ใบไม้และก้อนหิน
เอ่อ..หมายถึงว่ามันน่าจะสนุกหากเจ้าถิ่นอย่างเธอนำทางไปไงเล่าปิ่นปัทม์แก้ตัวไปส่งๆ เราจะออกกันสายๆหน่อยสักสิบโมงค่ะ หาเรื่องอู้สิเดี๋ยวฉันคิดค่าตัวแค่ครึ่งวันหรอก ปิ่นปัทม์ชักสีหน้าทั้งแค่นเสียงข่มขู่ไม่ลืมยื่นเงินค่าจ้างเมื่อวานให้ตามข้อตกลง ริโกะยกมือประนมฉีกยิ้มเห็นฟันกระต่าย ปลื้มปริ่มกับน้ำพักน้ำแรงสุจริต ไปเช้าก็เบียดเสียดยัดทะนานกับคนทำงานในรถไฟคุณชอบเหรอคะ อีกอย่างร้านรวงเขาไม่เปิดกันเช้านัก เครๆ..ตามนั้นเมื่อคุยกันคนละภาษาปิ่นปัทม์จึงไม่เห็นประโยชน์อันใด จ้างแม่นี่มาแล้วหากไม่เชื่อน้ำยาก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่ไว้วางใจตนเอง ริโกะนำทางนายจ้างคนสวยมาถึงตลาดอะเมโยโกะ(Ameyoko)เป็นสุดยอดสถานที่ยอดนิยมของคนไทยหากไม่มาก็พลาดมหันต์ไม่นับว่าถึงโตเกียว มีหลายซอยกินอาณาบริเวณกว้างขวางที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นซอยใหญ่สองซอยขนานกันมีของขายสัพเพเหระตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันอะไหล่เครื่องบินบรรยากาศคลับคล้ายคลับคลาตลาดนัดสวนจตุจักรของกรุงเทพฯ ผิดแผกกันที่ร้านรวงดูสะอาดตาไม่ระเกะระกะ เมื่อก่อนบริเวณนี้เป็นแหล่งขายขนมและลูกกวาดค่ะภาษาญี่ปุ่นเรียกร้านรวงพวกนี้ว่า อะเมโยโกะก็เลยเรียกติดปากกันมาเรื่อยปิ่นปัทม์นึกภาพออก ก็เหมือนสำเพ็งที่เมืองไทย เมื่อก่อนขายไม่กี่อย่างเดี๋ยวนี้สารพัดจะขาย ก่อนอื่นฉันหิวแล้วปิ่นปัทม์เอามือลูบท้อง ไกด์สาวก็รู้สึกไม่ต่างกันคราวนี้เธอขอใช้เอกสิทธิ์นำทางโดยไม่มีการถาม มั่นใจเต็มพิกัดชนิดที่หากไม่ประทับใจยินดีไม่รับค่าจ้างเลยเชียวสองสาวมาหยุดที่ร้านอาหารหนึ่งมีรูปข้าวสารพัดหน้าให้เลือกสรรมีข้าวหน้าปลาดิบและไม่ดิบ ต่อมเรื่องเยอะของปิ่นปัทม์ไม่ทำงานเพราะเธอชอบใจมากตั้งแต่มาย่ำแดนซากุระยังไม่ได้ลิ้มลองเลย จังหวะที่จะเดินเข้าร้านท้องเรื่องที่ดำเนินมาเอื่อยๆจะถูกเพิ่มจังหวะจะโคนก็คราวนี้ ภัยคุกคามกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเมื่ออิโอริเพื่อนสุดแสบของริโกะเห็นหลังสาวฟันกระต่ายอยู่ไวๆเท่านั้นก็เป็นเรื่อง สาวใจแตกยกหูโทรบอกสองชายโฉดทันที ช่วยไม่ได้นะริโกะ เพราะฉันเองก็โดนหางเลขไอ้บ้าสองตัวนั่นขมขู่อยู่หนักเหมือนกันอิโอริเพียงปัดความรับผิดให้ไปตกแก่จำเลย