อุบายใหม่
ติดตามกันต่อเลยค่าา
..................................
มิได้ๆๆ หัวเด็ดตีนขาดเปนตายร้ายดีข้าไม่มีวันส่งพี่ชมของข้าไปไหนเสีย เจ้าศศิธรกัญญาทรงส่ายพระพักตร์ไหวๆแลทรงฉวยเอามือนิ่มของนางสนองฯมาเกาะกุมไว้แน่นตรึง ชมนาฏพยายามเพ็ดทูลโน้มน้าวพระทัย
แต่.. ราชกัลยานีทรงเอาพระดรรชนีกดลงที่ริมฝีปากของชมนาฏ ปรามมิให้เอื้อนเอ่ย
เราสัญญากันแล้ว พี่ชมเจ้าลืมคำมั่นเพียงสองวันเท่านั้นฤๅ ช่างน่าน้อยใจนัก เจ้านางน้อยตรัสเปนเชิงพ้อ
ขุนมีชื่อดูทรงแล้วให้ฉงนฉงายแปลกๆแปร่งๆ แต่มิได้กล่าววจีอันใด บ่าวนายหนึ่งเอาหมากม่วงห่ามจากสวนท้ายจวนใส่ชะลอมขึ้นมา ชมนาฏจึ่งปลีกตัวออกมาจัดแจงเฉาะหมากม่วงอย่างรู้งาน เพียงครู่หนึ่งจึ่งนำ ลฆุโภชน์นั้นมาถวาย
เจ้าศศิธรกัญญาทรงเคี้ยวกร้วมเต็มพระกำโบล รสหวานแกมเปรี้ยวกระตุ้นประสาทรูป พระมัตถลุงค์วาบความคิด ผุดแผนใหม่ขึ้นมาพลัน
ข้าจักเข้าพิธีส่งตัว
ทรงเปลี่ยนพระทัยแล้วรึเพคะ ชมนาฏทูลถามด้วยสลดใจ แลเสียใจเจ็บปวดอยู่ในส่วนลึก
ใช่ แต่ข้าจักต้องถูกชิงตัวระหว่างทาง นางสนองฯแลขุนทหารหันมามองหน้ากันเลิกลั่กมิแจ้งในพระดำริแยบคาย เจ้าศศิธรกัญญาจึ่งทรงสำแดงกลต่อ
พี่เขมเจ้าจงแต่งกองทหารจรยุทธ์ฝีมือเปนเลิศสักซาวนาย ทำทีเปนโจรป่าชิงตัวข้าระหว่างทางบูรพาทิศไปสองแควพระพิษณุโลก ก่อนถึงเมืองสามโยชน์ ณ จุดข้ามลำน้ำ ชัยภูมิตรงนั้นเปนทางเล็กเหมาะเหม็งอย่างยิ่ง เมื่อพี่เขมเจ้าชิงตัวข้ามาได้แล้วให้มุ่งลงไปทางหรดีทิศราวเกือบโยชน์หนึ่ง ที่นั่นมีท่าเทียบเรือเล็กๆตรงคุ้งน้ำหากไม่สังเกตจักมิเห็น เราจักล่องตามลำน้ำลงมา ราวสามโยชน์จึ่งพบหมู่บ้านของนมช้อง พี่ชมเจ้ากับโขมพัสตร์ให้ไปรออยู่ที่นั่น
หลังจากนั้นเล่า พระราชบิดาของพระองค์จักต้องทรงมีรับสั่งให้ทหารทั้งกองทัพพลิกแผ่นดินหาตัวพระองค์เปนแน่พะย่ะค่ะ ขุนพิทักษ์โยธาที่มั่นใจว่าตนเองเชี่ยวกรำการยุทธ์มากกว่าพระองค์น้อย แม้นทรงพระปรีชาหากอยู่แต่ในวังเวียง ทูลทักท้วงเปนไปในทางไม่คล้อยตาม
ข้าจักปลอมตัวอย่างชาวบ้านสามัญ เช่นนั้นแล้วก็หาได้มีใครจับกุมตัวข้าได้ไม่ หลังจากนั้นจึ่งค่อยคิดโยกย้าย นมช้องนั้นเปนคนเก่าแก่แลกว้างขวางนัก
