Group Blog
 
All blogs
 

นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 10(ลงตอนสุดท้าย)

ขอบคุณหลายๆท่านที่สนใจและติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ

.............................................

Love Game

เกมหัวใจ

ยอดขุนพลหมกตัวอยู่ที่ห้องส่วนตัวอย่างเคย ใช้เวลาส่วนใหญ่ในยามค่ำคืนอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
เดือนนี้เขาคิดแอพลิเคชั่นใหม่ได้อีกสองแอพ ตัวแรกเป็นแอพลิเคชั่นช่วยเด็กๆทำการบ้าน ปรากฎว่าผลตอบรับดีมากยอดดาวน์โหลดถล่มทลาย กลายเป็นแอพยอดนิยมในพริบตา

ส่วนอีกแอพเป็นแอพสติ๊กเกอร์ ยอดดาวน์โหลดไม่มากเท่าไหร่เพราะตัวเลือกและคู่แข่งเยอะ
ในโลกสมัยนี้ความว่องไวเป็นเรื่องของปีศาจ ทำก่อนรวยก่อน พอกำไรแล้วก็เลิกและต้องคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มหมดไอเดียในการรังสรรค์งาน บางทีอาจจะได้เวลาที่เขาต้องออกสู่โลกกว้างเพื่อเปิดมุมมอง หรือไม่ก็หาใครสักคนมาเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจ

ชายหนุ่มเปิดโปรแกรมแคมฟรอค เฝ้ารอหญิงสาวเมื่อคืนวานอย่างใจจดจ่อวนเวียนหาอยู่หลายห้องหลายรอบ จนเซ็งเกือบจะปิดเครื่องแล้วนอนแต่เอ๊ะ... เจอแล้ว

เจ้าหล่อนอยู่อีกห้องหนึ่งมันเป็นโซน 20+ สำหรับชาวฮาร์ดคอโดยเฉพาะ เพราะสาวๆที่เข้ามาในห้องนี้ส่วนมากจะโชว์เนื้อหนังมังสา หรือที่นักเล่นคอมเรียกกันว่า ‘วิว’ ที่แรงกว่านั้นอาจจะมีการช่วยตัวเองหรือกระทั่ง ‘ฟักกิ้งโชว์’ หรือที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มว่า ‘คู่เทพ’ นั่นเอง

ยอดขุนพลทักทายสาวหน้าตาดีคนนั้น ไม่นานเจ้าหล่อนก็ตอบกลับมา พลจึงชวนให้มาเล่นโปรแกรม สไกป์แทน เพราะมันเป็นส่วนตัวมากกว่า สองหนุ่มสาวพูดคุยทักทายกันตามประสา

ไม่มีสัจจะในหมู่โจรฉันใด โลกเสมือนจริงก็ไม่มีความจริงฉันนั้น พลยังอ่อนประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้มาก แม้เขาจะเก่งกาจเรื่องคอมพิวเตอร์ชั้นเซียน แต่เล่ห์เหลี่ยมมนุษย์นั้นลึกกว่าห้วงมหาสมุทร สาวสวยที่เขาสไกป์คุยด้วย มีชื่อว่า เพชรน้ำฟ้า แน่นอนนั่นไม่ใช่ชื่อจริง ยอดขุนพลกำลังหลงรักคนที่รู้หน้าตา รู้ตัวตน แต่ไม่รู้ใจ !!



รุ่งขึ้นพอลลี่ตัดสินใจ บอกเรื่องที่รับงานช่วยเจ๊อั้ม ผู้จัดการร่างอวบไม่พอใจอย่างมาก

“เดี๋ยวนี้รับงานเองแล้วเหรอ ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน” อุษาต่อว่าแฟนสาว

“เจ๊อั้มก็เป็นคนกันเอง พอลลี่เช็คเวลาแล้วก็ยังว่าง ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนี่คะ”

“เสียหายสิ” สาวห้าวเริ่มขึ้นเสียง

“ยังไงคะ”
เมื่อโดนตะคอกใส่หน้า พนิตพิชาก็ของเริ่มขึ้นเหมือนกัน แต่พยายามสะกดมันไว้

“ไปรับงานกระจอกๆแบบนั้นได้ยังไง พอลลี่น่ะระดับไหน เจ๊อั้มมันก็แค่กระเทยแก่ๆ”
อุษาไม่ชอบขี้หน้าเจ๊อั้มมานานแล้ว

“กระจอกยังไงคะ งานทุกงานมีค่าสำหรับพอลลี่ทั้งนั้น พอลลี่ไม่เคยดูถูกมัน อีกอย่างพอลลี่ก็เพิ่งเข้าวงการมาแค่ปีเดียว เจ๊อั้มแกอยู่มาเป็นสิบปี ใครกันแน่ที่กระจอก”
สาวสวยตอบเปรียบเปรย คล้ายดังกำลังต่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้า อุษายังไม่เข้าใจนัยยะ

“แล้วอีกอย่าง พี่ษาก็ควรระวังคำพูดด้วย พอลลี่ไม่อยากได้ยินคำพูดดูถูกคนอื่นแบบนี้อีก โดยเฉพาะกับผู้หลักผู้ใหญ่”

“อ้าว ที่พี่เป็นห่วงนี่กลับกลายเป็นว่าพี่ผิด ใช่สิ เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนี่ คิดจะถีบหัวส่งแล้วไปซบอีกระเทยเฒ่าใช่มั้ย”
อุษาใส่อารมณ์ผรุสวาทออกไป

“ไปกันใหญ่แล้วนะ พอลลี่ไม่คุยด้วยแล้ว”
ดาราสาวตัดบท ไม่อยากจะคุยต่อเพราะเรื่องไม่น่าจะจบง่ายๆ

“ทำไม พูดแทงใจใช่มั้ย อยากจะทำอะไรกับพี่ก็เชิญเลย คนอื่นเขาจะได้ว่าเราว่าเป็นวัวลืมตีน”
อุษาพ่นในสิ่งที่ตนเองกลัวออกมา

“พี่อุษา!”

พนิตพิชาเหลืออดกับกริยา และคำพูดงี่เง่าไร้มารยาท ตัดสินใจเดินหนีไป แต่ก็โดนคว้าแขนไว้
“คือ...พี่ก็แค่กลัวว่าเราจะทิ้งพี่ไป”

สาวอวบพูดเสียงอ่อนลงและดึงพอลลี่เข้ามาในอ้อมกอด เซเลบสาวสะบัดข้อมืออย่างแรง
“ก็ถ้ายังงี่เง่าแบบนี้อีก พอลลี่ทิ้งแน่”

อุษาเงียบ ไม่คิดว่าจะโดนคำขู่แบบนี้จากปากคนที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นของตาย
“โอเค พี่ขอโทษ” สาวอวบพูดแกนๆ

“เก็บคำขอโทษของพี่ไว้เถอะ ถ้าจะพูดมันส่งๆ พอลลี่ไม่รับ”
เซเลบสาวไม่คิดถนอมน้ำใจ กลับสวมบทโหด เธอหวังจะดัดนิสัยแฟนสาว

อุษาเห็นว่าถ้าแข็งขืนต่อไป หล่อนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง จึงยอมหุบปาก ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและเป็นฝ่ายเธอเองที่เดินออกไปจากห้อง
หรือว่าพอลลี่คิดจะเปลี่ยนใจเลือกพี่ยุทธ

หรือ...หรือว่าพอลลี่กำลังมีคนอื่นอยู่ในหัวใจ นอกจากเธอ ผู้จัดการสาวกลัดกลุ้มยิ่งนักกับท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้

สายตาคนเราถูกสร้างมาให้มองคนอื่น แน่นอนมันจึงไม่สามารถเห็นตัวเอง
อุษาเองก็เช่นกัน เธอมักมองและตำหนิคนอื่นแต่ไม่เคยมองตัวเองเลยว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนสาวหมางเมินและผิดใจกันมาเป็นแรมเดือน ประกอบกับการกระทำที่เธอไม่เคยแม้แต่จะมีหิริโอตัปปะสำนึกและละอายเลยว่ามันคือความผิด

เธอยังคงเย่อหยิ่งทะนงตนคิดและรู้สึกเสมอว่าพอลลี่ขาดเธอไม่ได้
คิดได้ดังนั้นอารมณ์แค้นจึงบังเกิด เธอหวังจะให้บทเรียนแฟนสาวอย่างเจ็บแสบ
การให้อภัยและเสียสละเป็นรักแท้ ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การตอบโต้และการแก้แค้นนั้นต้องลงทุนมาก และนี่คือปฐมบทของเรื่องยุ่งเหยิงที่จะตามมา

หลังจากนั้นร่วมๆสัปดาห์ ผู้จัดการสาวก็หายเงียบไปแบบเหยียบหิมะไร้รอย
พอลลี่พยายามติดต่อ แต่ก็ไร้วี่แวว เริ่มจากไม่รับสายโทรศัพท์ ไปหาที่คอนโดก็ไม่เจอ ติดต่อไปที่เพื่อนฝูงก็ไม่ได้ข่าวคราวแถมบ้านที่ต่างจังหวัดเธอก็ไม่มีข้อมูลอีก

‘No news is good news’ การไม่มีข่าวอาจเป็นข่าวดีก็ได้ ดาราสาวคิดมากอยู่สองวัน ทั้งเป็นห่วงและไม่รู้ว่าอุษาจะมาไม้ไหนกับเธอ

เหนื่อยเกินไปไหมกับการต้องมาเล่นเกมหัวใจ คนเราหากรักกันต้องมีความเข้าใจ ไม่ใช่มาเล่นเกมบ้าบอวัดใจอะไรนี่

พนิตพิชาตัดสินใจแล้ว เธอควรจะเลิกรักผู้หญิงคนนี้เสียที
เวลาของอุษาหมดลงแล้วและก็คงไม่มีเวลาของกันและกันอีกต่อไป
วันเวลาของพอลลี่หมดไปกับงาน เธอได้พอชุ่มชื่นหัวใจอยู่บ้างเมื่อเจอหน้าบุญยกรเกือบทุกเย็นที่สตูดิโอ และคุยไลน์กับสาวน้อยแทบจะตลอดเวลา

บางวันพี่ยุทธก็มารับไปทานข้าว ความสัมพันธ์กับชายหนุ่มก็ทรงๆ เขาไม่แม้กระทั่งเอ่ยปากเรื่องการหมั้นหมายอีกหลังจากวันนั้น

ส่วนพ่อและแม่ก็กลับมาแล้ว ทำให้ทุกเช้าเมื่อตื่นมาก็เจอครอบครัวที่อบอุ่น ชีวิตเธอคงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก
“เพราะมีเธอจึงมีฉัน โลกนี้น่าอยู่เพราะเรามีกัน”
เซเลบสาวเปิดดูข้อความนี้ทุกครั้งยามเหงาใจ

โครงการช่วยเหลือช้างก็คืบหน้าไปมาก หลังจากสรุปแบบเสื้อและกระเป๋า

พอลลี่โพสลงเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม และบรรดาแฟนคลับกับผู้มีจิตศรัทธาขอสั่งจองกันล้นหลาม ทำให้ต้องสั่งผลิตเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีผู้บริจาคโดยไม่รับของที่ระลึกอีกจำนวนหนึ่ง

โดยส่วนตัว พนิตพิชาประกาศบริจาคเงินส่วนตัวสมทบทุนไปอีก หนึ่งล้านบาท เมื่อรวบรวมเงินได้มากพอ พอลลี่ก็กำหนดวันที่จะไปมอบให้ที่โรงพยาบาลช้าง ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งเธอได้รับสมัครแฟนคลับ เพื่อไปจัดมีทติ้งถึงที่นั่นด้วย

โดยจะมีกิจกรรมการเยี่ยมช้างบาดเจ็บ การฝึกเป็นควาญช้าง ดูการแสดงและผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก อาบน้ำช้าง ดูการแสดง และการเดินป่านั่งช้างศึกษาธรรมชาติ


พลอยรุ้งโดนบอยตามรังควานอย่างหนักหนัก ทั้งช่วงเช้าและเย็น ที่มหาวิทยาลัย และถึงที่ทำงาน
บอยยื่นคำขาดให้รุ้งเลิกยุ่งกับผู้ชายทุกคน และข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รุ้งเสนอเงินก้อนหนึ่งหวังว่าบอยจะหยุดและเลิกยุ่งกับเธอเสียที
หนุ่มหน้าเกาหลีหายไปสามวันและกลับมาใหม่ พลอยรุ้งหัวเสียและกลุ้มใจมากไม่เป็นอันเรียนหรือทำงานเลย

เธอจึงปรึกษาบุญยกรที่ห้อง เกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ใหม่เพื่อหลบหนีชายหนุ่มคลั่งรักคนนี้
“แก เจอแบบนี้ไม่ไหวแล้วว่ะ ช่วยชั้นหาที่อยู่ใหม่หน่อยสิ เอาแบบยิ่งไกลยิ่งดี”
รุ้งเปรยหลังจากเล่าเรื่องราวให้คู่ซี้ฟัง

“ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ หนีไปสักพักมันตามมาเจอแกก็ต้องหาที่ใหม่อีก” เบลไม่ค่อยเห็นด้วย

“ก็แล้วจะให้ทำไงอ่ะ มันเล่นมาดักรอเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนแบบเนี้ย ดูซิงานการก็เสียหมด กิ๊กก็หนีหาย บ้ามาก!” เรื่องหลังสุดดูจะสร้างความเซ็งเป็นที่สุด

“แล้วแกมาปรึกษาชั้นนี่นะ เด็กบ้านนอกจะไปรู้ที่รู้ทางได้ไง ไม่ลองไปคุยกับโอปอดู” บุญยกรแนะนำ

“คุยไปก็เท่านั้น มันจะหัวเราะเยาะชั้นล่ะมากกว่า”
“งั้นเดี๋ยวให้พี่ต้นว่างๆจะขี่รถไปดูให้ ย้ายไปน่ะดีแล้วอย่างน้อยก็ประวิงเวลา นานๆเข้าไอบอยมันก็คงเลิกคลั่งไปเอง”

“ใจแกมากเพื่อนรัก”

รุ่งขึ้นที่สตูดิโอระหว่างแต่งหน้าให้พอลลี่ เบลเอ่ยปากถามเจ๊อั้มเรื่องที่พัก

“เจ๊คะ พอรู้จักหอพักที่แบบหรูๆดูดีหน่อยมั้ยคะ เอาแบบระบบรักษาความปลอดภัยดีๆเดินทางไปมาง่าย”

“มีน่ะมี แต่มันไม่ค่อยว่างหรอก หอพักดีๆคนก็อยู่เต็มหมด ทำไม หนูจะย้ายเหรอ” เจ๊อั้มถามกลับ

“เปล่าค่ะ หนูกำลังหาให้เพื่อน” บทสนทนานี้ดึงดูดความสนใจจากดาราสาวมาก

“พี่พอช่วยได้นะ อยากได้แถวไหน บอกมาเลย”
เซเลบสาวเอ่ยปาก ก็หล่อนมันลูกเจ้าพ่ออสังหาฯอยู่แล้ว

“เพื่อนเบลเขาขอแค่ที่ที่ ปลอดภัยทางเข้าออกไม่เปลี่ยวก็พอค่ะ ราคาสูงหน่อยก็พอสู้ได้”
เบลบอกความต้องการ

“เอางี้ พี่มีคอนโดอยู่เส้นสุขุมวิท ติดรถไฟฟ้าเลย พอดีคนญี่ปุ่นเพื่อนคุณพ่อพี่กำลังหาคนเช่าอยู่ เขาซื้อไว้ทั้งชั้น ปลอดภัยสุดยอด เพราะมีแต่คนญี่ปุ่นอยู่ ระบบรักษาความปลอดภัยชั้นหนึ่งไฟสว่างทางดี สนใจมั้ย”

สาวน้อยพยักหน้าแต่ลืมไปว่าพอลลี่เคยทักเรื่องนี้จึงรีบตอบ

“ค่ะ พี่พอลลี่เลือกย่อมดีที่สุด เดี๋ยวเบลจะบอกเพื่อนให้ค่ะ” สาวน้อยชมเชยมั่นใจในรสนิยม
“อืม...เดี๋ยวส่งรูปให้ดู” เซเลบสาวรับว่าจะช่วย

“นี่สาวๆ อีกสองวันก็จะต้องไปอัดรายการเทปแรกของเจ๊แล้วนะ อย่าลืมล่ะ”
เจ๊อั้มย้ำเตือนดาราสาวคล้ายๆขอคอนเฟิร์ม

“ไม่ลืมหรอกค่ะ พอลลี่ตื่นเต้นจะแย่ อยากไปม๊ากมากค่ะอัมพวา ใกล้กรุงเทพฯแค่เจ็ดสิบกว่าโลเองแต่ยังไม่เคยไปเลย” พนิตพิชายิ้มสวย

“เบลก็ไม่พลาดแน่ค่ะ เจ๊” บุญยกรตอบ

“ว่าแต่ อุษาไปด้วยมั้ยพี่จะได้คอนฟิร์มห้อง นั่นสิพูดถึง ไม่เห็นหน้ามาเกือบอาทิตย์ละ เป็นอะไรหรือเปล่า”

เจ๊อั้มห่วงใยคนคุ้นเคย

“เอ่อ...ก็คงอย่างนั้นแหล่ะค่ะ” ซุปตาร์กระอักกระอ่วนใจ

“พอลลี่คิดว่าพี่ษาคงไม่ไป” เธอพูดเสียงเศร้า

คนอาบน้ำร้อนมาก่อนเข้าใจทันทีไม่ซักไซ้ต่อ

ส่วนสาวน้อยหน้าใสก็พอรู้ๆมาบ้าง คนรักกันภาษาอะไรจะหายหน้าไปนานอย่างนี้ถ้าไม่ใช่มีปัญหากัน แต่มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของเธอที่จะเข้าไปวุ่นวาย แค่เธอมาสนิทชิดเชื้อกับ ซุปตาร์จอมป่วนหัวใจขนาดนี้ก็วุ่นวายใจไม่เป็นหลับนอน อยู่ทุกวี่วันเต็มกลืนแล้ว

“งั้นพอลลี่ก็นอนห้องเดียวกับเบลไปละกันนะ เจ๊เห็นว่าสนิทกันดีจะได้มีเพื่อนคุย ส่วนเรื่องรถนั่งรถตู้ไปสะดวกมั้ย พี่จะไปรับที่บ้าน”

เจ๊อั้มจัดแจงเรื่องการเดินทางและห้องพัก

คำว่านอนห้องเดียวกันทำเอา สองสาวประดักประเดิดไปทั้งคู่ เบลรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ส่วนพอลลี่เองก็เขินๆที่เจ๊อั้มพอจะรู้ใจเธอ

“พอลลี่ว่า พอลลี่ขับรถไปเองดีกว่าค่ะ ใกล้แค่นิดเดียวเองสบายมาก”
ดาราสาวเอ่ยปาก เธอต้องการความเป็นส่วนตัวพร้อมคิดแผนการบางอย่าง

