รักนี้...ที่หัวใจเรียกหา Yuri 14
สามพ่อแม่ลูก ครอบครัวอาจดำรงค์ ต่างกระชับมือกันแน่นมองร่างบางที่นอนสงบนิ่งมานานหลายเดือนมีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกว่ายังมีชีวิตอยู่และคุณหมอเจ้าของไข้ก็มิได้ให้ความหวังใดๆอีกต่อไปแล้วเหลือเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ครอบครัวนี้หวังพึ่งพิง ทรงกรตและกมลวรรณสองสามีภรรยาตั้งใจจะออกบวชเพื่อบำเพ็ญภาวนาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านเมตตาคืนชีวิตที่สมบูรณ์ให้กับบุตรสาวหากแต่หลังจากนั้นยังคงไม่มีอะไรดีขึ้นทั้งสองก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยสองไปอย่างสงบเพราะเมื่อสุดมือแล้วก็ต้องปล่อยไปดึงรั้งกันไว้ต่างก็จะทุกข์ทรมานกันไม่จบสิ้น กัญญาใจหายเมื่อคิดถึงน้องสาวที่แสนรักจะต้องหลุดลอยลับไปเป็นนิรันดร์แต่ในส่วนลึกเธอเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของพ้อกับแม่ เพราะดึงรั้งกันไว้ก็พาลพากันทุกข์ทรมานกันไม่จบสิ้นและเรื่องการตัดสินใจครั้งนี้ของพ่อกับแม่ก็ไม่ควรมีใครได้รับรู้อีกเพราะเธอไม่ต้องการฟังเสียงคัดค้านไม่เว้นแม้แต่ทินกรและเขาเป็นคนที่ไม่ควรรู้ที่สุด!! ในคอนโดหรูใจกลางกรุงเทพรายได้ในระดับนางเอกแนวหน้าไม่ยากเลยที่จะได้มาซึ่งสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือยกรกนกเดินออกมาจากห้องนอนในชุดเสื้อคลุมบางเบาที่มิอาจปกปิดสิ่งใดในกายหญิงสาวหยุดยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกหลุยส์สีทองเนื้อกระจกพ่นทรายลวดลายดอกลีลาวดีสีหวานบานยาวถึงสองเมตร มันถูกติดตั้งอยู่ในห้องรับแขกเป็นของตกแต่งราคาสูงสำหรับอวดสายตาคนที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน เธอรู้สึกทั้งสุขสมและปวดร้าวลึกกับภาพตรงหน้าตอนนี้เธอเห็นผู้หญิงสวย รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรน่าทะนุถนอมผิวขาวละเอียดแทบจะไร้ไฝฝ้า แต่หากย้อนกลับ 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปีที่แล้ว ทุกคนจะเห็นเพียงเด็กหญิงขี้โรคหน้าตาบ้านๆไม่มีอะไรที่โดดเด่นน่าสนใจเลยสักนิด ต่างกันกับเพื่อนสาวคนสนิทโดยสิ้นเชิงสองเป็นเด็กหน้าตาน่ารักเฉลียวฉลาด โตมาก็เป็นสาวสวยและหล่อนมักจะทำทุกอย่างได้ดีเสมอมีหนุ่มๆมาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน ผู้ชายทุกคนที่ต้องการเข้ามาเกี่ยวข้องกับหล่อนล้วนใช้เธอเป็นสะพานเพื่อทอดไปหาสองทั้งสิ้น สองเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอมาดีมากเสียจนเธอเองยังนึกซึ้งใจในน้ำใจที่งดงามของหล่อน