Group Blog
 
All blogs
 

หนิง_พีท ตอนเธอกับฉันและเขาอีกคน

พัดชาหมุนมองไปรอบๆตัวที่นี่เป็นโลกมนุษย์จริงๆรึเปล่าทำไมถึงได้สวยงามแบบนี้ สวนสวยที่กินพื้นที่ไปสุดลูกหูลูกตากลางการห้อมล้อมของหุบเขาสวยงามเกินจะหาคำใดมาบรรยายและที่สำคัญอากาศที่นี่บริสุทธิ์มาก พัดชาหันมาหอมแก้มเอาใจคนที่พามา

“ขอบคุณนะคะที่รัก” ทั้งคู่ยิ้มสวยส่งให้กัน

“ฉันดีใจที่เธอชอบเอาใจขนาดนี้ก็ช่วยลดความงอนและความหึงลงหน่อยด้วยนะ” พัดชาหันมาจิกตาใส่อีกคนด้วยความหมันไส้ ก็ดูดีให้มันน้อยลงหน่อยซิเวลาตามไปฟังบรรยายด้วยทีไรเห็นหนุ่มๆสาวๆแห่กันมาขายขนมจีบกันเป็นพรวน นี่ขนาดบอกไปว่ามีคนรักแล้วนะแต่พอรู้ว่ายังไม่ได้แต่งงานก็มีความหวังกันเป็นแถวอยากจะเดินออกไปจูบโชว์กลางเวทีซะให้รู้แล้วรู้รอดให้รู้ๆกันไปเลยว่าหล่อนมีเจ้าของแล้วและก็สวยมากด้วยชิส์

ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาในรีสอร์ทอริสราเข้าไปจัดการแจ้งชื่อเช็คอิน เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นชื่อของอริสราหล่อนส่งยิ้มสวยเป็นประเด็นให้กับลูกค้าคนสวย

“คุณดาสั่งเอาไว้ว่า ถ้าคุณมาถึงและพักจนหายเหนื่อยแล้วให้ไปพบเธอค่ะ” อริสราหันมาทางคนรัก

“เหนื่อยไหมไปพักผ่อนที่ห้องก่อนก็ได้นะเดี๋ยวฉันไปพบเจ้าของ

รีสอร์ทก่อน” พัดชาออกอาการไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนรักของเธอต้องไปพบเจ้าของรีสอร์ทบริการดีขนาดเจ้าของออกมาต้อนรับแขกเองเลยเหรอ

“ไม่เหนื่อยค่ะพีทจะไปกับคุณ”อริสรามองคนรักยิ้มๆเข้าใจว่าเพราะอะไรหล่อนถึงตามเธอแจเพราะหล่อนไม่มีตัวเลือกถ้าเป็นตอนอยู่ที่บ้านนะเหรอ หล่อนก็จะสนใจขลุกอยู่แต่กับคุณแม่เคยสนเธอบ้างที่ไหนนี่ถ้าพาแม่มาด้วยก็คงพากันเดินชมนกชมไม้ไม่มีใครสนใจเธอหรอก

“ไปพบตอนนี้เลย” อริสราแจ้งความต้องการไป สักครู่ก็มีพนักงานอีกคนเดินมาเชิญเธอไปพนักงานเดินนำมาหยุดยืนที่หน้าห้องห้องหนึ่งที่อริสราคุ้นเคยดีอยู่แล้วแต่ก็ยอมทำทุกอย่างตามขั้นตอนพนักงานที่นำทางมาเคาะประตูสามครั้งก่อนจะเปิดออกและผายมือเชิญแขกทั้งสองเข้าไปเมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินพ้นประตูไปแล้วก็ปิดประตูตามหลังอย่างเบามือภายในห้องมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หล่อนอยู่ในชุดลำลองสีอ่อนแต่ก็ดูสะอาดสะอ้านมีราศี และกำลังยิ้มสวยให้คนที่เดินเข้ามา

“ดา”

“หนิง”ทั้งคู่โผเข้ากอดกันแสดงถึงความคิดถึงกันอย่างมากมายพัดชามองภาพนี้ด้วยความไม่เข้าใจเธอจิกตามองคนรักที่กำลังโอบกอดผู้หญิงอื่นอยู่ ก็ผู้หญิงที่เขากอดอยู่สวยน้อยอยู่เมื่อไหร่ล่ะศักดิ์ศรีก็เป็นถึงเจ้าของรีสอร์ทสองสาวคลายอ้อมกอดออกจากกัน ธีรดามองสาวสวยอีกคน ทำท่าจะเดินไปกอดแต่โดนสายตาอำมหิตของอริสราเสียก่อนทำให้หล่อนต้องเบรกจนล้อลาก

พัดชามองคนรักด้วยสายตาที่เป็นคำถามว่าที่ไม่ให้กอดเนี่ยเพราะหวงคนไหนกันแน่ชิส์อริสราเห็นอาการของคนรักและก็ได้แต่ส่ายหน้าก็เพราะเพิ่งจะพูดไปเมื่อกี้ว่าให้ลดความหึงลงหน่อย

“พีท คนนี้ชื่อดาเป็นเพื่อนของฉันเอง”

“ดา พีท คนรักของเรา”

สองสาวมองกันธีรดายิ้มสวยส่งไปให้ หล่อนยื่นมือออกไปพัดชายิ้มตอบและยื่นมือออกไปสัมผัสกัน

“ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะพีทเรียกดาเฉยๆก็ได้นะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะขอเรียกพี่ดานะคะ” เพราะเป็นเพื่อนของคนรักเธออายุก็น่าจะมากกว่าเรียกพี่ก็น่าจะถูก แต่เธอก็ไม่ค่อยกล้าฟันธงเท่าไหร่เพราะขนาดคนรักของเธอสามสิบเข้าไปแล้วแต่หน้ายังอ่อนกว่าวัยอยู่มาก

“หนิงตาถึงไม่เบาเลยนะนางฟ้าก็ไม่ปาน”ธีรดาแซวจนคนที่ถูกพูดถึงว่าเป็นนางฟ้าเขินจนหน้าแดง หันไปเกาะแขนคนรักแก้เขิน

“แล้วฟ้าไม่อยู่เหรอ” อริสราถามถึงคนรักของธีรดา

“ไปอังกฤษหน่ะกลับอาทิตย์หน้าเย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะหนิง พีท” เจ้าบ้านกล่าวเชิญชวน

“ดาเลี้ยงใช่ไหม”

“เดี๋ยวดาแอบบวกไปในค่าที่พัก”ธีรดาหยอกกลับยิ้มๆพัดชารู้สึกได้ว่าธีรดามีเสน่ห์มากแม้ตัดใบหน้าที่สวยใสไร้ที่ติออกไปแต่บุคลิกท่าทางก็ชวนมองชวนให้หลงใหลได้ไม่ยากและเธอกำลังคิดมากไปหรือเปล่าว่าสายตาที่คนรักของเธอมองหล่อนมันดูเป็นประกายชื่นชมและมีความหมายที่ลึกซึ้ง

หลังจากที่พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอธีรดาก็ปล่อยให้เพื่อนเก่าได้ไปมีเวลาส่วนตัวกับคนรัก ตัวเธอเองก็งานที่ต้องไปทำเหมือนกันอริสราพาพัดชาเดินมายังห้องพักอย่างคนคุ้นชินเมื่อก่อนเธอจะมาที่นี่ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทยธรรมชาติและความสงบคือสิ่งที่เธอปรารถนาคงจะดีไม่น้อยถ้าคนที่เธอรักมีมุมมองเดียวกัน

“พี่ดาสวยจังเลยนะคะ และก็มีเสน่ห์มากด้วย พีทว่าพี่ดาบุคลิกคล้ายๆณัฐ” พัดชาแสดงความคิดเห็น

“ดาโลกส่วนตัวสูงกว่าณัฐเยอะแต่ถ้าใครเข้าไปในโลกของเค้าได้ คนนั้นจะมีความสุขมากเลยหล่ะดาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มีคุณค่าและควรค่าแก่การเก็บรักษาอย่างดี” พัดชาหันมองคนรักที่ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในโลกอีกใบที่เธอเข้าไปไม่ถึง เธอน้อยใจนะจะมีใครเป็นเหมือนเธอบ้างไหมที่ไม่ชอบให้คนรักชื่นชมผู้หญิงคนอื่นให้ฟังโดยเฉพาะผู้หญิงสวยที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างจนอดไม่ได้ที่จะแอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเธอรู้สึกได้ ธีรดาเหนือเธอ!

อริสราพาพัดชามาพักผ่อนที่ห้องก่อนเธอมีเวลามากมายสำหรับ

ทริปนี้ จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรอย่างรีบร้อนแต่อาการที่เงียบเกินปกติของคนรักทำให้เธอต้องหันมาสนใจอริสราเข้าไปโอบกอดเอาใจแต่หล่อนก็ยังเงียบ

“เป็นอะไรไปคะฉันทำอะไรให้เธอโกรธเหรอ”อริสราเชยคางคนรักขึ้นมาเพื่อสบตากับแต่หล่อนก็ดื้อดึงเบี่ยงสายตาไปทางอื่น

“พีท คำว่ารักของฉันที่พร่ำบอกเธออยู่ตลอดมันมีความหมายกับเธอบ้างไหม”หญิงสาวหันมาสบตากับคนรัก ทำไมหล่อนถึงถามเธอแบบนี้

“เธอหึงหวงคนอื่นที่เข้ามาสนใจฉันฉันไม่เคยว่าแต่เวลาที่เธอแสดงออกว่าไม่ไว้ใจกันฉันรับไม่ได้” อริสราคลายอ้อมกอดและเดินออกจากห้องไปพัดชานั่งนิ่งสับสนกับเรื่องราว เธอกำลังเป็นคนผิดใช่ไหมที่รักหล่อนมากบ้าที่สุดเลยหญิงสาวฟุบหน้าลงบนหมอนปล่อยโฮออกมาด้วยความน้อยใจจนเผลอหลับไป

เมื่อตื่นลืมตาขึ้นมาก็รีบกวาดสายตามองหาคนรักหล่อนหายไปไหนนะทำไมถึงไม่อยู่ดูแลเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ หรือว่าหาเรื่องโกรธเธอเพื่อไปหาคนอื่นคิดถึงตรงนี้หล่อนรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเพื่อออกไปหาคนรักทันที

พัดชามองความงามโดยรอบในบรรยากาศยามเย็นด้วยความชื่นชมนึกอิจฉาธีรดาที่ได้เป็นเจ้าของที่แสนสวยแบบนี้หล่อนกวาดสายตามองหาคนรักจนทั่วและตอนนี้เธอเห็นคนรักของเธอแล้วเขากำลังยืนมองตาอยู่กับพี่ดา อะไรกัน?และก่อนหน้านั้นล่ะมันจะมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้หรือเปล่าอยู่ๆในตาเธอก็พล่ามัวมีหยดน้ำหลั่งไหลออกมา หล่อนหันหลังเดินกลับห้องไปทันที

อริสราเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นคนรักนอนหันหลังให้อยู่บนเตียงก็รีบเดินเข้าไปหาหล่อนไม่ควรนอนในช่วงเวลาแบบนี้เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ

“พีท ลุกได้แล้วค่ะไปทานข้าวกันได้แล้ว”พัดชายังนอนนิ่งไม่ไหวติง

“ถ้าเธอไม่ลุกออกไปกับฉันฉันได้นอกใจเธอแน่” พัดชาดีดเด้งตัวขึ้นมาทันทีมองคนรักด้วยสายตาที่ตัดพ้อและน้อยใจอริสราใจหายที่เห็นคราบน้ำตาเกรอะกรังอยู่บนใบหน้าของคนรักจึงจัดการลูบมันออกไปด้วยความทะนุถนอมก่อนจะดึงหญิงสาวเข้ามากอด

“เป็นอะไรไปคะคนดีน้อยใจอะไรฉันอีก” พัดชาปล่อยโฮออกมาอยู่ๆเธอรู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจถ้าวันหนึ่งคนรักของเธอ จะไปรักใครมากกว่าเธอและ...ทิ้งเธอไป

“ไปกันใหญ่แล้วเด็กน้อยของฉันร้องไห้เป็นเด็กๆเล่าให้ฉันฟังซิว่าน้อยใจอะไรฉัน” พัดชาไม่ได้ตอบอะไรซบหน้านิ่งอยู่บนไหล่ของอีกฝ่ายแต่ก็มีเสียงสะอึกสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ

“พีทรักคุณมากนะรักๆๆมากคุณห้ามรักใครมากกว่าฉันหรือคิดจะทิ้งฉันไปน้า...” อริสรายิ้มอย่างนึกเอ็นดูเด็กหนอเด็กจอมจินตนาการล้ำเลิศนี่ก็ไม่รู้ว่าเก็บอะไรมาจินตนาการบ้างเธอเนี่ยนะจะไปรักคนอื่นสนใจคนอื่นก็หลงกันหัวปักหัวปำอยู่ทุกวันก็ไม่ยอมจะเข้าใจ

“ใครจะกล้าทิ้งเธอถ้าฉันทิ้งเธอแม่คงตัดฉันออกจากกองมรดกแน่ๆและอาจจะสั่งมือปืนมายิงฉันทิ้งเลยด้วยก็ได้ที่บังอาจมารังแกสะใภ้สุดที่รักของท่าน” อริสราพูดติดตลกเผื่อมันจะคลายอะไรๆในใจหล่อนลงไปได้บ้างพัดชาทุบเบาๆคนที่ตลกไม่ดูเวล่ำเวลา

“บ้าซิ” หญิงสาวทำท่าแสนงอน

“ไปล้างหน้าล้างตาก่อนป่ะออกไปแบบนี้อายเขาแย่”อริสราค่อยๆดันตัวคนรัก พัดชายอมคลายวงแขนออกมานิดนึงก่อนจะดันตัวคนรักให้ล้มลงไปบนเตียงโดยตัวยังเองทาบทับอยู่

“ออร์เดิฟก่อนมื้อเย็นค่ะ”หญิงสาวทำตาเซ็กซี่นำทางก่อนจะพาริมฝีปากบางสวยตามลงไปปิดปากคนที่อยู่ข้างล่างอริสราก็ตามใจจัดให้ตามคำขอทุกอย่างก็เป็นเสียแบบนี้แล้วเธอจะเหลือสายตาไปมองใครที่ไหนได้อีก

โต๊ะอาหารถูกจัดที่บ้านพักของธีรดาเทอร์เรซเป็นลานโล่งยื่นออกไปเชิงเขายาวหลายเมตรมองลงไปเบื้องล่างเป็นหน้าผาสูงชัน บรรยากาศฟ้าเปิดในคืนพระจันทร์เต็มดวงสาดแสงให้ความสว่างไสวไปทั่วอาณาบริเวณ

“ด้านล่างตรงนั้นเป็นสวนส้มค่ะถัดไปเป็นสวนองุ่น พรุ่งนี้พี่จะพาลงไปดูนะคะ” ธีรดาเข้ามาชี้ชวนให้ชมดั่งผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กที่กำลังสนใจกับสิ่งที่แปลกตาพัดชามองไปไกลด้วยความตื่นตา ดั่งเด็กเจอของถูกใจแต่ทำไมพี่ดาถึงต้องมาทำแสนดีกับเธอนักนะ ชิส์เห็นนะว่าแอบฉกคนรักของเธอไปตอนเธอหลับหล่อนยิ้มรับและเดินเข้าไปหาคนรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของธีรดายิ้มเอ็นดูและเข้าใจดีว่าหล่อนคิดอะไรก็คงไม่พ้นเรื่องหึงหวงเด็กสาวคนนี้ต้องมีดีมากทีเดียวไม่อย่างนั้นคงจับหนิงเพื่อนของเธอไม่ได้แน่