“จ้ะ ตามนั้น งั้นก็เจอกันสิบโมงที่วัดเพชรสมุทรฯนะ อยู่ตรงตัวเมืองเลย พี่จะไปเก็บสต๊อกช็อตที่นั่นก่อน จากนั้นก็เดินตลาดร่มหุบแม่กลอง แล้วค่อยเข้าไปที่อัมพวากัน รุ่งขึ้นก็ใส่บาตรแล้วปั่นจักรยาน เที่ยงๆก็เสร็จงาน”

เจ๊อั้มบอกกำหนดการคร่าวๆ

“เจอกันค่ะ ได้เวลาแล้ว พอลลี่เข้าห้องก่อนนะคะ” ดาราสาวรับคำและเดินเข้าห้องบันทึกรายการไป
การได้ไปเปิดหูเปิดตา คงทำให้โลกของเธอสดใสขึ้นมาบ้างหลังจากต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องแฟนสาว
นี่ก็หกวันไปแล้ว หายเงียบไปเลย พี่อุษาจ๋า พอลลี่คิดถึงและเป็นห่วงนะรู้มั้ย พนิตพิชารำพันในใจ ก่อนจะปั้นหน้าสวยออกจอ

ที่หน้าหอพักของบุญยกร ต้นน้ำเดินถือเป้สะพาย Timberland เดินนำหน้าแฟนสาวที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนกุดสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลยาวเลยเข่ามาสองคืบ อวดต้นขาขาวสวย สวมหมวกปีกสีขาวตัดกับรองเท้า Onisuka Tiger สีชมพูพาดลายขาวไขว้อันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งคู่หยุดรอรถที่จะมารับ ชายหนุ่มไม่ได้ไปด้วยเพราะติดงานที่สตูดิโอ และหาคนสลับเวรไม่ได้เพราะคู่กะลาป่วย

ไม่นานนักรถ Land Rover คันใหญ่ก็เข้ามาจอด

พอลลี่ลงมาจากรถด้วยชุดลำลองสุดเก๋ ด้วยคอลเลคชั่น Anna Sui Bohemians dress เสื้อสลีฟสีเบจแขนยาวเนื้อผ้าซาตินบางเบา พร้อมประดับด้วยสร้อยลูกปัดเส้นยาว ตัดกับกางเกงขาสั้นสีครีม และท๊อปบู๊ทหนังสีน้ำตาล พร้อมแว่นกันแดดคู่ใจ

เบลตะลึงงันในความงาม มิใช่เพียงเสื้อผ้าที่ mixed and matched อย่างลงตัว หากแต่คนใส่ต้องดูดีด้วยจึงจะออกมาสมบูรณ์แบบ และพอลลี่ก็เป็นดังเช่นว่า

ชายหนุ่มส่งกระเป๋าให้แฟนสาวพร้อมหอมแก้มอำลากันหนึ่งครั้ง บุญยกรสะดุ้งตกใจเล็กน้อย และเหลือบตามามอง พนิตพิชาอย่างขวยอายและกระดักกระอ่วนใจ ช่างเป็นภาพที่บาดตาบาดใจคนที่ยืนรออยู่เสียเหลือเกิน

ต้นน้ำไม่ได้ทักทายใดใด เพราะเขาถือว่าอยู่คนละโลกกัน หนุ่มมาดเซอร์ไม่รอให้รถออกเขาเดินเข้าตึกไปทันที ยิ่งทำให้ เซเลบสาวหัวเสีย พาลคิดไปว่าเขาเป็นโดมผู้จองหองหรืออย่างไรจึงได้เชิดใส่สาวสวยเช่นเธอ

บุญยกรหอบสัมภาระใส่ท้ายรถที่เปิดรอไว้ก่อนหน้า ทั้งสองมุ่งหน้าไปถนนพระรามที่สอง เพื่อเข้าสู่จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงครามตามลำดับ

เมื่อคืนก่อนเซเลบสาวไลน์มาออดอ้อนเบล ให้ขึ้นรถมาเป็นเพื่อนเพราะหล่อนไม่ชำนาญทางแถมยังอ้างสารพันว่า GPS ก็รวนยังไม่ได้ให้ช่างอัพเดทโปรแกรมใหม่

สาวรุ่นจนใจปฏิเสธ เพราะหาเหตุผลที่ดีกว่ามาหักล้างไม่ได้ ใครเขาอยากอยู่ใกล้เจ้าหล่อนกัน เสน่ห์เย้ายวนใจซะขนาดนี้อยู่ใกล้กันนานๆเธอจะทนได้ซักกี่น้ำ แถมคืนนี้ยังต้องนอนร่วมห้องกันอีก ไม่รู้ว่าเป็นเตียงเดี่ยวหรือคู่ โอ้ย! คิดแล้ว จักจี้

สาวน้อยอารมณ์เตลิดไปไกล เพลงที่เปิดในรถก็ช่างหวานเสียจริง มีแต่เพลงจีบสาวทั้งนั้น นั่นแหล่ะ พอลลี่วางแผนการมาเป็นขั้นเป็นตอน ภารกิจพิชิตหัวใจสาววัยใสใกล้จะสำเร็จเข้าไปทุกวินาที

ราวชั่วโมงเศษทั้งสองก็มาถึงวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวแม่กลอง มาแต่โบราณกาล สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อวัดบ้านแหลม โดยชาวบ้านแหลมจังหวัดเพชรบุรี ได้อพยพหนีทัพพม่ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ ตามตำนานเล่าว่าชาวบ้านได้ ตีแหเพื่อหาปลาในลำน้ำแม่กลองและพบพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งเป็นปางของผู้ที่เกิดวันพุธ และชาวบ้านได้อัญเชิญองค์พระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดนี้ เรียกกันว่า ‘หลวงพ่อบ้านแหลม’ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยเดียวกับองค์หลวงพ่อพระพุทธโสธร ที่จังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น ชาวบ้านต่างนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อบ้านแหลมมาก

สองสาวมาถึงก่อนเวลานัดหมายจึงมีโอกาสได้สักการะองค์หลวงพ่อบ้านแหลมในอุโบสถ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

“ตะกี้อธิษฐานอะไร นานเชียว” เมื่ออกมาจากโบสถ์ เซเลบสาวก็ถามคนที่เดินมาข้างๆ

“ก็...เบลขอให้เรียนจบแล้วได้งานที่ดี เจอคนที่ดี และขอให้ฝันเบลเป็นจริงค่ะ” สาวน้อยตอบ

“เรื่องไปฝรั่งเศสน่ะเหรอ” เซเลบสาวเดาไม่ผิด

“ค่ะ แล้วพี่พอลลี่ล่ะ” นั่นไง โดนผู้ใหญ่หลอกจนได้สาวน้อย

“ไม่มีไรหรอกอยากรู้ไปทำไม” เซเลบสาวทำเป็นเฉไฉ

“อ้าว ขี้โกงนี่นา รู้ของเค้าแล้วตัวเองกลับไม่บอกกลับ” ดาราสาวจอมเจ้าเล่ห์ยิ้มหวาน

“ก็ได้ พี่อธิษฐานขอให้คนที่อยู่ตรงหน้าน่ารักและดีกับพี่อย่างนี้ตลอดไป” ซุปตาร์ส่งสายตาซึ้งๆ

“จริงเหรอคะ” สาวน้อยโดนหยอดคำหวานคิดอะไรไม่ทัน

“อือ อยู่ในวัดใครเขาจะโกหกกัน” แม่เสือสาวตอบหน้าตาย

“แล้วทำไมต้องขออะไรแบบนี้ด้วย” สาวสวยงงงง

“ก็เพราะเบลเป็นคนพิเศษของพี่” สองสาวสวยหยุดเดินและหันมาสบตากัน

“ยังไงคะ” บุญยกรเหมือนกำลังเล่นเกมยี่สิบคำถามหัวใจ

“ก็...อ้าว! รถตู้เจ๊อั้มมาพอดีเลย ไปเดินไปรับแกกัน” เซเลบสาวได้จังหวะ ทิ้งคำตอบให้เป็นปริศนากับคนฟังต่อไป

ทันทีที่ทีมงานมาพรักพร้อม งานก็เริ่มต้นขึ้นและใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่ทั้งหมดจะกลับมาตลาดร่มหุบที่ตัวเมืองแม่กลอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ตลาดร่มหุบเป็นหนึ่งใน Amazing Thailand ที่น่าทึ่ง คือเป็นตลาดที่อยู่บนทางรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง เป็นรถไฟสายที่ต่อมาจากวงเวียนใหญ่-มหาชัยและต้องมาข้ามเรือที่ท่าฉลอม โดยมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงสินค้าตลอดสองข้างทางรถไฟระยะทางกว่า 100 เมตร ส่วนคนมาจับจ่ายก็อาศัยทางรถไฟเป็นทางเดิน เวลารถไฟมาเราก็จะเห็นภาพความโกลาหลของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ที่ต่างพร้อมใจกันหุบร่ม และรีบเก็บข้าวของที่วางระเกะระกะอยู่ริมทางรถไฟให้เรียบร้อยในพริบตา เพื่อที่จะเปิดทางให้รถไฟ วิ่งผ่านไปได้อย่างสะดวก ซึ่งนับเป็นเสน่ห์ที่หาดูที่ไหนไม่ได้ในโลก สองสาวเดินดูข้าวของริมทางและไม่ลืมที่จะซื้อ ปลาทูแม่กลองของขึ้นชื่อของที่นี่

พอลลี่ต้องมาค้นหาคำตอบของวลีที่ว่า ปลาทูแม่กลองต้อง ‘หน้างอ คอหัก’ ทีมงานได้เซ็ทฉากให้ดาราสาวเข้าไปสอบถามถึงที่มาดังกล่าวพร้อมสาธิตวิธีการนึ่งปลาทู ซึ่งก่อนที่จะนำปลาทูลงเข่งนั้น คนทำก็จะหักคอปลาทูให้งอลง เพื่อที่จะอยู่ในเข่งที่อย่างสวยงาม ทำให้ปลาทูแม่กลองดูแตกต่างจากปลาที่อื่น เพราะปลาที่มาจากที่อื่นเขาจะไม่หักคอปลา แต่จะวางลงไปในเข่งเลยเมื่อมองดูแล้วจะไม่เป็นระเบียบ และบางครั้งปลาอาจทำให้ปลาร่วงหล่นจากเข่งได้ ซึ่งก็ทำให้ลักษณะ’หน้างอ คอหัก’ กลายเป็นเอกลักษณ์ของปลาทูแม่กลองไปโดยปริยาย

ตลอดการถ่ายทำ พอลลี่ต้องพูดภาษาอังกฤษตลอด ทำให้เด็กสาวที่ติดตามมาด้วย ทึ่งในความสามารถเป็นอย่างมาก เพราะพอลลี่พูดแบบ improvised คือไม่มีโพยให้ดูเลยและสคริปต์ต่างๆก็คิดกันสดๆ แต่ดาราสาวก็ทำหน้าที่ได้อย่างคล่องแคล่วและไม่มีบ่นอิดออดเลยแม้แต่น้อย

ไม่นานนักทีมงานก็เลิกกอง และมุ่งหน้าไปยังตลาดน้ำบางน้อยที่อำเภอบางคนที ซึ่งห่างจากตัวเมือง ขึ้นไปทางเหนือตามแม่น้ำแม่กลองประมาณ 20 กิโลเมตร และอยู่เลยตลาดน้ำอัมพวาไปประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นตลาดน้ำเล็กๆที่คนยังไม่พลุกพล่านนักเมื่อเทียบกับตลาดน้ำอัมพวา แต่ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ ในวิถีชีวิตชาวเรือกสวนตามแม่น้ำลำคลองได้เป็นอย่างดี ระหว่างทางได้แวะสวนอาหารริมแม่น้ำแม่กลองกินมื้อกลางวันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก โดยมีเมนูเด็ดเป็นกุ้งแม่น้ำเผาแม้จะตัวไม่ใหญ่เทียบเท่ากุ้งแม่น้ำของอยุธยาหรือสุพรรณบุรี แต่ก็เป็นขนาดกำลังกินและราคาย่อมเยากว่ามาก นอกจากนี้ยังมีปลาทูต้มมะดัน ที่พอลลี่พึ่งเคยกินเป็นครั้งแรกในชีวิต

มะดันเป็นของสวนที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นบริเวณนี้ มีผลสีเขียวรูปร่างกลม รสชาติเปรี้ยวคล้ายมะนาว สามารถนำมาประกอบอาหารแทนมะนาวได้หลากหลาย และอีกเมนูที่เด็ดไม่แพ้กันคือ ปลาดุกย่างจิ้มสะเดาน้ำปลาหวานรสชาติเข้มข้นเพราะวัตถุดิบที่นำมาทำนั้นสดมาก ทุกอย่างล้วนเป็นของทะเล ของแม่น้ำ ของสวนทั้งสิ้น สองสาวแท้และหนึ่งสาวเทียมอิ่มเอมไปกับรสชาติของอาหารและบรรยากาศริมน้ำ ต่างหยอกเย้ากันครื้นเครง

“พอลลี่ต้องคิดค่าตัวเจ๊เพิ่มแล้วเนี่ย กลับไปน้ำหนักขึ้นเป็นกิโลๆแน่เลย ดูซิซัดกุ้งไปตั้งสองตัว” ดาราสาวแก้เก้อที่ตัวเองเจริญอาหารมาก

“จ้า นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นนะ ความสนุกและอิ่มเอมยังรออยู่อีกมาก ไงเรา ชอบมั้ย” เจ๊อั้มหันมาถามสาวน้อยที่ยังกินกุ้งอย่างสนุก ในฐานะน้องเล็กต้องรับผิดชอบตัวสุดท้าย

“ค่ะ เบลไม่เคยกินกุ้งตัวใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย แล้วก็ร้านริมแม่น้ำแบบนี้ด้วย ไม่น่าเชื่อว่านั่งรถจากกรุงเทพฯไม่ถึงสองชั่วโมง สวรรค์บนดินชัดๆ”
สาวรุ่นเจื้อยแจ้วที่มุมปากเลอะคราบมันกุ้ง เซเลบสาวเห็นจึงหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ สาวน้อยขวยเขินจนแก้มแดง

“แฮ่ม!” เจ๊อั้มกระแอมกระไอ

“สวีทกันเกินไป ระวังมีสายคาบไปบอกตาต้นนะ” สาวเทียมทำแซว

“โหเจ๊อ่ะ อย่าคิดมากสิคะ พี่พอลลี่เค้าก็แค่เห็นหนูโก๊ะๆ” เด็กสาวตอบ พอลลี่ยกน้ำดื่มกลบเกลื่อน

“อีกอย่าง หนูกับพี่พอลลี่ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงคะ”
ประโยคนี้ทำเอาเซเลบสาวสำลักน้ำไม่เป็นท่า เจ๊อั้มยิ้มแฉ่งกับความไร้เดียงสาของผู้ช่วยสาว และอาการออก ของ ซุปตาร์หัวใจแหวว

“เอาล่ะ เจ๊ขอชมนะ พอลลี่เก่งมาก” เซเลบสาวอยู่ในอาการช็อค ต่อเนื่องไม่รู่ว่าผู้ปกครองสาวน้อยจะมาไม้ไหน อย่านะอย่า พลีส!

“เจ๊เลือกคนไม่ผิดจริงๆ พอลลี่ทำได้ดีกว่าที่เจ๊คาดไว้เยอะเลย ผู้ใหญ่จะต้องชมเชยแน่ๆ” ยัยเจ๊บ้าแกล้งกันได้ เชอะ! พนิตพิชาโล่งอกที่ยังไม่โดนเล่นงาน

“อิ่มแล้วก็ไป วันนี้ยังต้องทำงานกันต่อ” ผู้จัดมือใหม่สั่งทีมงาน ทุกคนเตรียมพร้อมเมื่อท้องอิ่มทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังอำเภอบางคนที




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2558 13:55:34 น.
Counter : 1390 Pageviews.  

นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 9

The great Pretender
คนรักจอมลวง

ในสตูดิโอที่ห้องแต่งตัว เจ๊อั้มกำลังแต่งหน้าให้พนิตพิชาโดยมีบุญยกรเป็นผู้ช่วยดังเช่นทุกวัน
วันนี้สองสาวได้เจอกันและทักทายตามปกติ เบลเล่าเรื่องที่หาเพื่อนมาช่วยโครงการได้แล้ว พอลลี่ดีใจมากบอกกับเบลว่า อีกวันสองวันจะนัดคุย และให้เบลไปคิดข้อความบนเสื้อและกระเป๋ามาด้วย สองสาวสวยคุยกันอย่างสนิทสนม ทำให้เจ๊อั้มประหลาดใจว่า ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ก็พอจะเดาเรื่องได้ไม่ยาก เพราะเซ๊นส์ของหล่อนบอกว่า พอลลี่ไม่น่าจะใช่แบบที่ผู้หญิงธรรมดาเขาเป็นกัน และก็น่าจะมีใจเอนเอียงกับผู้ช่วยสุดสวยรวยเสน่ห์ของเธอเป็นแน่ จากแววตาท่าทางเวลาที่อยู่กับสาวน้อย ส่วนบุญยกร เจ๊อั้มยังมองไม่ทะลุว่าหล่อน ‘ใช่’หรือไม่

ระหว่างนั้น พอลลี่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุด มันเป็นชุดเดรสเปลือยหลังและโนบรา ที่น่าจะเซ็กซี่และโป๊ที่สุดที่เธอเคยใส่มา พนิตพิชาไม่มั่นใจที่จะใส่มันเท่าไหร่

แต่วันนี้คอนเซปรายการมันบังคับให้เธอต้องทำ ดาราสาวปลดชุดของเธอออก ละล้าละลังทำอะไรไม่ถนัด เธอจึงตะโกนเรียกบุญยกรเพื่อขอความช่วยเหลือ

“เบล เบล มาช่วยพี่แต่งตัวหน่อยสิ”

เด็กสาววางเครื่องไม้เครื่องมือเตรียมจะเดินไป

เจ๊อั้มรู้งานหยิบถุงพลาสติก ข้างในมีอะไรบางอย่างอยู่ส่งให้เบล หญิงสาวรับมาทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม เปิดออกดูมันเป็นซิลิโคนแปะหน้าอกกันโป๊
เบลถึงบางอ้อ ก่อนรีบจ้ำไปที่หน้าห้องเปลี่ยนชุด

“มาแล้วค่ะ พี่พอลลี่” หญิงสาวยืนรออยู่ที่หน้าห้อง

“มาช่วยพี่หน่อย เปิดเข้ามาเลยไม่ได้ล๊อค”

ดาราสาวเรียกให้เบลเข้ามา เด็กสาวเห็นว่าไม่เหมาะเลยยืนคิดอยู่ว่าจะเอาไงดี

“อ้าวเร็วๆสิ!”

