วันนี้คนมาถือศีลปฏิบัติธรรมไม่เยอะเพราะเป็นวันธรรมดาวัดเลยค่อนข้างดูโหวงเหวง พาให้ใจเราหวั่นไหวพอควรสมองเราก็ไปคิดถึงแต่ตำนานหลอนๆที่พี่ๆเพื่อนๆอาสาชอบเอามาเล่าสู่กันฟัง แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้นวิกฤติของของความหลอนที่ใจเราปรุงแต่งมันขึ้นมาเองสองเท้าเดินไปข้างหน้าตามแสงที่ไฟฉายส่องสว่างผ่าความมืดไปยังศาลา
บนศาลาตอนนี้พระภิกษุกำลังทยอยเข้ามามีแม่ชีที่อยู่ประจำรวมพี่อรด้วยและคนที่มาถือศีลรวมกันไม่ถึงสิบคน เราชอบบรรยากาศที่ผู้คนบางตาแบบนี้เพราะมันไม่วุ่นวายดี
เราเข้าไปนั่งบนเบาะรองนั่งที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้พร้อมกับหนังสือสวดมนต์เมื่อได้เวลาพระท่านก็นำสวดทำวัตรเช้าเสียงสวดมนต์ดังกึกก้องไปทั่วศาลาแต่กลับให้ความรู้สึกสงบอย่างประหลาด
เมื่อสวดมนต์เสร็จพระอาจารย์เหลือท่านได้เทศน์เรื่องการทำสมาธิท่านว่าจิตของคนทั่วๆไปที่ไม่เคยทำสมาธินั้นมักจะมีสภาพเหมือนม้าป่าพยศที่ยังไม่เคยถูกจับมาฝึกให้เชื่องมีการซัดส่ายไปในทิศทางต่างๆอยู่เป็นประจำ การทำสมาธินั้นก็เหมือนกับการจับม้าป่านั้นมาล่ามเชือกหรือใส่ไว้ในคอกเล็กๆไม่ยอมให้มีอิสระตามความเคยชินเมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ม้านั้นก็ย่อมจะแสดงอาการพยศออกมา โดยจะมีอาการดิ้นรนกวัดแกว่ง ไม่สามารถอยู่อย่างนิ่งสงบได้ ถ้ายิ่งพยายามบังคับควบคุมมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งดิ้นรนขัดขืนมากขึ้นเท่านั้น การจะฝึกม้าป่าให้เชื่องโดยไม่เหนื่อยมากนั้นต้องใจเย็นๆโดยเริ่มจากการใส่ไว้ในคอกใหญ่ๆแล้วปล่อยให้เคยชินกับคอกขนาดนั้นก่อน จากนั้นจึงค่อยๆลดขนาดของคอกลงเรื่อยๆม้านั้นก็จะเชื่องขึ้นเรื่อยๆโดยไม่แสดงอาการพยศอย่างรุนแรงเหมือนการพยายามบีบบังคับอย่างรีบร้อนเมื่อม้าเชื่องมากพอแล้วก็จะสามารถใส่บังเหียนแล้วนำไปฝึกได้โดยง่าย การฝึกจิตก็เช่นกันถ้าใจร้อนคิดจะให้เกิดสมาธิอย่างรวดเร็วทั้งที่จิตยังไม่เชื่อง จิตจะดิ้นรนมากและเมื่อพยายามบีบจิตให้นิ่งมากขึ้นเท่าไหร่จิตจะยิ่งเกิดอาการเกร็งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นจะหมายถึงความกระด้างของจิตที่เพิ่มขึ้นโดยจิตที่เกร็งจะเป็นจิตที่กระด้าง ซึ่งต่างจากจิตที่ผ่อนคลายจะเป็นจิตที่ประณีตกว่าแล้วยังจะทำให้เหน็ดเหนื่อยอีกด้วย ถึงแม้บางครั้งอาจจะบังคับจิตไม่ให้ซัดส่ายได้แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าจิตมีอาการสั่นกระเพื่อมอยู่ภายในตลอดเวลา เหมือนการหัดขี่จักรยานใหม่ๆที่ถึงแม้จะเริ่มทรงตัวได้แล้วแต่ก็ขี่ไปด้วยอาการเกร็งซึ่งการขี่ในขณะนั้นนอกจากจะเหนื่อยแล้ว การทรงตัวก็ยังไม่นิ่มนวลราบเรียบอีกด้วยซึ่งจะต่างกันมากเมื่อเปรียบเทียบกับการขับขี่ของคนที่ชำนาญแล้วที่จะสามารถขี่ไปได้ด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายอย่างสบายๆ ราบเรียบ นุ่มนวลไม่มีอาการสั่นเกร็ง
