อารดาเผลอหลับอยู่บนโซฟาสมองและร่างกายยังรู้สึกอ่อนล้าเธอรู้สึกถึงความนุ่มนิ่มของโซฟาและกลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคย
คุณพี่เจ้าขา ดอกปีบริมหน้าต่างห้องของอนพออกดอกบานสะพรั่งเต็มต้นเลยเจ้าค่ะเด็กน้อยยื่นดอกปีบที่ตนเอื้อมไปเด็ดมาแตะไปที่ปลายจมูกของพี่ชายยืนยันในสรรพคุณขุนอัครเดชยิ้มน้อยๆด้วยเอ็นดูเจ้าน้องชายตัวเล็กนัก อนพเป็นลูกหลงที่เป็นความยินดีของทุกคนในบ้านแม้ต้องแลกด้วยชีวิตของแม่เค้าเพราะให้กำเนิดบุตรเมื่ออายุมากแต่เค้าก็เข้าใจในธรรมชาติไม่คิดกล่าวโทษสิ่งใด
หลังจากที่มารดาของเค้าเสียบิดาก็ตรอมใจด้วยจิตที่ผูกพันกันมากท่านจึงละทิ้งทางโลกเข้าสู่ทางธรรมเพื่อสร้างบุญส่งเสริมให้กับภรรยาผู้ล่วงลับถึงเค้าจะเคยนึกตำหนิที่บิดาอ่อนแอและมัวเมาในความรักจนเหมือนขาดสติแต่เพราะคุณย่าได้ให้สติและชี้ให้เห็นถึงหัวใจรักที่พ่อมีต่อแม่ว่ามันยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์เพียงใดจึงทำให้เค้าเข้าใจในบิดาและยอมรับในการตัดสินใจของท่านด้วยจิตที่เป็นสุขอย่างแท้จริงสำหรับเค้าในตอนนี้มีสองสิ่งที่เกาะกุมหัวใจคือคุณย่าที่เคารพรักและน้องน้อยเจ้าตัวเล็กคนนี้
หอมนัก ขุนอัครเดชทำท่าสูดดมกลิ่นดอกไม้เข้าไปจนเต็มปอดเพื่อเอาใจน้องชาย
หอมค่ะ หอมติดตัวอนพเลย เด็กน้อยเกลือกกลิ้งไปที่ตัวพี่ชายอวดกลิ่นหอมจากกาย
เจ้านี่นะ เป็นเด็กผู้ชายแท้ๆทำไมถึงได้สนใจเครื่องหอม ดอกไม้นัก ขุนอัครเดชส่ายหน้าน้อยๆว่าระอาใจแต่ก็ไม่ได้จริงจังด้วยรู้ว่าอนพเป็นเด็กอ่อนโยนและจิตใจดี
อนพรักคุณพี่ รักคุณย่า รักหลวงพ่ออนพชอบเครื่องหอมดอกไม้และแม่หญิงแก้วกัญญาคนงาม เด็กน้อยทำแววตาล้อเลียนพี่ชาย
แก่แดดแก่ลมใหญ่แล้วนะเรา เด็กน้อยยิ้มจนตาหยีเพราะรู้ว่าพูดถูกใจพี่ชายแน่ๆขุนอัครเดชทำเพียงส่ายหน้าเบาๆไม่คิดตอบโต้สิ่งใด หากจะพูดตรงกับใจก็คงไม่เหมาะหากจะต้องกล่าวโกหกก็ไม่ใช่วิสัย
บ่าวไพร่ที่อยู่แถวนั้นต่างอมยิ้มให้กับความน่ารักของพี่น้องต่างวัยเพราะโดยปกติไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นท่านขุนยิ้มเต็มหน้าแบบนี้
ภาพฝันในความรู้สึกของอารดาลางเลือนไปและมีภาพใหม่ซ้อนทับเข้ามา