เบลตัดสินใจรวบรวมความกล้าเพื่อเปิดประตู จะเป็นไรไปก็ผู้หญิงเหมือนกัน ใจคิดได้แต่มือไม้มันพาลสั่นซะอย่างนั้น

เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นดาราสาว เหลือแต่ชุดชั้นในโชว์เรือนร่างขาวโพลน สาวรุ่นตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ถุงในมือแทบจะหล่นดีที่คว้าไว้ทัน เด็กสาวพอเรียกสติคืนมาก็รีบปิดประตูรักษาความเป็นส่วนตัวให้ดาราสาว

“ตกใจอะไร เห็นพี่เป็นตัวประหลาดรึไง”

พอลลี่แหย่สาวน้อย ก็ชุดชั้นในของหล่อนมันช่างเซ็กซี่ยั่วน้ำลายซะเหลือเกินโชว์เต้าขาวๆออกมาตั้งครึ่งค่อนลูก โอ้ย! ทั้งหุ่นก็เฟิร์มสุดๆ หน้าอกที่เต่งตึงรับกับเอวคอด หน้าท้องไร้ไขมัน

และเมื่อมองเบื้องต่ำ เด็กสาวแทบหัวใจวาย เมื่อเห็นเซเลบสาวใส่กางเกงในแบบเปิดเป้า! ลายลูกไม้สีขาวสลับดำ แต่ตรงสามเหลี่ยมกลับโล่งเตียน

“ว้าย!” บุญยกรร้องออกมาแต่ตาก็ยังจ้องอยู่บริเวณนั้น

“อ้าว จ้องอยู่นั่นแหล่ะ เร็วเข้าใกล้เวลาแล้ว” พอลลี่เรียกสติสาวน้อย

“ค่ะ เอ่อ...พี่พอลลี่ต้องถอดบราออกก่อนนะคะจะได้ปิดอันนี้”

หญิงสาวพูดอย่างกระดากอายพร้อมยื่นซิลิโคนให้พอลลี่ เบลคิดในใจทำไมตอนรุ้งให้ดูนมไม่ยักตื่นเต้นเท่าตอนนี้เลย ทั้งๆที่มันก็น่าจะ เซมเซม

เซเลบสาวปลดบราตัวเองออก เต้าคู่งามกลมกลึง ยอดปทุมถันลอยเด่นอวดคนมอง เบลอายสุดชีวิต ปากแห้ง น้ำลายเหนียวคอ

ด้านพนิตพิชาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เลือดสาวสูบฉีดไปทั่วร่าง รู้สึกเสียเปรียบเล็กๆที่ไม่ได้เห็น ของ ของสาวน้อยหน้ามนอกโตคนนี้บ้าง

“ทำไมมีอะไรแปลกเหรอ ของแท้แม่ให้มาเลยนะไม่ได้ทำ”

ดาราสาวภูมิใจนำเสนอ พูดไปก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นราคะของตัวเอง

“ปะ...เปล่าค่ะ ขอโทษนะคะ”

เบลตอบเสียงสั่น พร้อมเอาซิลิโคนปิดเต้านมของดาราสาวทีละข้าง เริ่มจากด้านซ้าย

เด็กสาวผู้อ่อนประสบการณ์ มือไม้สั่นอย่างกับคนเป็น พาร์กินสัน ระหว่างที่ปิดซิลิโคนมือเจ้ากรรมก็ดันไปโดนกับก้อนเนื้อนุ่มนิ่มเข้า สร้างความหวามไหวให้กับทั้งคู่ที่สุด

จากการสัมผัสมันต่างจากของรุ้งที่ดูกระด้างมือ มันก็นิ่มมือเหมือนของตัวเธอเอง สาวรุ่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นของแท้แน่นอน

พนิตพิชาก็อารมณ์กระเจิดกระเจิง ลมหายใจถี่และแรงทำเอาหน้าอกคู่งามกระเพื่อมตามแรงหายใจ เด็กสาวกลั้นใจปิดแผ่นซิลิโคนอีกข้างอย่างทุลักทุเล

“สาวๆ เสร็จรึยัง”

เห็นสองสาวเงียบไปเจ๊อั้มจึงตะโกนเรียก

“ค้า ใกล้แล้วค่า”

เบลตอบพร้อมผูกสายเสื้อด้านหลังให้เซเลบสาว ความที่พอลลี่ตัวสูงกว่าเธอประมาณ 5 เซ็นติเมตรบวกกับความสูงของรองเท้าอีกสามนิ้ว ทำให้เด็กสาวต้องเอื้อมสองมือเพื่อผูกเชือก

อารามที่เป็นคนซุ่มซ่ามอยู่แล้ว จังหวะที่ผูกเสร็จเด็กสาวเดินถอยหลังและลื่น! พอลลี่มือไวคว้าเอวสาวน้อยมากอดไว้ได้

“เอ่อ ขอโทษค่ะ หนูซุ่มซ่ามประจำ”

ยายโก๊พูดแก้เขิน พอลลี่ยังไม่ปล่อยมือ เธอพยุงสาวน้อยให้ยืนตรง
ทันใดนั้นเซเลบสาวก็บรรจงหอมแก้มสาวน้อย จอมเปิ่นอย่างทนุถนอม เบลช็อกตาค้าง ไร้คำพูดใดๆยืนตะลึงอยู่อย่างนั้น

“ขอบใจนะจ๊ะสาวน้อย ไปได้ละ”

พูดจบซุบตาร์สาวก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดและเดินออกจากห้องแต่งตัวไป ทิ้งให้เด็กสาวยืนเซ่ออยู่อย่างนั้น

แน่นอนมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกหอมแก้ม แต่มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกกระทำโดยเพศเดียวกัน!

เจ๊อั้มพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงลุกเดินไปดูเบลที่ห้อง ในทางพฤตินัยเธอเปรียบเสมือนผู้ปกครองของสาวน้อย เธอไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเด็กในคอนโทรลเด็ดขาด

ทั้งๆที่รู้ว่าพอลลี่ไม่ได้เป็นคนมีพิษมีภัยอะไร แต่หล่อนก็ไม่อยากให้สาวน้อยผู้ช่วยคู่ใจไปมี ซัมทิง กับเซเลบผู้โด่งดังจนเกินงาม อีกอย่างอีตาต้นก็นั่งหัวโด่อยู่ใกล้ๆ เกิดอะไรขึ้นมาสตูฯได้ลุกเป็นไฟแน่ๆ
แต่ลึกๆอีกความรู้สึก ช่างแต่งหน้าชื่อดังกลับแอบจิ้นคู่นี้ ก็ดูซิ ออกจะน่ารักสวยเพอร์เฟกต์กันทั้งคู่ ยัยเบลนี่ถ้าจับแต่งองค์ทรงเครื่องหน่อยก็เป็นดาราวัยทีนได้สบายๆ

หลังบันทึกรายการ เจ๊อั้ม ขอคุยกับพอลลี่ต่อ เปล่าหรอกเธอไม่ได้จะพูดเรื่องในห้องเปลี่ยนเสื้อ แต่ว่าหล่อนมีข่าวดี

“เจ๊อยากขอความช่วยเหลือน้องพอลลี่หน่อยค่ะ”

“เอ๋ มีอะไรเหรอคะ” ซุปตาร์ทำท่าสงสัย

“คือเจ๊ได้เป็นผู้จัดแล้วน้า” ผู้จัดก็คือ ผู้ผลิตรายการทั้งละครและรายการทั่วไปเพื่อป้อนรายการให้กับสถานีโทรทัศน์นั่นเอง

“เหรอคะ เป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีเลยนะเนี่ย พอลลี่ดีใจด้วยนะคะ ว่าแต่เป็นละครหรือรายการคะ”
เซเลบสาวตื่นเต้นที่คนสนิทได้เติบโตในวงการอีกระดับ

“ละครเจ๊สู้ไม่ไหวหรอกใช้ทุนเยอะ เจ๊ยังรวยไม่พอ”

พอลลี่พยักหน้า ใช่ เป็นผู้จัดละครไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นอกจากเงินถึงแล้วยังต้องมีชั่วโมงบินสูงและบารมีมากพอด้วย

“รายการจ้ะ เป็นรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เจ๊ได้การท่องเที่ยวฯ เป็นสปอนเซอร์หลัก เขาอยากทำไปเผยแพร่ต่อที่ต่างประเทศด้วย ผู้ใหญ่ของช่องก็เลยอนุมัติทันที พิธีกรเป็นคนของการท่องเที่ยวฯ เขาจะจัดประกวดหาเด็กใหม่ส่วนแขกรับเชิญก็เปลี่ยนไปทุกเทป” เจ๊อั้มสาธยาย

“เจ๊อย่าบอกนะคะว่าจะให้พอลลี่เป็นแขกรับเชิญคนแรก” พอลลี่รู้ทาง

“แน่นอนที่สุด อย่าปฏิเสธเจ๊เลยนะนะ เทปแรกถ่ายที่อัมพวาใกล้ๆนี่เอง ค้างคืนเดียว ยัยเบลก็ไปด้วยนะ”
เจ๊อั้มหาตัวช่วยเร่งการตัดสินใจ แต่สาวน้อยทำหน้าเหรอหรา อะไรกัน ไม่ยักรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
เซเลบต้องการความแน่ใจจากปากเจ้าตัว

“จริงเหรอจ๊ะเบล” นั่นไง งานงอกจนได้

“ค่ะ ก็อย่างที่เจ๊บอก”

เด็กสาวตอบ หางตาเหลือบไปมองผู้มีอุปการะคุณรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง เธอต้องตามน้ำไปก่อนเพราะถ้าบอกว่าไม่รู้ไป เจ๊อั้มด่าหูชาแน่

“เดี๋ยวน้า ขอพอลลี่ดูคิวก่อน พี่อุษาก็ไม่อยู่ แปปนะคะ” เซเลบสาวเปิดโทรศัพท์มือถือเข้าออร์แกไนเซอร์เช็คตารางเวลา

“เทปถ่ายเมื่อไหร่คะ”

“เจ๊อยากให้เราตอบตกลงก่อน เพราะรู้ว่าเราไม่ค่อยมีเวลา จากนั้นถึงจะเซ็ตว่าเอาวันไหนกันดี”
เจ๊อั้มให้เครดิตดาราสาว พยายามโน้มน้าวสุดๆ

“ไปอัมพวาก็ต้องมีตลาดน้ำ เสาร์-อาทิตย์ อืม...พอลลี่ว่างวีคหน้ากับวีคถัดไปค่ะ” ซุปตาร์แจงคิว

“ได้ งั้นเจ๊จองคิวเลยนะ เสาร์ 28 กับอาทิตย์ 29 พอลลี่เดี๋ยวเอาเบอร์นก ธุรกิจกองถ่ายของพี่จากเบลเลยนะ คิดค่าตัวยังไงก็แจ้งเขาไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ เอ่อ...แต่ไม่ได้ผ่านอุษารายนั้นเค้าจะโกรธเจ๊มั้ยนะ”

เจ๊อั้มพอเดาสถานการณ์ออก

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้พอลลี่ตัดสินใจเองได้”

ขืนบอกพี่อุษารายนั้นไม่เห็นด้วยแน่ๆ ดาราสาวคิดในใจ

“โอเค มีอะไรก็คุยได้ตลอดนะ เจ๊ทำงานง่ายๆสบายใจได้ ไปเถอะ เจ๊ไม่กวนเวลาแล้ว ขอบคุณจากใจนะจ๊ะแม่นางฟ้า” เจ๊อั้มยิ้มดีใจกับงานใหม่ของหล่อน พอลลี่สวัสดีลา และโบกมือกู๊ดบายสาวน้อย ทำสัญญาณว่าค่อยไลน์คุยกัน เบลยิ้มตอบและเก็บข้าวของเตรียมกลับหอ เป็นจังหวะเดียวกับที่ต้นน้ำแฟนหนุ่มเดินเข้ามารอพอดี

อุษามารับเซเลบสาวตามเวลานัดหมาย รออยู่นานพอควร แปลกใจที่แฟนสาวยังไม่ลงมา ทั้งๆที่ก็เลยเวลาแล้ว จึงตัดสินใจโทรตาม

ยังไม่ทันจะกดปุ่มโทรคนรักก็เดินมาถึงรถ ทั้งคู่มุ่งหน้ากลับบ้านทันที อุษาสังเกตเห็นว่าวันนี้พอลลี่อารมณ์ดีมาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทาง ทั้งที่ปกติเธอจะหลับ ไม่ก็นั่งหงอยเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

หน้าหอพัก พลอยรุ้งลงจากรถ Honda HR-V สีดำป้ายแดงพร้อมกับชายวัยยี่สิบปลายๆเจ้าของรถหน้าใหม่

ทันทีที่เดินลงมาจากรถ รุ้งก็โดนมือลึกลับฉุดเอาไว้ ชายหนุ่มที่มาด้วยตกใจคิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ

“เฮ้ย ทำไรแฟนกูวะ” ชายหนุ่มไม่พอใจอย่างแรงพยายามปกป้องรุ้ง

“แฟนมึง แต่เนี่ย เมียกู”

พูดจบก็สาวมัดเข้าที่หน้าอย่างจัง ชายหนุ่มที่มากับโคโยตี้สาวล้มลงทำให้อีกฝ่ายพรวดเข้ามาซ้ำ และเกิดการตะลุมบอนขึ้น พลอยรุ้งตกใจพร้อมตะโกนเรียกให้คนช่วย กลับมีแต่พวกไทยมุง
เจ้าของมือลึกลับนั้นคือบอย หนุ่มหน้าเกาหลีจอมตื้อนั่นเอง การต่อสู้ยังคงชุลมุน และไม่รู้ว่าใครจะกำชัยเพราะรูปร่างและความสูงทัดเทียมกัน

จนกระทั่งมีชายหนุ่ม บิดมอเตอร์ไซค์เสียงดังคำรามทำท่าจะพุ่งชน คู่กรณีตกใจจึงแยกออกมาได้ เป็นต้นนั่นเองที่มาห้ามทัพ ชายหนุ่มทั้งสองอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเสื้อผ้าเลอะเทอะหลุดลุ่ย รุ้งกรี๊ดลั่น

“ไป กลับไปกันได้แล้ว ทั้งคู่เลย”

คู่กรณียอมเลิกรา บอยเดินไปอีกทางและชี้หน้าไปที่รุ้งทำหน้าตาอาฆาตแค้น ส่วนชายหนุ่มที่มากับโคโยตี้ก็เดินขึ้นรถกลับไป เบลที่ลงรถมาก่อนรีบวิ่งมาดู

“อะไรกันวะแก เกิดศึกชิงนางเหรอ” เพื่อนซี้หน้าตาตื่น

“เออ แม่...บ้ากันทั้งคู่ พวกผู้ชายก็เงี้ย ชอบใช้แต่กำลัง ควายเอ้ย!”

คนตอบกำลังหัวเสียสุดๆ ทางด้านต้นคนมาช่วยเหมือนโดนด่าไปด้วยจึงเดินขึ้นตึกไปก่อน เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว

“ขอบคุณนะพี่ต้น” รุ้งตะโกนไล่หลัง ชายหนุ่มมาดเซอร์เดินเท่ห์ๆไป ไม่หันมามอง

“แล้วแกเป็นไรปะเนี่ย ดูซิ” เบลห่วงเพื่อนสาว

“ไม่อ่ะ เซ็งว่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะ ขอบใจแกกะพี่ต้นมาก“ พลอยรุ้งพูดทำท่าจะเดินขึ้นหอ

“เดี๋ยวสิ รอก่อน” บุญยกรเดินตามเพื่อนสาวมาติดๆ

“คืนนี้ให้ลงมานอนเป็นเพื่อนมั้ย”

“ไม่อ่ะ แกไปดูพี่ต้นเหอะ บายเพื่อน” พลอยรุ้งยังไม่หายหงุดหงิดเธออยากอยู่คนเดียว

“เออเออ พรุ่งนี้เจอกัน” เบลไม่เซ้าซี้ ทั้งคู่เดินเข้าตึกและแยกย้ายกันไป

ที่บ้านพอลลี่ สองสาวลงจากรถเดินจูงมือและไปนั่งคุยงานกันต่อที่ห้องรับแขก เห็นพลนั่งอยู่ที่ชิงช้าหน้าบ้าน พอลลี่จึงขออุษามาคุยกับน้องชายตัวดีก่อน หล่อนยังขาดกำลังสำคัญอีกคน

“ไงจ๊ะน้องชายสุดเลิฟ” ผู้เป็นพี่ทักทายอารมณ์ดี

“เสียงหวานมาแบบนี้มีอะไรจะใช้ก็ว่ามา” ยอดขุนพลดักคอพี่สาว

“ตกลงปลงใจหรือยังเรื่องโครงการน่ะ” พอลลี่เข้าเรื่อง

“อือ จะไปวันไหนก็บอกมา” น้องชายมาดกวนตอบ

“ดีใจจัง แกไม่เคยทิ้งพี่เลย” เซเลบสาวยิ้มละไม

“รู้ก็ดีแล้ว ระวังตัวไว้ด้วย ผมไม่ได้เกิดมาปกป้องพี่ได้ตลอดเวลา”
ชายหนุ่มอยากจะพูดซึ้งๆ แต่มันก็พูดได้เท่านี้

“แล้วแกเป็นไง คิดงานออกยัง” เป็นฝ่ายพอลลี่ที่ห่วงใยน้องชายบ้าง

“งานน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก กลุ้มใจเรื่องอื่นมากกว่า”
ยอดขุนพลมองไปข้างหน้าในความมืด คล้ายจะบอกกับพี่สาวว่าเขามองไม่เห็นทาง

“เรื่องสาวใช่มั้ย” พลพยักหน้าน้อยๆ

“คือผมไม่รู้ว่าจะจีบเขายังไง ไม่ใช่ไม่กล้านะ แค่มันคิดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้” เด็กเนิร์ดที่วันๆหมกตัวอยู่แต่ในห้องสารภาพ

“ก็ชวนคุยในสิ่งที่เรารู้สิ แล้วก็ค่อยๆศึกษาเขา” ผู้เป็นพี่ชี้แนะ

“ทำแล้ว แต่เหมือนอยู่คนละโลกไงไม่รู้ คุยกันคนละภาษา”

“อืม ถ้าแกเปลี่ยนเขาไม่ได้ก็เปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้ามันลำบากนักก็ไปหาใหม่เถอะ” พอลลี่สอนน้อง

“ก็ว่างั้นแหล่ะ ไปละไปหาใหม่ดีกว่าเบื่อคนหน้าเก่าๆ” พลปรับโหมดมาเป็นทะเล้นอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาปกติแล้ว พอลลี่เดินตามน้องชายเข้าบ้านไป
อุษากำลังเล่นโทรศัพท์รอเธออยู่

“อ้าว เสร็จแล้วเหรอคะที่รัก” สาวอวบวางมือถือและหันมาสนใจคู่รัก

“ค่ะ งานเป็นไงบ้าง พรุ่งนี้” พอลลี่ตรวจความเรียบร้อยเช็คคิวงานให้ตรงกัน

“ไม่มีอะไรอัพเดทหรือแคนเซิล ทุกอย่างยังเหมือนเดิมจ้ะ”
อุษาพูด หยิบซองเอกสารออกมาจากกระเป๋าและยื่นเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีให้ พนิตพิชาเซ็นต์

“แล้วนี่พี่ให้คุณณภัทร ตรวจดูแล้วนะคะ”
คุณณภัทรคือผู้สอบบัญชีของบริษัทพ่อเธอ ทำงานรู้ใจกันมาตั้งแต่ภูผาเริ่มตั้งตัวใหม่ๆ

“จ้ะ” อุษาตอบสั้นๆ ก็เธอไม่รู้จะปั้นเรื่องยังไง เซเลบสาวอ่านเอกสารคร่าวๆ ความจริงเธอไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ แค่ดูว่าที่เซ็นต์ชื่ออยู่ตรงไหน เธอเซ็นต์ชื่อและส่งกลับไปให้ผู้จัดการสาว


“พี่มีเรื่องอยากรบกวนพอลลี่น่ะ”

อุษาวางเอกสารในมือนั่งลงข้างๆแฟนสาว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ

“พี่ใช้เงินเก่งนะ คราวก่อนก็เพิ่งเบิกเงินเดือนล่วงหน้าไป” ซุปสตาร์สาวพูดน้ำเสียงเรียบ ก็เมื่อต้นเดือนเธอเพิ่งเซ็นต์เช็คเงินเดือนล่วงหน้าให้คนรักไปหกเดือน นี่ยังไม่นับรายได้สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นส่วนแบ่งอีก โดยอุษาอ้างว่าเอาไปซ่อมบ้าน

“ครั้งนี้จะเอาไปทำอะไรอีก” ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าคนหน้าด้าน อุษาไม่อายที่จะไถเงินแฟนสาว
“พี่ขอยืมล้านนึง จะเอาไปลงทุนขายของออนไลน์กับเพื่อนน่ะ”

พอลลี่ไม่มีอาการตระหนกตกใจ ไม่แม้กระทั่งถามรายละเอียดว่าจะเอาไปค้าขายอะไร เธอรู้อยู่แล้วว่ารูปการณ์มันต้องเป็นแบบนี้ และคิดว่าจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับคนที่ชื่ออุษา พอลลี่เปิดกระเป๋าสุดหรูหยิบสมุดเช็คออกมา และเขียนยอดเงินไปให้สองล้านบาท!