กันตนเองออกมาในฐานะผู้เคราะห์ร้าย... นี่มันมหาวิทยาลัยนิจะพาฉันมาสมัครเรียนเหรอหรือว่ามาเก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะหรือว่าสร้างภาพมามอบทุนการศึกษาสุพรรษาซักไซ้เดาสุ่มไปเรื่อยทันทีที่รถเปิดประทุนเลี้ยวมาจอดหน้ามหาวิทยาลัยโตเกียวที่อื่นน่าเที่ยวชมมีล้านแปด เลือกมาสถานศึกษานี่นะ เมื่อเช้าน่ะแค่ออร์เดิร์ฟ ตอนนี้คือ maindish เมงุมิชี้ทางสว่าง แสดงว่าที่นี่มีแปะก๊วยเหมือนกัน เป็นต้นไม้ประจำของมอเลยเราเรียกที่นี่ว่า โทได ย่อมาจาก โทเกียวไดงะกุเกริ่นนำพอให้เป็นลำนำประกอบ เมงุมิไม่อ้อยอิ่งเธอจูงมือสาวไทยเดินมายังพิกัดที่ดีที่สุดในการชมเจ้าใบแปะก๊วยเปลี่ยนสี ณ บริเวณทางเดินไปหอนาฬิกา ถนนเส้นนี้จะปลูกต้นแปะก๊วยรายทางตลอดทั้งสองฝั่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง คือใบไม้จะนัดแนะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองกาญจนาพร้อมกันมลังเมลืองไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยใบที่ร่วงลงสู่พื้นยังเป็น prop ชั้นเลิศเพริดแพร้วปกคลุมพื้นถนนจำแลงเป็นลำธารสีทองจากความสวยงามตระการตาเบื้องหน้าตัดกับสถาปัตยกรรมตะวันตกของรูปทรงอาคารเรียนเบื้องหลัง สุพรรษารู้สึกประหนึ่งว่าเธอคือAlice in wonderland ก็มิปาน เมงุมิเธอเก่งจังรู้จักที่แบบนี้ด้วย ชมเกินไปแล้ว เมงุมิเนือยๆไม่ยินดีกับคำป้อยอสุพรรษาจึงแจกค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ 'เชอะ! แม่เสือยิ้มยาก เก๊กชงค์ให้ได้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน' อย่าฟอร์มจัดนักเลยหัดรับๆไว้บ้างก็ได้ ใจคอจะรับแต่เงินหรือไง สุพรรษาโพล่งออกมาไม่ทันยั้งคิดเมื่อคิดได้จึงโมโหตัวเอง บรรยากาศดีๆกลับทำลายเสียอย่างนั้นยากูซ่าสาวยังอยู่ในอาการเดิม เธอมันหน้าเดียวอยู่แล้วเดินเชิดมานั่งลงที่เก้าอี้ใต้ต้นแปะก๊วยยกขาขึ้นไขว่ห้าง จุ๊ยสิ้นดี!! สุพรรษาบ่นกะปอดกะแปดภายใน เดินฉากออกมาไม่อยากเสียอารมณ์ บริเวณใกล้กันพ่อแม่วัยหนุ่มสาวหลายคู่จูงลูกน้อยวัยกำลังหัดเดินมากระเตาะกระแตะบ้างก็นั่งอยู่ในรถเข็นวัยกลางคนขึ้นมาหน่อยกลับจูงน้องหมาชิวาว่าเดินพาเหรดอวดโฉมคอตั้งราวกับหนูๆสี่ขาเป็นเซเลบบนแคทวอล์ค ธรรมชาติของเขาล่ะ หยิ่งๆ เชิดๆ อ้อนแต่เจ้านาย ถัดออกไปวัยคุณลุงคุณป้าจับจองหามุมเหมาะเพื่อวาดรูป ขนอุปกรณ์มากันครบตั้งแต่แผ่นรองวาดขาตั้ง เก้าอี้พับ ดินสอ พู่กัน สีน้ำ พำนักพักแรมในญี่ปุ่นมาสองสามวันมโนสำนึกบอกได้ทันทีว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีศิลปะในหัวใจ ไม่เว้นแม้แต่ยัยยากูซ่านี่ด้วยสถานที่สวยๆ บรรยากาศโรแมนซ์ เกือบทุกแห่งหนจะมีคนมาหามุม