จากนั้นท่านก็นำทำสมาธิเนิ่นนานกับใจที่ถูกชักจูงให้ปล่อยวาง ใจที่สงบและเป็นสุข เราอยากจะนั่งสมาธิแบบนี้ไปเรื่อยๆแต่หากมันไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะใจเราไปยึดกับความสงบเป็นจิตที่ติดสุขเมื่อมีสติต้องรีบกำจัดมันออกไปและวางเฉยกับทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรายากเหลือเกินกับการทำสมาธิเพื่อให้เกิดผลสมบูรณ์คงเพราะมีทุนมาน้อย แต่แค่เราเริ่มต้นฝึกและมีใจฝักใฝ่มาทางนี้ก็ถือว่าเราโชคดีกว่าหลายคนมากแล้ว
เสร็จสิ้นกระบวนการทำวัตรเช้าเราก็เดินกลับมาที่ศาลาเอนกประสงค์จัดการเช็ดถูและเก็บกวาดใบไม้ด้านหน้าสมองพาลพาให้คิดถึงจูน ถ้าเป็นปกติจูนจะเกาะติดเราเป็นเงาตามตัวเลยแหละหากเราอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะกิน เดิน นอน นั่ง หลับหรือตื่น แต่ก็นะจะคิดถึงให้มันได้อะไร เมื่อวันนี้ใจจูนไม่เหมือนเดิมแล้ววันนี้จูนไม่ได้มีแค่เราความรักก็มีสัจธรรมเหมือนกับทุกสิ่ง คือมีเกิดขึ้นและดับลงไปได้เช่นกันความเข้าใจจะเป็นเกราะป้องกันใจเราจากความรู้สึกผิดหวังและเศร้าตรมแต่ตอนนี้ความเข้าใจในใจของเรามีความเข้มข้นน้อยไปกว่าอคติในใจเพราะเรายังมีความรู้สึกผิดหวังและเศร้าหมอง
พัสมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ออยขับรถผ่านมาเห็นเราพอดี ออยเป็นสาวอีสานที่ตาคมโตเหมือนเราสูงพอๆกับเรา เกิดเดือนเดียวและปีเดียวกับเรา รถที่ออยขับเป็นรถกระบะตอนเดียวเป็นรถวัดที่สภาพดีที่สุด
มาเมื่อวาน พี่โอ่งสวัสดีค่ะ พี่โอ่งนั่งมาในรถกับออยน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่อร
ออยกับพี่โอ่งสบายดีรึป่าวออยกับพี่โอ่งเป็นสามีภรรยากัน แรกเริ่มคือพี่โอ่งมาบวชที่นี่ เกิดปีติมีใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและเลื่อมใสในพระอาจารย์มุนีย์มากตอนที่พี่โอ่งสึกออกมาเป็นฆราวาสเป็นช่วงปีพ.ศ. 2554 ที่เกิดอุทกภัยไปทั่วประเทศ พี่โอ่งจึงได้มีโอกาสติดตามรับใช้ใกล้ชิดพระอาจารย์มุนีย์ตอนที่ท่านออกบิณฑบาตไปทั่วประเทศเพื่อนำปัจจัยและข้าวของไปช่วยผู้ประสบภัยหลังจากนั้นพี่โอ่งจึงมีศรัทราอย่างแรงกล้าที่จะอยู่ติดตามรับใช้พระอาจารย์มุนีย์ออยเองก็มีความเป็นคนใฝ่ดีเป็นทุนอยู่แล้วจึงไม่ยากเลยที่พี่โอ่งจะชักจูงเข้ามาสู่ทางธรรม
ก็เดิมๆไปทางเหนื่อยๆ ออยตอบ ส่วนพี่โอ่งได้แต่ยิ้มเพราะไม่ถนัดพูด
คู่หูไม่มาเหรอ ออยหมายถึงจูน
ไม่มา ทำงาน เราตอบกลับยิ้มๆ
ไปก่อนละเดี๋ยวไปเจอกันที่ศาลานะ ออยหมายถึงศาลาที่พระท่านฉันท์เช้า เด็กวัดอย่างเราๆก็รอกินข้าวก้นบาตร
