื้ออยู่แล้วแต่ก็ฉุกคิดได้ว่า ซื้อแทบเล็ตให้ขวัญข้าวเสียเลยดีกว่า เพิ่มราคาอีกนิดหน่อยอเนกประสงค์ครอบคลุมการใช้งานได้มากกว่า เพราะใช้อินเตอร์เน็ตได้เป็นโทรศัพท์ก็ได้ แถมยังโหลดแอพพลิเคชั่นมาศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมได้อีกแบบที่เขาเรียกว่าเป็น multifunctional purpose นักเขียนสาวเปลี่ยนใจ รีบขอโทษพนักงานขาย เดินตรงไปที่มุมหนังสือ

ความสุขประการหนึ่งของคนเขียนหนังสือคือ การที่ผู้อ่านเพลิดเพลินและชื่นชอบผลงานของตนเช่นเดียวกับไหมเงินที่เธอมักจะแอบมาเช็คเรทติ้งของตนเอง ที่ร้านหนังสือบ่อยๆผลงานที่ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มนับสิบๆเรื่องที่อยู่บนชั้นรอคอยให้เนื้อคู่มาหยิบจับเป็นเจ้าของ หรืออย่างน้อยที่สุดก็มีผู้สนใจหยิบเปิดอ่านแม้เพียงหน้าเธอก็เป็นสุขที่สุดแล้ว

นักเขียนสาวยืนอยู่ที่มุมหนึ่งทำทีเป็นหยิบโน่นจับนี่ คอยสังเกตการณ์ไปเรื่อย หล่อนยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมีนักอ่านเวียนวนเข้าหยิบจับหนังสือของเธออยู่ตลอด ก็งานเขียนของเธอมันระดับเบสต์เซลเลอร์แม้ว่าจะมีนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับซ่อนเงื่อนวางเรียงกันเป็นร้อยๆเรื่องทั้งนิยายแปลจากต่างประเทศก็เยอะมาก แต่ชื่อของ ไหมเงิน ก็ขึ้นแท่นติดทำเนียบในหมวดหมู่นี้ ตลอดกาล ไหมเงินทำท่าจะเดินออกไปอีกช่องหนึ่งแต่ก็มีเสียงเรียกทัก

“เดี๋ยวค่ะ คุณไหมเงินใช่หรือเปล่าคะ”นักเขียนสาวหันหลังกลับมายิ้มสวยให้คนตรงหน้า ก่อนจะตอบกลับไป

“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”เมื่อเห็นว่าเป็นคนแปลกหน้าทักทาย เธอก็ถามตามมารยาท

“ช่วยกรุณารออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวดิฉันจะไปชำระเงินก่อน” หญิงสาววัยไล่เลี่ยกับนักเขียนมีชื่อพูดขอร้องเธอคว้าหนังสือของไหมเงินมาสามเล่มจากชั้น ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งหายลับไปไหมเงินก็เข้าใจได้ทันทีว่าฉากต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นร่างบางเดินตามไปที่แคชเชียร์ชำระเงิน ทันทีที่พนักงานห่อปกให้เสร็จลูกค้าสาวก็รับหนังสือมา ยื่นให้ไหมเงินที่รู้งานยืนยิ้มละไมรออยู่ข้างๆทันที

“คุณไหมเงินช่วยเซ็นต์ชื่อให้ตรงปกในด้วยนะคะดิฉันจะเอาไปอวดเพื่อน” นักเขียนมีชื่อรับหนังสือมาวางที่เคาน์เตอร์หยิบปากกาหรูจากกระเป๋า บรรจงตวัดเซ็นต์อย่างสวยงามก่อนจะยิ้มหวานและส่งคืนให้ลูกค้าที่น่ารักน่ากอด

“ขอบคุณค่ะ ดีใจจังเลยที่วันนี้เจอตัวเป็นๆคุณไหมรู้หรือเปล่าคะว่าดิฉันเป็นแฟนตัวยงเลยนะคะ งานหนังสือฯคราวที่แล้วก็ไปแต่ว่าเข้าถึงตัวคุณยากมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าตัวจริงจะสวยเข้มคมเฉี่ยวแบบนี้” นักอ่านสาวกล่าวชมก็ใครจะไปคิดว่าคนที่เขียนเรื่องลึกลับได้ถึงแก่น ใบหน้าที่แท้จะแสนหวานออกปานนี้

“พี่ก็ชมเกินไป จนไหมจะลอยอยู่แล้วนะคะ” ไหมเงินสุดปลาบปลื้มสาวแฟนคลับคนนั้นก็โบกมือลาเดินกอดหนังสือออกไปนักเขียนสาวถือโอกาสถามหาหมวดหนังสือกับพนักงาน

“น้องคะ ไม่ทราบว่า เอ่อ..หมวดหนังสือนิยายยูริอยู่ตรงไหนคะ พี่เดินหาตั้งนานไม่เจอเลย” คนถูกถามมองหน้างงงวยหันไปถามกับเพื่อนแคชเชียร์ข้างๆก็ไม่เข้าใจอยู่ดีไหมเงินจึงต้องให้คำขยายความเพิ่มเติม

“นิยายผู้หญิงรักผู้หญิงเอ่อ...นิยายเลสเบี้ยนน่ะค่ะ” นักเขียนสาวพูดออกไปด้วยความกระดากอาย ‘เกิดน้องๆเขาพาลคิดไปว่าเราเป็นเลสล่ะก็งามหน้าเลยไหมเงิน’

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ขวัญข้าวถือตะกร้า จะเดินมาชำระเงินเข้าพอดีสาวผมยุ่งยิ้มบางๆ ยกตะกร้ามาวางที่เคาน์เตอร์และบอกกับคนตรงหน้า

“พี่ไหม เดี๋ยวหนูพาไป”สองพนักงานแคชเชียร์ยิ้มเป็นนัยคิดไปไกล เอาสินค้าใส่ถุงและยื่นเงินทอนให้ขวัญข้าวคืนเงินทอนให้ผู้อุปการะ ก่อนจะเดินลิ่วๆนำหน้าไป นักเขียนสาวไม่กล้าหันไปสบสายตาคิดไปเสียว่าคราวหน้าเธอจะกล้ามาที่นี่อีกมั้ยเนี่ย

พอคล้อยหลังนักเขียนสาวสองแคชเชียร์ก็หันมาซุบซิบกัน

“ดูสิเธอที่แท้คุณไหมเงินนี่ก็เป็น...ไม้ป่าเดียวกัน คริๆ”

“เลี้ยงต้อยด้วยสิไม่ว่า ดู๊ดูแม่สาวน้อยปากนิดจมูกหน่อยคนนั้นสิ ยังกะดาราเกาหลีเลยอ่ะผิดตรงที่ผิวเข้มไปเท่านั้น”

“อย่างกะตัวผิวขาวงั้นหล่ะ ไปว่าเค้า”

“ใครว่า ผิวเข้าไม่ได้หมายถึงดำคล้ำเสียหน่อยผิวแบบนี้สิไทยสไตล์” สองพนักงานสาวต้องหยุดการเม้าลงเมื่อซุปเปอร์ไวเซอร์เดินมาตรวจงานพอดิบพอดี

ขวัญข้าวเดินตรงมา ณ มุมนิยายโรมานซ์ ชี้มือไปที่ชั้นล่างสุดก่อนจะนั่งลงกวาดสายตาดูคร่าวๆ และหยิบหนังสือสามสี่เล่มมาให้พี่สาวไหมเงินรับมายังไม่ทันจะพลิกอ่านหรือกระทั่งดูหน้าปกเสียด้วยซ้ำเจ้าตัวก็เอ่ยถามกับสาวรุ่นที่รู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าเธอเสียอีก

“มีแค่เนี๊ยะ?”

“ค่ะ พี่ไหมก็รู้มันเป็นนิยายทางเลือกเฉพาะกลุ่มมากๆ พวกนักเขียนแนวนี้เป็นอินดี้เสียก็เยอะมีสำนักพิมพ์ไม่กี่แห่งที่เปิดรับ ร้านที่เอามาขายก็เลยน้อยลงไปด้วยค่ะ”ขวัญข้าวอธิบายฉอดๆ เล่นเอาผู้ใหญ่เป็นงง มึนตึ๊บ

“แล้วคุณบอสจะให้พี่มาเปิดตลาด? บ้าเปล่า”

“หนูว่าคุณคมเดชน์สุดยอดมากกว่าค่ะ พี่ไหมลองนึกสิคะว่าระดับพี่ไหมมาเขียนให้ ตามแผงตามชั้นหนังสือจะคึกคักแค่ไหน”นักเขียนสาวยิ่งฉงนใจมากขึ้น ตกลงยัยผมยุ่งนี่มีหัวการค้าตั้งแต่เมื่อไหร่รู้มากรู้ดีเหลือเกินนะหล่อน

“ไม่ต้องมายอเลย ไปๆเอาไปจ่ายตังให้พี่ด้วยเจอกันที่พาวเวอร์บายเลยนะ” ไหมเงินยื่นหนังสือคืนกลับไปพร้อมแบงค์พันสองใบ‘ใครจะกล้าถือหนังสือแบบนี้ไปสู้หน้าแม่สองแคชเชียร์นั่นป่านนี้คงเม้าเราเสียยับแล้ว’

“อ้าว ไมไม่ไปด้วยกันเล่าคะ แปบเดียวก็เสร็จแล้วนี่ๆ อย่าบอกนะคะว่าไม่กล้า ฮิฮิ อีกอย่างแล้วหนูจะรู้จักได้ไง พาวอะไรนั่น” ใช่สิ ยัยเฉิ่มเบ๊อะจะรู้จักก็แปลกแต่กระนั้นไหมเงินก็หาเรื่องเฉไฉไม่แวะเวียนไปที่หน้าเคาน์เตอร์ได้อยู่ดี

“เอาๆ ไม่ต้องมาถามให้มากความ ไปๆงั้นพี่จะรอหน้าบันไดเลื่อนแล้วกัน”

ขวัญข้าวทนฟังคนตรงหน้าคะยั้นคะยอไม่ไหวขืนเถียงเข้าอีกคำสองคำคงได้ปรี๊ดแตก แต่ก็ไม่วายแขวะเข้าให้ตามสไตล์

“ไม่ได้ซื้อหนังสือโป๊เสียหน่อยไม่ผิดกฎหมายทำไมต้องอายด้วย แปลกคน??” ไม่รอให้พี่สาวต่อคำสาวรุ่นรีบเดินไปหลังจากจ่ายเงิน นักเขียนสาวก็พาขวัญข้าวมาที่พาวเวอร์บาย

“โอ้โห! เขามาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ากันที่นี่เองหรือคะอย่าให้หนูมีตังค์เชียว จะเหมามันหมดแผนกเลย” ขวัญข้าวร้องอุทานออกมาทันทีที่บันไดเลื่อนพาสองสาวขึ้นมายังแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าไหมเงินอมยิ้มที่สาวรุ่นตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นไปเสียทุกเรื่อง

“อยากมีตังค์ก็ต้องรู้จักวิธีหาวิธีเก็บแต่ก็ต้องเป็นวิธีที่ถูกด้วย” ไหมเงินถือโอกาสอบรม หล่อนฝังใจไปว่าแม่ผมยุ่งน่าจะมีประวัติเกี่ยวพันกับวิธีการเหล่านั้นไม่มากก็น้อยผู้อุปการะพาขวัญข้าวมาดูที่บู๊ทแท็บเลต สาวผมยุ่งเท่าทันรีบออกปาก

“พี่ไหม...ไม่เอาแล้วนะคะเท่านี้ก็มากเกินมากแล้ว”

“ไม่มากหรอกกับการสร้างคนหนึ่งคนให้มีคุณภาพ” ไหมเงินตอบแบบไม่คิดมาก เรียกพนักงานขายมาอธิบายสิ่งที่ต้องการ

“พี่ไหม...” สาวรุ่นซาบซึ้งใจนอกจากพี่สาวจะให้ชีวิตใหม่กับเธอแล้วยังจะพยายามปลุกปั้นเคี่ยวเข็นคนไม่เอาถ่านอย่างเราอีก ขวัญข้าวน้ำตารื่นไหมเงินเห็นท่าไม่ดีเพราะเธอเองก็ใจหวิวๆชอบกลเหมือนกัน รีบตะคอกเสียงดังตัดไฟแต่ต้นลม

“นี่ อย่ามาเจ้าน้ำตาเอาแถวนี้นะ อายเค้าซะบ้าง เอ่อ...น้องคะพี่อยากได้แทบเล็ตที่โทรศัพท์ได้ด้วย จะเป็นแอนดรอยด์หรือวินโดวส์ก็ได้ค่ะหน้าจอสักเจ็ดนิ้ว ช่วยพี่เลือกหน่อยนะคะ” เมื่อได้ตามสเปกที่ต้องการและจัดแจงชำระเงินเสร็จสรรพเธอก็พาสาวรุ่นไปที่ร้านมือถือชั้นล่าง เลือกซื้อ เคสกันกระแทกอุปกรณ์เสริมและให้ร้านรับลงแอพฯ จัดการลงสิ่งที่จำเป็นไว้พร้อมใช้งาน