ไม่วาดภาพก็เป็นตากล้องสุพรรษามองกลับไปที่เมงุมิ ในมุมมองของศิลปิน ทุกmoment& movement ของผู้คนล้วนมีความงามในตัวเอง คิดดังนั้นจึงคันไม้คันมือดูซิว่าฝีมือบวกมุมมองทางศิลป์ของเธอจะยังใช้การได้ดีอยู่ไหมหรือว่าสนิมจับกรังมือแข็งเสียแล้ว สาวสวยร้องถามน้องนักศึกษาคนหนึ่งที่เดินผ่านมา ที่นี่มีร้านเครื่องเขียนไหมคะไม่ตอบแต่น้องน้อยกลับเดินพาไปเสียเลยน้ำใจหาได้ทุกหนทุกแห่งในดินแดนอาทิตย์อุทัยจริงๆสุพรรษาหันมาบอกกับยากูซ่าหน้าหยก รอที่นี่นะประเดี๋ยวฉันกลับมา เช่นเคยที่สาวเจ้านิ่งเป็นปฏิกิริยาตอบกลับสุพรรษาจ้ำฝีเท้าตามติดผู้อารีไปเพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมกับอุปกรณ์วาดเขียนสีน้ำครบชุดประกอบด้วย สีเป็นหลอดกระดาษวาดเขียน 200 แกรม พู่กัน 4 เบอร์คือ0,4,6,10 5 อัน จานสี ขวดน้ำ ที่รองวาด สีไม้ระบายน้ำเพื่อแต่งรายละเอียดและที่ขาดไม่ได้ คืออาวุธหลัก ดินสอวาดเขียน สุพรรษาไม่ต้องหามุมเพราะเล็งเหมาะเหม็งไว้แล้วก่อนหน้านั่งลงที่พื้น ปรับโหมดทำจิตให้ผ่องแผ้วพิสุทธิ์ งานศิลป์ขึ้นอยู่กับอารมณ์เป็นเอกหากแม้นจิตเจือด้วยความขุ่นข้องเพียงน้อยภาพที่ออกมาก็ขมุกขมัวตาม 'คอยดูเถอะแม่จะทำให้ยิ้มไม่หุบเทียว'เธอเริ่มต้นตวัดมือลงสายลายเส้นด้วยดินสอแบบสดๆ จะเป็นภาพอะไรไปได้ก็ยากูซ่าสาวที่นั่งไขว่ห้างสวยเริ่ด เชิด หยิ่งอยู่ที่เก้าอี้ใต้ต้นแปะก๊วยนั่นไง ตามด้วยละเลงสี ราวครึ่งชั่วโมงหย่อนมาหน่อยก็เสร็จสุพรรษานั่งอมยิ้มภาคภูมิกับผลงานเพียงครู่ ลุกและรุดไปหายากูซ่าสาว ไปกันเถอะนั่งจนตัวแข็งแล้ว ก็ถ้าวาดดิฉันนานกว่านี้อีกสักห้านาทีได้แข็งจริงๆแน่ เธอรู้? จิตรกรคนสวยตีมึนถามไปอย่างนั้น โฉ่งฉ่างเสียขนาดนี้ไม่รู้สิแปลก แหงสิคุณเล่นขนอุปกรณ์มาเสียครบสูตร กระดาษวาดเขียนในมือถูกส่งต่อให้คนในภาพวาด ฉันให้เธอ เมงุมิสาวผู้จมอยู่ในโลกสีเทารับมา กางออกดู มันเป็นภาพตัวการ์ตูนน่ารักน่าชังล้อเธอภายใต้ใต้ต้นแปะก๊วยอร่ามอำพันแม้จะดูเหงาเดียวดายแต่เส้นสายสีสันกลับกลบมันได้มิดรอยยิ้มที่คาดหวังผุดผาดเต็มใบหน้าคมคายเป็นครั้งแรกที่เมงุมิผู้เย็นชาแสดงออกทางอารมณ์อย่างแจ่มชัดสุพรรษายิ้มปลาบปลื้มตาม เธออยากเห็นมันบ่อยๆ คนสวยยิ้มโลกมันน่าอยู่ขึ้นเยอะ ขอบใจคุณมากนะอะเมะเหมือนอยู่ในยุโรปเลยเนอะ เคยไปเหรอ ไม่เคยหรอก แต่ถ้าคิด ดิฉันจะไปกับคุณอะเมะ Christmas นี้เลยดีไหมสุพรรษาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยอกย้อนแบบไทยๆทุยๆ Christmas comes every year but if you want to kissme , I'll be here all year and everyday : Christmas มีทุกปีแต่ถ้าจะให้จะ คิสมีได้ตลอดปีและทุกวัน ได้ผลเมงุมิขำท้องคัดท้องแข็งแต่เป็นเพียงพักเดียวหน้าสวยๆปรับโหมดเข้าสู่สภาวะจริงจังอีกครั้ง ดิฉันพูดจริงๆนะ ทะ..