แต่!! เธอเกลียดที่สองดีกับเธอ เกลียดที่สองรักและห่วงใยเธอเธอรู้สึกผิดในความรู้สึกเกลียดในความจริงใจของเพื่อนคนนี้จนเกินจะกลับตัวกลับใจและสิ่งที่เธอเลือกทำคือการหนีปัญหา เธอแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีเพื่อใบหน้าที่สะสวยรูปร่างที่สวยงามพาตัวเองขึ้นเขียงนับสิบครั้งเพื่อตัดออกในสิ่งที่เกินเพิ่มในสิ่งที่ขาดหวังเพียงอยากจะเอาชนะเพื่อนสาวคนนี้คนที่ไม่รู้ตัวอะไรเลย และวันนี้เธอมาไกลจนเกินฝันทุกสิ่งรอบตัวเธอล้วนสมบูรณ์รวมถึงของรักของเพื่อนรัก หญิงสาวปรายตามองไปที่ประตูห้องนอนใช่!! เขาอยู่ในนั้น คงไม่ต้องเดาว่าก่อนหน้านั้นเธอกับเขาทำอะไรกันเมื่อคิดถึงตรงนี้กรกนกก็ยิ้มเยาะในใจ เธอชนะแล้วเพราะชายที่เป็นดั่งดวงใจของเพื่อนรักอยู่ในกำมือของเธอ ทินกรนอนหลับใหลหมดเรี่ยวแรงร่างกายเปล่าเปลือยอยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่บนเตียงขนาดคิงไซส์ที่สภาพยับยู่ยี่เพราะกรำศึกมาอย่างหนักเปลือกตาที่ปิดสนิทเผยให้เห็นขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าซูบเซียวทั้งยังไร้สติและความรู้สึกใดๆอาการแบบนี้เกิดขึ้นแบบเป็นๆหายๆตอนนี้แม้แต่หญิงที่เคยเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจเขาก็หลงลืม กฤติยานั่งมองแสงไฟที่สะท้อนอยู่ในน้ำเกลียวคลื่นที่มาจากแรงลมและการกระเพื่อมของน้ำจากแรงต้านของเรือส่งให้สีสันของแสงไฟที่สะท้อนในน้ำยิ่งดูแปลกตาหางตาบ่งบอกว่ามีบางสิ่งปรากฏขึ้นดึงความสนใจให้ต้องหันมอง อนพ เธอหายไปไหนมาอีกแล้ว ฉันคิดถึงเธอแทบแย่รู้ไหมหญิงสาวโน้มตัวเข้าไปกอดเด็กน้อยด้วยความคิดถึงอย่างสุดซึ้งเด็กน้อยเองก็ปล่อยตัวไม่ได้ขัดขืนใดๆ เขารู้ดีว่าสิ่งที่หล่อนผู้นี้แสดงมันออกมาจากในใจที่แท้จริงๆไม่ว่าภพชาติใดหล่อนก็ไม่เคยเปลี่ยนใช้หัวใจทำในทุกสิ่งและจริงใจในทุกสิ่งที่ทำ ตอนเราไม่อยู่เจ้าดูแลคุณพี่ดีหรือไม่ ผีสาวคลายอ้อมกอดทำหน้าแสนงอนบอกความรู้สึกภายใน ฉันจะดูแลอะไรคุณพี่ของเธอได้ คนร้ายกาจแบบนั้น ขัดใจคุณพี่อีกแล้วซิ หือ
ใครเขาจะไปขัดใจคุณพี่ของเธอ คนร้ายกาจแบบนั้นมีแต่จะทำร้ายจิตใจคนอื่นซิไม่ว่า ผีสาวมองเหม่อไปเบื้องหน้าเมื่อคิดถึงอีกคนที่อยู่ในห้องก็ก่อเกิดหลากหลายอารมณ์เด็กน้อยตัวอ้วนพลีปีนขึ้นไปนั่งบนตักผีสาวหวังเอาใจและก็ได้ผลดีจริงๆเพราะหญิงสาวพอใจกับสัมผัสแบบนี้มาก กฤติยากระชับกอดเด็กน้อยหวังบรรเทาความรู้สึกที่สับสนที่หลากหลายอยู่ในใจ ตัวเธอหอมจังนะ กลิ่นดอกไม้ใช่ไหม ใช่ กลิ่นดอกปีบ หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ เธอรู้จักดอกปีบแต่ไม่รู้จักกลิ่นของมันเพิ่งได้รู้วันนี้แหละแต่แปลก!! เธอกลับรู้สึกคุ้นชินกับกลิ่นนี้ คุณย่าทำน้ำอบโดยใช้ดอกปีบที่ออกดอกมากในรั้วบ้าน ท่านพรมตัวให้เราทุกวันเพราะรู้ว่าเราชอบและเราก็จะไปเกลือกกลิ้งพันตัวคุณพี่ส่งต่อกลิ่นหอมเจ้าอาจจะคุ้นจากเหตุนี้กฤติยาฟังอย่างสนใจแม้จะไม่รู้เรื่องอะไร เออ? ทำไมเธอถึงเรียกอัยว่าคุณพี่ล่ะกฤติยานึกได้ในสิ่งที่สงสัยจึงรีบสักถามเด็กน้อยทันที ก่อนที่เขาจะหายไปอีก ก็เขาเป็นพี่ของเรา เด็กน้อยตอบสั้นตรงคำถามไม่คิดจะขยายความ แล้ว... ยัยผีเพี้ยนนั่งพูดอะไรอยู่คนเดียว ผีสาวหันมาจิกตาใส่คนตัวสูงที่อยู่ๆก็โผล่มาและก็พูดอะไรร้ายๆไม่น่าฟังเลยสักนิด คุณนะซิคะที่เพี้ยนทำแต่งานจนเพี้ยนไปแล้ว ผีสาวเถียงกลับไม่ยอมลดราวาศอกให้ แต่ฉันก็ไม่เคยพูดคนเดียวอย่างเธอนะ อารดาสนุกที่ได้ต่อล้อต่อเถียงทำหน้ายืนยันจริงจังในคำพูดของตนท่าทางขัดใจผีสาวมาก พูดคนเดียวที่ไหนกันเล่าก็นี่ไง ผีสาวหันมาหาคู่สนทนาตัวน้อยเพื่อจะยืนยันกับอีกฝ่ายและก็ต้องแปลกใจที่เขาไม่อยู่แล้ว อ้าว!!ไปไหนแล้ว หญิงสาวสอดส่ายสายตาไปรอบๆพาลนึกเคืองไปหมดทั้งเด็กน้อยและทั้งคุณพี่จอมปากคอเราะร้ายของเขา ก็ฉันบอกแล้วว่าเธอเพี้ยน
อารดาส่ายหน้ายิ้มๆลากเสียงเย้ยหยันหวังก่อกวนประสาทก่อนจะเลื่อนปิดประตูและเดินเข้าไปในครัวอย่างอารมณ์ดีหล่อนเดินตรงไปหาเครื่องชงกาแฟหวังเติมคาเฟอีนเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง หยุดเลยนะ คุณนั่นแหละเพี้ยนดึกป่านนี้แล้วยังจะดื่มกาแฟอีกมันไม่ดีต่อสุขภาพไม่รู้หรือไง อารดาหันมองผีสาวเคืองๆหล่อนทำให้เธอตกใจอีกแล้ว ผีสาวทำเป็นไม่สนใจสายตาคมดุของอีกฝ่ายจัดการกดปิดสวิตช์เครื่องชงกาแฟและยืนกันท่าทำหน้าอวดดีอยู่ตรงนั้น เธอคิดว่าเธอเป็นใคร รู้ตัวไหมว่าวุ่นวายมากไปแล้วหลบไป!! คนตัวสูงทำตาดุเสียงเข้มหวังให้แม่ผีสาวตรงหน้าเกรงกลัว ฉันรู้ดีว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นผีและฉันก็เป็นห่วงคุณด้วย เข้าใจไหมว่าเป็นห่วงหน่ะและคุณก็อย่าดื้อกับฉันให้มากนักเข้าใจไหมเพราะฉันคงอยู่กวนใจคุณไม่นานหรอกรบกวนอดทนหน่อยก็แล้วกันพูดจบผีสาวก็หันเดินกลับออกไป อารดามองตามหลังผีสาวไปแบบงงๆ ก่อนจะหันกลับมามองเครื่องชงกาแฟช่างใจว่าจะเอายังไงแต่สุดท้ายก็ตัดใจเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มแทน สะกดจิตตัวเองว่าน้ำเปล่าเป็นกาแฟไปก็แล้วกัน เผื่อจะช่วยทดแทนกันได้บ้าง อารดานึกปลงกับชีวิต