เมื่อก่อนเธอเคยคิดตั้งคำถามว่าอัจฉริยะที่สวยสง่าสมบูรณ์พร้อมอย่างเพื่อนเธอคนนี้จะเลือกมีคนรักแบบไหนกันหนิงเป็นคนง่ายๆก็จริงแต่ก็ไม่ใช่จะอะไรก็ได้ หลังฉากของการทำงานหนิงก็มีโลกส่วนตัวสูงไม่แพ้เธอ

เรื่องราวที่ทั้งคู่พูดคุยกันทำให้พัดชาพอจะจับใจความได้ว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนนักเรียนตั้งแต่สมัยประถมและติดต่อพบเจอกันบ้างเรื่อยมาจนวันนี้แต่ทำไมนะเธอถึงรู้สึกอีกแล้วว่าแววตาของคนรักเธอเป็นประกายระยิบระยับเสมอเวลามองพี่ดา อาหารที่เคยเลิศรสก่อนหน้านี้ จืดชืดไร้รสชาติทันทีเธอพยายามประคองช้อนในมือไว้เพื่อรักษามารยาท แต่ในใจร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหวอยากจะเหวี่ยงมันออกไปอยากจะกวาดข้าวของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะให้มันกระจุยกระจายไปให้หมด

หลังจากมื้อค่ำจบลงพัดชารีบเดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องพักทันที อริสรามองอย่างไม่เข้าใจอะไรกันอีกเนี่ยเมื่อประตูห้องถูกปิดจึงรีบเดินเข้าไปดูอาการคนรัก

“เป็นอะไรไปอีกหึงฉันกับดาเหรอ”อริสราจี้ตรงใจ

“พีทเห็นคุณยืนสบตากับพี่ดาเมื่อเย็น” อริสราเลิกคิ้วแปลกใจและก็หลุดขำออกมา

“อ่อ เห็นด้วยเหรอ”พัดชาโกรธเลือดขึ้นหน้าโถมตัวเข้าไปกระหน่ำทุบตีเขาสุดกำลังเพื่อระบายความขุ่นเคืองที่อยู่ในใจอริสราก็หลบเลี่ยงไปแบบสนุกสนาน แต่การทำแบบนี้ยิ่งเป็นการก่อกวนอารมณ์ของอีกคนสักพักจนอริสราชักเริ่มเจ็บจึงรวบมือของพัดชาและดันให้ล้มลงไปบนเตียงโดยมีตัวเธอทาบทับตามลงไป

“และเห็นก่อนหน้านั้นไหม”เมื่อได้ยินแบบนี้พัดชายิ่งโกรธ ก่อนหน้านั้นคือมากกว่านี้อีกใช่ไหมหล่อนยิ่งขัดขืนขัดใจ

“จินตนาการไปถึงไหนแล้วล่ะ” พัดชาเมินหน้าหนีทำหน้าแสนงอน

“ผงมันปลิวเข้าตาดาฉันดูให้ก็เท่านั้น” พัดชาหันกลับมามองคนรักเหตุผลของเขาทำให้เธอสบายใจขึ้นมา แต่จะเชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ชิส์

“ก่อนหน้านั้นเราคุยกันเรื่องทำไร่ เรื่องซื้อที่ และเรื่องบริหารจัดการ

รีสอร์ท ฉันเห็นเธอชอบที่นี่ฉันเลยคิดอยากจะทำให้เธอ” อริสราส่งแววหวานผ่านทางสายตาไปให้คนรักพัดชาซาบซึ้งตื้นตันจนยากจะบรรยายแต่หล่อนก็ยังมีอีกเรื่องที่คาใจ

“ฉันเห็นสายตาที่คุณมองพี่ดามันดูเป็นประกายและมีความหมายมาก” อริสราส่ายหน้าเบาๆยิ้มเอ็นดูกับความช่างคิดช่างสังเกตกับเรื่องที่มันไร้ประโยชน์และไม่มีสาระ

“ใช่ ฉันชื่นชมดามากดาเป็นเพื่อนหนึ่งในไม่กี่คนของฉัน ที่ฉันยอมรับและรู้สึกภูมิใจที่ได้คบเป็นเพื่อน”แววตาที่พัดชามองคนรักตอนนี้ เจือไปด้วยความหวาดระแวง ใช่ซิสวยเก่งสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง

“เธอเลิกคิดเรื่องฉันกับดาเถอะมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะเราขั้วบวกเหมือนกัน” พัดชาเลิกคิ้วแปลกใจไม่เข้าใจความหมายพี่ดาก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่ อริสรายิ้มขันกับหน้าตาของเด็กขี้สงสัย

“ดาเขาเป็นตำแหน่งเดียวกับฉันเวลาอยู่บนเตียงถ้าคบกันแบบนั้นจริงๆคงได้ตีกันตายเพราะไม่มีใครยอมใคร” เด็กขี้สงสัยหน้าแดงระเรื่อเมื่อคนรักแจกแจงเสียละเอียดเกินความจำเป็นพูดเสียเห็นภาพเลย บ้าจริง

“ฉันซิต้องหวงเธอไม่อยากให้ไปอยู่ใกล้ดาเดี๋ยวเธอเกิดหลงเสน่ห์เพื่อนฉัน ฉันก็แย่ซิ” อริสราหยุดทำท่าคิด

“ฉันรีบพาเธอกลับดีกว่าอยู่ต่อไปก็สุ่มเสี่ยงต่อการเสียแฟน”อริสราแกล้งทำหน้าจริงจังทำเอาคนข้างล่างยิ่งหน้าแดงจนแทบจะต้องเรียกรถดับเพลิงอยู่แล้ว

“คุณอ่ะ” พัดชาทุบคนข้างบนเบาๆแก้เขิน อริสราพลิกตัวให้คนข้างล่างย้ายตำแหน่งไปอยู่ข้างบนพัดชาซบหน้าลงไปบนอกคนรักอย่างแสนรัก

“ฉันอยากมีชีวิตที่สงบกลับไปรอบนี้ฉันจะเสนอโครงการกับคุณแม่เรื่องรีสอร์ทถ้าท่านตกลงเราทั้งหมดย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่นะ” พัดชานอนนิ่งไม่ตอบอะไรทำให้คนข้างล่างรู้สึกว่าหล่อนกำลังลังเล

“ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ฉันก็จะไม่ว่าอะไรนะ เธออายุยังน้อยอาจจะยังอยากใช้ชีวิตอีกแบบ ธรรมชาติไกลเมืองแบบนี้อาจจะเงียบเหงาเกินไป” อริสราลูบหลังเบาๆอย่างผู้ใหญ่ใจดี เธอไม่คิดขังหล่อนไว้อยู่แล้วหล่อนควรมีอิสระในการตัดสินชีวิตของตัวเอง พัดชาดันตัวขึ้นมาทำหน้าง้ำแสนงอน

“ฝันไปเถอะนะว่าพีทจะปล่อยคุณมาคนเดียวคุณจะได้ร่าเริงแอบโปรยเสน่ห์ไปทั่วหน่ะซิฉันกำลังคิดว่าจะไปเรียน MBA เอาความรู้มาช่วยคุณบริหารรีสอร์ทต่างหาก”และหล่อนก็ทิ้งหน้าลงมาซบที่อกเขาเหมือนเดิมทั้งคู่ต่างกระชับกอดกันแน่นขึ้นแบ่งปันความรักอันมากมายที่มีต่อกันสำหรับคนทั้งสอง ขอบคุณจริงๆสำหรับความรักที่มีให้กัน


จบ...




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2556    
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 13:35:54 น.
Counter : 655 Pageviews.  

หนิง_พีท ตอนเรารักกันไม่ใช่เหรอ

พัดชานั่งมองนาฬิกาตัวใหญ่ที่แขวนอยู่ในห้องรับแขกเกือบสามเดือนมาแล้วที่คนรักของเธอไม่มีเวลาให้เธอเลยกลับดึกเกือบทุกวันและก็ออกต่างจังหวัดบ่อยๆอารมณ์หื่นที่เคยเป็นสีสันก็เบาบางจนจะกลายไปเป็นศูนย์อยู่แล้วเธอจะเฉาตายอยู่แล้วนะ

คุณแม่มองลูกสะใภ้ด้วยความเห็นใจท่านก็ทำได้แค่ปลอบโยนและดูแลความรักในส่วนของท่านเรื่องที่คนรอบข้างเม้าว่าท่านหลงลูกสะใภ้ท่านก็ไม่คิดเถียงเพราะหลงจริงๆพัดชาสวยน่ารักและเอาใจเก่ง คุณหนูอารมณ์ร้ายขี้วีนที่หล่อนเคยเป็นในวันวานก็เพราะขาดความรักและไม่มีใครสั่งสอน โดยเนื้อในหล่อนก็เป็นคนจิตใจดีมากคนหนึ่ง

ลึกๆก็ภูมิใจในตัวลูกสาวที่ตาถึงเลือกสะใภ้มาได้ถูกใจแม่นักแต่ตอนนี้แม่ลูกสาวก็ชักจะเริ่มทำให้แม่ขัดใจแล้ว ก็ดูซิเอาแต่ทำงานไม่สนใจแม่ไม่สนใจคนรักเลย เดี๋ยวเขาทนไม่ไหวทิ้งไปแม่ก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วยใจขาดตายกันพอดี ถ้าไม่มีลูกสะใภ้อยู่เอาใจ

อริสราพยายามเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือที่สุดและก็พยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด เธอไม่อยากรบกวนคนรัก ตอนนี้เธอเหนื่อยมากเพราะมีบรรยายตั้งแต่เช้าจนถึงดึกและพรุ่งนี้ก็ต้องออกแต่เช้าอีก

อริสรารีบทำธุระส่วนตัวโดยเร็วเพื่อจะได้รีบพักผ่อนเธอแทรกตัวเข้าไปภายในผ้าห่มและหลับตาลงไปอย่างเหนื่อยอ่อนแต่สงสัยเธอคงจะมีอุปสรรคในการนอนแล้วเพราะพัดชาเข้ามาบดเบียดอยู่ข้างลำตัวเธอซุกไซ้ลูบไล้ร่างกายเธอไปทั่ว

“พีทฉันเหนื่อย”หล่อนพูดทั้งที่ยังหลับตา

“เหนื่อยก็นอนไปซิคะ”พัดชาไม่คิดจะหยุดในสิ่งที่กำลังทำอยู่ หล่อนไต่ขึ้นมาบนตัวเขาซุกไซ้วนเวียนอยู่ที่ซอกคอหอมมือไม้ก็ลูบไล้ไปทั่วตัว หมดอายที่จะรอให้อีกฝ่ายเริ่มแล้ว อยากหลับก็หลับไปนะ ชิส์

อริสราคางเบาๆออกมาเป็นระยะๆทั้งที่ยังหลับตาพัดชาพอใจในการตอบสนองของอีกฝ่ายหล่อนปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกไปจนสิ้นรวมทั้งของคนรักด้วยเมื่อปราศจากสิ่งกั้นกลางร่างกายได้บดเบียดถูไถกันไปตามคลื่นของอารมณ์สุดแต่มันจะพาไปในทิศทางใดเมื่อใกล้ถึงปลายทางแห่งความสวยงามพัดชาเคลื่อนตัวขยับให้จุดอ่อนไหวของกันและกันบดเบียดเน้นย้ำไปตามจังหวะการสรรสร้างของธรรมชาติเสียงครางดังออกมาอย่างสุดจะกลั้นเมื่อถึงที่สุดของฝั่งฝันทั้งคู่โอบกระชับกันแน่นและหลับใหลไปด้วยกันอย่างอ่อนเพลีย

พัดชาปรือตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ไม่พบคนรักแล้ว นี่หล่อนรักเธอจริงหรือเปล่าทำไมถึงทิ้งขว้างเธอแบบนี้จะบ้าทำงานอะไรนักหนานะ เงินทองก็มีมากมายจนใช้ไปทั้งชาติก็ไม่หมดบ้านเธอก็ใช่จะขัดสนหรือว่า…

‘พี่หนิงเบื่อเธอแล้ว’ เพราะทำเหมือนว่า ทำงานหนักก็ยังดีกว่าอยู่กับเธอบอกกันดีๆเธอก็เข้าใจนะทำไมต้องมาทำเย็นชาห่างเหินกับเธอแบบนี้ ตอนนี้น้ำตาแห่งความน้อยใจไหลเอ่อท่วมนัยน์ตาดวงสวย

อริสราเดินเข้ามาในห้องวันนี้เธอกลับมาไม่ดึกมากและรีบตรงดิ่งไปที่เตียงนอนตั้งใจจะหอมแก้มคนรักให้หายคิดถึงแต่เธอก็ต้องแปลกใจเพราะเตียงนอนว่างเปล่าหรือว่าหล่อนไปนอนห้องคุณแม่

อริสรารีบตรงรี่ไปที่ห้องคุณแม่ทันทีค่อยๆเปิดประตูและเดินเข้าไปพยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด แต่เธอก็ไม่เห็นพัดชาอริสรากังขาอยู่ในใจจะไปไหนทำไมไม่เห็นบอกจึงออกมากดโทรศัพท์หาแต่หล่อนก็ปิดเครื่อง เป็นอะไรหรือเปล่าจึงโทรเข้าเบอร์บ้านของหล่อนแล้วก็ถึงบางอ้อว่าหล่อนกลับบ้านและขึ้นห้องนอนไปแล้วเธอจึงอาบน้ำทำธุระส่วนและเข้านอนไป

พัดชานอนร้องไห้ซบหน้าอยู่กับหมอนจะสนใจจะมาดูมาตามกันบ้างไม่มีเลย หมดใจกันขนาดไม่คิดจะสร้างภาพเลยหรือไง

น้ำฟ้ากับพัดชาชวนกันออกมาเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าน้ำฟ้ามองรุ่นพี่คนสวยที่ตอนนี้ก็เป็นญาติเกี่ยวดองกันไปเรียบร้อยแล้ว

“มีเรื่องไม่สบสายใจเหรอคะพี่พีท” น้ำฟ้ามองญาติผู้พี่ด้วยสายตาห่วงใยเพราะหล่อนดูไม่สดใสเลย

“ณัฐเป็นยังไงบ้าง”พัดชาเลี่ยงไม่ตอบ กลับมีถามคำถามกลับไป

“เขาก็ยุ่งๆเป็นปกติค่ะณัฐเค้าเป็นไฮเปอร์อยู่เฉยๆไม่ได้”

“เขาปล่อยให้ฟ้าเหงาบ้างไหม”

“ก็มีบ้างค่ะ แต่ฟ้าเข้าใจและอีกอย่างณัฐเขาจะมักมีของมาเอาใจหรือมีสิ่งอื่นๆมาทดแทนให้ฟ้าเสมอค่ะ” น้ำฟ้าพอจะจับประเด็นอะไรได้เลาๆว่าญาติผู้พี่คนสวยต้องมีปัญหาชีวิตคู่อยู่แน่ๆ

“น้าหนิงไม่ค่อยมีเวลาให้พี่พีทเหรอค่ะ”พัดชามองเมินไปทางอื่นพอคิดถึงเขาที่ไรน้ำตาแห่งความน้อยใจก็พาลจะไหล น้ำฟ้าก็ไม่ได้เซ้าซี้ถาม เรื่องส่วนตัวแบบนี้ถ้าเขาอยากเล่าเขาจะเล่าเอง

อริสราหน้าตาตื่นรีบไปหาแม่ที่ห้องเมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าข้าวของพัดชาหายไปจนเกลี้ยง

“แม่คะของพีทหายไปไหนหมด” คุณแม่มองคุณลูกหน่ายๆโกรธจนไม่อยากจะคุยด้วยผิดอย่างที่คิดที่ไหนบ้างานจนคนรักทนไม่ไหว

“หนูพีทเขากลับไปอยู่บ้านเขาแล้ว”

“กลับไปทำไมแล้วทำไมไม่เห็นบอกอะไรหนิงบ้างเลย”คุณแม่มองลูกสาวเคืองๆ

“แล้วหนิงมีเวลาฟังเขาเหรอพีทเขามาเก็บของไปตั้งแต่สามวันที่แล้ว แต่หนิงเพิ่งจะรู้เรื่องวันนี้”