ณตลาดยามเช้านอกกำแพงเมืองขุนอัครเดชและทหารติดตามนอกเครื่องแบบอีกสองคนเดินออกตรวจตราความเรียบร้อยโดยตำแหน่งแล้วสูงเกินที่จะต้องลงมาทำอะไรเช่นนี้แต่เพราะเขาต้องการรู้เห็นทุกข์สุข ของประชาชนด้วยสายตาตนเองเพื่อนำไปประกอบในการบริหารบ้านเมืองในหน้าที่ที่ตนดำรงอยู่
แต่การออกตรวจตราครานี้ต่างไปจากทุกครั้งเพราะบนบ่าของขุนอัครเดชมีเด็กน้อยร่างอ้วนท้วนหลับใหลหมดสภาพอยู่เพราะตื่นผิดเวลาเด็กน้อยขอตามออกมาเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยว่ารักน้องชายขุนอัครเดชจึงยอมตามใจ
เจ้านี่หนา
ตอนจะมาก็เหมือนไก่จะบินและดูเจ้าตอนนี้ซิยังกับไก่ป่วยก็ไม่ปานผู้เป็นพี่บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรชาวบ้านที่เดินชมตลาดต่างหันมองหนุ่มรูปงามกับเด็กน้อยร่างอ้วนท้วนด้วยสายตาเอ็นดูจนขุนอัครเดชชักเริ่มกระดากคิดหาทางออกที่จะให้น้องได้นอนสบายและตัวเองก็ไม่ต้องเสียงาน
ท่าน เสียงเสนาะหูของคนเคยคุ้นดึงความสนใจจากชายหนุ่มเขาหันมองและเป็นดังคาดหล่อนคือแก้วกัญญาหญิงปากกล้าที่สร้างอารมณ์ดีได้ทุกครั้งที่คิดถึง
ข้าเห็นใจเด็กน้อยนักอยากให้ได้นอนสบายตรงริมน้ำด้านนู้นมีต้นไม้ใหญ่ท่านพาน้องชายไปนอนตรงนั้นก่อนเถิด ข้าจะให้บ่าวปูผ้าให้ แม้นในใจลึกๆไม่ได้อยากจะเจรจาด้วยนักเพราะยังขัดใจเขาไม่หายแต่ด้วยเห็นใจเด็กน้อยที่เธอนึกถูกชะตาขุนอัครเดชตีหน้านิ่งเก็บซ่อนความรู้สึกปีติไว้มิดชิด
ไม่เป็นไร เพราะข้าต้องเดินตรวจตราคงเสียเวลารอเจ้าน้องขี้เซาไม่ไหวเดี๋ยวอีกสักพักข้าก็จะปลุกเขาแล้ว ขอบใจเจ้ามากที่หวังดี ชายหนุ่มก้มหน้าเป็นการขอบคุณหญิงน้ำใจงามก่อนจะเดินออกไปแต่ก็มีเหตุให้ต้องหยุดชะงักเพราะหญิงสาวเร่งฝีเท้ามายืนขวางเขาไว้
คือ...ข้าจะดูแลน้องท่านให้เมื่อท่านเสร็จการแล้วค่อยมารับไป ขุนอัครเดชเลิกคิ้วถึงจะซึ้งในน้ำใจแต่ก็นึกเกรงใจ
ข้าไม่รบกวนเจ้าหรอกอีกอย่างกว่าข้าจะเดินตรวจตราเสร็จคงกินเวลาอีกค่อนวันจะเสียเวลาเจ้าเปล่าๆ
ไม่หรอกวันนี้ข้าไม่มีกิจใด อีกอย่างเด็กน้อยผู้นี้ผูกเป็นมิตรกับข้าแล้วมิตรช่วยมิตรย่อมไม่เห็นว่าเป็นการรบกวน ขุนอัครเดชนึกขันในใจที่นางพยายามกันตนไม่ให้มีส่วนร่วมในไมตรีครั้งนี้
ก็ได้ เมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็ไม่ขอเกรงใจ โปรดนำทางไปเถิด แก้วกัญญาคลี่ยิ้มสมหวังด้วยอยากใกล้ชิดกับเด็กน้อยอ้วนพลีหวังได้กอดฟัดให้สาใจด้วยความเอ็นดู โดยไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มนี้ติดตรึงใจชายหนุ่มนัก