เงินก้อนนี้ถูกมากสำหรับการพิสูจน์ใจคน และเธอก็ไม่คิดจะให้อะไรกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ที่แล้วมาถือว่าเป็นค่าจ้างและค่าปลุกปั้นให้เธอเป็นดาว ถ้าเงินก้อนนี้จะสามารถทำให้คนๆหนึ่งกลับตัวกลับใจได้ พอลลี่ก็ยินดี แต่เธอคงลืมไป การลงทุนกับใจคนเป็นสิ่งที่เสี่ยงที่สุด!

อุษารับเช็คมามือไม้สั่น ลำพังชาตินี้ทั้งชาติเธอทำมาหากินเองคงไม่สามารถหาได้ ไหนจะรถเบนซ์สุดหรูที่มีใช้ฟรีๆอีก คอนโดที่เธออยู่ก็เป็นของพอลลี่ โง่ๆซื่อๆแบบนี้เธอยังหลอกกินได้อีกนาน...

พอลลี่ยังไม่เข้านอน แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบค่อนคืน ส่วนอุษาก็หลับไปนานแล้ว หลังจากอัพสเตตัสบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม เธอจดสรุปงานของตนเอง และยังมีบางสิ่งที่ต้องเร่งสะสาง โครงการช่วยเหลือช้างของเธอนั่นเอง

เซเลบสาวเหลือบดูนาฬิกาที่ชายหนุ่มว่าที่คู่หมั้นให้ มันบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสอง ไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะนอนหรือยัง เธออาจะกำลังมีบทรักกับแฟนหนุ่มมาดเซอร์คนนั้น คิดแล้วใจก็พาลให้อิจฉา ทั้งคู่ดูเหมาะสมและรักกันดี

นี่อาจเป็นเหตุผลให้ดาราสาวไม่กล้าออกตัวแรง เดินหน้าจีบสาวน้อยแก้มใสอย่างจริงจัง กลิ่นกายของสาวน้อยยังติดตรึงใจเธออยู่เลย เรื่องของหัวใจมักมาก่อนเหตุผลเสมอ ว่าแล้ว ซุปตาร์สาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา อดใจไม่ไหวจริงๆ อย่างน้อยขอส่ง สติ๊กเกอร์ไปก็ยังดี

Pollybellisario “ส่งติ๊กเกอร์ have a good dream”

“....เงียบ”

ก็แน่ล่ะดึกป่านนี้ใครเขาจะยังไม่หลับไม่นอน เซเลบสาวถอนหายใจ วางโทรศัพท์ลง เดินไปข้างเตียงที่มีแฟนสาวจอมละโมบนอนคุดคู้ใต้ผ้าห่มอุ่นอย่างสบาย

วันนี้ทั้งสองสาวไม่ได้มีกิจกรรมรักกันเพราะพอลลี่รู้สึกแย่ เกินกว่าจะแสดงออกซึ่งความรักผ่านสัมผัสทางกายได้ โอกาสครั้งสุดท้ายที่เธอหยิบยื่นให้นี่คนบนเตียงจะรู้ไหมนะ หรือจะโยนมันทิ้งไปอย่างเคยๆ
ช่างเถอะ อีกไม่นานเธอคงได้รู้คำตอบ พนิตพิชาล้มตัวลงบนเตียงสอดกายใต้ผ้าห่ม

ทันใดนั้นเหมือนเสียงสวรรค์ โทรศัพท์เธอดังขึ้น แต่ดีใจได้ชั่วครู่ก็พลันคิดไปว่า มันอาจเป็นแฟนหนุ่มของเจ้าหล่อนที่ส่งมามากกว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงมันน่าจะซ้ำเติมความรู้สึกของคนรอให้ยิ่งเหงา

เซเลบสาวพยายามข่มตาหลับ นับหนึ่งยังไม่ทันจะถึงสิบ จิตใจมันว้าวุ่นเกินบรรยาย ท้ายที่สุดเธอก็ลุกจากเตียงหยิบโทรศัพท์มาดู

Bellejubjub “ยังไม่นอนอีกเหรอคะ พี่สาว”

พนิตพิชาดีใจสุดประมาณ รีบตอบกลับไป

Pollybellisario “ยังค่ะ คิดอะไรเพลินๆ”

Bellejubjub “คิดไรเหรอบอกเค้าบ้างสิ”

Pollybellisario “คิดถึงแก้มใสๆ”

Bellejubjub “บร้า”

Pollybellisario “แล้วชอบรึเปล่า”

Bellejubjub “บ้า พี่พอลลี่บ้าไปแล้ว”

Pollybellisario “ที่เป็นแบบนี้เพราะใครบางคน”

Bellejubjub “จะไปนอนแล้วนะ คุยไรก็ไม่รู้”

Pollybellisario “อ้าว อย่าเพิ่งจิ เค้าจะคุยงานหน่อย”

Bellejubjub “ค่ะ ว่ามา”

Pollybellisario “พรุ่งนี้เย็นถ้าเพื่อนว่างนัดมาเลยนะ จะได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว”

Bellejubjub “ยังไม่ชัวร์นะคะ คือเพื่อนไม่ค่อยจะว่าง”

Pollybellisario “อือ เจอเบลคนเดียวก็ได้”

Bellejubjub “ค่ะ คิดออกแล้วนะ เวิร์ดดิ้ง”

Pollybellisario “อะไรน้า อยากรู้จุงเบย??”

Bellejubjub “เพราะมีเธอจึงมีฉัน โลกนี้น่าอยู่เพราะเรามีกัน”

Pollybellisario “เข้าท่านะ แต่มันยาวไป อันนี้สกรีนที่กระเป๋าแล้วกัน”

Bellejubjub “ค่ะ มี beautiful mind อีกคำ”

Pollybellisario “ก็โอนะ ทำฟ้อนท์มาให้พี่เลยนะ”

Bellejubjub “ค่ะ”

Pollybellisario ”ง่วงละ ไปนอนดีกว่า ขอบคุณนะจ๊ะสำหรับทุกอย่าง”

Bellejubjub “ค่ะ บาย”

พอลลี่วางโทรศัพท์ลง ในใจอิ่มเอม อย่างน้อยๆในช่วงเวลาร้ายๆก็ยังมีเรื่องให้พอชื่นใจได้บ้าง ยิ่งได้พบเจอพูดคุยก็ยิ่งชอบเด็กสาวคนนี้มากขึ้น

เซเลบสาวล้มตัวลงนอนอีกครั้ง คราวนี้ไม่นานนักก็หลับลงง่ายดายจากสภาพจิตใจที่สงบลง




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 8:01:29 น.
Counter : 1027 Pageviews.  

นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 8(รีไร้ท์)

 Chaotic

ยิ่งรักยิ่งวุ่น

พลอยรุ้งกำลังนั่งพิมพ์โปรแกรม power point สำหรับเค้าโครงรายงานเพื่อที่จะส่งอาจารย์ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ได้อีเมล์จากโอปอที่ไปหาหนังสืออ้างอิงเพิ่มเติมมาให้

ระหว่างที่พักสายตาและเปลี่ยนอิริยาบถเธอก็เข้าโปรแกรม Camfrog และสะดุดตากับหนุ่มน้อยหน้ามนคนหนึ่งเธอจึงเข้าไปทักและคุยด้วยเพื่อแก้เซ็งวันนี้เธอไร้คนนอนข้างกายอย่างเคยเพราะต้องการเคลียร์รายงานให้เสร็จปกติหนุ่มที่เล่น Camfrog มีจุดประสงค์เพื่อเข้ามาจีบสาวพูดจาแทะโลมรวมถึงอยากดูสาวๆโชว์เรือนร่าง แต่แปลก รุ้งคุยกับพ่อหนุ่มคนนี้มีแต่เรื่องตลกบ้าๆบอๆ สักพักเธอจึงขอตัวกลับมาทำรายงานต่อ

ด้านโอปอ ก็กำลังมีความสุขเสพสมจากเรือนร่างของน้องฝ้ายสาววัยขบเผาะเป็นที่รู้กันว่าอีกไม่นานสาวเท่ห์ขี้เบื่อก็คงเปลี่ยนคู่ควงคนใหม่และเขี่ยสาวน้อยผู้น่าสงสารคนนี้ทิ้ง

ไม่มีใครรู้ว่าโอปอจะหยุดเมื่อไหร่ และหยุดอยู่กับใครหล่อนเองก็ยังวิเคราห์ะตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมจึงได้เจ้าชู้เช่นนี้รู้แค่ว่าเธออยากใช้ชีวิตช่วงวัยทีนให้มันสนุกสุดๆ

รุ่งขึ้นสองสาวเลสต่างกอดก่ายกัน สภาพทั้งคู่ยังเปลือยเปล่าหลังผ่านศึกรักมาโชกโชนพอลลี่รู้สึกตัวหลังจากนาฬิกาปลุกดังขึ้น วันนี้เธอมีงานถ่ายโฆษณาแต่เช้าเธอจึงรีบจัดแจงทำธุระส่วนตัวและปลุกคนรักขี้เซาเพื่อลุยงานกันในวันใหม่

พนิตพิชาต้องรีบไปกองถ่ายทำแต่เช้า เพราะมีฉากใส่บาตรและวิ่งออกกำลังกายซึ่งต้องอาศัยแสงเงาในการถ่ายทำผู้กำกับบางคนไม่ปราณีต ฉากตอนเช้ากลายเป็นนัดถ่ายเอาเที่ยงๆหรือบ่าย ซึ่งผิดหลักเพราะแสงเงามันหลอกกันไม่ได้

งานนี้เอเจนซี่ค่อนข้างเข้มงวดกับโปรดักชั่น เลยนัดกองกันแต่เช้าพอลลี่เองก็ไม่ได้อิดออดอะไร เธอเต็มใจและยินดีเสมอให้งานออกมาดีที่สุดเป็นอุษาเองที่ขี้เกียจและเอ่ยปากกับทีมงานว่าขอถ่ายช่วงเที่ยง พอพอลลี่รู้จึงรีบกลับไปบอกทีมงานว่าสามารถมาเช้าได้อุษากลับต่อว่าเซเลบสาวว่าจะไปทุ่มเททำไม ค่าตัวก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นทั้งสองมีปากเสียงกัน และเป็นพอลลี่ที่ยืนกรานว่าเธอจะไปแต่เช้า อุษาจึงต้องจำยอม

เช้านี้เธอดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียว และไข่ลวกสองฟองก่อนออกจากบ้านเพราะไม่มีเวลามากและไม่ได้เจอหน้าน้องชายที่ยังคงน่าจะไม่ตื่นผู้จัดการสาวอาสาไปส่งเช่นเคย พร้อมกับ รถเบนซ์ เอคลาส แฮชแบคสีดำคันงามที่เอ่ยปากขอพอลลี่เมื่อคืนก่อน

หลังจากถ่ายโฆษณาเสร็จ ช่วงบ่ายพนิตพิชามีงานเปิดตัวสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งต่ออีกงานและมีนัดกับพี่ยุทธนาแฟนหนุ่ม ก่อนจะกลับไปอัดรายการ เม้าท์แตกงานพิธีกรประจำที่สตูดิโอในช่วงค่ำ นี่คือวันที่วุ่นวายของเธอ

บุญยกรเองก็ตื่นเช้าเช่นกัน วันนี้เธอจะต้องเตรียมตัว พรีเซนต์รายงานกับแก๊งค์สามสาวเธออยากซ้อมก่อนสักรอบ ต้นน้ำอาสาไปส่งเพราะวันนี้เขาเข้างานกะเย็น

ถ้าวันไหนต้นไม่มีงาน ชายหนุ่มจะเทคแคร์แฟนสาวของเขาอย่างดีด้วยการไปรับไปส่งและดูแลเรื่องอาหารการกิน ต้นเป็นคนสม่ำเสมอมาก ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาต้นไม่เคยละเลยเรื่องการดูแลแฟนสาวเลยทำให้เบลภูมิใจมาก เธอได้ผู้ชายที่ดีมากๆคนหนึ่ง

แม้ต้นจะกินเหล้าสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่เคยเสียงานและไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงอื่นเลยกลายเป็นฝ่ายหญิงสาวเสียอีกที่ตอนนี้เริ่มปั่นป่วนในหัวใจ เพราะใครคนนั้นเพราะเธอหรือเปล่า แม่ซุปตาร์ จอมโจรปล้นหัวใจ

บุญยกรเจอพลอยรุ้งหน้าหอพัก เห็นเพื่อนสาวกำลังยืนคุยกับชายหนุ่มวัยเดียวกันเธอก็คุ้นๆหน้าอยู่นะ เหมือนเคยเจอเดินควงคู่กับรุ้งอยู่สองสามครั้งไม่แน่ชายหนุ่มคนนี้อาจเป็นตัวจริงของยัยโคโยตี้จอมเลื้อยก็เป็นได้

เบลไม่ได้ทักอะไรเพื่อนสาว เพราะเห็นว่าอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่แล้วเดี๋ยวก็คงไปเจอกันอยู่ดี สาวรุ่นซ้อนมอเตอร์ไซค์แฟนหนุ่มเพื่อออกไปเรียน เสียงสตาร์ทรถทำเอาพลอยรุ้งเหลือบมามอง สองสาวส่งสัญญาณเป็นอันว่ารู้กันว่าเดี๋ยวค่อยเม้าท์ที่มหาวิทยาลัย รุ้งหันกลับมาคุยกับชายหนุ่มหน้าใสผมซอยสั้นสไตล์เกาหลี

“ก็บอกแล้วว่าเลิก ไม่เข้าใจหรือไง มาตามตื้ออยู่ได้ น่ารำคาญ”

ที่แท้เธอกำลังมีปัญหา เพราะหนุ่มต่างคณะที่โดนเธอสลัดรักไม่ยอมความง่ายๆ เกิดหลงรักแม่สาวโคโยตี้เขี้ยวลากดินขึ้นมาจริงๆจังๆ

“ก็ไม่เข้าใจหรือไงว่าไม่เลิก รุ้งจะด่าว่าบอยยังไงก็ได้ บอยไม่ไปไหนหรอกบอยรักรุ้งได้ยินไหมว่าบอยรักรุ้ง”

ชายหนุ่มเริ่มเสียงดังรุ้งเห็นท่าไม่ดีกลัวพวกปากหอยปากปูแถวนี้จะเก็บไปนินทาจึงจูงมือคู่ขาหนุ่มเดินออกมา

“ทำไมไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆเลยหา รุ้งไม่ได้รักบอยเข้าใจมั้ยแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไปด้วยกันต่อ”

พลอยรุ้งหัวเสีย ที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครและทุกคนก็เข้าทำนองน้ำแตกแล้วแยกทางกันทั้งนั้น แต่หมอนี่มันตื้อชะมัดยาด

“รุ้งมีเหตุผลของรุ้ง บอยก็มีเหตุผลของบอย” หนุ่มหน้ามนยืนกระต่ายขาเดียว

“เหตุผลโง่ๆ น่ะสิ ส่องกระจกดูหน้าตัวเองซะบ้างมีรถมั้ยมีมือถือดีๆใช้มั้ย เลี้ยงรุ้งได้มั้ย”

โคโยตี้สาวใช้ไม้ตาย ขึ้นเสียงดัง

“...”