ทำไมสุพรรษาไม่อยากจะคาดหวังกับคำตอบ สมการแห่งความสมหวังคืออย่างน้อยที่สุดสิ่งที่คาดต้องมากกว่าหรือเท่ากับสิ่งตอบรับ ไม่รู้สิ รู้แค่นั้นคุณเป็นสิ่งเดียวในโลกก็ได้ที่ทำให้ดิฉันรู้ว่า ชีวิตนี้ยังมีสิทธิ์ได้เลือกบ้าง ลิ้นลมช่างคมนักสุพรรษาแม้นจะพึงใจในสมการ แต่เมื่อมองใบหน้าคมคายของคู่สนทนาแล้วกลับสะท้อนใจ หากมันลำบากและทุกข์สาหัสกับการเป็น อยู่ คือ ยากูซ่าไฉนเลยแม่สาวหน้านิ่งไม่คิดขยับเขยื้อนลุกขึ้นมาทำอะไรกับชีวิตบ้าง เมงุมิก้มลงหยิบใบแปะก๊วยที่ร่วงหล่นมาไว้ในกำมือ พิจารณามันอย่างปลดปลงนัยน์ตาคมแฝงรอยโศกเด่นชัด ดูท่าเธอจะเป็นคนเครียดนะ เมงุมิสุพรรษาพยายามทำให้เรื่องดูเบา เพียงได้แค่ประคับประคอง การปลอบใช่จะทำเป็นพลันแลเห็นก้อนหินใหญ่เล็กกองอยู่ที่พื้น ปรัชญาพุทธถูกหยิบยกมาใช้ได้ทันการ อึ๊บ... สุพรรษาลงทุนเวอร์วังด้วยการเลือกยกเจ้าหินก้อนที่ใหญ่ที่สุดมันหนักอึ้งจริงๆจนมือและแขนสั่น ดวงหน้าเหยเก ทำอะไรของคุณ โชว์พาวเหรอยากูซ่าสาวไม่เข้าใจที่จู่ๆสาวไทยหาเรื่องเหนื่อยใส่ตัว หินก้อนนี้ถือเอาไว้นานๆก็เมื่อยและหนัก นี่คือทุกข์ แล้วเธอถือไว้ตั้งกี่ก้อนปล่อยและวางมันเสียบ้าง สาวไทยเฉลยความ เมงุมิหักล้างตามที่เธอเข้าใจ ก็แค่ผ่อนผลัดให้มันเผชิญช้าลงเท่านั้นดอกก้อนหินไม่ได้หายไป นานวันกองสุมเป็นภูเขาเลากาทลายลงมามิบาดเจ็บหนักกว่าเพียงเหนื่อยหรือ สุพรรษายอมความ เธอมิอาจล่วงรู้ว่าชีวิตของยากูซ่ามันจะมีมุมลำบากทุกข์ยากตรงไหนและเท่าใดบ้าง จริงของเธอ
อยากระบายอะไรไหม ตอนนี้ยังอ่ะไปกันเถอะได้เวลาทำงานแล้ว สาวทะมัดทะแมงลุกขึ้นยืนจัดผ้าพันคอของสุพรรษาให้เรียบร้อยก่อนจะจูงมือเดินออกจากมหาวิทยาลัยสาวไทยรู้สึกให้ว่าร่างข้างๆเปรียบประดุจกำแพงสูงตระหง่านแกร่งหนาราวภูผาแกรนิตที่เธอมิอาจพังมันลงไปได้เลย... ที่ตลาดอะเมโยโกะปิ่นปัทม์ยังเพลิดเพลินจำเริญตากับการเทียวเข้าเทียวออกตามร้านรวงต่างๆโดยเฉพาะที่ร้านรองเท้านับสิบๆร้าน ในห้วงที่เลือกคู่แต่ยังไม่ถูกจริตเธอลอบเห็นไกด์สาวหยิบๆจับๆรองเท้าผ้าใบNike สีชมพูสุดแหววขาช็อปรู้แจ้งแทงทะลุ แม่ดอกมะลิคงอยากได้เต็มประดา แต่ติดขัดต้องประหยัดล่ะสิปิ่นปัทม์ชื่นชมในใจ ริโกะเพิ่งได้เงินจากเธอมาเมื่อเช้าแต่รู้จักยับยั้งชั่งใจเป็นเธอเงินคงปลิวและหิ้วรองเท้ามาแทน ที่ญี่ปุ่นนี่รองเท้ายี่ห้อไหนดังบ้างปิ่นปัทม์กระแซะเข้ามาใกล้ แสร้งถาม อะไรที่ made in U.S.A. มักจะ popular ค่ะแต่เว้นไว้อย่างคือ Rolex ละไว้ในฐานที่เข้าใจ นาฬิกาแบรนด์นี้เขา popular ทั่วทั้งโลก แล้วไนกี้นี่ล่ะประเด็นเริ่มถูกขีดวง อันที่จริงบัณฑิตคณะบริหารธุรกิจอย่างเธอช่ำชองเรื่องแบรนด์เป็นทุนอยู่ก่อนแล้วอาจารย์ที่คณะฯเคย lecture ให้ปิ่นปัทม์ฟังว่า แบรนด์ Nikeมีที่มาจาก เทพีไนกี้ในเทพปกรณัมกรีกร่างเป็นหญิงงดงามมีปีกนับถือกันว่าเป็นเทพแห่งชัยชนะ ปีกของเทพีไนกี้เป็นสัญลักษณ์อันแสดงถึงชัยชนะที่ว่องไวปราดเปรียว โลโก้ที่เป็นรูปโค้งยาวคล้ายเครื่องหมายถูกของรองเท้าNike ก็สื่อถึงปีกของเทพีไนกี้นั่นเองนอกจากนี้แล้ว ไนกี้ยังเป็นเทพีที่เป็นสัญลักษณ์อยู่บนกระโปรงหน้ารถยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ รถหรูระดับ hi-end อีกด้วย ก็ดังอันดับต้นๆค่ะ สูสีกับ Adidasส่วนแบรนด์ท้องถิ่นก็ Onitsuka มาวินค่ะ ริโกะแจงตามที่รู้ ก่อนจะเดินออกจากร้านเหมือนจะทิ้งเยื่อใยให้กับรองเท้าที่หมายตาคล้องใจคู่นั้น ปิ่นปัทม์ไม่ได้เดินตามเธอคว้ารองเท้าคู่นั้นมาไว้ในครอบครอง ชำระเงินเสร็จสรรพกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไกด์สาวมา นี่..แม่ดอกมะลิจะเดินเหินหัดมองคนที่มาด้วยกันบ้างสิ ฉันหลงไปจะทำยังไงปิ่นปัทม์โวยวายพอเป็นพิธี ยื่นถุงรองเท้าให้สาวฟันกระต่ายตีความไปว่าต้องการให้ช่วยถือ ซึ่งมันเป็นหน้าที่โดยตรงของเธอริโกะรับมาและเดินงุดๆไป ปิ่นปัทม์ชักไม่สนุก เธอต้องการ action ที่เปี่ยมไปด้วย passion ยัยทึ่ม!!..ฉันซื้อให้เธอนะเปลี่ยนมันเดี๋ยวนี้ ริโกะฟังพอจะเข้าใจ แต่ยังสงวนท่าที ยืนหน้าเป๋อๆเป้ยๆแถวกรุงเทพฯเรียกว่าอิดออดนั่นแหล่ะ ฉันไม่หักจากค่าจ้างหรอกน่า เปลี่ยนซะคนเจ้ากี้เจ้าการกุลีกุจอแกะกล่องรองเท้าออก บ้าเห่อแทนคนได้รับความสุขและสนุกของการจับจ่ายคือตอนนี้เอง ขอบคุณค่ะริโกะจนทางปฏิเสธเพราะรู้ว่านายจ้างที่จิตเต็มไปด้วยความอยากเอาชนะในความรู้สึกของคุณเขาก็แค่ฟาดเศษเงินแกล้งเธอเท่านั้นแต่ปฏิภาคกลับจากมุมมองของสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งการซื้อรองเท้าให้กันมันมีความหมายลึกซึ้งมาก ชาวญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเดินเยอะการซื้อรองเท้าให้ใครสักคนจึงต้องมีความสัมพันธ์พิเศษมากกว่านั้นในระดับชั้นลึกที่สุดคือหมายความว่า 