ต้นมะขามลำต้นกว้างใหญ่ขนาดเท่ากับสามคนโอบบอกได้ว่ายืนต้นมายาวนานแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงามาหลายชั่วอายุคนใบแห้งและกลีบดอกปลิวร่วงโรยลงมาเป็นระยะๆเพราะแรงลม ผ้าผืนหนาถูกปูรอโดยบ่าวสาวคนสนิทแก้วกัญญานำลงไปนั่งพับเพียบเพื่อรอรับเด็กน้อยขุนอัครเดชวางน้องชายของตนลงด้วยความระมัดระวังเกรงว่าน้องจะตื่นและเกรงว่ามือหนาของตนจะไปเตะต้องล่วงเกินหญิงสาวเข้าเด็กน้อยนอนหนุนอยู่บนตักนุ่มนิ่มของหญิงสาวเขาพลิกกายให้อยู่ในท่าที่สบายและแน่นิ่งไปอย่างเป็นสุข
ขุนอัครเดชขันในท่าทางของน้องชายนักก่อนจะเหลือบตามองหญิงสาวอย่างสนใจเรือนผมที่ถูกเกล้าขึ้นสูงและปล่อยหางม้ายาวลงมาจนถึงกลางหลังเปิดใบหน้าผ่องใสให้เห็นแจ่มชัด ผิวนวลเนียนขาวอมชมพูที่เค้าพอมองออกว่าเป็นเนื้อแท้ไร้การแต่งแต้มวงหน้าเรียวยาวก้มลงมองน้องน้อยของเค้าอย่างสนใจมือเรียวลูบไปที่ศีรษะเบาๆด้วยความเอ็นดูหล่อนผู้นี้ไม่เหมือนหญิงใดที่เค้าเคยพบพาน แก้วกัญญาฉลาดกล้าเกินหญิงจิตใจอ่อนโยน กิริยางดงามและท่าทางของหล่อนที่แสดงออกว่าเอ็นดูเจ้าตัวเล็กช่างถูกใจเค้านักแก้วกัญญาเงยหน้าขึ้นมองแก้มแดงระเรื่อเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเหม่อมองมาที่ตนทำให้ต้องรีบก้มหน้าหลบตาลงไป
ท่านยังไม่ไปอีก เดี๋ยวก็ได้เสร็จกิจค่ำหรอก ขุนอัครเดชเสสายตาไปทางอื่น ด้วยรู้ตัวว่าจ้องมองหล่อนจนเกินงาม
ข้าขอบใจเจ้าอีกครั้งข้าต้องขอตัวก่อนและจะรีบกลับมา หญิงสาวทำเพียงก้มหน้าน้อยๆเสียงฝีเท้าที่เดินไกลออกไปทำให้หล่อนกล้าเงยหน้าขึ้นมองนึกฉงนในใจว่าทำไมหัวใจของตนต้องเต้นแรงเพราะสายตาของเขาด้วยนะ
คนบ้า เหมือนจะเอ่ยวาจาออกไปแบบไร้เหตุผลเพราะ ณ ที่แห่งนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดเป็นดั่งที่นางเอ่ยมะเฟืองบ่าวคนสนิทอมยิ้มเมื่อมองท่าทีที่ไม่ปกติของนายหญิงคุณหนูของเธอมิเคยแลหรือไยดีกับชายใดแม้แต่กับคู่หมั้นหมายเธอก็มิเคยแล
อารดาค่อยๆปรือตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงโซฟาช่วงเอวมันยวบลงหล่อนเห็นผีสาวนั่งอยู่ข้างๆจ้องมองมาที่ตน
มีอะไร?