เมื่อกลับมาถึงคอนโด ไหมเงินก็แยกตัวไปทำงานทันทีไลน์บอกน้องนุชว่าให้กลับเองจะไม่ไปรับ ส่วนขวัญข้าวก็จิ้มๆอยู่ที่หน้าจอของเล่นชิ้นใหม่ ลองนู่นนี่ เปิดคู่มืออ่านประกอบบ้างเข้าเวบไซต์ดูวิธีใช้งานบ้างไปตามเรื่อง นักเขียนสาวก็หันมาดูเป็นระยะๆยิ้มภูมิใจตัวเองและสาวน้อย นี่สินะที่เรียกว่าใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์

“ขวัญ ขอกาแฟให้พี่แก้วสิ”ไหมเงินนั่งเคาะแป้นพิมพ์อย่างมีความสุข ปากก็ร้องเรียกขอกาแฟจากสาวรุ่น

‘นริศรามาใส่บาตรพระสงฆ์ที่ตลาดหน้าร้านข้าวแกงที่พระสงฆ์สามรูป ยืนรอคนที่จะมาซื้อกับข้าวแล้วใส่บาตรทันทีเช่นเดียวกันกับจารชนสาว โลกมันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วแม้จะรู้ดีว่ามันค่อนข้างจะสำเร็จรูปไปนิด กับการทำบุญลักษณะนี้ชีวิตคนเมืองที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย แค่จะกินนอนยังแทบไม่มีเวลา ไหนเลยจะทำกับข้าวใส่บาตรเองหลังจากรับพรพระ ผู้กองสาวก็กำลังจะเดินกลับไปที่สน. ระหว่างนั้นเอง....’

น้องนุชกลับมาเอาค่ำมืดสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีจะเรียกว่าไม่อยากสู้เลยก็ไม่ผิดเพี้ยนแต่เธอก็ไม่อยากจะเอาปัญหามาให้กับญาติสาวเพิ่มเสียอีก เมื่อเห็นขวัญนั่งๆนอนๆใช้งานเจ้าแทบเล็ตอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าไหมเงินใจป้ำทุ่มทุนสร้างเข้าอีกแล้วแต่เธอก็ไม่อยู่ในอารมณ์จะแซวอะไร ระหว่างที่เก็บข้าวของเตรียมจะลงมือทำงานสาวผมยุ่งก็ย่องเข้ามาสะกิด พูดเสียงอ่อยๆ

“พี่นุช ช่วยหนูหน่อยสิคะ”

“หือ?” สาวรุ่นยื่นแท็บเล็ตให้ดูหน้าจอมันค้างอยู่ที่รายการ แอพพลิเคชั่นฝึกภาษาหลายแอพฯนักเขียนบทสาวเข้าใจในความต้องการของผู้ขอความช่วยเหลือ สาวน้อยคงเลือกไม่ถูกเธอหยิบขึ้นมากดนู่นนี่สักราวสองนาทีก็ส่งกลับคืน ยิ้มสวยให้ครั้งหนึ่ง

“แอพฯนี้ดี มีออกเสียงให้เราฝึกพูดตาม ลองเล่นดูก่อนนะใช้ไม่ยากหรอกพอดีพี่ไม่ว่างจะสอนเลย” ขวัญรับคืนกลับมา ยกมือไหว้ขอบคุณเธอเสียบหูฟัง หยิบปากกาและสมุดเล่มน่ารักที่เพิ่งซื้อมามาจดตาม ปากก็ฝึกพูดญาติสนิททั้งสองก็ละสายตาจากงานของตนจดจ้องไปที่กิริยาอาการของสาวผมยุ่งหันมายิ้มให้กันอย่างพึงใจ

‘จารชนสาว ส่งคืนกระเป๋าสตางค์ให้สาวน้อยผมยาวหน้าใสบนรอยยิ้มจางเก๋ไก๋ที่ใบหน้า...’ ไหมเงินเริ่มพิมพ์บทที่สองมันเป็นฉากที่ตัวนางทั้งสองเจอกันครั้งแรกหลังจากที่ช่วยไล่ตามเอากระเป๋าจากคนร้ายกลับมาคืนคนโดนฉกชิงวิ่งราวในความต้องการของเธอ อยากจะเขียนให้คนได้รับกระเป๋าคืนประทับใจและตกหลุมรักสาวเท่ตั้งแต่ครั้งแรกแต่เธอจินตานาการไม่ออก บรรยายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้...




Create Date : 18 มิถุนายน 2558
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 7:42:58 น. 0 comments
Counter : 661 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.