“โธ่! ก็หนิงต้องทำงานนี่คะแม่” หญิงสาวขอความเข้าใจจากผู้เป็นแม่

“ก็ดีแล้วไง พีทเขาไม่อยู่แล้วหนิงก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจไม่ต้องมีห่วงอะไรแม่เองอีกสักเดือนสองเดือนก็จะไปอยู่บ้านบางแคแล้วเพราะลูกเต้าไม่มีเวลาดูแลลูกสะใภ้ก็ทนลูกตัวเองไม่ได้หอบผ้าหอบผ่อนหนีไปแล้ว” อริสรามองแม่ของตนอย่างนึกระอานี่เธอปล่อยให้เด็กสองคนอยู่ด้วยกันใช่ไหม ดูพากันคิดแต่ละเรื่องซิสร้างสรรดีแท้อริสราเดินเข้าไปโอบกอดเอาใจผู้เป็นแม่

“แม่คะ ก็หนิงอยากเคลียร์งานที่รับไว้ให้หมดและหนิงก็จะเลิกรับงานแล้วหนิงจะได้มีเวลาอยู่กับแม่กับพีทได้เต็มที่ไงคะ” คุณแม่มองลูกสาวงอนๆ

“ไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและก็ไปเอาลูกสะใภ้แม่กลับมาด้วยไม่งั้นมรดกทั้งหมดที่ท่านพ่อทิ้งไว้ให้แม่จะยกให้การกุศลให้หมด” ผู้เป็นแม่ทำหน้าจริงจัง อริสรามองไกลอย่างคนที่จะต้องไปเจอกับศึกหนัก

อริสรารวบงานบรรยายที่เหลือให้มาอยู่ที่เดือนนี้ทั้งหมดและจะเลิกรับงานสักพักใหญ่ พอเคลียร์งานนอกบ้านเสร็จก็ต้องกลับมาเคลียร์งานในบ้านต่อเลือดตาแทบกระเด็นจริงๆ เธอพยายามติดต่อพยายามไปหาคนรักแต่หล่อนก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ได้คุยได้เจอเลย อะไรกันเด็กคนนี้อยากจะเลิกกับเธอจริงๆหรือไง หรือเลิกกันไปเลยดีไหมจะได้สมใจหล่อนก็รู้ว่าตัวเองผิดแต่ก็อดเคืองหล่อนไม่ได้เหมือนกัน ที่เธอทำงานหนักก็เพื่อหล่อนนะ

พัดชาเดินตรงเข้ามาที่ห้องของคุณแม่กลางดึกท่านโทรไปตามบอกว่าไม่สบายและลูกสาวก็ไม่อยู่ไปต่างจังหวัดอีกหลายวันถึงจะกลับ แย่ที่สุด!! เดี๋ยวจะพาคุณแม่ไปดูแลเองซะเลยทิ้งให้อยู่คนเดียวไปซะให้เข็ด

พัดชาเดินเข้ามาโดยไม่เปิดไฟเพราะมันก็ดึกมากแล้วและเธอก็คุ้นชินกับทุกซอกทุกมุมของบ้านนี้ดีเมื่อไปถึงเตียงนอนหล่อนก็โผเข้าไปกอดถามไถ่อาการอย่างห่วงใย

“คุณแม่เป็นอย่างไรบ้างคะ”แต่พัดชาก็ต้องใจหายรีบดันตัวขึ้นมาแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว

“จะไปไหนฉันไม่ปล่อยให้เธอไปหรอกนะ” พัดชาโดนอีกฝ่ายดึงจนถลามาอยู่บนตัวเขา

“ปล่อยนะ พีทจะไปหาคุณแม่”

“จะไปหาทำไมดึกแล้วป่านนี้ท่านหลับไปแล้ว” เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ยิ่งโกรธดูซิต้องไปบังคับให้แม่ช่วยโกหกแน่ๆแย่ที่สุด นั่นคือสิ่งที่พัดชาคิดแต่เรื่องจริงคือคนคิดแผนทั้งหมดก็คือคุณแม่นั่นเอง ท่านรำคาญลูกสาวที่ทำทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจท่านจึงต้องลงมาจัดการด้วยตัวเองทีนี้รู้กันหรือยังว่าอริสราได้ฉลาดวางแผนแสนกลมาจากใครนี่แหละหนาที่เขาว่าลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น

“คนเจ้าเล่ห์ปล่อยเลยนะ”

“จูบฉันก่อนแล้วฉันจะปล่อย”อริสรามีเงื่อนไข สำหรับพัดชาไม่ต้องคิดนานมุขนี้เธอเจอมาเป็นพันครั้งทั้งที่จริงๆหล่อนควรจะหมดเครดิตไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้วแต่ก็แกล้งยอมหลงกลเพราะรักมาตลอด แต่คราวนี้ฝันไปเถอะแต่สงสัยว่าเธอคงคิดนานไปหน่อยเพราะตอนนี้ริมฝีปากของเธอถูกครอบครองโดยอีกฝ่ายไปแล้วร่างที่บางกว่าดิ้นอึกอักอยู่เพียงไม่นานสัมผัสที่คุ้นเคยก็หลอกล่อให้เธอหลงใหลไปตามระเบียบก็หวานใส่เธอขนาดนี้ใครจะทนแข็งใจอยู่ได้ล่ะคนเจ้าเล่ห์ เมื่อสุดทางแห่งความหรรษาอริสรายังทาบทับอยู่บนตัวของคนรักไล่จูบเม็ดเหงื่อที่หน้าผากและไรผม

“น่ารักมากเลยค่ะ”พัดชายังนอนนิ่งพยายามกักตุนพละกำลังอยู่เพราะถูกอีกฝ่ายสูบไปเมื่อกี้จนหมดสิ้น

“อย่าคิดหนีฉันไปไหนอีกนะเด็กดื้อและตั้งใจฟังที่ฉันจะพูดด้วย”อริสราเก็กหน้าผู้ใหญ่ดุเด็ก พัดชามองเขาด้วยสายตาแสนงอน ตัดพ้อ น้อยใจปนเป สลับกันไปมาสุดแต่ความรู้สึกไหนมันจะผุดขึ้น

“ฉันอยากรีบเคลียร์งานทุกอย่างและฉันจะงดรับงานยาวเพราะจะพาเธอไปเที่ยวต่างประเทศ ที่ฉันไม่บอกเธอเพราะฉันอยากจะเซอร์ไพร้ส์แต่เธอกลับชิงเซอร์ไพร้ส์ฉันโดยการทิ้งฉันไปซะก่อน” พัดชามองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่สับสน

“เธอรักฉันจริงๆใช่ไหมพีทฉันอยากจะถามเธอให้แน่ใจเพราะถ้าเธอไม่ได้รักฉันมากเท่ากับที่ฉันรักเธอฉันก็จะปล่อยเธอไปบางทีคนรักที่เป็นผู้ใหญ่อย่างฉันอาจจะไม่เข้าใจและดูแลเธอได้ไม่ดีพอถ้าเธอไม่รักฉันจริงฉันก็จะได้ไปหาคนที่เขารักฉัน และพร้อมจะอยู่กับฉันตลอดไป”น้ำตาหลั่งไหลออกมาจากตาดวงสวยอีกแล้ว เธอจะอ่อนแออะไรนักหนานะแล้วนี่พูดบ้าอะไร ไม่เพราะรักเหรอเธอถึงเป็นบ้าเป็นบออยู่แบบนี้และเรื่องที่มีความคิดจะไปมีคนใหม่ฝันไปเถอะว่าเธอจะยอมจะตามไปเผาบ้านเลยคอยดู

“ว่ายังไงพีท ตอบฉันมาคำตอบของเธอมีผลกับอนาคตของฉันนะ” พัดชามองเขาอย่างแสนงอน

“รักซิพีทรักคุณมาก พีทขาดคุณไม่ได้ พีทแค่น้อยใจและคิดว่าคุณอาจจะเบื่อพีทแล้ว”อริสรากระตุกยิ้มนึกไว้แล้วจ้าวแห่งการจินตนาการล้ำเลิศ

“แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมมาคุยไม่ยอมมาเจอฉันถ้าฉันเลิกตามเธอจะทำยังไง” นี่!ทำไมเขาต้องไล่ต้อนอย่างกับเธอเป็นเด็กๆด้วยนะ

“พีทอย่าหาว่าฉันขู่เลยนะถ้าเธอหนีฉันแบบนี้อีกฉันจะไม่ตามเธออีกแล้วนะไม่ใช่ว่าฉันไม่รักเธอแล้วแต่ฉันคิดว่าควรให้อิสระกับเธอเพราะฉันควรจะยอมรับว่าสิ่งที่เธอเลือกทำคือสิ่งที่เธอต้องการ ”

“พีทขอโทษ” หญิงสาวกอดกระชับคนรักไว้แน่นเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา

“อย่าโกรธพีทนะคะ”อริสรากอดตอบเบาๆ ยังมีเรื่องอีกมากที่หล่อนต้องเรียนรู้

“พีท”

“ค่ะ”

“ฉันจำได้นะ ว่าคืนนั้นเธอปล้ำฉัน”

“นี่!! บ้า” หญิงสาวเขินจนหน้าแดง คิดเคืองว่าจะพูดถึงทำไม

“แต่มันโอเคมากเลยนะฉันชอบ” อริสรายังหยอกไม่เลิก

“นี่พอเลยไม่ต้องต้องพูดแล้วอายนะ” พัดชาเบี่ยงหน้าหลบสายตาอริสราชอบใจกับท่าทางเขินอายของคนรัก จากเหตุการณ์นี้จะทำให้ทั้งคู่ได้คิดว่าในเรื่องของความรักการสื่อสารและความเข้าใจที่ตรงกัน คือสิ่งที่สำคัญ


จบ...




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2556    
Last Update : 5 ตุลาคม 2556 9:47:48 น.
Counter : 641 Pageviews.  

หนิง_พีท ตอนจูบแรก

ตอนพิเศษสั้นๆ จบในตอนนะคะ ^^

ในงานเลี้ยงคนไทยที่เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจัดขึ้นเพื่อให้คนที่เคยร่วมสถาบันเดียวกันได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะหรือแม้แต่การพูดคุยเชิงธุรกิจเลือดสีเดียวกันเจรจาต่อรองกันง่ายอยู่แล้วสายตาของผู้คนในงานจับจ้องไปที่สาวสวยสองคน ที่กำลังเดินเข้างานมาทั้งคู่มาในชุดราตรีสีเดียวกันแต่แตกต่างกันที่ดีไซด์ คนหนึ่งสวยเท่อีกคนสวยเฉี่ยว คนที่พาภรรยามาด้วยก็ถูกหยิกถูกตีกันเป็นแถวเพราะมองสองสาวจนตาค้าง

“รู้อย่างนี้ไม่พาเธอมาด้วยก็ดีดูซิมองเธอกันตาค้างไปหมดทั้งงานแล้ว” พัดชาแอบหยิกคนขี้เล่นอย่างหมันไส้

“มองใครกันแน่ ชิส์ฝันไปเถอะนะว่าจะปล่อยให้ออกงานคนเดียว” อริสรายิ้มชอบใจกับท่าทางของเด็กขี้หวงสำหรับพัดชาลึกๆเธอภูมิใจในตัวของคนรักมาก มีผู้ใหญ่ระดับประเทศหลายคนเข้ามาทักทายเขาบางคนก็เข้ามาขอบอกขอบใจ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากหล่อนตอนที่อยู่อังกฤษ

“หนิง” ทั้งคู่หันไปมองต้นเสียง พัดชาถึงกับตาค้างเมื่อได้เห็นหล่อนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก นางงามมาจากเวทีไหนหรือเปล่าอริสรายิ้มรับทั้งคู่เดินเข้าหากันและโดยไม่ทันคิด หญิงสาวผู้นั้นสอดมือเข้าไปที่ลำคอขาวโน้มหน้าอริสราเข้ามาจูบพัดชายืนตัวแข็งทื่อกับภาพที่เห็นจูบกันแบบหลับตาพริ้มแบบนี้คงไม่ใช่เป็นจูบแบบทักทายแล้วมั้งยัยบ้าเธออยากจะเข้าไปกระชากผมสวยๆที่หล่อนตั้งใจเซ็ทมาให้มันเละคามือไปเลยหญิงสาวผู้นั้นถอนจูบออกก่อนจะส่งยิ้มหวานสำทับ

“วินาทีนี้จูบแรกและจูบสุดท้ายของหนิงเป็นของโรสนะ” หล่อนลากไล้มือเรียวไปที่แก้มใสและปรายตามองหญิงสาวอีกคนด้วยนัยน์ตายิ้มเยาะท้าทายก่อนจะเดินจากออกไป

อริสราเรียกสติกลับมาได้ก่อนเมื่อเหลือบตามองคนรักที่ยืนตัวแข็งเป็นหินอยู่ตอนนี้‘งานเข้าแน่ๆ

อริสรานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ผิดจากที่คิดไว้ที่ไหนกลับมาถึงบ้านหล่อนก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงขนข้าวขนของไปนอนห้องคุณแม่

โรสนะโรส ทำกันได้ ฝ่ายพัดชากำลังนอนกอดคุณแม่อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางใจคอยดูนะจะพาแม่หนีไปด้วยไปอยู่ให้ไกลๆเลย คนเจ้าชู้ คนหลายใจ !!

นี่ก็หลายวันมาแล้วที่หล่อนไม่ยอมพูดยอมคุยหรือยอมให้เธอเข้าใกล้เลยเกาะติดแม่ของเธอแจ คุณแม่ก็เอาแต่หลงลูกสะใภ้ไม่ยอมฟังเหตุผลเธอบ้างเลย ดูซิยังกับเด็กสองคนอยู่ด้วยกันแต่ละคนทำเธอปวดสมองดีแท้

พัดชาเปิดประตูบ้านเข้ามาเห็นบ้านปิดไฟเงียบ คงจะหลับกันหมดแล้ววันนี้เธอกลับดึกหน่อยเพราะไปสังสรรค์กับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เจอกันนานตามประสาสาวๆ

หล่อนตรงไปที่ห้องของคุณแม่พยายามทำทุกอย่างให้เบาที่สุดและเปิดเฉพาะไฟในห้องน้ำด้วยเกรงว่าท่านจะตื่นคนมีอายุเวลาตื่นกลางดึกแล้วจะหลับยากหล่อนค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มและหลับตาลงไปอย่างเหนื่อยอ่อนมือของคุณแม่พาดมาที่ตัวเธอ ไม่แปลกเพราะเธอกับท่านนอนกอดกันเป็นปกติอยู่แล้วแต่ตอนนี้มันชักไม่ค่อยปกติแล้วเพราะมือนั้นกำลังลูบไล้บีบเค้นอกสวยของเธอหนักมือขึ้นเรื่อยพัดชาไล่จับมือนั้นและหันไปมองเจ้าของมือนึกไว้ไม่มีผิดคนเจ้าเล่ห์

“นี่ อย่ามาทำแบบนี้นะ”เหมือนจะสื่อสารกันไม่เข้าใจเพราะอีกฝ่ายเบียดตัวเข้ามาซุกไซ้ลูบไล้เธอไปทั่วทั้งตัวพัดชาพยายามหันหนีไม่ยอมง่ายๆอีกฝ่ายจึงรั้งตัวเธอให้หันมาและขึ้นไปทาบทับไม่ให้หล่อนขัดขืนได้สะดวก

“อย่าเอาปากที่จูบกับคนอื่นมาจูบพีทนะ”เธอดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง คิดถึงภาพที่คนรักจูบกับผู้หญิงอื่นเธอก็โกรธจนควันออกหูแต่อีกฝ่ายไม่สนใจอะไรใดๆทั้งนั้น ตอนนี้เธอสนใจแต่สัมผัสที่ลึกซึ้งที่ห่างหายมาหลายวันทบต้น ทบดอกกันเลยหละคืนนี้ อย่าหวังว่าจะได้นอนอย่างเป็นสุขพัดชาก็เหนื่อยหน่ายจะขัดขืนก็เคยทำสำเร็จสักครั้งที่ไหนล่ะ ชิส์คนบ้า