ฉันเห็นคุณหลับไปนานเลยเป็นห่วง คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า
เธอห่วงฉันเหรอ? อารดานอนมองผีสาวรอฟังคำตอบอย่างสนใจ
ก็ใช่ซิ ถ้าคุณเกิดมาเป็นผีเหมือนกับฉัน ฉันก็แย่ซิเพราะไม่มีใครทำบุญให้ อารดายิ้มน้อยๆมองออกว่าหล่อนไม่ได้คิดจริงจังอย่างที่พูด
ก็ถ้าเธอไม่ดื้อไม่ซน ฉันก็จะทำบุญให้สม่ำเสมอไง คนป่วยอารมณ์ดีหยอกเย้ากลับ
บ้าจริงคุณนี่ ฉันไม่ใช่เด็กๆนะจะได้ดื้อจะได้ซน กฤติยานึกขัดใจสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอารดาอมยิ้มกับท่าทางแสนงอนของผีสาวแต่ก็เพียงนิดเท่านั้นไม่ทันให้หล่อนได้เห็น
สอง กฤติยาหันกลับมามองคนที่เรียกชื่อเธอด้วยสายตาเป็นคำถาม
อย่าไปไหนไกลฉันนะ ผีสาวเลิกคิ้วแปลกใจระคนตื้นตันใจที่ในโลกว่างเปล่าดายของเธอในตอนนี้มีคน คนนี้คอยเป็นห่วงและใส่ใจ
คุณเป็นห่วงฉันเหรอ?
รับปากกับฉันซิว่าเธอจะไม่ไปไหนไกลฉันอีก อารดาไม่ตอบคำถามกลับทบทวนคำพูดเดิมและขอสัญญา ในโลกที่เธอเข้าไปไม่ถึง เธอไม่ต้องการให้แม่ผีสาวอ่อนประสบการณ์ออกไปเผชิญในส่วนลึกเธอเป็นห่วงหล่อนจากใจจริง ด้วยเหตุผล ด้วยผูกพันด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เธอเองก็มิอาจเข้าใจ
รมิดาหญิงวัยกลางคนโยนหนังสือพิมพ์ออกไปไกลตัวในความรู้สึกที่หลากหลายผิดหวัง เสียดาย หรืออะไรอีกเยอะแยะมากมาย ถึงไม่อยากจะปักใจเชื่อแต่รูปก็ฟ้องชัดหนุ่มสาวร่างกายเปลือยเปล่านอนซบอิงกันอยู่ในโรงแรมหรูและหนุ่มคนนั้นก็คือคิมหันต์คนที่ตนหมายมั่นให้ได้มาเคียงคู่กับบุตรสาวคนสวย เพราะคิมหันต์พร้อมไปด้วยฐานะชาติตระกูล นิสัยใจคอ ทั้งยังรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าก็หล่อเหลาไร้ที่ติแต่แล้วทำไม? ทำไม?
คุณผู้หญิงคะ คุณหญิงพรประภาต้องการเรียนสายค่ะ กระจิบเด็กรับใช้เดินเข้ามารายงานคุณหญิงพรประภาคือมารดาของคิมหันต์นั่นเอง
บอกไปว่าฉันตรอมใจตายไปแล้ว รมิดาตะโกนออกไปไม่เกรงว่าปลายสายจะได้ยินเด็กรับใช้ทำหน้าลำบากใจและเดินไปบอกปลายสายอย่างที่ได้รับคำมาและรีบวางสายทันทีฝ่ายปลายสายร้อนวูบวาบไปทั้งหน้ากรี๊ดออกมาเสียงดังไม่เก็บกิริยาลืมไปไปเลยว่าตนมีศักดิ์เป็นคุณหญิงประราชทานคุณหญิงพรประภาทั้งโกรธทั้งอายที่โดนหยามศักดิ์ศรีแบบไม่เห็นหัวจากคนที่เคยรักใคร่สนิทสนมแต่ก็โทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ไอ้คนของเราก็ทำงามหน้านัก
ตาคิมกลับมารึยัง คุณหญิงกระชากเสียงจนบรรดาคนรับใช้ผวาไม่มีใครกล้าสู้หน้าด้วยเกรงลมพัดลมเพ
ยังไม่กลับตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ
ตาคิมนะตาคิมกลับมาแม่จะตีให้หัวแตกเลย ฮึ่ม!! คุณหญิงมาดร้ายบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนถึงจะนึกแปลกใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่วิสัยของบุตรชายเลยคิมหันต์สำอางค์และถือตัวมากจนเธอยังเคยแอบคิดว่าลูกชายวิปริตผิดเพศเป็นเกย์หรือเปล่าแต่ก็ไม่ใช่เพราะลูกชายของเธอปักใจรักอยู่กับหนูเตลูกสาวของคุณรมิดาด้วยเธอเห็นว่าตระกูลทางแม่เป็นผู้ดีเก่าและตัวของหนูเตเองก็เรียบร้อยน่ารักการศึกษาก็ดีมีหน้ามีตาในสังคมทำให้ความแตกต่างเรื่องฐานะตกไปแต่อยู่ๆก็มีภาพลูกชายของเธอนอนเปลือยอยู่กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้คุณหญิงยกมือกุมขมับปวดสมองกับเรื่องที่กำลังเกิด ดีหน่อยที่สามีไปราชการที่เมืองนอกกำหนดกลับอีกอาทิตย์ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องหมดเงินไปอีกเท่าไหร่เพื่อจะปิดปากสื่อ
คิมหันต์ทรุดตัวลงบนเตียงในคอนโดหรูของตนทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่ๆเขาก็ตื่นขึ้นมาในโรงแรมแห่งหนึ่งในสภาพเปลือยเปล่าเมื่อสำรวจดูข้าวของก็ไม่มีสิ่งใดหายไปมีเพียงมือถือไอโฟนที่ถูกปิดและเมื่อเปิดมันขึ้นมาก็พบข้อความในไลน์จากเพื่อนๆคนสนิทหลายคนเป็นคำถามเหมือนๆกันว่าเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับแนบรูปมาด้วยหัวใจเค้าเกือบหยุดเต้นเมื่อได้เห็นรูปพวกนั้น มันเป็นรูปชายหญิงกำลังพลอดรักกันสภาพเนื้อตัวเปล่าเปลือยใบหน้าผู้หญิงเห็นไม่ชัดเท่าไหร่แต่ผู้ชายนี่ซิเต็มๆ!!คือเค้าเอง
ชายหนุ่มทอดถอนใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอนยิ่งคิดก็พาให้ยิ่งสับสนจนปวดหัวผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแม้หน้าก็ไม่เคยเห็นและเค้าเองไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?รูปน่าอายพวกนั้นแพร่กระจายออกไปแล้วหลังจากนี้เค้าควรทำยังไง?แล้วผู้หญิงที่เค้ารักล่ะจะคิดยังไงกับภาพพวกนั้นชายหนุ่มดีดตัวขึ้นมาและกดโทรออกหาเตมิกาหวังอธิบายเพื่อปรับความเข้าใจแต่
ปลายสายไม่ว่างตลอดโดยรู้ได้ทันทีว่าเป็นการตั้งระบบไม่รับสายชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงไปอีกครั้งสมองมึนตื่อหมดทาง
เตมิกาเดินถือดอกลิลลี่ช่อใหญ่เข้ามาในร้านและส่งให้พนักงานนำไปจัดแจกันด้วยอารมณ์ที่เบิกบานก่อนจะเดินหายเข้าไปที่หลังร้าน
เตมิกานั่งลงที่โต๊ะทำงานหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ขึ้นมาดูสนใจดูในสิ่งที่รู้อยู่แล้วหญิงสาวกระตุกยิ้มที่มุมปากสะใจกับสิ่งที่เห็น เธอพูดแล้วเตือนแล้วไม่ยอมฟังก็ต้องเจอแบบนี้แหละคิมหันต์จะมาว่าเธอใจร้ายไม่ได้นะเพราะเธอก็อดทนมานานหลายปีแล้วเหมือนกัน เตมิกาเอื้อมมือล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเมื่อได้ยินเสียงเตือนว่ามีสายเข้าเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็กดรับสายทันที