เจ้าศศิธรกัญญาทรงตั้งพระทัยเด็ดเดี่ยว ด้วยทรงเชื่อว่าของยิ่งใหญ่แค่ไหนมนุษย์ก็สามารถล้มได้ ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ยักษ์กว่าพี่เขมนักเปรียบมวยกันก็ล้มตึงสิ้นท่ามาแล้ว มิใช่ขุนพิทักษ์โยธาเอาชำนะด้วยแรง หากเปนได้ด้วยยุทธวิธี
..ที่สำคัญที่สุดคือแพ้อะไรก็แพ้ได้แต่ห้ามความคิดว่าจักปราชัยทั้งๆที่ยังมิได้ออกรบ
มันสุ่มเสี่ยงอยู่นะเพคะ หมู่บ้านของนมช้องออกใกล้พระนครแลเมืองรายทางนัก ชมนาฏสมทบว่าออกจะไม่เห็นด้วย ขุนพิทักษ์โยธาคราวนี้มิออกความเห็น ขบตรองความตาม
ตามพิชัยสงครามหลายสำนักกล่าวเปนข้อความตรงกัน ข้อนี้พี่เขมเจ้ารู้แจ้ง
ที่ใดอันตรายที่สุด ณ ตำบลนั้นคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการหลบภัย ขุนพิทักษ์โยธาตอบแทนพระองค์น้อย
ฤๅพี่ชมเจ้ามีแผนดีเด็ดดวงกว่านี้หรือไม่ นางสนองฯคู่พระทัยเม้มปากสนิทเปนเส้นตรง ใครจักไปปรีชาเท่าเจ้าศศิธรกัญญาผู้เลอพระโฉมแลพระสติปัญญา
เอาเช่นนี้แล พี่เขมเจ้าถนัดการบู๊เปนทุนมิใช่ดอกหรือ ขัตติยนารีเชื้อพระร่วงเจ้าทรงสบพระเนตรกับขุนทหาร
ขุนพิทักษ์โยธาฟังความถ้วนถี่แลยิ้มกว้างชอบใจในอุบายเจ้านายพระองค์น้อยคิดอ่านการเปนหลักแหลมนัก ทั้งยังรู้ใจใช้คนถูกกับงาน เขามันขาลุยมาแต่กำเนิด
สวบบบบ.. ระหว่างนั้นมีเสียงกุกกักๆอยู่ด้านล่างจวน
ใครบังอาจมาลอบฟัง!! ชมนาฏร้องลั่นรีบแจ้นลงมาดู เห็นหลังไวๆเปนเงาตะคุ่ม วิ่งหนีเข้าป่าไผ่ไปทางท้ายจวน ขุนพิทักษ์โยธาที่ตามลงมาต่อว่านางสนองฯเสียยกใหญ่
หูเอ็งฟั่นเฟือนแลตาฝาดเสียกระมัง เรือนข้านี้มิมีผู้ใดกล้าเหยียบจมูกหรอกนางชมเอ๋ย แรกทีเดียวว่าจะตามไปดูเสียให้รู้ แต่ยินคำหนักแน่นเช่นนี้ชมนาฏจึ่งขึ้นมาบนจวน
เจ้าศศิธรกัญญาทรงซักซ้อมแผนการจนเข้าใจต้องตรงดีแล้ว อีกพักหนึ่งจึ่งมีรับสั่งประสงค์เสด็จกลับ
ขุนพิทักษ์โยธาส่งเสด็จพ้นบริเขตจวนแล้วจึ่งกระโจนขึ้นเรือน หมายเชยชมพวงแก้มระเรื่อเมียแต่งพิไลหมาดๆสักสองสามฟอด แต่โขมพัสตร์กลับไม่สนองคุณ ตีหน้ายักษ์แยกเขี้ยวใส่
