Group Blog
 
All blogs
 

Love is… Special 4

พริมรตาเดินลงมาที่โต๊ะอาหารเมื่อแก้วฟ้าขึ้นไปตามร่างบางหัวใจปวดหนึบเมื่อเห็นแขกร่วมโต๊ะสาวสวยร่างบางนั่งลงข้างลูกสาวเจ้าบ้านอดีตคนรักเก่าเพราะข้างสาวสวยคนนั้นมีสาวสวยอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของอดีตคนรักนั่งอยู่ด้วยแล้ว

“พริมคุณเมลูกค้าที่บริษัท” อิงฟ้าแนะนำ

“เมค่ะยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะ” เมรียายินดีในความเป็นมิตรอย่างจริงใจจนพริมรตานึกชื่นชมว่าผู้หญิงคนนี้ช่างหน้าหนาเสียจริงแย่งคนรักของเธอไปแต่ก็ยังมาตีหน้าระรื่นกับเธอได้ดั่งไม่มีอะไรในใจ

“เช่นกันค่ะ” พริมรตายิ้มในแบบที่ทุกคนในโต๊ะดูออกทันทีว่าทำไปโดยมารยาทเมรียาใจแป้วหันมองคนรักด้วยนัยน์ตาเศร้า

อาหารถูกลำเลียงออกมาจนครบแล้วข้าวร้อนๆถึงจะถูกตักเสิร์ฟ

“พอละจ่ะ” พริมรตาบอกแม่บ้านคนตักข้าว

“ทำไมทานน้อย”อิงฟ้าอาทรแต่พริมราตากลับก้มหน้าสนใจกับอาหารตรงหน้าไม่สนใจจะตอบคำถามใดยิ่งพาให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารแย่ลงไปอีก

“พริมจ๊ะ” ปลายฟ้าผ่าความเงียบโพล่งพูดขึ้นมา พริมรตาเงยหน้าขึ้นมองนัยน์ตามีแววสงสัย

“คะ”

“พี่กับเมเราตกลงคบกันแล้วจ้ะ”

“ค่ะ ยินดีด้วยนะคะ”พริมรตายิ้มยินดีกับทั้งคู่ตามมารยาทก่อนจะก้มหน้าทานอาหารต่อไปความรู้สึกที่มันเสียไปแล้วไม่อาจจะเรียกคืนเธอไม่ต้องแคร์ใครที่นี่อีกแล้วนอกจากพ่อเลี้ยง เธอยอมรักษามารยาทขนาดนี้ก็ถือว่ามากแล้ว

สามสาวมองกันไปมาจากที่คิดกันก่อนหน้านี้ว่าหากเฉลยออกไปแล้วฟ้าจะเปิดโลกจะสดใสและอิงฟ้ากับพริมรตาจะเข้าใจกันและกลับมารักกันเหมือนเดิม แต่… พรศักดิ์สิทธิ์ไปไหมเพราะพริมรตาดูจะไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเรื่องนี้เลยแย่หนักลงไปอีกกับบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร

“พริมจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่จ๊ะ”ปลายฟ้าถามขึ้นหวังว่ามันจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนรัก

“อีกวันสองวันค่ะเพราะรับงานไว้”

“อ่อพรุ่งนี้วันเกิดเมพี่อยากชวนพริมไปร่วมงานด้วย พริมไปนะ” เมรียาหันมองคนรักวันเกิดเธอผ่านไปแล้ว! ปลายฟ้ายิ้มให้คนรักก่อนจะหันไปเอาคำตอบกับพริมรตาที่ดูจะกำลังอึดอัดใจ

“นะจ๊ะพริมไม่ดึกหรอกพี่อาสามารับมาส่งเอง”

“ไปนะคะคุณพริม”เมรียาช่วยคนรักอีกแรงแม้จะไม่เข้าใจอะไรด้วยอิงฟ้าเองก็ไม่เข้าใจอะไรกับปลายฟ้าเหมือนกันแต่ก็คิดแค่ว่าหล่อนคงมีแผนอะไรที่จะช่วยเธอ

“ค่ะแต่พริมคงอยู่ได้ไม่ดึกนะคะ” พริมรตาออกตัวสำหรับการชิ่งล่วงหน้า

“จ่ะ” ปลายฟ้ายิ้มยินดี

“พริมอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะ” พริมรตาส่งยิ้มเป็นมารยาทให้ปลายฟ้าและเมรียาก่อนจะเดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจจะรักษามารยาทกับคนรักเก่า

“แกมีแผนอะไร”เมื่อให้หลังพริมรตาอิงฟ้ารีบซักไซ้เอาความจากเพื่อนรัก

“หึ ไม่มีอ่ะ”

“เอ่า!! แล้วชวนพริมออกไปทำไม”

“ก็เปิดโอกาสให้แกได้ใกล้ชิดกับพริมไง”

“อืม…” อิงฟ้าทำได้เพียงไหลตามน้ำเพราะลำพังตัวเองก็มึนตึบคิดได้แค่ว่าจับหล่อนขังไว้ที่นี่ไปเรื่อยๆดีไหม อย่างน้อยก็ได้เห็นกันทุกวัน เหอ เหอ

“ขอบใจแกมากนะ”อิงฟ้ามองผ่านเพื่อนรักไปที่คนรักของเพื่อน

“เลิกรู้สึกผิดเรื่องที่อิงกับพริมเลิกกันได้แล้วนะคะเพราะทั้งหมดมันเป็นความผิดของอิงเองอิงเป็นคนรักที่ไม่ดีพริมเขาถึงทนไม่ไหวและเลิกราไป”

“เพราะเม…” เมรียายังไม่คลายความรู้สึกผิด หากวันนั้นเธอไม่ไปกอดคุณอิงหวังพึ่งพิงเพราะล้าเหลือเกินหัวใจและคุณพริมไม่เข้ามาเห็นทั้งสองก็คงจะไม่ทะเลาะและเลิกรากันไป

“เพราะอิงมองแต่ด้านลบของพริมเพราะอิงทำร้ายจิตใจพริมหลายเรื่องค่ะ พริมสะสมความเจ็บช้ำมาพอสมควรจนทนไม่ไหวและจากไป”อิงฟ้าเจ็บช้ำกับทุกคำที่ตนพูดเจ็บช้ำในความเจ็บช้ำที่ตนสร้างให้คนที่รัก

“แต่ก็หวังว่าคืนพรุ่งนี้อะไรๆมันจะดีขึ้นนะ”อิงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่

“หรือถ้ามันไม่มีอะไรดีขึ้นฉันก็คงปล่อยพริมไปตามทาง ยอมรับกรรมที่ตัวเองก่อ” อิงฟ้ามองไกลเทพราโปรดประทานพรแด่ลูกด้วยจะเป็นครั้งที่ร้อยแล้วที่เธอพร่ำพูดขอพรกับสิ่งที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อนสิ่งที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่เกมนี้เธอขอทุ่มศรัทราหมดหัวใจ เพราะเธอมีประสบการณ์ตรงกับตัวเองมาแล้วเทพราทรงมีพลังวิเศษและเธอเคยได้รับพรจากพระองค์มาแล้วจริงๆ

พริมรตาเดินไปที่ห้องพ่อเลี้ยงหลังจากที่แก้วฟ้าเข้ามารายงานว่าเข้าเยี่ยมได้แล้ว

“ดีใจที่พริมมา แค่กแค่ก” พ่อเลี้ยงทำท่าอิดโรยอยู่บนเตียง ที่ยอมผิดศีลห้าก็เพื่อลูกสาวคนเดียวและลึกๆเขาเองก็ไม่อยากจะเสียลูกสะใภ้คนนี้ไปพริมรตาเป็นเด็กดี น่ารักและช่างเอาใจแถมยังเท่าทันลูกสาวเขาไปซะทุกเรื่อง

“คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ”

“ก็ธรรมดาของคนแก่แหละนะ”

“คุณพ่อต้องดูและตัวเองให้ดีกว่านี้นะคะจะได้ไม่ทรุดแบบนี้อีก”

“พริมไม่คิดจะกลับมาช่วยดูแลพ่อเหรอ”พริมรตายิ้มน้อยๆเข้าใจที่พ่อเลี้ยงพูด

“วันหนึ่งพี่อิงก็จะเจอคนที่ถูกใจและพาคนคนนั้นมาดูแลคุณพ่อค่ะ”

“พริมไม่รักลูกของพ่อแล้วเหรอ”

“มันไม่ได้สำคัญว่ารักหรือไม่รักหรอกค่ะคุณพ่อมันสำคัญที่ว่า

พริมดีได้ไม่เท่ากับที่ใจพี่อิงต้องการที่ผ่านมาพริมทำให้พี่อิงเหนื่อยใจมามากแล้ววันนี้พริมปรารถนาให้พี่อิงเจอคนที่ดีคนที่พี่อิงพอใจและอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่าค่ะ”

“อืม…” พ่อเลี้ยงพยักหน้าน้อยๆเข้าใจหญิงสาวตรงหน้าทุกอย่างเขาก็ช่วยได้เท่านี้แหละที่เหลือก็ต้องให้หัวใจของสองคนเขาจัดการกันเอง

“พ่อเข้าใจ”

อิงฟ้ายืนฟังสิ่งที่พ่อและคนรักคุยกันอย่างสงบ

เมื่อออกมาจากห้องพ่อเลี้ยงพริมรตาก็เดินกลับขึ้นห้องไปทันทีเธอไม่อยากเจอ… แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ได้พบกับ… พริมรตาหมุนตัวจะเดินออกไปทันทีแต่ก็ช้ากว่าคนรู้ทันอิงฟ้ารีบเข้ามารวบเอวบางให้กลับเข้าไปในห้องแต่แปลกที่พริมรตาไม่มีอาการดิ้นรนขัดขืนใดๆเงียบงันกันไปสำหรับสองคนที่ต่างมีหลายสิ่งในใจที่เกี่ยวข้องกัน

“พี่รักพริม” อิงฟ้าทำลายความเงียบงันนั้น

“ไม่ใช่ค่ะคุณรักตัวเอง”

“พี่รักพริม” อิงฟ้ายังยืนยันคำเดิม

“ขอบคุณสำหรับความรักที่คุณมีให้ค่ะแต่เรื่องของเรามันจบแล้ว คุณไม่ควรมาล่วงเกินฉันแบบนี้อีก” พริมรตาเย็นชาจนอีกฝ่ายยอมจำนนเพราะไม่อยากฝืนใจอิงฟ้ายอมคลายอ้อมกอด