ขอบคุณมากนะคะ ฉันเห็นเงินที่โอนเข้ามาแล้ว
ไม่เป็นไร ฉันพอใจมาก ไปกบดานดีๆเพราะเธอโดนตามตัวแน่ และหลังจากนี้เธอห้ามติดต่อมาหาฉันอีกไม่อย่างนั้นเธอได้มีศัตรูรอบด้านแน่
เข้าใจค่ะ สายถูกตัดไปสาวสวยปลายสายเข้าใจในความหมายดีว่าผลของคนพลาดคืออะไร
เตมิกามองไกลวันนี้เธอเอาก้างในชีวิตออกไปได้แล้ว เธอเป็นอิสระแล้ว หญิงสาวมีแววตามุ่งมั่นอยากเอาชนะซ่อนอยู่ในแววหวานมิดชิด
พระพรตอยู่ในสมาธิจิตวิ่งไปเห็นภาพของเตมิกาโดยไม่ตั้งใจเมื่อรู้ถึงจิตภายในใจของหญิงสาวก็วาบลึกอยู่ในใจเรื่องราวซับซ้อนลึกซึ้งกว่าที่คิดไว้มาก ตัวรู้ของท่านค่อยๆผุดเรื่องราวต่างๆขึ้นมาแต่ก็ไม่ชัดเจนต้องนำมาตีความและประติดประต่อเรื่องราวเอาเองซึ่งต้องใช้จิตพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพราะภาพบางภาพก็พาให้หลงทางไปหลายต่อหลายครั้งคลื่นแห่งความต้องการที่สวนทางนำพาไปให้เสียเวลากรรมสัมพันธ์ซับซ้อนลึกซึ้งจนหลายครั้งทำให้เหนื่อยใจท้อแท้อยากยอมแพ้เลิกติดตามแล้วปล่อยเรื่องราวทุกอย่างให้เป็นไปตามวิถีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะการแก้ไขคือทางออกที่ดีที่สุดไม่อย่างนั้นกรรมจะเกี่ยวพันกันไปไม่จบไม่สิ้น
กรกนกยืนมองเพื่อนรักที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง กับเพื่อนคนนี้ก่อเกิดความรู้สึกที่หลากหลายอยู่ในใจรักและผูกพัน อิจฉาและพ่ายแพ้หลายครั้งที่เธอเองรู้สึกแย่กับความคิดร้ายๆที่มีต่อเพื่อนคนนี้สองเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต เธอรู้เพื่อนคนนี้รักและจริงใจจากหัวใจแต่เธอไม่ชอบใจเลยที่เพื่อนคนนี้ทำอะไรได้ดีไปเสียทุกอย่างจนเธอเคยสงสัยว่ามีอะไรบ้างไหมที่เพื่อนคนนี้ทำได้ไม่ดีไม่ว่าเธอจะพยายามเพียงใด ก็ไม่เคยเอาชนะได้ หรือแม้จะทำได้ดีเทียบเท่าก็ไม่เคยแต่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็เหนือกว่าเพื่อนคนนี้แล้วเรื่องหนึ่งหญิงสาวนึกเยาะอยู่ในใจเพราะเธอได้ครอบครองชายอันเป็นหัวใจของหล่อนแล้วทินกรชายหนุ่มที่เธอเฝ้ามองด้วยความเสน่หาตลอดมาและตอนนี้เธอก็ได้เขามาสมใจ กรกนกปรายตามองหนึ่งฤทัยผู้หญิงคนนี้ก็เป็นอีกคนที่ทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าเสมอเมื่ออยู่ใกล้สำหรับทินกรหากลำดับความสำคัญในใจเขาแล้ว ที่หนึ่งคือสองที่สองก็คือพี่หนึ่งสำหรับเธอเหรอมีตัวตนเป็นแค่กาฝากเกาะพี่น้องสองคนนี้เท่านั้น
พี่หนึ่งทำใจให้สบายนะคะ นกเชื่อว่าสองจะดีขึ้นค่ะ หญิงสาวตีหน้าเศร้าเข้าไปปลอบโยนพี่สาวเพื่อนกัญญาน้ำตาเอ่อมองน้องสาวที่หลับใหลอยู่บนเตียงด้วยความสงสาร
นก หมอบอกว่าโอกาสที่สองจะฟื้นกลับมาเป็นปกติน้อยยิ่งกว่าน้อย หมอบอกให้ครอบครัวเราตัดสินใจยอมแพ้ เรื่องราวที่ได้ยินสร้างความตื่นเต้นยินดีให้คนฟังเกินบรรยาย