พัดชาตะแคงตัวหันไปมองคนรักแอบอมยิ้มกับการกระทำของอีกฝ่ายแม้ยามหลับหล่อนก็ยังกอดเธอไว้แน่นราวกับกลัวเธอจะหนีหายไปไหนจะไม่ให้เธอหึงเธอหวงก็ดูทำเข้าซิ หญิงสาวทำหน้าแสนงอนใส่คนหลับ

เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเธอก็ไม่เห็นคนรักแล้ว ชิส์ ไม่อยากจะสนใจพัดชาเดินออกมาจากห้องก็ไม่เห็นใคร คุณแม่ท่านก็ไม่อยู่แล้วก็ถึงบางอ้ออยู่ในใจเมื่อหันไปมองปฏิทิน ว่าเมื่อวานเป็นวันพระนี่เองเพราะเกือบทุกวันพระท่านจะไปถือศีลที่วัดเสมอ

เสียงเปิดประตูทำให้พัดชาต้องหันมองเมื่อเห็นว่าเป็นใคร หล่อนก็เชิดใส่หันหน้าหนีทันทีนึกในใจถึงคนที่เพิ่งเข้ามาว่าบ้าออกกำลังกายไม่เลิกไม่ลาเมื่อคืนกว่าจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระก็เกือบเช้า แล้วนี่ยังจะออกไปวิ่งอีกพัดชาเหลือบตามองนาฬิกาที่ติดอยู่ติดข้างฝาตอนนี้ยังไม่เจ็ดโมงเลยเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาเยอะแยะนักนะอริสราเดินเข้ามาหายิ้มเอาใจ

“วันนี้ฉันว่างเราไปเดินซื้อของกันนะ”อีกฝ่ายทำหน้าแสนงอนหันหลังให้ทำเป็นไม่ได้ยินก็เข้าทางเลยอริสราสวมกอดจากด้านหลังซุกหน้าไปที่ซอกคอขาว

“ถ้าเธอดื้อมากนักฉันจะปล้ำเธอกลางบ้านนี่แหละ” อริสราแกล้งซุกไซ้บีบเค้นไปทั่วร่างหนักมือขึ้นเรื่อยๆ

“คนลามกวันๆคิดถึงแต่เรื่องแบบนั้นนะ”

“แล้วจะเลิกดื้อหรือยังล่ะ”มือไม้ยังลูบไล้บีบเค้นไม่หยุดจนอีกฝ่ายอยากจะอ่อนใจสักวันละร้อยสองร้อยรอบกับความเอาแต่ใจและชอบใช้กำลัง

“ไม่ดื้อแล้วค่ะปล่อยได้แล้ว” อริสรายอมปล่อยแต่ก็ฉกหอมแก้มทิ้งท้ายอีกหนึ่งที พัดชาส่ายหน้ายิ้มๆหน่ายในใจ

พัดชาแปลกใจที่อยู่คนรักก็พาเธอเข้ามาในร้านจิวเวลลี่ชี้ชวนดูอันนั้นอันนี้เอาอกเอาใจเธอจนเกินปกติ

“เลือกดูตามสบายเลยนะครับโปรโมชั่นลดพิเศษสำหรับสุดที่รักของคุณหนิง” พัดชาเงยหน้ามองคนพูดเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากผิวขาวใสยังกับผิวเด็ก การแต่งตัวของเขาต่างจากคนอื่นๆคงจะเป็นเจ้าของร้านหรือไม่ก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าคนอื่นๆและที่สำคัญเขาก็รู้จักคนรักของเธอด้วย

“ดูดีๆพีท” ดูอะไร? พัดชาเพ่งมองไปที่ชายหนุ่มเขาเม้มปากให้เธอสะดุดใจ หญิงสาวเบิกตากว้างหันมองคนรักอริสราพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบหล่อนส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ผู้ชายคนนี้กับนางฟ้าในคืนนั้นชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆพัดชา

“อย่าไปบอกใครนะคะบ้านฉันยังไม่มีใครรู้เรื่อง” พัดชามองให้ชัดอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตา

“เราเสียจูบแรกให้กันตอนมัธยมต้น” อริสรามองหน้าชายหนุ่มและส่งยิ้มให้กัน

“เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดเป็นจริงหรือเปล่า” เป็นชายหนุ่มที่พูดประโยคนี้

“จริงๆกะจะเปิดซิงกันเลยด้วยซ้ำแต่พอมองหน้ากันแล้วก็กินกันไม่ลง” ชายหนุ่มบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี

“แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันเรื่องนี้ล่ะ”พัดชาหันมาตำหนิคนรักที่ยืนทำหน้างงอยู่ ก็อะไรกัน?คนผิดเป็นเธออีกแล้ว ก็แล้วคุณเธอยอมฟังอะไรบ้างที่ไหนชายหนุ่มมองหญิงสาวทั้งคู่อย่างเอ็นดู

“อย่ารังแกเพื่อนพี่นักนะคะหนิงเขายิ่งเสน่ห์แรงอยู่เดี๋ยวเขาไปสนใจคนอื่นจะแย่เอานะ” อริสราชาวูบขึ้นมาทันทีเอาอีกแล้วนังเพื่อนเลวก่อหวอดหาเรื่องให้เธออีกแล้ว

“นังโรส ถ้าแกไม่รูดซิบปากเสียบ้างนะ ฉันจะเอาเรื่องที่แกเป็นกระเทยไปป่าวประกาศให้รู้กันทั่วเลย” พูดจริงๆนะเนี่ยเพราะเธอชักเคืองกับนิสัยขี้แกล้งของเพื่อนรักคนนี้แล้วสร้างปัญหาให้เธอต้องตามเคลียร์จนเหนื่อยทุกที

หลังจากเฉลยเรื่องราวทุกอย่างไปทั้งพัดชาและเพื่อนรักของเธอก็ดูจะคุยกันถูกคอเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอันนู้นก็ดีอันนี้ก็งามเล่นเธอซะกระเป๋าแทบฉีกไม่รู้ว่าเจ้าเพื่อนตัวแสบลดราคาให้จริงหรือเปล่าลดแล้วของมันแต่เธอก็ยังหมดไปหลายแสน แต่ถ้ามันซื้อความสุขให้กับคนที่รักได้ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่อย่าเผลอนะเธอจะขโมยมาขายคืนเสียให้หมด


จบ...




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2556    
Last Update : 3 ตุลาคม 2556 10:32:54 น.
Counter : 754 Pageviews.  

แพร_กิ๊ฟ ตอน 2 จบ

วรินทรเดินขึ้นห้องมาอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้เธอช่วยคุณลุงทำสวนลงต้นไม้ทั้งวันส่วนใหญ่เป็นไม้ดอกของไทยที่หาดูได้ยากแล้วทั้งหมดเป็นอภินันทนาการจากป้าหญิงแม่ของพี่ณัฐที่ยามว่างท่านมักจะขยายต้นกล้าไว้แจกจ่ายคนคุ้นเคย

เด็กสาวเดินมาเปิดคอมเพื่อเช็คข่าวคราวและมีอีเมลฉบับหนึ่งเข้ามาจากเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายที่ขาดการติดต่อกันไปนานแล้ว จดหมายถูกเปิดอ่านทันที

‘สวัสดีกิ๊ฟ หวังว่าคงจำเราได้เรามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วยมาเจอกันที่ร้าน...ตอนหกโมงเย็นวันจันทร์ที่จะถึงนี้นะนีน่า...’ เธอไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่แต่เพื่อนคนนี้คงมีธุระกับเธอจริงๆ แต่คนที่ขาดการติดต่อกันไปนาน อยู่ๆทำไมถึงจะมีธุระกันนะหญิงสาวหันมองปฏิทิน วันจันทร์เป็นวันที่มายาวตีจะขึ้นแถลงข่าวในช่วงเช้านี่วรินทรครุ่นคิด เธอจะไป…

เมื่อถึงวันแถลงข่าวแผนการถูกเปลี่ยนแปลงเนื่องจากตามตัววรินทรมาช่วยยืนยันด้วยอีกคนไม่ได้มายาวตีต้องรับบทหนักเต็มๆ นักข่าวจากหลายสื่อออกันอยู่เต็มพื้นที่ในห้องแถลงข่าวพวกเขาเห็นเพียงมายาวตีแต่เพียงผู้เดียวทำให้เกิดเสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานเลยด้วยซ้ำกีกี้ต้องรีบมาชี้แจง และรีบเปิดงานแถลงข่าวทันที

มายาวตีพูดทุกอย่างตามสคลิปที่กีกี้ร่างไว้ให้รวมถึงเตรียมคำตอบที่เดาทางนักข่าวไว้จนมาถึงประโยคสุดท้ายที่หล่อนจะพูดก่อนจบการแถลงข่าว

“วตีกับน้องกิ๊ฟเป็นแค่พี่น้องในวงการนางแบบเท่านั้นค่ะ”หล่อนยิ้มหวานเป็นการส่งท้ายและทำท่าจะลุกออกไป

“เดี๋ยวค่ะ” เสียงๆหนึ่งดังมาจากด้านหลังห้อง มีพลังมากพอที่จะดึงทุกสายตาให้หันมองวรินทรเดินเข้าไปที่หน้าโต๊ะแถลงข่าว มายาวตีมองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจทุกอย่างกำลังจะจบด้วยดีแล้ว แล้วหล่อนจะมาทำอะไรแบบนี้ทำไมวรินทรเดินเข้าไปหามายาวตี และสิ่งที่ไม่มีใครคาดถึงก็เกิดขึ้นเด็กสาวดึงหน้านางแบบสาวรุ่นพี่เข้ามาจูบ ค้างนิ่งเนิ่นนานจนพอใจก่อนจะปล่อปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระแต่มายาวตียังยืนงงไม่ได้สติ วรินทรหยิบไมค์ขึ้นมาพูด

“นี่คือสิ่งที่กิ๊ฟอยากจะบอกกับทุกคน” เมื่อพูดจบหล่อนก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ‘นี่คือสิ่งที่คนอย่างเธอสมควรได้รับมายาวตี!!’

หลังจากภาพข่าวแพร่ภาพออกไป ทุกคนที่รู้จักวรินทรต่างตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำแพรวามองข่าวนี้อย่างขมขื่น ‘ขอบคุณที่มาช่วยตอกย้ำให้ฉันทำใจได้ง่ายขึ้น’

ณ ห้องนอนในคฤหาสน์หรูเสียงหวีดร้องดังขึ้นลั่นบ้านเมื่อมาแชลได้เห็นข่าวนี้ ผู้หญิงที่หลงรักสุดหัวใจถูกเพื่อนที่ไว้ใจจูบออกอากาศ

วรินทรรีบขับรถกลับจากกรุงเทพเพื่อมาตามที่นัดกับเพื่อนไว้ตอนนี้ภารกิจของเธอเสร็จสิ้นแล้ว มายาวตีได้รับบทเรียนที่สาสมแล้ว และหลังจากนี้เธอจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับวงการนางแบบอีกและเธอต้องรีบไปเคลียร์ใจกับสุดที่รักโดยด่วน

วรินทรกวาดสายตามองหาเพื่อนเก่าเขายิ้มออกมาเมื่อเห็นเพื่อนสาว

“มานานหรือยังนีน่า”

“เพิ่งมาเหมือนกันแต่ตอนนี้เรารู้สึกไม่ดีเลยเพราะเราควรมาหา

กิ๊ฟเร็วกว่านี้” วรินทรมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ

“เราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับมาแชลตอนนั้นเราสนิทกับมาแชลที่สุด แต่ตอนนี้เราเลิกคบมาแชลไปแล้ว” วรินทรเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจ

“แต่มาแชลติดต่ออยู่กับกิ๊ฟใช่ไหม” วรินทรพยักหน้านิดๆ

“กิ๊ฟฟังเรานะ มาแชลมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทเป็นโรคจิตอ่อนๆมานานแล้วแต่มาแชลยังสามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ สามารถหลบซ่อนทุกอย่างได้อย่างแนบเนียน”วรินทรมองเพื่อนเก่านิ่ง เธอกำลังวิเคราะห์ทุกสิ่งที่ได้ยินอย่างหนัก

“มาแชลหลงรักนางแบบรุ่นพี่ที่ชื่อมายาวตีเธอจินตนาการเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับความรักโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่องด้วยเลยก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตายเธอเข้าไปบอกรักมายาวตีและถูกปฏิเสธกลับมาเธอจึงเอาเรื่องราวตรงนี้มาจินตนาการต่อ” วรินทรนั่งตัวแข็งทื่อนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

“กิ๊ฟโกรธมายาวตีแทนมาแชลใช่ไหมกิ๊ฟตั้งใจทำลายหล่อนเพราะคิดว่าหล่อนทำร้ายมาแชลใช่ไหม”วรินทรนิ่งอึ้งสมองมึนตื้อ เธอจะหาความจริงเรื่องนี้ได้จากที่ใด

“เราจะมาบอกกิ๊ฟเรื่องนี้แหละแต่มันคงสายไปแล้วและถ้ากิ๊ฟไม่เชื่อที่เราพูดก็ลองไปหาข้อมูลของมาแชลจากโรงพยาบาลที่เมืองฟอร์ตเวิร์ทดูเพราะเคทของมาแชลเป็นกรณีศึกษาของที่นั่นส่วนเรื่องของมายาวตีกับ

มาแชลถ้าอยากรู้จริงๆก็ถามเอาได้จากคนในวงการนั่นแหละ” นี่น่าลุกออกจากร้านไปนานแล้วแต่วรินทรยังนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นมึนจนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคิดเรื่องอะไรก่อนดี ถ้าเป็นอย่างที่นีน่าพูดจริงมันก็หมายถึงเธอทำลายคนบริสุทธิ์นะซิไม่นะ …

มายาวตีมองท้องฟ้าสีเทายามค่ำคืนด้วยจิตใจที่หมองเศร้าคนที่เธอรักทำลายเธอด้วยน้ำมือของเขาเองต่อหน้าของเธอ ทำไม?เธอเคยทำอะไรให้หล่อนหรือไร หล่อนถึงโกรธเคืองคิดฝังเธอให้จมดินแบบนี้แล้วความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหละมันไม่มีความรักจากใจหล่อนเจืออยู่บ้างเลยเหรอ ทำไมหล่อนถึงใจร้ายกับเธอแบบนี้ทำไม

หลังจากที่งดรับงานมาพักใหญ่แต่วันนี้เธอไม่สามารถบ่ายเบี่ยงที่จะไม่มาได้เพราะเป็นงานของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เธอเคารพรักและเมื่อเสร็จงานหล่อนก็รีบเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเธอไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรในเรื่องนั้นอีกแต่เสียงที่ดังออกไมค์อยู่ตอนนี้ทำให้เธอต้องหยุดฟัง

“ขอบคุณพี่ๆนักข่าวมากเลยนะคะที่มาตามคำเชิญกิ๊ฟมีเรื่องอยากจะสารภาพกับทุกคนเรื่องพี่มายาวตีก่อนอื่นกิ๊ฟต้องขอบอกก่อนว่ากิ๊ฟก็เป็นนางแบบคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพนางแบบและพี่วตีคือภาพความสำเร็จที่กิ๊ฟเห็นเธอเพียบพร้อมและงามสง่าและ...กิ๊ฟอยากไปยืนอยู่ในจุดที่พี่วตียืนหรือถ้ากิ๊ฟไปยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ กิ๊ฟก็ต้องการที่จะดึงพี่วตีลงมา” เสียงอื้ออึงดังไปทั่วห้องจัดงานมายาวตีได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเธอรู้ดีวรินทรโกหก!เพราะเธอเองยังเคยสงสัยว่าหล่อนเข้ามาวงการนี้ทำไมเกือบทุกครั้งที่ทำงานร่วมกันเธอไม่เคยเห็นแววสนุกหรือมีความสุขในดวงตาของหล่อนเลยและวรินทรยังปฏิเสธงานใหญ่ๆที่นางแบบหลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปยืนอยู่บนนั้นหลายต่อหลายงาน