เจ้าอย่าได้มาใกล้ข้านะ
ทำไมเล่า ผัวจักจูบแก้มเมียสักน้อยหนึ่งมิได้เทียวรึ
วันนี้ข้ามีรอบเดือน โขมพัสตร์มุสาส่ง หาเรื่องบ่ายเบี่ยง ขยับกายหนี
ก็เรื่องของเจ้า ข้ามิรังเกียจดอก ขุนพิทักษ์โยธาทำเปนว่าไม่ใส่ใจ สืบเท้าเข้าประชิดแลโผเข้ากอดเต็มรัก
เจ้าคนมักมาก!! โขมพัสตร์หาได้ยอมไม่ ดิ้นสุดกำลังแลแจกขนมตุบตับไปหลายชิ้นอยู่ ขุนพิทักษ์โยธาเห็นว่านางน้อยเอาจริงจึ่งได้แต่ละวงแขนใหญ่
เราก็ได้แต่งกันเปนเมียผัวแล้ว ไฉนเจ้าจึ่งยังทุบตีไม่ยั้งมือแลปากร้ายใส่ข้าลงเล่า
พระองค์น้อยทรงมิได้ห้ามข้าใช้กำลังแลก่นด่าเจ้านี่ เมียสาวเล่นลิ้น อ้างพระดำรัสเบื้องสูง มิยำเกรงร่างใหญ่ตรงหน้า
อ้าวบ๊ะแล้ว.. ขุนทหารถึงกับอึ้ง ไฉนคดีพลิกเยี่ยงนี้
เจ้าจงจำไว้ เปนชายชาติทหารหาญจักต้องเคารพแลเชื่อฟังปรนนิบัติเมีย หากเจ้าข่มเหงน้ำใจข้า แม้นเปนเพียงชายตามองก็ดี ข้าจักทูลฟ้องพระองค์น้อย ไปหาข้าวมาให้ข้ากินเสีย เอาน้ำพริกแลผักต้ม โขมพัสตร์ได้ทีรุกไล่ สั่งเอาไม่หยุดด้วยลำพองใจ
จวนจะนอนแล้วยังมีแก่ใจอยากกินอีกนะเจ้า หมากม่วงนี่ก็มีเหลืออยู่
ก็ข้าอยากกินนี่ เอาใจเมียหน่อยไม่ได้หรือปะไร ขุนทหารเกาหัวแกรก หากเปนสตรีคงเรียกได้เต็มปากว่ามองค้อน จำยอมแต่โดยดีถือว่าไถ่โทษที่ล่วงเกินนาง ลงจากจวน ครั้นจักเรียกบ่าวไพร่ก็ให้เกรงใจ
ชายชาตรีลงมือทำข้าวปลาตามมีตามเกิด มาตรว่าติดเตาอั้งโล่ยังยากเย็น ขุนพิทักษ์โยธางกเงิ่น จักให้เขาทำน้ำพริกให้ควบม้าออกไปล่าไก่ป่าเสียยังง่ายกว่า ลงท้ายคว้าของใกล้ตัวทำปลานึ่งแลต้มไข่ ขุนทหารมีชื่อยกใส่สำรับมาบนจวน
เจ้าเก็บไว้ให้หมาแมวมันเถิด เพลานี้ข้าไม่หิวแล้ว โขมพัสตร์ตีหน้าซื่อบอกปัดเสียอย่างนั้น
เจ้านี่มัน..
อ้อ..เจ้าจักต้องมีข้าเปนเมียเอกเพียงหนึ่งเดียว อย่าได้สับปลับในคำมั่นที่ให้ไว้แก่พระองค์น้อย โขมพัสตร์ข่มขู่เอาตามอำเภอใจ เดินสะบัดก้นหายเข้าไปในห้องนอน ขุนพิทักษ์โยธาให้เจ็บแค้นเปนกำลัง แต่มิอาจกระทำอันใดได้ ด้วยรับปากให้คำมั่นแด่เจ้านายน้อยไว้
เกินจักหาคำบนโลกมาเปรียบ อันว่าร้ายใดก็มิเท่ามีภรรยาเจ้าแสนโหด...