“พี่คงจะไม่มีหน้าจะแก้ตัวใดๆกับพริมเพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นระหว่างเรามันมาจากความไม่เข้าใจในกลไกของความรักและชีวิตคู่ของพี่แต่เวลาที่เหลือจากนี้พี่จะพิสูจน์ให้พริมเห็นว่าพี่รักพริมมากขนาดไหน” พูดจบอิงฟ้าก็เดินออกจากห้องไป อีกแล้วที่ร่างบางต้องเสียน้ำตาเพราะใจที่ปวดร้าวการเลือกเดินออกมาจากคนที่ยังรักสุดหัวใจไม่ต่างกับการได้ตายไปแล้วทั้งเป็นเลย แต่เธอมีทางเลือกอื่นเหรอเมื่อเธอไม่ใช่สิ่งที่ดีสุดสำหรับเขา

ปลายฟ้ามารับพริมรตาตามที่นัดหมายไว้รถคันหรูดับเครื่องลงที่หน้าตึกสูงแห่งหนึ่งกลางเมืองร่างบางหันมองเพื่อนสนิทของอดีตคนรักด้วยสายตาสงสัย

“งานจัดที่ดาดฟ้าจ่ะ”ปลายฟ้าตอบหน้าตายก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้ ทั้งคู่พากันเดินเขาไปในตึกแต่มันเงียบเหงาเกินไปไหมเพราะเธอไม่เห็นผู้คนหรือแสงสีอะไรเลย

ประตูลิฟต์เปิดที่ชั้น 49 และทั้งคู่ต้องเดินขึ้นไปอีกชั้นเพื่อขึ้นไปชั้นดาดฟ้าเมื่อเดินออกจากประตูมาก็พบแสงสีสว่างเจิดจ้าไปทั่วบริเวณแต่งานวันเกิดอะไรไม่เห็นมีผู้คนเลย ไม่เห็นแม้แต่เจ้าของวันเกิด เห็นแต่…พริมรตามองปลายฟ้าอีกครั้งด้วยสายตาเป็นคำถามปนขุ่นในใจปลายฟ้าทำเพียงส่ายหน้ายิ้มๆและเดินกลับเข้าประตูไปและเสียงประตูก็ปิดลงพร้อมกับเสียงล็อคพาให้คนฟังใจหาย พริมรตาพุ่งเข้าไปที่ประตูและก็เป็นอย่างที่คิดคือมันถูกล็อคจากด้านใน

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”อิงฟ้าเดินเข้ามาใกล้

“ไม่ค่ะเราไม่ควรต้องคุยอะไรกันอีกแล้ว ปล่อยพริมไปตามทางเถอะค่ะ พริมไม่อยากยืนอยู่ในจุดที่ไม่เป็นที่พอใจ”พริมรตามองสูงขึ้นไปบนฟ้าหวังเก็บกักน้ำตาไม่ให้มันร่วงไหลลงมาต่อหน้าอดีตคนรัก

“พี่เสียใจ พี่มันโง่ไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆ พี่ทำร้ายจิตใจพริม”

“พอเถอะค่ะอย่าโทษตัวเองเลยคงเพราะเราเดินกันมาไกลจนถึงปลายทางแล้ว และเราก็ต่างเหน็ดเหนื่อยกับการมีกันและกันก็เท่านั้น”

“มันไม่ใช่ปลายทางมันไม่ใช่ความเหน็ดเหนื่อยแต่มันเป็นความไม่เข้าใจ”

“ไม่เข้าใจอะไรคะไม่เข้าใจว่าทำไมพริมถึงขี้หึงเอาแต่ใจและงี่เง่าไร้สาระหนะเหรอคะ”

“ใช่เมื่อก่อนพี่ไม่เข้าใจแต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้ว พริมให้โอกาสพี่นะคะ” หญิงสาวร่างสูงวิงวอน พริมรตามองเมินไปทางอื่น ปล่อยน้ำนัยน์ตาให้พรั่งพรูออกมาเพราะเกินจะกลั้น

“เดินไปข้างหน้าเถอะค่ะอย่าถอยหลังกลับมาเลยพริมไม่อาจเป็นความพอใจให้พี่ได้หรอกค่ะและพริมก็ไม่เชื่อว่าพี่อิงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เพื่อพริมเพราะที่ผ่านมาพี่อิงคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นแก่ตัว”

อิงฟ้าพยักหน้าน้อยๆยอมรับทุกอย่างแต่โดยดีเพราะหล่อนไม่ได้พูดสิ่งใดผิดเลยเธอคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นแก่ตัวจริงๆเงียบงันกันไปอีกครั้งสำหรับผู้หญิงสองคนที่ยังรักกันอยู่เต็มหัวใจ

อิงฟ้าล้วงมือเข้าไปที่เสื้อคลุมตัวยาวหยิบล็อกเก็ตขึ้นมาจูบแผ่วเบาก่อนจะหันเดินไปที่ระเบียงของดาดฟ้าและปีนขึ้นไปยืนอยู่ในจุดที่หวาดเสียวพริมรตามองตามด้วยความไม่เข้าใจและกำลังใจหายกับสิ่งที่เห็น

“พี่จะพิสูจน์ว่าพี่รักพริมมากขนาดไหนและพี่เชื่อว่าความรักที่พี่มีต่อพริมจะคุ้มครองพี่” ใช่!เธอเชื่อแบบนั้น

“อะไรกันคะพี่อิงทำแบบนั้นทำไมลงมาเดี๋ยวนี้นะคะ” หญิงสาวร่างบางวิ่งเข้าไปใกล้สติจะแตกกับคนตรงหน้าที่กำลังทำเหมือนคนไร้สติอิงฟ้ายิ้มเย็น ที่เย็นไปยันขั้วหัวใจของคนมอง ร่างสูงหันหลังให้อีกฝ่ายมองออกไปไกลก่อนจะปิดเปลือกตาลงมือกำล็อกเก็ตไว้แน่นแต่ในใจกลับว่างเปล่าบางเบาหมดสิ้นแล้วสิ่งที่หนักหน่วงในใจเพราะมันได้ทุ่มไปกับศรัทราจนหมดแล้ว

‘ขอพระองค์โปรดประทานพรแด่ลูกลูกขอให้พริมรตาผู้หญิงที่ลูกรักและรักลูกอยู่กับลูกตลอดไปจนแก่เฒ่า’ ลมที่พัดแรงบนตึกสูงพาให้ร่างสูงโงนเงน เพราะเจ้าตัวผ่อนคลายกายใจจนเป็นอิสระ

“พี่อิง!!!” ร่างบางแผดร้องสุดเสียงเมื่อสายลมได้พัดพาคนตรงหน้าให้หล่นหายลงไป

จบสิ้นแล้วซินะ! ความหนักหน่วงในใจของอิงฟ้า

“พริม เป็นอะไร”อิงฟ้างัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆกำลังสะอึกสะอื้น

“พริม พริม” อิงฟ้ายันตัวขึ้นเขย่าตัวคนรักเบาๆร่างบางปรือขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะโถมตัวไปบนตัวคนรัก

“พี่อิง ฮือ ฮือพี่อิง” พริมรตายิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักขึ้นและเกาะกอดคนรักไว้แน่น

“อะไรกันคะพริมเป็นอะไรหือ” อิงฟ้าลูบหลังคนรักเบาๆหวังปลอบขวัญ

“พริมฝันร้ายค่ะ ฮือฮือ”

“ไม่มีอะไรนะ แค่ฝันหนะนอนต่อนะคะ”ร่างบางยอมสงบก่อนจะเลื่อนตัวลงมานอนข้างๆแต่ก็ยังกอดคนรักไว้แน่นเพราะกลัวเหลือเกินว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอคนรักอย่างในฝันร้ายๆอิงฟ้ากอดตอบเพื่อให้คนรักเบาใจแล้วทั้งคู่ก็พากันหลับใหลลงไป

อิงฟ้ามองเมรียาที่กำลังเดินเข้ามา หล่อนมีนัยน์ตาที่เศร้าสร้อยเพราะกำลังมีปัญหาไม่เข้าใจอยู่กับเพื่อนรักของเธอแต่…ทำไมเธอรู้สึกว่าภาพมันซ้ำๆ

อยู่ๆประตูห้องทำงานก็เปิดออกขณะที่เมรียาซบหน้าอยู่ที่ไหล่ใช่ละ!อิงฟ้าผละจากเมรียาวิ่งตามพริมรตาออกไปทันที เมื่อมาถึงลานจอดรถก็เห็นรถของหล่อนแล่นออกไปแล้วซวยละ! อิงฟ้าหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเมรียาก่อนจะรีบไปที่รถของตนและขับตามคนรักออกไป

พริมรตาเดินน้ำตาอาบแก้มเข้ามาในบ้านสร้างความตกใจให้ทุกคนในบ้านโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงหญิงสาวไม่ได้หยุดอธิบายอะไรรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันทีไม่นานหญิงสาวร่างสูงนายน้อยของบ้านก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับถามหาพริมรตาเมื่อรู้พิกัดชัดเจนแล้วก็รีบวิ่งตามคนรักขึ้นไปทันทีพ่อเลี้ยงและคนในบ้านได้แต่มองตามกันงงๆ

อิงฟ้าเปิดประตูเข้ามาเห็นพริมรตานั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่บนเตียงก็คลี่ยิ้มออกมาพาให้ร่างบางทั้งฉงนและขุ่นเคือง

“ยิ้มทำไม กลับมาทำไมไปกับผู้หญิงคนนั้นเลยไปซิ” พูดจบร่างบางก็หันหน้าหนีไปทางอื่นอิงฟ้าเดินยิ้มหวานเข้าไปนั่งข้างๆและรวบตัวหญิงสาวเข้ามากอดไว้พริมรตาพยายามขัดขืนและก็สู้แรงไม่ไหว

“กอดเมื่อกี้ที่พริมเห็นเป็นการกอดแบบเพื่อนปลอบเพื่อนที่กำลังทุกข์ใจอยู่แต่กอดพริมตอนนี้เป็นการกอดคนที่รักหมดหัวใจที่กำลังเข้าใจผิดพี่อยู่” พริมรตานิ่งไปก่อนจะหันกลับมามองคนรัก น้ำนัยน์ตายังพราวเพราะเสียใจมากที่เห็นคนรักยืนกอดอยู่กับผู้หญิงอื่น

“ยังไม่ต้องเชื่อที่พี่พูดก็ได้เดี๋ยวเย็นจะพิสูจน์ให้เห็น”พริมรตา

มองเข้าไปนัยน์ตาของคนรัก แปลก!ปกติต้องว่าเธอว่างี่เง่าเอาแต่ใจชอบขี้หึงไร้สาระ แต่ทำไมวันนี้…?