“กิ๊ฟเป็นคนโทรไปแจ้งนักข่าวเองในวันนั้นวันที่ท่านทั้งหลายได้รูปกิ๊ฟยืนจูบอยู่กับพี่วตีซึ่งเรื่องจริงแล้วมันไม่มีอะไรเลยเราทั้งคู่ต่างเคยชินกับวัฒนธรรมตะวันตกจากการใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกหลายปีการจูบกันเมื่อพบหรือเมื่อจากกันเป็นเรื่องปกติแต่กิ๊ฟตั้งใจให้มันเป็นประเด็นขึ้นมาวันนี้ที่

กิ๊ฟออกมาพูดเพราะสำนึกได้แล้วว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ยุติธรรมกับพี่วตีและไม่เป็นผลดีกับใครกิ๊ฟอยากจะขอโทษพี่วตีและทุกคนที่ผิดหวังในตัวกิ๊ฟ” หญิงสาวพนมมือไหว้ขอโทษ

“และกิ๊ฟขอลงโทษตัวเองด้วยการออกจากวงการนี้ค่ะเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี” พูดจบหญิงสาวรีบเดินลงมาและหลบออกไปทันทีโดยไม่รอให้นักข่าวได้ถามไถ่อะไร เสียงอื้ออึงวิพากษ์วิจารณ์ดังไปทั่วทั้งห้องวรินทรตรงไปที่รถรีบไขกุญแจเปิดประตู แต่เสียงเสียงหนึ่งทำให้หล่อนต้องหยุด

“จะไม่อธิบายอะไรให้พี่ฟังเลยเหรอ” วรินทรหันมองต้นเสียงอย่างรู้สึกผิด

“กิ๊ฟขอโทษ” เธอคิดคำพูดที่ดีที่สุดในตอนนี้ได้เท่านี้จริงๆ

“ทำเรื่องไว้แล้วอยู่ๆก็จะทิ้งกันไปแบบนี้เหรอ ใจร้ายเกินไปหรือเปล่า”มายาวตีกล่าวโทษตัดพ้อเธอต้องการเอาความรู้ผิดในใจดึงหล่อนไว้กับเธอ

“คือกิ๊ฟ” เธอไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขอะไรอย่างไรเลย กับความโง่เง่าเอาแต่ใจของตัวเอง

“พี่อยากรู้ว่าเรื่องระหว่างเราจริงๆแล้วมันคืออะไรกิ๊ฟรักพี่เหมือนที่พี่รักกิ๊ฟบ้างไหม” มายาวดีจ้องมองรอคำตอบ

“คือกิ๊ฟ” วรินทรพูดอะไรไม่ออกแต่อาการอ้ำอึ้งไม่พูดอะไรก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนให้กับอีกฝ่ายแล้ว

“กิ๊ฟขอโทษค่ะ ขอโทษ…”

“และเรื่องคืนนั้นล่ะ มันไม่ความหมายกับเธอเลยเหรอ” น้ำตาพร่างพราวออกมาจากตาดวงสวยไม่ง่ายเลยที่ความรู้สึกรักมากมายจะเกิดขึ้นกับใครสักคนแต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับเธอแล้วกับคนตรงหน้าเธอคนนี้ และหล่อนก็กำลังจะเดินจากเธอไป

“คืนวันนั้นกิ๊ฟกับพี่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นพี่แค่หลับไป”มายาวตีเกิดอาการไม่เข้าใจ

“กิ๊ฟสร้างเรื่องให้พี่คิดไปเองกิ๊ฟต้องการทำร้ายจิตใจพี่ กิ๊ฟต้องการทำให้พี่เสียใจเพราะกิ๊ฟเข้าใจผิดกิ๊ฟขอโทษที่ทำให้พี่รัก กิ๊ฟ...” เกินที่เธอจะรับฟังได้อีกแล้วมายาวตีพูดแทรกขึ้น

“เธอทำใจให้รักพี่ไม่ได้เหรอพี่จะลืมเรื่องทุกอย่างแล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม” หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยสายตาวิงวอนเธอยอมทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่างขอแค่ดึงรั้งหล่อนไว้ได้

“กิ๊ฟขอโทษจริงๆกิ๊ฟรักพี่ไม่ได้กิ๊ฟมีคนที่รักมากอยู่แล้วลาก่อนนะคะ” วรินทรเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถและขับออกไปทันทีเธอกำลังเจ็บปวดกับเรื่องที่ก่อไว้เหลือเกินผู้หญิงดีๆคนหนึ่งต้องมาเจ็บปวดเพราะเธอแต่เวลาไม่หวนคืนมันจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่เธอต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนไปชั่วชีวิตภาวนาขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดประทานพรให้พี่วตีเจอคนที่ดีและรักเธอมากๆด้วยนะคะ

มายาวตีมองตามรถที่เคลื่อนออกไปทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้อย่างหนักความรักหลุดลอยไปไกลแล้ว ลาก่อนหัวใจของฉัน… กีกี้เดินตามออกมาเมื่อเห็นมายาวตีทรุดกองอยู่กับพื้นก็รีบเข้ามาประคองด้วยความห่วงใยมองสภาพหล่อนด้วยความเห็นใจ

วริศามองโทรศัพท์มือถือของตนไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็นว่าเป็นเรื่องจริงเหรอว่าฝันไปเพราะเบอร์เรียกเข้าที่โชว์อยู่หน้าจอมือถือมันเป็นเบอร์ของแพรวานี่พระเจ้าประทานโอกาสให้เธอแล้วใช่ไหม

“จ้ะแพร”

“แพรอยากเมาค่ะพี่หมอคืนนี้พี่หมอพาแพรไปหน่อยนะคะ” ถึงเธอจะไม่เข้าใจอารมณ์ปลายสายเท่าไหร่แต่การได้อยู่ใกล้ชิดกันมันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ

“ได้ซิเดี๋ยวคืนนี้พี่ไปรับแพรที่บ้านนะ”

“ค่ะ แพรจะรอ” เมื่อวางสายจากวริศาไป แพรวาครุ่นคิดเหม่อมองไปไกลเธอจะทำทุกทางเพื่อลืมคนใจร้ายคนนั้นให้ได้

วริศามองคนที่รักอย่างเป็นห่วงก็ตั้งแต่มาถึงที่นี่หล่อนเอาแต่ดื่มเหล้าไม่สนใจอะไรเลย

“แพรจ้ะพี่ว่าค่อยๆดื่มดีไหม นี่ก็ดื่มไปเยอะแล้วนะ” แพรวามองคนที่ห้ามเธออย่างสนใจหล่อนยิ้มสวยส่งไปให้และก็ยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนเดิม วริศามองคนเมาแล้วอย่างทำใจตามใจก็แล้วกันนะ เธอมีหน้าที่อารักขาไปรับถึงที่กับไปส่งให้ถึงบ้านก็ทำไปในส่วนลึกเธอรู้ดีอาการที่แพรวาแสดงออกมันเป็นอาการของคนอกหักใครกันนะที่ทำให้หล่อนฟูมฟายได้ขนาดนี้ แพรคงรักเขามากซินะ

อริสรานั่งมองหญิงสาวคู่หนึ่งอยู่นานเป็นคนรู้จักของเธอทั้งคู่คนหนึ่งก็แพรวาที่ตอนหลังเหมือนจะเป็นอดีตคนรักของหลานเธอส่วนอีกคนก็คุณหมอเจ้าของไข้ของฟ้า แต่ประเด็นคือทำไมสองคนนี้ถึงมาด้วยกันเธอฟันธงได้ตั้งแต่แรกเห็นคุณหมอคนสวยว่าหล่อนก็ไม่ต่างไปจากเธอที่พอใจในเพศเดียวกันแล้วหลานตัวป่วนของเธอกับแพรวาเลิกกันแล้วจริงๆเหรอเธอไม่อยากจะเชื่อและอาการเมามายของแพรวาตอนนี้ทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้หากเกิดพลาดพลั้งผิดฝาผิดตัวกันขึ้นมาจะแย่กันไปหมดแต่ยังไงเสียเธอก็ต้องถือข้างหลานซิ ใช่ไหม?อริสราคิดเองเออเองก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อส่งต่อข่าวสารทันทีสงสัยงานนี้เธอคงต้องลงไปช่วยเคลียร์ระบบเสียแล้ว

วรินทรเดินเข้าไปหาคุณน้าคนสวยและทั้งคู่ก็พากันเดินไปที่โต๊ะเป้าหมายอริสราทักทายคุณหมอและขอนั่งด้วยและก็ทำเป็นประหลาดใจที่เจอแพรวาที่นี่เพราะว่ารู้จักสนิทสนมกันดีและต่างก็แนะนำตัวกันวรินทรพูดคุยเป็นมิตรกับวริศาราวกับไม่มีเรื่องใดในใจแต่สำหรับแพรวาหล่อนแทบไม่เหลือสติที่จะจำใครได้แล้ววรินทรมองแม่เมรีอย่างนึกระอาใจนี่ถ้าลูกศิษย์ลูกหามาเห็นเข้าจะได้เอาไปนินทากันสนุก

เสียงแตกตื่นดังมาจากหลังร้านทำให้สี่สาวบนโต๊ะต้องหันไปมองอย่างสนใจและก็มีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือว่ามีคนเป็นลมชักกัดลิ้นตัวเองอยู่ ใครรู้วิธีช่วยเหลือบ้าง และด้วยสัญชาติญาณของความเป็นหมอทำให้วริศาหูผึ่งกระตือรือล้นจะไปช่วยเหลือแต่อดห่วงคนที่มาด้วยไม่ได้อริสราเห็นดังนั้นเธอจึงรับเสนอตัวดูแลแพรวาให้และให้คุณหมอรีบไปช่วยคนก่อนดีกว่าเมื่อเบาใจว่ามีคนดูแลแพรวาวริศารีบแทรกฝูงชนไปหาคนเจ็บทันทีตะโกนไปตลอดทางว่าเป็นหมอเพื่อเป็นการขอเปิดทางอริสรามองตามอย่างรู้สึกผิดนิดๆที่ต้องมาหลอกคนดีๆอย่างหมอวริศา

“จัดการต่อเองนะเจ้ากิ๊ฟเดี๋ยวเรื่องหมอน้าจัดการต่อเอง” วรินทร

กล่าวขอบคุณและรีบประคองแพรวาออกไป

แพรวาบิดขี้เกียจขับไล่ความปวดเมื่อยทั้งที่ยังไม่ลืมตาแต่ผ้าห่มที่หลุดร่วงไปทำให้ความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบผิวหนังของหล่อนโดยตรงเมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแพรวาก็ลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสภาพของตัวเองทำให้ต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายทันทีก็ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอไม่มีอาภรณ์ใดๆติดกายอยู่เลยและเมื่อมองไปรอบๆที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอแต่เธอก็รู้สึกคุ้นตามากและเสียงลูกปิดที่ประตูทำให้เธอต้องหันมองอย่างหวั่นใจดึงผ้าคุมกายจนถึงคอ

“ตื่นแล้วเหรอคะหิวหรือยัง” คนเข้ามาใหม่ ดูหน้าตาแจ่มใสในชุดลำลองสบายๆ

“ทำไมฉันถึงมาอยู่นี่ได้”แพรวาถามเสียงห้วน

“ก็นั่งรถมาไง ใครจะพาคุณอุ้มเดินมากรุงเทพล่ะ”กรุงเทพ! อะไรกันเนี่ยนี่เธอเมาไม่รู้เรื่องจนใครนึกจะพาเธอไปไหนมาไหน ก็ได้ตามใจอย่างนั้นเหรอและพี่หมอล่ะทำไมถึงไม่ยอมดูแลเธอให้ดี ปล่อยให้เธอมากับคนคนนี้ได้ยังไงกัน หญิงสาวกวาดสายตามองหาเสื้อผ้าของตัวเองเธอต้องการไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด แต่เธอก็ไม่เห็นมันเลยสักชิ้น

“เอาเสื้อผ้ามาฉันจะกลับแล้ว”

“ถ้าทำตัวดีจะเอามาให้”

“บ้าไปแล้วหรือไงเธอไม่มีสิทธิ์จะมาทำอะไรกับฉันแบบนี้นะ”

วรินทรยิ้มสวยเดินเข้ามานั่งข้างๆบนเตียง

“ไม่ว่าจะอีกกี่ปีคุณก็จะเป็นสิทธิ์ของฉัน” ทั้งคู่สบตากันเกินกว่าที่ใครจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นแพรวาเหวี่ยงมือมาที่หน้าของวรินทรเต็มแรง

“คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาพูดกับฉันแบบนี้” วรินทรมองคนที่กำลังโกรธเกรี้ยวอย่างเข้าใจและยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆว่าเธอผิดเองทั้งหมด

“ฉันขอโทษฉันอยากอธิบาย” เด็กสาวส่งสายตาวิงวอน เธอปรารถนาโอกาส

“ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นเรื่องของเรามันจบไปแล้วและฉันก็มีคนใหม่แล้วด้วย”

“เหรอแล้วถ้าแฟนใหม่ของคุณรู้ว่าคุณมานอนอยู่กับคนอื่นแบบนี้ เขาจะยังโอเคอยู่เหรอ”วรินทรถามกลับด้วยแววตาใสซื่อ

“เขาต้องเชื่อใจว่าฉันไม่มีวันนอกใจเขาเพราะฉันไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น” วรินทรยิ้มให้กับคำพูดที่หล่อนเสียดสีเธอ

“เหรองั้นเรามาพิสูจน์ด้วยกัน” แพรวาไม่เข้าใจแต่ก็ต้องใจหายเมื่ออีกฝ่ายกระชากผ้าห่มออกไปจากตัวและโถมตัวเข้ามาทาบทับตัวเธอ

“ว้าย!! จะทำอะไรปล่อยฉันนะ...” อีกฝ่ายทำหน้าแปลกใจทำไมหล่อนลืมง่ายแบบนี้ ก็เพิ่งบอกไปเมื่อกี้เอง

“ก็พิสูจน์ไงจะได้รู้ว่าคนรักของคุณเขาจะยอมรับที่คุณไปนอนกับคนอื่นได้ไหม”

“นี่!! อย่าทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ได้ที่ระบายความใคร่ หรือของเล่นของเธอนะ”วรินทรมองอีกฝ่ายยิ้มๆ

“ก็ไม่ใช่ไงแต่คุณเป็นคนที่ฉันรัก”แพรวาชะงักมองอีกฝ่าย คำว่ารักของคนคนนี้คือสิ่งที่เธอไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง

“แต่เธอเป็นคนที่ฉันเกลียด”และเธอก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าคำว่าเกลียดสำหรับเธอมันหมายความว่ายังไง

“เหรองั้นก็ต้องพิสูจน์เรื่องนี้อีกเรื่องว่าคุณเกลียดฉันหรือว่าจริงๆแล้วคุณรักฉันสุดหัวใจกันแน่”

“นี่...” วรินทรหยุดการสนทนาด้วยการครอบครองริมฝีปากบางของหล่อนดูดกลืนทุกความคิดทุกคำพูดร้ายๆที่มันจะหลุดออกมาเธอรักผู้หญิงคนนี้เกินจะยอมแพ้และเดินจากไปและเธอก็มั่นใจหล่อนก็รักเธอไม่ต่างกัน