ในราตรีสุกดิบก่อนวันเสด็จ ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆา แสงจันทราแห่งคืนวันเพ็ญครองนภมณฑล เปนศุภวารดิถีอันดียิ่งตรงตามที่ท่านพระคุณเจ้าให้ฤกษ์ยามไว้
ในห้องบรรทม บนพระแท่นสิริไสยาสน์ประดับประดาด้วยหมู่มวลดอกไม้แลสุคนธมาลา ชมนาฏนวดฟั้นคั้นหัตถ์ตลอดพระวรกายปรนนิบัติบำรุงบำเรอพระองค์น้อยมิได้ห่าง เจ้าศศิธรกัญญาทรงพระเกษมสำราญ แลนึกครึ้มพระทัยทรงสัมผัสกลิ่นเนื้อนางที่พวงแก้มใสของชมนาฏด้วยพระโอษฐ์
อุ๊ย..พระองค์ทำอันใดเพคะ ชมนาฏสะดุ้งตกใจ ตาโตเปนไข่ห่าน
แก้มพี่ชมนี้หนา นุ่มนิ่มราวกับเด็กแรกเกิด หอมเสียยิ่งกว่ามวลบุปผาแลน้ำปรุงใดๆบนโลกนี้ หญิงมิอยากจากไปไกลต้นดอกร่ำดอกรัก กลัวจักมีคนเขาลอบเด็ดพี่ชมเจ้าไปเชยเสีย
พระองค์ตรัสเปนอย่างกับ.. เกินจักสู้พระพักตร์แฉล้มได้ไหว นางสนองฯคู่พระทัยม้วนตัวหนีด้วยขวยนัก
กับอะไร เจ้าศศิธรกัญญาแย้มสรวลน้อยหนึ่ง รุกเร้าหนัก
ทรงบรรทมเถิดเพคะ พรุ่งนี้จักต้องเสด็จพระราชดำเนินไปไกลนัก ชมนาฏทำทีจะฉากหนีเสีย แต่เจ้าศศิธรกัญญาทรงรู้แกว ฉุดร่างบางเอาไว้
เรื่องบิดพลิ้วไม่มีใครเกินพี่เจ้า หากยังมิตอบหญิงจักทำมากกว่าเมื่อครู่ รู้เต็มอกว่าเจ้านายน้อยมิใช่เพียงขู่แต่จักทรงลงมือเข้าจริงๆ ชมนาฏรีบเพ็ดทูล
อย่างกับทรงเปนชายหนุ่มเกี้ยวสาวปะไร มิรู้ขุนพิทักษ์โยธาถ่ายทอดกระบวนยุทธ์มาแต่หนไหน ฤาที่นิยมลักลอบเข้าห้องทรงพระอักษรด้วยเปนเพราะตำรับตำราที่ทรงอ่านได้บอกไว้ ราชกัลยานีแย้มพระโอษฐ์โสมนัส
แล้วพี่ชมเจ้าชอบหรือไม่
'ชอบสิเพคะ..' นางเพียงคิดดังๆแต่มิกล้าทูล เฉไฉเข้าอย่างถนัด
อีกประการเราเพียงห่างกันแค่ชั่วครึ่งวันเท่านั้นดอกเพคะ ใครเลยจักลอบทำเยี่ยงนั้นได้
หญิงใจคอไม่ดีเอาเลย แต่ไหนแต่ไรมาเรามิเคยต้องห่างกัน พระพักตร์เจ้านางน้อยหม่นลงไปพลัน ดวงพระเนตรฉายแววแห่งความประหวั่นพรั่นพรึง
การจักต้องเรียบร้อยดีเพคะ ขอพระองค์อย่าได้ปริวิตกแลโศกาลัยในการนิราศเพียงไม่กี่ชั่วยามนี้เลย ทูลเชิญพระองค์ทรงเข้าบรรทมเถิด หม่อมฉันจักพัดให้
ข้ายังมิง่วงเลย ขอพี่ชมเจ้าออกไปเดินเล่นด้วยกันสักหน่อยจักดีกว่า ตรัสเท่านั้นแล้วจึ่งเสด็จลงจากพระตำหนักมาทอดพระเนตรเจ้าบุญหลง สมันทรงเลี้ยงปุ๋ยหลับไปแล้ว
เพลาราตรีภาคมัชชิมยาม ณ อุทยานรุกขชาติลดาดาษเครือวัลย์ องค์หญิงสะคราญสิริโฉมทรงพระดำเนินคลอเคลียนางชมนาฏชมบุปผชาติส่งกลิ่นรัญจวน
หม่อมฉันแลเห็นว่านางคลิ้งไม่อยู่ ชมนาฏเปรยขึ้นแต่พระองค์น้อยมิทรงวินิจฉัยว่าเปนเรื่องใหญ่สำคัญ
ไม่มีอะไรให้ต้องวิตกกระมัง นางคงไปเที่ยวเล่นตามตำหนักอื่นหาเพื่อนเท่านั้นดอก
หม่อมฉันเกรงแต่เพียงว่านางคลิ้งจักไปลอบเปนชู้กับผัวชาวบ้านเท่านั้น นาง ลอกแลกแลไม่น่าจะตั้งอยู่ในสุจริตธรรมเพคะ
พี่ชมเจ้าแคลงใจได้ ทว่าอย่าได้ใส่ความใครอันเกิดจากอคติเลย
กลิ่นสุคันธชาติหอมเมื่อยามนิศากาลกำจรกำจายไปทั่วบริเวณ อันมีดอกเล็บมือนางสีชมพูจัดออกแดง พวงดอกราตรีสีเหลืองทอง ดอกพุดตะแคง ลอยตามลมเคล้าเส้นผมหอมของนางสนองพระโอษฐ์ ราชกัลยานีแห่งวงศ์พระร่วงทรงเก็บดอกกระดังงาสีเหลืองอันเพิ่งร่วงจากต้นมาแนมเสียบผมวิไลของชมนาฏ
พี่ชมเจ้า รักเรานี้กอปรด้วยอานุภาพแรง ทั้งกุศลใจดีเยี่ยงนี้ ไว้จบการยุ่งยากเมื่อใด ข้าจักทูลเสด็จพ่อให้พระราชทานยศแด่พี่เจ้าเสมอชั้นพระยา เจ้าศศิธรกัญญาดำริถึงกาลภายหน้า นางสนองฯคู่พระทัยยิ้มหวานนวลละอองปลาบปลื้มนัก หากมันเปนเพียงครู่หนึ่ง
..นางต้องอยู่กับโลกแห่งความจริง
ความรู้สึกปฏิพัทธ์ระหว่างนายน้อยพระผู้มีอิสริยยศเทียมเจ้าฟ้ากับบ่าวเปนสิ่งต้องห้าม
จำเพาะในอีกระดับชั้นที่บ่าวนั้นเปนสตรีเพศด้วยเล่า ยิ่งนับเปนเรื่องวิปลาสเทียว
พระองค์ผู้เปนหน่อเนื้อพระร่วงเจ้าพิสุทธิ์ ผู้มีพักตร์อันจำเริญ พระฉวีผ่องผุดพรรณดุจดาราฉาย พระสติปัญญาสว่างใสดุจดวงแก้วรัตนมณี การตรัสเช่นนี้มิบังควรเลย เพคะ เจ้าศศิธรกัญญาทรงส่ายพระพักตร์มิทรงลงความวินิจฉัยว่าเห็นด้วย
พระคุณเจ้าท่านก็ว่าแล้วว่ามิผิด แลข้ามิใส่ใจต่อคำติฉินสักเพียงน้อย ตาข้ามองแต่เพียงพี่เจ้า หูข้าก็รอฟังแต่คำหวานเท่านั้น กายก็เปนของข้า จักแนบอิงเคียงหมอนกับสตรีก็มิมีผู้ใดจักห้ามได้
แต่หม่อมฉันเปนเพียงนางบ่าวนะเพคะ
ข้าไม่เคยมองพี่ชมเจ้าว่าเปนเช่นนั้น สำหรับข้าแล้ว พี่ชมเปนพี่สาว เพื่อน หม่อมแม่ แล..
แล..อันใดเพคะ ชมนาฏกลั้นใจทูลถาม ความรู้สึกคละเคล้าระหว่างยินดี สับสนแลผิดบาป
คนรัก.. เจ้าศศิธรกัญญาตรัสเต็มพระสรุเสียง แววพระเนตรสุกใส
..ทรงชัดเจนเถรตรงต่อความรู้สึก
เรไรร้องก้องสนั่นดั่งเปนพยาน สายลมรำเพย น้ำค้างพร่างพรม แสงจันทร์นวลกลมโต บรรยากาศเปนใจยิ่งหากจิตผ่องแผ้ว
เจ้าศศิธรกัญญาแลชมนาฏประทับเคียงกัน หัวใจของทั้งสองเย็นวูบพาให้อารมณ์อ่อนไหว
มีเพียงอ้อมกอดที่ให้ความอบอุ่นแก่กัน พระอัสสุชลหลั่งไหลกำสรวลโหยไห้ สุดระทมหมองไหม้หัวใจแทบขาดรอน โทมนัสในพระชาตา...