“เห็นมั้ย ทำไม่ได้ก็อย่าสะเออะมายุ่งอีก น่ารำคาญ”

รุ้งจำต้องเล่นบทโหด เจ็บวันนี้ครั้งเดียวเดี๋ยวก็ลืมๆไปเองชีวิตวัยรุ่นยังอีกยาวไกล เป็นคนอื่นอาจคิดถูก แต่ใช้ไม่ได้กับกรณีนี้

“รุ้งจำไว้นะ ความรักสร้างทุกอย่าง แต่ความแค้นทำลายได้ทุกอย่างอยากจะทิ้งบอยนักใช่มั้ย ได้ แล้วเราจะได้เห็นกัน” เด็กหนุ่มขู่พลอยรุ้งและเดินกลับไปอีกทาง ส่วนเธอก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้วและคิดว่าคำขู่เป็นเพียงการระบายอารมณ์ออกมาของความผิดหวังเสียใจอีกไม่นานหนุ่มหน้าเกาหลีคงมีคนใหม่ให้เกาหลัง

ที่โถงใต้ตึกเรียน สามสาวมาพร้อมหน้าและซักซ้อมการพรีเซนต์รายงานพลอยรุ้งทำพรีเซนต์เทชั่นในโน้ตบุ๊ค เบลอ่านดูและจำได้หมดแล้วทั้งหมดจึงเดินขึ้นห้องเรียนไป สองเพื่อนสาวไม่ทันได้สังเกตว่าพลอยรุ้งดูเงียบๆไปเพราะมัวแต่สนใจเรื่องรายงานตรงหน้า

หลังชั่วโมงเรียน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอาจารย์อนุมัติให้ทำหัวข้อรายงานและกล่าวชมทีมของเบลต่อหน้าชั้นเรียนสามสาวเป็นปลื้มในผลงาน

“นี่ขนาดทำวันเดียวนะนี่ แกเก่งมากรุ้ง” โอปอชมเพื่อน

“อือ แต่มันสำเร็จได้ก็เพราะแกสองคนต่างหาก ชั้นมันแค่คนพิมพ์”พลอยรุ้งพูดเสียงจ๋อยๆ ดูเหม่อลอยพิกล

“แก เป็นไรวะ ปวดท้องเมนส์เหรอ เห็นเงียบๆแต่เช้าละ” เบลซักเพื่อนสาวที่ปกติออกจะลัลล้า

“ไม่มีไรหรอก เซ็งๆนิดหน่อย” รุ้งตอบ

“เมื่อคืนแกมัวแต่ทำรายงานอ่ะดิ ไม่ได้เอากะผู้ชายต่อมกระปรี้กระเปร่าเลยไม่ทำงาน” โอปอแซวเพื่อนสาว

“ไอ้บ้ากาม ใครจะไปเหมือนแกวะ โอปอ นี่แน่ะ!”รุ้งหันมาแวดใส่สาวห้าวและตีไปที่มือ

ทั้งหมดหัวเราะกับโอปอที่มีแต่เรื่องอย่างว่าอยู่ในหัว

“เออพวกเรา ชั้นมีงานบุญมาบอก” เบลถือโอกาสชักชวนเพื่อนสาวทำโครงการให้พอลลี่

“เฮ้ย! ถ้าเป็นซองผ้าป้าไม่เอานะ ตอนนี้ยิ่งไส้แห้งอยู่”

โอปอรีบออกตัว เงินที่ทางบ้านส่งมาให้ก็เอาไปเลี้ยงสาวๆหมดแล้ว ส่วนพลอยรุ้งยังนิ่งเงียบ

“เปล่าแก ไม่ต้องใช้เงินเลยสักแดง ลงแต่แรงกายกับหัวคิด” เบลสาธยาย

“พวกแกสนใจมั้ย มีเบี้ยเลี้ยงด้วยนะ โครงการช่วยเหลือช้างพิการและเจ็บป่วยมูลนิธิของคุณพอลลี่เขา นี่โอปอมีไปเที่ยวปางช้างที่ต่างจังหวัดด้วยนะแกจะได้พาน้องๆของแกไปเที่ยวด่วยไง”

โอปอรับฟังอย่างตื่นเต้น เรื่องเที่ยวเล่นเธอชอบอยู่แล้วมีหรือจะพลาด

“ว่าไงรุ้ง ช่วยชั้นหน่อยเถอะนะ อีกอย่างแกจะได้ไปเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอกกับเขาบ้าง”เบลหว่านล้อม

“รับปากเขามาแล้วล่ะสิ ไปตกลงกันอีท่าไหนล่ะ” รุ้งทำเป็นรู้ดี

“อือ...ก็ไม่ได้ท่ายากอะไรหรอก จะบ้าเหรอ!ก็คุณพอลลี่เขาไม่มีใครน่ะ อีกอย่างชั้นก็ว่า มันเป็นโครงการที่ดีแล้วพวกเราก็ไม่ได้ออกค่ายอาสากันมานานแล้วด้วย เผื่อจะได้เอาไปลงเรซูเม่ไว้อ้างอิงตอนสมัครงานได้นะ”

บุญยกรพยายามเน้นไปที่ข้อดี

“เออเออ แกออกตัวมาแรงซะขนาดนี้เพื่อนไม่ช่วยก็จะหาว่าใจจืดใจดำไปหน่อย”

โอปอรับปาก เหมือนเป็นการบังคับกลายๆ สองสาวมองมายังอีกหนึ่งหน่อที่เหลือ

“เสียงมันเกินกึ่งหนึ่งไปแล้วนี่ ประชาธิปไตยอยู่แล้ว เอาไงก็เอา”รุ้งตอบ ทำเอาบุญยกรยิ้มแก้มปริดีใจจนออกนอกหน้า

“เฮ้ยดูดิ ยิ้มลืมโลกเลย อย่าบอกนะว่าแกหลงเสน่ห์แม่ เซเลบสาวนั่นเข้าระวังจะโดนหลอกใช้ฟรีๆ” รุ้งเตือน

“ไม่หรอกน่า อีกอย่างมีแกสองคนคอยปกป้องชั้นอยู่นี่ไง”เบลตอบอย่างมองโลกแง่ดี

“ใช่ เราสองคนจะคอยเป็นผู้พิทักษ์แกเอง” โอปอเสริมรุ้งส่ายหน้าในความอ่อนต่อโลกของสองเพื่อนสาว

“แล้วต้องทำไรบ้างอ่ะ วันไหน อะไร ยังไง” โอปอซัก

เบลบอกรายละเอียดตามที่ตนรู้กับเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่แก๊งค์สามสาวจะเดินไปโรงอาหารกินข้าวมื้อเที่ยง

เบลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งไลน์แจ้งข่าวกับเซเลบสาวเจ้าเสน่ห์ทันที

Bellejubjub “ตกลงเบลชวนเพื่อนมาได้สองคนแล้วนะคะ”

Pollybellisario “ดีมากจ้ะ ตอนนี้ยุ่งอยู่ไม่สะดวกคุยเอาเป็นว่าเจอกันที่สตูดิโอแล้วค่อยว่ากัน”

Pollybellisario ส่งสติ๊กเกอร์ missyou

Bellejubjub ส่งสติ๊กเกอร์ see you กลับไป

ทางด้านพลอยรุ้งก็มีข้อความไลน์ขึ้นมาเหมือนกันมันเป็นข้อความของหนุ่มหน้าเกาหลีคนเมื่อเช้าจอมตื้อ

“มึงทิ้งกูกูจะเอาคืน”

“ไอ้บ้าเอ้ย”รุ้งอ่านข้อความแล้วก็สบถออกมาเธอรู้สึกไม่ดีเลย กังวลในความปลอดภัยของตัวเอง

“เป็นไรวะแกใครเบี้ยวค่าตัวแกเหรอ”

โอปอยียวน แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวเพราะสีหน้าของหล่อนบ่งบอกถึงความไม่สบายใจออกมาชัดเจน

“เปล่าไม่มีไร กินอิ่มแล้วก็ไปกันเถอะ” รุ้งอยากเคลียร์เรื่องนี้ด้วยตัวเองและตัดสินใจไม่บอกเพื่อนฝูง

พนิตพิชาหลังเสร็จงานอีเวนท์ เปิดตัวสินค้าเพื่อสุขภาพยี่ห้อหนึ่งก็นัดเจอยุทธนา แฟนหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่รายหนึ่งของเมืองไทยหล่อนรู้จักชายหนุมร่างสูงมาด เนี้ยบคนนี้จากการแนะนำโดยผู้หลักผู้ใหญ่ของครอบครัวฝ่ายชายและพ่อแม่ของเธอที่ต้องการจะเกี่ยวดองเป็นเครือญาติ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างที่สังคมคนมีฐานะมักจะทำกัน สำหรับยุทธนั้นไม่ยากเลยที่จะตกหลุมรักพนิตพิชา ตั้งแต่แรกพบเพราะหล่อนนั้นเพียบพร้อมทั้งหน้าตา และกริยามารยาทอย่าง กุลสตรีไทยที่หาได้ยากในปัจจุบันทั้งคุณวุฒิทางการศึกษาดีกรีนักเรียนฝรั่งเศสก็เป็นการการันตีถึง คุณภาพความคิดความอ่านการเจรจาพาทีส่วนพอลลี่เองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าเธอแค่รับรู้ว่า ยุทธนาเป็นเสมือนพี่ชายที่ตฺบโตมาด้วยกันเขาเป็นคนดีและพร้อมที่จะดูแลชีวิตเธอ ส่วนเรื่องความรักนั้นคงเป็นไปไม่ได้เพราะความที่เธอเป็นเลสนั่นเอง

สองหนุ่มสาวนัดเจอกันที่ลอบบี้โรงแรมหรูแห่งหนึ่งนั่นเพราะไม่ต้องการให้เป็นข่าวและเพื่อความเป็นส่วนตัว ดาราสาวสั่งกาแฟดำอย่างเคยส่วนชายหนุ่มขอจิบชา earl grey รสเข้ม

“พี่ยุทธมีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะถึงอยากเจอพอลลี่นัก ห้ามแล้วก็ไม่ฟังเลย วันนี้พอลลี่ยุ่งทั้งวัน”

เซเลบสาววีนใส่ทันที ที่เจอหน้าแฟนหนุ่มส่วนแฟนสาวอีกคนก็ปล่อยให้ไปลัลล้าแถวๆนี้ เพราะไม่อยากให้ว่าที่คู่หมั้นผิดสังเกต ใช่! เขายังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ

“ก็เราไม่ได้เจอกันหลายวันแล้วอีกอย่างพี่ก็มีเรื่องสำคัญอยากคุย อยากปรึกษาด้วย” ชายหนุ่มให้เหตุผล

“ธุระของพี่ก็เรื่องเดิมๆพอลลี่เบื่อที่จะฟังแล้ว”

หญิงสาวคาดเดาได้ทันทีว่า เรื่องสำคัญที่แฟนหนุ่มอยากคุยคือเรื่องอะไร

“รู้ทันพี่ตลอดเลยนี่ ดูนี่สิ”

ชายหนุ่มหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากเสื้อสูทสีเทามันเป็นกล่องนาฬิกาและยื่นให้คนตรงหน้า พนิตพิชารับมาและเปิดออกดูมันคือนาฬิกาข้อมือ Gucci เรือนงามสายสแตนเลสสีเงินบอดี้เดียวกับตัวเรือนฉลุตัวหนังสือ G อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ฝังเพชร 34เม็ด รุ่นนี้เป็น Limited edition ที่ผลิตขึ้นเพียงไม่กี่ร้อยเรือนในโลกแน่นอนว่าราคา ไม่ใช่เล่นๆและไม่ซ้ำใครในแผ่นดินไทยแน่นอน ยุทธนาตั้งใจซื้อมาให้คนรักหลังจากเขาไปสัมนาที่ยุโรปเมื่อเดือนก่อน

“ขอบคุณค่ะสวยมากแต่ไม่ต้องเอาของมาล่อเลย อีกอย่างพอลลี่ใส่ไม่ได้หรอก เพราะติดคอนแทรกกับอีกแบรนด์”

เซเลบสาวแบ่งรับแบ่งสู้เห็นสีหน้าว่าที่คู่หมั้นสลดลง ก็พยายามรักษาน้ำใจ

“แต่ยังไงเวลาเจอพี่พอลลี่จะพยายามใส่มานะคะ” หญิงสาวยิ้มละไม ไม่ให้บัวช้ำน้ำขุ่น

“ทีแรกพี่ตั้งใจว่าจะซื้อHermes Himalayan ให้แต่กลัวโดนว่าว่าโอเวอร์อีก”นักธุรกิจหนุ่มเปรยๆ

“โหย! ถ้าซื้อมาจริงนะ พอลลี่กรี๊ดบ้านแตกแน่แต่ไม่ซื้อน่ะดีแล้ว มันโอเวอร์จริงๆแหล่ะ”

ราคาของมันซื้อคอนโดหรูๆใจกลางเมืองได้ห้องหนึ่งเลยทีเดียว

“พี่ตัดสินใจอยู่นานสองนานเลยคิดว่าให้นาฬิกาดีกว่าเพราะทุกเข็มวินาทีที่เดิน มันหมายถึงทุกเวลาที่พี่มีพอลลี่อยู่ในหัวใจ” ชายหนุ่มทำซึ้งแต่พูดออกมาไม่เต็มเสียงนัก

“น้ำเน่าจังค่ะแต่ก็ดีนะพอลลี่ชอบฟัง” เซเลบสาวหยิกแกมหยอก

“แต่สุดท้ายพี่ก็เลือกของไม่เคยถูกใจพอลลี่เลย”ยุทธนาตัดพ้อ น้อยใจสุดกำลัง

“ใครว่าพี่ยุทธเลือกของเก่งมาก มากขนาดที่ว่าพอลลี่ใส่ไปออกงานผู้หญิงทุกคนจะต้องอิจฉา”หญิงสาวจิบกาแฟเว้นจังหวะก่อนพูดต่อ

“แต่พี่ต้องเข้าใจพอลลี่สิคะ เซ็นต์สัญญากับอีกแบรนด์หนึ่งตั้งเกือบสามล้านข้าวของเขาก็เอามาให้ใช้ฟรีๆอีกไม่รู้เท่าไหร่แล้วถ้าใส่ยี่ห้ออื่นไปมันดูไม่มืออาชีพนะคะ มันก็เหมือนเวลาพี่ไปทำธุรกิจแหล่ะต้องแคร์ความรู้สึกของคู่ค้าใช่มั้ย”

ดาราสาวอธิบายเหตุผล ชายหนุ่มคิดตามเข้าใจสิ่งที่ ได้ยิน สีหน้าสดชื่นขึ้นมาบ้าง

“เอ่อ...พี่อยากจะชวนพอลลี่ไปหาอาจารย์ท่านนึง แกเก่งมากเลยนะดังมากด้วยต้องจองคิวกันครึ่งค่อนปีกว่าจะได้พบ แม่พี่อยากให้เรา...”

พูดยังไม่ทันจบประโยค ดาราสาวก็สวนขึ้นมาทันควัน

“พี่ยุทธ ถึงแม้จะได้ฤกษ์ที่ดีที่สุดในรอบสิบปีถ้าพอลลี่ยังไม่พร้อมอันนั้นถือว่าเป็นมงคลมั้ยคะ”

เซเลบสาวเสียงเข้มดุดัน เธอไม่ค่อยเชื่อเรื่องฤกษ์ยามเท่าไหร่ด้วยความเป็นเด็กนอก และคำสอนของพระพุทธองค์ไม่มีกล่าวถึงเรื่องพวกนี้

“สมมติว่า พรุ่งนี้พี่มีเซ็นต์สัญญาซื้อขายที่ดินเป็นพันล้านแต่หมอดูมาทักว่าเป็นฤกษ์ไม่ดี พี่จะทำยังไงบอกลูกค้าให้เลื่อนไปในวันมงคลอย่างนั้นเหรอคะ”

หญิงสาวย้อนถามคล้ายเป็นเชิงตำหนิ ผู้บริหารพันล้านมาตกมาตายกับสาวน้อยตัวเล็กๆ

“เอ่อ...พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”

เป็นอีกครั้งที่พนิตพิชาพูดแทรก

“เอาเป็นว่า เรื่องหมั้นหมายน่ะ พอลลี่เข้าใจแต่เราก็คุยกันมาหลายครั้งแล้ว พี่ยุทธต้องเข้าใจหน้าที่การงานพอลลี่บ้างขอให้พอลลี่ได้โลดแล่นในวงการนี้สักสองปีจะได้ไหมคะ แล้วถึงตอนนั้นพอลลี่จะกลับไปทำหน้าที่ที่ควรจะทำในฐานะลูกที่ดีและ ภรรยาของพี่”

เซเลบสาวสรุปเบ็ดเสร็จไม่อ้อมค้อม เธอมีเวลาไม่มากมัวแต่พิรี้พิไรแบบแฟนหนุ่มของเธอสามวันก็คุยกันไม่จบ หญิงสาวนึกแปลกใจพี่ยุทธออกจะทำงานเก่ง เจรจาต้าอวยกับชาวต่างชาติไม่เคยมีเสียเปรียบแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่ไหงพอเวลามาอยู่กับเธอทีไร เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนความมั่นใจหายไปหมดไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วเจ้าตัวเขาอึดอัดบ้างไหมเนี่ย

“พอลลี่ขอโทษค่ะ” คิดได้แบบนั้น พนิตพิชาจึงมีท่าทีอ่อนลงบางทีเธออาจะเรียกร้องกับเขามากไป

“ไม่เป็นไรหรอก พี่ผิดเอง” ชายหนุ่มเสียงจ๋อย

“ที่รัก อย่าน้อยใจไปเลยนะ พอลลี่เป็นเจ้าสาวของพี่อยู่แล้วขอแค่เวลาสองปีเอง พี่ยุทธทำงานไปแปปเดียวก็ครบแล้ว อย่าไปคิดว่ารอสิคะใจไม่ยึดติด มัวแต่คิดมากแก่เร็วนะ ดูซิคิ้วขมวดเลย” พอลลี่ใส่เป็นชุด

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้นเขาดูที่หน้าจอก็รู้ว่าเป็นเบอร์สำคัญเมื่อเงยหน้ามองแฟนสาวพอลลี่พยักหน้าให้คล้ายเข้าใจ เขาจึงรับสาย

พนิตพิชาจึงฉวยโอกาสนี้ ลุกขึ้นเดินไปกุมมือชายหนุ่มและเดินออกมาโบกมือลาอย่างรวดเร็ว ซุปตาร์สาวหยิบแว่นตากันแดดมาสวม เป่าปากดังฟู่โล่งอก เธอเอาตัวรอดไปได้อีกวัน แต่นี่ก็เท่ากับแค่ว่าผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยหรือว่าเธอต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับเรื่องนี้เสียทีแต่กลับนึกสงสารว่าที่คู่หมั้นขึ้นมาจับใจ เขาดีกับเธอขนาดนี้จะหักหาญน้ำใจหักดิบไปเลยคงไม่ได้

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์หาผู้จัดการคู่ใจ แต่ก็ไม่ค่อยจะรู้ใจเท่าไหร่ให้ขับรถมารับที่หน้าโรงแรมเพื่อมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอ ที่แห่งนั้นอาจจะมีคนที่รู้ใจเธอที่สุดรออยู่

ในตอนนี้แต่ละคนก็ต่างสับสนวุ่นวายใจในความรักที่หลากหลายของตน

เซเลบสาวที่ยังหาทางแก้ปัญหาให้ตัวเองไม่ได้

ชายหนุ่มที่พยายามเร่งรัดการหมั้นหมาย

เด็กสาวผู้แสวงหารักแท้

และอีกหนึ่งสาวที่ยังไม่เข้าใจตัวเอง...




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2558 22:59:50 น.
Counter : 1288 Pageviews.  

นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 7(รีไร้ท์)

From 2 to 3

จากสองเพิ่มเป็นสาม

ทั้งสองเดินข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศที่เบื้องซ้าย เป็นป้อมมหากาฬซึ่งเป็น 1 ใน 2 ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ในกรุงเทพมหานคร เดินข้ามคลองผดุงกรุงเกษมเพื่อมุ่งหน้า วัดสระเกศอันเป็นที่ตั้งของพระบรมบรรพต หรือภูเขาทองนั่นเอง

ภูเขาทองต้องสร้างถึง 3 แผ่นดินจึงจะเสร็จสมบูณ์คือเริ่มต้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่4 และแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 5

“เหนื่อยมั้ยคะ” เด็กสาวไม่วายเป็นห่วง

“ไม่อ่ะ แต่ร้อนมาก” นั่นไง

“นี่เบลพาพี่มาลำบากรึเปล่า”

“เมื่อไหร่ จะเลิกมองว่าพี่เป็นคุณหนูสักทีดาราก็เหมือนคนทั่วไปนั้นแหล่ะ” ดาราสาวเริ่มหงุดหงิดเธอไม่อยากให้คนอื่นมองว่าต้องโอ๋

“ค่ะ ถึงแล้ว” สองสาวเดินมาถึงทางเข้าวัด เมื่อเข้าสู่เขตพระอารามบรรยากาศก็เริ่มเย็นลงจากร่มไม้และเวลานี้ก็เริ่มบ่ายคล้อยแล้ว ทั้งสองหาที่นั่งพักดื่มน้ำ

“พี่พอลลี่รู้มั้ย ทำไมเขาถึงเรียกว่าแร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์คะ”สาวน้อยนึกถึงคำคล้องจองของทั้งสองวัดเลยอยากรู้ความหมาย

“อยากฟังเหรอ มันยาวนะ”

“ค่ะ” สาวน้อยแววตาจริงจังอยากรู้ประวัติความเป็นมา

“คืองี้...เกิดโรคห่าระบาดเมืองในช่วงรัชกาลที่ 2 คนตายตอนนั้นหลายหมื่นคน แค่ช่วงระยะเวลาไม่ถึงเดือนดี พระนครตอนนั้น.. กลายเป็นเมืองแห่งคนตายเลยก็ว่าได้มีศพที่กองระเนระนาดไปทุกหนแห่ง แม้แต่แม่น้ำลำคลองก็ยังเต็มไปด้วยซากศพจะจัดพิธีทำศพก็ไม่ทันครั้นจะเผาก็ไม่ทัน.. สุดท้าย.. ต้องขุดหลุมแล้วเอาศพมากองรวมกันไว้ที่นี่..วัดสระเกศ”

“แล้วทำไมต้องเป็นที่นี่ละคะ วัดอื่นไม่ได้เหรอพระนครสมัยก่อนวัดวาตั้งมากมาย” บุญยกรตั้งข้อสังเกต

“อ้อ มีความเชื่อของคนในสมัยก่อนว่าห้ามเผาศพกันในเมืองคนตายก็ต้องทำพิธีกันที่นอกกำแพงเมืองนู่นเลย..ส่วนในเขตกำแพงพระนครก็มีประตูเมืองที่เค้าอนุญาตให้เอาศพผ่านได้เพียงประตูเดียวที่เรียกว่าประตูผีนั่นแหละ”

“ประตูผีที่ผัดไทยดังๆนี่นะคะ”เด็กสาวพยายามนึกภาพตาม

“ถูก”
“แล้ววัดสระเกศก็อยู่ใกล้กับประตูผีพอดี!”เบลถึงบางอ้อ

“เก่งมาก”

“แล้วแร้งก็เลยมากินศพ”

“อืมความจริงเรื่องมันมีต่ออีกแต่ยาวมากรู้แค่นี้ก่อนวันหลังจะเล่าให้ฟังใหม่”

“แล้วเปรตวัดสุทัศน์ล่ะคะ”สาวน้อยยังสนุกกับเรื่องใหม่ๆ

“สมัยก่อนมีคำร่ำลือว่าที่วัดแห่งนี้มักมีเปรตปรากฏกายในเวลากลางคืนน่ากลัวมาก ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเรื่องเล่าเปรตวัดสุทัศน์นั้น มาจากภาพวาดในโบสถ์ ที่เป็นรูปเปรตตนหนึ่งนอนพาดกายและมีพระสงฆ์ยืนพิจารณาอยู่ ซึ่งภาพนี้มีชื่อเสียงมากในสมัยอดีตเป็นที่เลื่องลือกันของผู้ที่ไปที่วัดแห่งนี้ว่าต้องไปดู และสิ่งที่ผู้คนเห็นว่าเป็นเปรตแท้ที่จริงแล้วเป็นเงาของเสาชิงช้าที่อยู่หน้าวัด ในสายหมอกยามเช้าต่างหาก”เซเลบสาวร่ายยาว

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”เบลตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้มาก

“ไปค่ะเดินขึ้นภูเขาทองกัน เดี๋ยวจะค่ำมืด” บุญยกรเอ่ยปาก

ยังเหลือบันไดอีก 344 ขั้นสำหรับทางขึ้นไปสู่ยอดภูเขาซึ่งมีเจดีย์อยู่บนนั้น ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุน่าเสียดายไปนิดวันที่ทั้งสองมาไม่ใช่เป็นช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งทางวัดจะจัดงานประเพณีเรียกว่า งานภูเขาทอง ระยะเวลาราว 7-10 วัน เป็นประจำทุกปีนับว่าเป็นงานวัดที่สำคัญงานหนึ่ง

ทั้งสองสาวสวยเดินขึ้นบันไดด้วยใจอิ่มเอมข้างทางจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียงรายอยู่ตลอด เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระสีวลี เป็นต้นพนิตพิชาและ บุญยกรก็ไหว้สักการะ ทำให้ทั้งคู่มีจิตใจสงบและลืมความเหนื่อยไปนอกจากนี้ยังเห็นกลุ่มนักเรียนมาทำวัตรเย็นสวดมนต์อย่างพร้อมเพรียงอีกด้วยเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ไม่นานก็ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดทั้งสองสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และออกมาชมวิวแบบพานอรามารอบๆยอดเขาเบื้องหน้าเป็นสะพานพระรามแปดอยู่ไม่ไกลส่วนอีกด้านเป็นตึกใบหยกสองตึกที่สูงที่สุดในประเทศอยู่ลิบๆ ทั้งคู่ถ่ายรูปจนพอใจ และชวนกันเดินลงมา

“มีคนเคยบอกไว้ หากเราทำบุญร่วมกับใคร 3 ภพชาติ คนๆนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทเรา และถ้าได้ไหว้พระทำบุญร่วมกันถึง 7 ภพชาติจะได้เป็นเนื้อคู่กัน” พอลลี่กล่าวขึ้นมาลอยๆระหว่างเดินลง

“เหรอคะ แล้วเราสองคนอยู่ในภพชาติที่เท่าไหร่เอ่ย” เบลถามกลับ

“ไม่รู้สินะ สำหรับพี่ ไม่ต้องรอนานเป็นภพชาติหรอก เวลาแค่ไม่กี่วันพี่ก็ตกหลุมรักใครบางคนได้”

“เอ๋ หมายถึงกับแฟนพี่เหรอคะ ไปเจอกันที่ฝรั่งเศสเหรอ” เด็กสาวอยากรู้

“ไม่ใช่เขาหรอก” พอลลี่พูด ถึงตรงนี้ ดาราสาวก็เงียบไปหน้าตาดูเศร้าลงไปทันใด ทั้งๆที่เมื่อสักครู่ยังสดชื่นแจ่มใสอยู่เลย ผู้หญิงคนนี้อารมณ์แปรปรวนจังเด็กสาวคิดและก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ เปลี่ยนเรื่องคุยถ้าจะดีกว่า

“พอดีเลย ร้านแถวๆประตูผีคงเปิดกันละเราไปเดินเล่นหาอะไรอร่อยๆกินกันดีมั้ยคะ”

“เอาสิ พี่ได้ยินมานาละผัดไทประตูผี ยังไม่เคยลองสักที”เซเลบสาวเปลี่ยนอารมณ์อีกรอบ ทำเอาสาวรุ่นไม่เข้าใจ

“จำไว้นะ อยู่กับพี่อย่าพูดถึงคนอื่น” เบลยิ่งงเป็นทวีคูณเธอไม่เคยตามความคิดซุปตาร์ทันเลย

“อ๋อๆ ค่ะ” เธอได้แต่รับคำ

สองสาวหน้าสวย ชิมอาหารย่านประตูผีอย่างรื่นรมย์ ประเดิมด้วยผัดไทอันลือชื่อมันเป็นผัดไทมันกุ้งใส่กุ้งสดห่อไข่มีเส้นจันทร์ผัดกับน้ำพริกเผามันกุ้งรสเผ็ด ตัวเส้นจึงเป็นสีแดงใส่กุ้งสดตัวใหญ่ 2 เสริ์ฟพร้อมมะนาวและโรยหน้าด้วยถั่วงอก เครื่องเคียงครบครัน และปิดท้ายมื้อเย็นด้วยบัวลอยสมหวังทรงเครื่องเป็นบัวลอยทรงเครื่องใส่ไข่เค็มมีแห้ว ฝานเป็นแผ่น ข้าวโพด เผือก และมะพร้าวอ่อน

“อิ่มมั้ยคะ”สาวน้อยถามหลังจากบัวลอยในถ้วยเกลี้ยง

“อิ่มสิอร่อยมากด้วย ไม่คิดว่าของริมทางอร่อยกว่าร้านหรูๆบางร้านอีก”

“เบลก็ไม่นึกเหมือนกันว่าพี่จะทำตัวง่ายๆแบบนี้เป็น”

“อ้าวนี่เธอกำลังว่าพี่เหรอพี่ไม่ได้ไฮโซไฮซ้อสักหน่อย” ดาราสาวหน้าหวานตัดพ้อ

“นี่ก็ค่ำแล้วพี่พอลลี่กลับกันเถอะค่ะ” มันใกล้เวลานัดของหล่อนกับพี่ต้นแล้ว

“จะไล่กันแล้วเหรอยังไม่อยากกลับเลย” เซเลบเล่นบทออดอ้อน

“คือว่า...พอดี...”ยังไมทันพูดจบเสียงเรียกเข้าก็ดังเข้ามาในมือถือของเบล สาวน้อยรับสาย

“อืออยู่แถวนี้แล้ว พี่ต้นถึงแล้วเหรอ ได้อีกยี่สิบนาทีเจอกัน”

“อ้อนัดแฟนไว้ งั้นก็หมดเวลาของพี่แล้วสินะ” เซเลบสาวพูดเสียงเรียบในใจรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่มาชอบคนมีเจ้าของ

“ขอโทษจริงๆค่ะไว้เบลจะทำงานที่พี่พอลลี่สั่งนะคะ พรุ่งนี้เจอกันที่สตูฯนะคะเดี๋ยวเบลไปส่งที่รถ”

สองสาวออกจากประตูผีนั่งรถตุ๊กๆกลับไปยังที่จอดรถ เด็กสาวส่งซุปตาร์ขึ้นรถ มองจนรถคันใหญ่หายลับไปทันใดนั้นก็รีบจ้ำไปที่ถนนข้าวสารทันทีส่วนพอลลี่รู้สึกเสียดายที่เวลาแห่งความสุขของหล่อนช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสใกล้กันแบบนี้อีก...

เซเลบสาวมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อถึงก็พบไอ้น้องชายตัวแสบกำลังเล่นไอแพดอยู่ที่ศาลาหน้าบ้านรู้สึกประหลาดใจที่วันนี้พลออกมารับเดือนรับลมไม่หมกตัวในห้องอย่างเคย

“ไงแก ทำไมวันนี้ออกจากรูมาได้”เซเลบสาวทักน้องชายจอมยียวน

“งานมันตันๆน่ะ คิดไรไม่ออกเลยออมายืดเส้นยืดสายบ้างเผื่อปิ๊งไอเดีย”

“เออแกมาช่วยทำโครงการให้ชั้นหน่อยสิ ยังขาดคนอยู่ ออกไปดูโลกภายนอกบ้างสมองจะได้แล่นๆ” พนิตพิชาหว่านล้อมน้องชาย

“ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะดูว่าค่าจ้างสมน้ำสมเนื้อมั้ย” พลยึกยักแบ่งรับแบ่งสู้ เขาไม่ค่อยชอบปรากฎตัวต่อหน้าฝูงชนเท่าไหร่

“อย่าทำเป็นเพลย์บอดี้หน่อยเลยอยากได้อะไรก็ว่ามา นี่คนดังระดับประเทศมาเทียบเชิญเลยนะ” พนิตพิชาพยายามเซ้าซี้น้องชาย

“ยังคิดไม่ออกน่ะรู้แต่ว่าตอนนี้อยากแกล้งพี่สาวสุดสวย เอจะแกล้งอะไรดีน้า “

พลวางไอแพด เดินมาใกล้พี่สาวพอลลี่ก็ระวังตัวสุดฤทธิ์ไม่รู้ว่าสุดแสบจะมาไม้ไหน

“พอๆเลยแกพี่เหนื่อยไม่มีรมณ์เล่นนะ” พอลลี่ปราม

“ไม่แกล้งหรอกเดี๋ยวโดนคนโน้นไล่เตะเอา”

ยอดขุนพลพูดตามองไปที่ประตูบ้านสาวอวบกลับมาพอดี

“พอลลี่จ๋า พี่มาละ ไปเข้าบ้านกัน มีเรื่องต้องคุยเยอะเลย”

อุษาเดินเข้ามาหาเซเลบยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล พลเห็นคู่รักเขาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็เดินปลีกตัวเข้าบ้านไปเขารู้ดีว่าพี่สาวเป็นเลสรู้ดีว่าอุษาไม่ใช่ผู้จัดการส่วนตัวธรรมดาๆหากแต่มีความสำคัญมากๆต่อพี่สาวของเขาและคอยเป็นที่ปรึกษาลับๆมาให้ตลอดมา ทั้งยังช่วยกันปกปิดพ่อและแม่ไม่ให้รู้

พนิตพิชาเดินจูงมือผู้จัดการสาวคู่ใจเข้ามาในบ้าน

“กินอะไรมาหรือยังคะ ให้พี่คำลี่ไปซื้อมั้ย” ดาราสาวห่วงใยคนรัก

“ไม่อ่ะค่ะ นี่ก็อ้วนมากแล้ว เดี๋ยวคนแถวนี้ไม่รัก”สาวอวบระยะสุดท้ายออกตัว

“หือ อ้วนยังไรก็รักค่ะ กอดได้เต็มไม้เต็มมือดี”

สองสาวหัวเราะต่อกระซิก เดินมานั่งที่โซฟาตัวยาว อุษายื่นเอกสารกองใหญ่ให้ดาราสาวดู

“อะไรคะ บทละคร? แล้วทำไมมีตั้งสองเรื่องพอลลี่ไม่ไหวหรอกนะ ตอนนี้เหลือคิวแค่สามวันเท่านั้น”

หญิงสาวพลิกเอกสารดูมันเป็นเรื่องย่อละครสองเรื่องผีสาวออนไลน์กับเรื่องสายน้ำสามรัก

“อย่าเพิ่งตีโพยตีพายสิ ผู้ใหญ่ของช่องเอามาให้เลือก ดูว่าพอลลี่อยากเล่นเรื่องไหนนี่อภิสิทธิ์เลยนะเนี่ย พอลลี่ก็รู้ ปกติมีแต่บังคับให้เราเล่นพระเอกระดับแม่เหล็กทั้งสองเรื่อง”

อุษาเล่าความพอลลี่เพิ่งเล่นละครมาเรื่องเดียวจึงยังไม่มีคู่จิ้นคู่ขวัญ

“ขอพอลลี่อ่านก่อนแล้วกัน แต่เรื่องผีพอลลี่ไม่ค่อยอยากเล่นนะ ขี้เกียจแต่งหน้านานๆแล้วจะฟิตติ้งเมื่อไหร่คะ”

ฟิตติ้งคือการลองเสื้อผ้าเพื่อดูว่าคาแรคเตอร์ตัวละครเหมาะสมหรือไม่ก่อนจะสรุปไฟนอลว่าใครแสดงเป็นตัวไหนบ้างจึงจะบวงสรวงและเปิดกล้องเริ่มการถ่ายทำ

“อีกสองวัน พอลลี่ต้องให้คำตอบหลังจากนั้นอีกอาทิตย์ค่อยดูคิวอีกที”อุษาสรุปงาน

“ค่ะแล้วเรื่องที่พี่ไปคุยกับผู้ใหญ่อีกคนเรื่องสปอนเซอร์เป็นยังไงบ้างคะ โอมั้ย”ดาราสาวถามถึงเรื่องสำคัญ

“ก็ดีนะพี่ว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันตอนนี้ดีกว่า ไปข้างนอกมาทั้งวัน เหนียวตัวจะแย่เมื่อกี้นั่งแทกซี่มาดันแอร์ไม่เย็นอีก” ผู้จัดการสาวเปรยๆถึงความไม่สะดวกสบายพาลให้คนรักเป็นห่วง

“พอลลี่จะบอกกับพี่ษาตั้งนานแล้วว่าให้เอารถที่บ้านไปใช้มีตั้งหลายคัน พี่เอา Land Rover คันเมื่อเช้าไปก็ได้ใหญ่ดีขนของได้เยอะด้วย”

เข้าทางสาวอวบเลยทีนี้เธอต้องการให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

“จะดีเหรอ แล้วใครจะดูแลที่รักล่ะ”อุษาทำทีเป็นห่วงใย

“ไม่ต้องห่วงพอลลี่หรอกแค่เรื่องขับรถ สบายมากส่วนถ้าวันไหนมันไม่ไหวจริงๆพี่ษาก็มารับก็ได้นี่คะ”

“จ้ะ งั้นพี่ขอ เอา A class ไปใช้นะLand Rover มันใหญ่ไปเข้าซอยกะจอดรถไม่ค่อยสะดวก”สาวห้าวผู้ละโมบได้คืบจะเอาศอก

“ตามใจพี่สิคะ รถเต็มบ้าน ยังไงมันก็ขับได้ทีละคันอยู่แล้ว”พอลลี่ไฟเขียว

“น่ารักที่สุดเลย”

อุษาหอมแก้มเซเลบสาวฟอดใหญ่หวังเอาใจเธอได้ของที่ปรารถนาแล้ว ขับรถเบนช์ไปไหนมาไหนโก้จะตายเครดิตเพิ่มขึ้นเป็นกองโอกาสในการหาเหยื่อสาวๆก็ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก

“ไปอาบน้ำกันเถอะ เหนียวตัวจะแย่นี่วันนี้พี่มี ของเล่นใหม่ด้วยนะ”

สาวอวบส่งสายตาเชิญชวน นอกจากบทที่หล่อนหอบหิ้วมามันคือกางเกงทอมแบบใหม่ล่าสุด หล่อนฝากเพื่อนทอมใน ก๊วนหิ้วกลับมาจากญี่ปุ่นและแวะเอามาก่อนเข้าบ้าน ดาราสาวยิ้มหวานเป็นคำตอบและทั้งคู่ก็เดินเข้าห้องส่วนตัวไป

ประตูห้องพนิตพิชาถูกเปิดออกสองสาวที่นัวเนียกันมาตลอดทางต่างปลดเปลื้องอาภรณ์ให้กันและกันชุดหรูราคาหลายหมื่นถูกถอดลงไปกองที่พื้น ตอนนี้ร่างกายเซเลบสาวเหลือแต่ชุดชั้นใน Victoria’s Secret สีม่วงอ่อนลายลูกไม้รับ กับรูปร่างโค้งเว้า หน้าอกที่กลมกลึงและสะโพกผาย

ผู้จัดการสาวจอมหื่นเริ่มโลมไล้ทั้งมือไม้และปากพัวพันกันไปตลอดร่าง อุษาปลดบราของเซเลบสาวหน้าอกชูชันเปลือยเปล่าท้าทายสายตาและกามารมณ์

สาวห้าวไม่รอช้า จัดการซุกหน้าของเธอลงบนเต้าคู่งามพอลลี่ครางเสียงกระเส่ากับ การเปิดเกมรุกอย่างสายฟ้าแลบของอุษาผู้จัดการสาวเงยหน้าออกจากอกคู่งาม สบตาหยาดเยิ้มกับคนรัก ก่อนจะก้มลงไปอีกครั้ง เธอใช้ปากดูดเม้มที่ยอดปทุมถัน จากซ้ายย้ายมาขวา พอลลี่เสียวซ่านอย่างที่สุด เธอปล่อยให้สาวห้าวดำเนินเกมเพียงฝ่ายเดียวเพราะยังเปิดตำรารักรับไม่ทันอุษาไม่รอช้าจัดการกับชิ้นส่วนสุดท้ายบนร่างนวลเนียนของพอลลี่ด้วยการคุกเข่าลงและใช้ปากดึงขอบกางเกงชั้นในให้หลุดออกเผยให้เห็นไรขนสวย ที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีด้วยการแวกซ์แบบ French waxing คือจะแวกซ์ลึกเข้ามาข้างในมากกว่าการแวกซ์แบบ Bikini line

สาวอวบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองอย่างคล่องแคล่วหุ่นจ้ำม่ำของหล่อนก็ดูดีน่ารักไปอีกแบบ บทโหมโรงจบลงสองสาวจูงมือกันเข้าห้องน้ำสุดหรูลงไปแช่ในอ่างจากุชซี่น้ำวนที่พนิตพิชาสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษสองสาวดูดดื่มในอ่างรักจนเสร็จสมอารมณ์หมาย บทรักบทแรกจบลงและกำลังจะเริ่มบทที่สองสาม ต่อไปในไม่ช้า...