เรี่ยวแรงของวรินทรใช้บังคับฝืนใจร่างที่บางกว่าในคราแรกแต่จากนั้นสองร่างก็ตอบสนองกันเป็นอัตโนมัติสำหรับแพรวาเธอกำลังโกรธตัวเองที่ไม่อาจควบคุมร่างกายไม่ให้ไหลไปในทางที่อีกฝ่ายชี้ชวนได้ไม่ใช่เพราะหล่อนเจ้าเล่ห์หรือล่อหลอกเธอแต่เป็นเพราะลึกๆเธอก็ต้องการสัมผัสเหล่านี้

เมื่อเกลียวคลื่นแห่งความรักสงบลงเรี่ยวแรงเริ่มกลับมา แพรวาก็พยศขึ้นมาทันทีหล่อนพยายามที่จะบิดกายไปมาเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของคนใจร้ายแต่อีกฝ่ายหรือจะยอมง่ายๆกลับกอดกระชับแน่นขึ้น ปากและจมูกก็ซุกซน ลากไล้ไปทั่วยิ่งหล่อนดิ้นรนเธอก็ยิ่งอยากแกล้ง

“นี่ อื้อ บ้า หยุดน้า”

“ถ้าคุณยอมฟังฉันจะหยุด แต่ถ้าไม่ฉันจะปล้ำคุณและขังคุณแบบนี้ไปเรื่อยๆ” แพรวากำลังคิดหนักไม่อยากจะอ่อนข้อให้คนเอาแต่ใจง่ายๆแต่เรื่องที่หล่อนขู่เธอเชื่อว่าหล่อนทำได้จริงๆเพราะวรินทรจะมีวิธีไปบอกกับคนรอบตัวเธอว่าไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องตามหาเธอ

“พอได้แล้ว คนบ้า ฉันฟังก็ได้”แพรวาชักสีหน้าใส่คนเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจแอบคิดเคืองว่าไม่น่าไปหลงรักคนที่ฉลาดเป็นกรดอย่างหล่อนเลยจริงๆถ้าตัดใจจากหล่อนไปได้นะจะไม่มีแฟนที่ฉลาดมากๆอีกแล้ว สวยมากแบบนี้ก็ไม่เอาด้วยชิส์

วรินทรพลิกตัวขึ้นไปทาบทับอยู่บนตัวแพรวา จ้องมองเข้าไปนัยน์ตา ‘ขี้โกงนี่เอาตาหวานๆของตัวเองมามองเธอแบบนี้ก็ละลายกันพอดี’ แพรวาคิดเคือง

“ฉันขอโทษนะสำหรับหลายเดือนที่ผ่านมาฉันทำให้คุณเข้าใจผิดและเสียใจ” แพรวามองกลับด้วยสายตาที่เป็นคำถามเข้าใจผิด? วรินทรเล่าทุกอย่างให้แพรวาฟังจนถึงเรื่องที่เธอไปสารภาพผิดออกสื่อ

“ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้” แพรวาทำหน้าฉงน แต่ก็นะงานเธอก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาจะโงหัวเลยและอีกอย่างวรินทรก็เป็นต้นเหตุให้เธอไม่อย่างรับรู้เรื่องราวใดๆ

“ที่ฉันไม่บอกคุณตอนนั้นเพราะไม่รู้จะอธิบายกับคุณยังไงและกลัวมันจะไม่แนบเนียนตั้งใจไว้ว่าจะจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด คุณเชื่อที่ฉันพูดไหมคุณแพรวา”วรินทรมองเข้าไปในแววตาที่สั่นระริกคล้ายสับสนของแพรวา

“หัวใจฉันอยู่ที่คุณนะฉันไปไหนห่างคุณไม่ได้หรอก คุณอย่าไล่ฉันไปไหนเลยนะฉันคงอยู่ไม่ได้แน่ๆถ้าไม่มีคุณ”ตอนนี้มีหยดน้ำพราวอยู่ในตาดวงสวยของแพรวามันตื้อไปหมดสำหรับเธอสองกายที่แนบชิดกอดก่ายกันอยู่กระแสแห่งความรักไหลเวียนถึงกันอย่างไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น

“ฉันไม่สัญญาอะไรกับคุณหรอกนะเพราะคำพูดมันไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ฉันจะทำหลังจากนี้ฉันจะรักและดูแลคุณให้ดีที่สุดตลอดไป” วรินทรโน้มหน้าลงมาหาริมฝีปากของคนที่กำลังสับสนอย่างหนักสัมผัสที่หยอกล้อเชิญชวนช่วยเรียกสติหล่อนกลับมาได้เธอจะคิดอะไรได้ล่ะก็คนคนนี้มีอำนาจเหนือเธอทุกอย่าง เธอเป็นสิทธิ์ของหล่อนจริงๆทั้งกายและใจแพรวาตอบสนองกับทุกสัมผัสที่อีกฝ่ายส่งมา เธอเชื่อในทุกสิ่งที่หล่อนพูดเพราะเธอรักผู้หญิงคนนี้สุดหัวใจ ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างกันมันคือสีสันที่ทำให้เรื่องราวความรักของเราไม่จำเจแต่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวใด ขอเพียงแค่สองหัวใจยังดึงดูดเข้าหากันความรักก็จะดำเนินไปต่อได้เสมอ

วริศาเดินดูของเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้างไฮโซกลางกรุงเธอเข้ามาหาซื้อของขวัญวันเกิดให้กับคุณแม่

“โอ๊ะ!!” แรงกระแทกทำให้วริศาเซล้มลงไปและตัวต้นเหตุของแรงกระแทกก็ถลาล้มตามมาทับซ้ำอีก และเมื่อสองสายตาสบกัน

“สวยมาก” วริศาเพ้อพูดออกมา หญิงสาวอีกคนเขินจนแก้มแดงแต่ก็แอบสงสัยกับตัวเองว่าจะเขินทำไมก็รู้ตัวมานานแล้วว่าตัวเองสวยและทุกคนก็ชมเธอกันทั้งนั้นและคนที่ชมเธอก็ดูดีน้อยอยู่เสียเมื่อไหร่คนถูกชมว่าสวยทำท่าจะยันตัวลุกแต่ก็รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้า

“โอ๊ย!!” วริศาหน้าตาตื่นเมื่อเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของอีกฝ่าย จึงรีบยันตัวขึ้นและค่อยๆประคองหญิงสาวอีกคนให้ลุกขึ้นตามมา

“ค่อยๆลุกนะคะยึดฉันไว้อย่าลงน้ำหนักเท้าข้างที่เจ็บมากนะ ข้อเท้าคงพลิก” วริศาพาคนเจ็บมานั่งที่เก้าอี้ตัวยาวก่อนจะคุกเข่าลงถอดรองเท้าของหล่อนออกและพลิกเท้าไปมาเพื่อดูอาการสัมผัสจากผู้หญิงคนนี้ทำให้มายาวตีรู้สึกสุขใจอย่างประหลาดแววตาและการกระทำของหล่อนดูใสซื่อจริงใจมีเสน่ห์มากเลยทีเดียว

“ทำอย่างกับเป็นหมอ”มายาวตีพูดขึ้นมาลอยๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบมากนัก

“ฉันเป็นหมอค่ะ” วริศาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้และกลับไปดูที่ข้อเท้าต่อ

“คุณสวยมากเลยนะ”ปากก็พูดไปเรื่อยแต่สติยังอยู่ที่ข้อเท้า

“คุณไม่รู้จักฉันเหรอ”วริศาเงยหน้าขึ้นมองเลิกคิ้วสงสัย แล้วทำไมเธอต้องรู้จักหล่อนแต่สวยแบบนี้ก็พอจะเดาได้ว่าหล่อนอาจจะเป็นดารา หรือไม่ก็นางแบบเธอไม่รู้เรื่องราวพวกนี้เท่าไหร่หรอกเพราะไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารเท่าไหร่และเธอก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยอ่อ! แต่เธอก็เพิ่งรู้จักกับคนหนึ่งนะที่เป็นนางแบบน้องกิ๊ฟคนรักของแพรวา สำหรับสองคนนี้ เธอมองอย่างชื่นชมและยินดีเป็นเธอเองที่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปในวันนั้นวันนี้แพรวามีความสุขเธอก็ดีใจด้วย

“อย่าโกรธฉันเลยนะเพราะฉันไม่ค่อยได้ติดตามสื่อเลยทำแต่งานแต่ฉันก็เดาได้ว่าคุณคงเป็นดารา” ยังไม่ทันที่มายาวตีจะได้ตอบอะไรเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นเป็นเบอร์ของเจ๊กีกี้เธอบอก ณ จุดที่เธออยู่และก็บอกถึงอาการบาดเจ็บไม่นานเจ๊กีกี้ก็มาถึงและมองอีกคนอย่างเป็นคำถาม

“เขาช่วยวตีไว้ค่ะ”กีกี้หันมาขอบอกขอบใจและรีบขอตัวเผื่อยังมีนักข่าวหลงเหลืออยู่แถวนี้วริศายิ้มรับนิดๆ

“ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะแต่หลังจากนี้อีกสองชั่วโมงมันจะปวมแล้วก็จะปวดมากให้ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อนวดเบาๆไปในทางเดียวกันและก็ทานยาแก้ปวดได้เป็นปกตินะคะ”วริศาทำท่าจะเดินออกไป

“เอ่อ...คุณ...ชื่อ” มายาวตีทำทุกอย่างแบบมีฟอร์มวริศาหันมายิ้มใจดี และหยิบนามบัตรออกมายื่นให้และเดินออกไป

*** ทั้งคู่เดินไกลกันออกไปเรื่อยๆหลังจากนี้ก็แค่เชื่อมั่นในการทำงานที่มีประสิทธิ์ภาพของหัวใจสองดวงที่มันจะพยายามดึงดูดและเรียกร้องหากันอยู่ตลอดเวลาไม่สำคัญเลยว่าความรักมันจะจบลงที่ใดแต่มันสำคัญที่ว่าวันนี้ความรักทำให้หัวใจของเรามีความสุข




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2556    
Last Update : 1 ตุลาคม 2556 11:00:33 น.
Counter : 618 Pageviews.  

แพร_กิ๊ฟ ตอน 1

แพรวานั่งมองนิตยสารที่อยู่ในมือภาพเบื้องหน้าสวยงามเกินจะหาคำใดๆมาติหล่อนสวยและดูดีเสมอเมื่อไม่นานมานี้หล่อนก็เพิ่งได้รับโหวตให้เป็นนางแบบที่คนอยากออกเดทด้วยมากที่สุดแพรวาวางหนังสือลงและเดินออกไปยืนรับลมที่ระเบียงเพื่อให้ความหนักหน่วงที่อยู่ในใจได้คลายลงไปบ้างเมื่อใดที่คิดถึงก็พาใจให้เศร้าหมอง เธอกับกิ๊ฟเลิกรากันไปหลายเดือนแล้วเหมือนฟ้าฟาดลงมากลางใจที่อยู่ๆกิ๊ฟก็เดินเข้ามาขอเลิกกับเธอด้วยเหตุผลว่าเจอคนใหม่ที่รักมากกว่าเธอแล้วมายาวตีนางแบบรุ่นพี่คือคนที่กิ๊ฟกล่าวถึง

ก่อนหน้านั้นเธอแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆเด็กน้อยของเธอกระตือรือร้นที่จะพาตัวเองเข้าสู่วงการนางแบบแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้วสำหรับคนที่มีใบหน้าที่สวยเก๋เป็นเอกลักษณ์กับความสูงที่เกินมาตรฐานหญิงไทยไปมาก ยังจะความสามารถในการเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและความกล้าแสดงออกแค่ในช่วงแรกๆที่กิ๊ฟเข้าวงการนางแบบหล่อนก็มีชีวิตที่เปลี่ยนไปมีเพื่อนนางแบบสาวสวยหุ่นดีเพิ่มขึ้นมาหลายคนและก็ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเธอเหมือนเดิมในตอนนั้นเธอยอมรับว่ากลัวเด็กน้อยจะไปสนใจคนอื่น มองคนอื่น เธอหึงเธอหวงหล่อนมากเธอต้องการความใส่ใจและเวลาจากหล่อนเหมือนเดิมแต่เหมือนกิ๊ฟจะรู้แต่ทำเป็นเป็นไม่รู้นับวันกิ๊ฟก็ยิ่งเย็นชายิ่งห่างหาย จนสุดท้ายก็หลุดลอยออกไปไกลความรักจะมีประโยชน์อะไรถ้ามีใจให้กันอยู่ฝ่ายเดียวความเหงาและความเสียใจยังคงค้างคาอยู่ในใจเธอ แต่สิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเบื้องลึกคือเธอยินดีที่เห็นคนที่เธอรักมีชีวิตที่ดีและมีความสุขเธอปรารถนาให้เขาได้เจอคนที่ดีกว่าเธอ

วรินทรเดินเข้ามาภายในห้องแต่งตัวหล่อนมองภาพตรงหน้าอย่างสุดเบื่อหน่ายเสียงดังวี๊ดว้ายหรือแม้แต่คำด่าทอกันทั้งเล่นและจริง คำติฉินนินทาการกล่าวถึงชายหนุ่มคู่ควงยาวกันไปจนถึงบทรักบนเตียงทุกอย่างรวมกันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กแคบๆนี้หมดหล่อนเกลียดทุกสิ่งที่นี่แต่ทุกอารมณ์และความรู้สึกต้องถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“น้องกิ๊ฟขามาทางนี้เร็วๆเลยค่ะ” กีกี้กระเทยร่างยักษ์ในชุดกระโปรงสีชมพูสั้นเต่อโบกไม้โบกมือเรียกหญิงสาวคนสำคัญที่เธอกำลังรอคอยอย่างร้อนใจกีกี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของมายาวตีที่ตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังออกฤทธิ์ออกเดชเร่งเร้าให้เธอติดตามสาวน้อยคนนี้มาให้หล่อนได้พบโดยเร็วสำหรับคนที่ชิดใกล้รู้ใจกัน วรินทรเป็นของแปลกมีราคาที่มายาวตีต้องการผูกใจเป็นเจ้าของวรินทรยิ้มตอบและเดินตามไปแต่โดยดีเธอรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรจะว่าไปต้องใช้คำว่าเขารู้กันทั่วถึงจะถูก ‘วรินทร เด็กมายาวตีใครอย่าแตะ’เคยมีคนลองแตะมาแล้วผลก็คือกระเด็นหลุดลอยออกไปจากวงการแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ในมุมหนึ่งของห้องนี้ที่ถูกจัดไว้สำหรับนางแบบคนสำคัญที่จะเป็นคนใส่ชุดฟินนาเร่ในวันนี้หล่อนไม่ยอมให้ช่างแต่งหน้าแต่โดยดีถ้ายังไม่ได้เจอวรินทรเธอจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นหล่อนเรียกร้องให้งานในวันนี้ต้องมีนางแบบที่ชื่อวรินทรด้วยหากไม่เช่นนั้นงานนี้ก็ต้องไม่มีเธอ เด็กน้อยของเธอควรได้เห็นว่าเธอมีอำนาจมากเพียงใดก็หลายวันมานี่หล่อนไม่ยอมมาเจอเธอเลยไม่รู้ว่ายุ่งจริงๆหรือหลบเลี่ยงเธอกันแน่แต่ทำไมหล่อนถึงจะต้องหลบเลี่ยงเธอล่ะ ก็หล่อนแสดงออกอย่างมากมายว่าหลงใหลในตัวเธอ

“น้องกิ๊ฟมาแล้วจ้าวตีจ๋า”มายาวตีพยักหน้าน้อยๆอย่างไว้ตัว ทำเก็กหน้านิ่งทั้งที่ในใจลิงโลดที่ได้เจอคนที่วนเวียนอยู่ในใจเธอยอมรับสาวน้อยคนนี้มีอิทธิพลต่อจิตใจเธอกีกี้มองหญิงสาวที่ทำตัวสูงส่งด้วยสายตาที่หมันไส้อยากจะลำเลิกนักว่าถ้าไม่มีฉันวันนั้นจะมีเธอวันนี้ไหมนังวตีแต่เธอต้องอดทนเก็บซ่อนอารมณ์ การขัดใจหล่อนในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องฉลาด ‘มายาวตีคือตัวทำเงิน’ ก่อนดาวจะร่วงหล่นตามธรรมชาติเธอต้องอดทนทำทุกอย่างเพื่อกอบโกย