**************************************************************************
ที่สำนักงานเช่าย่านรัชดาภิเษกของวัชรพักตร์
โมเดลลิ่งคนสวยง่วนอยู่กับการทำบัญชีตั้งแต่เช้า กิจการเล็กๆเจ้าของคนเดียวจึงต้องทำมันเองทุกอย่าง ตั้งแต่เป็นแอดมินรับโทรศัพท์ โต้ตอบ e-mail ทำใบวางบิล invoice กระทั่งไปรอรับเช็คเอง ฯลฯ แต่เธอกลับชอบ
แม้จะไม่ born to be แต่เชื่อมั่นเต็มหัวใจว่าคนเราสามารถฝึกเอาได้และเก่งขึ้นได้เช่นกัน ขี้เกียจก็คืออด ทำไปส่งๆคือฟ้องถึงความไม่ละเอียดของงาน อะไรที่ไม่รู้ต้องขวนขวาย มิใช่แค่รู้ต้องลึกและกว้าง ความผิดพลาดแม้เพียงครั้งหมายถึงความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อตัวเธอเอง
จากการทำมาปีกว่า เธอสรุปได้ว่าบางครั้งความรู้ในห้องเรียนและตำรานั้นไม่พอ ชั่วโมงบินและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากลับนำมาใช้มากกว่ามาก ไม่แปลกใจเลยที่บริษัทใหญ่ๆยอมจ้างคนมีประสบการณ์ แต่เธอขอยึดหลัก small is beautiful จิ๋วแจ๋วครองโลก ทำเองมันเสียหมด
สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ วัชรพักตร์มองดูบัญชีรายจ่ายยาวเหยียด ทั้งค่าเช่าสำนักงาน เงินเดือน ค่าสาธารณูปโภค และอื่นๆจิปาถะ นี่คือต้นทุนที่มองเห็นและตีออกมาเป็นตัวเลขได้ ยังมีต้นทุนแฝงและ opportunity cost อีกมาก จริงดั่งคำของปัณณพร ร้านเช่าหนังสือไม่มีต้นทุนมากนัก กับธุรกิจของเธอแล้ว แค่ค่าโทรศัพท์ก็บานทะโร่
งานของเธอเป็นงานที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว คนภายนอกคิดว่าใครๆก็ทำได้ ซึ่งมันก็จริง แต่จะทำได้ดีหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง งาน modeling พูดอีกนัยหนึ่งมันคืองานแก้ปัญหา ไม่นับคู่แข่ง ความต้องการของลูกค้าที่เป็น infinity การบริหารความสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันถือว่าเป็น โจทย์ใหญ่ยิ่ง ผู้หญิงหลายที่มาร้อยพ่อพันธุ์แม่รวมตัวกันย่อมเกิดการชิงดีชิงเด่น อิจฉาริษยาวิทยาด้วยเล่า ความร้ายกาจนั้นชนิดที่ว่า นิยายในร้านหนังสือของยัยปัณต้องชิดซ้ายเลยทีเดียว
เวลาที่เท่ากันอาจไปทำอะไรที่ ยุ่งยากน้อยกว่าและผลตอบแทนที่มากกว่า
.. ทว่า สิ่งนั้นคืออะไรหล่ะ
ช่วงสายๆวัชรพักตร์มีนัด brief งานกับน้องๆ pretty MC ที่ออฟฟิศ อิงอรแวะมาเซอร์ไพรส์ ในขณะที่เล่าประวัติของอาณาจักรโบราณอยู่จึงร่วมวงไพบูลย์ด้วย ดาราหน้าหวานนั่งไขว่ห้างเอกเขนกตรงโซฟาพลางเล่นโทรศัพท์รอตามประสามนุษย์ก้มหน้า