จ้ะเรายืนมองรถของทั้งคู่เคลื่อนออกไปจนลับตารู้สึกยินดีกับทั้งคู่อยู่ในใจที่ทั้งคู่มีโอกาสได้ร่วมสร้างบุญกุศลร่วมกันอยู่ทุกวี่วันถ้าเรามีโอกาสเราก็อยากมีคนรักแบบนี้คนที่เข้าใจที่จะพากันร่วมสร้างสรรค์แต่สิ่งที่ดีๆ
ไปกินข้าวกันได้แล้ว เสียงพี่อรเราจัดการวางข้าวของในมือและวิ่งไปล้างมือก่อนจะเดินไปที่ศาลากับพี่อร คนในศาลาบางตาเพราะเป็นวันธรรมดาที่นี่จะมีคนมากในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เมื่อพระท่านพิจารณาตักอาหารเสร็จและเดินกลับมานั่งจนครบทุกรูปจากนั้นท่านก็ได้สวดมนต์ให้พรเสร็จสิ้นพิธีอุบาสกอุบาสิกาจึงทยอยกันลุกขึ้นไปตักอาหาร
เราชอบอาหารที่นี่เพราะถูกปากและมีประโยชน์โดยเฉพาะสารพัดน้ำพริกที่แม่ครัวของที่นี่หมุนเวียนจัดทำแกล้มกับสารพัดผักที่เก็บมาจากแปลงเกษตรที่เรามีโอกาสได้เข้าไปช่วยถากหญ้าเพาะปลูก รดน้ำ พรวนดิน
อาหารจะมี 2 ส่วนส่วนหนึ่งจากที่พระท่านออกไปบิณฑบาตอีกส่วนหนึ่งทำเพิ่มขึ้นจากโรงครัวเพื่อให้เพียงพอต่อพระสงฆ์บุคลากรในวัดและผู้ที่มาถือศีลภาวนาภาชนะที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ใส่อาหารเป็นชามใบใหญ่ที่มีขนาดใกล้เคียงกะละมังทุกคนจะพิจารณาอาหารก่อนตักด้วยความสงบแต่หลายครั้งที่อยากจะพูดไปแต่พูดไม่ได้เพราะคงเป็นความไม่เหมาะสมคือช่วยพิจารณาอาหารกันเร็วๆหน่อยได้ไหม เพราะเรื่องกินไม่ใช่ปัจจัยหลักชีวิตยังมีเรื่องสำคัญให้พิจารณาอีกมากมาย
รีบกินนะแกเดี๋ยวเต๋อจะเข้ามารับตอนเก้าโมงครึ่งพี่อรมานั่งด้วย เราพยักหน้ารับทราบก่อนจะก้มหน้าสนใจจัดการเอาอาหารในถาดใส่กระเพาะ
เต๋อขับรถเข้ามาจอดหน้าศาลาเอนกประสงค์เมื่อได้เวลานัดหมาย
สวัสดีครับเจ๊ เต๋อยกมือไหว้พร้อมกล่าวสวัสดี เรานี้ยกมือรับไหว้แทบไม่ทันไม่ชินสักทีกับการรับไหว้เต๋อ ก็ความจริงแล้วเต๋ออายุมากกว่าเราตั้งสี่ปีแต่มันเริ่มต้นกันมาแบบนี้เราก็ไม่กล้าจะแก้ไขกลัวเต๋อจะรู้สึกเสียหน้า
ตอนแรกที่เจอกันเราก็นึกว่าเต๋อว่าเป็นรุ่นน้องจริงๆเพราะเห็นเต๋อพุ่งพรวดเดินเข้ามาสวัสดีอาจจะเป็นเพราะเห็นเราสนิทกับพี่อรเลยคิดว่าอายุเราน่าจะใกล้เคียงพี่อรแต่เราดูแก่แบบนั้นเลยเหรอ?
สบายดีไหมเต๋อ
สบายดีครับ ตอนนี้ผมกำลังจะทำแพพอดีได้ที่มรดกติดแม่น้ำ
ว้าว สุดยอดมากๆไว้เจ๊จะไปอุดหนุนนะ
สำหรับเจ๊พัสน์ฟรีสถานเดียว เต๋อส่งยิ้มจริงใจยิ้มของคนที่ใจดีมีเมตตา
เจ๊จูนล่ะครับ
จูนไม่มา ทำงาน เราไม่เบื่อที่จะตอบหรอกนะเวลาที่ใครถามถึงจูนเพราะอย่างน้อยในความรู้สึกของคนอื่นก็ยังเห็นว่าเรากับจูนสนิทกันมากและแทบจะไม่เคยห่างกันเวลามาที่นี่
ไปกันได้แล้วพี่อรเดินออกมาจากห้องทำงานพร้อมข้าวของพะรุงพะรังในมือ
สวัสดีครับพี่อร เต๋อรีบเข้าไปช่วยถือของ
ขอบใจ ฉันเก็บของชอบแกไว้ให้ด้วยเต๋อตาเป็นประกายเปี่ยมสุขกับการได้รับความใส่ใจ
ใสไส้เจ๊อ้อยพี่อรเฉลยพร้อมยกถุงที่ใส่ใสไส้ขึ้นให้ดู
ขอบคุณครับพี่ นึกอยู่เมื่อเช้าว่าอยากกิน
ก็บุญของแกเพราะเจ๊อ้อยแกก็หายไปนานสองนานเพิ่งจะทำของมาถวายเมื่อเช้านี้แหละ ได้เห็นได้ฟังเรื่องแบบนี้เราก็พลอยมีความสุขไปด้วยสุขที่เห็นคนอื่นมีความสุขเป็นสุขที่ได้ยินดีกับความสุขนั้น
รถของเต๋อเป็นกระบะ4 ประตูพื้นที่กระบะก็กว้างขวางพอให้วางต้นกล้าได้นับร้อยและน้ำมันอีก 5แกลอน ก่อนออกเดินทางเราต้องช่วยกันขนต้นกล้าขึ้นรถพร้อมกับน้ำมันเหนื่อยนะแถมยังคันไปทั้งตัวเพราะต้องบุกป่าเข้าไปเอาต้นกล้าที่เพาะไว้นานแล้วแต่ใจกลับโคตรมีความสุขเลย สุขที่ได้ทำ ได้ช่วย
รถกะบะของเต๋อมุ่งหน้าสู่แม่น้ำน้อยซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เมื่อเข้าเขตอุทยานจะพบว่าถนนหนทางเป็นดินลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อเจอแอ่งน้ำขังเป็นระยะๆเพราะฝนตก
เรื่องใหญ่ละ เติ้ลพูดขึ้นเมื่อมองไปข้างหน้าทุกคนได้เห็นเหมือนกันว่ามีไผ่ลำใหญ่พาดขวางอยู่กลางทาง
ต้องยกไผ่ขึ้นให้รถลอดไปเรากับพี่อรมองหน้ากันต่างใช้ความคิด และต่างคิดออกอยู่ทางเดียวจากนั้นประตูรถถูกเปิดออกและทุกคนต่างลงจากรถ
1 2 3 เสียงของเติ้ลและพี่อรดังเข้ามาในรถที่ฉันกำลังจะขับลอดไปแต่ก็ยากเย็นเพราะต้นไผ่ลำใหญ่น้ำหนักมากแถมพี่อรก็ช่วยเติ้ลได้ไม่มากเพราะตัวเล็กหันมองไปรอบกายท่ามกลางป่าเขาในเขตอุทยานฯแบบนี้ไม่เห็นที่พึ่งใดอีกแล้วนอกจากตนเองและพวกพ้องที่มาด้วยกัน
เมื่อยกต้นไผ่ขึ้นพาดกลางกระบะได้แล้วจากนั้นเติ้ลจึงขึ้นมาบนกระบะและยกต้นไผ่ดันออกไปให้พ้นหลังคารถ
เย้!!ทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจกันจนลั่นป่าเพราะรถผ่านไผ่ลำโตมาได้แล้วขากลับก็หวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรกำจัดมันออกไป
เต๋อและพี่อรเข้ารถมาในสภาพเปียกชื้นเพราะฝนตกโปรยปรายอยู่ตลอดเวลา
ดีนะที่วันนี้เจ้าพัสน์มาด้วยถ้าฉันมากับแก 2 คนนะเจ้าเต๋อคงได้พากันตายอยู่กลางป่าเพราะฉันขับรถไม่เป็นแถมแขนขาก็ยังสั้นมู่ทู่
จริงพี่ เต๋อคิดเห็นตรงกัน แต่ความจริงทั้งคู่ต้องขอบคุณจูนต่างหากก็ถ้าไม่เพราะจูนวันนี้เราก็คงไม่ได้มา เรามาทั้งที่งานยุ่งแสนยุ่งแต่เราก็เลือกทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะมาที่นี่เป็นที่เดียวที่จะทำให้ใจที่โดดเดี่ยวไม่รู้สึกไร้ค่าแถมเราจะได้ฆ่าเวลาที่เราจะเอาไปเศร้าซึมมาก่อให้เกิดประโยชน์
ฮัดชิ่ว! จิราพรหรือจูนดึงทิชชู่มาเช็ดน้ำมูกน้ำตาที่เกิดมาจากการจาม
แสดงว่ามีคนคิดถึง เพื่อนร่วมงานสาวรุ่นพี่เอ่ยแซว
ฉันว่าไอ้สร้อยแน่ๆที่กำลังคิดถึงแกเป็นคำแซวที่ออกจะแรงจากโบ๊ทเพื่อนชายใจสาว ตัวโจ๊กประจำแผนก
บ้าซิ จิราพรทำเป็นเขินแบบโอเวอร์กลบเกลื่อนทั้งที่ก็เขินจริงๆสายตาแลมองไปทางคู่กรณีที่เพื่อนพาดพิงถึง เห็นหล่อนมองกลับมานัยน์ตาเป็นประกายอ่อล้อบ้าจริง