“คิดถึงพี่วตีจังเลยค่ะ”วรินทรเดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลังแนบแก้มเข้าด้วยกันก่อนที่จะหันไปหอมแก้มฟอดใหญ่ สำหรับเธอ วรินทรงามสง่า ขี้เล่นและเก่งเอาใจรู้ใจเธอไปเสียหมด ยามได้อยู่ใกล้ หล่อนจะทำให้เธอเป็นสุขได้เสมอแต่แปลกหล่อนกลับไม่เคยที่จะรุกล้ำเข้าใกล้เธอมากกว่านี้ทั้งที่เธอก็เปิดทางให้หลายต่อหลายครั้งจนทำเธอขาดความมั่นใจต้องกลับมาสำรวจเสน่ห์ตัวเองอยู่หลายรอบ

“ทำมาเป็นปากหวานนะคะถ้าวันนี้ไม่มีงานก็คงจะไม่ได้เจอกันนะซิใช่ไหมคะ” มายาวตีทำแง่งอนวรินทรกระตุกยิ้มที่มุมปากทำไมเธอจะไม่รู้ว่าหล่อนใช้มนต์ดำเพื่อให้เธอมางานวันนี้

“ก็แหมเรียนปีสุดท้ายแล้วนี่คะก็ต้องยุ่งเป็นธรรมดา”วรินทรคลายมือออกจากและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆช่างแต่งหน้ารีบเดินเข้ามาทำหน้าที่ของตนอย่างรู้งานสำหรับเธอมายาวตีสวยและมีเสน่ห์มากไม่แปลกเลยที่จะมีคนโง่มากมายมาหลงใหลเปลือกนอกอันงดงามของหล่อนแต่เว้นเธอแน่นอนสำหรับเธอหล่อนเป็นเพียงผู้หญิงไร้ค่าที่ควรได้รับการสั่งสอนเท่านั้น

แพรวาเดินเลือกเสื้อผ้าอยู่ในร้านประจำการจับจ่ายใช้สอยหรือการมีสมาธิอยู่กับเรื่องใดก็พอจะทำให้เธอคลายความคิดถึงบางคนไปได้บ้าง

“แพร” หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก

“พี่หมอ มาทำอะไรคะเนี่ย” ทั้งคู่เดินเข้าหากันอย่างยินดีวริศาเป็นรุ่นพี่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะเราเคยเป็นแฟนกันเมื่อนานมาแล้ว เพราะการเรียนแพทย์ทำให้หล่อนแทบไม่มีเวลาให้เธอเลยและสุดท้ายก็เป็นเธอที่ถูกบอกเลิกด้วยเหตุผลว่าอยากให้เธอเจอคนที่ดีกว่าและมีเวลาให้มากกว่าคิดถึงตรงนี้ก็เศร้าใจว่าเธอเกิดมาเพื่อถูกบอกเลิกหรือไงนะแต่จะว่าไปความเสียใจในตอนนั้นเทียบไม่ได้เลยกับตอนนี้ เพราะเธอรักเด็กน้อยสุดหัวใจ

“แวะเข้ามาซื้อของนิดหน่อยจ่ะพอดีเดินผ่านตรงนี้มองเข้ามาเห็นแพรเลยเดินเข้ามาทักแพรสบายดีไหม”

“ก็ดีค่ะ” แววตาที่เศร้าหมองของรุ่นน้องอดีตแฟนเก่าก็ไม่เกินความสามารถของอีกคนจะสังเกตเห็น

“มีเรื่องไม่สบายใจเหรอแพร”แพรวาเบี่ยงสายตาหลบรุ่นพี่ที่มองเธออย่างตั้งใจเกินเหตุ

“พี่หิวข้าวแพรไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ”วริศาดึงความสนใจจากอดีตคนรักไปเรื่องอื่นถ้าเป็นไปได้เธออยากเป็นคนนั้นคนที่ทำให้หล่อนคลายเศร้าได้ถึงจะเลิกรากันไปนานแล้วแต่แพรวาก็ยังคงเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของเธอ แค่เธอไม่มีหน้าจะกลับไปหาหล่อนก็เท่านั้นเพราะในวันนั้นเป็นเธอเองที่เลือกเดินจากมา วันนี้บังเอิญได้เจอกันถือเป็นเรื่องดีจะมีทางเป็นไปได้บ้างไหมนะที่เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมและอาการหม่นเศร้าที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ใช่เพราะเรื่องความรักหรือเปล่าแต่เธอขอให้มันใช่เพราะเธอจะขอใช้โอกาสนี้เยียวยารักหัวใจของหล่อนด้วยหัวใจของเธอเอง

“ได้ซิคะแพรเองก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย” แพรวาตอบรับอย่างเต็มใจทั้งคู่ยิ้มให้กันและเดินออกไปด้วยกันสำหรับแพรวาเรื่องในวันวานระหว่างเธอกับพี่หมอมันผ่านไปนานมาแล้วเธอไม่ได้รักพี่หมอเหมือนที่เคยรักแล้ว ถ้าตัดเรื่องความรักแบบนั้นออกไปพี่หมอก็เป็นคนเก่งเป็นคนดีที่น่าคบหา

วริศาเดินนำแพรวามาที่ร้านหาอาหารไทยแห่งหนึ่งแต่ก่อนจะถึงประตูทางเข้าร้านภาพตรงหน้าทำให้หญิงสาวทั้งสองต้องหยุดมองเพราะมีผู้คนยืนมุงมองเข้าไปภายในร้านผ่านกระจกใสอย่างมีสิ่งที่ดึงดูดสายตาน่าสนใจอยู่ในนั้นแพรวามองตามเข้าไปและภาพที่เห็นกระตุกหัวใจเธออย่างแรงเธอไม่ต้องการเห็นอะไรแบบนี้แพรวาหน้าซีดจนวริศาเป็นห่วง

“แพรเป็นอะไรไปไหวไหม”วริศาค่อยๆประคองคนรักเก่าที่หล่อนกำลังอยากให้มาเป็นคนรักใหม่เข้าไปในร้านคนที่ถูกมองภายในร้านหันมาส่งยิ้มให้กับผู้คนที่สนใจ และ...ภาพที่เห็นสร้างความขุ่นเคืองใจจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

วรินทรมองแพรวาที่กำลังถูกผู้หญิงอีกคนประคองแบบถึงเนื้อถึงตัวเข้ามาในร้านและโต๊ะที่ทั้งสองคนเลือกนั่งเป็นมุมที่เธอสามารถมองเห็นได้ผ่านเงาในกระจกตอนนี้เธอต้องควบคุมอารมณ์เดือดที่มันกำลังพลุกพล่านอยู่ในใจอย่างหนักที่ต้องเห็นผู้หญิงของตัวเองไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นดูดีมากเลยทีเดียวอยากจะให้ความคิดของเธอดังไปให้ถึงแพรวาว่าเธอเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าหล่อนไม่มีสิทธิ์สนใจใครทั้งนั้นนอกจากเธอ

วริศามองแพรวาที่ใบหน้าชีดเซียวด้วยความห่วงใย

“ทานข้าวเสร็จแพรไปโรงพยาบาลให้พี่ตรวจนะ”

“แพรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะเดี๋ยวแพรขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ”

แพรวาหยิบกระเป๋าถือแล้วลุกขึ้นเดินออกไปทันทีเธอต้องการความเป็นส่วนตัวเธอกำลังอ่อนแอและเธออยากร้องไห้ …ทำไมหนอ ทำไมต้องเกิดเรื่องบังเอิญแบบนี้ด้วยทำไมพระเจ้าต้องให้เธอบังเอิญมาเจอคนใจร้ายคนนี้

แพรวาเปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากที่พยายามสงบสติทำอารมณ์ให้เป็นปกติอยู่นาน

“ว้าย!!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกดันให้กลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งประตูห้องน้ำถูกอีกฝ่ายลงกลอนอย่างแน่นหนา เธอไม่เข้าใจเลยว่าหล่อนทำแบบนี้ทำไม แต่ไม่ทันได้มีคำถามใดๆริมฝีปากของแพรวาก็ถูกครอบครองจากอีกฝ่ายอย่างถือสิทธิ์วรินทรกอดรัดร่างที่บางกว่าจนแน่นดูดเม้มริมฝีปากบางสวยอย่างหิวกระหายเป็นสัมผัสจากอารมณ์ที่หลากหลายที่แม้เจ้าตัวเองก็คงยากที่จะบรรยายออกมาได้ว่ามันมีอะไรบ้างรักอย่างสุดซึ้ง คิดถึงมากมาย เอาแต่ใจหรือแม้แต่โกรธเกรี้ยว รู้บ้างไหมว่าที่ผ่านมาเธอต้องอดทนขนาดไหนที่จะไม่ไปเจอไม่ไปเห็นหน้าหวานๆของหล่อนในช่วงนี้เพราะเธอรู้ดีว่าต้องอดใจไม่ไหวควบคุมตัวเองไม่ได้แน่ๆ แล้วดูซิว่าผิดจากที่คิดที่ไหนแค่เธอเห็นหล่อนเดินมาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหาอยากจะกระชากเข้ามากอดให้หายคิดถึงและยิ่งหงุดหงิดเมื่อเห็นหล่อนมีท่าทางสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้น

ตั้งแต่ในคราแรกร่างบางในอ้อมกอดไม่มีการดิ้นรนหรือขัดขืนใดๆเลยจนตอนนี้วรินทรรู้สึกได้ว่ามีน้ำอุ่นๆมาสัมผัสที่ริมฝีปากมันทำให้หล่อนยอมหยุดและยอมถอนริมฝีปากออกมา ตอนนี้สองสายตาสอดประสานสาวร่างสูงใจหายเมื่อเห็นหยาดน้ำในตาของผู้หญิงที่รักไหลทะลักออกมาเป็นทางยาวซึ่งเจ้าตัวเองก็คงไม่อาจจะควบคุมมันไว้ได้จึงยอมคลายอ้อมกอดทำท่าจะหันเดินออกไปแต่สัมผัสจากด้านหลังทำให้หล่อนต้องหยุด

“อยู่แบบนี้อีกสักเดี๋ยวได้ไหม”แพรวาซบหน้าแนบกับแผ่นหลังวงแขนกอดกระชับเอวอีกฝ่ายไว้แน่นแม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน แต่มันก็มีค่ามากสำหรับเธอวรินทรยืนนิ่งหล่อนกำลังใช้พลังใจทั้งหมดที่มีข่มความรู้สึกที่มันอยากจะหันไปกอดจูบปลอบโยนอยากจะเดินออกไปด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกัน และ… มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้ในตอนนี้ ร่างสูงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแข็งใจแกะมือของร่างที่บางกว่าออกและเปิดประตูเดินออกไป

แพรวายังอยู่ในห้องน้ำ ยึดผนังเป็นที่พักพิงยามหมดเรี่ยวแรงในใจตัดพ้อถึงคนที่เพิ่งเดินออกไป

‘ถ้าไม่รักเธอแล้ว มาทำแบบนี้กับเธอทำไม? ทำไม? บ้าที่สุด คนใจร้าย’

แม่บ้านเดินนำวรินทรมาที่สวนหลังบ้านที่นี่เป็นบ้านของมาแชลสาวลูกครึ่งไทย อังกฤษหล่อนเป็นเพื่อนสนิทของเค้าสมัยมัธยมปลายและติดต่อกันเรื่อยมาทางออนไลน์หล่อนเพิ่งถูกช่วยชีวิตมาจากการฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือ

วรินทรยืนมองเพื่อนสาวที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้ใต้ร่มไม้สาวน้อยที่เคยสวยสดใสในวันวาน หากแต่ตอนนี้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปแล้วมีเพียงแค่หายใจเท่านั้นที่ทำให้ได้รู้ว่าหล่อนยังมีชีวิตอยู่

“ไงมาแชล” เธอรู้ดีว่ามาแชลปิดการรับรู้และการตอบสนองทุกอย่าง หล่อนมีโลกอีกใบที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงอีเมลฉบับสุดท้ายที่เธอได้รับจากเพื่อนคนนี้คือจดหมายลาตาย ที่ตัดพ้อถึงคนที่รักมากมายที่เขาไม่สนใจไยดีเธอเลยสิ่งต่างๆที่อยู่ภายในใจถูกระบายออกมาประมาณได้สามหน้ากระดาษA4 และคนที่ทำให้เพื่อนรักเค้าเป็นแบบนี้ก็คือมายาวตี!! นางแบบรุ่นพี่

เธอเคยมีข้อมูลว่ามาแชลเป็นนางแบบแต่ก็ไม่เคยสนใจติดตามเพราะส่วนตัวเธอไม่ชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว จากเนื้อความในจดหมาย คือมาแชลกับ

มายาวตี คบกันแบบไม่เปิดเผยและเป็นมายาวตีที่เป็นฝ่ายตีจากเพราะเพื่อนของเธอเป็นเพียงของเล่นแสนสวยที่พอหล่อนเบื่อก็ขว้างทิ้งไปมายาวตีควรได้รับสิ่งเหล่านี้กลับไปบ้าง

นานแล้วที่วริศานั่งเพ่งมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแพรวาคือชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอเธอกำลังคร่ำเคร่งคิดคำพูดหาเหตุผลบอกกับหล่อนว่าทำไมเธอถึงโทรหาและเหมือนมือเธอจะทำงานเกินคำสั่งเพราะมันกดปุ่มโทรออกไปแล้ววริศาออกอาการตื่นเต้นลนลาน แล้วทำไมเธอถึงต้องรู้สึกอะไรขนาดนี้ด้วยเนี่ย

“สวัสดีค่ะ” ปลายสายแปลกใจที่คนโทรมาไม่ยอมพูดอะไร

“พี่หมอเองจ้ะลองโทรดูว่าแพรใช้เบอร์เดิมหรือเปล่า”

“แพรรู้อยู่แล้วค่ะว่าเป็นพี่หมอเพราะพี่หมอก็ยังใช้เบอร์เดิมอยู่เหมือนกัน”แพรวาคงไม่ได้เห็นว่าตอนนี้ปลายสายมีรอยยิ้มที่มีความหมายขนาดไหนแพรวายังมีเบอร์ของเธอเหมือนที่เธอก็ไม่เคยคิดลบเบอร์ของหล่อน เป็นไปได้ใช่ไหมที่ ...หล่อนก็อาจจะยังมีใจให้เธออยู่…บ้าง!