แล้ว...คุณลุง คุณป้าว่ายังไงบ้างคะ กรกรนกทำเสียงตื่นตกใจ แต่ในใจกลับลิงโลดลุ้นในคำตอบ
เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ กัญญาหันมองไปทางอื่นบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีก เธอเหน็ดเหนื่อยและเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องคิดถึงมัน
กรกนกหันมองคนป่วยนิ่งนาน
ฉันรักแกนะสอง รักมากพอๆกับที่ฉันเกลียดแกขอให้แกไปดีไวๆนะ
อารดายังอยู่ในสภาวะที่ร่างกายและจิตใจยังไม่แข็งแรงมากนักและโดยไม่รู้ตัวเองเลยว่าตนสามารถที่จะพาจิตเข้าสู่ภวังค์ได้โดยง่ายจากบุญเก่าที่ปฏิบัติธรรมสะสมมาแต่ปางก่อนซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายในระดับเธต้าสมองมีคลื่นความถี่ละเอียดมากอยู่ในช่วงเข้าสมาธิแบบลึกสามารถพาจิตไปเชื่อมโยงหรือติดต่อกับสิ่งที่มีความละเอียดหรือความถี่ที่ใกล้เคียงกันได้และหนึ่งในความถี่นั้นคือโลกของวิญญาณ
เสียงกดคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ดังออกมาไม่ขาดสายผีสาวนั่งมองไปที่ต้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ก็ดูหล่อนซิเอาแต่นั่งคร่ำเคร่งอยู่กับตัวหนังสือมากมายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งที่ตัวเองยังป่วยอยู่แท้ๆจะบ้างานไปถึงไหนนะพิลึกคนจริง
คุณ!! จะสี่ชั่วโมงแล้วนะที่คุณนั่งทำงานอยู่หน้าคอมเนี่ยไม่คิดจะพักสายตาบ้างเลยเหรอไงเดี๋ยวก็ได้เป็นยายแก่ใส่แว่นหนาเตอะก่อนวัยอันควรหรอกและอีกอย่างคุณก็ป่วยอยู่นะ ลืมตัวหรือไง ผีสาวโพล่งพูดออกไปอย่างอดไม่ได้เพราะนั่งทนดูมาหลายชั่วโมงแล้วโดยลืมนึกไปว่าคนตรงหน้าเป็นสาวโลกส่วนตัวสูงสุดกู่และไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลาทำงานอารดาสะดุดในอารมณ์หยุดมือหันมองแม่ผีสาวปากกล้าที่นั่งจีบปากจีบคอต่อว่าเธออยู่บนเตียง
ถ้าเธอไม่ยอมสงบปากสงบคำฉันจะจับเธอไปถ่วงน้ำ เมื่อขู่ผีสาวเสร็จอารดาก็หันกลับมามีสมาธิกับการทำงาน
อารดาเลิกคิ้วสูงเพราะได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นที่มาจากด้านหลังทำให้ต้องหันมองและเธอเห็นแม่ผีสาวซบหน้าอยู่กับหัวเข่าเนื้อตัวสั่นเทิ้มมีเสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะๆอารดามองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเดินไปดู
เป็นอะไรไปอยู่ดีๆก็ร้องไห้เป็นเด็กๆ สาวร่างสูงทรุดนั่งลงข้างๆผีขี้แยที่อยู่ๆก็ร้องไห้ขึ้นมา และนี่เธอควรจะทำยังไงกับหล่อนดีก็เธอปลอบใจใครเป็นที่ไหนกันเล่า ส่วนใหญ่จะใช้วิธีด่าเรียกสติซะมากว่า
ผีสาวไม่ได้ตอบกลับอะไรยังซบหน้าสะอึกสะอื้นต่อไปด้วยควบคุมตัวเองไม่ได้นึกสงสัยว่าทำไมจิตใจตัวเองถึงอ่อนแอนักนะ บ้าจริง!โดยไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้อาการแบบนี้มันคืออาการ น้อยใจ