เด็กบ้า! มันเป็นความสุขสมที่ปะปนอยู่ในความรู้สึกผิด
ผิดต่อพี่พัสน์แม้มันจะเป็นแค่ความคิดและการกระทำที่ไม่คิดจะจริงจังก็เถอะ แต่เธอก็รู้สึกผิด
เธอไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่ใจหวั่นไหวไปกับสร้อยทอมหน้าใสที่เพิ่งหลุดออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัยสดๆร้อนๆเรื่องอายุแทบไม่อยากพูดถึงเป็นหลานเธอได้เลยทีเดียวสร้อยเป็นเด็กน่ารักช่างเอาใจเป็นน้องน้อยของแผนกที่พี่ๆทุกคนต่างเอ็นดูสร้อยแสดงออกชัดเจนว่าสนใจเธอด้วยการเข้ามาเทคแคร์ดูแลเธอเป็นพิเศษหลายเรื่องเธอก็ยินยอมเปิดทางให้สร้อยเข้ามาเติมเต็มใจบางเรื่องให้กับเธอในบางเรื่องที่พี่พัสน์บกพร่องไปคือความเอาใจใส่ ช่างเอาอกเอาใจและโรแมนติก ตลอดหลายปีที่คบกันมาพี่พัสน์มักจะอยู่กับเหตุและผลและมองทุกอย่างเป็นเรื่องปกติไปเสียหมดเมื่อนึกถึงคนรักมือเรียวจึงคลิกเข้าไปที่เฟสบุ๊คเพื่ออัพเดทมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นรูปคนรักเนื้อตัวมอมแมมจากการขนย้ายต้นกล้าในป่าชื้นแฉะพี่พัสน์เป็นคนดีและมักจะนำพาเธอทำในสิ่งที่ดีๆเสมอ เธอรักพี่พัสน์มากรักมาตลอดเจ็ดปี
สุดยอดมากค่ะ เป็นคำที่เธอคอมเม้นในโพสน์ใต้รูปของพี่พัสน์อยากจะหวานกว่านี้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะข้อตกลงระหว่างกันคือเราจะไม่บอกกับใครเรื่องความสัมพันธ์นอกจากครอบครัวและเพื่อนสนิทที่มีเพียงไม่กี่คนพี่พัสน์ให้เหตุผลว่าความรักแบบนี้จะเป็นอันตรายจากผู้คนที่ไม่เข้าใจและพี่พัสน์ห่วงเธอไม่อยากให้เธอถูกสังคมนอกบ้านเพ่งมองและวิจารณ์ที่เธอเองก็เห็นด้วยกับพี่พัสน์ทุกอย่างแม้จะมีบ้างที่อยากจะอวดแฟนกับใครๆ
ป่านนี้พี่พัสน์คงสนุกสนานและอิ่มสุขกับกิจกรรมทำความดีแต่เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมครั้งนี้พี่พัสน์ถึงไปที่นั่นโดยไม่มีเธออยู่ในแผนนึกอยากจะไปก็ไปเลยแถมยังไปนานตั้งสองอาทิตย์ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาคิดถึง
โอวัลตินค่ะ เสียงนี้ทำให้จิราพรหลุดออกมาจากภวังค์
ขอบใจจ้ะสร้อย ทั้งคู่ส่งยิ้มสวยให้กัน
อิจฉาคนมีคนดูแลเอาใจเนอะ โบ๊ทแซว
เอาไหมพี่โบ๊ทเดี๋ยวสร้อยชงให้ โสภิตาหรือสร้อยเบี่ยงเบนความสนใจ
ไม่อ่ะจ้ะ ขอบใจ พี่อยากได้จากหนุ่มๆมากกว่าโบ๊ทพูดได้หน้าตาเฉย จากนั้นสร้อยก็เดินยิ้มๆกลับไปที่โต๊ะทำงานเปิดไลน์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งออกไป
โอวัลตินที่ใส่หัวใจของสร้อยอร่อยไหมคะอดไม่ได้ที่คนรับข้อความจะต้องหลุดยิ้มออกมา
เด็กบ้า
อย่าเผลอมาบ้ารักเด็กนะคะ
ไม่เผลอหรอก คำนี้พูดอยู่ในใจของจิราพรสร้อยมีเพียงความน่ารักช่างเอาใจตามประสาเด็กแต่เธอมีความรักที่มากมายจนล้นใจให้กับอีกคนอยู่แล้วมาตลอดหลายปี