'ฉันจะมีเธอเคียงข้างร่วมทางตลอดไป' เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็น.. อะไรคะ? ริโกะเอียงคอรอฟังระทึกคึกโครมภายใน ลุ้นแบบหวาดเสียว คุณเขาเคยน้อยเคยง่ายไหมเล่า ยังนึกไม่ออกสิ แปะไว้ก่อนเนอะปิ่นปัทม์ส่งสายตาที่ริโกะไม่อาจไว้วางใจได้เลย ไกด์สาวจำต้องท้วงหนักๆ คุณติดฉันเป็นเรื่องที่สองแล้วนะคะ ไว้เรื่องที่สามจะบอกทั้งหมด.. เครป่ะ สาวไทยยังหาเรื่องพลิ้วไหวไปได้เรื่อยๆ ทำไมทุกอย่างต้องลงที่สามล่ะคะริโกะก้มลงนั่งเปลี่ยนรองเท้าตามคำสั่ง ไม่เข้าใจระบบความคิดสักนิดไหนจะเรื่องจ้างเธอด้วยค่าตัวแสนแพงเพียงแค่สองวันแรกที่เจอกัน ไม่บอกชื่อนามทั้งยังซื้อรองเท้าให้ หรือที่เมืองไทยเขาเป็นกันแบบนี้หมดน้อ?? อย่าทำตัวเป็นอัยการซักฟอกซักค้านหน่อยเลยน่าอุ๊ยๆ!! มีร้านเครปด้วย น่ากินจัง ปิ่นปัทม์มาหยุดที่หน้าร้านเครปญี่ปุ่นต้นตำรับเช่นเคยที่มีตู้โชว์โมเดล มีให้เลือกเป็นร้อยหน้า สารพัดสารพัน filling ยั่วกิเลสตัวหนา ตามธรรมเนียมไทยของคาวไปแล้วก็ต้องของหวานล้างคอใจของสาวสวยอยากลองถึงสองแต่ต้องตัดใจ รู้อยู่ว่าที่นี่ให้เยอะวิธีสั่งก็แสนง่ายดายเพียงแค่จำตัวเลข เดินไปที่แคชเชียร์บอกแจ้งออร์เดอร์และชำระเงิน ระหว่างที่รอเครปปิ่นปัทม์สังเกตเห็นสาวแคชเชียร์นางน้อยช่างน่ารักน่าขอไลน์แต่ไม่อาจก้าวข้ามชนะคนข้างๆไปได้หรอก ขนมหวานสัญชาติยุ่นในซองกระดาษถูกยื่นให้ปิ่นปัทม์กินไปมองดูริโกะทีชม้ายชำเลืองมองสาวเสิร์ฟอีกทีหนึ่งที่เคยอนุมานไว้ก่อนหน้าว่าการทำอาชีพที่ดูเหมือนว่าลำบากขาแข็งอาบเหงื่อต่างน้ำมันจะไม่พอเลี้ยงชีพคงไม่จริงนอกจากสองนางตรงนี้ ร้านรวงที่แวะเวียน ผู้สาวญี่ปุ่นวัยประมาณ 20-25 หน้าตาจิ้มลิ้มต่างพาเหรดกันมาเป็นแคชเชียร์หรือพนักงานขาย เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ารายได้คงไม่น้อยแล้ว จิตที่เตลิดทำให้ครีมขาวเลอะเปื้อนแก้มใสไปแบบไม่รู้ตัวริโกะจำต้องร้องทักนายจ้างพิไล คุณคะ คุณ หือ? เครปเลอะหมดแล้วค่ะ ริโกะไม่เพียงพูดเธอเดินไปขอกระดาษทิชชู่เพิ่มจากแคชเชียร์วัยเดียวกัน กลับมายืนข้างๆเช็ดแก้มนวลให้ปิ่นปัทม์แผ่วเบารสชาติเครปว่าฟินแล้ว การกระทำนี้เป็น action ที่เรียก passionกระแทกใจจากเธอเต็มเปา อยากมาเป็นเลขาฉันไหมปิ่นปัทม์ยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิ์การครอบครองอย่างสมบูรณ์น่ารักน่าเย้าแบบนี้ทิ้งไว้แค่การเป็นไกด์และนักท่องเที่ยวไร้สัมพันธ์ที่สานต่อมันเสียดายของ เลขา..ที่เมืองไทยเหรอคะนี่เป็นอีกครั้ง ที่คุณคิดแปลกๆ ริโกะไม่ได้เตรียมคำตอบไว้หากคุณไม่คิดทีเล่นแต่จะเอาจริงๆขึ้นมาเธอจะตัดสิน ใจอย่างไร เลขาหมายถึงการติดตามเจ้านายไปทุกๆที่ไง เรา