“พี่ชอบให้พริมหึงพี่นะเพราะมันทำให้พี่รู้ว่าพริมรักพี่มากแต่พี่ขออะไรพริมอย่างหนึ่งได้ไหม”

“อะไรคะ” พริมรตาไหลไปตามแรงจูงของคนรักแล้ว

“จากนี้ไป เวลาที่เรามีปัญหาไม่เข้าใจกันพริมอย่าเดินหนีพี่แบบนี้อีกนะคะอยู่ฟังพี่อธิบายและคุยกันด้วยเหตุผลนะคะ” พริมรตาเอาหน้าไปซบที่อกของคนรักตื้นตันกับสิ่งที่หล่อนพูด

“ค่ะพริมจะไม่เดินหนีพี่อิงอีก” แล้วสองร่างก็กระชับกอดกันแน่นถ่ายทอดความรักที่ล้นใจให้กันและกันเมื่อเข้าใจกันดีแล้วอิงฟ้าจึงเล่าแผนการทุกอย่างที่ตนวางขึ้นเพื่อช่วยเพื่อนรักให้ได้ปรับความเข้าใจกับคนรัก

เมื่อถึงเวลาอิงฟ้าก็เข้าไปนั่งรอปลายฟ้าในร้าน

“มาถึงก็หน้าเป็นตูดเลยนะ”

“ก็ถ้าตูดจะสวยขนาดนี้”และสองสาวเพื่อนรักก็ส่งยิ้มสวยให้กัน

“ของฝากฉันหละ”

“ไม่มีอ่ะก็คนมันแซดไม่มีอารมณ์ช้อปปิ้ง” อิงฟ้านิ่งไปและก็หลุดยิ้มออกมาเบาใจที่หลายอย่างไม่เหมือนเดิม

“เป็นอะไรอยู่ๆก็ยิ้มคนเดียว”

“มีความสุขไง”อิงฟ้าพูดยิ้มๆก่อนที่ไฟในร้านจะดับไป

เรื่องของปลายฟ้าและเมรียายังดำเนินต่อไปเหมือนเดิมแต่เรื่องของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว เพียงเพราะเธอเข้าใจกลไกของความรักและปรับเปลี่ยนความคิด

อิงฟ้าเดินสะโหลสะเหลเข้าไปในห้องนอนเพราะเมามายกับการฉลองรักที่สมหวังให้กับเพื่อนสาวคนสนิทร่างสูงทิ้งตัวลงนอนข้างคนรักวาดแขนไปกอดก่ายไม่นึกเกรงใจว่ามันดึกแล้ว

“พี่รู้นะว่าพริมยังไม่หลับ”ร่างบางยังฟอร์มนอนนิ่งแต่ก็นิ่งไม่ได้นานเพราะอีกฝ่ายใช้มือเรียวลูบไล้ไปทั่วร่างจนปั่นป่วนไปหมด

“อื่อ พี่อิงอ่ะ”พริมรตาไล่จับมือปลาหมึกของคนขี้แกล้ง

“ยอมรับหรือยังว่าพริมยังไม่หลับเพราะรอพี่”

“ใครรอใครพริมไม่เห็นรู้เรื่อง”ร่างบางยังปากแข็ง

“ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่นะคะต่อไปพี่จะไม่กลับดึกแบบนี้แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องงาน” อิงฟ้ากระชับกอดคนรักโดยไม่รู้เลยว่าคนรักขี้แยอีกแล้วเพราะตื้นตันใจกับสิ่งที่คนรักพูด ดีใจที่หล่อนเข้าใจเธอ

“ขอบคุณนะคะ”

“พริมต้องขอบคุณความรักค่ะเพราะพี่ทำตามคำสั่งของหัวใจพี่ที่รักพริม”

“มาหวานอะไรดึกๆแบบนี้คะเนี่ย”

“พี่จะหวานแบบนี้ไปจนแก่เลยแหละ” หวานจริงหนอความรักคนมีรักเท่านั้นแหละถึงจะเข้าใจ

สำหรับอิงฟ้าขอบทุกสิ่งที่ทำให้เธอยังมีคนที่รักอยู่แบบนี้ขอบคุณผู้หญิงในอ้อมกอดคนนี้ที่รักเธอ ขอบคุณในความรักที่งดงาม…ขอบคุณ

The End




 

Create Date : 09 มกราคม 2557    
Last Update : 10 มกราคม 2557 9:38:13 น.
Counter : 1792 Pageviews.  

Love is… Special 3

อิงฟ้าเดินทางมายังโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่อยู่กลางเมืองเชียงรายโดยคิดไปเองว่าที่นี่น่าจะเข้าท่าที่สุดที่เธอจะมาหาคำตอบได้

แม่ชีเดินนำหญิงสาวมารอสาธุคุณในโบสถ์ทั้งที่โดยปกติแล้วการจะเข้าพบสาธุคุณผู้มีอำนาจสูงสุดของที่นี่ต้องมีการนัดหมายก่อนล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะเข้าพบได้โบสถ์แห่งนี้ยอมรับอำนาจของอิงฟ้าในฐานะผู้มีอิทธิพลล้นฟ้าในจังหวัดเชียงรายการมีปัญหากับหล่อนไม่ใช่เรื่องฉลาดแถมครอบครัวของหล่อนยังบริจาคเงินและสนับสนุนหลายๆโครงการที่ทางโบสถ์ได้จัดทำอีกด้วยครอบครัวหล่อนมีทั้งพระเดชและพระคุณกับโบสถ์แห่งนี้

“ยินดีที่ได้พบ”สาธุคุณฟรานซิสวัยหกสิบปีกล่าวทักทายนายหญิงน้อยแห่งไร่แสนฟ้าอิงฟ้าหันมองและลุกขึ้นรับคำทักทายโดยการเดินเข้าไปสวมกอด

“มาด้วยใจที่ระลึกถึงและปัญหาที่พาให้เศร้าหมองค่ะคุณพ่อ” ทั้งคู่คลายอ้อมกอดออกจากกันและพากันนั่งลงไปบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่จัดไว้ให้กับคนที่เข้ามาประกอบศาสนะพิธีทุกวันอาทิตย์

“เศร้าหมองอะไรลองบอกพ่อมาซิ”น้ำเสียงราบเรียบที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาทำให้ทุกข์หมองที่อยู่ในใจเบาลงไปได้อย่างประหลาดอิงฟ้ายังไม่ได้เล่าความใด แต่ได้ส่งล็อกเก็ตให้กับสาธุคุณ

“ลูกต้องการไขข้อข้องใจกับสิ่งนี้ค่ะ”สาธุคุณรับไปถือและจัดการเปิดล็อกเก็ตออกเพื่อดูเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในแล้วสาธุคุณจึงปิดฝาและยกล็อกเก็ตขึ้นมาจูบเบาๆและนำไปแตะที่หน้าผาก กลางหน้าอก หัวใจและหน้าอกด้านขวาตามลำดับ

“ขอพลังแห่งพระผู้เป็นเจ้าจงสถิตอยู่ในกายและในจิตอาเมน” สาธุคุณมองอิงฟ้าที่กำลังมองมาอย่างสนใจ

“เทพราทรงโปรดลูกของพ่อ”อิงฟ้าเลิกคิ้วไม่เข้าใจ แต่เธอคุ้นๆกับคำว่าเทพราคงเพราะเคยได้ยินจากปลาย

“ล็อกเก็ตนี้มีสัญลักษณ์ที่สื่อถึงพระองค์และลูกได้สื่อถึงพระองค์และพระองค์ก็ได้รับและโปรดประทานพรแด่ลูกแล้ว” สาธุคุณพูดออกไปดั่งสายน้ำไหลด้วยจิตที่สื่อถึงได้กับจิตวิญญาณระดับสูง ก่อนจะส่งล็อกเก็ตคืนให้หญิงสาว

“ลูกไม่เข้าใจ”ใช่! เธอไม่เข้าใจอะไรเลย สาธุคุณยิ้มละไมด้วยจิตที่มีเมตตาเรื่องของจิตวิญญาณระดับสูงยากที่จะบอกเล่าให้คนธรรมดาได้เข้าใจ

“เราจะติดต่อกับจิตวิญญาณระดับสูงได้ก็ต่อเมื่อคลื่นสมองของเราอยู่ในระดับเบต้าขึ้นไป อยู่ในภวังค์หรืออยู่ในสมาธิอาจจะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม” อิงฟ้าครุ่นคิดตามแต่เธอไม่ได้มีคุณสมบัติดั่งที่สาธุคุณกล่าวมาเลย

“ลูกไม่ได้มีอะไรอย่างที่คุณพ่อพูดมาเลยค่ะมีแต่เมาแล้วหลับไปพอตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับเรื่องแปลกมากมาย” สาธุคุณยังคงยิ้มละไม เพราะพบเหตุแล้ว

“สภาวะภวังค์คือสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นจิตจะบางเบาคลายตัวเพื่อเข้าสู่นิทรา สภาวะนี้แหละที่จิตเราจะเปิดรับพลังงานต่างๆได้โดยง่ายทั้งบวกและลบ”อิงฟ้าคิดตามพยายามจับต้นชนปลายเรื่องราวต่างๆและชักจะเห็นเค้าของเงาได้ลางๆแล้ว

“ใช่ค่ะคุณพ่อลูกเมาและหลับไปแต่ก่อนหลับลูกขอให้คนรักหายจากสิ่งต่างๆที่ทำให้ลูกรำคาญใจ”

“เทพราทรงได้ยินและลูกได้รับพรนั้นแล้ว”

“แต่ลูกไม่ได้ขอให้คนรักเลิกราและเดินจากไปนะคะแต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนรักไม่อยู่แล้ว” อิงฟ้ายังไม่แจ้งใจเทพราต้องเข้าใจอะไรเธอผิดแน่ๆก็พรบ้านแตกแบบนั้นใครเขาอยากจะได้

“ลูกไม่อาจล้ำเส้นไปคิดเปลี่ยนตัวตนของคนอื่นลูกทำได้เพียงเข้าใจ พอใจ อดทน เดินจากออกมา หรือผลักเขาออกไป” อิงฟ้าชักจะพอเข้าใจอะไรบ้างแล้วว่าเธอไม่มีสิทธิ์ไปเปลี่ยนคนรัก และเป็นเธอเองที่ผลักไสคนรักออกไป

“เทพราให้ในสิ่งที่ลูกร้องขอแล้วทุกอย่างสมบูรณ์แล้วในสิ่งที่ลูกต้องการ”

ใช่! ทุกอย่างสมบูรณ์แล้วจริงๆจากจิตที่คิดลบของเธอเองและความคิดลบที่เธอมีต่อคนรักก็กำลังย้อนกลับมาทำร้ายเธอดั่งเงาสะท้อนของกระจก