พี่พัสน์
คิดถึงมากนะคะ ประโยคนี้ถูกส่งออกไปจากเฟสของจิราพรไม่ได้ส่งถึงคนที่กำลังคุยกันอยู่แต่ส่งถึงอีกคนที่หล่อนรักสุดหัวใจ
เมื่อมาถึงที่หมายคือแม่น้ำน้อยเต๋อพยายามจอดรถให้ชิดริมแม่น้ำให้มากที่สุดเพื่อความสะดวกในการขนต้นกล้าและน้ำมันไปลงเรือที่จอดรออยู่แล้วเมื่อเครื่องยนต์ดับสนิทลงชายกลางคนรูปร่างผอมสูงใส่กางเกงเลสีเขียวขี้ม้ากับเสื้อเชิ้ตแขนยาวได้เดินมาที่รถ
สวัสดีค่ะลุงแผ้ว พี่อรเปิดกระจกและตะโกนออกไปยังคนที่ได้นัดหมายกันไว้สองมือยังสาละวนกับการรวบรวมข้าวของมีเอกสารหลายอย่างที่ต้องนำส่งพระอาจารย์กอบพระอาจารย์ที่ดูแลสถานปฏิบัติธรรมที่แม่น้ำน้อยโปรเจ็กต์ทำโป่งและปลูกป่าในครั้งนี้ก็เป็นของท่าน ท่านเห็นว่าชาวบ้านที่นี่ได้บุกรุกถางป่าเพื่อทำเกษตรและลักลอบล่าสัตว์ในพื้นที่ห้ามล่าอยู่เป็นประจำและมักจะมีเรื่องไม่ลงรอยกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯเสมอท่านต้องการสร้างความเข้าใจและบ่มเพาะหัวใจแห่งความมีเมตตาต่อสรรพสัตว์และผืนป่าแห่งนี้ให้กับชาวบ้านท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์คนสนิทว่า
แม้ผลที่ดีจะออกมาเพียงเสี้ยวธุลีดิน ก็ยังดีกว่าเมินเฉยอย่างคนไร้เมตตา
ชื่นฉ่ำอุราดีไหมละแม่อรลุงแผ้วหยอกเย้าตามประสาคนกันเอง
ฉ่ำจนชื้นแฉะก็จะไม่ไหวเอานะลุง
ธรรมชาติเหนือเรา เราต้องปรับตัวที่จะอยู่กับเขา
ก็เข้าใจนะลุง แต่วันนี้ก็เกือบแย่เจอไผ่ลำยักษ์ขวางถนนเข้าแต่ก็ธัมมะจัดสรรให้ผ่านพ้นมาได้
คนดี เทวดาฟ้าดินท่านก็คอยคุ้มครองได้ฟังแบบนี้ใจของคนอาสาก็พากันปีติยินดี
สวัสดีค่ะ ลุงแผ้ว สวัสดีครับลุงแผ้ว เรากับเต๋อก็พากันสวัสดีลุงแผ้ว
ไหว้พระเถอะ อนุโมทนานะที่มาช่วยงานบุญลุงแผ้วยิ้มเต็มหน้าดั่งคนมีเมตตาสูง
สาธุค่ะ , ครับเรากับเต๋อรับอนุโมทนาพร้อมกัน
เที่ยวเดียวหมดไหมลุงพี่อรให้ลุงแผ้วพิจารณาของที่ขนลงไปบ้างแล้วกับที่ยังอยู่หลังรถเรือของแกเป็นเรือหางยาว
สบายมาก จากนั้นเราทุกคนก็ช่วยกันลำเลียงของลงเรือเมื่อขนเสร็จลุงแผ้วก็พาเราล่องเรือข้ามลำน้ำน้อยไปยังสถานปฏิบัติธรรม
ระหว่างการเดินทางเรากับพี่อรนั่งชิวกันอยู่บนหัวเรือส่วนเต๋อนั่งวิดน้ำอยู่ท้ายเรือตอนนี้เป็นช่วงน้ำขึ้นแถมฝนยังตกโปรยปรายอยู่ตลอด โชคดีที่พี่อรละเอียดลออเตรียมชุดกันฝนมาแจกจ่ายให้ทุกคนด้วยสภาพของทุกคนจึงไม่เลวร้ายนัก จะมีก็แต่ลุงแผ้วที่ทำเท่ไม่ขอรับเพราะไม่คุ้นชิน
ไม่นานเรือก็เทียบท่าเชือกบนหัวเรือถูกนำไปมัดอย่างแน่นหนากับต้นไม้ริมน้ำเมื่อมองขึ้นไปบนเนินก็ได้เห็นพระหลายรูปยืนรออยู่ คงจะมารอช่วยขนของนั่นเอง
นมัสการเจ้าค่ะ พี่อรกล่าว จากนั้นพระทุกรูปต่างลงมาช่วยกันหอบหิ้วของขึ้นไปคุณพระช่วย อีกแล้ว