เพิ่งรู้จักกันไม่ยังถึงสามวันดีเลยนะคะ จะสามวันหรือสามปีค่ามันก็เท่ากันเพราะฉันเลือกเธอแล้ว ไปกันเถอะหวานมากมันเลี่ยนปิ่นปัทม์ขยำห่อกระดาษทิ้งลงถังลุกเดินไปไม่รอรี ริโกะได้แต่เดินตามนั่นรวมไปถึงการไล่ตามความคิดด้วยลำพังอุปสรรคทางภาษาก็สื่อสารกันเข้าใจยากอยู่ก่อนแล้วนี่ยังจะใช้การเปรียบเปรยให้ต้องขบอีก เฮ้อออ..คุณนะคุณ เดินไปสักพักสองสาวเจอกับร้านขายผลไม้ฝานเป็นชิ้นเสียบไม้ มีสับปะรด เมล่อนเขียวสนนราคาเป็นกันเอง 100 เยนส่วนเมล่อนสีส้มและสตอเบอรี่แพงกว่า อยู่ที่ 200 เยน อยากกินเหรอไกด์สาวพยักหน้ารับแววตาสุกใสราวกับเป็นเด็กน้อยขอฉันทานุมัติจากผู้ปกครองริโกะเคยชินฝังเข้าไปใน DNA เวลาที่อยู่ในงานเธอถูกพร่ำสอนอบรมมาว่าห้าม ทำเรื่องส่วนตัวเด็ดขาดปิ่นปัทม์เองแม้จะจุกแน่นจากเครปแต่บรรดาผลไม้เสียบสีสดมันก็น่าลองเขาว่าเมล่อนญี่ปุ่นคือที่สุดของผลไม้ชนิดหนึ่ง เรื่องนี้ต้องพิสูจน์นักท่องเที่ยวจากแดนสยามจ่ายเงินซื้อมาอย่างละไม้ ยื่นไปแทบจะทิ่มหน้าของริโกะ คือว่า..ฉันทานเองได้ค่ะ อวดดี! ของพะรุงพะรังเต็มมือจะกินยังไงปิ่นปัทม์ตวาดลั่นตรอก ไม่ได้เผลอ ตั้งใจสุดๆเลยล่ะ ทำไมต้องดุด้วย สาวฟันกระต่ายหงอรับประทานเสียงอ่อย ไหล่ห่อคอตก ฉันเป็นนายจ้างเธอจะเสียงดังหรือกระซิบก็มีสิทธิ์เต็มขั้นจำไว้ อ้าปาก!! เร็ว!ปากรูปกระจับอ้าอย่างขวยเขิน ระหว่างที่เมลอนสีส้มกลิ่นหอมหวานจะเข้าปากริโกะต้องตกใจเป็นกำลัง เมื่อเห็นสองชายโฉดที่เธอตกกระไดพลอยโจนไปมีปัญหาด้วยเดินสอดส่ายมองซ้ายแลขวาเหมือนว่าตามหาใครสักคนมาในระยะสิบเมตรแน่นอนว่าใครสักคนไม่พ้นเป็นตัวเธอ อดีตสาวเสิร์ฟสุดลนลาน ใจเต้นระทึกชั่วเสี้ยววินาทีไม่เกินสองวินาทีจากนี้เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหลบให้พ้นสายตาอาฆาตทั้งสี่ไม่มีอิทธิฤทธิ์หายตัว ไร้ซึ่งปาฏิหาริย์ดำดินหนี ทางเลือกทางรอดมีเพียงวิธีเดียว ขอโทษนะคะคุณฉันจำเป็นจริงๆ ริโกะเอ่ยคำน้อย ไสร่างของคุณคนสวยเข้าหากำแพงตรงมุมทางเดินประกบริมฝีปากบางของตนบนปากนายจ้างสาวอย่างสายฟ้าแลบ ใช่วิธีสุดวาบหวามนี้เป็นไปเพื่อบังสายตายากูซ่าขาโหด ได้ผล ทั้งชายร่างท้วมและชายผมหยักศกเพียงชำเลืองมองแต่ไม่ได้สนใจไปมากกว่านั้น เดินเลยผ่านไปในที่สุด วัฒนธรรมที่นี่โอเพ่นหญิงสองคนจะจูบกันกลางถนนไม่ใช่เรื่องที่จะจดจ้องเอาเป็นเอาตาย Action สุดหวามมันเกิดขึ้นราวกับภาพ superslow motion ที่ถูกถ่ายทำด้วยกล้องคุณภาพสูง อื้ออออ..