และไม่คิดต่อเพื่อหาเหตุผลว่าทำไมตนถึงแคร์ผีสาวจอมจุ้นนักในอีกมุมผีสาวกำลังยิ้มอิ่มใจมีความสุขที่หล่อนไม่ดื้อรั้นขัดใจเธอและเธอก็คิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วด้วยว่าเพราะที่หล่อนยอมเพราะหล่อนแคร์เธอ ขุนอัครเดชเดินกลับมาที่ต้นมะขามริมน้ำเพื่อรับเจ้าน้องตัวเล็กแต่ก็ต้องแปลกใจที่พบเพียงความว่างเปล่า ท่านขุนอัครเดชใช่หรือไม่ขอรับ ขุนอัครเดชก้มมองเด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ใช่ คุณหนูแก้วกัญญาฝากความถึงท่านว่าได้พาน้องชายท่านกลับไปที่เรือนให้กระผมถามท่านว่าท่านจะไปรับน้องชายด้วยตนเองหรือจะให้นำไปส่งที่เรือนขอรับ ข้าจะไปรับน้องข้าเอง เจ้านำข้าไปที เด็กหนุ่มยกมือไหว้เหนือหัวและลุกขึ้นเดินนำออกไป ชายหนุ่มผู้มีศักดิ์ยืนครุ่นคิดแก้วกัญญาเป็นบุตรสาวของมหาอำมาตย์เทพนเรนทรคนสนิทติดตัวที่เหนือหัวให้ความไว้วางใจมากแต่สำหรับเค้ากลับรู้สึกขัดแย้งและมองต่างมุมกับเหนือหัวหรือกับหลายๆคนที่ถือข้างมหาอำมาตย์ในส่วนลึกของเค้ามหาอำมาตย์เทพนเรนทรเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่ไม่น่าไว้ใจและสิงห์เฒ่าผู้นี้แจ้งใจดีว่าเค้ารู้สึกเช่นไร แก้วกัญญานั่งมองเด็กน้อยที่ง่วนอยู่กับขนมหลากสีสันตรงหน้าท่าทีหิวโซเพราะห่างมื้อกลางวันมามาก เจ้าชอบหรือไม่ อนพ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองแม่หญิงคนงามยิ้มจนตาหยีเขาพยักหน้าน้อยๆก่อนก้มลงไปสนใจขนมตรงหน้าต่อ เด็กน้อยทานได้มากเพราะขนมที่นี่รสชาติอร่อยไม่แพ้ที่เรือนเลย ลองขนมช่อม่วงซิพี่ข้าทำเองกับมือทั้งสวยทั้งอร่อยเลยนะ แก้วกัญญาหยิบขนมยื่นให้ เด็กน้อยไม่ได้ใช้มือรับไปแต่ใช้ปากมางับขนมไป เจ้านี่ไม่รักษากิริยาเลยเดี๋ยวแม่ข้ามาเห็นเข้า ข้าก็จะพลอยโดนดุไปด้วยหญิงงามตำหนิเด็กน้อยเบาๆกวาดสายตาไปรอบๆเกรงว่าจะมีใครมาเห็นและนำไปฟ้องมารดาเด็กน้อยยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบหัวเราะคิกคัก ข้ามองก่อนแล้วถึงทำ แบบนี้หากคุณย่าข้ามาเห็นข้าก็คงได้โดนไม้ดีดปากแน่ๆ คู่หูต่างวัยต่างพากันหัวเราะชอบใจในเรื่องที่รู้กันอยู่สองคน เจ้าสองคนขันอะไรกันรึ แก้วกัญญาและเด็กน้อยเงยหน้ามองทั้งคู่เห็นชายหนุ่มรูปงามท่าทางสำอางแต่ก็แฝงไปด้วยพลังและความหนักแน่นเด็กน้อยยิ้มเป็นมิตรส่งไปให้ต่างกับหญิงสาวที่วางหน้านิ่งเฉยซึ่งเป็นท่าทีที่ชายหนุ่มชินเสียแล้ว ข้าทำเจ้าสองคนหมดสนุกรึ ชายหนุ่มทำเป็นไม่เข้าใจ ทั้งที่รู้แก่ใจ พ่อข้าอยู่บนเรือนใหญ่ เชิญท่านที่นั่นเถิด ข้าอยากอยู่เป็นส่วนตัวกับเด็กน้อย