ณ เวลานี้พนิตพิชามีคนรักคนลุ้นรอบกายเธอจากสองเพิ่มเป็นสามคน

คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มสุดแสนดี ที่พร้อมจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต

อีกคนช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เป็นคนที่รู้สึกดี แต่เข้ากันไม่ได้เลยด้วยนิสัยใจคอและรูปแบบการใช้ชีวิต

ส่วนอีกคนที่เพิ่งมาใหม่ ก็ไม่แน่ใจว่าจะรับกับสิ่งที่เธอเป็นได้มั้ยหล่อนอาจจะยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจในรักแบบนี้

ในขณะที่บุญยกร สาวรุ่นกลับมีเรื่องวุ่นๆในหัวใจ เมื่อกลับมาที่หอพักหลังจากเดินเล่นที่ถนนข้าวสารกับแฟนหนุ่ม ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่เจ้าตัวกลับไปคิดถึงหน้าซุปตาร์ตาหวานเสียนี่หรือว่า...ใจเธอจะแบ่งเป็นสอง




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2558 22:57:18 น.
Counter : 1135 Pageviews.  

นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 6(รีไร้ท์)

 Vicinity

ใกล้

เบลลงจากรถไฟฟ้าเมื่อถึงสถานีสยามที่นี่เป็นแหล่งรวมวัยทีนมานานนมนับสิบๆปี มีร้านรวงแฟชั่นมากมายสำหรับสาวนักศึกษาถ้ามีโอกาสและเวลา เธอจะมาเดินที่นี่บ่อยๆ เพื่อสำรวจแนวโน้มแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงรวมไปถึงเธอจะแวะไปนั่งสมาธิสักชั่วโมงสองชั่วโมง ที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งภายในวัดมีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบแทบจะเป็นโลกอีกใบหนึ่งทั้งๆที่อยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าและแหล่งศูนย์การค้าหรูๆมากมาย แต่วันนี้เธอคงไม่มีโอกาสเข้าวัดเพราะเวลางวดเข้ามา ไม่เป็นไร ตัวไม่ได้เข้าวัดแต่ใจอยู่ที่นั่นก็พอเมื่อลงบันไดเลื่อนจากสถานีรถไฟฟ้าก็ใกล้เวลานัดหมายแล้วเธอไปนั่งรอที่ร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งที่คนไม่พลุกพล่านมากนักสักพักก็มีเสียงไลน์ดังขึ้น

Pollybellisario “อยู่ไหนแล้วจ๊ะ”

Bellejubjub “นั่งรอที่....ค่ะ”

Pollybellisario “แปป”

Pollybellisario “เจอละ”

สองสาวเจอกันและได้สบตากันทำเอาสาวที่อายุน้อยกว่าเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เช่นกันกับซุปตาร์สาวเธอดังต้องมนต์สะกดจากสาวน้อย เด็กอะไรหน้าใสชะมัด แถมพูดจาฉะฉานดูฉลาดกว่าเด็กวัยรุ่นสมองกลวงทั่วๆไปเธอรู้สึกว่าเบลท้าทายและน่าค้นหามาก ทั้งสองจ้องตากันและกันอยู่นานจนกระทั่งเซเลบสาวรู้สึกตัว

“รอนานมั้ยหาที่จอดรถยากหน่อย”

“ไม่ค่ะสวัสดีค่ะ” เบลยกมือไหว้สวยงามด้วยกริยาอ่อนช้อยตามตำรับสาวเหนือ

“ทีหลังห้ามไหว้นะยังไม่ได้แก่ขนาดนั้น”

พอลลี่ตอบและรับไหว้ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าโต๊ะข้างๆมาขอถ่ายรูปและลายเซ็นต์ตามประสาคนดังไม่เว้นแม้แต่เด็กเสริ์ฟและเจ้าของร้านโดยเซเลบชื่อดังก็ให้ความร่วมมือและความเป็นกันเองปราศจากอาการเกี่ยงงอนหรือทำท่าทำทางว่าเบื่อหน่ายเลยจนพอใจกลุ่มผู้คนที่รายล้อมก็ปล่อยทั้งคู่เป็นอิสระตามลำพัง สองต่อสอง เมื่อปลอดคนเบลก็เริ่มใจเต้นอีกครั้ง เด็กสาวพยายามหายใจลึกๆ ช้าๆ จนพอลลี่สังเกตเห็น

“เป็นไรมั้ยสาวน้อย”

“เปล่าค่ะก็แค่...หายใจไม่ทัน” เด็กสาวรุ่นตอบพาซื่อทำให้ผู้ฟังจับทางได้และยิ้มออกมาโดยไม่ไปเซ้าซี้ต่อเพราะไม่อยากไปสร้างความประหม่าเพิ่มให้กับสาวน้อยจอมกระชากใจผู้นี้ ความจริงเธอก็ตื่นเต้นที่ได้เจอเด็กสาวตรงหน้าเช่นกันแต่ชั่วโมงบินพอมี ทำให้ประคับประคองเอาตัวรอดพอได้

“คุณพอลลี่มีธุระอะไรเหรอคะ”บุญยกรถามเข้าเรื่อง

“สั่งอะไรมากินกันก่อนนะชั้นร้อน” ร้อนอะไร? แอร์ออกจะเย็นเบลคิดในใจ

“ค่ะคุณพอลลี่อยากทานอะไร เดี๋ยวเบลสั่งให้”

“ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากมายหรอกอีกอย่างเลิกเรียกคุณได้แล้ว มันดูห่างเหินกันเกินไป” ห่างเหิน? แล้วเราจะสนิทใกล้ชิดกันทำไมวัยรุ่นไม่เข้าใจแต่ก็ยอมไหลตามน้ำ

“ได้ค่ะคุณเอ้ย งั้นขออนุญาตเรียกพี่นะคะ” สาวน้อยยังเกรงใจและไม่ชินปาก

“อนุญาตให้เรียกมากกว่านั้นอีก”เซเลบสาวพูดกำกวมแบบให้คนฟังไปจิ้นต่อเอง เด็กสาวยิ้มแหยไปต่อไม่เป็น

“หมายถึงจะเรียกอะไรก็ตามใจแต่ห้ามเรียกป้า เข้าใจมั้ย” สาวน้อยยังยิ้มไม่หุบปาก เป็นปลื้มกับความขี้เล่นและไม่ถือตัวอย่างที่เธอเคยเข้าใจก่อนหน้า

เซเลบสาวหัวใจแหวว สั่งไอศกรีมแบบถ้วยใหญ่มีหลายสกู๊ป มาแบ่งกันกินเธออยากได้ฟิลลิ่งแบบเด็กมัธยมที่แย่งกันกิน มันน่าสนุกดี

“คืองี้พี่อยากได้ทีมงานมาช่วยเป็นอาสาสมัคร โครงการช่วยช้างพิการเจ็บป่วยและเร่ร่อนของพี่เราพอจะช่วยได้มั้ย” พอลลี่เปิดประเด็นและเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกตัวเธอสาววัยทีนไม่คิดนานและตอบไป

ได้สิคะแล้วคุณ เอ้ยพี่ต้องการกี่คน แล้วต้องทำอะไรบ้างคะ อีกอย่างพี่ก็พอรู้เบลคงให้เวลาพี่ได้แค่วันที่ไม่มีเรียนกับไม่มีงานนะคะ ถ้าจะให้ช่วยแบบเต็มเวลาเบลเกรงว่าจะไม่สะดวก” สาวหน้าใสออกตัว

“ไม่ขนาดนั้นหรอกใช้เวลาไม่มาก แต่ว่าต้องมีไปต่างจังหวัดเยี่ยมช้างป่วยที่โรงพยาบาลช้าง และปางช้างบ้างนานๆทีน่ะ”ดาราสาวเว้นจังหวะจิบกาแฟดำก่อนอธิบายต่อ

“พี่ต้องการทีมงานประมาณ 3-4 คนไม่เอาเยอะ วุ่นวายเน้นคุณภาพ ยิ่งรู้จักเป็นเพื่อนกันยิ่งดีเพราะต้องทำงานกันเป็นทีม”

“ค่ะ เบลพอเห็นภาพแล้ว” บุญยกรพอจะผ่านงานแบบนี้มาบ้าง เธอเคยออกค่ายอาสาตอนอยู่ปี1ปี 2

“ส่วนรายละเอียดเข้าไปดูในเฟสนะมีข้อมูลทุกอย่าง ส่วนเรื่องรายละเอียดกิจกรรมไว้ค่อยมาคิดกันอีกที ตอนนี้อยากหาทีมงานให้ครบก่อน”

“ค่ะแล้ว...”เด็กสาวสงสัยแต่ไม่กล้าถาม

“แล้วอะไร”พอลลี่ซักเมื่อเห็นเด็กสาวประหม่าอาย

“เอ่อ...แล้วทำไมถึงเลือกเบลมาเป็นทีมงานทั้งๆที่ พี่พอลลี่น่าจะมีกลุ่มแฟนคลับที่อาสาอยู่แล้วเอ่อ..ไม่ใช่ว่าเบลไม่เต็มใจนะคะ แค่อยากรู้” เด็กสาวรวบรวมความกล้าถามออกไปจริงที่พอลลี่มีมือไม้พร้อมช่วยเหลือเธอ เจอคำถามนี้ไปดาราสาวนิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบ

“นั่นสินะ ไม่รู้ว่าทำไม แต่พอนึกโปรเจคออก เมื่อเช้าพี่ก็คิดถึงเธอเป็นคนแรก”

พอลลี่ตอบตามจริง เพราะเธอขี้เกียจเล่นละครและซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองคำตอบนี้ทำเอาเบลตะลึงงัน คำว่า ‘คิดถึงเธอเป็นคนแรก’ทำเอาเธอสติแทบแตก หูอื้อตัวเบามือไม้ไร้เรี่ยงแรง ทำอะไรไม่ถูก เธอไม่แน่ใจว่าเซเลบสาวกำลังทำอะไรกับเธอ ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขาจะมาจีบเด็กกะโปโลอีกอย่างเท่าที่เธอรู้มา พอลลี่ก็มีคุณยุทธนาเป็นคู่ควงอยู่ เธอไม่น่าจะเป็น...

“อีกอย่างพี่อยากทำพวกของที่ระลึกมาขาย พวกเสื้อหรือกระเป๋าหารายได้เข้าโครงการได้ยินมาจากเจ๊อั้มว่า เธอเรียน fashion design มาและชอบทำบุญคิดว่าน่าจะพอช่วยพี่ได้มาก” พนิตพิชาอธิบายความตั้งใจ เบลยิ่งตกใจนี่เค้ารู้รายละเอียดของเธอมากกว่าที่เธอรู้จักตัวตนของดาราสาวเสียอีกด้วยความเป็นคนละเอียด สาวรุ่นรีบหยิบแทบเล็ตขึ้นมาจดรายละเอียดที่ ซุปตาร์อธิบาย

“พี่อยากได้เสื้อยืด ทีเชิร์ตธรรมดาๆ แต่ขอผ้าแบบพิเศษ แบบเดียวกับ Versace ซักแล้วไม่หดไม่เป็นขุย ไม่ซีด เอาคอวีแต่ไม่ลึกมาก แบบทั้งชายและหญิง ผู้หญิงขอเข้ารูปไม่มีกระเป๋าเอาสองสี ดำกับขาว สกรีนข้อความชัดๆแบบนูน ด้านหน้า แล้วก็ที่แขนเสื้อส่วนแบบที่จะสกรีนไว้ค่อยคิดกันอีกที พี่อยากทำสักพันตัวคละไซส์มา”เด็กสาวจดตามและอัดเสียงไว้ด้วยเพื่อกันพลาด

“ส่วนกระเป๋าเอาแบบง่ายๆไม่ต้องหรูมากเอาเป็นช็อปปิ้งแบคพี่ชอบผ้าดิบขนาดพอใส่เอกสารเอสี่ได้ แต่เน้นว่าสกรีนออฟเซ็ทสี่สีไม่ลอกกระเป๋าอยากทำสัก สองพันใบโครงการมีปลายเดือนหน้าแต่พี่อยากทำออกมาขายก่อนให้เร็วที่สุดจะได้เป็นการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าด้วย” พอลลี่ให้รายละเอียด

“เจ็ดวันก็เสร็จค่ะ หลัง approve แบบเบลมีรุ่นพี่คนนึงแกเป็นเจ้าของโรงงานเองเลย ทำผ้าส่งฮ่องกงอยู่”

“ดีมาก เจอกันครั้งหน้าจะได้สรุปทีมงานแล้วก็แบบของที่ระลึก”พอลลี่สรุปงาน ขณะที่สาวน้อยจดรายละเอียดอยู่ก็โพล่งออกมาตามประสาสาวเปิ่น

“เออ! อุ๊บส์” บุญยกรเผลออุทานพร้อมปิดปาก

“อะไรจ๊ะ ยุงกัดเหรอ” พอลลี่กระเซ้า

“ป...เปล่าค่ะ นึกขึ้นได้ว่าลืมขอบคุณพี่เรื่องยาเมื่อเช้า” สาวน้อยจอมโก๊ะยกมือไหว้อีกครั้ง

“ไม่เป็นไร ก็ขอบคุณมาทางไลน์แล้วนี่”

“ไม่ได้ค่ะ ต้องขอบคุณต่อหน้า ก็คนให้เขาอุตส่าห์ดีซะขนาดนี้”เบลตอกย้ำความต้องการ

“อือ วันหลังก็หัดยืดอกพกร่มบ้าง บ้านเรามันเมืองร้อนชื้นยิ่งเป็นช่วงฤดูฝนยิ่งต้องพกติดตัว แต่ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ชอบพกร่มใช่มั้ยกลัวเชยสิ ไว้เดี๋ยวพี่จะหาร่มสวยๆเก๋ๆมาให้จะได้ถือแล้วไม่อายใคร” พอลลี่กำชับ

“ค่ะ ว่าแต่...เอ่อ” เด็กสาวหยุดความคิดของตนที่อยากรู้อยากเห็นไปเพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะ แต่ดาราสาวเจ้าเล่ห์ก็ดักทางทัน

“พี่รู้ที่อยู่จากเจ๊อั้ม สาวน้อย” เฮ้อผู้หญิงคนนี้ฉลาดเป็นกรดจริงๆอ่านใจเราออกอีก บุญยกร คิดในใจ

“ค่ะ” เบลไม่รู้จะพูดอะไรต่อก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมที่สั่งมาหลายสกู๊ป ถ้ากินไม่ทันจะละลาย ด้วยความซุ่มซ่ามและประหม่าจึงเผลอทำไอศกรีมช๊อกโกแลตชิปหกใส่เสื้อยืดสีขาวเลอะเป็นรอยด่างเซเลบสาวหัวเราะท้องคัดท้องแข็งกับยัยโก๊ะด้านเบลก็ตกใจที่ตัวเองทำสิ่งที่น่าละอายต่อหน้าซุปตาร์ เธอรีบเอาทิชชู่มาเช็ดแต่ด้วยความลนลานยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะ แถมที่มุมปากก็ยังเปรอะไปด้วยคราบไอศกรีมอีกพอลลี่เห็นท่าจะไม่รอดจึงขยับตัวมานั่งฝั่งเดียวกันและหยิบทิชชู่ซับน้ำมาช่วยเช็ดเสื้อให้เด็กน้อยเบลตกใจที่อยู่ๆโดนจู่โจมจากเซเลบสาวที่ชอบสร้างความหวั่นไหวครั้นจะเอามือปัดก็เกรงจะไม่งาม จึงทำได้เพียงสมยอมโดยดี

“มา พี่ช่วยเช็ดให้ ดูสิเลอะหมดแล้ว” ซุปตาร์เอาทิชชู่อีกแผ่นมาเช็ดบริเวณที่เปื้อนซึ่งมันใกล้กับ...หน้าอกอึ๋มของสาวรุ่น ทำเอาเธอกระดากอายเพิ่มขึ้นเป็นกำลังสองเมื่อเรียบร้อย พอลลี่ก็เอาทิชชู่อีกแผ่นมาเช็ดที่มุมปาก สองสาวสบตากันอีกครั้ง เบลหัวใจแทบหยุดเต้น

“ทีหลังอย่ากินเลอะแบบนี้อีกนะ พี่ไม่อยากเห็นใครมาเช็ดให้”หญิงสาวหน้าแดงกล่ำเป็นมะเขือเทศ เธอไม่เคยรู้สึกหวามไหวเช่นนี้มาก่อน

“เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวเบลเข้าห้องน้ำไปจัดการเองค่ะ”เด็กสาวรีบหาทางชิ่ง อยู่ต่อไปอีกสามวินาที เธอคงขาดใจตาย

“ไม่ต้อง เสร็จแล้ว” พูดจบพอลลี่ก็กลับไปนั่งที่เดิมเธอเองก็ไม่ไหวเช่นกัน แก้มใสๆแบบนี้ยั่วยวนเธอยิ่งนักเด็กสาวค่อยหายใจหายคอสะดวกขึ้น ก้มมองดูผลงานงามหน้าพร้อมยิ้มออกมาแหยๆ

“ไง สาวน้อยภูมิใจละสิ ไปเดี๋ยวไปหาซื้อเสื้อใหม่เปลี่ยนกัน “

“ไม่เป็นไรค่ะ นิดหน่อยเอง” สาวรุ่นเกรงใจ

“เอ๊ะ เธอนี่ ซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่งแล้วยังจะดื้ออีก อย่าชุ่ยสิไม่ต้องห่วงเดี๋ยวซื้อให้” เซเลบเริ่มขึ้นเสียงสูง สาวน้อยบังอาจขัดใจเธอ

“คิดเงินด้วยค่ะ” เซเลบสาวให้สัญญาณมือเรียกพนักงานเสริ์ฟมาเก็บเงิน พนักงานสาวเดินมาและพูดกับพอลลี่

“พี่ผู้จัดการบอกว่า ขออนุญาตไม่คิดเงินค่ะ เพราะถือว่าเป็นการโปรโมทให้ทางร้านเราที่มีคนดังมานั่งทานที่นี่

“เหรอจ๊ะ งั้นขออนุญาตให้ทิปนะคะ”พนิตพิชาตอบกลับพร้อมควักแบงค์สีม่วงไปให้หนึ่งใบยังไงร้านก็มีต้นทุนเธอไม่อยากขึ้นชื่อว่าไปกินของใครฟรีๆพนักงานสาวหาเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ได้ จึงรับเงินมา พอลลี่สำทับ

“ครั้งหน้าต้องคิดเงินนะคะพอลลี่จะมาจัดปาร์ตี้มีทติ้งแฟนๆที่ร้านนี้”

“ค่ะ ด้วยความยินดีค่ะ” พนักงานรับคำและเดินกลับไป

“ไป ดูเสื้อผ้ากัน”

“ค่ะ”บุญยกรไม่อยากขัดใจและเธอก็อยากรู้รสนิยมเรื่องแฟชั่นของเซเลบสาว สองสาวเดินออกจากร้านคุยกันไประหว่างทางก็มีผู้คนมารุมดูนางฟ้าเดินดินบ้างก็ควักมือถือมาถ่ายรูป บ้างก็วิ่งเข้ามาขอลายเซ็นต์ ซึ่งเป็นภาพปกติที่พอลลี่เจอทุกวี่วันแต่สาวน้อยไม่ชิน และออกจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวประหลาดด้วยซ้ำ

“ไม่เบื่อเหรอคะ ต้องคอยตามใจผู้คนดูไม่อิสระเลย”

“แล้วเข้าใจหรือยังล่ะ ว่าทำไมพี่ต้องการคนมาตามใจพี่บ้าง” นั่นโดนอีกดอก เด็กสาวยิ้มขวยเขิน

“บางทีก็เบื่อนะ แต่ทำไงได้ เราเป็นคนของประชาชนไม่มีพวกเขาพี่ก็อยู่วงการนี้ไม่ได้ น้ำพยุงเรือให้ลอยและแล่นไปได้น้ำก็จมเรือได้เช่นกัน” เซเลบสาวพูดเป็นเชิงเปรียบเทียบ ดาราจะอยู่ได้มีชื่อเสียงก็ต้องการคนสนับสนุนหากไม่มีกลุ่มแฟนๆ ดาราก็กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีความพิเศษอะไรซึ่งนั่นก็ทำให้สถานภาพความเป็นดาราสิ้นสุดลง

“ถ้าเราหมางเมินต่อผู้คน เขาก็จะเอาเราไปพูดได้ว่าเราหยิ่งแล้วก็ต้องมาเป็นข่าว แก้กันอีกไม่รู้จบ บางวันพี่รมณ์บ่จอยรู้สึกแย่ๆก็ต้องฝืนยิ้มไปถ้าหัวเสียมากๆก็ต้องเก็บตัวไปไกลๆหรือไม่ก็ต้องหาที่เงียบๆอยู่”พอลลี่เล่าถึงความยากลำบากในการสะกดอารมณ์ เด็กสาวฟังอย่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจในชีวิตที่ไม่อภิรมย์อีกด้าน

“อีกอย่างวันนี้ พี่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะ...” พอลลี่หยุดประโยคไว้แค่นั้นอยากให้อีกฝ่ายถามกลับ ดังบทรักที่กำลังเข้าไคล เด็กสาวก็รับลูกไม่ทันบทเกี้ยวสาว

“เพราะ?” เยส! บอลกลิ้งมาหน้าประตูแล้ว

“เพราะมีคนที่อยากเจอมาเดินอยู่ข้างๆนี่ไง” พอลลี่หยอด เบลทำเป็นดูโน่นนี่นั่นไปตามเรื่องพยายามไม่สบตา เธอเริ่มกลัวใจตัวเอง เซเลบสาวยิ้มในความไร้มารยาของสาวน้อยทั้งสองเดินมาหยุดที่ร้านเสื้อแห่งหนึ่งเบลสะดุดตากับแบบเสื้อที่แทบจะเลียนแบบแบร์นด์ดังมาเลยทีเดียวเด็กสาวแฟชั่นดีไซน์เดินไปจับเนื้อผ้าตามสัญชาติญาณ พอลลี่ก็เข้ามาดูด้วยเบลเดินเข้าไปในร้านขอลองและตัดสินใจซื้อทันที และเช่นเคยที่เจ้าของร้านลดราคาให้เป็นพิเศษเพราะมีเซเลบชื่อดังมาเป็นลูกค้าพอลลี่หยิบเครดิตการ์ดขึ้นมาและยื่นให้เจ้าของร้าน เบลทำหน้าไม่เห็นด้วยแต่ถูกปรามไว้ก่อนหน้า เธอเลยไม่อยากขัดใจ ระหว่างรอรูดการ์ดสาวน้อยก็พูดขึ้น

“เป็นดารานี่ดีจังนะคะ มีอภิสิทธิ์ทุกที่เลย” เบลกระเซ้า

“จะว่างั้นก็ได้ แต่ว่าถ้าวันนึงตกกระป๋องขึ้นมา เรามันก็แค่ โนบอดี้”พอลลี่กล่าวแบบไม่ทนงในชื่อเสียงของตน เธอรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จีรังยั่งยืนอะไร

“เอ่อ เดี๋ยวเบลมานะคะ ขอไปดูคอร์สเรียนพิเศษให้น้องแปปพี่พอลลี่ไม่ต้องไปหรอก ตรงนั้นเด็กเยอะ จะวุ่นวายเปล่าๆ” เบลเอาเรื่องคนมาอ้างปิดทางไม่ให้เซเลบสาวตามมา เพราะเธอมีภารกิจลับบางอย่าง

“อย่าไปนานนะ พี่เหงา” พอลลี่หยอดเล็กตอดน้อยหวังทำแต้มไปเรื่อย

“ค้า เดี๋ยวมา” พุดจบสาวน้อยก็เดินดุ่มๆออกไป ทิ้งให้ เซเลบเซลฟี่และคุยกับเจ้าของร้านอย่างถูกคอ

ราวๆ 10 นาทีเด็กสาวก็กระหืดกระหอบกลับเข้ามาในร้าน

“เสร็จแล้วค่ะ”

“พอลลี่ไปนะคะ คราวหน้าจะแวะมาอุดหนุนใหม่ขายดีๆนะคะเสื้อร้านนี้สวยถูกใจพอลลี่มาก” เจ้าของร้านยิ้มแก้มปริดีใจที่ร้านตัวเองจะดังก็คราวนี้

“พี่พอลลี่เก่งจังนะคะ รู้เรื่องแฟชั่นมากกว่าเบลอีก” สาวน้อยชม

“แหงซิหล่อน ก็พี่น่ะเด็กฝรั่งเศสนะจ๊ะเรียนอยู่ที่นั่นตั้งสองปี” พอลลี่เล่า

“ว้าว! ประเทศในฝันของเบลเลยนะนั่น เรียนจบเบลตั้งใจจะเก็บเงินสักก้อนต้องไปเที่ยวให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต”สาวน้อยตั้งเป้าหมายให้ชีวิตตัวเอง คนเรามีสิทธิ์ฝันและสร้างมันให้เป็นจริงมีแต่คนที่ตายไปแล้วเท่านั้นที่ปราศจากความฝัน

“แล้วต้องการไกด์กิติมศักดิ์มั้ย” พอลลี่ถามนัยน์ตาคล้ายบอกความในใจ

“ถึงตอนนั้น เราอาจไม่ได้เจอกันแล้ว” บุญยกรตอบตามที่เธอรู้สึก ก็จริงสาวสูงศักดิ์อย่างพนิตพิชาคงจะไกลจากเธอไปเรื่อยๆพอเธอหมดประโยชน์หรือไม่ได้ช่วยเจ๊อั้มแล้วก็คงไม่มีโอกาสจะเจอกันอีกต่อไป

“แต่...พี่ชอบเบลจริงๆนะ...จริงๆ อยากคบกันไปอย่างนี้นานๆ”ในที่สุดเซเลบสาวก็บอกความในกับสาวกะโปโลตรงหน้า บุญยกรอึ้งไปกับคำพูดนี้ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากดาราสาว เธอนี่นะจะมีอะไรให้เขามาชอบแม่เซเลบอาจกำลังปากหวานเพื่อหวังใช้งานเธอล่ะมากกว่าเบลพยายามไม่จริงจังกับคำพูดลมๆ

“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวเบลเดินไปส่งพี่ที่รถนะคะแล้วเราค่อยแยกย้ายกัน”สาวรุ่นเปลี่ยนเรื่อง

“อ้าว ว่าจะชวนไปเดินเล่นต่อ วันนี้พี่ว่างนะนานๆที เหงาด้วยไม่มีใครเลย” ซุปตาร์สาวเปิดทางพิเศษ easy pass เด็กสาวสะดุดกับคำว่าไม่มีใครเริ่มต้นประโยคซะสวยหรูแต่คำจบนี่ทำเอาจุกเลย เชอะ เห็นเราเป็นแค่คนแก้เหงา แต่ก็เอาวะยังพอมีเวลากว่าพี่ต้นจะเลิกงานก็ค่ำมืดอีกตั้งหลายชั่วโมง เธอคิดในใจและเหลือบดูนาฬิกา

“แล้วคุณพี่อยากไปไหนล่ะคะ” สาวน้อยเอ่ยวจี

“ไม่รู้สิ ไม่ค่อยได้ไปไหนไม่ค่อยรู้จักกรุงเทพเท่าไหร่ด้วย”เซเลบสาวไม่ได้แอ๊บ เพราะตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกเธอก็ทำแต่งานงานตลอด ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเป็นการส่วนตัวเลย บุญยกรหยุดเดินและหันมามองหน้าซุปตาร์

“งั้น...ไปภูเขาทองกันมั้ยคะไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย” เด็กสาวเสนอความเห็นเพราะแถวนั้นมันใกล้ๆกับถนนข้าวสาร ก็เธอมีนัดแฟนหนุ่มที่นั่น

“อะลองซี” บุญยกรทำหน้างงๆไม่เข้าใจ

“let’sgo จ๊ะ เป็นภาษาฝรั่งเศส” พอลลี่เฉลย ทั้งคู่ยิ้มหวานให้กันเนิ่นนานที่เซเลบสาวไม่ได้สดชื่นเช่นนี้เด็กน้อยเข้ามาทำให้โลกของเธอเปลี่ยนสีไปจริงๆพนิตพิชายอมรับว่าสาวมหัศจรรย์คนนี้มีอิทธิพลต่อเธอ

“ค่ะ ไปแอ่วกันเต๊อะ” สาวสวยตอบกลับเป็นภาษาเหนือทำเอาพอลลี่หัวเราะลั่น

ในรถพอลลี่เปิดเพลง เรโทรอย่างเคย ทั้งคู่ร้องเพลงกันอย่างเพลิดเพลินเบลเริ่มยอมรับแล้วว่าเซเลบสาวผู้นี้ทำให้เธอรู้สึกวาบหวาม ตื่นเต้นเธอชอบ...พอลลี่ ส่วนดาราสาวเองก็ตั้งใจไว้ว่าจะเรียนรู้สาวน้อยผู้นี้ให้มากขึ้น

“พี่พอลลี่คะ เบลมีอะไรจะให้” สาวรุ่นพูดขึ้นและหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าออกมามันคือซีดีเพลง

“เอ๋ ซีดี” พอลลี่ทำหน้าสงสัย

“คือ...เมื่อกี้ตอนเบลไปดูที่เรียนพิเศษให้น้อง พอดีผ่านร้านเพลงมีแผ่นเก่าๆเลยตั้งใจซื้อมาให้พี่เป็นการตอบแทน”

“เหรอดีจัง ขอบใจนะจ๊ะ” ดาราสาวรับแผ่นซีดีมาอ่านดูและยื่นกลับไปให้เด็กน้อย

“อ้าว ทำไมเหรอคะ ไม่ชอบ? หรือว่าหนูซื้อมาซ้ำ”เบลชักใจแป้ว เธอรับแผ่นคืนมาแบบเซ็งปนเศร้า

“แกะแล้วเปิดให้หน่อยสิ” อ้าวหักมุมอีกแล้ว ตามไม่เคยทันเล้ยบุญยกรสาวรุ่นบ่นตัวเองในใจ เธอแกะปกพลาสติกและสอดเข้าเครื่องเล่น เพลงแรกคือเพลง โอ้ยโอย ของแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ และถูกนำมาขับร้องใหม่ในอีกหลายๆเวอร์ชั่น พอลลี่ร้องจนจบเพลง และเพลงถัดๆไปก็ล้วนแตเป็นเพลงที่เธอชอบทั้งสิ้น

“เอ้ อัดเองรึเปล่าเนี่ย ทำไมเป็นเพลงที่พี่ชอบทั้งนั้นเลย”พอลลี่กระเซ้าก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นจริงจัง

“ขอบคุณจริงๆนะ...ที่รู้ใจ...ชอบมาก”

“เบลดีใจนะคะที่พี่ชอบ ตอนแรกตกใจแทบแย่นึกว่าพี่จะไม่รับซะละ”

“ใครเขาจะใจร้าย ไม่รับของที่คนเขาตั้งใจอยากจะให้ได้ลงแล้วรู้เหรอว่าชอบอะไร” ดาราสาวเจ้าบทบาทส่งสายตาหวานซึ้งให้คล้ายคล้ายฉากตอนอยู่กับพระเอกในละครอย่างไงอย่างงั้น ตอนนี้ถ้ามีคนดูคงนั่งจิกหมอนกันอยู่

“เอ่อ...” สาวน้อยไปไม่เป็นเอาปกซีดีขึ้นมาดูกลบเกลื่อนอาการขวยเขิน

“ชอบเธอไง...เบล พี่ชอบคนให้ ชอบเพลง” เซเลบสาวชัดเจนเธอบอกชอบเด็กกะโปโลแล้วถึงสองครั้งในวันเดียวกันและสองวันหลังจากคุยกันจริงจังเรื่องของหัวใจและความรู้สึกไม่มีคำว่าเร็วช้า วินาทีเดียวมันอาจบอกได้ทั้งชีวิต

“เบลก็ชอบพี่พอลลี่ค่ะ ชอบผลงาน ชอบในความคิดของพี่”เด็กสาวตอบแก้เก้อ เขินสุดประมาณ

“ว้าย เลย เลยแล้ว!!”เซเลบสาวเบรครถตัวโก่งตบเข้าเลนซ้ายพร้อมเปิดไฟฉุกเฉินดีที่รถคันขางหลังทิ้งระยะพอสมควร ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้สองสาวอยู่ที่หน้าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์บริเวณที่เป็นที่ตั้งเดิมของโรงหนังศาลาเฉลิมไทยที่ปัจจุบันไม่หลงเหลือแม้แต่ซากเบื้องหน้าเป็นวัดราชนัดดารามมีโลหะปราสาทโบราณสถานตั้งเด่นอยู่

“คือมันเลยแล้วค่ะขอโทษจริงๆหนูชวนคุยเพลินไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรเราเข้าอีกทางก็ได้”เบลรู้ทางแถวนี้ดีเพราะติดสอยห้อยตามแฟนหนุ่มมาถ่ายรูปบ่อยๆทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรออก

“เดี๋ยวพี่หาที่จอดรถแถวนี้ก็ได้ค่ะ เบลจะพาไป”สองสาวหาที่จอดรถไม่ไกลจากบริเวณนั้น เบื้องหน้าคือถนนราชดำเนินกลางถนนสายประวิติศาสตร์ของกรุงเทพฯ

“นี่ รู้มั้ยว่า ถนนราชดำเนินสร้างขึ้นตามแบบถนนอะไร”พนิตพิชาถามความรู้รอบตัวสาวน้อย

“น่าจะเป็น ช็องเซลีเซ ในปารีสใช่มั้ยคะ” เบลตอบแทบไม่ต้องคิด

“เก่งมาก สาวน้อยแล้วยังไงต่อ”

“สร้างขึ้นในสมันรัชกาลที่ 5 เอ่อ ก็รู้แค่นี้ค่ะ”เซเลบสาวพยักหน้า

“อาฟว์นูวเดช็องเซลีเซ Avenue des Champs-Élysées คือชื่อเต็มจ้ะเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก และเป็นถนนที่ตั้งของ ประตูชัย อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอเลตวล Arc de triomphe de l'Étoileส่วนของบ้านเราก็มีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอยู่ตรงนี้ไง” พนิตพิชาอธิบาย

“ค่ะ ว่าแต่พี่เดินไหวมั้ยไกลอยู่นะ” เด็กสาวเป็นห่วงเพราะกลัวดาราสาวจะลำบาก

“นี่ อย่าดูถูกกันสิจ๊ะ เด็กนอกเดินเก่งกว่าคนกรุงเทพฯนะแข่งกันมั้ยล่ะ” เซเลบสาวคงลืมไปว่า เมืองนอกเขาเดินกันไกลๆก็จริงแต่อากาศมันเย็นสบาย ที่นี่มันกรุงเทพฯทั้งร้อนทั้งควันพิษบุญยกรเป็นห่วงกลัวว่าจะไปได้ไม่กี่น้ำ 




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2558 22:56:05 น.
Counter : 782 Pageviews.  

1  2  3  

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.