สอง!ถ้าเธอไม่บอกฉันว่าเป็นอะไรฉันจะจับเธอไปถ่วงน้ำเดี๋ยวนี้แหละ อารดาทำเป็นเสียงเข้มหยอกผีสาวหวังเรียกอารมณ์ดีจากหล่อนแต่ก็เหมือนจะผิดคิว เพราะผีสาวหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมองทำตาขวาง คราบน้ำตาเกรอะกรังไปทั่วหน้าทำอารดานึกขันกับสภาพสาวสวยแต่หน้าตามอมแมม
ใจร้ายที่สุดเลย ผีสาวตัดพ้อทำคนถูกว่าออกอาการเหวอ
ฉันใจร้ายอะไร? อารดาส่งสายตาเป็นคำถามแคลงใจเป็นที่สุด
เพราะคุณเห็นว่าฉันไม่มีใครและหมดทางไปใช่ไหมล่ะ คุณถึงชอบพูดทำร้ายจิตใจและก็คิดจะรังแกกันอยู่ตลอดเวลา อารดาได้เพิ่มรอบเหวอ ก็เธอเนี่ยนะใจร้ายและคิดรังแกหล่อนนี่หล่อนคงเพี้ยนไปแล้วจริงๆ
ยัยผีเพี้ยน ร่างสูงโพล่งใส่ผีสาวไม่คิดเกรงใจหวังเรียกสติหล่อนให้กลับคืนมา
เลอะเทอะ สาวร่างสูงส่ายหน้าเบาๆเบื่อหน่ายความคิดไร้สาระก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหาน้ำดื่มตานี้เป็นผีสาวบ้างที่เหวอมองตามประตูห้องที่ปิดลงอะไรกันไม่รู้สึกผิดอะไรบ้างเลยหรือ ไม่มีหัวใจเลยหรือไง
กฤติยาของขึ้นลุกเดินทะลุประตูตามออกไป
คนใจร้าย! คนใจดำ! บ้าที่สุด!ใจร้ายที่สุด! กฤติยาเดินตามไปจนทันพร่ำพูดตัดพ้อคนตัวสูงไปตลอดทาง
โอ๊ะ!! ผีสาวกระแทกหลังคนตัวสูงอย่างจังเพราะหล่อนหยุดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะหันกลับมาหาทำเอาผีสาวใจหายวาบเพราะตอนนี้ใบหน้าของหล่อนใกล้ชิดกับเธอมากแปลก! ที่เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของหล่อน
เธอจะหุบปากเองดีๆหรือจะให้ฉันช่วยหุบให้!! ร่างสูงชักหัวเสียเพราะแบบนี้แหละเธอถึงไม่อยากยุ่งหรืออยากไปวุ่นวายกับใครเพราะมันจะวุ่นวายแบบนี้ เมื่อเห็นผีสาวนิ่งไปอารดาจึงหันเดินออกไปยังเป้าหมายเดิมเพราะคิดว่าเรื่องคงจบแล้วแต่ไม่เลย
คนใจร้าย ใจร้าย ใจร้าย กฤติยาดื้อแพ่งประท้วงอีกฝ่ายไม่เลิกทีกับแม่เพื่อนคนสวยไม่เห็นหล่อนจะใจร้ายเย็นชาแบบนี้เลยผีสาวคิดพาลไปเรื่อยยิ่งนึกถึงภาพที่สาวหน้าหวานจูบหล่อนก็ยิ่งจี๊ดในใจไม่รู้เพราะอะไร
จะไม่หยุดใช่ไหม? อารดาทำเสียงเข้มหวังให้หล่อนเกรงกลัวบ้างและเธอก็ชักจะหงุดหงิดกับความเอาแต่ใจไร้สาระของหล่อนแล้วด้วย
ไม่หยุด คนใจ ร่ะ...อุ๊บ!! กฤติยาในตาเบิกโพรงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเกินคิดฝันเมื่อเธอถูกคนตัวสูงกระชากเข้าไปหาตัวพร้อมกับแนบประกบปิดริมฝีปากของเธอบดเบียดเอาแต่ใจไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเลยสักนิด
อื้อ... พาลให้น้อยใจยิ่งดิ้นรนประท้วง แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งกระชับกอดให้ร่างกายได้สัมผัสกันแนบแน่นขึ้นอีก