พี่พักตร์คะ หนูเห็นว่าเดี๋ยวก็เรียกพระร่วงๆ ตกลงว่ามีพระร่วงกี่พระองค์กันแน่คะ น้อง MC หน้ามนนางหนึ่งถามขึ้นมา วัชรพักตร์ยิ้มอารีเล่าความแบบอารมณ์ร่วมมาเต็ม
คำว่าพระร่วงเจ้าตามความเข้าใจของคนทั่วไปอาจหมายถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ส่วนในบันทึกก็ดี ศิลาจารึกก็ดี หรือนักประวัติศาสตร์ก็ดีให้หมายความรวมๆว่าเป็นองค์พระมหากษัตริย์ของสุโขทัยพระองค์ใดก็ได้
แล้วพระร่วงมีที่มาอย่างไรคะ วัชรพักตร์ยิ้มแย้ม อย่างน้อยๆยังมีเด็กวัยรุ่นสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์อยู่บ้าง
หากไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เท่ากับเราตาบอดเสียข้างหนึ่ง แต่รู้แล้วเชื่อทั้งหมดโดยปราศจากการสอบทานข้อมูลนั้นเสมือนว่าตาบอดสนิททั้งสองข้าง
เรื่องมันยาวมากเลยค่ะน้อง เอาเป็นว่าคือตำนานสัก 70 เปอร์เซ็นต์และจากศิลารึก 30 เปอร์เซ็นต์เนาะ กล่าวถึงตำนานพระร่วงผู้มีวาจาสิทธิ์ไว้สองสถาน ซึ่งล้วนเป็นกฤดาภินิหารทรงอานุภาพเลิศล้ำเป็นที่ยำเกรงของบรรดารัฐต่างๆ ถ้าหากสนใจก็ยืมหนังสือเล่มนี้ไปอ่านต่อได้จ้ะ วัชรพักตร์เพียงตอบในภาพรวมพลางชูหนังสือ pocket book เกี่ยวกับอาณาจักรสุโขทัยเล่มไม่หนาไม่บางที่หยิบยืมมาจากปัณณพรอีกทอดหนึ่ง เสร็จจากเรื่องสรุปงาน น้องๆจึงขอตัวกลับ
พี่พักตร์เก่งจุง เล่าเรื่องได้เป็นคุ้งเป็นแควเลย อิงอรที่ฟังบ้างเล่นเกมไปบ้างหันมาชมคนรัก วัชรพักตร์ไม่รับไว้ ยกประโยชน์และเครดิตให้เพื่อนสาวเต็มๆ
ยัยปัณต่างหากที่เก่ง พี่ก็แค่จำขี้ปากนางเล่ามา
เพื่อนกระจอกแบบนี้ทำไมพี่พักตร์ยังทนคบอยู่คะ นี่ถ้าบอกมาก่อนว่าจะมาเจอยัยพี่ปัณจอมโหด อรไม่มาเสียให้ยากหรอก อิงอรแค่นเสียงทำทีเป็นกระฟัดกระเฟียด ความจริงเธอก็มิได้รังเกียจรังงอนปัณณพรแต่อย่างใด ปากร้ายกลบเกลื่อนไปเสียอย่างนั้นเอง ดาราสาวเกรงในความผิดหลายๆกระทงของตน วัชรพักตร์เก็บเอกสารเข้าที่ หย่อนกายลงนั่งเคียงข้างยอดยาหยี สุดอ่อนอกอ่อนใจในระบบความคิด
เมื่อไหร่หนูจะเลิกดูถูกคนอื่นเสียทีคะ
ก็อรเป็นดาราเป็นนางฟ้านี่
ดาราก็เป็นคนนะคะไม่ใช่นางฟ้ามาจากสวรรค์วิมานชั้นไหน แล้วรู้เปล่าเมื่อก่อนดารานี่แหล่ะที่โดนดูถูกเสียเองว่าเป็นพวกเต้นกินรำกิน วัชรพักตร์พยายามพูดตะล่อมให้คล้อยตามด้วยเสียงเย็นๆ อิงอรยังสวมบทงิ้วเช่นเคย ในกระบวนคนที่ไม่เข้าใจเธอมากที่สุดก็คือพี่พักตร์นี่เอง เธออยากเป็นคนสำคัญ เป็นที่หนึ่งเสมอและพี่พักตร์ต้องยอม เข้าใจไหม!!