“ลูกต้องการแก้ไขค่ะคุณพ่อ”อิงฟ้าส่งสายตาวิงวอน เธอต้องการขอพรอีกครั้ง

“พ่อช่วยอะไรลูกไม่ได้แต่ลูกจงจำไว้ว่าจิตที่ผ่องใสสุกสว่างจะนำพาพรที่ลูกขอไปถึงจิตวิญญาณระดับสูงได้”

อิงฟ้าได้ร่ำลาสาธุคุณและเดินออกมาจากโบสถ์แม้เบื้องลึกเธอจะหวังพึ่งพรจากเทพราผู้ซึ่งเคยประทานพรแก่เธอมาแล้วพรจากจิตที่คิดอะไรพล่อยๆของเธอ แต่การจะได้รับพรอีกครั้งคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆยังไงตอนนี้เธอคงต้องพึ่งตัวเองก่อน

พริมรตาเดินทางมาเชียงรายอย่างเร่งด่วนเพราะทราบข่าวจากกีกี้ว่าพ่อเลี้ยงอาการทรุดหนัก หญิงสาวทั้งร้อนใจและเป็นกังวลเพราะมีจิตที่ผูกพันกับพ่อเลี้ยงในระหว่างที่เธออยู่ที่เชียงรายร่วมชายคาเดียวกันท่านเมตตาเธอมาก ท่านรักและเอ็นดูเธอดั่งลูกสาวแท้ๆดีกว่า…ซะอีก ชิส์ พริมรตาคิดข้ามคนที่ทำให้ช้ำใจ

ร่างบางรีบเดินเข้ามาในบ้านอย่างคนคุ้นเคยเธอยังคงได้รับการต้อนรับอย่างดีจากอย่างที่เคยอยู่ในฐานะนายหญิงของที่นี่พริมรตากำลังจะตรงไปยังห้องของพ่อเลี้ยงแต่ก็ต้องชะงัก

“คุณหมอสั่งไว้ว่าอย่าเพิ่งให้ใครเข้าไปรบกวนพ่อเลี้ยงค่ะอยากให้ท่านพักผ่อนให้เต็มที่ นายหญิงเพิ่งมาถึงเหนื่อยๆเชิญไปพักผ่อนก่อนนะคะ”แก้วฟ้าคนรับใช้คนสนิทเดินนำนายหญิงของตนขึ้นไปยังห้องพักแต่ห้องนี้…

“ฉันไม่พักห้องนี้”พริมรตาโพล่งขึ้นแก้วฟ้าชะงักก่อนจะหันมาส่งยิ้ม

“ตอนนี้ห้องอื่นๆกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงค่ะ”แก้วฟ้ารายงาน พริมรตาครุ่นคิด

“ฉันจะไปนอนที่โรงแรม”พูดจบหญิงสาวก็หมุนตัวจะเดินกลับลงไปแต่!...

หญิงสาวร่างบางใจหายวาบเมื่อหันมาเจอกับ…พริมรตารีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่นและจะเลี่ยงเดินออกไป

“เอะร่างบางหันมาแหวเมื่อเอวบางของตนถูกอีกฝ่ายรวบไว้ ยิ่งเห็นนัยน์ตาที่สุกใสไร้ความสำนึกผิดยิ่งพาให้ขุ่นใจไปใหญ่โต

“ปล่อยฉันนะ” พริมรตาเย็นชาห่างเหินจนคนฟังใจหาย

“จะไปไหน?” อิงฟ้ายังกอดเอวไว้แน่นไม่สนใจอาการขัดขืนใดๆ

“เรื่องของฉันปล่อยซิ” หญิงสาวร่างบางพยายามบิดตัวให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของคนที่เป็นอดีตคนรักที่ปัจจุบันก็ยังรักอยู่แต่ตอนนี้เราไม่ใช่คนรักกันแล้ว เราเลิกกันแล้ว!!

“แก้วเอาของคุณพริมเข้าไปไว้ในห้อง”เมื่อได้รับคำสั่งแก้วฟ้ารีบนำข้าวของนายหญิงเข้าไปไว้ในห้องและรีบเดินลงไปด้านล่างทันทีอย่างรู้งาน

“นี่! เดี๋ยวก่อน” พริมรตาส่งเสียงไล่หลังคนสนิทที่ชิ่งลงไปแล้วด้วยความขัดใจก่อนจะหันกลับมาแหงนเงยส่งนัยน์ตาเขียวปั้ดใส่คนที่กำลังพูดจาไม่รู้เรื่อง

“ปล่อยฉันนะ จะมากอดฉันทำไม”

“กอดเมียตัวเองไม่ได้หรือไง” อิงฟ้าตอบกลับหน้าตาเฉยยิ่งเป็นการกวนน้ำในใจของพริมรตาให้ยิ่งขุ่นมัวมากขึ้น

“ประสาท!! ใครเป็นเมียคุณคุณกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เราเลิกกันแล้ว”

“เลิกเมื่อไหร่ไม่เห็นรู้เรื่อง”อิงฟ้าไม่ได้พูดเกินความจริง ก็เธอไม่รู้เรื่องจริงๆถ้ารู้เรื่องใครจะยอมเลิกง่ายๆก็รักจนหมดหัวใจแล้วแบบนี้และไม่รอให้อีกฝ่ายโต้ตอบอะไร อิงฟ้ารีบยกร่างบางเข้าไปในห้อง

“ว้าย! เข้ามาในนี้ทำไมปล่อยฉันนะคนบ้า” พริมรตาทั้งดิ้นรนทั้งทุบตีแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยและก็ต้องใจหายกันไปใหญ่เมื่อร่างของตนถูกทิ้งลงไปบนที่นอนก่อนที่อีกฝ่ายจะทิ้งตัวตามลงมาทาบทับ

“นี่ บ้าไปใหญ่แล้วนะ”พริมรตายิ่งดิ้นรนขัดขืนแต่เรี่ยวแรงก็ไม่ได้มีมากและมันก็อ่อนแรงลงไปเรื่อยๆเพราะความที่บอบบางกว่าอีกฝ่ายมากก็หล่อนทั้งสูงใหญ่และบ้าใช้กำลังแบบนั้นใครจะไปสู้ไหว หญิงสาวร่างบางกว่าคิดเคือง

“เหนื่อยรึยัง”อิงฟ้าพูดยิ้มๆ หยอกเย้าอีกฝ่ายไม่ดูเวล่ำเวลา ไม่ดูสถานะปัจจุบันของตัวเองเลยตานี้ร่างบางไม่ได้ตอบกลับแต่กลับเบี่ยงหน้าไปอีกทางเพราะขุ่นเคืองอีกฝ่ายมากจนไม่รู้จะแสดงออกมายังไงแล้วและตอนนี้เธอก็หมดเรี่ยวแรงจะขัดขืนแล้วด้วย

“พริมดื้อ เอาแต่ใจแถมยังใจร้ายมากๆด้วยรู้ตัวไหม” ร่างบางหันขวับมาแทบจะทันทีผู้หญิงคนนี้พูดบ้าอะไรกัน

“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับฉันแบบนี้นะคะคุณอิง”พริมรตาไม่ได้พูดต่อในประโยคเดียวกันเธอไม่สนใจเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก

“ใจพริมบอกว่าพี่มีสิทธิ์”อิงฟ้าไม่ยอมไหลไปตามอารมณ์เกรี้ยวกราดของร่างบาง

“ใจฉันบอกว่าคุณไม่มีสิทธิ์”พริมรตาสู้สายตายืนยันคำพูดของตน พริมรตาคนนี้แหละที่เธอกลัว คือใจแข็งดั่งหินผาคุณป้าของหล่อนเองยังบอกว่าบางครั้งในบางเรื่องหล่อนก็ใจแข็งมากมากจนกลายเป็นใจดำ

อิงฟ้ายอมคลายอ้อมกอดก่อนจะลุกขึ้นนั่งหันมองร่างบางที่รีบดีดตัวตามขึ้นมา

“พริมพักห้องนี้แหละพริมเป็นแขกของพ่อไม่ต้องลำบากไปนอนโรงแรมหรอกเดี๋ยวพี่ไปนอนที่อื่นเอง” พูดจบสาวร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป เพียงให้หลังสาวร่างสูงน้ำนัยน์ตาของหญิงสาวร่างบางก็พรั่งพรูออกมาหลากหลายเหลือเกินกับความรู้สึกที่มีอยู่ในใจตอนนี้

อิงฟ้าเดินลงไปข้างล่างด้วยหัวใจที่เบาหวิวพยายามเหลือเกินที่จะสลัดความกลัวออกไปจากใจ กลัว ใช่! กลัวเธอกลัวที่จะต้องสูญเสียคนรักไปจริงๆ

อิงฟ้าเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องพ่อของตนที่กำลังนั่งดื่มชามองความงดงามภายนอกผ่านทางช่องหน้าต่างออกไปไหนไม่ได้เพราะต้องเล่นบทเป็นคนป่วยหนักตามคำบัญชาของลูกสาว

“หงอยเป็นแมวเหงามาเชียว” พ่อเลี้ยงทักทาย

“ไม่ใช่แค่แมวเหงาหนะซิคะพ่อแมวป่วยใกล้ตายเลยต่างหาก” อิงฟ้าเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆพ่อ

“อิงต้องยอมรับสภาพเพราะอิงเป็นคนผิด” พ่อไม่อ้อมค้อม

“ใช่ค่ะ เพราะอิงผิด” หญิงสาวเกยคางไปที่วางแขนบนเก้าอี้ของพ่อ พ่อเลี้ยงลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดูต่อให้หล่อนเก่งกล้าสามารถขนาดไหนแต่หากเป็นปัญหาเรื่องของความรักก็พาให้ทุกข์ใจจนทางได้เสมอ

“พ่อคะ” หญิงสาวดึงหน้าขึ้นมาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตัวยาวหยิบบางสิ่งออกมา

“ล็อกเก็ตศักดิ์สิทธิ์ค่ะพ่อ” พ่อเลี้ยงมองล็อกเก็ตตรงหน้าด้วยความสนใจ

“เดี๋ยวนี้ลูกพ่อเล่นไสยศาสตร์เลยเหรอ”พ่อเลี้ยงหยอกเย้า

“ไสยศาสตร์เล่นลูกสาวพ่อต่างหาก”อิงฟ้าตอบกลับเสียงหงอย

“แล้วที่ว่าศักดิ์สิทธิ์นะ ศักดิ์สิทธิ์ยังไง” อิงฟ้าเล่าจากที่ฟังมาจากปลายฟ้าและท่านสาธุคุณฟรานซิส

“อืม…” พ่อเลี้ยงพยักหน้าน้อยๆฟังดูก็เข้าท่าดีทุกอารยะต่างก็มีความเชื่อของตนและเทพก็ถือเป็นสิ่งดีงามเขาไม่คิดขัดแย้ง

“พ่อช่วยอิงขอพรกับเทพราด้วยนะคะขอให้อิงกับพริมกลับไปเป็นคนรักกันเหมือนเดิม”

“หือ…ขอแทนกันได้ด้วยเหรอ” พ่อเลี้ยงยิ้มน้อยๆให้กับลูกสาวที่เหมือนย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กน้อยที่ช่างฝันและอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ

“สองแรงก็น่าจะดีกว่าแรงเดียวนี่คะ”

“ได้พ่อจะช่วยขออีกแรง” อิงฟ้าโน้มตัวไปกอดผู้เป็นพ่อด้วยความซาบซึ้งพ่อเติมเต็มหัวใจให้เธอได้เสมอ

“ขอบคุณนะคะพ่อขอบคุณที่พ่ออยู่ข้างอิงเสมอ ไม่ว่าอิงจะทุกข์หรือสุข ถูกหรือผิด”

“มันคือความรัก สองพ่อลูกกระชับกอดกันแน่นด้วยความเต็มตื้น งดงามจริงหนอความรัก รักจากจิตที่พิสุทธิ์




 

Create Date : 08 มกราคม 2557    
Last Update : 10 มกราคม 2557 9:37:26 น.
Counter : 565 Pageviews.  