แก้วกัญญาไล่ชายหนุ่มตรงๆไม่คิดรักษาน้ำใจแต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดเคืองเพราะเข้าใจในนางดี ท่านอินทร เสียงใสๆดังมาจากทางหนึ่งดึงความสนใจจากทุกคนพลอยกัญญาเดินตรงเข้ามาหากลุ่มสนทนาช่างถูกที่ถูกเวลานักในความรู้สึกของแก้วกัญญา ดีจริงที่พี่พลอยมา ท่านอินทรกำลังต้องการคนนำทางไปเรือนใหญ่อยู่พอดีเนื่องจากข้าไม่สะดวกติดต้องดูแลเด็กน้อย พลอยกัญญามองไปที่เด็กน้อยอ้วนพลีที่กำลังง่วนอยู่กับขนมตรงหน้า ลูกเต้าเหล่าใครรึ บุตรในเรือนเจ้าพระยาพิเศกไกรสรเขาเป็นมิตรกับข้า พลอยกัญญามองเด็กน้อยด้วยสายตาเอ็นดูจังหวะเดียวกับเด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมายิ้มเป็นไมตรีให้กลับไปยิ่งถูกใจหญิงสาว แม่หญิงเป็นคนทำขนมช่อม่วงใช่หรือไม่ ใช่จ่ะ ทำไมรึ อร่อยถูกปากนักเจ้าค่ะ ทั้งหมดเอ็นดูในความเฉลียวฉลาดช่างเอาใจของเด็กน้อยแต่ในรอยยิ้มของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความกังขาเด็กน้อยผู้นี้เป็นบุตรในเรือนเจ้าพระยาพิเศกไกรสรก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับอัครเดช ถึงเค้ากับอัครเดชจะเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันแต่ก็ไม่เคยก้าวล้ำเรื่องส่วนตัว อัครเดชไว้ตัวเพราะถือชาติกำเนิดในตระกูลขุนนางมองเค้าเป็นเพียงลูกพ่อค้าวานิชถึงตอนนี้เค้าจะมีตำแหน่งเทียบเท่าแต่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตา พี่พลอยพาท่านอินทรไปหาท่านพ่อเถิด ท่านอินทรเสียเวลามามากแล้ว แก้วกัญญาผลักไสชายหนุ่มทางอ้อมส่วนพลอยกัญญาก็พาซื่อด้วยไม่รู้ความในจึงรีบเชื้อเชิญอนาคตน้องเขยออกไปอย่างยินดีชายหนุ่มจึงต้องเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้ ข้าขอตัวก่อนนะแก้วกัญญา ข้าไปก่อนนะเจ้าหนูน้อย แก้วกัญญายิ้มตอบเป็นมารยาทส่วนเด็กน้อยก็เลิกสนใจพวกผู้ใหญ่กลับไปสนใจกับขนมตรงหน้าต่อ เพราะยังไม่หายหิวเมื่อเสียงฝีเท้าไกลออกไปแก้วกัญญาถึงเงยหน้าขึ้นมองทั้งคู่ที่เดินลับตาไปก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำไมคนที่เขาหมายปองถึงไม่เป็นพี่พลอยนะ คุณหนูขอรับ ท่านขุนอัครเดชรออยู่ที่ข้างรั้วหน้าเรือน สั่งให้กระผมนำน้องชายออกไปส่งให้ขอรับ เมื่อได้ยินชื่อพี่ชายเด็กน้อยถึงกับตาวาวละมือจากขนมจุ่มสองมือน้อยๆของตนในอ่างล้างมืออย่างเร่งรีบเพราะอยากไปหาพี่ชายเต็มที ทำไมเอ็งไม่เชิญเขาเข้ามา เชิญแล้วขอรับ ท่านบอกว่าไม่สะดวกเพราะต้องไปที่อื่นต่อ แก้วกัญญาพยักหน้าเข้าใจ ยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นเด็กน้อยอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ข้าอิจฉาพี่ชายเจ้านักที่มีน้องเช่นเจ้า เด็กน้อยยิ้มตาหยีเดินเข้ามานั่งบนตักหญิงสาวและโอบกอดเอาใจ ข้าเป็นน้องของท่านด้วยก็ได้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้าว่าจะไม่ขัดใจคุณพี่นะ เด็กน้อยมีเงื่อนไขที่ทำให้หญิงสาวนึกขันในความแก่แดดแก่ลม คนอย่างข้านะรึที่ขัดใจพี่ชายเจ้า ไม่ใช่เพราะพี่ชายเจ้าน่ะหรือชอบยั่วโมโหข้า เด็กน้อยอมยิ้มคิดในใจว่าพอกันทั้งคู่นั่นแหละ รีบพาข้าไปส่งเถิด ข้าไม่อยากให้คุณพี่รอนาน แก้วกัญญายิ้มน้อยๆก่อนจะลุกขึ้นและเดินจูงเด็กน้อยออกไปโดยมีบ่าวสาวคนสนิทเดินตามหลังไปด้วย เมื่อเห็นพี่ชายเด็กน้อยปล่อยมือจากหญิงสาวแล้วถลาเข้าไปหาผู้เป็นพี่ทันที แม่หญิงแก้วกัญญาช่างดีกับอนพนักเจ้าค่ะ อนพอยากให้คุณพี่ตอบแทนนางบ้าง เด็กน้อยแหงนเงยบอกกล่าวพี่ชายตีท่าเป็นผู้ใหญ่เพราะเขาได้รับการสั่งสอนมาว่าใครดีด้วยต้องดีตอบขุนอัครเดชขันในท่าทางของน้องชายและมองไปที่หญิงสาวที่ยืนมองเขากับน้องอยู่ด้วยความสนใจและเมื่อสายตาสบกันทำให้ต้องรีบเบี่ยงสายตาหลบกันแทบไม่ทันเพราะขัดเขิน ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าที่เจ้าเป็นภาระดูแลน้องให้ข้าในวันหน้าหากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใดก็โปรดอย่าได้เกรงใจ ข้าจะจดจำคำมั่นของท่านเอาไว้ในวันหน้าหากข้ามีสิ่งใดให้ช่วยข้าก็จักมิเกรงใจ หญิงสาวรับในคำมั่นโดยไม่รู้เลยว่าในอนาคตด้วยคำมั่นสัญญานี้จะนำพาให้ชีวิตของทั้งคู่ต้องพันผูกกันจนวันนี้ ชายหนุ่มรูปงามที่ชื่อขุนอัครเดชหญิงสาวคนงามที่ชื่อแก้วกัญญา กับเด็กน้อยที่ชื่ออนพอยู่ในความคุ้นชินเพราะพบเจอกันอยู่บ่อยๆในความฝัน ภาพของทั้งสามค่อยๆเลือนลางไป ปรากฏภาพใหม่ขึ้นมาเธอเห็นหญิงงามที่งามไม่แพ้แก้วกัญญา งามกว่าเสียด้วยซ้ำ ลูกไม่แต่งเป็นตายยังไงลูกก็จะไม่แต่งหากท่านพ่อบังคับลูก ลูกจะฆ่าตัวตาย หญิงสาวดื้อรั้นยื่นคำขาดเพราะไม่เห็นด้วยกับบิดาก็อะไรกันอยู่ๆจะให้เธอออกเรือนไปกับใครก็ไม่รู้ แม้หน้าก็มิเคยเห็น ไม่ได้!!เจ้าต้องแต่งอยากให้พ่อเสียคำสัตย์รึโกเมศผู้เป็นพ่อไม่ยอมลงให้แม้ว่าที่ผ่านมาจะรักและตามใจบุตรสาวคนนี้เพียงใดเนื่องด้วยคำมั่นที่ให้ไว้กับเพื่อนรักว่าหากเค้ามีบุตรสาวก็จะยกให้แต่งงานกับบุตรชายของเขา พ่อสัญญากับเขาพ่อก็แต่งเองซิคะไม่เห็นเกี่ยวกับลูกหญิงสาวยังดื้อดึง ด้วยรู้ว่าผู้เป็นพ่อรักมากเพราะเธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวถูกตามใจจากบิดามารดามาตลอด