สถานปฏิบัติธรรมตรงหน้านี้มีเพียงเสาและโครงหลังคาที่ปูกระเบื้องไว้กันแดดกันฝนข้างฝาทุกด้านยังเปิดโล่ง สถานที่แห่งนี้มีพระประจำอยู่เพียงสองรูป ส่วนรูปอื่นๆเป็นพระจากวัดสาขาเข้ามาช่วยงานจิปาถะตามแต่จะมีอะไรพร้อมให้ช่วยทำและจะกลับออกไปในตอนเย็น
ทุกอย่างล้วนต้องมีก้าวแรกและก้าวแรกนั้นก็คือการได้เริ่มต้นหลายวัดที่ก่อนจะเป็นวัดใหญ่โตโด่งดังเป็นที่รู้จักและศรัทราก็เริ่มจากเสาไม่กี่ต้นแบบนี้
ตรงชายเขาด้านหลังศาลามีกุฏิไม้หลังเล็กสำหรับจำวัดสร้างเรียงกันอยู่3 หลัง ถัดลงมาเป็นห้องน้ำเรียงกัน 5 ห้องสร้างเตรียมไว้รองรับการมาของผู้มีจิตศรัทราและเหล่าอาสาที่จะเข้ามาทำประโยชน์ต่อศาสนาชาวบ้าน และผืนป่าแห่งนี้
พี่อรถอดรองเท้าและเดินนำเข้าไปนำเรากราบพระประธานและกราบพระภิกษุตรงหน้า
นมัสการเจ้าค่ะพระอาจารย์กอบ วันนี้พัสน์กับเต๋อมาช่วยขนย้ายต้นกล้ากับน้ำมันเจ้าค่ะเราทุกคนยกมือประนมไว้ตลอดขณะสนทนากับพระคุณเจ้า
เจริญพร ขอให้เจริญๆกันนะกรอบของบุญกุศลที่หมั่นสร้างจะปกปักษ์รักษาและนำพาโยมทั้งหลายให้ได้ไปพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆนะ
สาธุ เรากับเต๋อกล่าวรับพรพร้อมกัน
เอกสารจากทางอุทยานฯเจ้าค่ะ พี่อรเข้าเรื่องสำคัญเพราะอยู่ได้ไม่นานยังมีงานอื่นๆรออยู่อีกมาก
ทางอุทยานฯจะส่งเจ้าหน้าที่มา 3 คนเจ้าค่ะ มาช่วยนำทางและแนะนำการทำโป่ง
ขอไป5ไม่ใช่รึ
สะดวกแค่ 3 เจ้าค่ะต้องแบ่งไปกลุ่มที่จะเข้าไปทำโป่งที่ทุ่งใหญ่นเรศวรด้วยเจ้าค่ะทางนั้นเขากลุ่มใหญ่คนร้อยกว่าคนเจ้าค่ะ
อ่อ งั้นก็ฝากอรจัดเตรียมงานดูแลอาสาด้วยนะ เรือหามาได้ 10 ลำ 40 คน กระจายๆกันนั่งเที่ยวเดียวน่าจะพอไหม
พอไหมจ๊ะลุงแผ้ว พี่อรหันไปถามต่อลุงแผ้วนั่งนับนิ้วอยู่ 2 3 รอบ
น่าจะพอครับพระอาจารย์
อาตมาคิดว่าจะช่วยค่าน้ำมันชาวบ้านลำละ1000 บาทโยมอรจะว่ายังไงพอไหวไหม พระคุณเจ้ากล่าวเชิงปรึกษาในเบื้องลึกท่านต้องการช่วยเหลือชาวบ้านให้มีรายได้และต้องการใช้โอกาสนี้ซื้อใจชาวบ้านไปในตัว
ก็ต้องไหวแหละเจ้าค่ะ แม้อรจะรู้ดีว่าการหาเงินหมื่นภายในระยะเวลาไม่กี่วันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็จะหามาให้ได้เพื่อสนองเมตตาพระอาจารย์
ยังไงก็ฝากโยมอรด้วยนะ
เจ้าค่ะ โยมต้องกราบลาก่อนนะเจ้าคะ เพราะมีงานรออยู่อีกเยอะ
เจริญพร บุญรักษานะโยม พวกเราก้มกราบพระอาจารย์กอบพร้อมกันก่อนจะกราบพระประธานอีกรอบและหันไปกราบพระรูปอื่นที่อยู่ในระยะที่สายตาเห็น
ลุงแผ้วขับเรือนำพาเรากลับมาเทียบท่าตรงจุดจอดรถโดย สวัสดิ์ภาพ
ขอบคุณหลายๆนะลุง พี่อรเป็นคนพูด
ขอบคุณนะคะ,ขอบคุณนะครับเรากับเต๋อยกมือไหว้ลุงแผ้ว
เก็บไว้ใช้นะลุง พี่อรเอาเงิน 200 บาทยัดใส่มือลุงแผ้วเพราะรู้ดีว่าถ้ายื่นให้แบบธรรมดาแกจะเกรงใจไม่ยอมรับ
ขอบใจมาก สองตาที่เหี่ยวย่นของลุงแผ้วจากวัยที่ล่วงเลยไปไกลเป็นประกายแจ่มใสจากใจที่เปี่ยมสุขจากกัลยาณมิตรทางธรรม