Love is… Special 2

พริมรตาเดินลงมาจากห้องด้วยอารมณ์หงอยเหงาเกือบสองเดือนแล้วที่เธอเลิกราและเดินออกมาจากคนที่ยังรักสุดหัวใจ และไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะมีวันไหนไหมที่เธอจะเลิกรักผู้หญิงคนนี้ได้พี่อิงเป็นผู้หญิงที่สวยเท่และมีเสน่ห์มากแถมยังรวยมหาศาลก็ไม่แปลกที่จะมีคนมากมายทั้งชายและหญิงเข้ามาขายขนมจีบผู้หญิงหลายคนที่รู้รสนิยมของพี่อิงก็แทบจะเอาตัวเองใส่พานมาประเคนที่สำคัญหล่อนๆพวกนั้นก็ตระกูลดีสวยระดับนางฟ้านางสวรรค์กันทั้งนั้นแล้วจะไม่ให้เธอหึงเธอหวงได้ยังเมื่อคิดถึงตรงนี้พริมรตาก็สะบัดหัวเบาๆหวังให้เรื่องราวต่างๆในสมองที่เกี่ยวกับผู้หญิงใจร้ายคนนี้ได้หล่นหายไปบ้าง

หญิงสาวเดินออกไปที่สวนหลังบ้านหวังชื่นชมสวนสวยให้คลายเหงา อีกสองอาทิตย์เธอก็คงไม่เหงาแบบนี้แล้วเพราะเธอได้รับงานเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัย4 แห่งในกรุงเทพฯทั้งรัฐบาลและเอกชนหลังจากนั้นเธอคงเริ่มทำร้านและสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใหม่เพราะแบรนด์เก่าได้ขายลิขสิทธิ์ให้กับคนอื่นไปแล้วในตอนที่เธอตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่กับพี่อิงที่เชียงรายเธอตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่กรุงเทพฯเพื่อไปช่วยกิจการงานต่างๆของคนรักที่มีมากมายจนเธอนึกสงสารทุกข์ของคนรวยก็แบบนี้ เมื่อมันมีมากจนเหลือเฟือก็ต้องเหนื่อยหนักรักษาและเพิ่มพูนมันไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด

“คุณพริมคะ” พริมรตาหันมอง

“สายจากคุณอิงค่ะ”ป้าผ่องรายงานพริมรตานัยน์ตาสั่นระริกเมินหน้าไปอีกทางเพราะอยู่ๆนัยน์ตาก็มีหยดน้ำผุดออกมาหยดน้ำแห่งความน้อยใจ

“บอกว่าพริมไม่อยู่”พริมรตาตอบสั้นและนิ่งไป ป้าผ่องก็ไม่เซ้าซี้ให้รำคาญใจรีบไปทำตามที่นายหญิงน้อยที่ตนรักสั่ง

อิงฟ้าวางสายโทรศัพท์เชื่องช้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยากแค่อยากจะได้ยินเสียงสักนิดก่อนจะตามขึ้นไปง้อที่กรุงเทพฯก็ไม่ได้ ทำไมหล่อนถึงใจร้ายแบบนี้เมื่อตัดพ้อคนรักจนพอใจเหมือนอิงฟ้าจะคิดอะไรได้จึงรีบกดโทรออกอีกครั้งเพื่อนรักน่าจะมีทุกคำตอบให้กับเธอ

“ปลายฉันมีเรื่องแปลกจะเล่าให้แกฟัง”อิงฟ้าพร่ำพูดทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เพื่อนรักฟัง

“แกชักจะบ้าไปกันใหญ่ละ”นี่คือสิ่งที่ปลายฟ้าตอบกลับมา

“หือไหงซ้ำเติมกันแบบนี้หละ” อิงฟ้าชักฉุนเพราะหวังความเข้าใจและความเห็นใจจากเพื่อนสาวคนสนิท

“ซ้ำเติมอะไรก็แกเลิกกับพริมไปตั้งแต่ปีมะโว้อย่างที่พ่อแกพูดจริงๆ”

“หมายความว่าไง”คำตอบของเพื่อนรักยิ่งพาให้มึนตึบ

“ก็แกเลิกกับพริมไปเกือบสองเดือนแล้วแกบอกว่าพริมงี่เง่าเอาแต่ใจจนแกไม่ไหวจะทนไงแกจำไม่ได้เหรอ”

“บร้า! ใครจะไปพูดแบบนั้น” อิงฟ้าเสียงสูง ใช่! เธอจำได้ว่าไม่เคยพูดแค่คิดเท่านั้นเอง เหอ เหอ

“แต่เมื่อคืน แก ฉันและคุณเมยัง…” อิงฟ้ายังไม่ยอมจนทาง

“ยังอะไร!? เมื่อคืนแกก็ยังเมามายหัวราน้ำอย่างทุกวันไงแกรู้ไหมยิ่งแกเป็นแบบนี้คุณเมของฉันก็ยิ่งไม่สบายใจเพราะรู้สึกผิดอยู่ตลอดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ”ปลายฟ้าหลุดพูดความในที่พาให้อึดอัดใจกันมานานอิงฟ้าอึ้งไปกับหลายสิ่งที่ได้ฟังจากปากเพื่อนสนิทนึกอยากจะโกรธในความไม่เข้าใจของเพื่อนรักแต่ฟังไปฟังมาเหมือนตัวเองเป็นตัวต้นเหตุยังไงก็ไม่รู้

“ทบทวนตัวเองบ้างนะอิงฉันรักแกนะเพื่อน” พูดจบปลายฟ้าก็ตัดสายไปทิ้งให้ปลายสายค้างเติ่งอยู่กับคำถามมากมายที่มันบานปลายไปเรื่อยแบบไม่มีที่สิ้นสุด

อิงฟ้าจัดการเก็บของใช้ส่วนตัวเล็กๆน้อยๆใส่กระเป๋าสายตาเหลือบไปเห็นกล่องไม้ของฝากจากเพื่อนสนิทกล่องไม้ถูกหยิบขึ้นมาเปิดดูและนาฬิกาที่อยู่ข้างในก็ถูกหยิบออกมามือเรียวเปิดล็อกเก็ตออกดูชื่นชมในความงดงามเธอชอบมันนะชอบในความคลาสสิกและความหมายแปลกๆที่เพื่อนบอกแต่ตอนนี้มีของที่ชอบก็ไม่รู้จะเอาไปอวดใครเพราะคนรักไม่อยู่ ‘คิดถึงพริมจัง’ อิงฟ้ารำพันกับตัวเองก่อนจะเก็บทุกอย่างให้เข้าที่

“แกจะไปไหน” พ่อเลี้ยงถามออกไปเมื่อเห็นลูกสาวแต่งตัวสวยหิ้วกระเป๋าสัมภาระกำลังจะเดินออกจากบ้าน

“ไปง้อพริมค่ะ”

“หือ” พ่อเลี้ยงเลิกคิ้วสูง

“ง้อทำไมเบื่อเขานักหนาไม่ใช่เหรอ”

“เบื่ออะไรกันคะ”ตานี้อิงฟ้าเลิกคิ้วสูงบ้าง

“ก็แกพูดอยู่บ่อยๆว่าเบื่อที่หนูพริมเขาขี้หึง ขี้วีน และชอบเอาแต่ใจ”

“หือ…อิงเคยพูดแบบนั้นเหรอคะ” อิงฟ้ามึนงงไปกับคำบอกเล่าของพ่อเธอว่าเธอแค่คิดเองนะ

“ก็ใช่หนะซิ” พ่อเลี้ยงยืนยัน

“อิงเป็นคนรักที่แย่จังนะคะ”อิงฟ้าเสียงหงอยจนคนเป็นพ่อนึกสงสาร

“อิงรู้ไหมว่าหนูพริมกับแม่ของอิงนิสัยแทบไม่ต่างกันเลย”

อิงฟ้าสนใจเรื่องนี้จึงวางกระเป๋าและเดินไปนั่งลงใกล้ๆพ่อ

“อิงอยากฟังต่อ”พ่อเลี้ยงมองลูกสาวตัวโตที่ยังเป็นเด็กน้อยทางความคิดในบางเรื่อง

“แล้วอิงรู้ไหมว่าทำไมแม่ของอิงถึงเป็นแบบนั้นเป็นอย่างที่หนูพริมเป็นในวันนี้”

“เพราะรักค่ะ”อิงฟ้าตอบกลับได้ทันทีแล้วใจก็สลดวูบไปกับคำตอบของตัวเอง ใช่!เพราะพริมรักเธอ เธอรู้แต่เธอกลับมองข้ามมันไปและเห็นแต่ข้อเสียเธอนี่มัน!...