“พี่หมอมีอะไรหรือเปล่าคะพอดีแพรยุ่งๆอยู่หน่ะค่ะ”

“เย็นนี้แพรว่างไหม พี่อยากจะชวนไปทานข้าว”แพรวาหยุดคิด ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าพี่หมอยังรู้สึกกับเธอเหมือนเดิมแล้วยังไงดีเธอควรจะสานต่อความสัมพันธ์ไปในทิศทางใดควรจะตัดใจจากคนใจร้ายไปเสียและไปเริ่มต้นกับคนที่เค้าพร้อมจะรักและพร้อมจะดูแลเธอดีไหมอย่างน้อยพี่หมอก็เป็นคนที่เธอเคยรักและวันนี้พี่หมอยังรักเธออยู่ในวันนั้นพี่หมอเลือกความฝันและตัดสินใจทิ้งเธอแต่ก็ไม่ใช่เพราะหล่อนไปมีคนใหม่นอกใจเธอเหมือนคนบางคนสักหน่อย

“ว่างค่ะ แต่พี่หมอต้องมารับแพรนะคะเพราะแพรไม่ได้เอารถมา”หลังจากที่นัดแนะกันเรียบร้อยและพูดคุยกันอีกนิดหน่อยสายก็ถูกวางไปวริศากำโทรศัพท์แน่นความรู้สึกยินดีแทบล้นออกมาจากใจ

‘ขอบคุณนะแพร ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่’

วรินทรขับรถมาจอดหน้าโรงแรมที่มายาวตีพักอยู่และจะกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้คืนนี้หล่อนต้องการเจอเธอแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวลงจากรถภาพตรงหน้ากำลังทำให้เธอลืมทุกอย่างที่ควรทำเพราะเธอเห็นแพรวายืนอยู่และขึ้นรถไป รถใครกันเธอไม่คุ้นเลยแพรวาก็ไม่ได้มีนิสัยชอบสังคมมีเพื่อนฝูงมากมายเพื่อนสนิทที่หล่อนติดต่ออยู่บ่อยๆเธอก็รู้จักทุกคนผู้หญิงสวยดูภูมิฐานคนนั้นผุดเข้ามาในความคิดวรินทรทันที

‘กล้ามากนะแพรวาที่คิดนอกใจฉัน’

แพรวาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความสบายตัววันนี้เธอเหนื่อยจากการทำงานมากและยังรับปากไปทานข้าวกับพี่หมอไว้อีกแต่ถึงเหนื่อยแค่ไหนเธอก็ต้องพยายามเก็บซ่อนมันไว้เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจกว่าจะผ่านพ้นมื้อเย็นมาได้ก็เล่นเอาเธอแทบแย่เหมือนกันแต่เมื่อนึกถึงพี่หมอก็ทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ ก็หล่อนเอาอกเอาใจจดจำเรื่องราวของเธอได้ทุกอย่างทั้งๆที่เราก็ห่างกันไปนานแล้ว

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแพรวาก็มาล้มตัวลงนอนบนเตียง ปลดปล่อยและผ่อนคลายกล้ามเนื้อตามวิธีที่พี่หมอแนะนำเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายได้เต็มที่

ก๊อกๆๆ

แพรวามองไปที่ประตู อะไรกันดึกป่านนี้แล้วใครยังจะมามีธุระกับเธออีก

“ใครคะ”

“ป้าเองค่ะ” เสียงของป้าแม่บ้านทำให้แพรวายอมเปิดประตูแต่ยังไม่ทันได้ถามไถ่อะไรหล่อนก็ถูกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเบียดเข้ามาในห้องเสียก่อนและแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็หันไปปิดประตูล็อคกลอนอย่างแน่นหนาแพรวาถอยออกมาเพื่อให้ตัวเองอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

“มาทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เธอก็ไม่ควรมาที่นี่อีก”อีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรกลับมองหญิงสาวนิ่งก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหา

“ออกไปนะ!! ไม่งั้นฉันจะร้องให้ลั่นบ้านเลยคอยดูซิ” คงกำลังหลงระเริงอยู่ล่ะสิว่าเธอรักมากมายถึงคิดจะมาทำอะไรได้ตามใจแบบนี้เธอจะไม่ยอมเป็นของตายให้หล่อนเอาเปรียบอีกแล้ว

“ร้องซิร้องให้ดังๆเลยนะลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นพวกชอบโชว์”

“โรคจิต ออกไปเลยนะถ้าคนรักของฉันรู้ว่าเธอมาทำแบบนี้เขาจะเข้าใจฉันผิด” แพรวาพูดออกไปอย่างถือดีทั้งที่เรื่องราวยังไม่มีมูลสักเท่าไหร่เพราะเธอกับพี่หมอยังไม่ได้ตกลงว่าจะกลับมาคบกันสักหน่อยแต่หารู้ไม่ว่าหล่อนกำลังขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆถึงแสงไฟในห้องจะสลัวแต่เธอก็พอจะมองเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ใดและประสบการณ์มันบอกว่าเธอควรจะออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดก่อนระเบิดจะลงแพรวารีบวิ่งไปที่ประตูห้องนอน รีบดันประตูปิดแบบสุดแรงแต่ก็ต้องใจหายเพราะอีกฝ่ายดันประตูไว้ได้ทันและแทรกตัวเข้ามาโดยง่ายวรินทรกระชากร่างบางมาจนชิดตัว ตอนนี้เธอโกรธจนหูอื้อตาลายไปหมดแล้วริมฝีปากบางของคนอวดดีถูกครอบครองบดเบียดอย่างรุนแรงแพรวาเม้มปากไว้แน่นไม่ยอมให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้าไปได้ง่ายๆเรี่ยวแรงที่มีอันน้อยนิดก็ดิ้นรนขัดใจสุดกำลัง หล่อนไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอ

ร่างบางถูกดันไปที่เตียงและล้มลงไปด้วยกันวรินทรผละออกมาจากริมฝีปากบางที่เจ้าของทำท่าว่าหวงนักหนาแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธออยู่แล้ว เพราะแพรวายังมีส่วนอื่นที่หน้าสนใจอีกเยอะเด็กสาวเอาแต่ใจมุดหน้าไปที่ซอกคอขาวดูดเม้มแสดงสัญลักษณ์จนเป็นรอยแดงเธอรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่คนอื่นก็ควรจะรู้โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นจะได้ไม่คิดมายุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วและแพรวาก็ควรรู้ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ในร่างกายและจิตใจของหล่อนทั้งนั้น หล่อนไม่มีสิทธิ์ไปรักไปสนใจใครนอกจากเธอ เธอคนเดียวเท่านั้น

แพรวาขัดขืนจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว สัมผัสอันคุ้นเคยที่หล่อนโหยหามาตลอดทำให้สงบลงไปวรินทรเองก็เย็นขึ้นแล้วเหมือนกัน จะเกรี้ยวกราดไปใยในเมื่อเธอก็รักผู้หญิงคนนี้สุดหัวใจในทุกสัมผัสหลังจากนี้จึงอ่อนหวานและละมุนละไม

ตอนนี้ทั้งคู่ต่างลืมไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างลืมไปว่าเราไม่ควรมาใกล้ชิดกันแบบนี้ ลืมไปว่าเราเลิกกันแล้ว แต่ ณเวลานี้มีเพียงแค่เราสองคนในโลกอีกใบหนึ่งเท่านั้น

มายาวตีกดโทรศัพท์หาวรินทรเป็นร้อยรอบแล้วแต่ก็หล่อนไม่รับสาย หล่อนกล้าผิดสัญญาไม่รักษาเวลากับเธอขนาดนี้เชียวเหรอเกินไปแล้วนะหรือเห็นว่าเธอรักนึกจะทำยังไงกับเธอก็ได้งั้นเหรอ บ้าที่สุดเลย!

วรินทรค่อยๆยกมือของแพรวาที่พาดอยู่บนตัวลงไปวางไว้ข้างๆอย่างเบามือและลุกขึ้นมาจัดการใส่เสื้อผ้าและเดินออกจากห้องไปแพรวามองตามประตูที่ปิดลงไปน้ำตาไหลเอ่ออาบแก้มพอกันทีเธอจะไม่มีวันยอมให้คนใจร้ายทำแบบนี้กับเธออีกแล้วตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เลิกรักผู้หญิงคนนี้

วรินทรเปิดประตูรถและเข้ามานั่งที่ประจำคนขับหล่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู มีสายไม่ได้รับเป็นร้อยสายจากเบอร์ของมายาวตี เด็กสาวส่ายหน้าเบื่อหน่ายโยนมือถือไปที่เดิมและค่อยๆขับรถออกไปอย่างใจเย็นร้อนไปก็เท่านั้น ค่าเท่าเดิม

ประตูห้องถูกเคาะสามครั้งและประตูก็ถูกเปิดออกสภาพและกลิ่นเหล้าอันคละคลุ้งบอกชัดว่าคนข้างในคงเมาแล้ว วรินทรก้าวไปข้างในทันทีที่ประตูปิดลงมายาวตีก็เข้ามาสวมกอดและครอบครองริมฝีปากของอีกคนทันทีถึงจะตกใจแต่ก็เข้าใจคนเมาที่ทำอะไรไปโดยไร้สติและขาดการยั้งคิด วรินทร

ยายามจะดึงหน้าออกมาและดันหล่อนออกจากตัวแต่ก็ทำทุกอย่างได้

ยากเย็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมอันบางเบากำลังบดเบียดเสียดสีเธออย่างจงใจหล่อนต้องคิดรวบหัวรวบหางเธออยู่แน่ๆแต่ฝันไปเถอะ เพราะกายและใจของเธอมีเจ้าของผูกขาดแล้ว และหล่อนก็น่าขยะแขยงเกินที่เธอจะคิดลึกซึ้ง

วรินทรทำเป็นคล้อยตามตอบสนองกลับด้วยความเชี่ยวชาญจนมายาวตีเคลิบเคลิ้มปล่อยกายปล่อยใจไปกับเด็กสาวคนนี้นานมาแล้วที่เธอห่างหายจากสัมผัสและความรู้สึกแบบนี้ และเธอกำลังต้องการมันจากเด็กสาวคนนี้และเหมือนฝันค้างเมื่ออยู่ๆเด็กสาวหยุดทุกอย่างเสียเฉยๆ

“เรามาดื่มกันก่อนดีกว่าค่ะ” วรินทรกระซิบที่ข้างหู ยังหยอกเย้าปลุกอารมณ์ ด้วยการซุกไซ้และเม้มกัดที่ติ่งหูเบาๆหล่อนกำลังทรมานคนเมาอย่างสนุกสนาน ด้วยการทำทุกอย่างแบบไร้เดียงสา ก่อนจะผละออกมาและเดินไปที่บาร์เทไวน์ลงแก้วใบสวยสำหรับตนเองและอีกคนมายาวตีรับแก้วไวน์มาอย่างงงๆ เธอไม่เข้าใจเด็กสาวคนนี้เลย ทำไมหล่อนถึง...ไม่ยอมทำทุกอย่างให้จบปล่อยทิ้งให้เธอค้างเติ่งอยู่แบบนี้

มายาวตีปรือตาตื่น เธอรู้สึกถึงอะไรหนักๆที่พาดอยู่บนตัวเธอมันเป็นแขนขาวๆของเด็กน้อยร่างกายเปลือยเปล่าทำให้เธอต้องกลับมาสำรวจตัวเองและมันก็ไม่ต่างกันมายาวตียิ้มอิ่มใจยื่นจมูกไปหอมแก้มใสของคนหลับ เมื่อคืนเธอคงเมามากเพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่เรื่องที่มาของร่างกายเปลือยเปล่า

กีกี้เดินหน้าตาตื่นเข้ามาวางนิตยสารหลายเล่มอย่างแรงบนโต๊ะตรงหน้าของมายาวตีที่กำลังนั่งตะไบแต่งเล็บของตัวเองอยู่อย่างเพลิดเพลินเธอกำลังสุขใจเมื่อคิดถึงเด็กน้อยของเธอและคิดถึงค่ำคืนนั้นมายาวตีมองผู้จัดการส่วนตัวด้วยสายตาตำหนิก่อนจะมองหนังสือกองโต

“อะไรกันคะเจ๊”

“ดูเอาซิยะหล่อน” กระเทยร่างยักษ์ที่วันนี้หน้าตาทรุดโทรมขาดการแต่งแต้มเพราะออกจากบ้านมาแต่เช้าด้วยอารมณ์ที่ร้อนใจมายาวตีหยิบหนังสือขึ้นมาดูเล่มหนึ่งภาพตรงหน้าทำทุกสรรพสิ่งในโลกของเธอหยุดเคลื่อนไหว มันเป็นภาพของเธอกับกิ๊ฟยืนจูบล่ำลากันที่หน้าโรงแรมในวันนั้นบนหน้าปกพาดหัวไว้ว่า ‘นางแบบรุ่นพี่ชวนนางแบบรุ่นน้องตีฉิ่งฉับกันดังลั่นโรงแรม’

“พี่บอกวตีแล้วใช่ไหมว่าให้ระวังตัว” มายาวตีนั่งมองภาพตรงหน้าค้างนิ่งปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่ๆอนาคตในวงการของเธอจะมาสะดุดด้วยเรื่องนี้ไม่ได้

“เราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะพี่กีกี้”หล่อนทำหน้าตาดั่งเด็กหลงทางร่ำร้องหาทางออกไร้มาดนางพญาดังเดิมกีกี้มองมายาวตีด้วยสายตาตำหนิและคิดหนักเช่นกัน หากเป็นปกติเธอคงไม่กล้าทำแบบนี้เพราะมายาวตีอาจจะสลัดเธอออกให้หลุดลอยออกไป แต่ในสถานการณ์นี้เธอเป็นที่พึ่งเดียวกีกี้รู้ดีมายาวตีไม่มีใคร ในเบื้องลึกเบื้องหลังหญิงสาวผู้นี้เปล่าดายน่าสงสารสำหรับเธอ เธอรักและผูกพันกับหล่อนมากถึงจะขัดใจกันอยู่บ่อยๆแต่เธอก็เข้าใจลึกลงไปหล่อนทำทุกอย่างเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดอภิสิทธิ์การได้รับการดูแลและใส่ใจเป็นสิ่งที่เด็กบ้านแตกอย่างหล่อนโหยหา

“เราต้องเปิดแถลงข่าวโดยเร็วและก็ทำเหมือนไม่มีอะไร วตีกับกิ๊ฟก็ต้องห่างกันสักพัก”

วรินทรกำลังดูโพสต่างๆในอินเตอร์เน็ตที่กล่าวถึงตนเองกับมายาวตีที่ส่วนใหญ่จะเป็นไปในด้านลบ ป่านนี้หล่อนคงเต้นเป็นเจ้าเข้าตามตัวเธอให้วุ่นแล้วเธอกะจะดึงเกมไปอีกสักวันสองวันแล้วค่อยคิดอีกที ว่าหล่อนควรได้รับการสั่งสอนใดต่อไปสำหรับเธอข่าวพวกนี้ไม่มีผลต่อจิตใจอยู่แล้ว เพราะเป็นเธอเองที่ทำให้มันเกิดเป็นคนโทรไปบอกนักข่าวเองส่วนเรื่องของงานเธอก็ไม่คิดแคร์อยู่แล้วนางแบบอิสระไม่มีสังกัดอย่างเธอจะเข้าจะออกเมื่อไหร่ก็ได้หลายเดือนที่ผ่านมาบอกชัดวงการนางแบบไม่ใช่โลกของเธอ มันวุ่นวายเกินไป

กีกี้พยายามที่จะติดต่อวรินทรงานนี้หล่อนต้องเข้าร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ก็ไม่มีใครเห็นหล่อนแม้เงายิ่งมายาวตียิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมยามมีปัญหาเด็กน้อยถึงทิ้งเธอหายเงียบไปแบบนี้

แพรวาเดินอยู่ในร้านหนังสืออย่างเพลิดเพลินแต่เสียงของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งทำให้เธอต้องหยุดฟัง

“ไม่น่าเลยเนอะคนสวยกินกันเอง”

“แต่สวยแบบนี้ ถ้าเขาอยากกินฉันก็ให้กินนะ สวยคมเท่อย่างกิ๊ฟฉันชอบ”

“แหวะไม่เอาหรอกยังไงก็ผู้หญิง” แพรวาเดินไปที่เด็กสาวกลุ่มนั้นและมองไปที่หนังสือที่พวกหล่อนดูอยู่เมื่อรู้ว่าเป็นเล่มใดเธอก็หยิบขึ้นมาดูบ้างด้วยความอยากรู้อยากเห็นภาพตรงหน้าทำให้เลือดในกายเธอเหือดแห้ง เลิกหวังได้แล้วว่าเขาจะกลับมาคนอย่างเขาไม่ควรค่ากับเธออีกต่อไป แพรวาวางหนังสือไว้ที่เดิม และเดินออกจากร้านไป 




 

Create Date : 30 กันยายน 2556    
Last Update : 30 กันยายน 2556 11:31:00 น.
Counter : 619 Pageviews.  

1  2  

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.