ไปก่อนนะลุงวันเสาร์เจอกัน ร่ำลากันเสร็จก็แยกย้ายไปคนละทาง
พี่อรจะเอาค่าน้ำมันมาจากไหนเราถามพี่อรเมื่อรถเคลื่อนออกมาได้สักพัก
ก็ขอกับทางวัดขาดเหลือก็เรี่ยไรวิถีทางพุทธก็แบบนี้มีไม่กี่ทางให้เลือกหรอก แต่ต้นของทุกทางล้วนมาจากคำว่า ศรัทรา
เต๋อมาส่งพี่อรกับเราที่วัดแล้วก็ขอตัวกลับเลยเพราะใกล้ค่ำแล้วส่วนเรากับพี่อรก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปทำวัตรเย็น
จิราพรนอนมองนาฬิกาด้วยสายตาเหงาหงอยอยากจะเร่งมันให้เดินเร็วขึ้นเพื่อเธอจะได้โทรหาพี่พัสน์จากประสบการณ์ที่เธอเคยไปวัดปฏิบัติธรรมกับพี่พัสน์ ทำวัตรเย็น ฟังพระเทศน์จะเสร็จประมาณสี่ทุ่มเมื่อได้เวลาก็ต่อสายถึงคนรักทันที จิราพรจดจ่ออยู่กับเสียงรอสายอยากได้ยินเสียงปลายสายใจจะขาด
คิดถึงพี่พัสน์จัง จิราพรพูดออกไปเมื่อปลายสายกดรับ
จ้ะแต่คิดถึงพี่เวลาไม่คิดถึงใครก็ได้นะ เราพูดติดตลกไปงั้น
หือพี่พัสน์พูดอะไรแปลกๆ
เพลงไงไม่เคยฟังเหรอ คิดถึงฉันสักครั้ง เมื่อไม่ได้คิดถึงใคร ทำตัวตามสบายถ้าเจอกันในความฝัน มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง ไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆรักกันเบาเบา เราร้องเพลงเบาๆ ของวงSingular
นั่น! เผลอเหรอคะ พี่พัสน์ถือศีลแปดอยู่นะ
ไม่เผลอหรอกพี่สมาทานศีลห้าจ้ะไม่ได้สมาทานศีลแปด
อ่อ แล้วไปแล้วพี่พัสน์เหนื่อยไหม พี่อรเป็นยังไงบ้างสบายดีหรือเปล่า
เหนื่อยแต่ก็สนุกดีพี่อรแกก็คงสบายดีตามอัตภาพ จูนมีอะไรอีกไหมถ้าไม่มีพี่ขอตัวนอนก่อนนะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
งั้นพี่พัสน์ก็นอนเถอะค่ะจูนไม่กวนแล้วฝันดีนะคะ จูนรักพี่พัสน์นะ
จ้ะ ฝันดีนะ ใจของต้นสายเคว้งคว้างแปลกๆเมื่อปลายสายตัดสายไป ทำไมดูพี่พัสน์เย็นชาห่างเหินจังแต่ก็คงจะเพราะเหนื่อยคิดได้แบบนั้นจิราพรจึงเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงอีกคืนที่เธอนอนคนเดียวโดยไม่มีพี่พัสน์ อยากจะชินแต่ก็ไม่ชินสักที
ส่วนเรายังไม่นอนอย่างที่บอกกับจูนแต่เรากำลังเปิดคอมเพื่อติดตามบางอย่าง ติดตามสิ่งที่จูนคุยกับแมวและก็เป็นอย่างที่คิดจูนยังดูมีความสุขเมื่อพูดถึงสร้อย น่าอิจฉาจังนะคนมีความรักเนี่ย เรายินดีเสมอนะกับการได้เห็นคนอื่นมีความสุขโดยเฉพาะคนที่รักและดูแลเรามาอย่างดีตลอดเจ็ดปี
รุ่งเช้าเราเข้าไปหาพี่อรในห้องทำงาน
พรุ่งนี้พัสน์ต้องกลับแล้วพอดีมีปัญหาต้องกลับไปเคลียร์
แกมาให้ความหวังฉันนะยะว่าจะมาช่วยงานฉันสองอาทิตย์ พี่อรไม่จริงจัง เราได้เพียงยิ้มเป้ยๆรู้สึกผิดเล็กๆ
อะไรที่มันค้างคาก็กลับไปเคลียร์ซะให้เรียบร้อยฉันอวยพรให้ทุกเรื่องของแกเป็นไปได้ด้วยดี
ขอบคุณค่ะพี่อร อยู่ๆน้ำก็คลอขึ้นมาจากสองตา จากความรู้สึกที่หลากหลาย ซาบซึ้งตื้นตันและ
พ่ายแพ้