“ใช่ เพราะรัก”ผู้เป็นพ่อยิ้มน้อยๆให้กับลูกสาวของตน

“อิงรู้ไหมว่าสมัยหนุ่มๆนะพ่อเป็นหนุ่มหล่อเลยแหละสาวๆตามกันเกรียวแถมยังรวยมากอีกด้วยถึงเมื่อก่อนจะไม่ได้ร่ำรวยขนาดนี้แต่ก็ไม่ใช่กะโหลกกะลาที่ใครจะมาดูถูกได้”

“แล้วทำไมพ่อถึงเลือกแม่หละคะ”อิงฟ้าถามอย่างสนใจ เธอสนใจทุกเรื่องของแม่แต่ที่ไม่ค่อยได้คุยเรื่องแม่กับพ่อเพราะไม่อยากให้พ่อสะเทือนใจและเป็นทุกข์เพราะคิดถึงแม่แต่วันนี้พ่อเปิดประเด็นมาเองเธอขอถือโอกาสยิงยาวเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับแม่เลยละกัน

“เพราะแม่เป็นคนดีที่รักพ่อพ่อรักในความดีและรักในความรักที่แม่มีต่อพ่อ” ผู้เป็นพ่อน้ำตาคลอซาบซึ้งในความรักที่มีต่อกันของตนกับภรรยา

“จำไว้นะอิงว่าในชั่วชีวิตหนึ่งของคนเราไม่ง่ายเลยที่เราจะได้เจอคนที่เรารักและรักเราในคนคนเดียวกัน ในเวลาที่เหมาะถ้าลูกได้เจอแล้วลูกต้องเกาะเขาไว้ให้แน่นๆและรักษาเขาไว้ให้อยู่กับเราไปตลอดเพราะลูกจะไม่มีวันรู้เลยว่า ในชั่วชีวิตลูกหลังจากนี้ลูกจะได้เจอแบบนี้อีกไหม”

“ค่ะพ่อ” คำพูดของพ่อทำให้อิงฟ้ารู้สึกเหงาจับใจถ้าตนจะต้องสูญเสียคนที่รักไปจริงๆ

“พริมรักลูกมากพ่อดูออก” อิงฟ้าทำเพียงพยักหน้าน้อยๆเธอรู้ แต่ก่อนนั้นเธอไม่ได้ให้ความสำคัญคงเพราะเธอหลงตัวเองว่าเขารักมากและไม่มีวันที่เขาจะจากไปไหน

“อิงรู้ไหมว่าพริมไม่เคยขึ้นห้องไปนอนก่อนลูกจะกลับเลยไม่ว่าจะอิงจะกลับดึกสักแค่ไหน”

“หือ จริงเหรอคะก็อิงเห็น…” ใช่! เธอกลับมาถ็เห็นหล่อนนอนหลับไปแล้วเสมอ

“เขาจะเดินขึ้นไปตอนที่รถอิงขับเข้ามาจอดแล้ว”

“ทำไม…” ใช่! เธอสงสัยว่าทำไมพริมต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องรอแล้วทำไมต้องไม่ให้เธอรู้ว่ารอ

“พ่อเคยถามแล้วพริมบอกว่าไม่อยากให้อิงเป็นห่วงและไม่สบายใจ” อีกแล้วที่เธอรู้สึกแย่ช่วงหลังๆที่เธอกลับดึกบ่อยๆเพราะอยากจะประชดพริม ที่ชอบคิดไปเองว่าเธอไปมีใคร

“อิงแย่มากๆเลยค่ะพ่อ”

“พ่อรู้” พ่อเลี้ยงยังคงรอยยิ้มละไมบนใบหน้า

“อิงเป็นเงาสะท้อนของพ่อเป็นกระจกที่ส่องให้พ่อเห็นตัวเองในวัยหนุ่ม”

“ทำไมพ่อไม่บอกอิงเรื่องพวกนี้บ้าง”ลูกสาวนึกตัดพ้อ

“เรื่องบางเรื่องเราก็เรียนรู้มันไม่ได้จากการฟังหรอก เราต้องเรียนรู้มันจากประสบการณ์จากการสูญเสีย”อิงฟ้านิ่งไป

“ตอนนี้อิงรู้แล้วว่ารักมันมีค่ามากขนาดไหนได้รู้ตอนที่อิงเสียมันไปแล้ว แต่จากนี้ไปอิงก็จะไม่มีวันเสียมันไปอีกเพราะอิงได้เรียนรู้แล้วว่าจะดูแลมันยังไง”

“แล้วเกิดไปง้อแล้วเขาไม่คืนดีด้วยหละคะ”อิงฟ้าเสียงอ่อยนึกขี้ขลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็พริมทั้งเด็ดขาดและใจแข็งแถมเธอยังร้ายกาจกับหล่อนสารพัด เวรแท้ๆหนอ

“ไม่ลองก็ไม่รู้ แต่พ่อเชื่อว่าหนูพริมรักลูกของพ่อมาก”

“งั้นอิงไม่ไปกรุงเทพฯละแต่พ่อต้องช่วยอิงนะคะ” อิงฟ้านัยน์ตาเป็นประกาย

อิงฟ้าเดินกลับขึ้นมาบนห้องวางกระเป๋าลงบนเตียงที่เธอไม่เล่าความแปลกที่เกิดขึ้นให้พ่อฟังเพราะเล่าไปก็ไม่แคล้วจะเหมือนกับที่เล่าให้เพื่อนสนิทฟังแต่เรื่องต่างๆที่มันเกิดขึ้นกับเธอมันก็ช่างไม่มีเหตุผลเสียจริงๆทะเลาะกับคนรักอยู่ดีๆตื่นเช้ามาพ่อกลับบอกว่าเธอกับคนรักเลิกรากันไปนานแล้วนี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆแล้วมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงหญิงสาวตั้งคำถามนี้กับตัวเองเป็นร้อยรอบแต่ก็ไม่ได้คำตอบชีวิตเธอมีอะไรผิดแปลกไปบ้างหรือเปล่านะถึงมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นเมื่อสิ้นความคิดนี้อิงฟ้าจึงหันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอากล่องไม้ที่เพื่อนรักซื้อมาให้ออกมาเปิดดูสิ่งนี้แหละที่แปลกประหลาดที่สุดเพราะได้มาตอนกลางคืนเช้าก็เกิดเรื่องแปลกๆเรื่องที่ความคิดและความรู้สึกของเธอที่มีต่อคนรักในด้านลบมันดังออกมาจนเขาได้ยินกันทั่วจนคนรักทิ้งไปแบบไม่ไยดี

ล็อกเก็ตถูกหยิบขึ้นมาส่องดูแต่ก็ยังไม่เห็นผิดสังเกตอะไรฝาของล็อกเก็ตถูกเปิดออก อิงฟ้าสำรวจภายในอย่างละเอียดแต่ก็หาประเด็นอะไรไม่ได้และตาของหญิงสาวก็มาหยุดอยู่ที่สัญลักษณ์ดาวหกแฉกและดวงอาทิตย์สิบสามแฉกหรือจะเกี่ยวกับความหมายที่ลึกซึ้งทางจิตวิญญาณอย่างที่ปลายบอก แล้วมันจะเกี่ยวกันยังไงหละหญิงสาวพยายามครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้คำตอบ คงต้องถามผู้ที่เธอคิดว่าน่าจะรู้




 

Create Date : 07 มกราคม 2557    
Last Update : 10 มกราคม 2557 9:36:53 น.
Counter : 582 Pageviews.  

Love is… Special 1

อยู่ๆประตูห้องทำงานของอิงฟ้าก็ถูกเปิดออกโดยไม่มีการเคาะให้สัญญาณทำให้สองร่างที่กำลังกอดกันอยู่ต้องแยกออกจากกันทันที

“พี่อิง” พริมรตาเรียกชื่อคนรักเสียงเบาหวิวก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป เมื่อได้สติอิงฟ้าจึงผละจากอีกคนและวิ่งตามอีกคนไป

“พริม พริม” อิงฟ้าร้องเรียกคนรักโดยไม่แคร์สายตาพนักงานนับสิบร่างบางได้ยินแต่ทำเป็นไม่ได้ยินรีบสาวเท้าให้เร็วสุดกำลังเธอไม่อยากเผชิญหน้ากับหล่อนตอนนี้ ผิดจากที่คิดซะที่ไหนเห็นตำตาว่ากอดกันกลมแบบนั้นจะมาบอกกับเธอว่าไม่มีอะไรอีกเหรอเมื่อคิดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลเอ่อออกมาเกินจะห้าม เมื่อมาถึงรถพริมรตารีบเข้าไปนั่งและขับออกไปทันทีทิ้งให้คนที่วิ่งตามมาทำได้แค่มองตามตาละห้อย ‘งานใหญ่เข้าละทีนี้’แต่หล่อนก็เอาแต่ใจใหญ่แล้วไม่คิดจะฟังเหตุผลกันบ้างเลยหรือไง

“คุณพริมหละคะ”หญิงสาวร่างบางคนที่อิงฟ้ายืนกอดอยู่เมื่อครู่เดินตามออกมา

“งอนกลับไปละค่ะ” อิงฟ้าบอกกล่าวเซ็งๆก่อนจะเดินกลับเข้าออฟฟิศ

“เมเป็นต้นเหตุ” เมรียายิ่งรู้สึกผิด ทำไมพระเจ้าต้องใจร้ายกับเธอขนาดนี้แค่เธอทุกข์ใจเรื่องของตัวเองก็แย่พอแล้ว เธอยังจะเป็นต้นเหตุสร้างปัญหาให้เพื่อนที่ดีรู้สึกแย่เหมือนกันอีก

“ไม่หรอกพริมก็เอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผลแบบนี้แหละ เดี๋ยวค่อยกลับไปเคลียร์” ทั้งคู่เดินตามกันเข้าไปในออฟฟิศอีกครั้งเพราะที่เมรียามาในวันนี้ไม่ใช่แค่จะมาดราม่าเรื่องส่วนตัวยังมีเรื่องงานด้วยเพราะเดิมเธอเป็นลูกค้าของอิงฟ้าที่กำลังจะพัฒนามาเป็นเพื่อนสะใภ้แต่ดันถูกเจ้าเพื่อนจอมติสต์ของเธอเข้าใจผิดซะก่อนเพราะเกิดไปเห็นเมยืนกอดอยู่กับชายหนุ่มแฟนเก่าที่แท้จริงคือแฟนเก่าของเมจะมาร่ำลาไปแต่งงานและกำลังจะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอก

“ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ” หญิงสาวไม่คลายความรู้สึกผิด ที่ก่อนหน้านั้นเธออ่อนแอจนต้องยืมไหล่ของอีกฝ่ายพักพิง

“ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ” อิงฟ้ายิ้มจริงใจ ก่อนจะพากันปรับอารมณ์และเข้าสู่โหมดของการทำงาน

ปลายฟ้าหญิงสาวรูปร่างสูงสมส่วนผมที่ยาวประบ่าถูกรวมมัดยาวเป็นหางม้า ลักยิ้มทั้งสองข้างของหล่อนสะดุดตาคนมองเสมอเมื่อหล่อนยิ้มหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านนัดหมายแบบเซ็งๆยังแซดไม่หายกับภาพนางในฝันยืนกอดอยู่กับชายหนุ่มแฟนเก่าขนาดไปพักรักษาใจที่ฝรั่งเศสมาเป็นอาทิตย์ก็ไม่ช่วยให้ความรู้สึกดีขึ้นมาเลย

หญิงสาวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวตรงข้ามเพื่อนสาว

“มาถึงก็หน้าเป็นตูดเลยนะ” อิงฟ้าทักทาย

“ถ้าตูดจะสวยขนาดนี้นะ” ปลายฟ้าค่อยยิ้มออกเมื่อได้ผ่อนคลายบ้าง บริกรเดินมาจัดเครื่องดื่มให้อย่างรู้ใจเพราะเป็นร้านประจำและหญิงสาวทั้งคู่ก็จัดเป็นลูกค้าVIP ของร้านนี้ คนหนึ่งก็ลูกสาวพ่อเลี้ยงที่ร่ำรวยจนแทบจะเป็นเจ้าของจังหวัดเชียงรายส่วนอีกคนก็ลูกสาวเจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ

“มีอะไรพิเศษถึงชวนออกมา”

“คิดถึงไม่ได้รึไง” อิงฟ้าหยอดกลับไปซะ

“หรือคิดจะกลับใจมากินไม้ป่าเดียวกัน”ปลายฟ้าทำหน้าทะเล้น

“หึ! ไม่เอาอ่ะ” อิงฟ้าส่ายหน้าพัลวันแค่คิดก็สยองละถ้าเอาแต่ใจตัวแม่อย่างเธอกับปลายฟ้ามาคบกันเชียงรายได้แตกเป็นเสี่ยงๆแน่ ที่สำคัญคือเธอมีคนที่รักจนหมดหัวใจอยู่แล้วเมื่อคิดถึงต้องนี้ก็ต้องกลัดกลุ้มใจต่อคืนนี้กว่าจะได้กลับไปง้อก็คงดึกเพราะต้องช่วยเพื่อนเคลียร์ปัญหาก่อน แต่จะกลายเป็นช่วยเขาเราเศร้าเองซะรึเปล่าก็ไม่รู้

“เป็นอะไรไป” ปลายฟ้าทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักเงียบไป

“มีปัญหากับพริมเหรอ”

“นิดหน่อย” อิงฟ้าตอบเซ็งๆก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม

“ของฝากจากฝรั่งเศส”ปลายฟ้าส่งกล่องไม้ขนาดพอดีมือส่งให้อิงฟ้า เป็นของเก่าที่เมื่อได้เห็นก็นึกถึงเพื่อนคนนี้ทันที

“ขอบใจ” อิงฟ้ายื่นมือไปรับกล่องมาถือไว้ก่อนจะก้มลงมองกล่องไม้ในมืออย่างสนใจเมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในเป็นล็อกเก็ตนาฬิกาพร้อมสายสำหรับคล้องคออิงฟ้าหยิบมันขึ้นมาดูนัยน์ตาเป็นประกายพอใจกับของในมือ

“ชอบไหม” ปลายฟ้าถามเพื่อนรัก

“ชอบมากเลยแหละ” อิงฟ้าเปิดล็อกเก็ตออกดูจึงเห็นว่าฝาบนด้านในของล็อกเก็ตมีรูปดาวหกแฉกนูนสวยในดาวหกแฉกยังมีรูปดวงอาทิตย์13 แฉกอีกด้วย

“แปลกดีนะ” อิงฟ้ารำพันออกมา

“คนขายบอกว่าดาวหกแฉกคือ สตาร์ ออฟเดวิด รูปสามเหลี่ยมที่ซ้อนกันสองอันเป็นตัวแทนแห่งชายและหญิง พลังงานคู่ตรงข้าม อำนาจของชายคือร่างกายอำนาจของหญิงคือวิญญาณรวมกันแล้วคือการประสานของร่างกายและวิญญาณ”

“หือ ฟังดูหลอนๆนะ”

“ไม่หรอกเรียกขลังต่างหาก”

“แล้วดวงอาทิตย์หละมีความหมายอะไรไหม” อิงฟ้าเงยหน้าขึ้นถาม

“มีซิ ดวงอาทิตย์มีเปลวเพลิง13แฉกสื่อถึงอาเมนราเทพแห่งดวงอาทิตย์ในตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์ของอียิปต์โบราณ เทพราเป็นดั่งบิดาแห่งมวลมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งหลาย”

“เขาตั้งใจทำหรือมั่วมาเนี่ย”อิงฟ้าไม่ค่อยเชื่อเรื่องทางจิตวิญญาณเท่าไหร่

“ก็ไม่รู้เหมือนกัน”ปลายฟ้าเจื้อยแจ้วไปทั้งที่ไร้สติเพราะกำลังพูดในสิ่งที่ตนไม่รู้เมื่อพูดออกไปแล้วก็ลืม

“ชนแก้วกันดีกว่า” อยู่ๆปลายฟ้าพูดขึ้นในประโยคที่ไม่ต่อเนื่อง แต่อิงฟ้าก็ไม่ได้สนใจโต้แย้งอะไรและอยู่ๆไฟในร้านก็ดับพรึ่บลงไปจนมืดสนิท เสียงอื้ออึงของแขกในร้านดังระงม เพียงอึดใจจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ของร้านที่อยู่ด้านข้างเวทีก็ค่อยๆเลื่อนลงมามีแสงไฟส่องสว่างเฉพาะบนจอไม่นานก็มีภาพชายหนุ่มที่ปลายฟ้าคุ้นตาขึ้นมาในภาพนั้นยังมีผู้หญิงและเด็กน้อยตัวจิ๋ววัยกำลังน่ารักที่รู้ได้ว่าเป็นผู้หญิงเพราะมีที่คาดผมสีหวานอยู่บนหัวปลายฟ้ามองภาพตรงหน้าอย่างสนใจแต่สมองยังคงว่างเปล่า

“ผมกับเมเลิกรากันไปนานแล้ว แล้วตอนนี้ผมกับครอบครัวก็กำลังจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษวันนั้นที่ผมกอดเม ผมกอดในฐานะเพื่อน เพื่อนที่เคยดีต่อกันมาก สำหรับผมเมเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งหากวันนี้จะมีใครที่ได้หัวใจเธอไปแล้วก็ขอได้โปรดเก็บรักษาหัวใจเธอไว้ให้ดีเพราะหัวใจของเธอคนนี้มีค่ามาก”พูดจบชายหนุ่มก็หันไปส่งยิ้มให้กับลูกสาวและภรรยาของตน และไฟบนจอมอนิเตอร์ก็ดับลงไปหากแต่สมองของปลายฟ้าก็ยังคงว่างเปล่าขาวโพลนเพราะยังปรับตัวไม่ทันกับเรื่องราวตรงหน้าไม่นานต่อจากนั้นไฟบนเวทีก็สว่างขึ้นบนเวทีมีภาพของหญิงสาวผมยาวในเสื้อแขนยาวสีขาวพอดีตัวกับกระโปรงตัวยาวจนถึงตาตุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้บนเวทีคู่กับชายหนุ่มอีกคนกับกีตาร์คู่ใจของเขาเสียงเกากีตาร์ค่อยๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานๆของหญิงสาว

*** อาจเคยไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงเลือกเธอในหัวใจอาจเคย

ได้เจอคนมากมายแต่สุดท้ายก็เป็นเธอ ที่คู่กัน

รัก…ไม่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ รัก… เชื่อมใจไว้ด้วยกัน

มีเพียงแต่ใจที่รู้ ใครคือผู้อยู่ในฝันเธอคือคนนั้นที่ฉันรอ

ก็เพราะใจมันขอเพราะใจเรียกร้อง เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเสมอไป

ก็เพราะใจของฉันไม่เคยหวั่นไหว อย่างไรก็ยังมั่นใจว่าใช่เธอ

ไม่มีเหตุผลที่มากมายแค่ใจฉันรักเธอ

หนึ่งคนที่ยืนเคียงข้างกัน ช่วงเวลาที่เป็นสุขหรือทุกข์ใจ

หนึ่งคนที่ยังคงเข้าใจ ก็คงไม่ใช่ใครอื่น เรารู้กัน

ก็เพราะใจมันขอเพราะใจเรียกร้อง เกิดมาเพื่อเป็นของเธอเสมอไป…

เมื่อเสียงร้องและดนตรีเงียบลงไปหญิงสาวร่างบางจึงวางไมค์และเดินลงจากเวทีหลายสายตาของแขกในร้านจับจ้องว่าหล่อนจะเดินไปยังที่ใด เมรียาหยุดยืนตรงหน้าของปลายฟ้าที่ดีดตัวลุกขึ้นตั้งแต่เห็นร่างบางเดินมาทางตน

“ฉันไม่รู้ว่าคุณคิดกับฉันยังไงแต่ฉันอยากจะบอกคุณว่าฉันรักคุณ” แขกในร้านมองสองสาวหน้าสวยด้วยความสนใจปลายฟ้ายังยืนนิ่งพาให้คนที่ใจกล้าเดินเข้าไปบอกรักใจหายเล็กๆคิดทำใจว่าคงเป็นรักข้างเดียวเกินจะสู้หน้ากันเมรียาจึงหันหน้าหนีหวังเดินออกไปแต่ก็ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนก็ต้องถลามาอยู่แนบอกของคนที่ตนเพิ่งบอกรักไป

“อะไรกันคะบอกรักเสร็จแล้วก็จะชิ่งเลยเหรอ” ปลายฟ้ากระชับกอดร่างบางแน่นก่อนจะกระซิบที่ข้างหูทำเอาหัวใจคนฟังที่กำลังถูกกอดอยู่พองโตจนแทบจะทะลักออกมาจากอก

“บ้า” เมรียาทั้งสุขใจทั้งนึกเคืองปนเป ใช้กำปั้นเล็กๆทุบคนตรงหน้าแก้เขินเมื่อเรื่องราวจบแบบHappy Endingแขกในร้านจึงพากันปรบมือเพื่อแสดงความยินดีแบบไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรกันมากนัก

แล้วสองสาวคู่รักพากันนั่งลงไปบนโซฟาตัวเดียวกัน

“ใครคิดแผนนี้เนี่ย”ปลายฟ้ามองเพื่อนสาวและคนรักสลับไปมา และก็ต้องหลุดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูเมื่อสาวร่างบางชี้มือไปที่อิงฟ้าในท่าทีไม่มั่นใจ

“นึกอยู่ละว่าต้องเป็นฝีมือจอมวางแผนอย่างแก”

“แล้วถ้าไม่มีจอมวางแผนอย่างฉันแกจะได้ลงเอยกับสาวสวยแสนดีราวกับนางฟ้าคนนี้เหรอ”อิงฟ้าลำเลิกบ้างด้วยความหมั่นไส้“ขอบคุณนะคะคุณอิงที่ช่วยให้เมกับปลายเข้าใจกันได้สักทีลำพังเมคนเดียวก็คงทำได้แค่ตัดใจ” เมรียาทำเสียงเหงาจนปลายฟ้าใจแป้วที่เป็นต้นเหตุให้คนที่ตนรักต้องทุกข์ใจ

“ฝันหรือไงว่าปลายจะยอมให้คุณตัดใจ” ปลายฟ้าเลิกสนใจเพื่อน หันมาสนใจสาวร่างบางพยายามมองเข้าไปนัยน์ตาของหล่อน

“ปลายรักทั้งรักทั้งหลงคุณจนแทบคลั่งแล้วจะปล่อยคุณไปง่ายๆได้ยังไง”

“แล้วที่เงียบหายไปเกือบสองอาทิตย์หละคะ”ร่างบางสบตากลับคาดคั้นเอาเหตุผลบ้าง

“ก็…ถ้าเมมีคนที่ใช่อยู่แล้ว ปลายก็จะยอมหลีกทางให้ไง” ปลายฟ้าเสียงอ่อย

“แล้วไม่คิดจะถามเม?”