เอะอะก็อ้างคำเก่าคร่ำครึ ตกลงแฟนอรเป็นคนหลงยุคใช่ป่าว
ของเก่านั้นดีมีอยู่ออกแยะไปค่ะ ไม่เห็นต้องรังเกียจนี่
พี่พักตร์พูดมาก็ดีเลย อรไม่ไปกับพี่นะสุโขทัยรำลึกน่ะ ไปเที่ยวสิงค์โปร์ดีกว่า เจริญหูเจริญตากว่ากันเป็นไหนๆ
ตามใจหนูสิ วัชรพักตร์ดั่งว่ารู้คำตอบล่วงหน้า อิงอรสุดจะหยั่งถึงห้วงอารมณ์ เธอยื่นมือเรียวสวยมากุมมือวัชรพักตร์ไว้ ส่งแววตาหม่นแปลกๆ คล้ายเครือว่าสำนึกผิด
คนๆนี้ร้ายก็ร้าย แปรปรวนยิ่งกว่าปรอท ทำไมพี่พักตร์ถึงทนกับอรได้ คนฟังประหลาดใจนัก จ้องใบหน้าหมดจดว่ากำลังแปรปรวนดังเช่นว่าหรือไม่
รู้ตัวด้วยเหรอ.. อิงอรพยักหน้ารับเพียงนั้น
เงียบกันไปสักพักแบบอึมครึม วัชรพักตร์จึงเป็นฝ่ายที่พูดต่อ
หนูรู้ไหมคะ บางครั้งพี่ก็คิดนะ คิดว่าพี่รักอรเพราะอะไร ความวูบวาบหวามไหวเป็นครั้งคราวของรักวัยรุ่นมันช่างยั่วยวนใจจนเกินหักห้ามนั้นจริงอยู่ แต่ความสม่ำเสมอนี่มักจะเป็นสิ่งที่ไม่มีในรักฉาบฉวย ที่ตอบหนูแบบนี้ได้ต้องใช้ประสบการณ์สอนตัวเอง เหมือนเพลง.. มนต์รักระริน เปรียบดังนกน้อยบินเหินลอยไปสู่เวหา ความรักก็คือบุปผาผลิดอกที่ตา แล้วมาบานเบ่งที่ใจ วัชรพักตร์คลอเพลง ขอทำตามความรู้สึก แม้ปัณณพรสหายรักจะค่อนขอดว่าเธอจัดอยู่ในประเภท 'รักหัวทิ่มบ่อ' นางมักคัดค้านสุดลิ่มบอกให้เธอยุติความสัมพันธ์เช้าค่ำ แต่เธอกลับมองต่าง
ชีวิตรักนั้นไม่มีดีที่สุด มันคือเพ้อฝันคืออุดมคติ ถ้าคิดเช่นนั้นก็มองอยู่แต่ปัจจุบันและจบลงแค่นั้น
รักที่ดีที่สุดคือ ดีเท่าที่ตนเองทำได้ และมันจะดีกว่าเป็นไหนๆหากเธอและอิงอรยังได้ร่วมเดินเคียงกันไปในเส้นทางสายนี้.. มันคือการมองแบบปัจจุบันไปสู่อนาคต
โบมากอ่ะ พี่พักตร์ดีกับอรอย่างไม่มีข้อแม้เลย อิงอรถึงกับหัวเราะลั่น
กลัวว่าจะไม่รักสิไอ้คนดีเนี่ย วัชรพักตร์พูดออกมาตามที่รู้สึกล้านเปอร์เซ็นต์
..ที่ว่าดีหนักหนา สุดท้ายไม่พ้นนอนเอกาเช็ดน้ำตาอยู่คนเดียว นิยายเช่าของยัยปัณกี่สิบเรื่องแล้วที่ลงอีหรอบนี้
แหมๆ นอกจากงานอรก็อยู่ติดพี่พักตร์เป็นตังเมนี่แหล่ะค่า ดาราสาวตอบเอาใจ แม้นว่าส่วนลึกรู้สึกผิดจับจิตต่อคนตรงหน้า
ถึงเธอจะดูเป็นสมบัติล้ำค่าของพี่พักตร์ แต่พี่สาวคนสวยคงลืมไปว่า..สมบัติชิ้นนี้เปราะบางแตกหักง่ายเพียงไร
วัชรพักตร์ฉวยโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าล่วงเวลานัดหมายกับเพื่อนพิไลมาพักใหญ่
ยัยปัณบอกว่าจะมาช้าหน่อย ทนหิวนิดนะคะ เข้าทางคนหาเรื่องชิ่ง อิงอรทำหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบไร้เหตุผล
นัดแล้วไม่เป็นนัด คนอารายไม่รู้จักเวล่ำเวลา อรจะกลับแล้ว
จะไปไหนเล่าคุณน้องที่ไม่รัก ปัณณพรเดินสวนเข้ามา รังสีความโหดแผ่รัศมีเป็นออร่ากระทบถึงอิงอรเข้าจังๆจนดาราสาวถึงกับจ๋อยเจื่อน...
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2559 | | |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2559 11:05:58 น. |
Counter : 378 Pageviews. |
| |
|
|
|