แม่ดอกมะลิ ทำอะไร ปิ่นปัทม์ร้องอู้อี้ในลำคอ ก่อนจะสลัดหลุดออกมาไม่ปฏิเสธว่าพึงใจกับสาวน้อยฟันกระต่ายผู้น่ารักยิ่งแต่รับไม่ทันกับการจู่โจมสุดประหลาด ริมฝีปากร้อนวูบวาบแผ่ซ่านไปทั่วทั้งใบหน้ามนที่สำคัญมันคือ 'จูบแรก' ในชีวิตสาวสมบูรณ์แบบอย่างเธออร๊ายยยย!! ริโกะยังหน้าตาตื่นไม่ปฏิเสธเช่นกันว่ารู้สึกพิเศษกับนายจ้างผู้ไม่รู้จักแม้แต่ชื่ออย่างไรก็ดีอารมณ์สะท้านไหวในใจต้องเก็บไว้ก่อน เธอเพียงกระซิบกระซาบกับปิ่นปัทม์เรื่องนี้หมายความสำคัญถึงชีวิตน้อยๆของเธอเทียว ชายสองคนนั่นไปหรือยังคะ อะไร? ใคร? ปิ่นปัทม์ให้งง อยู่ๆก็มาจูบเธอแล้วมาถามอะไรบ้าๆแก้เก้อหรืออย่างไร เดี๋ยวแม่เอาคืนซะหรอก ความคิดยังไปได้ไม่สุดริโกะรีบคล้องแขน พานายจ้างสาวก้าวฝีเท้ายาวๆกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วค่ะด้วยความรีบหรือจะเป็นเพราะถึงคราวเคราะห์อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ริโกะหันหลังกลับไปชนเข้ากับอาซิ้มจากแดนมังกรจังเบอร์ ผลไม้ในถุงของหญิงสูงวัยตกลงพื้นลูกพลับกลิ้งหลุนๆกระจัดกระจายไร้ทิศทาง อุ๊ย! หนูขอโทษค่ะ คนโชคร้ายยกมือไหว้และกระวีกระวาดก้มลงเก็บผลไม้ส่งคืนให้ อะไรของลื้อวะเดินไม่ดูทางเลย อาซิ้มเดือดดาลล้งเล้งลั่นซอยตามประสา เกิดเป็นจุดสนใจขึ้นมา นั่นรวมไปถึงชายทั้งสองคนผมหยักศกปะสายตาบ้องแบ๊วของผู้ที่กำลังตามหาเข้าเต็มๆ เฮ้ย! เจอแล้วตามไปเร็ว มันแหกปากบอกกับคู่หู ก้าวย้อนศรฝ่าฝูงชนมาหาเป้าหมาย คุณคะ วิ่ง! ริโกะหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดคว้าแขนอ่อนของนายจ้างออกวิ่งสุดฝีเท้าไม่คิดชีวิต อะไรแม่สาวน้อย เดี๋ยวสิปิ่นปัทม์ได้แต่ร้องถาม วิ่งตามแรงฉุดของริโกะไปแบบไม่เข้าใจโลก กรุณาอย่าเพิ่งถามอะไรเลยค่ะเราต้องหนี ไปให้ไกลจากที่นี่ สองสาววิ่งกระหืดกระหอบมาถึงสี่แยกผู้คนต่างหยุดรอเมื่อสัญญาณไฟรูปคนขึ้นเป็นสีแดงเต็มพรืดเบื้องหลังคือชายฉกรรจ์ทั้งสองที่ตามมากัดไม่ปล่อยกระชั้นชิดในระยะเพียงไม่เกินยี่สิบเมตร 'ไม่ เราจะไม่มีวันยอมแพ้'ริโกะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว...
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2559 | | |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2559 14:51:27 น. |
Counter : 595 Pageviews. |
| |
|
|
|