“ก็…หึงมันขึ้นตาอ่ะ” อีกครั้งที่ปลายฟ้าเสียงอ่อยเพราะคดีนี้คนผิดคือตนเต็มๆ

“สัญญากับเมนะคะปลายว่าต่อไปเวลามีปัญหาอะไรเราจะคุยกัน ไม่เดินหนีกันแบบนี้” เมรียาซุกซบไปที่อกคนที่รักสุดหัวใจเธออ่อนแอได้เสมอถ้าเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้

“หวานกันพอรึยังเบาหวานจะขึ้นตาคนมองอยู่ละ เมื่อเข้าใจกันดีแล้วก็…ชนแก้ว”อีกครั้งที่เสียงชนแก้วดังกริ้งกร้างแต่ครั้งนี้ยาวนานไปจนดึกเพราะอยู่ในบรรยากาศชื่นมื่น

อิงฟ้าค่อยๆปรือตาขึ้นแต่ก็แสนจะยากลำบากคงเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เมื่อคืนเมื่อได้สติจึงพลิกตัววาดแขนหวังโอบกอดคนรักทั้งที่ยังหลับตา แต่… ว่างเปล่าความผิดปกติทำให้อิงฟ้าต้องลืมตาทันทีเมื่อสายตายืนยันความว่างเปล่าหญิงสาวจึงยันตัวลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป สาวร่างสูงก้าวเท้ายาวๆลงจากบันไดสายตาสาดส่าย ชะโงก ชะเง้อหาคนรักไม่หยุด

“มองหาใคร” พ่อเลี้ยงแสนคำถามออกไปเมื่อเห็นความผิดปกติของลูกสาว

“มองหาพริมค่ะ” อิงฟ้าตอบกลับนัยน์ตาใส

“หือ นี่แกบ้าหรือพ่อเพี้ยน”

“หือ พ่อพูดอะไรคะทำไมอิงจะต้องบ้าและพ่อจะต้องเพี้ยน” อิงฟ้าเลิกคิ้วสงสัย เดินลงจากบันได้ขั้นสุดท้ายตรงไปหาผู้เป็นพ่อที่นั่งดื่มชาร้อนอยู่ที่โต๊ะรับแขกหญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตรงข้ามผู้เป็นพ่อ

“ขอกาแฟเข้มๆ” อิงฟ้าหันไปสั่งแม่บ้านก่อนจะกลับมาสนใจพ่อของตนแล้วสองพ่อลูกก็มองหน้ากันงงๆ

“จริงๆ ไม่แกก็ฉันต้องมีสักคนที่เพี้ยน” พ่อเลี้ยงเองก็ชักเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองเพียงอึดใจแม่บ้านก็นำกาแฟมาเสิร์ฟ

“ขอบใจ” ตอนนี้อิงฟ้าต้องการคาเฟอีนในกาแฟอย่างมากเพื่อจูนสมองส่วนที่กำลังงงๆเบลอๆสายตาเหลือบไปมองถ้วยชาว่ายังมีน้ำชาอยู่หรือเปล่า เป็นห่วงว่าพ่อก็กำลังต้องการคาเฟอีนจากชาเหมือนกันเมื่อพ่อเลี้ยงเห็นลูกสาวยกกาแฟขึ้นดื่มจึงยกชาของตัวเองขึ้นดื่มบ้าง

“พ่องงกับแกที่พูดว่าแกมองหาหนูพริมเพราะแกกับหนูพริมเลิกกันไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว”

“พรึ่ด อิงฟ้าถึงกับสำลักเมื่อได้ยินที่พ่อพูด

“อะไรนะคะ อิงกับพริมเลิกกันพ่อเอาที่ไหนมาพูดก็เมื่อคืน”

อิงฟ้ากำลังย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

“หยุดคิดมากและขี้หึงไร้สาระสักทีได้ไหม”อิงฟ้ากำลังหัวเสียกับคนรักที่กำลังงอแงไม่เข้าท่า

“ก็ถ้าไม่มีอะไรจริงๆแล้วทำไมพี่อิงต้องเมามายกลับดึกแบบนี้ด้วยแล้วที่พริมเห็นกับตาว่ายืนกอดกันกลมแบบนั้นพี่อิงยังจะมาบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอคะ”พริมรตาก็กำลังหัวเสียระคนน้อยใจที่อีกฝ่ายมีท่าทีหงุดหงิดและรำคาญใส่ตนทั้งที่ตัวเองเป็นคนผิดแท้ๆ

“โอเคก็ถ้าพี่พูดอะไรไปแล้วพริมไม่ฟังกันแบบนี้ เราก็ไม่ต้องมาพูดอะไรกันอีก” พูดจบสาวร่างสูงก็เดินโซซัดโซเซขึ้นห้องไปหวังตัดปัญหามีอะไรไว้ค่อยเคลียร์ตอนเช้าเพราะเธอง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว

“ได้ ถ้าพริมมันน่ารำคาญนักเราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”เป็นเสียงที่ดังไล่หลังมาแต่ก็ไม่ทันที่คนตัวสูงจะตอบกลับอะไรเพราะสติดับไปแล้วด้วยความเมามายในจิตสุดท้ายก่อนหลับใหลเธอเบื่อหน่ายกับอาการงี่เง่าเอาแต่ใจและขี้หึงไร้สาระของคนรักใครก็ได้เอาสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกไปจากหล่อนที เมื่อความคิดนี้ของอิงฟ้าสิ้นไปอยู่ๆกล่องไม้ในมือก็มีแสงไฟลอดออกมาและดับแสงลงไปในไม่ช้า

“เมื่อคืนอะไร?เมื่อคืนแกก็เมาหัวราน้ำอย่างทุกวันไง”

“แต่เมื่อคืน” อิงฟ้ายังนึกสับสนก็เมื่อคืนเธอเพิ่งจะทะเลาะกับพริมที่เข้าใจผิดเรื่องเมแล้วทำไม…?

“อิงเลิกกับพริมไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะพ่อ”อิงฟ้าตั้งคำถามจริงจัง จนผู้เป็นพ่อกลัวใจว่าลูกสาวจะมีอันเพี้ยนไปจริงๆ

“แกเพี้ยน” พ่อเลี้ยงแสนคำพูดอ่อยๆนึกทำใจว่าลูกสาวไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว

“ไม่ค่ะพ่อ อิงไม่ได้เพี้ยนพ่อได้โปรดเล่าทุกอย่างให้อิงฟัง นะคะพ่อ” หญิงสาวส่งสายตาวิงวอนเธออยากรู้ทุกเรื่องระหว่างเธอกับพริมโดยละเอียดเพราะเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มันเหลือเชื่อเกินไปก็เธอจะยอมเลิกกับพริมง่ายๆได้ยังไง ก็เธอรักหล่อนจนหมดหัวใจแบบนั้น

“งั้นแกก็จงตั้งใจฟังพ่อให้ดีๆ”พ่อเลี้ยงแสนคำเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น หลายเรื่องอิงฟ้าพอจะจำได้แต่หลายเรื่องก็ยังมึนๆงงๆ

“สุดท้ายหนูพริมก็ขนข้าวของกลับบ้านเขาไปเพราะน้อยใจที่แกไม่ใส่ใจและปันใจไปกับคนอื่นด้วย”คนอื่น…? อิงฟ้าคิดตามที่พ่อพูด ใคร?

“คนอื่น? ใครคะ?” “ก็หนูเมไง” พ่อเลี้ยงตอบกลับทันควัน

เม? เมรียาเหรอ นั่นเพื่อน!! อิงฟ้ายิ่งสับสนกับข้อมูลที่ได้รับฟังอะไร? ทำไม? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย ถ้าเธอกลับขึ้นไปนอนแล้วตื่นขึ้นมาใหม่เรื่องบ้าๆแบบนี้มันจะหายไปไหมพ่อเลี้ยงมองตามลูกสาวที่เดินเอื่อยๆขึ้นบันไดไป อิงฟ้าเปิดประตูห้องนอนเดินเข้าไปในหัวใจหนาวเหน็บเกินบรรยายเมื่อแน่ใจแล้วว่าคนรักไม่อยู่แล้วจริงๆร่างสูงเดินไปนั่งบนที่นอนฝั่งของพริมรตาฝ่ามือลูบไล้หาไออุ่นของคนที่รักสุดหัวใจใช่! เธอรักพริมรตาสุดหัวใจ 




 

Create Date : 06 มกราคม 2557    
Last Update : 10 มกราคม 2557 9:36:24 น.
Counter : 786 Pageviews.  

เปิดจอง Love is...

เปิดจอง Love is ... อย่าเป็นทางการนะคะ

หนังสือจะทำการจัดพิมพ์เมื่อมียอดจองเข้ามา 30 เล่ม

สั่งจองโดยโอนเงินจำนวน 430 บาท(รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน)

EMS เพิ่ม 30 บาท

มาที่ บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)

กฤชรัช บุญรวม ( kritcharat boonruam )

เลขบัญชี 089-253768-7

ออมทรัพย์

สาขาบางจาก

หลังจากโอนแล้ว แจ้งวันและเวลาโอนมาโดยละเอียดก็พอค่ะ (บางทีแนบไฟล์มา ใหญ่มากๆ ก็เป็นปัญหากับการเปิด เหอ เหอ)

ไฟล์ PDF พร้อมส่ง ราคา 200 บาท

"ความรักไม่ใช่ทุกอย่าง...แต่เธอคือทุกอย่างในความรักของฉัน"




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2556    
Last Update : 15 ธันวาคม 2556 15:50:47 น.
Counter : 445 Pageviews.  

1  2  3  4  

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.