อิสริยา เจ้าจงฟังพ่อให้ดีพ่อของเจ้าคนนี้ถือคำสัตย์เหนือสิ่งอื่นใดและที่สำคัญพระยาพิเศกไกรสรมีบุญคุณกับพ่อมากมายนักพ่อหวังให้เจ้าได้ออกเรือนไปกับบุตรชายของเขา อย่างน้อยก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเขาแทนพ่อบ้างเจ้าจะทำเพื่อพ่อไม่ได้เชียวรึ หญิงสาวนิ่งเงียบคิดคำตอบโต้แต่ก็จนทางเพราะหากเธอปฏิเสธก็เป็นดั่งลูกอกตัญญูแต่หากเธอตอบตกลงก็ไม่รู้ได้เลยว่าชีวิตในภายภาคหน้าของเธอจะเป็นเช่นไรกับการออกเรือนไปกับชายแปลกหน้า อัครเดชเป็นหนุ่มรูปงาม เป็นขุนน้ำขุนนางอยู่ในรั้วในวังเหมาะสมคู่ควรกับลูกสาวพ่อทุกอย่างเจ้าอย่าดื้อรั้นไปเลยพ่อรักลูกและเลือกสิ่งที่ดีให้ลูกเสมอ หญิงสาวยังคงนิ่งด้วยจนทางแล้วจริงๆผู้เป็นพ่อลอบยิ้มด้วยมั่นใจว่าสมหวังแน่แล้ว ปรายตะวันเด็กหญิงวัยห้าขวบย่างหกขวบหันซ้ายหันขวาไม่มีสมาธิกับการอ่านหนังสือตรงหน้าเลยเพราะรู้สึกถึงบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในห้องของตน เด็กหญิงหันขวับไปที่ตู้เก็บของที่เป็นไม้ทึบสีเข้มมีความสูงเลยศีรษะเธอขึ้นไปเล็กน้อยมีเสียงกุกกักดังออกมาในนั้น หนูเหรอแต่จะเป็นไปได้ยังไง ห้องนี้ไม่เคยมีหนูนะ ไม่ใช่ซิบ้านนี้ไม่เคยมีหนูต่างหากเพราะแม่ของเธอถือทั้งตำแหน่งคุณนายสะอาดและคุณนายระเบียบท่านไม่ยอมให้มีสัตว์สกปรกแบบนี้มาอยู่ในบ้านแน่ๆและเสียงกุกกักดังขนาดนี้ต้องไม่ใช่หนูแน่ๆ อะไรอยู่ในนั้น!! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ เด็กหญิงไร้เดียงสากระฟัดกระเฟียดลุกออกจากโต๊ะเขียนหนังสือด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองในบางสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิเธอหวังจะได้เจอกับสิ่งนั้นและจัดการมันซะ!! ออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเราจะไปฟ้องคุณพ่อ เด็กหญิงพยายามเงี่ยหูฟังเสียงตอบจากภายในแต่เสียงภายในตู้ก็เงียบไปตอนนี้บรรยากาศรอบตัวเงียบเสียจนเด็กน้อยได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ในใจของเด็กหญิงเริ่มนึกหวาดกลัวขึ้นมาเมื่อคิดได้ถึงเหตุและผลของความไม่ปกติเพราะจะมีใครเข้ามาในห้องของเธอได้อย่างไร ในเมื่อห้องของเธอมันล็อคอยู่เป็นกฎเข้มงวดจากคุณพ่อที่เธอต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าต้องล็อคห้องก่อนนอนทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้ามาทำอันตรายถ้าพ่อกับแม่จะเข้าไปจะเรียกหรือจะไขกุญแจเข้าไปเอง แต่หากเป็นคนอื่นมาเรียกในยามวิกาลห้ามเปิดประตูเด็ดขาดเมื่อคิดได้ถึงตรงนี้เด็กหญิงก็ค่อยๆก้าวถอยหลังเพื่อให้ห่างจากตู้ ว้าย !! เด็กหญิงร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกได้ว่าด้านหลังสัมผัสได้กับบางสิ่ง เบาๆซิ เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเค้าก็แตกตื่น เด็กผู้ชายผมจุกตัวอ้วนพลียกนิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปาก กระซิบกระซาบตำหนิเด็กหญิง เธอเป็นใคร์? เข้ามาห้องเราได้ยังไง? เป็นผีเหรอ? เด็กหญิงถามไร้เดียงสาแต่ก็ไม่ได้นึกกลัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กเหมือนกัน ใช่!ข้าเป็นผี เจ้าไม่กลัวข้ารึ ไม่หรอกเธอน่ารักดี ว่าแต่ทำไมเธอถึงเป็นผีล่ะ ปรายตะวันใคร่รู้จริงจังตามแบบเด็กฉลาดที่ถูกสั่งสอนให้มีความสงสัยใคร่อยากรู้ในสิ่งใหม่ ก็ต้องตายก่อนซิถึงจะเป็นผีได้ แล้วเธอเป็นอะไรตายเหรอแล้วเธอเจ็บไหม เธอกลัวไหมก่อนเธอจะตาย เธอ?... พอ พอ พอได้แล้วแม่สาวน้อยร้อยคำถาม เก็บเอาไว้ถามวันหน้าบ้างเถอะถามเยอะเดี๋ยวก็ได้หมดเรื่องคุยกันพอดี เด็กน้อยอ้วนพลีปีนขึ้นไปนั่งแกว่งเท้าไปมาอย่างสบายใจบนเตียงลายดอกไม้สีหวานกวาดสายตามองไปรอบๆห้องอย่างไร้จุดหมายเป็นภาพที่น่ามองสำหรับเด็กหญิง ปรายฟ้าเดินตามขึ้นไปนั่งข้างๆเว้นระยะห่างกันไว้หนึ่งฝ่ามือ เธอล่ะชื่ออะไรเหรอ? ปรายตะวันเอียงคอถามผีเพื่อนใหม่ ข้าชื่ออนพ แก่กว่าเจ้าหลายร้อยปี เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ชายเจ้าเข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่ปรายตะวัน ทำไมเธอถึงบอกว่าแก่กว่าเราหลายร้อยปี ก็ตัวเธอใหญ่กว่าเราหน่อยเดียวเองแล้วเธอรู้ชื่อเราได้ยังไง อนพหันมองเด็กขี้สงสัยยิ้มใจดีจนตาหยีสร้างอารมณ์ขันให้กับเด็กหญิง ข้าเห็นเจ้าตั้งแต่เจ้ายังเป็นเด็กน้อยตัวแดงๆ เด็กน้อยอ้วนพลีรำลึกย้อนถึงความหลังในตอนนั้นเค้าแปลกตากับเด็กน้อยตัวแดงสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้เมื่อหลายปีก่อน เค้าฝันอยากมีน้องน้อยน่ารักอย่างนี้อยากถูกเรียกว่าพี่บ้างอยากจะดูแลปกป้องใครสักคนบ้างเหมือนกับที่เค้าได้รับจากพี่ชายเค้าเฝ้ามองการเจริญเติบโตของเด็กหญิงคนนี้พยายามจะแสดงตัวหลายต่อหลายครั้งแต่ก็เหมือนว่าจะไม่เป็นผลเพราะไม่มีการสนองตอบเลยและหลายครั้งที่อยากจะดุว่าพี่ชายเสียให้สำนึกที่เขาเย็นชาใส่เธอ เค้าอยากจะเข้าไปปลอบโยนเด็กหญิงคนนี้แต่ก็ทำไม่ได้พระอาจารย์บอกว่ายังไม่ถึงเวลา
Create Date : 21 มีนาคม 2555 | | |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2556 15:00:29 น. |
Counter : 516 Pageviews. |
| |
|
|
|